Velikost videa: 1280 X 720853 X 480640 X 360
Zobrazit ovladače přehrávání
Automatické přehrávání
Přehrát
🌍 จิตสำนึกต้นกำะนิดมวลรวม สากลจักรวาลเริ่มทำงานอย่างเป็นทางการแล้ว ดังนั้นการใช้ชีวิตอย่างมี สติ รู้ ผิดชอบชั่วดี อยู่ตลอดเวลาของ มวลมนุษย์ชาติ จึงจำเป็นและสำคัญที่สุดสามัคคีกันเอาไว้ มนุษย์ ทั้งหลาย เอ๋ย..แล้วสันติสุขจะเกิดขึ้นอย่างภาวร .🙏👼.🌍🌈🇹🇭
เราอยู่มิติที่ 3+1 เรายังมองเห็นเจตนา ความเป็นไป วัฏจักรชีวิต ของมดได้เลย ไม่ต้องถึงพระเจ้าหรอก แค่พวกที่อยู่ มิติที่ 5 มันก็รู้หมดละ ว่าเราทำอะไร ตอนไหน กลอดูได้ตลอด และมีอำนาจมากกว่าเรา ที่เราพิเศษก็เพราะครั้งนึงพวกนั้นเคยมาที่นี่มั้ง เราก็เลยเป็นสัตว์ที่ เห็นอนาคต ลางๆ มีการคิดล่วงหน้า หลุดจากสัญชาตญาณ ที่ขึ้นอยู่กับ สารความสุขในสมอง ที่กำหนดว่าให้เราทำไรทำอะไร
มิติเวลา ไม่เคยเดินถอยหลัง แต่มัยจะมีหลายๆมิติซ้อนกัน แต่ละมิติ จะมีเวลา ขอฃตัวเอง ในโลกใบเดียวกัน สวรรค์ คือโลกที่พัฒนาสูงสุด เทคโนโลยีสูงสุด มนุษย์ไม่ต้องตายไม่ต้องกิน นรก ก็โลกที่ร้อน จะถึงแก่นสุดท้าย คนเรา ตายไป ไม่ได้ไปใหน แค่เปลี่ยนมิติ ถ้าท่านมีสติ ตอนใจขาด ท่านจะรับรู้ที่มา และการเปลี่ยนมิติ ไม่ได้ น่ากลัว และเราทุกคนเคยเปลี่ยนมาแล้ว แค่เรา จำไม่ได้
ใครสร้างจักรวาลไม่รู้ แต่ที่รู้คือ มีคนเคลม😅😅😅
ทุกอย่างเป็นสิทธิของพระองค์ มนุษย์จะปฏิเสทหรือศรัทธาก็ไม่มีผลต่อพระองค์ นรกเตรียมใว้ตลอดกาลสำหรับผู้ปฏิเสทแล้ว ยุติธรรมแล้ว
@@KYL1985 เหรออ มึงเอ๋อป่ะนิ่
555 เคลมตอนเขาพิสูจแล้ว
@@Aon-il7cx พระองค์พิสูจน์ในคัมภีร์มานานแล้ว
บางทีผมหลงไปเปิดดู เลื่อนหนีแทบไม่ทัน
มีดวงอาทิตย์ดวงนึง.. มีดาวหลายๆดวงต่างโคจรไปรอบๆบ้างก็หมุนไปด้วย บางดวงแข็ง บางดวงเป็นแก๊สเหลวมีทั้งร้อน/เย็นแต่มีดวงนึง.... ซึ่งบังเอิญ! หมุนไปด้วย โคจรไปด้วยตั้งแต่ร้อนๆจนเริ่มเย็นตัว เกิดมีแรงแม่เหล็กขั่วโลกคอยกันรังสี แล้วก็มีชั้นบรรยากาศ มีแรงดึงดูด(แรงโน้มถ่วง) แถมมีของเหลวที่พิเศษสุด(น้ำ) แถมมีดวงจันทร์ที่มันก็โคจรไปรอบๆหันเพียงหน้าเดียว มีน้ำขึ้น-น้ำลง วนกันไปตั้งแต่เริ่มเย็นตัว แต่ทว่า มีสิ่งมีชีวิตนึงที่แค่เพิ่งจะถือกำเนิดขึ้น ยกตนว่าฉลาดกว่าสิ่งมีชีวิตไหนๆมีความเห็นแก่ตัวแต่ต่างก็เป็นสัตว์สังคม มีความต้องการเอาชนะ แต่กลับมีความเมตตาและการให้อภัย มีการกำหนดสิ่งนั้นสิ่งนี้ว่ามีค่า ตีค่าตีราคากันไป บ้างก็เบงว่าตนเป็นใหญ่กว่าฝูงของมัน ... จนวันนึงความฉลาดพามาถึงความสงสัย ว่าตัวตนของชีวิตคือสิ่งใด เกิดขึ้นยังไง ต่างก็มีเหตุผลแตกต่างนานาว่ากันไป... แต่ผมไม่คิดว่า"นี่คือเรื่องบังเอิญ" ทุกอย่างมันลงตัวเกินไป ต้องมีผู้สร้าง ซึ่งผมเองก็ไม่อาจสงสัยว่าใครหรือสิ่งใด แต่ต้องมี(They) ..???
ถ้าคนเข้าใจในธรรมชาติ มันไม่ใช่เรื่องยากในการหาเหตุและผลของการกำเนิดจักรวาล โลก ดวงดาว สิ่งมีชีวิต และสรรพสิ่งในจักรวาล จักรวาล คือ อากาศที่กว้างใหญ่ไพศาล มีอาณาบริเวณ ไม่มีขอบเขต ไม่มีจุดเริ่มต้น ไม่มีจุดสิ้นสุด ดวงอาทิตย์ โลกและดวงดาว จึงเป็นวัตถุที่ลอยอยู่ในอากาศ มาอย่างยาวนาน และจะลอยไปเรื่อยๆ จนกว่าดาวนั้นๆ จะหยุดหมุนรอบตัวเอง จักรวาลไม่มีแรงดึงดูด วัตถุที่ลอยอยู่ในอากาศได้ โดยวิธีธรรมชาติ คือตกจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำไปเรื่อยๆ ในจักรวาลมีอะไร สิ่งที่จักรวาลมี ความชื้น ความเย็น ความร้อน มีฝุ่นละออง ความชื้นเมื่อเจอความเย็นจึงแข็งตัวเป็นน้ำแข็ง เมื่อเจอความร้อน น้ำแข็งก็จะละลายกลายเป็นหยดน้ำ หรือน้ำฝน น้ำฝนในจักรวาลตกหนักและนาน จนทำให้กลายเป็นสายน้ำขนาดมหึมา เมื่อฝนหยุดตก สายน้ำนั้นก็จะตกลงสู่ที่ต่ำ จนรวมตัวกันเป็นก้อนน้ำขนาดมหึมา น้ำเป็นของเหลว รูปร่างลักษณะของมัน ถ้ามีภาชนะมารองรับมันก็จะมีรูปร่างลักษณะเหมือนภาชนะนั้นๆ แต่ถ้ามันลอยอยู่ในอากาศมันจะมีลักษณะเป็นก้อนกลม สังเกตจากเวลาเกิดฝนตกบนโลก หยดน้ำฝนจะเป็นก้อนกลม ตกลงมาสู่พื้นโลก มันคือที่มาของการ กำเนิดโลกและดวงดาวในจักรวาล สาเหตุทำไม โลกและดวงดาวในจักรวาล จึงมีลักษณะกลมทุกดวง เราสามารถมองเห็นปรากฏการณ์นี้จาก ปรากฏการณ์ของฝนดาวตก ดาวทุกดวงเกิดจากน้ำ และดาวต้องหมุนรอบตัวเอง เพราะเมื่อน้ำรวมตัวกันเป็นกลม มันตกลงจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำด้วยความเร็วสูง และเกิดการรวมตัวเป็นก้อนกลมหมุนรอบตัวเองไปเรื่อยๆ สาเหตุทำไมโลกหมุนรอบตัวเอง และทำไมน้ำมีมากกว่าแผ่นดิน เพราะน้ำเกิดก่อนแผ่นดิน ส่วนแผ่นดินนั้น เกิดจากฝุ่นละอองในอากาศ ตกลงสู่พื้นน้ำ จากธุลีฝุ่นกลายเป็นเม็ดดินเล็กๆจึงสะสมมาเป็นเวลาหลายล้านล้านปี แผ่นดินจึงเพิ่มมากขึ้นจนถึงปัจจุบัน เมื่อมีแผ่นดิน สิ่งมีชีวิตที่เกิดจากเซลล์เล็กๆที่ลอยอยู่ในจักรวาล ตกลงมาพร้อมน้ำฝน ฝังตัวอยู่ในน้ำจนเมื่อโลกอยู่ในสภาวะที่เอื้อต่อการฟักตัว เซลล์เหล่านั้นก็จะฟักเป็นตัวเจริญเติบโตในน้ำ เกิดขึ้นทั่วทุกมุมโลก เมื่อถึงเวลาก็อาศัยอยู่บนแผ่นดินบ้าง อยู่ในน้ำบ้าง ซึ่งมีเพียงสามชนิดเท่านั้น คือ คน พืช สัตว์ ซึ่งสามสิ่งนี้ต้องพึ่งพาอาศัยกัน เพราะสิ่งมีชีวิตต้องมีการเจริญเติบโตด้วยการกินอาหารทั้งสิ้น เมื่อเจรืญเติบโตจนถึงเวลาสืบพันธุ์ ก็จะต้องสืบพันธุ์ต่อชีวิตจากรุ่นสู่รุ่น เพราะอายุคน พืช สัตว์นั้น อยู่ได้ไม่เกิน 100 ปีโดยประมาณ หากไม่มีการสืบพันธุ์ สิ่งมีชีวิตก็จะสูญพันธุ์ไปจากโลก และจะไม่สามารถกำเนิดขึ้นมาใหม่ได้ถ้าไม่สืบพันธุ์ ด้วยวิธีกามา เหมือนไดโนเสาร์ที่สูญพันธุ์ เมื่อสิ่งมีชีวิตกำเนิดขึ้นมาบนโลก ก็ต้องอยู่ภายใต้กฏของโลกไม่สามารถเลือกปฏิบัติได้ คือ สิ่งมีชีวิตทุกชีวิตที่เกิดมา ย่อมมีแก่ เจ็บ ตาย สิ่งมีชีวิตต้องกิน ต้องอยู่ เพื่อการเจริญเติบโตและสืบพันธุ์ การเบียดเบียนกันจึงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ทุกชีวิตจะต้องอยู่ภายใต้กฏของการกระทำของตัวเอง คือ ทำดี ผลย่อมได้ดี มีแต่ความสบายใจไม่เดือดร้อน ทำไม่ดีผลย่อมไม่ดีมีแต่ความไม่สบายใจและเดือดร้อน ซึ่งผลจะเกิดขึ้นทันทีที่การกระทำนั้นสิ้นสุดลง ผลนี้ไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลงผลของมันได้ แต่สิ่งมีชีวิตสามารถเลือกปฏิบัติได้ เพราะรู้ผลที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ เฉพาะคนเท่านั้นที่รู้ความจริงข้อนี้ได้ ส่วนพืชและสัตว์ มันไม่รู้อะไรดี ไม่ดี มันใช้ชีวิตตามสัณชาติญาณ เพื่ออยู่ เพื่อกิน เพื่อการสืบพันธุ์ หนทางเดียวที่คนจะรอดพ้นจากความทุกข์นี้ได้.คือ การคิดดี พูดดี ทำดี ด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่ทำให้ตัวเองและคนอื่นเดือดร้อน จะช่วยให้มหาชนพ้นจากบ่วงกรรม
รู้ไหมว่าผมอ่านจบ
คอมเมนท์แห่งปีเลยครับ 👏
สุดยอด แต่คนที่ทำไม่ดีกับเรา เราจะจัดการยังไง
@@selfloveisthebestlove5926 เราต้องพิจารณาจากตัวเราก่อนว่า เมื่อมีคนทำไม่ดีกับเรา เขาก็จะได้สิ่งที่ไม่ดีกลับจากเราเช่นกัน เช่นถ้าเวลาเราโกรธใคร คนนั้นจะต้องกระทำสิ่งที่ที่ไม่ดีกับเรา เราจึงรู้สึกโกรธ ถ้าคนนั้นทำดีกับเรา เขาก็จะได้รับสิ่งดีๆจากเรากลับไปเช่นกัน ถ้าเราทำดีกับเขาแล้วกลับไม่ได้รับสิ่งดีๆกลับคืนมา ก็แสดงว่าคนๆนั้นต้องไม่ปกติแน่นอน เพราะตามปกติของคนปกติ เมื่อใครดีมาก็จะดีตอบ เช่นเราอยู่ดีๆไม่ได้ทำอะไรให้ใครเดือดร้อน แต่มีคนมายืนด่าเราหน้าบ้าน ก็ให้พึงสังวรณ์ว่าคนนั้นย่อมไม่ปกติ เพราะคนที่ปกติจะไม่ไปด่าใครโดยไม่มีเหตุและผลอันควร สิ่งที่ควรทำคือ ทำใจไม่ให้โกรธ ให้อภัยและเมตตาในความไม่ปกติของเขา เหมือนคำพูด อย่าถือคนบ้าอย่าว่าคนเมา ใจเราก็จะไม่รู้สึกโกรธ เพราะเราให้อภัยคนมี่ไม่ปกติ
เยี่ยม มีความเป็นไปได้มากกว่าปั้นมาจากดิน
ผมเรียนไม่จบครับจบแค่ ปวช ไม่ตั่งใจเรียนเลย แต่เป๋นเด็กที่อบเรื่องดวงดาวตั้งแต่ ป4 จำได้คุ้นๆ ผมชอบดูชอบฟังเรื่องดวงคาวจนทุกวันนี้40แล้ว ผมไปกินเหล้ากะเพื่อนพยามิยากเล่าเรื่องจักวาลให้ฟังอธิบายให้เข้าใจ ไม่มีเลยใครอยากฟีงิยากรู้สักเท่าไร ขนาดเพิ่มบางคนเป็นวิศวะกร มันยังเข้าใจจักวาลเท่าผมเลย ดีใจทีได้ศึกษาด้วยตนเอง ถึงจะไม่เข้าใจเรื่องที่ยากๆ แต่ผมมั่นใจว่าผมเริ่มเข้าใจระบบของจักวาล บางคนอาจมองว่ามันเป็นเรื่องไกลตัวไม่ต้องศึกษา แต่สำหรับผมมันคือสิ่งที่ผมต้องการอยากรู้ ปริศนาของวาล แต่มันยิ่งใหญ่สำหรับตัวผมครับ
อยากมีเพื่อนกินเหล้าแล้วคุยกันเรื่องนี้บางจัง555555
🎉🎉🎉พระเจ้าคือ สิ่งสมมุติ จักรวาลคือ ภาพเสมือนจริง พระเจ้าในจักรวาลคือ สิ่งสมมุติในภาพเสมือนจริง คณิตคือ การบอกสิ่งสมมุติจากภาพเสมือนจริง
ล้ำลึกยิ่งนัก
แม้มนุษย์จะพยายามเลี่ยงถึงการมีอยู่ของพระเจ้าผู้ทรงสรรญสร้างทุกสรรพสิ่งในเอกภพนี้ โดยเอาศาสนาและวิทยาศาสตร์แยกออกจากกัน และพยายามชี้ชวนด้วยว่าศาสนากับวิทยาศาสตร์เป็นเรื่องที่ไปด้วยกันไม่ได้ แต่ความเป็นจริงสากลนั้นกลับไม่ใช่อย่างนั้น ยิ่งเราเข้าใจหลักวิทยาศาสตร์มากเท่าไหร่ มันยิ่งทำให้เราตระหนักรุ้ถึงความยิ่งใหญ่ของพระผุ้สร้างโดยพิจารณาถึงผลงานอันซับซ้อน สวยงามและลงตัว สำมัญสำนึกของเราจะตะโกนเลยว่า ไม่มีทางที่สิ่งเหล่าจะเกิดขึ้นเอง ไม่ว่าจะอังเอิญหรือสุ่มๆอะไรก็ตาม ความซับซ้อนขนาดนี้ไม่มีทางเกิดเองได้ มันต้องถุกสร้างด้วยเจตจำนงของผุ้ที่อยุ่เบื้องหลังชัดเจน เพราะเหตุนี้นักวิทยาศาสตร์ปัจจุบันถึงต้องจำนงด้วยหลักฐานทั้งปวง
สุดท้ายมนุษย์เป็นผู้สร้างพระเจ้า พระเจ้าสร้างมาจากคอมพิวเตอร์ อันนี้ลงตัวอย่างงดงามที่สุด
ก็มีเหตุผลน่ะ อะไรมันจะพร้อมขนาดนั้นโลกที่วิเศษพร้อมให้มนุษย์อยู่อาศัยได้ มันจะบังเอิญเกิดขึ้นได้เองจริงจริงหรอ.
ในโลกนี้เราจะเลือกเกิดเองไม่ได้ บางคนเกิดมาบนกองเงินกองทอง ใช้เงินชิวๆในชีวิตนี้ ต้องการอะไรที่มีบนโลกนี้ ใช้เงินซื้อได้ทุกอย่าง และอีกบางคน เกิดมาในครอบครัวจน แถมยังพิการอีก ดิ้นรนสุดชีวิตก็ไม่อาจผ่านพ้นไปได้เลย ชีวิต2มาตรฐานนี้ ทำไมถึงไม่มีความยุติธรรม ? ศิลธรรมหรือ นิยามความดีความชั่วทำไมยังต้องปฏิบัติ? ทำดีแล้วใครจะตอบแทน? ทำชั่วแล้วใครจะลงโทษ? คำถามมากมายเชิงปรัญญาเหล่านี้ที่ไม่สามารถเอาไปถามกับนักวิทยาศาตร์หรือนักฟิสิกได้ บงบอกถึงความต่างของแต่ล่ะศาสตร์ที่เข้าถึงได้ พระเจ้าก็เช่นกัน วิทยาศาตร์ไม่สามารถจะพิสุจน์ได้เพราะเป็นคนล่ะเรื่องกัน..เคร!! สำหรับโลกนี้พระเจ้าส่งมนุษย์มาแบบเลือกเกิดไม่ได้ แต่พระเจ้าให้สติปัญญาและเจตเสรีในการเลือกที่เป็นของเราเอง โลกนี้คือสนามเสอบของเรา เราเลือกได้ว่าจะหาพระเจ้าหรือจะปฏิเสธพระเจ้า ถ้ามนุษย์ไม่เชื่อพระเจ้าไม่มีผลใดๆต่อพระองค์ แต่มนุษย์ต้องการพระองค์เพื่อความโปรดปรานและความรอดในโลกหน้า และพระองค์ทรงเปนธรรมเหนือสิ่งอื่นใด บนโลกนี้ไม่มีหรอกความยุติธรรมจริงๆ กฎหมายที่มนุษย์ร่างขึ้นก็ไม่ยุติธรรม100% แต่พระเจ้าได้เตรียมโลกหน้าแล้วสำหรับผลตอบแทนที่ยุติธรรมอย่างแท้จริง แม้ผลบุญหรือผลบาปเล็กกว่าอะตอม ทั้งหมดก็จะถุกชำระอย่างครบถ้วน
นักคณิตศาสตร์สามารถบอกได้ว่าคณิตศาสตร์คือ พระเจ้าเนื่องจากทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างเป็นระบบเป็นระเบียบที่ไม่เหลือความไร้ระเบียบเหลืออยู่เลยที่เป็นไปตามหลักการคิดคำนวน โดยข้อมูลที่บอกว่า กฏชุดหนึ่งสำหรับอะตอมขนาดเล็กและอีกชุดหนึ่งสำหรับวัตถุขนาดยักษ์เช่น ดวงดาว กาแลคซี่ แต่บอกว่า คณิตศาสตร์ของทั้งสองชุดนี้ก็ไม่เข้ากันเลย นั่นก็เป็นเพราะการนำเอาชุดข้อมูลที่มีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงมาคิดวิเคราะห์บนพื้นฐานเดียวกันที่ในระดับมหภาคคิดว่า สามารถให้คำตอบสุดท้ายที่เข้ากันได้ แต่ผลออกมากลับไม่ได้ เหตุผลง่ายๆในระบบควอนตัมสองระบบ มหภาคและจุลภาคจะมีพื้นฐานการคิดวิเคราะห์พินิจพิจารณาและทำการทดลองเหมือนกัน แต่ใช้วิธีคิดวิธีรู้สึกและลงมือทำการทดลองที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงหรือตรงกันข้ามกัน พูดง่ายๆคือ ไม่ได้คิดวิเคราะห์บนพื้นฐานเดียวกัน ยกตัวอย่างง่ายๆเช่น เจ้านายกับลูกน้อง ที่ด้านหนึ่งมีการทำงานร่วมกัน แต่อีกด้านหนึ่งมีการทำงานที่แตกต่างกัน การคิดคำนวนก็เช่นเดียวกันโลกที่ทุกคนคิดและเข้าใจว่า มีความยุ่งเหยิงไร้ระเบียบ จริงๆแล้วมีความเป็นระเบียบที่ไม่เหลือความไร้ระเบียบเหลืออยู่เลย เพียงแค่ทุกคนปรับเปลี่ยนวิธีคิด รู้สึกและลงมือทำที่รวมเอาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์เข้าไปทำงานร่วมกับระบบการเรียนรู้และทำความเข้าใจแบบเก่า เช่นเดียวกันกับที่นักคณิตศาสตร์ก็ต้องคิดคำนวณบนพื้นฐานที่แตกต่างกัน
ทุกวันนี้ผมเริ่มเชื่อเรื่องการมีอยู่ของผู้สร้าง ผู้ที่อยู่เบื้องหลังของทุกอย่าง ผมเชื่อว่าทุกอย่างมีเหตผลเเละมีเเบบเเผนที่ชัดเจน" มนุษย์ยังเด็กนักสำหรับจักรวาลอันกว้างใหญ่"
@@double_st3892 ถ้าหากมองจากตัวเราออกไปข้างนอกผ่านสถานะมหภาค-จุลภาคเราจะคิดและเข้าใจว่า เราคือคนที่ควบคุมและบงการทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเรา แต่ถ้าหากเรามองตัวเราเข้าไปข้างในผ่านสถานะจุลภาค-มหภาคหรือการมีอยู่ของอะตอม อนุภาคและคลื่นเราจะรู้ว่าเราไม่ใช่คนที่คอยควบคุมและบงการทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเรา ซึ่งความหมายของการเป็นผู้ควบคุมและถูกควบคุมนี้ไม่ได้เกิดขึ้นภายใต้ Standard model! ที่เป็นแค่ Symmetry Systems ที่อธิบายได้สามแรง ไม่รวมแรงโน้มถ่วง แต่ยังเกิดขึ้นภายใต้สมมาตรยิ่งยวด Supersymmetry ที่รวมแรงโน้มถ่วงและผลของประวัติศาสตร์เข้าไว้อีกด้วย พูดง่ายๆคือ นอกจากเราจะถูกควบคุมและบงการโดยโลกและจักรวาลแล้ว โลกและจักรวาลก็ถูกควบคุมและบงการโดยเราด้วยเช่นเดียวกัน ทุกคนคงเคยได้ยินคำว่า The Butterfly Effect และนักสัมพัทธนิยมที่ชื่อ จอห์น อาร์ชิบัลด์ วีเลอร์ (John Archibald Wheeler) ที่กล่าวว่า ปริภูมิ-เวลาบอกสสารว่าจะเคลื่อนที่อย่างไร สสารบอกปริภูมิ-เวลาว่าจะโค้งอย่างไร
พระเจ้า อัลลอฮฺ์ เอโละ อาโละ อาเละ ยาเว GOD.คือ ผู้สร้างอย่างแท้จริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นคณิตศาสตร์แห่งพระเจ้าวิทยาศาสตร์แห่งพระเจ้าเคมีศาสตร์แห่งพระเจ้าการแพทย์ศาสตร์แห่งพระเจ้าทุกศาสตร์แห่งพระเจ้า มีหมดทุกศาสตร์ทุกมิติทุกแกนมิติแห่งพระเจ้า
ต้องมีผู้สร้างอยู่แล้ว ไม่เช่นนั้นทุกอย่างจะเกิดมาจากอะไร 😅😅 เรารู้แค่ว่ามีผู้สร้างเรา แต่เขาจะไม่สร้างระบบสมองให้รู้อย่างเด็ดขาดว่าเขาคือใคร ทำไม อย่างไร เราต้องเรียนรู้เอง 😅
ส่วนตัวเชื่อว่า พระเจ้าคือจุดกำเนิดของจักรวาลทั้งระบบ และทุกกฏค่ะ ยิ่งเราตื่นรู้มากเท่าไหร่ เรายิ่งใกล้ชิดพระเจ้ามากขึ้น และเป็นอิสระจากระบ Matrix ได้ในที่สุดค่ะ ขอบคุณสำหรับคลิปที่ดีมากนะคะ 💝💐
😅วิสัยของพุทธ วิสัยของผู้ทรงฌาน วิสัยของโลก วิสัยของกรรม มันเป็นเรื่องอจิณไตย คนมีอายุแค่ 100ปีไม่เกิดประโยชน์ที่จะไปใส่ใจ
Thank ❤❤️❤️🙏😊. ขอบคุณข้อมูลนะครับ ชอบมากเลยครับ😀
มีแต่คน อ้าง พระเจ้าอยู่ ในศาสดา ของ ศาสนา ในเรื่องวิท เค้าก็บอกว่ามันไม่ใช่ เค้าบอกถึงพระผู้สร้าง นั่น ก็คือ สิ่งที่มาก่อน หน้านั้น ก่อนเวลา สิ่งที่มา ก่อนเลข0 สิ่งนั้นมันไม่มีค่า แต่มีความหมาย บางที ก็มาในโลก เพื่อศึกษา มาเพื่อ ทดลองเรา สำหรับผม ไม่เชื่อ เรื่องความบังเอิญ ของทุกๆสิ่งมาจากบิกแบง ผมว่าก่อน หน้านั้น นั้น มันต้องมีอะไรสักอย่าง
ความเชื่อเรื่องพระเจ้า กับความเป็นจริง อะไรควรเชื่ออะไรไม่ควรเชื่อ..เช่นไฟมีลักษณะร้อนเผาไหม้ (จริง)กับความเชื่อเรื่องพระเจ้าว่าพระเจ้า มีจริง(ทั้งที่ไม่เห็นมีแต่เรื่องเล่า)สิ่งใหนที่ท่านเชื่อความจริงหรือ ท่านเชื่อว่ามีพระเจ้าจริง หรือว่ามีความร้อนจริง เชื่ออย่างไรถูกอย่างไรผิด อะไรควรเชื่อไม่ควรเชื่อ..พิจารณาด้วยเหตุผล..ทุกอย่างเป็นเพียงธาตุ ที่เกิดขึ้นตามเหตุปัจจัย..
โอ้พระเจ้า มนุษยต่างดาว พระเจ้าของข้า..........
เคยอ่านนิยายวิทยาศาสตร์เรื่องหนึ่งเนื้อเรื่องคือ มีเชื้อราอาศัยอยู่ที่ง่ามเท้ามนุษย์ ที่นั่นคิอโลกคือทุกสิ่งทุกอย่าง เวลาผ่านไปเนิ่นนานจนไม่อาจนับได้ในมาตรเวลาของเชื้อรา จนกระทั่งวันหนึ่งมนุษย์รู้สึกคันที่ง่ามเท้าจึงลงมือเกา ทันทีทันใดโลกทั้งใบและทุดสิ่งทุกอย่างพังทลายสูญหายในพริบตา
พระเจ้าที่แท้จริงของจักรวาล กับ พระเจ้าตามความเข้าใจของมนุษย์ มันต่างกันลิบลับเลยนะครับ.. เพราะอวิชชาของมนุษย์ทำให้อุปทานยึดถือแบบผิดๆ
ทุกอย่างคือความบังเอิญ(ทางธรรมชาติสร้างสรรค์ขึ้นมา)เเล้วสิ่งมีชีวิตก็เกิดวิวัฒนาการของมันเองเพื่อความอยู่รอด
คำว่าบังเอิญ มันมากเกินไปสำหรับโลกใบนี้ ถ้าคุณรู้จักคำนี้จริงๆ ทางคณิตศาตร์ คุณจะรู้ว่าความบังเอิญที่ไม่มีทางเป็นไปได้อย่างถึงที่สุด
อันนี้รับมาจากคำสอนของทฤษฎีวิวัตินาการทั้งต้นเลยแบบไม่ใช้ตรรกะหรือวิจารญานในการไตร่ตรองเลยสักกะนิด😂
@@excita1สงสัยเขาคงคิดว่าบังเอิญเหมือนกับไปเจอคนรุ้จักหน้าปากซอยล่ะมั้ง หรืออย่างมากถุกล็อตตอรี่รางวัลที่1สองงวดติด..แต่ความเป็นจริงมันต่างมหาศาญมากในเชิงคณิตศาสตร์ อะมีบ้าขนอะตอมหมดทั้งกาเเล็คซีนี้ข้ามระยะทางหนึ่งแสนปีแสงไปอีกฟ้ากก็ไม่อาจจะเอามาเปรียบกันได้เลย สำหรับ1เซลล์ที่เกิดขึ้น
พระเจ้าสร้างคนมาจากดิน เชื่ออันนี้ดีกว่า
ปิรามิด ฐานล่างเป็นสีเหลี่ยมเท่ากับแรงทั้งสีหรือไม่ สี่ด้านข้าง เป็นสามเหลี่ยม ทุกด้านข้างไปรวมที่มุม ด้านข้างดูดีมีการแบ่งกันหรืออาจหมายถึงมิติที่คู่กัน หรือแค่วามบังเอิญ หรือมีใครชี้ทาง ไม่น่าเชื้อว่ามนุษย์พันปีจะสร้างได้โดยไม่มีใครชี้แนะ
ใช่ ไม่ว่าจะเป็นปรากฏการณ์อะไร มันดันตรงกับคณิตศาสตร์ทั้งหมดเลย แปลกมาก แต่มีเรื่อง ไบโอ เคมี ฟิสิกส์ 3สาขานี้ ดันรวมกันสร้างยานอวกาศ หรือพลังงานแบบโนลิมิตด้วย คร๊อบเซอเคิ้ล ฟรีเควนซี่ไซเมสติกด้วย สมาธิ ออร่า ทั้งหมดนี้ ดันตรงคณิตศาสตร์เฉยเลย แปลกมาก แถมแปลกอีกอย่างนึงคือ หากจะหาคำตอบในกาแลคซี่ ให้ค้นหาในตัวมนุษย์เนี่ยแหละ ส่วนประกอบต่างๆกับตรงกับภาพอวัยวะในตัวมนุษย์เฉยเลย และข้อต่อยานอวกาศ กับตรง ข้อต่อของสัตว์ต่างๆ และทุกคนหรือสัตว์จะได้อยู่ต่อก็คือธรรมชาติจะต้องอยู่ด้วย และนั่น นักพฤกษศาสตร์จะรู้ว่า ต้นไม้แต่ละชนิด ต้องพึ่งและเอื้อ กับอีกต้นนึงเสมอ นั่นแปลว่า พระเจ้าสร้างมาพึ่งพากันอย่างลึกซึ้งมาก มันแปลกมาก ที่นักวิทยาศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ เค้าเชื่อในพระเจ้าทั้งนั้น ยิ่งค้นหาคำตอบ กลับยิ่งเชื่อในพระเจ้า มันน่าแปลกมากๆ ฉันเองก็เชื่อในเรื่องว่า โลกนี้ ถูกสร้างขึ้นโดยพระเจ้า เป็นเพราะฉันปลูกต้นไม้เป็นประจำ จึงเริ่มรู้เรื่องแบบนี้ แต่ฉันเลือกจะละกิเลส เพื่อละจากโลกนี้แล้ว เพราะเหนื่อยมาก
แล้วละได้รึยังล่ะกิเลสน่ะ
อายาน
อานาน
อายา
อาญา
รู้สึกว่าซาวประกอบแบบเก่ามันฟังนุ่มกว่าอะครับ แบบนี้พูดจบซาวขึ้นผมอยากลุกมาเต้น
ไม่น่าจะบังเอิญ เราถูกสร้างขึ้นมา... 1000%
หลับสบายเลยครับ 😂
พระเจ้าทรงเป็นนักฟิสิกผู้ยิ่งใหญ่ครับ ท่านอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของดาวเหนีอจร้าแต่นอกเอกภพนะครับ
CZcams นี่แหละคือเครื่องย้อนเวลา สมมติเจ้าของช่องอัดคลิปไว้1ปีที่แล้ว พอเราเข้าไปเปิดคลิปที่เจ้าของช่องทำไว้ เท่ากับว่าเราสามารถย้อนเวลาไปได้1ปี เหมือนกับว่าเราย้อนเวลาไปนั่งอยู่ในช่วงเวลาที่เจ้าของทำคลิป
ส่วนผมเรียกซอฟแวร์บันทึกเส้นเวลา
วัฏจักรเผ่าพันธุ์มนุษย์สั้นยิ่งนัก สั้นจนไม่สามารถรับรู้การเปลี่ยนแปลงระดับมโหฬารของจักรวาลได้
มันก็คือกฎเกณฑ์ ที่มนุษย์สร้างขึ้นเอง คิดเอง เออ เอง ทั้งนั้น 1+1 ทำไมต้องเป็น 2 แล้ว 1 คืออะไร 2 คืออะไร จักรวาลคืออะไร ดวงดาวคืออะไร สมมุติขึ้นมาเพื่อเขียนกฎหมาย แม้จะพิสูจน์ได้ ก็แค่พิสูจน์ตัวเอง เหนือนรถแต่ละ รุ่น มีความเร็ว ของไมล์ หน้าจอ ที่ 70 km/h ก็มั่นใจ ว่า ของตัวเองถูกต้องแชะแม่นย้ำ เพราะคิดเอง รถ มีหลายคน ถ้าเอามาเปรียบเทียบกันก็รู้ว่าคันใหนเร็วกว่า แต่ก็ยังไม่รู่ความเร็วที่แน่นอน เพราะ มันไม่มี อยู่จริง
คนชอบเถียงกันว่าพระเจ้ามีจริงมั้ย ถ้าอยากรู้ ผมว่าเราต้องทำสิ่งต่อไปนี้1. เดินทางให้เร็วกว่าแสง 2. พิสูจน์หน้าตาของแรงโน้มถ่วงหรือเอาชนะแรงโน้มถ่วง (ควบคุมแรงโน้มถ่วงได้)ถ้าทำทั้ง 2 อย่างนี้ได้ เราจะรู้ความลับทั้งหมดของจักรวาลถ้ายังทำไม่ได้ อะไรที่เกิดขอบเขตของเทคโนโลยีปัจจุบันมันก็เป็นเพียงแค่การส่องกล้อง ทดลองแบบจำลอง และสังเคราะห์ข้อมูล แล้วนำมาสร้างทฤษฎี แล้วเผยแพร่ให้คนรู้ เพื่อจะให้นักวิทยาศาสตร์ยอมรับไม่เคยมีใครไปยืนตรงหน้ามัน แล้วเห็นด้วยตาตัวเองทั้งนั้นเอาแค่เรื่องหลุมดำ เราก็แค่ส่องกล้อง นั่นแล่ะที่เราทำได้ไม่มีใครเคยขับยานไปที่หลุมดำ ส่งเครื่องมือไปในหลุมดำ เก็บข้อมูล แล้วกลับเอาข้อมูลออกมา (ยกตัวอย่างให้เห็น)สุดท้าย ก็ต้องทำ 2 อย่างข้างต้นให้สำเร็จ แล้วจะได้พบเจอความจริงของจักรวาล
ฝึกตัวเองพึ่งตนเองก็สามารถไปรู้ได้ ฝึกอานาปานสติให้ถึงฌานสี่บ่อยๆ เกิดบุพเพนิวาสานุสติ ญานรู้อ อดีต ปัจจุบันขณะ อนาคต เกิดจุตูปปาตญาน รู้การจุติการเกิดของสัตว์ไปยังมิติอื่นๆด้วยผลกรรมอะไร หรือฝึกให้ได้อภิญญา6 วิชา3 การใช้ฤทธิ์ทางใจท่องไปในจักรวาลก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร ไปพิสูจน์ว่า โลกอื่นมีมนุษย์ต่างดาวจำพวกนี้ที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้จริงไหม ดูถึงว่าจักรวาลรวมตัวกันเป็นขนาดต่างๆ เป็นจักรวาลอย่างเล็ก จนถึงอนันตจักรวาล มันเป็นอย่างที่พระพุทธเจ้าเห็นไหม สัตว์ที่ตายแล้วไปเกิดสวรรค์ไม่ต้องรอพระเจ้าตัดสินดูสิพระพุทธเจ้าตรัสถูกไหม
จากพระไตรปิฎก พระพุทธเจ้ากล่าวว่า แสงจากดวงอาทิตย์ดวงนี้ไปหมดลงที่ใด ห่างออกไปอีกพันเท่าจะมีอีกโลกหนึ่ง
ทำไมกฏระดับอะตอมกับกฏระดับดวงดาวถึงใช้ด้วยกันไม่ได้ เป็นไปได้มั้ยว่าจริงๆแล้วเป็นเพราะกฏทางฟิสิกส์เป็นคนละกฏ พูดง่ายๆคือมันเป็นคนละจักรวาลหรือคนละมิตินั่นเอง จึงไม่สามารถเอามารวมกันเป็นหนึ่งเดียวได้
ธรรมชาติไง
ทำไมไฟถึงไม่เย็น
ฟังแล้ว มันน่ากลัว.ลึกลับ สุดๆของการจินตนาการที่มนุษษ์จะนึกออกได้
ถ้าพระเจ้าสร้าง ทำไมไม่สร้างให้ดีๆ ตอนนี้มีแต่ความวุ้นวาย 😅😅😅
ถ้าใครรู้จักหรือเข้าใจ4แรง พื่นฐานเข้าใจแบบจริงๆ พวกคุณจะรู้ว่า มันเกินกว่าคำว่าบังเอิญ
5:14 แรงนิวเคลียร์อย่างอ่อน กับ แรงนิวเคลียร์อย่างเข้มครับ
ต้องมีระบบถึงมีการทำงาน คณิตศาสตร์ mหรือภาษาใดใด มันคือการศึกษาพื้นฐาน เพื่อหากฎสากล
น่าสนใจครับ😊
🇰🇭 ผู้สร้าง😉🥰
ฟังตั้งนานนึกว่าจะมีอะไรใหม่จริงๆ สุดท้ายก้อ "อาจจะมี" 😂😂
ขอบคุณสำหรับคอนเท้นดีๆค่ะ🩷🩷🩷
พระเจ้าสร้างจักรวาลไม่แปลก แต่แปลกที่ใครสร้างพระเจ้า
ถ้าไม่มีมนุษย์ ก็ไม่มีพระเจ้า 🎉
เคยไหม ความรู้สึก บางเวลาเหมือนมีใครจ้องมองเราอยู่ แต่ดูรอบๆตัวก็ไม่เห็นใคร
มันเป็นกลไกที่ก่อตัวขึ้นเองจากกฎพื้นฐาน ในรูปแบบของ ผลลงตัวบั้นปลายขององค์รวม
ถ้าจะบอกว่า.มนุษย์พยายามมาแล้วตั้งแต่ในอดีตกาลคนแล้วคนเล่ายุคแล้วยุคเล่า.ที่พยายามในเรื่องเหล่านี้สุแท้ายก็ไม่รู้อยู่ดี.
กระเบน/คอด/เฮลิค/จิ๊ป_ตั้งที่สงครามครั้ง๑ ควอน แชเลนยาน
เราอยู่ในโลกเสมือนครับ
พระเจ้าสร้างมนุษย์หรือ มนุษย์สร้างพระเจ้า
เขมรคือสิ่งที่พระเจ้าทำหลุด QC
เราเกิดมาก็ตายอีกไม่นาน และเรารู้ดีว่าทุกสิ่งเริ่มจากศูนย์
จักรวาลเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติไม่มีใครสร้างมันขึ้นมา ทุกสรรพสิ่งมีช่วงเวลาของมันเราไม่รู้ความสัมพันธ์ของพวกมันได้ทั้งหมด อวกาศ เวลา สสาร และ พลังงาน จากสิ่งที่เล็กที่สุดแต่ไม่ศูนย์ ไปสู่สิ่งที่ใหญ่ที่สุดแต่มีที่ใหญ่กว่าอีก มันเข้าใจค่อนข้างยากทั้งๆที่พวกมันประกอบขึ้นมาเป็นตัวเราแต่เรารู้ เกี่ยวกับพวกมันน้อยมาก ฟิสิกส์ควอนตัม สอนให้เรารู้ว่าทุกสิ่งที่เราคิดว่ามันมีอยู่จริง แท้จริงแล้วมันไม่ได้มีอยู่จริง
เกิดจากอะไร 😅
ควอนตัมเกิดจากอะไร ?
ใครสร้างโลก ใครสร้างจักรวาล เรามาจากไหน ถ้าเป็นศาสนาคริสต์และศาสนาอิสลามคำตอบคือพระเจ้า.ถ้าสำหรับพระพุทธศาสนาคำตอบคือ เพราะความไม่รู้ไงถ้ารู้ก็ไม่เกิดจริงไหมเป็นอรหันตผลในปัจจุบันหรือรู้แจ้งนั่นเอง😇
ความไม่รู้นั้นกล่าวเฉพาะสัตว์ที่เวียนว่ายตายเกิด ส่วนการกำเนิดและสิ้นสุดของจักรวาลและกระบวนการเกิดขึ้นของจักรวาลนั้น พระพุทธเจ้ามีกล่าวไว้ครับ กระบวนการนี้ หาเบื้องต้นไม่ได้ และที่สุดไม่ได้ นี้คือ ระบบสังขตธรรมทั้งหมด
บล๊ะเจ้ากำเนิดทุกสิ่งอย่าง เขาต้องอยู่เหนือกฏฟิสิกสินะ 😁
คงเหนือมากๆ เลยแหละ ☺️ ไม่งั้นผู้คนคงจะหาเขาเจอแล้ว
พระเจ้าเกิดจากจินตนาการของมนุษย์😁
พระเจ้า ≠ ผู้สร้าง
ต้องมีกฏเกณฑ์หรือกฎระเบียบอะไรบ้างอย่าง ถึงมีจักรวาล แล้วใครเป็นคนสร้างกฏเกณฑ์หรือกฏระเบียบนั้น สิ่งนั้นอาจเรียกว่า พระเจ้า ได้มั้ง 555+
ลึกลับจินตนาการไม่ออกเลยครับ
ท้ายที่สุดมนุษย์ก็หนีพระเจ้าไม่ได้
@@luchailing661 แล้วจะได้รู้
การศึกษาไม่ได้ช่วยอะไรเลย
พระเจ้าอาจจะเป็นเด็กกะโปกคนนึง ที่เล่นเกมส์ cim city
คนพยายามคิดตัวเลขทางคณิตศาสตร์ มาอธิบายธรรมชาติ ไม่มีพระเจ้าถ้ามีตัวจริง คงไม่มีคนสบถ Holy sh..t....🎉😂
มนุษย์.....คือ..ผู้สร้างพระเจ้าขึ้น..เพื่อเป็นคำตอบสำหรับสิ่งที่มนุษย์ไม่สามารถหาคำตอบได้......+-&_?!;:'"*
คำตอบนี้น่าสนใจครับ แต่ติดตรงที่มันจะบังเอิญเกินไปรึป่าว ที่มีเราในดาวเคราะห์ดวงนี้
อย่าลืมเข้าถึงพระเจ้าทุกต้นเดือนและกลางเดือนกันนะครับ
ต้องเลือก ระหว่าง "ศรัทธาในพระเจ้า" กับ "ศรัทธาในความบังเอิญ" เพราะคิดยังไงก็มีแค่ 2 ทางนี้เท่านั้น ไม่มีทางที่ 3 แล้ว
ไม่คำว่าบังเอิญหรอกครับ โลกเราจะวิเศษขนาดนั้นหรอที่พร้อมให้สิ่งมีชีวิตดำรงอยู่ได้พร้อมขนาดนี้ มันต้องมีคนสร้างเเน่เเน่
@@NOTDEKHELLใช่ เราถูกสร้าง ทุกอย่างถูกสร้างขึ้น วิทยาศาสตร์และศาสตร์ลึกลับ ทุกอย่างเกี่ยวข้องกันทั้งหมด จิตวิญญาณและวิทยาศาสตร์ก็เช่นกัน ไม่มีสิ่งลี้ลับ มีแต่สิ่งที่คนไม่รู้แล้วคิดไปต่างๆนาๆ ทุกอย่างคือพลังงานและมิติ มองไม่เห็น=พลังงานไม่เท่ากัน ทุกอย่างมีพลังงาน วิทยาศาสตร์พิสูจน์ได้หลายอย่าง เช่น ว่าจิต เป็นพลังงาน และมีแรงดึงดูด
@@369_S แล้วพลังงานเกิดจากอะไร หรือก่อนที่จะมีพลังงานมันมีอะไร อย่าตอบว่าไม่รู้นะครับถ้างั้น
@@NOTDEKHELLจริงถ้าคิดตามหลักวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์จริงๆจะรู้เลยว่าถ้าใช้คำว่าบังเอิญจักรวาลจะไม่มีทางเกิดขึ้นได้เลย คำตอบจึงมีหนึ่งเดียวคือมีผู้สร้างที่ควบคุมทุกปัจจัยให้สมบูรณ์แบบ
@@369_S จะดึงดูดแต่สิ่งดีๆ ต้อ่งทำอย่างไร
แล้วใครสร้างพระเจ้าใครสร้างผู้สร้างจักรวาล
อ่านผิดอ่านถูก ก็ทำให้คนคิดตามงงมั่งรู้มั่งฟังไปก็เพลินดี
พ่อแม่เราและตัวเราเองอยู่โลกเดียวกันหรือป่าวเพราะ เราเองหรือพ่อแม่เราก็รู้จักคนในหมู่บ้านเป็นบาวคนหรือรู้จักทางสัญจรในหมู่บ้านไม่เหมือนกันทั้งที่เราอย๋บ้านเดียวกันหมู่บ้านเดียวกัน.บางคนเราไม่เคยเห็นหน้าเลยใด้ยินแต่ชื่อ.หรือเราต่างมีโลกส่วนตัวของใครของมัน
มันจะมีอยู่ลัทธินึงที่พยายามโยงทุกอย่างที่อยู่ในคัมภีร์ตัวเองให้ตรงกับวิทยาศาสตร์😂
อย่างว่าแหละครับ เพราะวิทยาศาสตร์คือผลลัพท์จากการทดลอง ที่ทำซ้ำต้องได้ผลลัพท์เดิม หรือคุณเชื่อจริงๆว่า เกิดมาแล้วเดินบนดอกบัวได้เลย🤣
🌍 จิตสำนึกต้นกำะนิดมวลรวม สากลจักรวาลเริ่มทำงานอย่างเป็นทางการแล้ว ดังนั้นการใช้ชีวิตอย่างมี สติ รู้ ผิดชอบชั่วดี อยู่ตลอดเวลาของ มวลมนุษย์ชาติ จึงจำเป็นและสำคัญที่สุด
สามัคคีกันเอาไว้ มนุษย์ ทั้งหลาย เอ๋ย..แล้วสันติสุขจะเกิดขึ้นอย่างภาวร .🙏👼.🌍🌈🇹🇭
เราอยู่มิติที่ 3+1 เรายังมองเห็นเจตนา ความเป็นไป วัฏจักรชีวิต ของมดได้เลย ไม่ต้องถึงพระเจ้าหรอก แค่พวกที่อยู่ มิติที่ 5 มันก็รู้หมดละ ว่าเราทำอะไร ตอนไหน กลอดูได้ตลอด และมีอำนาจมากกว่าเรา ที่เราพิเศษก็เพราะครั้งนึงพวกนั้นเคยมาที่นี่มั้ง เราก็เลยเป็นสัตว์ที่ เห็นอนาคต ลางๆ มีการคิดล่วงหน้า หลุดจากสัญชาตญาณ ที่ขึ้นอยู่กับ สารความสุขในสมอง ที่กำหนดว่าให้เราทำไรทำอะไร
มิติเวลา ไม่เคยเดินถอยหลัง แต่มัยจะมีหลายๆมิติซ้อนกัน แต่ละมิติ จะมีเวลา ขอฃตัวเอง ในโลกใบเดียวกัน
สวรรค์ คือโลกที่พัฒนาสูงสุด เทคโนโลยีสูงสุด มนุษย์ไม่ต้องตายไม่ต้องกิน
นรก ก็โลกที่ร้อน จะถึงแก่นสุดท้าย
คนเรา ตายไป ไม่ได้ไปใหน แค่เปลี่ยนมิติ ถ้าท่านมีสติ ตอนใจขาด ท่านจะรับรู้ที่มา และการเปลี่ยนมิติ ไม่ได้ น่ากลัว
และเราทุกคนเคยเปลี่ยนมาแล้ว แค่เรา จำไม่ได้
ใครสร้างจักรวาลไม่รู้ แต่ที่รู้คือ มีคนเคลม😅😅😅
ทุกอย่างเป็นสิทธิของพระองค์ มนุษย์จะปฏิเสทหรือศรัทธาก็ไม่มีผลต่อพระองค์ นรกเตรียมใว้ตลอดกาลสำหรับผู้ปฏิเสทแล้ว ยุติธรรมแล้ว
@@KYL1985 เหรออ มึงเอ๋อป่ะนิ่
555 เคลมตอนเขาพิสูจแล้ว
@@Aon-il7cx พระองค์พิสูจน์ในคัมภีร์มานานแล้ว
บางทีผมหลงไปเปิดดู เลื่อนหนีแทบไม่ทัน
มีดวงอาทิตย์ดวงนึง.. มีดาวหลายๆดวงต่างโคจรไปรอบๆบ้างก็หมุนไปด้วย บางดวงแข็ง บางดวงเป็นแก๊สเหลวมีทั้งร้อน/เย็น
แต่มีดวงนึง.... ซึ่งบังเอิญ! หมุนไปด้วย โคจรไปด้วยตั้งแต่ร้อนๆจนเริ่มเย็นตัว เกิดมีแรงแม่เหล็กขั่วโลกคอยกันรังสี แล้วก็มีชั้นบรรยากาศ มีแรงดึงดูด(แรงโน้มถ่วง) แถมมีของเหลวที่พิเศษสุด(น้ำ) แถมมีดวงจันทร์ที่มันก็โคจรไปรอบๆหันเพียงหน้าเดียว มีน้ำขึ้น-น้ำลง วนกันไปตั้งแต่เริ่มเย็นตัว
แต่ทว่า มีสิ่งมีชีวิตนึงที่แค่เพิ่งจะถือกำเนิดขึ้น ยกตนว่าฉลาดกว่าสิ่งมีชีวิตไหนๆมีความเห็นแก่ตัวแต่ต่างก็เป็นสัตว์สังคม มีความต้องการเอาชนะ แต่กลับมีความเมตตาและการให้อภัย มีการกำหนดสิ่งนั้นสิ่งนี้ว่ามีค่า ตีค่าตีราคากันไป บ้างก็เบงว่าตนเป็นใหญ่กว่าฝูงของมัน ... จนวันนึงความฉลาดพามาถึงความสงสัย ว่าตัวตนของชีวิตคือสิ่งใด เกิดขึ้นยังไง ต่างก็มีเหตุผลแตกต่างนานาว่ากันไป... แต่ผมไม่คิดว่า"นี่คือเรื่องบังเอิญ" ทุกอย่างมันลงตัวเกินไป ต้องมีผู้สร้าง ซึ่งผมเองก็ไม่อาจสงสัยว่าใครหรือสิ่งใด แต่ต้องมี(They) ..???
ถ้าคนเข้าใจในธรรมชาติ มันไม่ใช่เรื่องยากในการหาเหตุและผลของการกำเนิดจักรวาล โลก ดวงดาว สิ่งมีชีวิต และสรรพสิ่งในจักรวาล จักรวาล คือ อากาศที่กว้างใหญ่ไพศาล มีอาณาบริเวณ ไม่มีขอบเขต ไม่มีจุดเริ่มต้น ไม่มีจุดสิ้นสุด ดวงอาทิตย์ โลกและดวงดาว จึงเป็นวัตถุที่ลอยอยู่ในอากาศ มาอย่างยาวนาน และจะลอยไปเรื่อยๆ จนกว่าดาวนั้นๆ จะหยุดหมุนรอบตัวเอง จักรวาลไม่มีแรงดึงดูด วัตถุที่ลอยอยู่ในอากาศได้ โดยวิธีธรรมชาติ คือตกจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำไปเรื่อยๆ ในจักรวาลมีอะไร สิ่งที่จักรวาลมี ความชื้น ความเย็น ความร้อน มีฝุ่นละออง ความชื้นเมื่อเจอความเย็นจึงแข็งตัวเป็นน้ำแข็ง เมื่อเจอความร้อน น้ำแข็งก็จะละลายกลายเป็นหยดน้ำ หรือน้ำฝน น้ำฝนในจักรวาลตกหนักและนาน จนทำให้กลายเป็นสายน้ำขนาดมหึมา เมื่อฝนหยุดตก สายน้ำนั้นก็จะตกลงสู่ที่ต่ำ จนรวมตัวกันเป็นก้อนน้ำขนาดมหึมา น้ำเป็นของเหลว รูปร่างลักษณะของมัน ถ้ามีภาชนะมารองรับมันก็จะมีรูปร่างลักษณะเหมือนภาชนะนั้นๆ แต่ถ้ามันลอยอยู่ในอากาศมันจะมีลักษณะเป็นก้อนกลม สังเกตจากเวลาเกิดฝนตกบนโลก หยดน้ำฝนจะเป็นก้อนกลม ตกลงมาสู่พื้นโลก มันคือที่มาของการ กำเนิดโลกและดวงดาวในจักรวาล สาเหตุทำไม โลกและดวงดาวในจักรวาล จึงมีลักษณะกลมทุกดวง เราสามารถมองเห็นปรากฏการณ์นี้จาก ปรากฏการณ์ของฝนดาวตก ดาวทุกดวงเกิดจากน้ำ และดาวต้องหมุนรอบตัวเอง เพราะเมื่อน้ำรวมตัวกันเป็นกลม มันตกลงจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำด้วยความเร็วสูง และเกิดการรวมตัวเป็นก้อนกลมหมุนรอบตัวเองไปเรื่อยๆ สาเหตุทำไมโลกหมุนรอบตัวเอง และทำไมน้ำมีมากกว่าแผ่นดิน เพราะน้ำเกิดก่อนแผ่นดิน ส่วนแผ่นดินนั้น เกิดจากฝุ่นละอองในอากาศ ตกลงสู่พื้นน้ำ จากธุลีฝุ่นกลายเป็นเม็ดดินเล็กๆจึงสะสมมาเป็นเวลาหลายล้านล้านปี แผ่นดินจึงเพิ่มมากขึ้นจนถึงปัจจุบัน เมื่อมีแผ่นดิน สิ่งมีชีวิตที่เกิดจากเซลล์เล็กๆที่ลอยอยู่ในจักรวาล ตกลงมาพร้อมน้ำฝน ฝังตัวอยู่ในน้ำจนเมื่อโลกอยู่ในสภาวะที่เอื้อต่อการฟักตัว เซลล์เหล่านั้นก็จะฟักเป็นตัวเจริญเติบโตในน้ำ เกิดขึ้นทั่วทุกมุมโลก เมื่อถึงเวลาก็อาศัยอยู่บนแผ่นดินบ้าง อยู่ในน้ำบ้าง ซึ่งมีเพียงสามชนิดเท่านั้น คือ คน พืช สัตว์ ซึ่งสามสิ่งนี้ต้องพึ่งพาอาศัยกัน เพราะสิ่งมีชีวิตต้องมีการเจริญเติบโตด้วยการกินอาหารทั้งสิ้น เมื่อเจรืญเติบโตจนถึงเวลาสืบพันธุ์ ก็จะต้องสืบพันธุ์ต่อชีวิตจากรุ่นสู่รุ่น เพราะอายุคน พืช สัตว์นั้น อยู่ได้ไม่เกิน 100 ปีโดยประมาณ หากไม่มีการสืบพันธุ์ สิ่งมีชีวิตก็จะสูญพันธุ์ไปจากโลก และจะไม่สามารถกำเนิดขึ้นมาใหม่ได้ถ้าไม่สืบพันธุ์ ด้วยวิธีกามา เหมือนไดโนเสาร์ที่สูญพันธุ์ เมื่อสิ่งมีชีวิตกำเนิดขึ้นมาบนโลก ก็ต้องอยู่ภายใต้กฏของโลกไม่สามารถเลือกปฏิบัติได้ คือ สิ่งมีชีวิตทุกชีวิตที่เกิดมา ย่อมมีแก่ เจ็บ ตาย สิ่งมีชีวิตต้องกิน ต้องอยู่ เพื่อการเจริญเติบโตและสืบพันธุ์ การเบียดเบียนกันจึงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ทุกชีวิตจะต้องอยู่ภายใต้กฏของการกระทำของตัวเอง คือ ทำดี ผลย่อมได้ดี มีแต่ความสบายใจไม่เดือดร้อน ทำไม่ดีผลย่อมไม่ดีมีแต่ความไม่สบายใจและเดือดร้อน ซึ่งผลจะเกิดขึ้นทันทีที่การกระทำนั้นสิ้นสุดลง ผลนี้ไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลงผลของมันได้ แต่สิ่งมีชีวิตสามารถเลือกปฏิบัติได้ เพราะรู้ผลที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ เฉพาะคนเท่านั้นที่รู้ความจริงข้อนี้ได้ ส่วนพืชและสัตว์ มันไม่รู้อะไรดี ไม่ดี มันใช้ชีวิตตามสัณชาติญาณ เพื่ออยู่ เพื่อกิน เพื่อการสืบพันธุ์ หนทางเดียวที่คนจะรอดพ้นจากความทุกข์นี้ได้.คือ การคิดดี พูดดี ทำดี ด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่ทำให้ตัวเองและคนอื่นเดือดร้อน จะช่วยให้มหาชนพ้นจากบ่วงกรรม
รู้ไหมว่าผมอ่านจบ
คอมเมนท์แห่งปีเลยครับ 👏
สุดยอด แต่คนที่ทำไม่ดีกับเรา เราจะจัดการยังไง
@@selfloveisthebestlove5926 เราต้องพิจารณาจากตัวเราก่อนว่า เมื่อมีคนทำไม่ดีกับเรา เขาก็จะได้สิ่งที่ไม่ดีกลับจากเราเช่นกัน เช่นถ้าเวลาเราโกรธใคร คนนั้นจะต้องกระทำสิ่งที่ที่ไม่ดีกับเรา เราจึงรู้สึกโกรธ ถ้าคนนั้นทำดีกับเรา เขาก็จะได้รับสิ่งดีๆจากเรากลับไปเช่นกัน ถ้าเราทำดีกับเขาแล้วกลับไม่ได้รับสิ่งดีๆกลับคืนมา ก็แสดงว่าคนๆนั้นต้องไม่ปกติแน่นอน เพราะตามปกติของคนปกติ เมื่อใครดีมาก็จะดีตอบ เช่นเราอยู่ดีๆไม่ได้ทำอะไรให้ใครเดือดร้อน แต่มีคนมายืนด่าเราหน้าบ้าน ก็ให้พึงสังวรณ์ว่าคนนั้นย่อมไม่ปกติ เพราะคนที่ปกติจะไม่ไปด่าใครโดยไม่มีเหตุและผลอันควร สิ่งที่ควรทำคือ ทำใจไม่ให้โกรธ ให้อภัยและเมตตาในความไม่ปกติของเขา เหมือนคำพูด อย่าถือคนบ้าอย่าว่าคนเมา ใจเราก็จะไม่รู้สึกโกรธ เพราะเราให้อภัยคนมี่ไม่ปกติ
เยี่ยม มีความเป็นไปได้มากกว่าปั้นมาจากดิน
ผมเรียนไม่จบครับจบแค่ ปวช ไม่ตั่งใจเรียนเลย แต่เป๋นเด็กที่อบเรื่องดวงดาวตั้งแต่ ป4 จำได้คุ้นๆ ผมชอบดูชอบฟังเรื่องดวงคาวจนทุกวันนี้40แล้ว ผมไปกินเหล้ากะเพื่อนพยามิยากเล่าเรื่องจักวาลให้ฟังอธิบายให้เข้าใจ ไม่มีเลยใครอยากฟีงิยากรู้สักเท่าไร ขนาดเพิ่มบางคนเป็นวิศวะกร มันยังเข้าใจจักวาลเท่าผมเลย ดีใจทีได้ศึกษาด้วยตนเอง ถึงจะไม่เข้าใจเรื่องที่ยากๆ แต่ผมมั่นใจว่าผมเริ่มเข้าใจระบบของจักวาล บางคนอาจมองว่ามันเป็นเรื่องไกลตัวไม่ต้องศึกษา แต่สำหรับผมมันคือสิ่งที่ผมต้องการอยากรู้ ปริศนาของวาล แต่มันยิ่งใหญ่สำหรับตัวผมครับ
อยากมีเพื่อนกินเหล้าแล้วคุยกันเรื่องนี้บางจัง555555
🎉🎉🎉พระเจ้าคือ สิ่งสมมุติ จักรวาลคือ ภาพเสมือนจริง พระเจ้าในจักรวาลคือ สิ่งสมมุติในภาพเสมือนจริง คณิตคือ การบอกสิ่งสมมุติจากภาพเสมือนจริง
ล้ำลึกยิ่งนัก
แม้มนุษย์จะพยายามเลี่ยงถึงการมีอยู่ของพระเจ้าผู้ทรงสรรญสร้างทุกสรรพสิ่งในเอกภพนี้ โดยเอาศาสนาและวิทยาศาสตร์แยกออกจากกัน และพยายามชี้ชวนด้วยว่าศาสนากับวิทยาศาสตร์เป็นเรื่องที่ไปด้วยกันไม่ได้ แต่ความเป็นจริงสากลนั้นกลับไม่ใช่อย่างนั้น ยิ่งเราเข้าใจหลักวิทยาศาสตร์มากเท่าไหร่ มันยิ่งทำให้เราตระหนักรุ้ถึงความยิ่งใหญ่ของพระผุ้สร้างโดยพิจารณาถึงผลงานอันซับซ้อน สวยงามและลงตัว สำมัญสำนึกของเราจะตะโกนเลยว่า ไม่มีทางที่สิ่งเหล่าจะเกิดขึ้นเอง ไม่ว่าจะอังเอิญหรือสุ่มๆอะไรก็ตาม ความซับซ้อนขนาดนี้ไม่มีทางเกิดเองได้ มันต้องถุกสร้างด้วยเจตจำนงของผุ้ที่อยุ่เบื้องหลังชัดเจน เพราะเหตุนี้นักวิทยาศาสตร์ปัจจุบันถึงต้องจำนงด้วยหลักฐานทั้งปวง
สุดท้ายมนุษย์เป็นผู้สร้างพระเจ้า พระเจ้าสร้างมาจากคอมพิวเตอร์ อันนี้ลงตัวอย่างงดงามที่สุด
ก็มีเหตุผลน่ะ อะไรมันจะพร้อมขนาดนั้นโลกที่วิเศษพร้อมให้มนุษย์อยู่อาศัยได้ มันจะบังเอิญเกิดขึ้นได้เองจริงจริงหรอ.
ในโลกนี้เราจะเลือกเกิดเองไม่ได้ บางคนเกิดมาบนกองเงินกองทอง ใช้เงินชิวๆในชีวิตนี้ ต้องการอะไรที่มีบนโลกนี้ ใช้เงินซื้อได้ทุกอย่าง และอีกบางคน เกิดมาในครอบครัวจน แถมยังพิการอีก ดิ้นรนสุดชีวิตก็ไม่อาจผ่านพ้นไปได้เลย ชีวิต2มาตรฐานนี้ ทำไมถึงไม่มีความยุติธรรม ? ศิลธรรมหรือ นิยามความดีความชั่วทำไมยังต้องปฏิบัติ? ทำดีแล้วใครจะตอบแทน? ทำชั่วแล้วใครจะลงโทษ? คำถามมากมายเชิงปรัญญาเหล่านี้ที่ไม่สามารถเอาไปถามกับนักวิทยาศาตร์หรือนักฟิสิกได้ บงบอกถึงความต่างของแต่ล่ะศาสตร์ที่เข้าถึงได้ พระเจ้าก็เช่นกัน วิทยาศาตร์ไม่สามารถจะพิสุจน์ได้เพราะเป็นคนล่ะเรื่องกัน..เคร!! สำหรับโลกนี้พระเจ้าส่งมนุษย์มาแบบเลือกเกิดไม่ได้ แต่พระเจ้าให้สติปัญญาและเจตเสรีในการเลือกที่เป็นของเราเอง โลกนี้คือสนามเสอบของเรา เราเลือกได้ว่าจะหาพระเจ้าหรือจะปฏิเสธพระเจ้า ถ้ามนุษย์ไม่เชื่อพระเจ้าไม่มีผลใดๆต่อพระองค์ แต่มนุษย์ต้องการพระองค์เพื่อความโปรดปรานและความรอดในโลกหน้า และพระองค์ทรงเปนธรรมเหนือสิ่งอื่นใด บนโลกนี้ไม่มีหรอกความยุติธรรมจริงๆ กฎหมายที่มนุษย์ร่างขึ้นก็ไม่ยุติธรรม100% แต่พระเจ้าได้เตรียมโลกหน้าแล้วสำหรับผลตอบแทนที่ยุติธรรมอย่างแท้จริง แม้ผลบุญหรือผลบาปเล็กกว่าอะตอม ทั้งหมดก็จะถุกชำระอย่างครบถ้วน
นักคณิตศาสตร์สามารถบอกได้ว่าคณิตศาสตร์คือ พระเจ้าเนื่องจากทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างเป็นระบบเป็นระเบียบที่ไม่เหลือความไร้ระเบียบเหลืออยู่เลยที่เป็นไปตามหลักการคิดคำนวน โดยข้อมูลที่บอกว่า กฏชุดหนึ่งสำหรับอะตอมขนาดเล็กและอีกชุดหนึ่งสำหรับวัตถุขนาดยักษ์เช่น ดวงดาว กาแลคซี่ แต่บอกว่า คณิตศาสตร์ของทั้งสองชุดนี้ก็ไม่เข้ากันเลย นั่นก็เป็นเพราะการนำเอาชุดข้อมูลที่มีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงมาคิดวิเคราะห์บนพื้นฐานเดียวกันที่ในระดับมหภาคคิดว่า สามารถให้คำตอบสุดท้ายที่เข้ากันได้ แต่ผลออกมากลับไม่ได้ เหตุผลง่ายๆในระบบควอนตัมสองระบบ มหภาคและจุลภาคจะมีพื้นฐานการคิดวิเคราะห์พินิจพิจารณาและทำการทดลองเหมือนกัน แต่ใช้วิธีคิดวิธีรู้สึกและลงมือทำการทดลองที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงหรือตรงกันข้ามกัน พูดง่ายๆคือ ไม่ได้คิดวิเคราะห์บนพื้นฐานเดียวกัน ยกตัวอย่างง่ายๆเช่น เจ้านายกับลูกน้อง ที่ด้านหนึ่งมีการทำงานร่วมกัน แต่อีกด้านหนึ่งมีการทำงานที่แตกต่างกัน การคิดคำนวนก็เช่นเดียวกัน
โลกที่ทุกคนคิดและเข้าใจว่า มีความยุ่งเหยิงไร้ระเบียบ จริงๆแล้วมีความเป็นระเบียบที่ไม่เหลือความไร้ระเบียบเหลืออยู่เลย เพียงแค่ทุกคนปรับเปลี่ยนวิธีคิด รู้สึกและลงมือทำที่รวมเอาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์เข้าไปทำงานร่วมกับระบบการเรียนรู้และทำความเข้าใจแบบเก่า เช่นเดียวกันกับที่นักคณิตศาสตร์ก็ต้องคิดคำนวณบนพื้นฐานที่แตกต่างกัน
ทุกวันนี้ผมเริ่มเชื่อเรื่องการมีอยู่ของผู้สร้าง ผู้ที่อยู่เบื้องหลังของทุกอย่าง ผมเชื่อว่าทุกอย่างมีเหตผลเเละมีเเบบเเผนที่ชัดเจน" มนุษย์ยังเด็กนักสำหรับจักรวาลอันกว้างใหญ่"
@@double_st3892 ถ้าหากมองจากตัวเราออกไปข้างนอกผ่านสถานะมหภาค-จุลภาคเราจะคิดและเข้าใจว่า เราคือคนที่ควบคุมและบงการทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเรา แต่ถ้าหากเรามองตัวเราเข้าไปข้างในผ่านสถานะจุลภาค-มหภาคหรือการมีอยู่ของอะตอม อนุภาคและคลื่นเราจะรู้ว่าเราไม่ใช่คนที่คอยควบคุมและบงการทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเรา ซึ่งความหมายของการเป็นผู้ควบคุมและถูกควบคุมนี้ไม่ได้เกิดขึ้นภายใต้ Standard model! ที่เป็นแค่ Symmetry Systems ที่อธิบายได้สามแรง ไม่รวมแรงโน้มถ่วง แต่ยังเกิดขึ้นภายใต้สมมาตรยิ่งยวด Supersymmetry ที่รวมแรงโน้มถ่วงและผลของประวัติศาสตร์เข้าไว้อีกด้วย พูดง่ายๆคือ นอกจากเราจะถูกควบคุมและบงการโดยโลกและจักรวาลแล้ว โลกและจักรวาลก็ถูกควบคุมและบงการโดยเราด้วยเช่นเดียวกัน ทุกคนคงเคยได้ยินคำว่า The Butterfly Effect และนักสัมพัทธนิยมที่ชื่อ จอห์น อาร์ชิบัลด์ วีเลอร์ (John Archibald Wheeler) ที่กล่าวว่า ปริภูมิ-เวลาบอกสสารว่าจะเคลื่อนที่อย่างไร สสารบอกปริภูมิ-เวลาว่าจะโค้งอย่างไร
พระเจ้า อัลลอฮฺ์ เอโละ อาโละ อาเละ ยาเว GOD.คือ ผู้สร้างอย่างแท้จริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น
คณิตศาสตร์แห่งพระเจ้า
วิทยาศาสตร์แห่งพระเจ้า
เคมีศาสตร์แห่งพระเจ้า
การแพทย์ศาสตร์แห่งพระเจ้า
ทุกศาสตร์แห่งพระเจ้า
มีหมดทุกศาสตร์ทุกมิติทุกแกนมิติแห่งพระเจ้า
ต้องมีผู้สร้างอยู่แล้ว ไม่เช่นนั้นทุกอย่างจะเกิดมาจากอะไร 😅😅 เรารู้แค่ว่ามีผู้สร้างเรา แต่เขาจะไม่สร้างระบบสมองให้รู้อย่างเด็ดขาดว่าเขาคือใคร ทำไม อย่างไร เราต้องเรียนรู้เอง 😅
ส่วนตัวเชื่อว่า พระเจ้าคือจุดกำเนิดของจักรวาลทั้งระบบ และทุกกฏค่ะ ยิ่งเราตื่นรู้มากเท่าไหร่ เรายิ่งใกล้ชิดพระเจ้ามากขึ้น และเป็นอิสระจากระบ Matrix ได้ในที่สุดค่ะ ขอบคุณสำหรับคลิปที่ดีมากนะคะ 💝💐
😅วิสัยของพุทธ วิสัยของผู้ทรงฌาน วิสัยของโลก วิสัยของกรรม มันเป็นเรื่องอจิณไตย คนมีอายุแค่ 100ปีไม่เกิดประโยชน์ที่จะไปใส่ใจ
Thank ❤❤️❤️🙏😊. ขอบคุณข้อมูลนะครับ ชอบมากเลยครับ😀
มีแต่คน อ้าง พระเจ้าอยู่ ในศาสดา ของ ศาสนา ในเรื่องวิท เค้าก็บอกว่ามันไม่ใช่ เค้าบอกถึงพระผู้สร้าง นั่น ก็คือ สิ่งที่มาก่อน หน้านั้น ก่อนเวลา สิ่งที่มา ก่อนเลข0 สิ่งนั้นมันไม่มีค่า แต่มีความหมาย บางที ก็มาในโลก เพื่อศึกษา มาเพื่อ ทดลองเรา สำหรับผม ไม่เชื่อ เรื่องความบังเอิญ ของทุกๆสิ่งมาจากบิกแบง ผมว่าก่อน หน้านั้น นั้น มันต้องมีอะไรสักอย่าง
ความเชื่อเรื่องพระเจ้า กับความเป็นจริง อะไรควรเชื่ออะไรไม่ควรเชื่อ..เช่นไฟมีลักษณะร้อนเผาไหม้ (จริง)กับความเชื่อเรื่องพระเจ้าว่าพระเจ้า มีจริง(ทั้งที่ไม่เห็นมีแต่เรื่องเล่า)
สิ่งใหนที่ท่านเชื่อความจริงหรือ ท่านเชื่อว่ามีพระเจ้าจริง หรือว่ามีความร้อนจริง เชื่ออย่างไรถูกอย่างไรผิด อะไรควรเชื่อไม่ควรเชื่อ..พิจารณาด้วยเหตุผล..ทุกอย่างเป็นเพียงธาตุ ที่เกิดขึ้นตามเหตุปัจจัย..
โอ้พระเจ้า มนุษยต่างดาว พระเจ้าของข้า..........
เคยอ่านนิยายวิทยาศาสตร์เรื่องหนึ่งเนื้อเรื่องคือ มีเชื้อราอาศัยอยู่ที่ง่ามเท้ามนุษย์ ที่นั่นคิอโลกคือทุกสิ่งทุกอย่าง เวลาผ่านไปเนิ่นนานจนไม่อาจนับได้ในมาตรเวลาของเชื้อรา จนกระทั่งวันหนึ่งมนุษย์รู้สึกคันที่ง่ามเท้าจึงลงมือเกา ทันทีทันใดโลกทั้งใบและทุดสิ่งทุกอย่างพังทลายสูญหายในพริบตา
พระเจ้าที่แท้จริงของจักรวาล กับ พระเจ้าตามความเข้าใจของมนุษย์ มันต่างกันลิบลับเลยนะครับ.. เพราะอวิชชาของมนุษย์ทำให้อุปทานยึดถือแบบผิดๆ
ทุกอย่างคือความบังเอิญ(ทางธรรมชาติสร้างสรรค์ขึ้นมา)เเล้วสิ่งมีชีวิตก็เกิดวิวัฒนาการของมันเองเพื่อความอยู่รอด
คำว่าบังเอิญ มันมากเกินไปสำหรับโลกใบนี้ ถ้าคุณรู้จักคำนี้จริงๆ ทางคณิตศาตร์ คุณจะรู้ว่าความบังเอิญที่ไม่มีทางเป็นไปได้อย่างถึงที่สุด
อันนี้รับมาจากคำสอนของทฤษฎีวิวัตินาการทั้งต้นเลยแบบไม่ใช้ตรรกะหรือวิจารญานในการไตร่ตรองเลยสักกะนิด😂
@@excita1สงสัยเขาคงคิดว่าบังเอิญเหมือนกับไปเจอคนรุ้จักหน้าปากซอยล่ะมั้ง หรืออย่างมากถุกล็อตตอรี่รางวัลที่1สองงวดติด..แต่ความเป็นจริงมันต่างมหาศาญมากในเชิงคณิตศาสตร์ อะมีบ้าขนอะตอมหมดทั้งกาเเล็คซีนี้ข้ามระยะทางหนึ่งแสนปีแสงไปอีกฟ้ากก็ไม่อาจจะเอามาเปรียบกันได้เลย สำหรับ1เซลล์ที่เกิดขึ้น
พระเจ้าสร้างคนมาจากดิน เชื่ออันนี้ดีกว่า
ปิรามิด ฐานล่างเป็นสีเหลี่ยมเท่ากับแรงทั้งสีหรือไม่ สี่ด้านข้าง เป็นสามเหลี่ยม ทุกด้านข้างไปรวมที่มุม ด้านข้างดูดีมีการแบ่งกันหรืออาจหมายถึงมิติที่คู่กัน หรือแค่วามบังเอิญ หรือมีใครชี้ทาง ไม่น่าเชื้อว่ามนุษย์พันปีจะสร้างได้โดยไม่มีใครชี้แนะ
ใช่ ไม่ว่าจะเป็นปรากฏการณ์อะไร มันดันตรงกับคณิตศาสตร์ทั้งหมดเลย แปลกมาก แต่มีเรื่อง ไบโอ เคมี ฟิสิกส์ 3สาขานี้ ดันรวมกันสร้างยานอวกาศ หรือพลังงานแบบโนลิมิตด้วย คร๊อบเซอเคิ้ล ฟรีเควนซี่ไซเมสติกด้วย สมาธิ ออร่า ทั้งหมดนี้ ดันตรงคณิตศาสตร์เฉยเลย แปลกมาก แถมแปลกอีกอย่างนึงคือ หากจะหาคำตอบในกาแลคซี่ ให้ค้นหาในตัวมนุษย์เนี่ยแหละ ส่วนประกอบต่างๆกับตรงกับภาพอวัยวะในตัวมนุษย์เฉยเลย และข้อต่อยานอวกาศ กับตรง ข้อต่อของสัตว์ต่างๆ และทุกคนหรือสัตว์จะได้อยู่ต่อก็คือธรรมชาติจะต้องอยู่ด้วย และนั่น นักพฤกษศาสตร์จะรู้ว่า ต้นไม้แต่ละชนิด ต้องพึ่งและเอื้อ กับอีกต้นนึงเสมอ นั่นแปลว่า พระเจ้าสร้างมาพึ่งพากันอย่างลึกซึ้งมาก มันแปลกมาก ที่นักวิทยาศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ เค้าเชื่อในพระเจ้าทั้งนั้น ยิ่งค้นหาคำตอบ กลับยิ่งเชื่อในพระเจ้า มันน่าแปลกมากๆ ฉันเองก็เชื่อในเรื่องว่า โลกนี้ ถูกสร้างขึ้นโดยพระเจ้า เป็นเพราะฉันปลูกต้นไม้เป็นประจำ จึงเริ่มรู้เรื่องแบบนี้ แต่ฉันเลือกจะละกิเลส เพื่อละจากโลกนี้แล้ว เพราะเหนื่อยมาก
แล้วละได้รึยังล่ะกิเลสน่ะ
อายาน
อานาน
อายา
อาญา
รู้สึกว่าซาวประกอบแบบเก่ามันฟังนุ่มกว่าอะครับ แบบนี้พูดจบซาวขึ้นผมอยากลุกมาเต้น
ไม่น่าจะบังเอิญ เราถูกสร้างขึ้นมา... 1000%
หลับสบายเลยครับ 😂
พระเจ้าทรงเป็นนักฟิสิกผู้ยิ่งใหญ่ครับ ท่านอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของดาวเหนีอจร้าแต่นอกเอกภพนะครับ
CZcams นี่แหละคือเครื่องย้อนเวลา สมมติเจ้าของช่องอัดคลิปไว้1ปีที่แล้ว พอเราเข้าไปเปิดคลิปที่เจ้าของช่องทำไว้ เท่ากับว่าเราสามารถย้อนเวลาไปได้1ปี เหมือนกับว่าเราย้อนเวลาไปนั่งอยู่ในช่วงเวลาที่เจ้าของทำคลิป
ส่วนผมเรียกซอฟแวร์บันทึกเส้นเวลา
วัฏจักรเผ่าพันธุ์มนุษย์สั้นยิ่งนัก สั้นจนไม่สามารถรับรู้การเปลี่ยนแปลงระดับมโหฬารของจักรวาลได้
มันก็คือกฎเกณฑ์ ที่มนุษย์สร้างขึ้นเอง คิดเอง เออ เอง ทั้งนั้น
1+1 ทำไมต้องเป็น 2
แล้ว 1 คืออะไร 2 คืออะไร จักรวาลคืออะไร ดวงดาวคืออะไร
สมมุติขึ้นมาเพื่อเขียนกฎหมาย แม้จะพิสูจน์ได้ ก็แค่พิสูจน์ตัวเอง
เหนือนรถแต่ละ รุ่น มีความเร็ว ของไมล์ หน้าจอ ที่ 70 km/h ก็มั่นใจ ว่า ของตัวเองถูกต้องแชะแม่นย้ำ เพราะคิดเอง
รถ มีหลายคน ถ้าเอามาเปรียบเทียบกัน
ก็รู้ว่าคันใหนเร็วกว่า แต่ก็ยังไม่รู่ความเร็วที่แน่นอน เพราะ มันไม่มี อยู่จริง
คนชอบเถียงกันว่าพระเจ้ามีจริงมั้ย ถ้าอยากรู้ ผมว่าเราต้องทำสิ่งต่อไปนี้
1. เดินทางให้เร็วกว่าแสง
2. พิสูจน์หน้าตาของแรงโน้มถ่วงหรือเอาชนะแรงโน้มถ่วง (ควบคุมแรงโน้มถ่วงได้)
ถ้าทำทั้ง 2 อย่างนี้ได้ เราจะรู้ความลับทั้งหมดของจักรวาล
ถ้ายังทำไม่ได้ อะไรที่เกิดขอบเขตของเทคโนโลยีปัจจุบัน
มันก็เป็นเพียงแค่การส่องกล้อง ทดลองแบบจำลอง และสังเคราะห์ข้อมูล
แล้วนำมาสร้างทฤษฎี แล้วเผยแพร่ให้คนรู้ เพื่อจะให้นักวิทยาศาสตร์ยอมรับ
ไม่เคยมีใครไปยืนตรงหน้ามัน แล้วเห็นด้วยตาตัวเองทั้งนั้น
เอาแค่เรื่องหลุมดำ เราก็แค่ส่องกล้อง นั่นแล่ะที่เราทำได้
ไม่มีใครเคยขับยานไปที่หลุมดำ ส่งเครื่องมือไปในหลุมดำ
เก็บข้อมูล แล้วกลับเอาข้อมูลออกมา (ยกตัวอย่างให้เห็น)
สุดท้าย ก็ต้องทำ 2 อย่างข้างต้นให้สำเร็จ แล้วจะได้พบเจอความจริงของจักรวาล
ฝึกตัวเองพึ่งตนเองก็สามารถไปรู้ได้ ฝึกอานาปานสติให้ถึงฌานสี่บ่อยๆ เกิดบุพเพนิวาสานุสติ ญานรู้อ อดีต ปัจจุบันขณะ อนาคต เกิดจุตูปปาตญาน รู้การจุติการเกิดของสัตว์ไปยังมิติอื่นๆด้วยผลกรรมอะไร หรือฝึกให้ได้อภิญญา6 วิชา3 การใช้ฤทธิ์ทางใจท่องไปในจักรวาลก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร ไปพิสูจน์ว่า โลกอื่นมีมนุษย์ต่างดาวจำพวกนี้ที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้จริงไหม ดูถึงว่าจักรวาลรวมตัวกันเป็นขนาดต่างๆ เป็นจักรวาลอย่างเล็ก จนถึงอนันตจักรวาล มันเป็นอย่างที่พระพุทธเจ้าเห็นไหม สัตว์ที่ตายแล้วไปเกิดสวรรค์ไม่ต้องรอพระเจ้าตัดสินดูสิพระพุทธเจ้าตรัสถูกไหม
จากพระไตรปิฎก พระพุทธเจ้ากล่าวว่า แสงจากดวงอาทิตย์ดวงนี้ไปหมดลงที่ใด ห่างออกไปอีกพันเท่าจะมีอีกโลกหนึ่ง
ทำไมกฏระดับอะตอมกับกฏระดับดวงดาวถึงใช้ด้วยกันไม่ได้ เป็นไปได้มั้ยว่าจริงๆแล้วเป็นเพราะกฏทางฟิสิกส์เป็นคนละกฏ พูดง่ายๆคือมันเป็นคนละจักรวาลหรือคนละมิตินั่นเอง จึงไม่สามารถเอามารวมกันเป็นหนึ่งเดียวได้
ธรรมชาติไง
ทำไมไฟถึงไม่เย็น
ฟังแล้ว มันน่ากลัว.ลึกลับ สุดๆของการจินตนาการที่มนุษษ์จะนึกออกได้
ถ้าพระเจ้าสร้าง ทำไมไม่สร้างให้ดีๆ ตอนนี้มีแต่ความวุ้นวาย 😅😅😅
ถ้าใครรู้จักหรือเข้าใจ4แรง พื่นฐานเข้าใจแบบจริงๆ พวกคุณจะรู้ว่า มันเกินกว่าคำว่าบังเอิญ
5:14 แรงนิวเคลียร์อย่างอ่อน กับ แรงนิวเคลียร์อย่างเข้มครับ
ต้องมีระบบถึงมีการทำงาน คณิตศาสตร์ mหรือภาษาใดใด มันคือการศึกษาพื้นฐาน เพื่อหากฎสากล
น่าสนใจครับ😊
🇰🇭 ผู้สร้าง😉🥰
ฟังตั้งนานนึกว่าจะมีอะไรใหม่จริงๆ สุดท้ายก้อ "อาจจะมี" 😂😂
ขอบคุณสำหรับคอนเท้นดีๆค่ะ🩷🩷🩷
พระเจ้าสร้างจักรวาลไม่แปลก แต่แปลกที่ใครสร้างพระเจ้า
ถ้าไม่มีมนุษย์ ก็ไม่มีพระเจ้า 🎉
เคยไหม ความรู้สึก บางเวลาเหมือนมีใครจ้องมองเราอยู่ แต่ดูรอบๆตัวก็ไม่เห็นใคร
มันเป็นกลไกที่ก่อตัวขึ้นเองจากกฎพื้นฐาน ในรูปแบบของ ผลลงตัวบั้นปลายขององค์รวม
ถ้าจะบอกว่า.มนุษย์พยายามมาแล้วตั้งแต่ในอดีตกาลคนแล้วคนเล่ายุคแล้วยุคเล่า.ที่พยายามในเรื่องเหล่านี้สุแท้ายก็ไม่รู้อยู่ดี.
กระเบน/คอด/เฮลิค/จิ๊ป_ตั้งที่สงครามครั้ง๑ ควอน แชเลนยาน
เราอยู่ในโลกเสมือนครับ
พระเจ้าสร้างมนุษย์
หรือ มนุษย์สร้างพระเจ้า
เขมรคือสิ่งที่พระเจ้าทำหลุด QC
เราเกิดมาก็ตายอีกไม่นาน และเรารู้ดีว่าทุกสิ่งเริ่มจากศูนย์
จักรวาลเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติไม่มีใครสร้างมันขึ้นมา ทุกสรรพสิ่งมีช่วงเวลาของมันเราไม่รู้ความสัมพันธ์ของพวกมันได้ทั้งหมด อวกาศ เวลา สสาร และ พลังงาน จากสิ่งที่เล็กที่สุดแต่ไม่ศูนย์ ไปสู่สิ่งที่ใหญ่ที่สุดแต่มีที่ใหญ่กว่าอีก มันเข้าใจค่อนข้างยากทั้งๆที่พวกมันประกอบขึ้นมาเป็นตัวเราแต่เรารู้ เกี่ยวกับพวกมันน้อยมาก ฟิสิกส์ควอนตัม สอนให้เรารู้ว่าทุกสิ่งที่เราคิดว่ามันมีอยู่จริง แท้จริงแล้วมันไม่ได้มีอยู่จริง
เกิดจากอะไร 😅
ควอนตัมเกิดจากอะไร ?
ใครสร้างโลก
ใครสร้างจักรวาล
เรามาจากไหน
ถ้าเป็นศาสนาคริสต์และศาสนาอิสลาม
คำตอบคือพระเจ้า.
ถ้าสำหรับพระพุทธศาสนา
คำตอบคือ เพราะความไม่รู้ไง
ถ้ารู้ก็ไม่เกิดจริงไหม
เป็นอรหันตผลในปัจจุบัน
หรือรู้แจ้งนั่นเอง😇
ความไม่รู้นั้นกล่าวเฉพาะสัตว์ที่เวียนว่ายตายเกิด ส่วนการกำเนิดและสิ้นสุดของจักรวาลและกระบวนการเกิดขึ้นของจักรวาลนั้น พระพุทธเจ้ามีกล่าวไว้ครับ กระบวนการนี้ หาเบื้องต้นไม่ได้ และที่สุดไม่ได้ นี้คือ ระบบสังขตธรรมทั้งหมด
บล๊ะเจ้ากำเนิดทุกสิ่งอย่าง เขาต้องอยู่เหนือกฏฟิสิกสินะ 😁
คงเหนือมากๆ เลยแหละ ☺️ ไม่งั้นผู้คนคงจะหาเขาเจอแล้ว
พระเจ้าเกิดจากจินตนาการของมนุษย์😁
พระเจ้า ≠ ผู้สร้าง
ต้องมีกฏเกณฑ์หรือกฎระเบียบอะไรบ้างอย่าง ถึงมีจักรวาล แล้วใครเป็นคนสร้างกฏเกณฑ์หรือกฏระเบียบนั้น สิ่งนั้นอาจเรียกว่า พระเจ้า ได้มั้ง 555+
ลึกลับจินตนาการไม่ออกเลยครับ
ท้ายที่สุดมนุษย์ก็หนีพระเจ้าไม่ได้
สุดท้ายมนุษย์เป็นผู้สร้างพระเจ้า พระเจ้าสร้างมาจากคอมพิวเตอร์ อันนี้ลงตัวอย่างงดงามที่สุด
@@luchailing661 แล้วจะได้รู้
การศึกษาไม่ได้ช่วยอะไรเลย
พระเจ้าอาจจะเป็นเด็กกะโปกคนนึง ที่เล่นเกมส์ cim city
คนพยายามคิดตัวเลขทางคณิตศาสตร์ มาอธิบายธรรมชาติ ไม่มีพระเจ้าถ้ามีตัวจริง คงไม่มีคนสบถ Holy sh..t....🎉😂
มนุษย์.....คือ..ผู้สร้างพระเจ้าขึ้น..เพื่อเป็นคำตอบสำหรับสิ่งที่มนุษย์ไม่สามารถหาคำตอบได้......+-&_?!;:'"*
คำตอบนี้น่าสนใจครับ แต่ติดตรงที่มันจะบังเอิญเกินไปรึป่าว ที่มีเราในดาวเคราะห์ดวงนี้
อย่าลืมเข้าถึงพระเจ้าทุกต้นเดือนและกลางเดือนกันนะครับ
ต้องเลือก ระหว่าง "ศรัทธาในพระเจ้า" กับ "ศรัทธาในความบังเอิญ" เพราะคิดยังไงก็มีแค่ 2 ทางนี้เท่านั้น ไม่มีทางที่ 3 แล้ว
ไม่คำว่าบังเอิญหรอกครับ โลกเราจะวิเศษขนาดนั้นหรอที่พร้อมให้สิ่งมีชีวิตดำรงอยู่ได้พร้อมขนาดนี้ มันต้องมีคนสร้างเเน่เเน่
@@NOTDEKHELLใช่ เราถูกสร้าง ทุกอย่างถูกสร้างขึ้น วิทยาศาสตร์และศาสตร์ลึกลับ ทุกอย่างเกี่ยวข้องกันทั้งหมด จิตวิญญาณและวิทยาศาสตร์ก็เช่นกัน ไม่มีสิ่งลี้ลับ มีแต่สิ่งที่คนไม่รู้แล้วคิดไปต่างๆนาๆ ทุกอย่างคือพลังงานและมิติ มองไม่เห็น=พลังงานไม่เท่ากัน ทุกอย่างมีพลังงาน วิทยาศาสตร์พิสูจน์ได้หลายอย่าง เช่น ว่าจิต เป็นพลังงาน และมีแรงดึงดูด
@@369_S แล้วพลังงานเกิดจากอะไร หรือก่อนที่จะมีพลังงานมันมีอะไร อย่าตอบว่าไม่รู้นะครับถ้างั้น
@@NOTDEKHELLจริงถ้าคิดตามหลักวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์จริงๆจะรู้เลยว่าถ้าใช้คำว่าบังเอิญจักรวาลจะไม่มีทางเกิดขึ้นได้เลย คำตอบจึงมีหนึ่งเดียวคือมีผู้สร้างที่ควบคุมทุกปัจจัยให้สมบูรณ์แบบ
@@369_S จะดึงดูดแต่สิ่งดีๆ ต้อ่งทำอย่างไร
แล้วใครสร้างพระเจ้าใครสร้างผู้สร้างจักรวาล
อ่านผิดอ่านถูก ก็ทำให้คนคิดตามงงมั่งรู้มั่งฟังไปก็เพลินดี
พ่อแม่เราและตัวเราเองอยู่โลกเดียวกันหรือป่าวเพราะ เราเองหรือพ่อแม่เราก็รู้จักคนในหมู่บ้านเป็นบาวคนหรือรู้จักทางสัญจรในหมู่บ้านไม่เหมือนกันทั้งที่เราอย๋บ้านเดียวกันหมู่บ้านเดียวกัน.บางคนเราไม่เคยเห็นหน้าเลยใด้ยินแต่ชื่อ.หรือเราต่างมีโลกส่วนตัวของใครของมัน
มันจะมีอยู่ลัทธินึงที่พยายามโยงทุกอย่างที่อยู่ในคัมภีร์ตัวเองให้ตรงกับวิทยาศาสตร์😂
อย่างว่าแหละครับ เพราะวิทยาศาสตร์คือผลลัพท์จากการทดลอง ที่ทำซ้ำต้องได้ผลลัพท์เดิม หรือคุณเชื่อจริงๆว่า เกิดมาแล้วเดินบนดอกบัวได้เลย🤣