ดูก่อนฟอกเกียร์ ⚙ เสพข้อมูลก่อนตัดสินใจ❓ฟอกไม่ฟอกต่างกันตรงไหน คลิปนี้รู้กัน ⚡
Vložit
- čas přidán 1. 09. 2023
- ดูก่อนฟอกเกียร์ ⚙ เสพข้อมูลก่อนตัดสินใจ❓ฟอกไม่ฟอกต่างกันตรงไหน คลิปนี้รู้กัน ⚡
ทดสอบให้ดู ดูจบเลือกได้เเน่นอน 🛢 คุณอยู่ทีมไหน ฟอกไม่ฟอกตัดสินใจได้เอง
ดูให้จบรับรองกระจ่าง ทดสอบเเบบเข้าใจง่าย ตามสไตล์ SIAM GURU ✔️
#siammotorsport #สยามมอเตอร์สปอร์ต #FLEX #flex #ฟอกเกียร์ #ถ่ายน้ำมันเกียร์ #ฟลัชชิ่งเกียร์ #ฟลัชชิ่งน้ำมันเกียร์ #น้ำมันเกียร์ #เกียร์ออโต้ #เกียร์ออโต้ซิ่ง #เครื่องฟอกเกียร์ #เครื่องฟลัชเกียร์ #tranmissionoil #atf #cvtf #เกียร์auto #cvt #honda #toyota #ford #isuzu - Auta a dopravní prostředky
จะฟลัชหรือไม่ฟลัช ก็พังอยู่ดี ทุกสิ่งอย่างมีราคาที่ต้องจ่าย ส่วนตัวคิดว่าเปลี่ยนถ่ายตามรอบ ก็เพียงพอแล้ว เก็บเงินไว้ ออกรถใหม่ตอนที่คันเก่ามันเสื่อมสภาพดีกว่า การยึดติดกับวัตถุมันเป็นความทุกข์
ชอบความ motion graphic โดยการใช้ลูกเต๋า 55+ ครีเอทมากครับ ประหยัด เร็ว นำเสนอได้ชัดเจนเหมือนกัน
ช่องนี้คลิปมีสาระมาก ๆ เป็นมิตรกับผู้ใช้รถจริง ๆ แต่ไม่เป็นมิตรกับช่าง 😂
ข้อดีมันก็มีอยู่ ได้แน่นอนคือสะอาดกว่าถ่ายปกติ แต่นานๆครั้ง ไม่จำเป็นต้องบ่อย หลักๆมันอยู่ที่การใช้รถแต่ละคน และความพอใจ ที่สำคัญแบรนด์ที่ใช้ทำVDOประกอบนั้น แบรนด์ระดับโลกเลย ลองบอกของเขาใช้ไม่เห็นผลหรือไม่ดีดิ...เฟคถึงกับหมดดากเลยนะนั่น
@@Shop_44 ใช่ครับ มันดีกว่าถ่ายปกติ แต่ราคามันสูงกว่าถ่ายปกติมาก ทั้งน้ำมันที่ใช้ก็ใช้เยอะมาก เลยทำให้อู่ซ่อมรถ ไม่ค่อยจะชอบเท่าไหร่
😅😅
55555 ความจริงก็คือความจริง
ผมเคยทำงานอยู่ที่ศูนย์มาก่อน ช่างที่มีประสบการณ์เขาเคยบอกว่าถ้าถ่ายน้ำมันเกียร์ตามที่โรงงานระบุเอาไว้เลยคือ3-5ครั้ง แต่เขาไม่นิยมทำเพราะน้ำมันเกียร์มันแพง
เกียร์ออโต้ มีสมองเกียร์ ฟอกพลาดสมองเกียร์พังศูนย์เป็นห่วง คนผลิตเครื่องฟอกเกียร์ต้องการขายของขายผลิตภัณฑ์ของเขา สรุปผมเปลี่ยนถ่ายเฉยๆทำโดยช่างที่มีประสบการณ์ใต้ต้นมะม่วงก็ถ่ายได้ไม่ยุ่งยากเลยลูกเอ้ย BENZ กับ BMW นะจ้ะ ขอบอก
ได้ความรู้ และ ช้อเท็จจริงมากๆขอบคุณครับ
ชอบการนำเสนอข้อมูลเข้าใจง่าย มีการสาธิตให้ดูด้วย/ขอบคุณครับ😊
ในอเมกาเรื่องนี้ถกเถียงกันเยอะ ราคาต่างกันประมาณ$100 (flush$250+ change$150+) ร้านflush โดนฟ้องกันเยอะเพราะพอflushแล้วเครื่องมีปัญหา แค่เปลี่ยนน่ะพอแล้วแต่เปลี่ยนทุกห้าหมื่นกิโล ก่อนเปลี่ยนขับไปก่อนครึ่งชั่วโมงบนทางด่วน
ขอบคุณมากๆครับ กับสาระความรู้ดีๆกับการดูแลรถครับ
เยี่ยมมากครับ ขอบคุณครับสิ่งที่ดีดีมีประโยชน์
รักช่องนี้จริงๆ ทดลอง ให้เห็นๆเลย
ชอบเทคนิคการอธิบายด้วยลูกเต๋า..มันเข้าใจโคตรง่าย ขอบคุณความรู้ครับ
คุณทำคลิปได้เยี่ยมยุทธ์จริงๆ
👍👍👍
ขอบคุณข้อมูลที่นำเสนอและชวนติดตาม
ผมมองว่าการฟลัชชิ่งก็เหมือนกับการฟอกไตนั่นแหละครับ แต่ต้องถ่ายน้ำมันเก่าออกด้วยถึงจะดี
ความรู้ทั้งนั้นขอบคุณครับ
ขอบคุณ ความรู้ดีๆครับ
ผมขอเสนอมุมมองของวิศวกรนะครับ
“แมวสีอะไรก็ช่างมัน ถ้ามันยังจับหนูในบ้านได้ ก็เลี้ยงไว้ได้”
น้ำมันเกียร์มีหน้าที่ เคลือบผิวกลไก ที่ต้องทำงานเสียดสีกัน หล่อลื่น ระบายความร้อน
สำหรับวงรอบการใช้งานเมื่อมีการถ่ายน้ำมันใหม่เข้าไปปนกับน้ำมันเก่าที่ค้างอยู่เกือบครึ่ง
เชื่อเถอะครับว่า การทำหน้าที่ของมันยังสามารถทำได้อย่างเดิม ถึงแม้สีมันจะคล้ำลงตามสภาพ แต่สำหรับกลไก ที่มีการสึกหรอ ส่วนที่สึกหรอจะเป็นฝุ่นแขวนลอยอยู่กับน้ำมันเกียร์เมื่อน้ำมันเกียร์วนลงมาถึงก้นอ่าง ก็จะพาส่วนที่สึกหรอลงมาด้วยและจะถูกดูดด้วยนีอตแม่เหล็กไว้ พอถึงตอนที่จะต้องถ่ายน้ำมันเกียร์ ช่างก็จะเคลียร์เศษโลหะที่ติดมากับหัวน๊อตทิ้งไป นี่คือความสำคัญของการถ่ายน้ำมันอีกอย่างนึง จุดประสงค์ของการถ่ายน้ำมันเกียร์คือ 1)เอาน้ำมันที่ปนเปื้อนส่วนสึกหรอออกมาเกินครึ่ง 2)ใส่น้ำมันสะอาดเข้าไปแทนที่ 3)เคลียร์เศษโลหะชิ้นที่ติดแม่เหล็กออก สำหรับน้ำมันเกียร์ที่อยู่ในห้องเกียร์(ใหม่+เก่า)คุณสมบัติไม่ 100% แต่ก็ไม่ได้สูญเสียคุณสมบัติ จนวิศวกรรับไม่ได้ พูดกันตามจริงเวลาขับรถ เราก็ไม่มีโอกาสได้เห็นสีของน้ำมันเกียร์กันอยู่แล้ว ยังจะไปกังวลกันไปทำไม
ช่องนี้สุดยอดครับ อยากให้ทำเรื่องกรอกแอร์ในรถว่าอะไหล่ศูนย์กับเทียบเคียงประสิทธิภาพต่างมากน้อยขนาดไหน ขอบคุณครับ
ขอบรายการพี่ครับ
ได้ความรู้เกี่ยวกับรถมากเบยครับ
ไลน์เลย
เข้าใจเปรียบเทียบด้วย ลูกเต๋า...ขอบคุณครับ
ชอบไอเดียการอธิบายโดยใช้ลูกเต๋า ทำให้คนไม่มีความรู้เรื่องรถเข้าใจง่ายดีครับ
สำหรับการถ่ายน้ำมัน ในความคิดคือหากถ่ายก่อนเวลาหรือ ไวกว่าเดิมนั่นทำให้การถ่ายในรอบถัดไปจะมีของเก่าที่ใหม่ สะอาดดีกว่าครับ หากปกติกำหนดถ่ายที่6หมื่นโล แต่เราถ่ายก่อนที่4-5หมื่น เปอร์เซ็นต์ความสะอาด.ในน้ำมันเก่าจะมีมากกว่ากลุ่มที่ถ่ายตามปกติ และจะได้น้ำมันที่มีเปอร์เซ็นต์สะอาดกว่าอยู่แล้ว
เพราะงั้นการเปลี่ยนถ่ายก่อนปกติตามที่กำหนดไว้นิดหน่อย คือเปอร์เซ็นต์ความสะอาดเพิ่มขึ้น และไม่ต้องฟลัช จะดีกว่า
แต่อย่างว่า หากตามที่กำหนดนั้น ผมก้อคิดว่าก้อทำได้ปกตินะ เพียงแค่ ต้องมีช่างและน้ำมันที่ไว้ใจได้มากกว่า มันจะสบายใจที่สูด
หลายๆอย่างที่คิด อยากจะลอง ช่องนี้ทำให้หมด ขอบคุณมากๆครับ
ช่ิองนี้ให้สาระดีมากครับ เป็นความรู้เกี่ยวกับรถ แจ่มจริง
เยี่ยม.เห็นภาพเลย.ถ้าคิดว่าเปลือง.ก็ถ่ายให้เร็วขึ้น.ก็ได้นะครับ.
มีสาระ ข้อคิดดีๆ มีเหตุผล ยอดเยี่ยมครับ fc
ใด้ความรู้ เพิ่มขึ้นเลย ชอบๆ ติดตามมาหลายคลิป
ชอบมากครับทำคลิปแบบนี้ ความรู้ล้วนพิสูจน์ให้เห็นกันจะจะ ติดตามดูมานานแล้วครับ
สุดจริงครับ ช่องนี้😊
เป็นประโยชน์มากครับ ดูจบกดไลค์ กดติดตามทันทีเลยครับ. 😊
ชัดเจนเลยครับ..ขอบคุณครับดูคลิปแล้วบรรลุเลย😂😂😂
ผมดูหลายเที่ยวแล้ว รายการพี่โครตดีเลย หลายสิ่งที่ผมสงสัยพี่คลี่คลายด้วยวิธีที่เข้าใจง่ายจริงๆ ขอบคุณครับ
เป็นประโยชน์มากครับ กำลังศึกษาเลย
ดีพี่ มีประโยชน์มากครับ
หลายอย่างเกี่ยวกับรถ มันเป็นเรื่องธุรกิจความกลัวครับ กลัวพัง กลัวเสื่อม กลัวไม่ดี กลัวต่างๆนานา คนหัวใสมันเลยขายได้ด้วยการยัดความกลัวลงไปในหัวคนมีความรู้ด้านนี้น้อยๆ , ถ้ากลัวเกียร์พังมาก เอาค่าฟอก+ฟลัชเกียร์ สะสมไปซื้อเกียร์มือสองเก็บไว้ที่บ้านซักลูกเหอะ ให้ไปเดินดุเชยชมเลยให้สาแก่ใจทุกวัน แล้วเอาตังค์ที่เหลือถ่ายตามปกติ เชื่อเหอะกว่าจะพัง มันเปลี่ยนรถคันใหม่แล้ว
ถ้าว่าเกี่ยวกับธุรกิจ งั้นเวลาถ่ายน้ำมันเครื่องก็ถ่ายออกครึ่งเดียวอีกครึ่งก็ใส่ของใหม่ ประหยัดดีด้วย คนหัวใสจะได้ขายของได้น้อยลงด้วย
สะสมเงินซื้อเกียร์มือ2ตลกแล้วไปเอาเกียร์มือ2มาใส่เพื่อ
เปลี่ยนรอบการถ่ายน้ำมันเกียร์ให้ไวขึ้น จากเดิมถ้าคุ๋มือระบุ ทำทุก 4 หมื่นโล ขยับมาเป็น ทุก 2 หมื่นโล แบบนี้ เราก็จะได้น้ำมันเกียร์สดใหม่แทบตลอด หรือคนงบเยอะ เปลี่ยนถ่ายทุก 1 หมื่นโล พร้อมกันน้ำมันเครื่องเลยก็ได้ หลังจากการฟอกเกียร์มาใหม่ ๆ ก็จะได้น้ำมันสดใหม่อยู่ แล้วพอใช้งานไปได้สักพัก กว่าจะถึงรอบถ่ายน้ำมันเกียร์ น้ำมันก็เสื่อมสภาพอยู่ดี
ดีกว่าแน่นอน👍
ไม่จำเป็นต้องฟอก แต่ทำได้ก็ดี แต่ถ้าดี เปลี่ยนตามปกติให้บ่อยๆ หรือ บ่อยกว่ามาตราฐานก็ได้จะดีมาก
ตามความคิดผมนะ จากจุดที่อยู่ใกล้ชิดช่างและอยู่ในศูนย์บริการ ถ้าเปลี่ยนตาม ที่ระยะบอก มันพอเพียงแล้ว ไม่ต้องรอให้ดำขนาดนี้หรอกครับ ตามสเปคการแมนเทอร์แนนซ์ เขาคำนวนมาไว้แล้ว ถ้าคุณปล่อยให้ใช้ไปนานๆ จนมันมันเกียร์คุณเกินที่สเปคไว้ คุณอาจจะต้องถ่ายมันมากกว่า 1 ครั้งกว่ามันจะดีเท่าที่ควรจะเป็น ความรู้ช่องนี้ดีมากครับ เพราะพยายามแสดงในเวิสเคสที่มันหนักจริงจะได้เห็นภาพ น่าติดตาม แต่ถ้าคุณทำตามสเปคที่โรงงานบอก ไม่ต้องคำนึกถึงเรื่องพวกนี้เลยครับ แชร์ความคิดเห็นครับ
แต่ปัญหาคือบางยี่ห้อมันบอกในคู่มือว่าไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนสิครับ คงกะให้พังยกลูกใส่เลยทีเดียว
@@MrDD-ol9miประเทศมันใช้รถ5ปีแล้วทิ้งไงครับ แต่ประเทศเราไม่ใช่
ขอบใจมาก คลิปนี้ดี
ขอบคุณครับ ได้ความรู้ครับ
ถ้าอยากสะอาดก็ต้องถอดมาล้างทั้งหมด สุดยอดคับจารfcคับ
ชอบ และมีประโยชน์
ขอบคุณครับสำหรับคลิปนี้คับ
รายการนี้ดีมาก
ชอบช่องนี้👍
ได้รับความรู้มากครับ
ทำคลิปมาได้มีประโชยน์มากๆๆ เจาะลึกๆจริง อยากให้ทำเกี่ยวกับรถติดแก๊สด้วย
ชอบช่องนี้ครับ..
คุณคือฮีโร่คนขับรถจริงๆ
ทำให้ดู แบบนี้ชอบครับ สาระล้วนๆ
ดีมากครับ❤❤❤
สุดยอดเลยครับผม
ชอบช่องนี้จริงๆ ไม่ต้องวิชาการเยอะ ทำให้ดูกันไปเลย
เก่งกว่าผูผลิต ก็ช่างบ้านเราเนี่ยแหละ แฮร่
ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงครับ
มีสาระมากคับ ชอบๆ😊
สาระดีติดตามตลอด
ขอบคุณครับ จำแล้วจะนำไปใช้ :D
โคตรๆๆๆชัดเจน เข้าใจง่ายมาก
ถ้าใช้เครื่องฟลัชดูดน้ำเก่าออก ยิงน้ำมันใหม่เข้าแล้วติดเครื่องเดินเกียร์ แล้วดูดออก แล้วยิงน้ำมันใหม่เข้า อันนี้ช่างทำงานง่ายกว่า แต่ผมว่าที่สำคัญ คือ กรองเกียร์ต้องเปลี่ยน เมื่อถึงอายุการใช้งาน , น้ำมันเกียร์ต้องตรงตามสเปค, ช่างต้องมีเครื่องมือ obd วัดอุณหภูมน้ำมันเกียร์เพื่อจะดูการขยายตัวเมื่ออุณหภูมสูงขึ้น แล้วเปิดเช็คระดับน้ำมันเกียร์ อันนี้สำหรับรถรุ่นที่ เติมแล้วให้น้ำมันล้นออก ส่วนใหญ่เกียร์พังก็เพราะว่า ช่างไม่ได้เช็คระดับน้ำมันให้ถูกต้องเติมน้ำมันขาด เกียร์จะมีอาการรอรอบ หรือเข้าแล้วกระตุก ส่วนประเด็นเรื่อง ออยเกียร์ แยกเป็นออยลม อันนี้ดีครับผมเห็นด้วยครับ ออยน้ำของโรงงานวันดีคืนดีจะรั่ววันไหนก็ไม่รู้ทำรถเกียร์พังมาหลายคันแล้ว ออยแยกก็คุมอุณหภูม ดีกว่า ผมไม่ใช่อู่นะครับไม่ต้องถาม ผมแค่แชร์ประสบการณ์ เพราะรถผม มีทั้ง vw และ bmw เกียร์เคยพังครับ เลยต้องศึกษากับช่าง ส่วนเครื่องฟรัช น้ำมันเครื่องมีนะครับ ผมว่าสายดีเซล นานทำทีก็ช่วยล้างเอาที่มันตันๆในฟักบัวดูน้ำมันเครื่องได้พอสมควร อันนี้จากประสบการณ์ส่วนตัวครับ
เยี่ยมครับ
อยากให้ทดสอบสารฟื้นฟูสภาพพวกโอลิง-ซีลครับผม
บ้างทีศูนย์ก็ยังมั่วบอกว่าไม่ต้องเปลี่ยนนํ้ามันเกียร์ตลอดอายุการใช้งาน(คู่มือการใช้รถ) การฟอกเกียร์ถ้าเป็นช่างเฉพาะทางเข้าจะแนะนำก่อนฟอกเพราะรถที่อายุการใช้งานมากๆโอกาสพังจะสูงถ้ามาฟอก การที่ศูนย์ไม่ใช้เครื่องฟอกมีข้อคิดหลายอย่าง(ศูนย์ไม่ซ่อมเน้นเปลี่ยนเข้าใจตรงกันนะครับ)ดังนั้นศูนย์ถึงไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องพวกนี้ ไม่ว่าจะเครื่องยนต์หรือเกียร์ต้องการความสะอาดทั้งนั้น ถ้าเลือกได้ควรทำ
ใช่ครับ ศูนย์เน้นเปลี่ยน และที่บอกว่าไม่ต้องเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ตลอดอายุการใช้งานคืออิงจากคู่มือรถ(ในใจชั่วๆคือ อยากขายเกียร์ลูกใหม่แหละทำยอด) 😂
ดีมากครับ ชอบคระบ
อยากให้สยามกูรู ทำคลิปเกี่ยวกับ น้ำมันแกสโซฮอล 95 กับ แกสโซฮอล 97 ของบางจาก ว่ามีความแตกต่างกันขนาดไหนคับ
💓☀🌏ขอบคุณมากครับ🙏🙏🙏
ฟอกคือผ่านเครื่องกรองเอาน้ำมันเก่าไปวนเอาตะกอนในระบบออกมา เหมือนฟอกไต เอาตะกอนตามซอกมุมต่างๆ ในโซลินอย และปั๊ม ให้ออกมามากที่สุด เลยใช้เวลา30นาที
แล้วค่อยฟลัชเอาของใหม่เข้าไป รวมๆคือเพื่มขั้นตอนและได้ผลลัพธ์ที่สะอาดขึ้นกว่าฟลัชอีกนิดหน่อย ตามความสบายใจเจ้าของรถ แค่นั้น ส่วนร้อนต้องติดออยคูลเลอร์เพิ่มเอา
ฟังให้ถึง 9:35 ครับ
ในเกียร์มันมีแผ่นกรองอยู่แล้ว
@@thanakij2 ผมดูจบหมดครับไม่ได้ข้าม ในเกียร์มีกรองครับ ใครๆก็ทราบ ในบางรุ่นมีกรอง2ลูกด้วยนะครับ ที่อ่างกับที่ท่อขาเข้า
แต่การฟอกเกียร์ หลักการของร้านนั้นริเริ่มทำคือ การเอาน้ำมันเกียร์เก่าผ่านไส้กรองลูกใหญ่ๆ ที่เครื่องแล้วไหลกลับเข้าระบบไปใหม่ จนครบเวลานึง โดยที่รถต้องติดเครื่องเข้าเกียร์ จำลองว่ากำลังขับจริง ในความเร็วต่ำๆ เพื่อเอาน้ำมันเก่าที่กรองแล้วกลับไปล้างเอาสิ่งสกปรกตามซอกมุมต่างๆในท่อทางเดินน้ำมัน และตามโซลินอย หรือสมองเกียร์ เพื่อให้มันสะอาดที่สุดก่อนจะเปลี่ยนถ่าย เพราะถ้าเปลี่ยนถ่ายเลยในทันที เท่ากับมีโอกาสได้ล้างพวกนี้แค่รอบเดียว ในขั้นตอนของร้านคือใช้ไส้กรองใหม่ ใช้แล้วทิ้งเลย
แล้วจากนั้นเปลี่ยนถ่ายด้วยการฟลัชระบบด้วยของใหม่ หากมีการเปลี่ยนไส้กรองเกียร์ด้วยก็ทำไปเลยทีเดียว
ทีนี้ประเด็มมันมีอยู่ว่าไอขั้นตอนพวกนี้มันทำให้สะอาดขึ้นมากน้อยแค่ไหน ก็กลับไปดูในคลิปช่วงลูกเต๋าครับ มันก็คือการได้ลูกเต๋าแดงในรอบเดียวเลย แต่จ่ายค่าขั้นตอนแพงขึ้น
แต่หากเทียบกับการถ่ายแบบเปิดน้อตธรรมดาก็ทำได้ครับ ถ่ายทิ้งช่วงกันรอบละ 500โล หรือพันโล ติดๆกันสัก 2-3 รอบก็ได้ไกล้เคียง 100% แน่นอน แต่ใช้น้ำมันเยอะกว่า ในรถบางรุ่นน่ำมันเกียร์เฉพาะของรุ่นนั้นๆ ราคาไม่ถูกครับ แกลลอนนึง 2-3 พัน ทำแบบนี้ อาจจะเท่ากับจ่ายค่าฟลัช หรือฟอกด้วยครั้งเดียวก็จบ ไม่เสียเวลาถ่ายหลายๆรอบ
ความพอใจในความสดใหม่ ความสะอาดแต่ละคนไม่เท่ากัน ถ้าเขายินดีจ่ายก็เข้าใจได้ แต่มันไม่ได้หลอกลวงเพราะมันเห็นผลด้านความสะอาดจริง
ผมก็เคยทำทั้งหมดนะ เพราะรถผมเคยเกียร์ฟัง เลยลองหลายๆวิธี และปัจจุบันใช้ระบบถ่ายบ่อยขึ้นเอาเพราะน้ำมันเกียร์ของรุ่นผมมันไม่แพงแล้ว ณ ตอนนี้
ฟังไปที่ 9.35 เป็นต้นไปนะ เอาสีไม่เอาอะไรเลย เปลี่ยนนั้นแหละดีแล้ว กรองเขาก็มี ตะกอนเต็มอ่างเลยแม่เหล็กดูดไว้
ไม่รู้ว่าผมเมารึป่าว ทีแรกก็น้ำมันเกีย แต่ฟังไปบอกน้ำมันเครื่อง
@@yongyotsenarat ฟังแล้ว
เยี่ยม❤
ถ้างั้น สำคัญกว่าการฟอกเกียร์ คือ การเก็บตังไว้ ติดออยเกียร์และ.....เปลี่ยนกรองเกียร์....ตามระยะที่ควรเปลี่ยน อย่างผมได้รถมือสองมาเปลี่ยนกรองเกียร์ ถ่ายน้ำมันเกียร์แบบฟลัชทีเดียวนั่นแหละ แล้วที่เหลือ ถ่ายปกติ อีก1-1.5แสน ถึงจะเปิดอ่างเปลียนกรองอีกที
มีสาระมากครับผม
ผมไม่รู้ว่าซ่อมเกียร์แพงหรือเปล่านะ แต่ผมเคยยกเครื่อง มาแล้วเนื่องจากเครื่องหลวม รวมนู้นนี้หมดไป6-7หมื่น suzuki swift ทำเครื่องไปตอนเลขไมล์420,000 ปัจจุบัน 460,000 แล้วยังไม่เคยฟอกเกียร์ เพียงแต่ถ่ายปกติ ก็ยังใช้งานได้ปกติ รวมๆแล้ว ถ้าฟอกบ่อยๆ กับถ่ายบ่อยผมถ่ายทุก3-40,000 อันไหนดีกว่ากัน ถ้าถึง500,000โล เกียร์ยังไม่พังแล้วถ่ายปกติ ผมก็ว่าคุ้มค่าอยู่นะ ต่อให้วันนี้จะซ่อมเกียร์50,000-70,000 เหมือนราคาตอนที่ผมซ่อมเครื่องยนต์ผมก็ว่าคุ้มกับการใช้งานที่500,000โลนะมอันนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ ^^
ชอบการอธิบายมาก คิดได้ไง
ผมเปิดอ่าง เปลี่ยนกรองทุกรอบครับ ทำเองเพลินๆ
ของจริง ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
นิกสันอาเมร่า2013 เปลี่ยนน้ำเกียแบบไหนคับ
เน้นเปลี่ยนให้เร็ว2-3หมื่นโลครั้งก็ใช้ได้นานแล้ว ส่วนใหญ่ที่พังเพราะไม่เคยเปลี่ยนเลย น้ำมันเครื่องยังเปลี่ยนทุก10,000โลแต่น้ำมันเกียร์ไม่เปลี่ยน ค่าซ่อมเกียร์แพงมากนะครับ เปลี่ยนใหม่ใบเป็นแสน ศูนย์เขาเน้นเปลี่ยนไม่เน้นซ่อมนะครับ พังมาก็แจ้งเปลี่ยนครับ
กดติดตามแล้วคับ
ขอบคุณค่ะ
แต่ละคลิป น่าสนใจ มีสาระดีมาก
คลิบมีสาระดีคับ.ถ่ายบ่อยๆสะอาด.ฟลัสชิ่งไม่จำเป็นสักนิด
😊ไส้กรองน้ำมันเกียร์ ต้องเปลี่ยนก่อนไหมครับ ค่อยทำการเปลี่ยนถ่ายหลายครั้ง และจำเป็นไหมจะต้องให้ล้อหน้าลอย
ความรู้ล้วนๆๆ😊
ชัดเจน ถ่ายออกเติมใหม่ 2 รอบก็พอละสำหรับผม
รอบล่าสุดเปิดอ่างเปลี่ยนกรองเกียร์ ใส่น้ำมันใหม่ขับประมาณ20กิโลแล้วถ่ายใหม่ดีขึ้นมากแบบรู้สึกได้การต่อเกียร์นุ่มมากแต่ผมทำเฉพาะตอนเปลี่ยนกรองเกียร์
เหมาะกับรถเก่าๆ ที่ไม่ค่อยได้ถ่ายน้ำมันหรือน้ำมันดำมาก ในระดับที่ว่า ถ่ายเติมใหม่แล้ว ก้านวัดยังดำอยู่ จะเอาหลักการนี้ไปใช้กับน้ำมันเครื่องก็ได้ถ้าต้องการความสะอาด เพราะผมก็ทำแบบนี้ แต่มันเปลืองตัง ถ้าไม่มีตังก็ไม่ต้องทำ เอาไปซื้อน้ำมันเกียร์ น้ำมันเครื่องดีๆ ใช้ดีกว่า
ไปกันใหญ่แล้ว ยิ่งรถเก่าไม่เคยถ่ายน้ำมันมานานแล้วมาflashing เกียร์พังเลยนะ ว่างๆก็ลองหาความรู้ดู CZcams ของต่างประเทศเขาบ้าง
@@qwwknhy945f เคยดูมาอยู่ครับ ช่างส่วนใหญ่จะตอบว่า มันเสียมาอยู่แล้ว คือรถใช้งานไป ครัชมันก็หมด หมดแล้วเศษครัชไปไหน มันก็ลอยติดกับน้ำมัน รถเก่าที่ไม่เคยถ่ายน้ำมันจึงใช้ได้ปกติแต่มีอาการ เข้าเกียร์ยากเปลี่ยนไม่สมูท พอถ่ายออกเอาน้ำมันใหม่เข้าไป พวกเศษ เก่าที่ติดค้างมันก็หายไป เลยที่ให้ครัช ลื่น มันไม่ได้หมายความว่า ฟลัชแล้วพัง แต่มันพังมาอยู่แล้วครับ
@@terzafg9988++
ต่อด้วยน้ำเครื่องหนาอยคับฟลัช กับ ไม่ฟลัชต่างกันมากไหม
honda ตัวไหนครับ ไม่เคยเห็น เป็น Hachback หรือ มินิแวน ครับ สวย แปลกดี
จากประสบการส่วนตัวฟลัชเกียร์น้ำมันเก่าไม่น่าจะออกถึง 95% ผมเคยน้ำเข้าเกียร์ แล้วเอาไปฟลัชรอบนึง ยังมีน้ำค้างระบบอยู่มากต่างจากก่อนฟลัชนิดเดียว ต้องถ่ายปกติอีก 3-4 รอบถึงจะหมด
ถ้างั่นก้เปลี่ยนทุกหมื่นโลพร้อมน้ำมันเครื่องไปเลย สบายๆ ค่าใช้จ่ายก้พอๆกันไม่ว่าจะทำการฟอกเกีย หรือจะ เปลี่ยน3รอบ
ผมเป็นเจ้าของร้านฟลัชชิ่งน้ำมันเกียร์ร้านหนึ่ง สิ่งที่พี่พูดไม่มีผิดเลยครับ สิ่งที่พี่ทดสอบก็ไม่ผิดครับ แต่ความแตกต่างระหว่างฟลัชชิ่งกับเติมหลายๆรอบแบบที่พี่ทำคือเรื่อง"เวลา" ครับ ส่วนเรื่องฟอกๆวนๆที่น้องทีมงานถามผมนี่ขำลั่นเลยครับ😂😂😂 ถามว่ามีประโยชน์ไหมก็ตามที่พี่พูดเลยครับ😂😂😂😂 ส่วนเรื่องที่ศูนย์บริการไม่มีเครื่องฟลัชชิ่งเพราะเค้าต้องการให้เราเข้าศูนย์ตามระยะครับ😅😅 ติดตามอยู่ครับ❤❤
ราคามันอยู่ที่เท่าไหร่ต่อครั้งครับ??
ถ้าเปลี่ยนปกติกับฟรัช
รถเบน ผม w124 e220
วิ่ง5แสนโล
เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ ทุก 3-4 หมื่นโล
เกียร์ปกคิครับ
ขอบคุณสำหรับความใจกว้างของพี่ในการตอบ ในฐานะที่เป็นร้านฟลัชชิ่งครับ
แล้วก็ตรงประโยคสุดท้ายในคำตอบของพี่นี่ยิ่งโดนใจครับ เพราะว่า เจ้าของรถไม่ได้นำรถเข้าศูนย์ได้ตามระยะด้วยเหตุผลส่วนตัวของเจ้าของรถแต่ละท่าน
ผมถือว่าพี่ใจกว้างมาก มีอีกหลายท่านที่เป็นร้านแบบเดียวกับพี่ แต่คงไม่ถูกใจคลิปนี้ มีโอกาสขอเข้าไปใช้บริการกับพี่นะครับ
555555555
ถ้าเป็นรถแข่งน่า ทำเพราะเครื่องยนต์ร้อนกว่าปกติ
แต่ถ้ารถใช้ทั่วไปไม่ต้องก็ได้
น้ำมันเกียร์ที่ถ่ายออกมามันแค่30%ของน้ำมันในเกียร์ทั้งหมดเพราะในเกียร์มันมีซอกที่น้ำมันและเศษเหล็กตระกอนผ้าครัชค้างอยู่เยอะมาก ถ้าคิดว่าถ่ายแค่30%ก็เพียงพอแล้ว งั้นเวลาถ่ายน้ำมันเครื่องกันก็ถ่ายแค่ครึ่งเดียวดิแล้วเติมของใหม่กลับอีกครึ่งนึงดิ เพราะคิดว่าก็เพียงพอแล้วจริงมั๊ย
แสดงว่า การฟรัชชิ่ง คือไม่ควรทำใช้ไหมครับ
อยากให้ทำคลิป แนวนี้
กับน้ำมันเครื่อง บ้างครับพี่
คลิปโคตรดี สุดยอด
ดีครับ
ผมลองทำแล้ว สรุปโดยส่วนตัวเหมือนกับคลิปครับ คือการควบคุมอุณหภูมิของน้ำมันเกียร์ไม่ให้เกิน อุณหภูมิใช้งานปกติ ผมก็แทบไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ตามกิโลเมตร แต่จะเปลี่ยนตามค่าความเสื่อมของน้ำมันเกียร์เป็นหลัก
เปิดอ่าง ผมว่าน่าจะพอกันไหมคับ ส่วนตัวนะคับ
อธิบายได้ชัดเจนมากคับ ถ้าจะให้ดีมีสูง ต่ำด้วยนะคับ 555
ทุ่มทุน ทุ่มเท สุดยอด
เห็นด้วยครับ_ชัดเจน
เครื่อง ฟรัชชิ่ง น้ำหล่อเย็นด้วยได้ไหมครับพี่ อยากเห็นว่ามันดีหรือแหกตา