ไขปริศนาจารึกขอมภูถ้ำพระ อ.กุดบาก
Vložit
- čas přidán 12. 08. 2023
- ถอดจารึกขอม"ภูถ้ำพระ" ทำไมพระพุทธรูปไปอยู่ที่นั่น
หลายท่านที่สนใจเรื่องราวของประวัติศาสตร์เมืองสกลนครคงจะทราบว่าที่ภูถ้ำพระ บ้านหนองสะไน ตำบลนาม่อง อำเภอกุดบาก จังหวัดสกลนคร มีจารึกภาษาขอมอยู่ที่หน้าผาหินทรายใต้เพิงผา (ลักษณะคล้ายถ้ำ) บนภูเขาชื่อว่าภูถ้ำพระภาวนา ซึ่งกรมศิลปากร โดยนายชะเอม แก้วคล้าย และนายบุญเลิศ เสนานนท์ ผู้เชี่ยวชาญภาษาขอม ได้ถอดความออกเป็นภาษาไทย มีใจความว่า
"ศักราช 988 ตรงกับแรม 10 ค่ำ เดือน 7 วันจันทร์นั้น ได้ประดิษฐานพระนี้ ด้วยความเคารพยิ่ง และวิตานนี้ อยู่ภายใน ซึ่งท่านครูโสมังคลาจารย์ได้จารึกประกาศนี้ไว้"
ภูถ้ำพระนั้นเป็นโบราณสถานของกลุ่มชนที่มีถิ่นฐานอยู่ในเขตพื้นที่นี้ โดยมีอายุตั้งแต่พุธศตวรรษที่ 16 ลงมา และเป็นพุทธสถานในลัทธิหินยานที่มีการสืบเนื่องมาจนถึงสมัยล้านช้าง ราวพุทธศตวรรษที่ 22-23 ซึ่งเมื่อนำมาพิจารณาร่วมกับโบราณสถานในวัฒนธรรมเขมรที่อยู่ใกล้เคียง เช่น ปราสาท (พระธาตุ)ภูเพ็ก ปราสาทหินองค์ในของพระธาตุเชิงชุม ปราสาทนารายณ์เจงเวง พระธาตุดุม เป็นต้น ที่มีอายุร่วมสมัยกันแต่สร้างขึ้นในศาสนาฮินดู น่าจะแสดงให้เห็นถึงการอยู่ร่วมกันของศาสนาทั้งสองในเขตพื้นที่ของสกลนครในราวพุทธศตวรรษที่ 16-17 ได้เป็นอย่างดี โดยสามารถให้ข้อสันนิษฐานถึงที่มาของศาสนาทั้งสองได้ว่า ในขณะที่ศาสนาพุทธนั้นได้ตั้งหลักปักฐานกระจายอยุ่ในหลายพื้นที่ของจังหวัดสกลนครอยู่ก่อนแล้ว โดยเฉพาะในช่วงพุทธศตวรรษที่ 14-16 สมัยวัฒนธรรมแบบทวารวดีได้พบหลักฐานอยู่เป็นจำนวนมาก และจากการที่ได้พบศาสนาทั้งสองอยู่ร่วมสมัยเดียวกันนั้นอาจตั้งข้อสมมุติฐานได้ดังนี้
1.ศาสนาทั้งสองได้มีการผสมผสานกันอย่ากลมกลืน หรือ
2.ศาสนาทั้งสองมิได้ผสมผสานกัน แต่แบ่งแยกกันนับถือโดยระดับหัวหน้า (ผู้ปกครอง) จะนับถือศาสนาฮินดูที่เอื้อต่อระบอบเทวราชาตามอย่างอาณาจักรเขมรโบราณ ในขณะที่ประชาชนทั่วไปยังคงนับถือศาสนาพุทธอันเป็นพื้นฐานดั้งเดิมของชุมชนต่อไป
สำหรับข้อสมมุติฐานข้างต้นยังไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าข้อใดมีความเป็นไปได้มากกว่ากัน เนื่องจากไม่ได้มีการศึกษาอย่างจริงจัง จึงต้องรอผลการศึกษาวิจัยที่อาจมีในอนาคตมาเป็นเครื่องยืนยันความถูกต้องอีกครั้งหนึ่ง
อักษรปัลวะ
บาลี-สันสกฤต
มาจากอินเดีย
ภาษาขอมโบราณ
แต่บอกภาษาเขมรโบราณ
กฺญุํ อฺนกฺ เกฺมร
แปลว่า ข้าทาสชาวเกมร
หรือข้าทาสชาวเขมร
จารึกจากKa64
จารึกเมื่อ1200ปีก่อน เกมร,กมีร์สกขแมร์,
ล้วนปรากฏในนามทาส
ขอมคือชนชั้นปกครอง
ขอมไม่ใช่เขมร
เขมรคือทาส
ครับท่าน
ก็ผมบอกไปแล้วว่าขอมคือไทลาวกุนขะแมร์มันเป็นได้แค่ทาสสยามเราดุนขะแมร์ไม่มีอนาจักรแตงวานคือทาสะระเจ้าชัยวรมันที่9และหรือพระเจ้าอู่ทอง
ใช่ครับ ภาษาขอมโบราณ แต่บอกว่า ภาษาเขมรโบราณ ความเข้าใจของคนก็คลาดเคลื่อนได้ จริง ๆ
ทรายแล้วเปลี่ยนด้วย นักวิชาการ น้ำดอเกมร ครับโว้ยย
😂😂😂😂😂
ขอกราบท่านพระครูโสมังคราราม วัดถ้ำพระครับสิ่งที่ได้ทำไม่สูญเปล่า ดีงาม สืบพุทธศาสนา สาธุรักษาพุทธศาสนาไว้คนรุ่นหลังสืบรักษาต่อไป
หาข้อมูลที่น่าเชื่อถือมาอ้างอิง+กับการวิเคราะห์ ผมชอบรายการนี้มากครับ
ขอแสดงความคิดเห็นสำหรับวีดีโอชุดนี้ครับ เมื่อปี พ.ศ. 2545 ผมได้บวชเป็นสามเณร เป็นศิษย์ หลวงพ่อแสวง สุมังคโล สมัยนั้นทุกปีที่เป็นวันสงกรานต์คณะสงฆ์จะลงสวดเจริญพระพุทธมนต์ และได้มีคำอธิบายจากหลวงพ่อแสวง สุมังคโล และครูบาอาจารย์ จากพระพุทธรูปหินแกะนี้ว่า ท่านผู้สร้างได้เสียชีวิตก่อน แต่ด้วยเหตุใดนั้นไม่มีการอธิบาย สนับสนุนนำ้หนักพยานบอกเล่าประการที่ 2 จากคำอธิบายของ อ.สรรสนธิ ครับผม
สกลนครมีมีโบราณสถานเก่าแก่มากมาย ที่ให้ชนรุ่นหลังได้ติดตามชอบดูค่ะ ขอบคุณท่านอาจารย์มากๆนะค่ะ🙏🏻
อำเภอบ้านผมครับ
สุดยอดคับรายการนี้
อาจารย์ไปดูมันจะมีถ้ำอีกถ้ำหนึ่งที่มีภาพว่าน ชาวบ้านเขาเรียกถ้ำบวช อยากให้อาจารย์ทีมงานไปดูค่ะ
ที่ไหนหรือครับ..บอกสถานที่ให้ชัดเจนและขอเบอร์ติดต่อครับ
ถูกครับอาจาร ผมเป็นชาวกัมพูชา ผมสันนิฐานเมือนอาจาร
มันเป็นอักษรขอม และภาษาขอม จึงทำให้เขาแปลได้ แต่ถ้าขอม ที่เขาเข้าใจว่า มิใช่เขมร นั้น ไม่มีคนที่มีตัวตน ไม่มีอักษร ไม่มีภาษา
ไปกันใหญ่แล้วอักษรขอมภาษาเขมรเข้าป่าไปเลยไป
เคยไปหลายครั้ง คนที่สนใจเท่านั้นจะเข้าใจ.ค่ะ ปั่นจักรยานไปชมค่ะ
ขอมก็ขอม แต่คนไทยใจเขมร ดันยกให้เป็นเขมร5555555555555555+
ขอบคุณครับ ชอบๆ ติดตามตลอดครับ
❤❤❤❤❤ชอบเรื่องโบราณสถานครับ ได้ความรู้มากมาย ขอบคุณรายการครับ
ขอบคุณครับผม...
ชอบช่องนี้ครับ
🙏กราบสวัสดีครับคุณลุง
สวัสดีครับ
ประวัติศาสตร์ชาติไทยไม่ให้ความสำคัญกับประวัติศสตร์ลาวล้านช้างอิสานเท่าไรมีแต่ประวัติศาสตร์อยุธยาทั้งที่ลาวอิสานไม่เคยรู้เรื่องเลยคุณจะรบกับใครสู้อะไรกับใครลาวล้านช้างอิสานไม่เกียวเลยแต่ทำไม่ต้องให้เรียนประศาสตร์อยุธยาทั้งๆที่ลาวอิสาไม่เกียวเลยคนลาวอิสานมีประวัติสมัยขอมโบราณ
ทำไมคนไทย คนเอเชีย คนอาเซียน จึงเรียนประวัติศาสตร์ตะวันตกด้วย ทั้งๆที่ไม่ใช่ฝรั่ง ? ถ้าตอบได้ ก็จะเข้าใจ !
อยู่ปัดจุบกันดีแลัว
คนชนะเขียนประวัติศาสตร์ครับ
Wisdom good
THANK YOU.
ขอบคุณที่ติดตามครับ
อยากไปชม
ดีครับรายการนี้
กดติดตามให้แล้วเด้อ..สักวันไปเที่ยวป่าด้วยกัน
@@user-iq7mg5by2e ครับผม ขอบคุณครับ
มาเด้อๆๆๆกินเข้าป่า
ใช่ครับอ.จ.เปลี่ยนถ่ายอำนาจท่านมีฝีมือมากดูจากดูการการแกะหัวหนังสือเป็นช่างพริ้วมากครับเป็นพุทธจารึกสำคัญเกี่ยวโยงทุกอณาจักรยิ่งจารึกว.ด.ปบอกไว้ด้วยไม่ต้องคิดให้ปวดหัวครับเป็นหลักฐานอ้างอิงขอมทราวดีด้วยสาธุๆๆๆ
ทำไมขอม ถึงมีเชื้อพระวงศ์ นับถือทั้งฮินดู เเละ พุทธ ราชวงศ์เดียวกัน เเต่นับถือศาสนาไม่เหมือนกัน งง... เเสดงว่า ในอาณาจักรขอม มีทั้งพุทธ เเละฮินดู อยู่ร่วมกัน
นี่แหละครับ คือความก้าวหน้าทางความคิด..
..ไม่ต้อง งง นะครับ ..เพราะนี่แสดงถึงอิสระทางความเชื่อความศรัทธาอย่างแท้จริง..
..ไม่ต้องถูกผูกขาดและไม่ต้องอยู่ใต้อิทธิพลทางความคิดความอ่านของนักบวช ..ซึ่งก้อมีไม่น้อยที่คอยจ้องแต่จะแสวงหาผลประโยชน์..จากการมีอำนาจเหนือกษัตริย์
..ทางฮ่องเต้จีนสมัยก่อนก้อเช่นกัน..ไม่ได้เอาตัวเองไปผูกภายใต้อิทธิพลของศาสนาใดศาสนาหนึ่ง..
..นักบวชทุกประเภท ทุกศาสนา พอเจอฮ่องเต้..ต่างก้อต้องก้มหัวให้ ทุกรายไป...
❤❤❤
เรามองว่า เขาเอาปูนพอกไว้ที่องค์พระนี้ กาลเวลา ทำให้สีปูนกลมกลืนกลายเป็นหินก้อนนี้
เป็นภาษามคธ...คือขอม มอญ...ที่ต่อมาก็เป็นภาษา...บาลี...ถิ่นกำเนิดพระพุทธศาสนาเถรวาท...ในสยาม..
มันเชื่อมโยง กับ ความฝันของหนูเลยค่ะ เมื่อสามปีก่อน (ตอนนั้นยังไม่รู้จัก ภูเพ็กเลยค่ะ)ต้องค้นหา ว่า ปราสาทขอมที่ไม่มีหลังคา/ ในฝัน เขาบอกว่า ครั้งหนึ่ง พระธาตุภูเพ็ก นั้นเคยเป็น วัด สีขาว แต่ไม่มีหลังคา อาจจะเป็นรูปแบบ วัด ของคนสมัยโบราณ (ขอม) และ ที่ นั่น จะมี บ่อน้ำหน้าวัด ที่ใช้ ในทางดาราศาสตร์ คือในฝัน เขาจะใช้ของเหลว เท ลงไป บ่อนั้ย แล้ว มอง ภาพสะท้อนของดวงดาว ที่ปรากฏ ในน้ำ เพื่อใช้ เป็นการ วัด ระนาบ ของดาราจักร ที่กำหนดไว้ ที่หินรูปสี่เหลี่ยม (แต่ในฝัน ไม่ได้บอกถึง เสา คล้ายศิวลึงค์ ที่หัก ดั่งในปัจจุบัน ) เลยพอจะเข้าใจ ว่าที่จริงแล้ว ภูเพ็กอาจจะไม่ได้สร้างไม่เสร็จ แต่อาจเป็นการ สร้างแบบเลียนแบบ หรือสร้างแก้ไขทีหลัง ตาม วัฒนธรรม เขมร ดังนั้น หลักฐานการค้นพบในปัจจุบัน ก็ ทำให้ รู้ ว่าจริงๆแล้ว ระบอบการ นับถือศาสนา ของไทย ตั้งแต่ ทรวดีในสมัยก่อน อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงตามยุคสมัย อันนี้ลอง คิดแบบ สมมุติฐานนะคะ ว่าถ้าหากที่นั่นเป็นวัด มาก่อนจริง ก็อาจจะ มีอายุมากกว่า ที่เราทราบกัน
สงสัยเกิดทันอิอิ
เกิดไม่ทันเขาก็ศึกษาค้นคว้าสำรวจ ให้เรารู้
ต้องขอบคุน อาจารย์ทั้งหลายที่ช่วยกันคนคว้าศึกษา โดยท่านอาจารย์ศึกษาเชิงวิชาการ ทั้งแง่วิทยาศาสตร์ ทั้งในแง่ประวัติศาสตร์ ผมคนนึงขอให้กำลังใจ อ.ทั้งหมด ที่มีส่วนร่วมในการศึกษาค้นคว้าครับ ถึงแม้ว่า อ.จะเกิดไม่ทัน แต่ อาจารย์ก็ได้ศึกษาค้นคว้า ให้คนที่สนใจอีกหลายพันหลายหมื่นคนนะคับ
ดีกว่าคนบางคน ไม่ได้ช่วยอะไร
แถมเม้นแบบเหน็บแนม ประชดประชัน
ผมว่าสร้างเสร็จและที่ไม่เสร็จ.คือ องที่สร้างเสร็จแล้วถูกขโมย ไปไม่เหลือ
ส่วนที่เหลือองค์ที่สร้างไม่เสร็จ โจรมันไม่เอา..ทิ้งไว้.ตรงนั้น..
สกลนครมีหมู่บ้านพูดภาษาเขมรเหมือนทางสุรินทร์เลย
ภาษาโส้
@@jin-yy1gw ผมเขมรสุรินทร์ฟังออกทุกคำเลย
น่าจะใช่นะพวกขอมอพยพไปทางภู.. (ภูเขา)ยายเล่าให้ฟัง
สกลเมืองขอมพันปี
เป็นไปได้มั้ยครับว่า พระครูท่านปรารถนาวิเวก.
อือ...ประเด็นนี้น่าสนใจมากครับ
เป็นไปได้ครับ..คราวนี้ลองมาดูความเห็นของ นายสรรค์สนธิ บุณโยทยาน นักพิภพวิทยา
คิดว่าในยุคสมัยนั้นผู้คนที่มีความรู้ด้านดาราศาสตร์จนสามารถใช้ปฏิทินมหาศักราช และขณะเดียวกันก็อ่านออกเขียนได้ คงมีจำนวนไม่กี่คนและท่านเหล่านั้นน่าจะทำงานรับใช้อยู่กับเจ้านายซึ่งเป็นผู้แทนราชสำนักขอมจากเมืองหลวง และมีสำนักงานอยู่ในตัวเมืองสกลนคร หรือไม่ก็ชุมชนใหญ่ๆ ไม่น่าที่จะระหกระเหินไปหลบลี้หนีกายอยู่ตามป่าถิ่นทุรกันดารแบบภูถ้ำพระ ถ้าเปรียบเป็นระบบราชการปัจจุบันบรรดาท่านนักวิชาการที่จบด๊อกเตอร์พูดภาษาฝรั่งฟุตฟิตฟอไฟเป็นน้ำ คงไม่ไปรับราชการอยู่ที่สำนักงาน อบต. หรือโรงเรียนประถมไกลปืนเที่ยง ท่านเหล่านั้นคงนั่งอยู่ในห้องแอร์เย็นฉ่ำที่ศาลากลางจังหวัดทำหน้าที่เป็นผู้ชำนาญการพิเศษระดับ ซี 8 ให้กับสำนักงานจังหวัด มีลูกน้องสาวๆคอยเสริฟน้ำชากาแฟ
ท่านพระครูโสมังคลาจารย์ผู้จารึกอักขระขอมและประดิษฐานพระพุทธรูปที่หน้าผาภูถ้ำพระ ย่อมเปรียบเสมือนนักวิชาการระดับซี 8 น่าจะปฏิบัติงานอยู่กับเจ้านายที่ในเมืองหรือชุมชนขนาดใหญ่ แต่ท่านกลับเล่นหนีลี้กายมายังถิ่นลึกลับกลางป่ากลางดงแบบนี้ ก็น่าที่จะเกิดจากความขัดแย้งระหว่างศาสนาพุทธกับศาสนาฮินดู เพราะดูจากช่วงเวลา พ.ศ.1609 เป็นรัชสมัยของพระเจ้าอุทัยอาทิตย์วรมันที่ 2 ต่อเนื่องกับพระเจ้าอาชาวรมันที่ 3 ซึ่งนับถือศาสนาฮินดู แต่ก่อนหน้านั้น ราว พ.ศ. 1545 - 1593 เป็นยุคของพระเจ้า "สุริยะวรมันที่ 1" กษัตริย์ผู้ถือศาสนาพุทธอย่างแรงกล้า เรียกว่าเป็นยุคทองของศาสนาพุทธแห่งอาณาจักรขอม ทำให้ราษฏรจำนวนมากหันมานับถือศาสนาพุทธประกอบกับศาสนาพุทธมีรากฐานเดิมจากยุคทวาราวดีอยู่แล้ว ดินแดนแถวหนองหารหลวงจึงเต็มไปด้วยศาสนาพุทธ แต่พอเปลี่ยนแผ่นดินมาเป็นกษัตริย์ฮินดู บรรดาเจ้านายก็ต้องเปลี่ยนสีไปด้วยเข้าสูตรสัจธรรมที่ว่า "เจ้านายเอาอย่างไร พวกกระผมเอาด้วย " พฤติกรรมแบบนี้มีมานมนานตั้งแต่ครั้งอดีตกาลแล้ว.....ไม่ว่ากัน
*สกลนครถิ่นพระป่า ล้วนปลีกวิเวกตามป่าเขามาแต่พุทธกาล
*ท่านน่าจะมรณภาพก่อน
สลักพระเสร็จ จากนั้นวัดป่าแห่งนี้ก็ร่วงโรย เพราะขาดหลักชัย พระจึงสร้างค้างไว้
*แม้ในปัจจุบันก็เห็นสภาพแบบนี้ทั่วไป มีทุกภาค
*ถ้าถูกกวาดล้างคงไม่แค่จับคน คงทำลายจารึกทิ้งด้วย
*แม้คนจับอ่านไม่ออก ก็ยอมมีร่องรอยขีดทำลายจารึก
*หากเกิดเหตุทำลายวัดพุทธก็น่าจะเกิดกับวัดบ้านในเมือง
*อนึ่ง พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ถึงหันมานับถือพุทธมหายาน ในพุทธศตวรรษที่ 18 หลังจารึกที่ถ้ำพระ ซึ่งทำขึ้นในพุทธศตวรรษที่ 16 ก่อนขอมหันมานับถือพุทธ 200 ปีครับ
เห็นด้วยครับ
จารึกมันมีแค่ตรงนั้นเหรอ จำได้ว่ามันมีอีกที่นึงนะ เป็นหลืบซอกหินเล็ก เก็บพระพุทธรูปไว้หลายองค์ อยู่ข้างวิหารใหญ่เหนือถ้ำพระขึ้นไปที่สร้างใหม่ริมหน้าผาด้านทิศตะวันออก
ขอเพิ่มหน่อยครับ อักษรขอม ไม่ใช่อักษรเขมรครับ
ต้องศรีเทพครับไม่ใช่โปรโมทขอม(ที่นี่ประเทศไทย)
ขอมเป็นวัฒนธรรมภาษา ชีวิตควาทเป็นอยู่คนตอนใต้แม่น้ำเจ้าพระยา มีเมืองศรีเทพ เมืองละโว้ ลพบุรี เมืองพิมาย แถบนั้นลงไปเป็นขอมหมด รวมถึงกัมพูชาตะวันตกที่ตั้งของนครวัด นครธม (บางท่านบอกขอมคือคนสยาม (เสียมกุ๊ก) เจ้านายคนขแมร์ โดยคนขแมร์เป็นคนป่าในกัมพูชาสมัยนั้น ขอมจึงเป็นวัฒนธรรมและภาษาที่สืบทอดมา ขอมไม่ใช่เขมร เขมรไม่ใช่ขอม ภาษาขอมโบราณ(ขอมไทย) เขมรมันอ่านไม่ออกหรอก เพราะไม่ใช่ภาษาเขมร มีแต่คนไทยที่สอนต่อ ๆ กันมาอ่านออก
+1
ไม่น่าใช่พระพุทธรูป ถ้ามโนให้เป็นก็พอได้ ผมว่าแค่เป็นหินเกิดจากธรรมชาติปกติ
สมัยก่อนผมก้ไปบ่อยครับแถวนั้นจะมีลิงอาศัยยุ่และข้างบนจะมีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์
ตัดต่อและทำดนตรีประกอบได้น่าสนใจมากครับเป็นกำลังใจให้ทีมงานทุกท่านครับผม
ถ้าเรารู้ความเป็นจริงนั้นแหละคือหัวใจของประวัติศาสตร์แต่ถ้าเราไม่ยอมรับหลักฐานแห่งประวัติศาสตร์คงเป็นสื่งที่น่าเสียดายที่ขาดโอกาสดีดีไปเพราะฉนั้นหลักฐานที่เราพบเห็นนั่นแหละคือตัวตนของความเป็นจริง
บาลีคือพระวัจจะนะของพระพุทธเจ้าบาลีแปลว่ารักษาพระวัจจะนะของพระพุทธนั้นเอง