ญี่ปุ่น จากการกระหายอำนาจในยุคโชวะ สู่ผู้แพ้สงคราม ตอน 2/4 | Global Economic Background EP.28
Vložit
- čas přidán 16. 03. 2023
- หลังจากการ ‘ปฏิรูปเมจิ’ ญี่ปุ่นเข้าสู่การเป็นมหาอำนาจเต็มรูปแบบ เพื่อเตรียมขึ้นแท่นสู่มหาอำนาจเบอร์ 1 ของโลก ถือเป็นหนึ่งในยุคที่คนญี่ปุ่นกระหายสงครามจากแนวคิด ‘ทหารญี่ปุ่น’ ไม่ว่าจะเป็น สงครามจีน-ญี่ปุ่น การบุกรุกอินเดียตะวันออก และท้ายที่สุดเปิดชนวนถล่มเพิร์ลฮาร์เบอร์ที่สหรัฐอเมริกา ก่อนพลาดพลั้งกลายเป็นผู้แพ้ต่อฝ่ายสัมพันธมิตรในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
แต่ญี่ปุ่นกลับลุกขึ้นใหม่ได้ในเวลาอันสั้น เปิดกระดานใหม่ในการพิสูจน์ตัวเอง สู่ยักษ์ใหญ่ทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยีได้อีกครั้ง ‘ญี่ปุ่น’ ใช้วิธีอะไรในการปลูกฝังค่านิยมและวางรากฐานการปรับตัวสังคมเข้าสู่ยุคใหม่ได้อย่างสง่างาม ติดตามได้ใน Global Economic Background เอพิโสดนี้
________________
ตอนนี้ช่อง THE SECRET SAUCE ของเราได้เปิดให้แฟนๆ เข้ามาจอยเป็น Membership แล้วนะครับ สมัครได้ตั้งแต่วันนี้ ในราคาเพียง 50 บาทต่อเดือนเท่านั้น
โดยคุณสามารถคลิกที่ปุ่ม Join แล้วเลือกช่องทางชำระเงินตามสะดวกได้เลย หรือกดลิงก์ / @thesecretsauceth
มาเป็น The Secret Sauce Club ด้วยกันนะครับ :)
________________
ติดตาม The Secret Sauce ในช่องทางอื่นๆ
Spotify bit.ly/tssspotify
Apple Podcasts bit.ly/tssapple
Google Podcasts bit.ly/tssggpod
PodBean bit.ly/tsspodbean
Website bit.ly/webtss
Facebook / thesecretsauceth
Facebook Group / 643054436428079
#TheSecretSauce #GlobalEconomicBackground #ญี่ปุ่น - Jak na to + styl
"อย่ากระนั้นเลย"ประโยคนี่แหละ เป็นเครื่องหมายการค้าของเฮียวิทย์แล้วละ
ชอบมากครับเฮียวิทย์เล่าประวัติศาสตร์ครับ
*ขอบคุณที่แชร์ความรู้กันครับ🙏
คำถามแรกของเคนช่วง 10:10 โดยประมาณ ถ้าตอบอย่างตรงไปตรงมาที่สุดคือ วิสัยทัศน์ของชนชั้นนำที่ต่างกัน (ขยายความต่อจากเฮียวิทย์) คือ ญี่ปุ่นมีวิสัยทัศน์ ที่จะยกระดับตัวเองขึ้นไปเอาชนะพวกผิวขาว ยอมรับว่าตัวเองอ่อนแอกว่าตะวันตกมาก แต่สยามเวลานั้น ต้องการแค่เอาตัวรอดจากมหาอำนาจ และตัวเราเองก็มีกิน มีใช้ มีดีของเราพอตัวอยู่แล้ว แม้เราจะส่งคนไปเรียนตะวันตกในเวลาไล่เลี่ยกันกับญี่ปุ่น แต่คนของญี่ปุ่นเรียนเพื่อกลับมาเปลี่ยนแปลงประเทศให้เท่าเทียมกับตะวันตก ไม่ว่าจะยกเลิกศักดินาต่าง ๆ ยกระดับทั้งประเทศไปยันคุณภาพชีวิตประชาชน แต่คนของสยามไปเรียนเพื่อกลับมาทำให้ประเทศทันสมัยทัดเทียมตะวันตก ตะวันตกมีอะไรเราก็มี แต่เป็นในแบบของเรา เรียนรู้มาแต่วิธีใช้ ไม่ได้เอาวิธีผลิตกลับมาเท่ากับญี่ปุ่น หรืออย่างการเลิกทาส ก็คือเลิกแต่ทาส วิถีชีวิตความเป็นไพร่ยังคงอยู่ ระบบศักดินาต่าง ๆ ยังคงเข้มแข็ง คุณภาพชีวิตประชาชนยังเท่าเดิม ความเจริญกระจุกตัวอยู่ที่ศูนย์กลางอย่างกรุงเทพ ฯ (ปัจจุบันก็ยังเป็นแบบนั้นอยู่) ขณะที่ญี่ปุ่น ไม่ได้โตเดี่ยวแค่โตเกียว แต่เมืองท่าหลาย ๆ เมืองในญี่ปุ่นก็โตตามไปด้วย ชนชั้นกลางขยายตัวเพิ่มขึ้นมาก ส่วนสยามไม่สามารถผลิตชนชั้นกลางขึ้นมาได้เท่าญี่ปุ่น จนกระทั่ง Wall Street ล้ม ในปี 1929 สยามก็ฮวบลงแบบฟื้นไม่ขึ้น เพราะวินัยคลังแย่อยู่แต่เดิม ส่วนญี่ปุ่นกลับได้รับผลกระทบไม่มาก ซึ่งนั่นก็คือจุดเปลี่ยนที่เราตามญี่ปุ่นไม่ทันอีกเลย
อ่านทุกคำเลย ดีมากๆเลยครับ ชอบๆๆๆๆ
เค้าเรียกว่า ทรัพยากรเหลือเฟือเกินครับ เลยทำให้ ผู้นำในสมัยนั้นคิดเพียงแต่จะรักษาอำนาจของตัวเองไว้ ไม่เหมือนญี่ปุ่นที่มีทรัพยากรจำกัด และมีวิกฤตบ่อยครั้ง จึงทำให้แรงขับ ญี่ปุ่นมีมากกว่า
@@Sittivaekin อ๊ากกก เฮียวิทย์จริง ๆ ใช่มั้ยครับเนี่ย ดีใจ-ขอบคุณที่เฮียมารีพลายครับ
ญี่ปุ่นน่ะทำถูกแล้วที่พยายามเอาชนะตะวันตก
ไทยก็ทำถูกแล้วที่พยายามเอาตัวรอดจากมหาอำนาจ
เรามองทั้งสองประเทศด้วยมุมมองเดียวกันไม่ได้ครับ
ทรัพยากร และความแข็งแกร่งต่างกันมากเกินไป
ลองดูความเก่าแก่ของมหาวิทยาลัย เทียบกันก็ได้ครับ
ไทยแค่มองความแตกต่างของเรากับญี่ปุ่นไม่ออกเท่านั้นเอง
ทั้งทรัพยากรทั้งเวลาถูกใช้ไปกับการรักษาความมั่นคงทางอำนาจของกลุ่มชนชั้นนำ พอเสียอำนาจก็แย่งชิงใหม่ พอชิงเสร็จก็ทำทุกอย่างเพื่อรักษา
เฮียวิทย์คือหนังสือประวัติศาสตร์ที่เดินได้ครับ จำแต่ละเหตุการณ์ (ที่ศึกษามา)ได้แบบเป๊ะๆ เล่าเรื่องได้แบบน่าติดตาม ยอมใจเฮียเลยครับ
เล่าได้สนุกชอบมากครับ
@@piyaphummuetkhambong768 จริงครับ เล่าได้แบบน่าติดตามมากครับ เหมือนดูหนังซีรี่เป็นตอนๆ ดูแล้วขาดตอนต่อไปไม่ได้เลยครับ
ชอบแกเรียงไทมไลนให้ละเอียดมากกกกก
ของไทยก็ไปดูงานต่างเป็นเทศบ่อยๆนะครับ ได้ภาพสวยๆถ่ายกับลูกหลานกลับมา แค่นั้นแหละครับ
ดีครับ ผมชอบเรื่องประวัติศาสตร์
ความคิดมันต่างกัน ญี่ปุ่นคิดจะสู้ แต่ ไทย ไม่คิดจะทำอะไรเลย อยู่ไปวันๆ
ปี 1868 ญี่ปุ่นเข้ายุคเมจิ หรือรัชการที่ 5 ครองราชย์ ประชากรญี่ปุ่นมี 30 กว่าล้านคน โดยเป็นชนชั้นสูง ซามูไร คนมีการศึกษาจำนวน 2 ล้านคน .... แต่เมืองไทยมีประชากรรวมทั้งหมดแค่ 3 ล้านคน (ปี 1960 ไทยก็ยังมีแค่ 20 กว่าล้านคน)
.
ญี่ปุ่นมีความเป็นเมืองมาก่อนหน้านั้นแล้วนับร้อยๆปี ตั้งแต่ยุคเอโดะ มีการเมือง การเซงหลี้มายาวนานแล้ว พื้นฐานแน่นและต่อเนื่อง
.
โดยที่ผมเคยศึกษา ญี่ปุ่นเป็นชุมชนเมือง เพราะภูมิประเทศเป็นหุบเขาทั่วทั้งเกาะ และหนาวเย็น ปลูกพืชยาก ทำให้ต้อนคนไปรวมกัน
.
แรกๆคนอยู่กันหนาแน่นรวมกัน ทำให้ต้องปรับตัว การปรับตัวจึงทำให้เกิดระเบียบ เกิดค่านิยมของระเบียบวินัย ไหนจะอยู่ในโซนที่มีทั้งพายุและแผ่นดินไหวอีก ... และญี่ปุ่นรับวิทยาการจากจีนตลอดพันกว่าปี อีกทั้งมีทะเลรอบด้าน
.
.
แต่ดินแดนที่อุดมสมบูรณ์ ผู้คนจะกระจายตัวกัน เป็นหมู่บ้านเบี้ยหัวแตก จะเอาใจกันเฉพาะหมู่บ้าน แต่ในภาพรวม ก็ทำอะไรมักง่ายตามใจ (ไทย อินเดีย)
.
++
.
จะว่าไป ประวัติศาสตร์และการพัฒนาของญี่ปุ่น ต้องเทียบกับพวกมหาอำนาจต่างๆ และปัจจุบัน ญี่ปุ่นก็ดูเหมือนเป็นจักรวรรดิที่อิ่มตัว หรือเสื่อมแล้ว (ประชากรลดลงเรื่อยๆ ขาดไฟ ขาดการคิดถึงชาติ)
.
ที่ผ่านมาญี่ปุ่นก็ทรนง และรู้ตัวเสมอว่าตัวเองไม่เหมือนเอเชียอื่นๆ (ยังไม่ยอมรับคนต่างชาติให้เสมอตน จนทุกคนนี้ เขาเรียก ไกจูมั้ง ถ้าจำไม่ผิด)
.
วิเคราะห์กันว่า
.
ญี่ปุ่นไม่เคยโดยสงครามฆ่าล้างจนต้องหนีตาย หรือกระจายไปไหน จึงทำให้วัฒนธรรมญี่ปุ่น สามารถรวมกลุ่ม และแข็ง อย่างต่อเนื่องมาก --
.
-- และเผ่าพันธ์ที่ใกล้เคียงกัน ถูกหล่อหลอมมาด้วยกัน ทำให้เกิดความสามัคคีได้ง่าย มีราชวงค์ที่ปกครองยาวนาน 13XX ปี (ยาวนานที่สุดในโลก มีโดยจักรพรรดิถึง 126 รัชกาล)
.
-- สภาพความเป็นเกาะ ก็ทำให้บุกยาก (คล้ายๆอังกฤษ) และไม่ได้อยู่ในตัวเลือกของนักอาณานิคมนัก เพราะไม่มีทรัพยากร รอดจากมองโกลได้ด้วยพายุ
.
การที่ดัชต์ หรือสหรัฐมาติดต่อกับญี่ปุ่น คือเพื่อตั้งจุดยุทธศาสตร์เป็นหลัก สานสัมพันธ์ ทำการค้าขาย ต่างจากการยึดพวกอินเดีย อินโดฯ แอฟริกา
.
สะสมความคิด อารยธรรม สิ่งประดิษฐ์ และการค้ามานาน -- การเอามาเทียบกับไทยที่มีประชากร 3 ล้าน และอยู่แบบบ้านๆ ถือว่ามวยคนละรุ่น
.
จริงๆญี่ปุ่นต้องเทียบกับ USA ในยุคนั้น (ประชากร 30 ล้านคนเท่ากัน และกำลังเกิดสงครามกลางเมือง) -- คือเกิดสังคมเมือง เกิดเมืองท่า และพัฒนาสู่ข้อขัดแย้งที่ซับซ้อนมากขึ้นๆ
.
**
คิดดูว่าญี่ปุ่นเล็กกว่าสหรัฐ 20 เท่าในทางพื้นที่ แต่ดันมีประชากรเท่ากันได้ (แปลว่าสถาปนารกรากบ้านเมือง มานานมากๆ)
.
ถ้าอย่างเยอรมันตอน ศ.17 แบ่งเป็นสองร้อยเผ่า โดนสงคราม 30 ปี สงครามใหญ่ที่สุดแห่งยุคของยุโรป ทำประชากรลดจาก 16 ล้าน เหลือ 6 ล้าน ... และรวมชาติช้าไปเป็นร้อยๆปี
.
การพูดลอยๆว่าไทยกับญี่ปุ่น จึงควรพัฒนามาพอๆกัน มันก็คือการดูแบบลวกๆ ดูแต่ป้ายโฆษณา (อาจพูดได้ว่าไทยพยายามจะก้าวกระโดด)
.
อย่าว่าแต่กระนั้นเลย อินเดีย เจ้าอารยธรรมหลักหลายพันปี พอแตกก๊ก แตกเหล่า ก็ถูกคนอื่นปกครองเสมอ (มุสลิมสงกองทัพม้ามาไม่กี่คน พิชิตกองทัพช้างทีละเผ่าๆ ปกครองอินเดียถึง 800 ปี ตามด้วยอังกฤษ ก็ส่งทหารกับปืนมาหลักพันกระบอก หรือหมื่นต้นๆ)
เคยทำงานในบริษัทที่เป็นหนึ่งในสี่เซมบัสซึ ยอมรับเลยว่าคนญี่ปุ่นมีเลือดนักสู้ ไม่ยอมแพ้ มุ่งมั่น มีความเป็นนักคิด นักพัฒนา ระบบชุดความคิดที่เคยใช้ในการรบทั้งหมดถูกนำมาใช้ในธุรกิจ อุตสาหกรรมปัจจุบัน เราชอบทำงานกับคนญี่ปุ่น อยากที่จะซึมซับนิสัยแบบนั้นมาพัฒนาตัวเอง
ประวัติศาสตร์สากลแบบเนี่ยแหละ ที่ควรบรรจุอยู่ในแบบเรียนตั้งแต่ประถม เอาบริบทหลายๆอย่าง แต่ละปีมาทยอยๆสอนจนครบการศึกษาขั้นพื้นฐานจะดีมาก (ไม่ใช่แค่เอเชียอวยกันเอง กรุงแตก เกลียดพม่า เผาวัด) และที่ดียิ่งกว่าคือต้องมีครูแบบเฮียวิทย์เยอะๆรู้จริง เรียนสนุก นี่ขนาดศึกษามาเองแล้วมาฟังเฮียเล่าอีก ก็ยังรู้สึกสนุกอยู่เลย
ญี่ปุ่นแบนประวัติศาสตร์สงครามโลกเขาไม่ยอมรับสิ่งที่ตัวเองกระทำ
บ้านเราเรียนประวัติศาสตร์โลกน้อยไปครับ และเรียนประวัติศาสตร์ไทยก็ไม่ค่อยจะเอามาใส่บริบทโลกเท่าไหร่ เหมือนเรากับโลกไม่มีปฏิสัมพันธ์กันเท่าไหร่เลยครับ ไม่เป็นไรครับ โลกศตวรรษที่ 21 นี้มี youtube เป็นครูละครับ ๕๕๕๕
ของดีมักไม่มีอยู่ทั่วไป แล้วแต่ใครจะขวนขวาย
@@suchatsamแต่ประเทศที่เจริญแล้ว เขาสอนกันแบบทั่วไปเลยนะคะ เพราะประวัติศาสตร์มันโคตรมีประโยชน์ต่อแนวคิดการพัฒนาชาติ
ทุกวันนี้จีนแซงญี่ปุ่นก็เพราะประชากรเยอะกว่า แต่ถ้าหารGDP ต่อหัว ญี่ปุ่นก็ยังถือว่าสูงกว่าจีนอยู่ดี
สูงสิ ค่าแรงต่อหัวสูงกว่าจีนตั้งเยอะ เอาไรมาสู้ญี่ปุ่น
ผมชอบแนวความคิดของคนญี่ปุ่นครับ ต่อให้ล้มกี่ครั้งก็จะลุกขึ้นมาเพื่อต่อสู้ต่อไป
คนญี่ปุ่นบอก พยายามเข้านะ คนไทยบอกโชคดีนะ แค่นี้ก็ผิดกันไกลแล้วครับ
ความกล้าหาญเด็ดเดี่ยว และมีวินัยต้องยกให้ ชนชาตินี้เลย ภาพแววตานักสู้เด็กน้อย ที่ตามหาพ่อ,แม่ ที่สูญหายในเหตุการณ์สึนามิ หรือ การต่อแถวรับอาหารอย่างเป็นระเบียบ แม้กระทั้งใน ฟุตบอลโลก แฟนบอล ซามูไร ก็สร้างความประทับใจในทุกสนามแข่งขัน แต่ วีรกรรมโหดร้าย ทารุณ ในสงคราม มันก็ยังเป็นภาพจำแม้มันจะผ่านไปนานแค่ไหน เราเรียนรู้ในด้านดีและไม่ดีของเขา เพื่อนำมาปรับใช้คงจะประโยชน์ ต่อ ชาติเราไม่น้อย
ที่ญี่ปุ่นโหดมากในตอนนั้นเพราะมันหายากมากชาติที่สู้แบบไม่กลัวตาย ทุ่มสุดตัว ประเทศที่โดนรุกรานถึงเอาไม่อยู่ แต่สุดท้ายก็แพ้ภัยตัวเอง เพราะฝ่ายอักษะดันไปปลุกยักษ์ 2 ตัว ในเวลาเดียวกัน พอเมกา โซเวียตเข้าร่วมสงคราม ความสดใหม่ย่อมชนะทัพที่สู้จนเหนื่อยล้า พอเยอรมันแตก นิวเคลีที่นาซีวิจัยอยู่ กะจะไปทิ้งใส่โซเวียต ก็โดนเมกาเอาไปทำต่อในชื่อแมนฮัทตัน สุดท้ายจากจะทิ้งโซเวียต ญี่ปุ่นมาโดนแทน
ไอสไตร์คือจุดเปลี่ยนสงคราม (ยิว)
ผมเคยทำงานกับฟุรุคาว่าสกาย ในธุระกิจอลูมิเนียม ตอนหลังมารวมกับซุมิโตโม่ ทำUACJ เค้าเล่าให้ฟังบริษัทเคยเป็นซับส่งพาร์ทเครื่องบินส่ง มิซูบิชิ ในสงครามโลก
ผมทำงานบริษัทบริดจสโตน บอกเลยครับที่คุณวิทย์พูดมาตรงทุกเรื่อง ระเบียบวินัย การพัฒนาองค์กร คือที่สุดแล้วครับ ทำให้ผมซึมซับนิสัยบางอย่างของเขาติดมาด้วยเลย
ที่เฮียดีใจมากคือ ญี่ปุ่นเขาเชื่อใจเรา การถ่ายทอด วัฒนธรรมดีๆของเขาเสริมให้เรา ทำให้พวกเรามีรากฐานที่แข็งแรงด้วยครับ❤
ยิ่งฟังยิ่งเข้าใจเลย ทำไมคนญี่ปุ่นที่ทำงานด้วยถึงขยัน และ เก่ง จริงๆ ยิ่งฟังยิ่งฮึกเหิมครับ
โลกนี้ไม่เคยหยุดสงคราม และยังมีต่อไป
เพลินจนลืมไปว่าเราดูมาเกือบชั่วโมง แต่เวลาเหมือน5นาที เฮียวิทย์จัดลำดับเหตุการณ์ในการเล่าเรื่องได้ดีมากครับ ❤🎉
❤❤❤❤ เคยแต่งงานกับคนญี่ปุ่น อาศัยยุญี่ปุ่น5 6 ปี
คือ ผู้คนมีวินัยสุดยอดมาก
แค่เด็กมัธยม กลับบ้านพร้อมเพื่อนแฟนก็อยากนั่งซ้อนจักรยานกอดกัน คุณตำรวจขี่มอไซร์ผ่านมาเห็น โดนตะโกนไล่ให้ลง5555 จักรยานห้ามซ้อน2จ้า😂😂😂
ไทยเราควรเรียนรู้กับญี่ปุ่นมากๆ ชาติจะยิ่งใหญ่ได้ไม่ใช่สิ่งปลูกสร้าง แต่มันคือการสร้างคนในชาติไม่ใช่อย่างอื่น
อยากให้ ดร.วิทย์ เล่าถึงตระกูล Rotschildหน่อยครับ
เหมือนเคยมีกล่าวถึงอยู่นะครับ
@@Jaewjawkung อยากฝห้เล่าตั้งแต่ต้นตระกูลเลยครับ
จากประเทศก้าวร้าว กลายเป็น ประเทศรักสงบมากๆ
นาทีที่ 10 ผมว่า เหตุผลที่ไทย ทำไมไม่เจริญเท่าญี่ปุ่นทั้งๆที่ปฏิวัติเมจิ ตรงกับสมัยร. 5 เช่นกัน หยาบไปหน่อยนะคับ โดนต่างชาติ เอาเรือมาจ่อเหมือนกัน มี king เหมือนกัน คงไม่ใช่แค่ความทะเยอทะยานของชาติเท่านั้น ที่ทำให้ญี่ปุ่นทิ้งไทยไม่เห็นฝุ่น
🙌 มาแล้วๆ EP.2 สานต่อวิถีแห่งซามูไร และที่โดนเด่นที่สุดคือ Soft Power มังงะ อาหารญี่ปุ่น ดอกซากุระ แค่นี้ก็กินขาดแล้วคะ ❤️🌸🌈
ตอนแรกมีลิงค์ไหมครับ
ผมขอบคุณรายการนี้มากๆครับ ติดตามมาตลอด เหนือสิ่งอื่นใดไม่ใช่แค่สาระครับเฮียวิทย์สามารถุบอกที่มาที่ไปสาเหตุและเหตุการณ์ทุกอย่างที่ประกอบเกิดเป็นราชณาอาจักรนั้นๆ ผมเชื่อว่าหากประเทศเรามีรายการแบบนี้มากพอ เราเรียนรู้ความเป็นมาของชาติต่างๆได้ มันก็จะทำให้เรารู้จักเขา เราด้อยกว่าตรงไหน ตรงไหนที่เราทำแบบเขาไม่ได้ แล้วเราคนไทยมาทำให้ดีกว่าเขากันเถอะครับ ถ้าญีปุ่นคือครั้งแรกที่ผิวเหลืองชนะผิวขาว สักครั้งที่ 10 อาจจะเป็นเราก็ได้ 😊
โอชิน ละครที่จําได้จนทุกวันนี้ ดูตอนเด็กๆช่อง3มั้งถ้าจําไม่ผิด พยายามดูเพื่อหวังว่าตอนท้ายๆโอชินจะชีวิตดีขึ้นซักทีเเบบเเฮปปี้เอนดิ้ง ดูจนจบเหนื่อยมาก ดราม่าต่อๆกันไม่หยุดเลย
จริงครับ คิดเหมือนกันเลย แต่ ชีวิตคนชาติพัฒนาแล้ว เจริญแล้วเขาก็ไม่หยุด ทำให้เหนื่อยตลอดเลยครับ ความร่ำรวยและการพัฒนาสูงแลกมาด้วยความลำบาก และ paranoid ครับ
ผมเข้าใจญี่ปุ่นช่วงนี้นนะ ถ้าไม่ตั้งเป้าขยายอิทธิพลออกไปสู้กับชาวตะวันตก จะเริ่มสู้และขัดแย้งกันเองในประเทศ
ส่วนตัว จากที่อยู่ญี่ปุ่นมาเข้าปีที่ 7 ผมมองว่าญี่ปุ่นกลับมาไม่ได้หรอกครับ ไม่สามารถเป็นผู้นำไม่ว่าจะในด้านไหน เต็มที่ก็เก่งกันเองภายใน กับบริษัทข้ามชาติแค่บางแห่ง คนไทยถ้าไม่สะดุดขาตัวเองสู้ญี่ปุ่นได้สบายๆ ครับ
ไม่รู้ว่าถ้ามีสงครามจริง mentality ตอนนี้จะเปลี่ยนไหมนะ
สู้กับญี่ปุ่นด้านไหนครับ
สู้ได้ทุกอย่างแหละ แต่มันไม่ได้เงินทอนไง
อย่าเวอร์ครับความรู้เขาสูงอันดับหนึ่งชองโลกนู้น
ถ้าคนไทยไม่เก่งกันเองภายในนะครับ.
5555++
ไทยเป็นประเทศเดียวที่อยู่ในวงล้อมสงครามที่เสียหายน้อยที่สุด และไม่เคยตกเป็นอาณานิคมของตะวันตกทำให้ไม่ถูกโจมตี ต้องยอมรับวิสัยทัศน์ของผู้นำไทยในตอนนั้นที่เอาตัวรอดมาได้ และถ้าญี่ปุ่นชนะไทยก็ชนะด้วยแต่ญี่ปุ่นแพ้ไทยไม่แพ้ตาม เพราะเรามีเสรีไทยที่ช่วยเหลือฝ่ายพันธมิตร ขอบคุณผู้นำไทยในยุคนั้นที่นำพาประเทศไม่ให้บอบช้ำในยุคนั้นมาได้
อีกเรื่องนึงที่ต้องพูดถึงเรื่อง ฟุตบอลเขาไปไกลมากจริงๆ ผลงานฟุตบอลโลกครั้งล่าสุดถือว่าเซอร์ไพร์มาก ญี่ปุ่นมันพัฒนาเก่งจริงๆ
ณ เวลานี้ ก้ยังเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอยู่คับ top5 ยังไงก้ติดญี่ปุ่น
สนุกมากครับอาจารย์วิทย์
รอตอนหน้าเลยยยย
สนุกมากเลยค่ะ อยากฟังตอนต่อไปเร็วๆเลย แล้วอยากรู้ด้วยเกี่ยวกับสถานการณ์ตอนนี้ ที่เศรษฐกิจญี่ปุ่นเหมือนจะไม่ค่อยดี สังคมผู้สูงอายุ บ้านร้างเยอะ เก็บภาษีที่ดินแพง คนฆ่าตัวตายเยอะ สังคมการทำงานที่เน้นระบบรุ่นพี่และต้องทำโอทีเยอะๆทำงานหนักๆ อะไรแบบนี้จะพูดถึงมั้ยคะ ขอบคุณมากค่ะ
แต่ประเทศนั่นเก่งเทคโนโลยีมากๆถึงมันเป็นปัญหาคือการฆ่าตัวตายแต่อาชญกรรมน้อยสุดในโลกผมว่ามันหารกันนะคือคนญี่ปุ่นตายก็ตายไปคนเดียวไม่เป็นภาระไล่กราดยิงคนอื่น
@@user-ld9tl7bz4v รู้ได้ไง ญี่ปุ่นอาชญากรรมน้อยสุดในโลก อดีตนายกชินโซอาเบะถูกลอบสังหาร หลายปีก่อนสถานีรถไฟใต้ดิน ชาวญี่ปุ่นแต่งชุดโจ๊กเกอร์ไล่แทงคนบาดเจ็บ10กว่าคน เมื่อเร็วๆนี้ ผู้หญิงไทยคนเดียวไปเที่ยวญี่ปุ่น โดนคนญี่ปุ่นลวนลามในรถไฟใต้ดิน กรีดร้อง แต่ไม่มีคนช่วย แสดงว่าคนญี่ปุ่นเห็นแต่ตัว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยว อย่าเดินทางคนเดียวโดยเฉพาะผู้หญิงนะ
คนญี่ปุ่นหยิ่งทะนงตน ไม่พึ่งพิงใคร หากชีวิตล้มเหลว จะไม่ร้องขอให้ใครช่วยเหลือ เมื่อพ่ายแพ้ขอตายดีกว่าจะเสียศักดิ์ศรี
ปุ๋ยแถมผีเพียบ
ปุ๋ยแถมผีเพียบ
ส่วนตัวก็ชื่นชอบญี่ปุ่น พอได้มาฟังแล้วทำให้รู้สึกว่าประเทศที่น่ากลัวมากในเรื่องความสามัคคีและการปรับตัวอย่างพร้อมเพรียง ผมตั้งตารอคำตอบของคำถามช่วงท้ายเลยครับ เรื่องการปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีใหม่ๆ เพราะสิ่งที่ติดในใจผมมาตลอดคือ ปัญหาเรื่องประชากรและแรงงานของญี่ปุ่น วิธีแก้ปัญหานี้คือเทคโนโลยี AI หุ่นยนต์ ที่ควรจะมาแทนแรงงานที่ขาดหาย และด้วยความสามารถในการปรับตัวอย่างพร้อมเพรียง ประเทศนี้ควรจะเป็นหนึ่งในประเทศแรกๆ เลย ที่จะได้เห็นหุ่นยนต์และเทคโนโลยีที่ล้ำมากๆ ตามที่ต่างๆ ในชีวิตประจำวัน ปัญหาเรื่องแรงงานและผู้สูงอายุควรที่จะเป็นปัจจัยสำคัญและแรงผลักดันอย่างมากเลยในการพัฒนาเทคโนโลยี
ชอบมากๆครับ
สุดจริง รอติดตามต่อครับ
รอ ep ถัดไปค้า
สนุกมากๆเลยครับ
รอ ep. ต่อไปเลยครับ
ถ้าสังเกตรอบๆ ก็จะเห็นว่าญี่ปุ่นปรับตัวเป็นผู้ให้มานานแล้ว เช่น สะพาน ถนน อาคาร วิทยาลัย ไทย-ญี่ปุ่น อาสามัคร มูลนิธิฯ แล้วพวกเขาไม่ได้ช่วยแค่บ้านเรา ต้องบอกว่าทั่วโลก ตะวันออกกลาง เอเชีย จะมีหน่วยงานทั้งรัฐ และ เอกชนมีส่วนช่วยประเทศต่าง ๆ ตัวอย่างก็ รถไฟฮอกไกโด ที่เขาบริจาคให้ เป็นตัวอย่างผู้ที่พัฒนาแล้ว กลายเป็นผู้ให้
ขอบคุณมากๆค่ะ สนุก น่าติดตาม ❤❤
ขอบคุณครับ ชอบมากกกกก
มันส์มาก
ขอบคุณครับ สนุกมาก รอตอนหน้านะครับ
บางช่วงเสียงเบามากครับแทบไม่ได้ยิน จังหวะที่เน้นเสียงจะได้ยินชัดเจนเป็นหลายคลิปเลยครับ
รอฟังเลยครับ
ติดตามค่ะชอบทั้ง2ท่านมากค่ะ
รออีพีหน้าเลยคับ สนุกมาก
สนุกมากจริงๆครับ
ชอบมากเลยครับ
ฟังเพลินมาก
สุดๆชอบมากครับ
สนุกมากเลยครับ
สนุกมากครับ
รอตอนต่อไปค้าบบบบ 😊
รอ ep ต่อไป
ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ
ทั้งพิธีกรและผู้เล่า ตอบโต้กันได้น่าฟังมากๆ ชอบรายการนี้ 🧡
รอตอนหน้าคุยเรื่องกีฬากับ soft power ครับ
อยากดูตอนหน้าเแล้วละค่ะ ชอบบบบมากก ญี่ปุ่นสู้ๆ
สนุกๆมากๆ คับ
ปล่อยตอน3ต่อเลยได้ไหม กำลังสนุกเลย
ฟังแล้วขนลุก เฮียเล่าได้อารมณ์มาก
EP. นี้ผมรักเฮียวิทย์เลยครับ ชอบมากกกกกก❤❤❤❤❤❤❤❤
ญี่ปุ่นคือประเทศ ที่ผมชอบทีสุดเลยครับ
ชอบมาก เฮียวิทย์อธิบาย มากๆ
มันส์...สนุกมากครับ
มันสุดๆครับ ญี่ปุ่น
เข้าใจเกาหลี เข้าใจจีนมากขึ้น
โดยเฉพาะเกาหลี ว่าทำไมเกาหลียังบรรจุเรื่องความเกลียดชังญี่ปุ่นลงในบทเรียนให้นักเรียนได้เรียน ให้ระลึกถึงและคงไว้ซึ่งความโกรธแค้นในอดีต
คนเป็นเหยื่ิอคงไม่มีวันลืมความเจ็บปวด
สนุกมาก เห็นภาพ เห็น timeline
ชอบเวลาเฮียกับพี่เคนเล่ามากครับ ฟังไม่เคยเบื่อเลย
ยิ่งฟังยิ่งข่นลุกครับ
คุณเคนหลงใหลในตัวคุณเฮียวิทย์มาก 😅😅😅 เหมือนฟังอาจารย์เล่านิทานเลย❤❤❤
เล่าได้สนุกมากครับ
EP นี้ฟังแล้วมันส์มากเลยเฮียวิทย์ ชอบ
รอค่ะ สนุกและได้ความรู้มากๆ ค่ะ ❤❤
ได้ทั้งความสนุกเเละสาระครับผม
ได้ความรู้มากๆ ขอบคุณคุณวิทย์คุณเคน👍👍👍🌺🌺
สนุกมากครับ รอชม ตอนต่อไปแบบมีความหวัง
รอชมทุกตอนเลยฮ่ะ
อยากฟังเรื่องAnthropoceneครับ
มันส์
รอมาหลายวันเลยครับ มาแล้วว
เล่าประวัติศาสตร์ได้สนุกมาก
เล่าได้สนุก มีสาระมากๆ contentคุณภาพจริงๆค่ะ
สนุกมากกก
สุดครับเฮีย
รักสองท่านนี้ค่ะ🥰 ขอบคุณเนื้อหาดีๆแบบนี้ ชอบมากค่ะสารคดี
Mind set คนญี่ปุ่นสุดยอดมาก
ประวัติศาสตร์เดินซ้ำรอย
ชอบฟังเฮียวิทย์เล่ามากๆค่ะ เพลินมาก
ขอบคุณสำหรับการเล่าเรื่องประวัติศาสตร์ค่ะ สนุกและได้ความรู้มาก
สนุกและมีประโยชน์มากๆครับ ขอสรรเสริญรายการนี้ครับ
คำถามทิ้งท้ายน่าสนใจมากครับ ญี่ปุ่นหายไปไหนครับ
ชอบประโยคนี้มากเลย "ไม่ว่าจะทำอะไรเราจะเหนือกว่าผู้อื่นเสมอ"
เข้าใจง่าย ลำดับเหตุการณ์ได้ดีสุดๆ รอไม่ไหวแล้ว อยากฟังต่อ
เชื่อมไปถึงรอดชายน์เลย เฮียวิทย์เล่าได้สนุกมากๆ เซอร์ไพรส์ทุกบทค่ะ
อาจารย์ เสียงช้ดแต่เวลาเน้นคำสำคัญทำไมกระซิบเบา ฟังไม่ต่อเนื่อง
❤❤ชอบมากกก
ชอบเรื่องราวครับ แต่เปลี่ยนช่างแต่งหน้าใหม่เถอะครับ ลอยมาก
ชอบเฮียวิทย์ มากคับ ติดตามทุกช่อง ดูทุก ep เลยคับ เฮียวิทย์ทำออกมาบ่อยบ่อยนะคับ❤
เย้ๆๆๆมาแล้ววว ชอบฟังมากๆค่ะ สนุกเหมือนคุณพ่อเล่าเรื่องให้ฟังก่อนนอน