Facebook : Dr.Hope.PlasticSurgery
Line : @dr.hope lin.ee/rtqqStn
instagram : dr.hope.plasticsurgery
Twitter : DrHope_Plastic
Website : www.doctorhopeplasticsurgery.com
Email : dr.hope.plasticsurgery@gmail.com
Please Call : 095-465-5566
ในปัจจุบันการเสริมจมูกแบบโอเพ่นเป็นที่นิยมกันมากขึ้น ซึ่งในต่างประเทศก็ถือว่าเป็นวิธีหลักในการเสริมจมูกแล้ว ในประเทศไทยแนวโน้มการเสริมแบบโอเพ่นก็มากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากมีความรู้ความเข้าใจในข้อจำกัดและภาวะแทรกซ้อนของวิธีการเดิมๆมากขึ้น ในการเสริมแบบโอเพ่นสิ่งที่มาควบคู่กันก็คือการใช้กระดูกอ่อน ซึ่งกระดูกอ่อนมีจาก 3 ส่วนที่เอามาใช้กัน นั่นก็คือ ผนังกั้นจมูก ใบหู และซี่โครง ส่วนตัวผมใช้กระดูกอ่อนซี่โครงเสริมจมูกเป็นหลัก คือมากกว่า 90% ของการเสริมจมูกที่ผมทำผมใช้ซี่โครงในการเสริม ซึ่งผมทำด้วยวิธีการนี้มาหลายปีแล้วครับ ในปัจจุบันก็เห็นแพทย์ท่านอื่น คลินิกต่างๆ เริ่มใช้ซี่โครงในการเสริมจมูกกันมากขึ้น ก็คงจะมีความเห็นในทิศทางเดียวกันว่าเป็นวิธีการที่ดีครับ
ในคลิปนี้ผมจะเน้นในเรื่องการใช้กระดูกอ่อนซี่โครงสับละเอียด ถ้าใครอยากรู้เกี่ยวกับการใช้กระดูกอ่อนซี่โครงเสริมทั้งหมดว่าทำอย่างไร สามารถไปดูได้ในคลิป เผยความลับ เสริมจมูกโอเพ่น ใช้ซี่โครง
การใช้กระดูกอ่อนซี่โครงสับละเอียดจะใช้เสริมบริเวณสันจมูกเท่านั้นนะครับ ไม่ได้ใช้ทั้งจมูก คือในการเสริมจมูกแบบโอเพ่นจะทำส่วนปลายจมูกและสันจมูกแยกกัน ไม่เหมือนการเสริมด้วยซิลิโคนที่จะเป็นแท่งเดียวยาวตลอดทั้งจมูก โดยการเสริมปลายจมูกโดยวิธีโอเพ่นจะทำโดยการปรับโครงสร้างให้ปลายโด่งขึ้นซึ่งผมจะไม่พูดถึงในคลิปนี้ถ้าอยากรู้สามารถย้อนดูคลิปก่อนๆได้ครับ เมื่อเราทำปลายจมูกให้โด่งขึ้นโดยวิธีการปรับโครงสร้างแล้ว สิ่งที่จะทำถัดมาคือการเสริมสันจมูก โดยการเสริมสันจมูกมีทั้งการใช้วัสดุสังเคราะห์และการใช้เนื้อเยื่อของคนไข้เอง ซึ่งเนื้อเยื่อของคนไข้ที่มีมากพอจะเสริมสันจมูกได้ก็คือกระดูกอ่อนซี่โครง การเสริมสันจมูกด้วยกระดูกอ่อนซี่โครงคนส่วนใหญ่มักจะเข้าใจว่าทำได้วิธีเดียวคือเอาซี่โครงทั้งแท่งมาเหลา เหมือนการเหลาซิลิโคน โดยส่วนตัววิธีการนี้ผมไม่เคยใช้เลยเพราะผมยังไม่เห็นข้อดีใดๆของวิธีการนี้ การเอากระดูกอ่อนซี่โครงทั้งแท่งมาเหลามีโอกาสเกิดปัญหาได้หลายอย่าง
1.อาจมีการโค้งตัวได้หรือที่เรียกว่า warping ซี่งการโค้งตัวนี้เกิดได้ตั้งแต่เวลาครึ่งชั่วโมงหรือผ่านไปเป็นเดือน สาเหตุเกิดจากแรงตึงผิวของซี่โครงมีการเปลี่ยนแปลงไป เวลาเราเอาซี่โครงมาเหลาส่วนที่อยู่บริเวณผิวด้านนอกก็จะถูกเหลาเอาออกไปเพื่อให้ได้รูปทรงที่ต้องการ แรงตึงผิวก็มีการถูกรบกวนและทำให้เกิดการโค้งตัวตามมา
2.เราต้องเอาซี่โครงออกมาใช้ยาวมาก เอาซี่โครงออกมายาวแผลผ่าตัดก็ต้องยาว อีกทั้งเมื่อเราเหลาเอาแค่ส่วนตรงกลางที่ต้องการ ส่วนที่เหลือก็ไม่ได้ใช้และทิ้งไป
3.มีโอกาสที่กระดูกอ่อนซี่โครงจะไม่แนบกับฐานกระดูกด้านล่าง เนื่องจากเวลาผ่าตัดจะมีการฉีดยาชาและมีการบวมของเนื้อเยื่อที่คลุมกระดูกทำให้ไม่เห็นว่าจริงๆแล้วรูปทรงของกระดูกเป็นอย่างไรการเอาซี่โครงไปวางทาบแล้วเหลาให้แนบจึงเป็นเรื่องยากมาก
4.ถ้าซี่โครงมีหินปูนเกาะจะเหลาไม่ได้ เพราะมีดตัดไม่เข้า ถ้าเจอเหตุการณ์นี้ก็จะต้องใช้เครื่องกรอกระดูก ซึ่งก็จะเกิดความร้อนขึ้นบนกระดูกอ่อนนั้น แล้วมีการยุบตัวตามมา
ด้วยข้อจำกัดและข้อด้อยต่างๆของการใช้กระดูกอ่อนเหลา ทำให้ผมเลือกใช้กระดูกอ่อนซี่โครงสับ หรือเรียกว่า dice cartilage เมื่อเราเอากระดูกอ่อนซี่โครงมาสับเป็นชิ้นเล็กๆ เรื่องการโค้งงอตัวของกระดูกอ่อนหรือ warping ก็ไม่มีผลอะไรอีกต่อไป ความยาวของกระดูกอ่อนที่เอาออกมาใช้ก็ไม่ต้องยาวเท่าวิธีเหลา โดยความยาวที่ผมใช้จะอยู่ที่ 3.5-4 เซนติเมตร เนื่องจากว่าเราเอาเศษของซี่โครงที่เหลือจากการใช้ปรับโครงสร้างปลายจมูกมาใช้ได้ และเมื่อซี่โครงสับปัญหาเรื่องการไม่แนบกับฐานก็จะหมดไป กระดูกอ่อนสับจะประสานกลับเป็นเนื้อเดียวกันในเวลา 2 สัปดาห์ และมีความแข็งเหมือนกระดูกจมูกจริงครับ
มีแพทย์หลายท่านบอกว่าการใช้กระดูกอ่อนสับมีข้อเสียหลายอย่าง เช่น อาจคลำได้หรือเห็นความขรุขระของกระดูกอ่อนสับ มีอัตราการยุบตัวที่มากกว่ากระดูกอ่อนเหลา หรือไม่สามารถคงรูปร่างได้ดี ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ไม่เป็นความจริงถ้าใช้เทคนิคการผ่าตัดที่ดีพอ ผมจะอธิบายให้ฟังทีละเรื่องครับ
การคลำได้หรือเห็นความขรุขระของกระดูกอ่อน สาเหตุเกิดจากการสับกระดูกอ่อนที่ไม่ละเอียดมากพอครับ ในหนังสือบางเล่มบอกไว้ว่าขนาดของกระดูกอ่อนที่สับแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 1 มิลลิเมตร ซึ่งถ้าทำตามนี้ จะขรุขระแน่นอนครับ ขนาด 1 มิลลิเมตรนี่ใหญ่มากเลยนะครับ ซึ่งผมจะสับละเอียดกว่านี้มาก ดังนั้นการที่บอกว่าขรุขระ ไม่เรียบเกิดจากการสับไม่ละเอียดมากพอนั่นเองครับ
ส่วนเรื่องการยุบตัว หรือไม่สามารถคงรูปร่างได้ดี ก็เกิดจากการสับไม่ละเอียดเช่นกันครับ ลองเปรียบเทียบก้อนกรวดกับทรายดูนะครับ ก้อนกรวดมีขนาดใหญ่และหยาบกว่าทราย ทำให้มีช่องว่างระหว่างกรวดแต่ละเม็ด ต่างกับทรายที่ละเอียด จะไม่มีช่องว่างอยู่ระหว่างเม็ดทรายเลย การสับกระดูกอ่อนก็เช่นกันครับ ถ้าไม่ละเอียดมากพอก็จะมีช่องว่าง และเป็นสาเหตุให้ยุบตัวตามมาครับ
หลายๆคนคิดว่ากระดูกอ่อนสับจะไม่สามารถคงรูปร่างได้ดี ลองนึกถึงตอนที่เราไปเที่ยวทะเล สร้างปราสาททรายที่ชายหาด มันก็เหมือนกันครับ ทรายที่เปียกพอดีๆมันจะเกาะตัวกันได้ครับ สำหรับกระดูกอ่อนการเกาะตัวจะแข็งแรงขึ้นเรื่อยๆและจะยึดติดรวมเป็นเนื้อเดียวกันได้ครับ
ในเรื่องเทคนิคการใช้กระดูกอ่อนสับละเอียดที่ผมเล่าให้ฟังนี้ ผมเคยได้ไปบรรยายในงานประชุมวิชาการมาแล้วหลายครั้ง ทั้งในประเทศไทยและที่ประเทศเกาหลีครับ