เกษตรพึ่งตน : จุลินทรีย์ท้องถิ่น
Vložit
- čas přidán 13. 11. 2021
- เกษตรพึ่งตน EP#32 : จุลินทรีย์ท้องถิ่น
จุลินทรีย์ดั่งเดิมในท้องถิ่นมีความสำคัญมาก ถ้าจะนับเวลาที่สิ่งมีชีวิตเหล่านี้ดำรงอยู่ในสภาพแวดล้อมก็จะยาวนานนับ 1,000 ปี จุลินทรีย์เหล่านี้มีพัฒนาการเพื่อการอยู่รอดและปรับตัวให้คงทนต่อสภาพที่ไม่เหมาะสมมานานแล้ว เมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมจุลินทรีย์ท้องถิ่นเหล่านั้นจะมีประสิทธิภาพในการทำงานที่สูง และมีกิจกรรมมาก
จุลินทรีย์ท้องถิ่น สามารถเก็บได้จากหลายแหล่ง เช่น จากภูเขา เนินเขา ป่าสน ป่าผลัดใบ ในป่าที่ชุ่มชื้นจากป่าไผ่ ใบไผ่ทุกชนิด เศษใบไม้ที่เน่าสลาย จะพบว่าด้านล่างของเศษพืชที่กำลังย่อยสลาย เหล่านั้นจะอุดมสมบูรณ์ไปด้วยราขาว (จุลินทรีย์ท้องถิ่น) แต่ที่พบมากและมีตามหมู่บ้าน ชุมชน ได้แก่ ใต้ต้นไผ่ เศษใบไม้ไผ่ที่กำลังย่อยสลาย
ขั้นตอนการเก็บจุลินทรีย์ท้องถิ่น
1. หุงข้าวเจ้าจำนวน 1 ลิตร ให้สุกเหมือนใช้รับประทาน
2. เทข้าวลงในกะบะสี่เหลี่ยมให้หมดห้ามข้าวสัมผัสกับมือเด็ดขาดจะทำให้ข้าวเน่าเสีย
ใช้ทัพพีเกลี่ยข้าวให้ทั่วกะบะ
3. ปิดกะบะด้วยกระดาษบรุ๊ฟสองชั้น และใช้เชือกฟางมัดให้แน่น
4. นำไปวางใต้ต้นไผ่ที่เห็นว่ามีเชื้อราขาวก่อนวางใช้ไม้ไผ่เล็กๆ รองพื้นแล้วนำกะบะวางลงไป
ใช้ใบไผ่คลุมทับกะบะเพื่อควบคุมความชื้น
5. คลุมพลาสติกบนตาข่ายหรือสุ่มไก่ เพื่อป้องกันน้ำและสัตว์เข้าทำลายทิ้งไว้นาน 3-4 วัน ถ้าเป็นฤดูหนาวจะใช้เวลานานประมาณ 5-6 วัน
6. เมื่อครบกำหนดเปิดดูและพบราขาวขึ้นมากกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ สามารถนำไปใช้ได้
การเก็บรักษา
1. ใช้มือขยำเชื้อราขาวกับข้าวให้เละเหมือนโคลนทำในกะบะและสามารถใช้มือสัมผัสได้
ใส่น้ำตาลทรายแดง 1 กิโลกรัม เพื่อเป็นอาหารของจุลินทรีย์ ลงในกะบะและใช้มือขยำคลุกเคล้าผสมกันให้ทั่ว
นำไปใส่ในขวดโหลหมักทิ้งไว้ 4-5 วัน เก็บไว้ในที่ร่ม แล้วนำไปใช้ สามารถเก็บไว้ได้นาน 12 เดือน
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ...
กล้วยน้ำหว้ากินไม่หมดเน่ามีราขาวขึ้น ราขาวที่เกิดขี้นเป็นจุลินทรีย์ท้องถิ่นมั้ยคะ
ต้นกล้วย ผลกล้วยจะมีราขาวเป็นจุลินทรีย์ประจำตัวอยู่แล้ว ส่วนจุลินทรีย์ท้องถิ่นควรเก็บมาจากดินที่อุดมสมบูรณ์ เช่น ดินป่า ดินขุยไผ่ จะมีจุลินทรีย์ที่หลากหลายกว่าครับ
จุลินทรีย์หน่อกล้วยจัดเป็นจุลินทรีย์ท้องถิ่นไหมครับ
@@wisantidetchian4817 จุลินทรีย์หน่อกล้วยเป็นจุลินทรีย์เฉพาะที่มีกับกล้วย แต่จุลินทรีย์ท้องถิ่นจะหมายรวมถึงจุลินทรีย์ที่มีความหลากหลายมากกว่า มีทั้งเชื้อรา แบคทีเรีย ไวรัส สิ่งมีชิวิตขนาดเล็กที่อาศัยรวมกันอยู่ในระบบนิเวศพื้นที่นั้นๆ ดูแลและจัดการกันเอง
@@kasetphungton ขอบคุณครับ
ขอสอบถาม... การนำไปใช้ประโยชน์ อะไรและอย่างไรครับ? เป็นปุ๋ย หรือ ช่วยในการย่อยสลายทำปุ๋ยหมักครับ?
เป็นหัวเชื้อจุลินทรีย์ นำไปช่วยย่อยสลายอินทรีย์วัตถุ ให้เป็นฮิวมัส กลายเป็นธาตุอาหารพืช, ช่วยย่อยสลายผัก ผลไม้สด ให้เป็นอาหารสัตว์ ธาตุอาหารพืชแบบน้ำหมัก ครับ
ถ้ามีสปอร์สีดำเกิดจะใช้ได้ไหมครับ
ปรกติถ้าเป็นราสีดำจะเป็นราตัวร้าย ไม่นิยมนำไปใช้ครับ
ถามเพิ่มเติมครับ
ถ้าผมใช้เศษอาหารที่ผสมกับกองใบไม้ราดด้วยปัสสาวะผสมจูลินทรีย์สังเคาระห์แสง+น้ำจะได้รึเปล่าครับ
ขออภัยที่ถามเยอะครับผมอยากลองทำแบบไม่ต้องใช้เงินในการซื้อมูลหรือน้ำตาลดูครับ
การหมักปุ๋ยชีวภาพ ด้วยเศษอาหาร(มีจุลินทรีย์ช่วยย่อย)+ใบไม้(อินทรีย์วัตถุ)+ปัสสาวะ(ยูเรียน้ำ) เติมจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง ช่วยกระตุ้นการย่อยสลาย สามารถทำได้อาจต้องระวังเรื่องเศษอาหาร อาจต้องคัดส่วนที่เป็นกรดมะนาว, เผ็ดจัด ออกก่อน จะช่วยให้ย่อยสลายดีขึ้น
เก็บดินที่มีจุลินทรีย์ท้องถิ่น ผสมลงในข้าวเลยได้ไหมครับ แล้วรอให้เกิดราขาว ก่อนนำไปใช้
สิ่งที่เราต้องการคือจุลินทรีย์ท้องถิ่น เราจึงนำข้าวใส่กระบะวางไว้ในที่ที่มีจุลินทรีย์ ถ้าเรานำดินที่คิดว่ามีจุลินทรีย์ท้องถิ่นมาผสมข้าว จะมีทั้งอินทรีย์วัตถุ หิน ทรายและสิ่งเจือปนอื่นๆ มาผสม ทำให้อาจจะไม่ได้จุลินทรีย์ท้องถิ่นที่ดีครับ
อัดตราการขยายหัวเชื่อจุลลินทรีย์ ขยายยังไงครับอาจารย์ คือกรณีทีเราจะนำเอาไปใช่ครับ
จุลินทรีย์ท้องถิ่นเป็นหัวเชื้อต้นทาง นำไปใช้ในการหมักปุ๋ยชีวภาพ น้ำหมักชีวภาพ
เริ่มต้นด้วยการนำหัวเชื้อไปขยายโดยนำไปผสมคลุกเคล้าน้ำตาล 1:1 ผสมน้ำ 10 ส่วน หมักไว้ 3-5 วัน แล้วนำไปใช้ในการหมักปุ๋ยชีวภาพหรือน้ำหนักชีวภาพตามอัตราส่วน 3 1 1 10 เช่น น้ำหมักผลไม้ ใช้ผลไม้ 3 ส่วน น้ำตาล 1 ส่วน จุลินทรีย์ 1 ส่วน น้ำ 10 ส่วน เป็นต้น
วิธีนำไปใช้งานคับ?
จุลินทรีย์ท้องถิ่นเป็นหัวเชื้อต้นทาง นำไปใช้ในการหมักปุ๋ยชีวภาพ น้ำหมักชีวภาพ
เริ่มต้นด้วยการนำหัวเชื้อไปขยายโดยนำไปผสมคลุกเคล้าน้ำตาล 1:1 ผสมน้ำ 10 ส่วน หมักไว้ 3-5 วัน แล้วนำไปใช้ในการหมักปุ๋ยชีวภาพหรือน้ำหนักชีวภาพตามอัตราส่วนที่กำหนด
@@kasetphungtonมีทำเป็นคลิปมั้ยคะ
ขอบคุณครับ