Velikost videa: 1280 X 720853 X 480640 X 360
Zobrazit ovladače přehrávání
Automatické přehrávání
Přehrát
ขอนอบน้อมพระธรรมบรรยาย ท่านพุทธทาส ( พระธรรมโกศาจารย์ ) สาธุ สาธุ สาธุ ครับ
สาธุสาธุสาธุ. ได้น้อมนำมาปฏิบัติตามพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าทุกประการแล้วเจ้าค่ะ...และยิ่งเข้าใจเป็นการเข้าใจและชัดเจนมากยิ่งขึ้นตามที่ท่านพุทธทาสย้ำเตือนได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ...สรุปเป็นคำพูดแบบบ้านๆๆเพื่อเป็นธรรมทานนะคะเพื่อนๆๆก็คือ...เราเรียนรู้ตามที่พระพุทธเจ้าทรงสอนว่า อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เราต้องน้อมนำมาสู่ใจให้ได้ คือ ทุกสิ่งมันไม่เที่ยง มันเป็นทุกข์ ไม่ใช่ตัวใช่ตน แล้วเราจะไปยึดติดทำไม เมื่อทุกข์เกิดขึ้น เราก็แก้ไขให้ดีที่สุด...เพราะทุกสิ่งล้วนมีเหตุและผล บาปบุญเกิดขึ้นเราก็น้อมรับแก้ไขให้ดีที่สุด... แล้วเราก็ปล่้อยทุกข์ที่เกิดขึ้นและแก้ไขให้ดีที่สุดแล้วนั้น...แล้วเราก็ปล่อยไป...จะเป็นอย่างไรคิดเสียว่า...เราทำให้ดีที่สุดแล้ว...จะไปกุมเอาไว้ในมือทำไม เพราะทุกสิ่งมันเป็นแบบนี้อยู่แล้ว...ปล่อยก็คือการปล่อยวาง...โกรธ เกลียด ก็ให้อภัยกันจะได้จบไม่ต้องเกิดภพขาติและเวรกรรมต่อกันต่อไป... ให้สร้างแต่กรรมดี ละเว้นกรรมชั่ว ทำจิตให้บริสุทธิ์ ตามที่พระพุทธเจ้าทรงสอนไว้ บุญก็จะเกิดขึ้นและเพิ่มความเพียรในการปฏิบัติในศีล สมาธิ และปัญญา เมื่อมีบุญบารมีเกิดขึ้นก็จะทำให้เรานั้นมีสมาธิดี และจะทำให้รู้เห็นและรู้แจ้งแทงตลอดคือการรู้เห็นไตรลักษณ์คือการจบภพชาติกันไปจากวัฏฏสงสารต่อไปค่ะ....(ประสบการณ์ตรงคือน้อมนำและเพียรปฏิบัติทุกประการ....สาธุสาธุสาธุ.)
🙏 กราบนมัสการ ท่านพุทธทาส ด้วยความเคารพอย่างยิ่ง 🙏⚓ ขอขอบคุณ ผู้รวบรวมธรรมบรรยาย ของท่านพุทธทาส เพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้ใฝ่ในธรรม ⚓⏲️ พุธ 23 พฤศจิกายน 2565 (04:57) ⏲️
ฟังคลิปท่านพุทธทาสคลิปนี้แล้ว อย่างนี้แหละ คือ บุญสามขา ในความหมาย ความหมายก็คือ การเข้าถึง ใน หลักที่พระพุทธเจ้ารับรองใว้ ว่า เอสะภะคะวะโตสาวะกะสังโค แปลความว่า นั่นแหละสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า ซึ่งมีคุณสมบัติ ดังนี้ คือ๑ สุปฎิปันโนภะคะวะโต สาวะกะสังโค แปลความว่า สงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้านั้นหมู่ใด ปฏิบัติ ดี แล้ว ๒ อุชุปฏิปันโนภะคะวะโตสาวะกะสังโค แปลความว่า สงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้านั้น หมู่ใดปฏิบัติ ตรง แล้ว ๓ ญาญะปฏิปันโนภะคะวะโตสาวะกะสังโค แปลความว่า สงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้านั้นหมู่ใด ปฏิบัติเพื่อรู้ธรรมเป็นเครื่องออกจากทุกข์แล้ว ๔สามีจิปฏิปันโนภะคะวะโตสาวะกะสังโค แปลความว่า สงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้านั้นหมู่ใดปฏิบัติธรรมอันสมควรแล้ว (หมายความว่าทา่น พุทธทาส ท่านบรรลุอริยสัจจธรรมแล้ว ไม่ตัองกับมาเกิดอีกต่อไป
๑๗ มค. ๖๗ กราบเท้าท่านอาจารย์พุทธทาส 🙏
น้อมกราบ หลวงปู่ด้วยเศียรเกล้า เจ้าค่ะ
กราบ สาธุ สาธุ สาธุค่ะ🙏🙏🙏
กราบสาธุค่ะ🙏🙏🙏
สาธุอนุโมทนาครับ
สาธุคับ
กราบโมทนาสาธุๆครับ
ตามเร้ยคะ.ขอบคุณคะ พี่แอดมิน 😊
สาธุครับ
กราบสักการะบูชาหลวงปู่พุทธทาสสูงยิ่งเสมอธรรมพระพุทธเจ้า.🌻สุสฺสูสํ ลภเต ปญฺญํ🌻.ผู้ตั้งใจฟังฯย่อมได้ปัญญา. ..กฏไตรลักษณ์..คือ กฏแห่งความเป็นจริงของสรรพสิ่ง สัตว์ ..กฏธรรมชาติ..คือ กฏแห่งความเป็นจริงของสรรพสิ่ง สัตว์ ..กฏวิทยาศาสตร์..คือ กฏแห่งความเป็นจริงของ การเกิดขึ้นของเหตุ ในปัจจัยที่หามาปรุงแต่งกัน และมันก็ตั้งอยู่ของ ผลที่นำมาปรุงแต่งกัน ให้เกิดประโยชน์กับเราชั่วขณะอายุของมัน เมื่อสิ่งนั้นๆเสื่อมแล้วหมดอายุแล้วมันก็ดับไป....สรูป กฏวิทยาศาสตร์ ก็คือกฏธรรมชาติ กฏธรรมชาติ ก็คือกฏไตรลักษณ์. 🌾พระพุทธศาสนา🌾เป็นศาสนาแห่งวิทยาศาสตร์ ที่ต้องเรียนรู้ในกฏธรรมชาติเป็นหลักเป็นแก่นของการอุบัติ ศาสนา. ธรรมะ ธรรมชาติที่ต้องเข้าใจ ในจิตที่ต้องรู้นั้น คือ ธรรมชาติของคน ของมนุษย์ ที่เกิดมาแล้วต้องรู้และเรียนให้แจ้งใน กำเนิดของตัวเรา กาย จิตใจ ที่ออกจากครรภ์มารดา วาจายังไม่แจ้ง ได้ยินเสียงครั้งเเรก เปล่งวาจาคำแรกออกมา(ร้องให้)มีความหมายก็คือ หิวอยากกิน "ทรัพย์ "ทรัพย์คำแรกคือ นม นะ มะ นะ โม ก็คือ ธาตุน้ำ และ ธาตุดิน ของแม่และพ่อ. พะ ทะ ต้องเกิดขึ้นกับเราทันที่หลุดจากครรภ์มารดา ครั้งอยู่ในครรภ์นั้นยังใช้ พะ ทะ ของมารดาอยู่ เมื่อคลอดแล้ว พะ ทะนั้น นะโมต้องสร้างขึ้นใช้เองในจิตธรรมที่นำมาเกิด...
สาธุอนุโมทนาขอบคุณ ที่ได้อธิบายขยายกฎไตรลักษณ์ ให้ผู้สนใจในธรรมะได้เข้าใจเพิ่มมากขึ้นครับ🙏🙏🙏
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
🙏🙏🙏 สาธุ.
สาธุอนุโมทนาครับคุณแวววา สุราษฎร์ธานีเมืองแห่งคนดี👍🙏🙏🙏
ขออนุโมทนาครับแอด
สาทรอมวัฒนะขอบคุณครับคุณพี่ปัญญา
ที่ผ่านมาผู้สัทธาท่านพุทธทาส ได้ฟังธรรมของท่านแล้วมีความเข้าใจหรือเปล่า ต่อไปผู้พูดนี้ จะแสดงความหมายให้ท่านเข้าใจง่ายขึ้น ท่านจะเข้าใจสี่อย่างพรอ้มกันในที่เดียวกัน เช่น 1 รูปนาม 2 พระไตรลักษ์ 3 อิทัปปัจจัตตา 4 ปฎิจจสมุปบาท 4 อยา่งเกิดขึ้นพร้อมกันเกิดในเวลาเดียวกัน เช่นท่านหิวข้าว ท่านต้องนึกถึงอาหารที่ชอบ ภาพอาหารเกิดขึ้น คือรูป ใจนึกคิดคือ นาม 1อย่างแล้ว 2 ธรรมทั้งหลายมีเหตุเป็นแดนเกิด คือหิวเป็นเหตุ เหตุเกิดขึ้นแล้ว ก็เป็นอนิจจัง คือไม่เที่ยง ๆคืออยู่เฉยไม่ได้จะต้องมีอาการแปลปรวน คือเดินไปกินข้าว อย่างนี้เรียกว่า ทุกขัง แล้วอนัตตาคือบังบัญชาไม่ได้ อย่าหิวน๊า อย่าเดินไปกินข้าวน๊า สั่งห้ามไม่ได้ แล้วต่อไปกินข้าวคำแรกความหิวเริ่มหายไป จนถึงคำสุดท้ายคืออิ่ม ความหิวหมดไปเสื่อมไปหายไปดับไปไม่มีเหลือ 3 กฎอิทัปปัจจัตตา มีสิ่งนี้ สี่งนี้ก็มีต่อ เช่นหิวข้าว ก็ต้องกินข้าว แล้วก็ กินนำ้ ซึ่งมีการสืบต่อไปเรื่อยๆ เหมือนกับปฎิจจสมุปปบาท มีอวิชชา เป็นปัจจัย ให้เกิดสังขาร แล้วก็ต่อไปเรื่อยๆ สิ่งนี้คือธรรมชาติ แค่เหตุหิวข้าว ธรรมทั้สี่อย่างเขาเกิดให้เราพร้อมกัน เขาเป็นเช่นนี้เอง ท่านทั้งหลายเข้าใจแล้วนะ๊
ขอน้อมกราบขอบพระคุณหลวงพ่อพุทธทาสเป็นอย่างสูงและขอบคุณท่านที่นำม่าเผยแพร่่ด้วยค่ะ
อนุโมทนาสาธุขอบคุณครับ
🙏🙏🙏
จัดไป สาธุ
ขอนอบน้อมพระธรรมบรรยาย ท่านพุทธทาส ( พระธรรมโกศาจารย์ ) สาธุ สาธุ สาธุ ครับ
สาธุสาธุสาธุ. ได้น้อมนำมาปฏิบัติตามพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าทุกประการแล้วเจ้าค่ะ...และยิ่งเข้าใจเป็นการเข้าใจและชัดเจนมากยิ่งขึ้นตามที่ท่านพุทธทาสย้ำเตือนได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ...สรุปเป็นคำพูดแบบบ้านๆๆเพื่อเป็นธรรมทานนะคะเพื่อนๆๆก็คือ...เราเรียนรู้ตามที่พระพุทธเจ้าทรงสอนว่า อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เราต้องน้อมนำมาสู่ใจให้ได้ คือ ทุกสิ่งมันไม่เที่ยง มันเป็นทุกข์ ไม่ใช่ตัวใช่ตน แล้วเราจะไปยึดติดทำไม เมื่อทุกข์เกิดขึ้น เราก็แก้ไขให้ดีที่สุด...เพราะทุกสิ่งล้วนมีเหตุและผล บาปบุญเกิดขึ้นเราก็น้อมรับแก้ไขให้ดีที่สุด... แล้วเราก็ปล่้อยทุกข์ที่เกิดขึ้นและแก้ไขให้ดีที่สุดแล้วนั้น...แล้วเราก็ปล่อยไป...จะเป็นอย่างไรคิดเสียว่า...เราทำให้ดีที่สุดแล้ว...จะไปกุมเอาไว้ในมือทำไม เพราะทุกสิ่งมันเป็นแบบนี้อยู่แล้ว...ปล่อยก็คือการปล่อยวาง...โกรธ เกลียด ก็ให้อภัยกันจะได้จบไม่ต้องเกิดภพขาติและเวรกรรมต่อกันต่อไป... ให้สร้างแต่กรรมดี ละเว้นกรรมชั่ว ทำจิตให้บริสุทธิ์ ตามที่พระพุทธเจ้าทรงสอนไว้ บุญก็จะเกิดขึ้นและเพิ่มความเพียรในการปฏิบัติในศีล สมาธิ และปัญญา เมื่อมีบุญบารมีเกิดขึ้นก็จะทำให้เรานั้นมีสมาธิดี และจะทำให้รู้เห็นและรู้แจ้งแทงตลอดคือการรู้เห็นไตรลักษณ์คือการจบภพชาติกันไปจากวัฏฏสงสารต่อไปค่ะ....(ประสบการณ์ตรงคือน้อมนำและเพียรปฏิบัติทุกประการ....สาธุสาธุสาธุ.)
🙏 กราบนมัสการ ท่านพุทธทาส ด้วยความเคารพอย่างยิ่ง 🙏
⚓ ขอขอบคุณ ผู้รวบรวมธรรมบรรยาย ของท่านพุทธทาส เพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้ใฝ่ในธรรม ⚓
⏲️ พุธ 23 พฤศจิกายน 2565 (04:57) ⏲️
ฟังคลิปท่านพุทธทาสคลิปนี้แล้ว อย่างนี้แหละ คือ บุญสามขา ในความหมาย ความหมายก็คือ การเข้าถึง ใน หลักที่พระพุทธเจ้ารับรองใว้ ว่า เอสะภะคะวะโตสาวะกะสังโค แปลความว่า นั่นแหละสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า ซึ่งมีคุณสมบัติ ดังนี้ คือ๑ สุปฎิปันโนภะคะวะโต สาวะกะสังโค แปลความว่า สงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้านั้นหมู่ใด ปฏิบัติ ดี แล้ว ๒ อุชุปฏิปันโนภะคะวะโตสาวะกะสังโค แปลความว่า สงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้านั้น หมู่ใดปฏิบัติ ตรง แล้ว ๓ ญาญะปฏิปันโนภะคะวะโตสาวะกะสังโค แปลความว่า สงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้านั้นหมู่ใด ปฏิบัติเพื่อรู้ธรรมเป็นเครื่องออกจากทุกข์แล้ว ๔สามีจิปฏิปันโนภะคะวะโตสาวะกะสังโค แปลความว่า สงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้านั้นหมู่ใดปฏิบัติธรรมอันสมควรแล้ว (หมายความว่าทา่น พุทธทาส ท่านบรรลุอริยสัจจธรรมแล้ว ไม่ตัองกับมาเกิดอีกต่อไป
๑๗ มค. ๖๗ กราบเท้าท่านอาจารย์พุทธทาส 🙏
น้อมกราบ หลวงปู่ด้วยเศียรเกล้า เจ้าค่ะ
กราบ สาธุ สาธุ สาธุค่ะ🙏🙏🙏
กราบสาธุค่ะ🙏🙏🙏
สาธุอนุโมทนาครับ
สาธุคับ
กราบโมทนาสาธุๆครับ
ตามเร้ยคะ.ขอบคุณคะ พี่แอดมิน 😊
สาธุครับ
กราบสักการะบูชาหลวงปู่พุทธทาสสูงยิ่งเสมอธรรมพระพุทธเจ้า.
🌻สุสฺสูสํ ลภเต ปญฺญํ🌻
.ผู้ตั้งใจฟังฯย่อมได้ปัญญา.
..กฏไตรลักษณ์..
คือ กฏแห่งความเป็นจริงของสรรพสิ่ง สัตว์
..กฏธรรมชาติ..
คือ กฏแห่งความเป็นจริงของสรรพสิ่ง สัตว์
..กฏวิทยาศาสตร์..
คือ กฏแห่งความเป็นจริงของ การเกิดขึ้นของเหตุ ในปัจจัยที่หามาปรุงแต่งกัน และมันก็ตั้งอยู่ของ ผลที่นำมาปรุงแต่งกัน ให้เกิดประโยชน์กับเราชั่วขณะอายุของมัน เมื่อสิ่งนั้นๆเสื่อมแล้วหมดอายุแล้วมันก็ดับไป.
...สรูป กฏวิทยาศาสตร์ ก็คือกฏธรรมชาติ กฏธรรมชาติ ก็คือกฏไตรลักษณ์.
🌾พระพุทธศาสนา🌾
เป็นศาสนาแห่งวิทยาศาสตร์ ที่ต้องเรียนรู้ในกฏธรรมชาติเป็นหลักเป็นแก่นของการอุบัติ ศาสนา.
ธรรมะ ธรรมชาติที่ต้องเข้าใจ ในจิตที่ต้องรู้นั้น คือ ธรรมชาติของคน ของมนุษย์ ที่เกิดมาแล้วต้องรู้และเรียนให้แจ้งใน กำเนิดของตัวเรา กาย จิตใจ ที่ออกจากครรภ์มารดา วาจายังไม่แจ้ง ได้ยินเสียงครั้งเเรก เปล่งวาจาคำแรกออกมา(ร้องให้)มีความหมายก็คือ หิวอยากกิน "ทรัพย์ "ทรัพย์คำแรกคือ นม
นะ มะ นะ โม ก็คือ ธาตุน้ำ และ ธาตุดิน ของแม่และพ่อ. พะ ทะ ต้องเกิดขึ้นกับเราทันที่หลุดจากครรภ์มารดา ครั้งอยู่ในครรภ์นั้นยังใช้ พะ ทะ ของมารดาอยู่ เมื่อคลอดแล้ว พะ ทะนั้น นะโมต้องสร้างขึ้นใช้เองในจิตธรรมที่นำมาเกิด...
สาธุอนุโมทนาขอบคุณ ที่ได้อธิบายขยายกฎไตรลักษณ์ ให้ผู้สนใจในธรรมะได้เข้าใจเพิ่มมากขึ้นครับ🙏🙏🙏
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
สาธุอนุโมทนาครับ
🙏🙏🙏
สาธุ.
สาธุอนุโมทนาครับคุณแวววา สุราษฎร์ธานีเมืองแห่งคนดี👍🙏🙏🙏
ขออนุโมทนาครับแอด
สาทรอมวัฒนะขอบคุณครับคุณพี่ปัญญา
ที่ผ่านมาผู้สัทธาท่านพุทธทาส ได้ฟังธรรมของท่านแล้วมีความเข้าใจหรือเปล่า ต่อไปผู้พูดนี้ จะแสดงความหมายให้ท่านเข้าใจง่ายขึ้น ท่านจะเข้าใจสี่อย่างพรอ้มกันในที่เดียวกัน เช่น 1 รูปนาม 2 พระไตรลักษ์ 3 อิทัปปัจจัตตา 4 ปฎิจจสมุปบาท 4 อยา่งเกิดขึ้นพร้อมกันเกิดในเวลาเดียวกัน เช่นท่านหิวข้าว ท่านต้องนึกถึงอาหารที่ชอบ ภาพอาหารเกิดขึ้น คือรูป ใจนึกคิดคือ นาม 1อย่างแล้ว 2 ธรรมทั้งหลายมีเหตุเป็นแดนเกิด คือหิวเป็นเหตุ เหตุเกิดขึ้นแล้ว ก็เป็นอนิจจัง คือไม่เที่ยง ๆคืออยู่เฉยไม่ได้จะต้องมีอาการแปลปรวน คือเดินไปกินข้าว อย่างนี้เรียกว่า ทุกขัง แล้วอนัตตาคือบังบัญชาไม่ได้ อย่าหิวน๊า อย่าเดินไปกินข้าวน๊า สั่งห้ามไม่ได้ แล้วต่อไปกินข้าวคำแรกความหิวเริ่มหายไป จนถึงคำสุดท้ายคืออิ่ม ความหิวหมดไปเสื่อมไปหายไปดับไปไม่มีเหลือ 3 กฎอิทัปปัจจัตตา มีสิ่งนี้ สี่งนี้ก็มีต่อ เช่นหิวข้าว ก็ต้องกินข้าว แล้วก็ กินนำ้ ซึ่งมีการสืบต่อไปเรื่อยๆ เหมือนกับปฎิจจสมุปปบาท มีอวิชชา เป็นปัจจัย ให้เกิดสังขาร แล้วก็ต่อไปเรื่อยๆ สิ่งนี้คือธรรมชาติ แค่เหตุหิวข้าว ธรรมทั้สี่อย่างเขาเกิดให้เราพร้อมกัน เขาเป็นเช่นนี้เอง ท่านทั้งหลายเข้าใจแล้วนะ๊
ขอน้อมกราบขอบพระคุณหลวงพ่อพุทธทาสเป็นอย่างสูงและขอบคุณท่านที่นำม่าเผยแพร่่ด้วยค่ะ
อนุโมทนาสาธุขอบคุณครับ
🙏🙏🙏
จัดไป สาธุ