Velikost videa: 1280 X 720853 X 480640 X 360
Zobrazit ovladače přehrávání
Automatické přehrávání
Přehrát
คุณคิดยังไงกับหลิวเต๋อหัว?❤
เมื่อแสงและเวลาก้าวเข้าสู่มิติของการอ่อนค่าในเรื่องของความไวในระดับยุคแรกเริ่มของมันลง ( หมดยุคของการไร้ขีดจำกัด หรือไร้สิ่งผูกมัดในแรงขับเคลื่อนของมัน ) มิติที่อยู่ในสถานะเหนืออำนาจความโน้มถ่วงของมันก็จะอ่อนค่าลงและขยับลงมาสู่มิติของแรงโน้มถ่วง ( แรงที่จะกลับเข้ามาเป็นสิ่งผูกมัดมันไว้ ) กรณีของปฏิสสารก็เช่นกัน ปรากฏการณ์ดังกล่าวของสสารและปฏิสสารคือการข้ามชั้นของสสารในยุคๆหนึ่งที่ความผูกมัดในเรื่องของสถานะความเป็นสสารของมันยังไม่เด่นชัดและถือว่าอยู่ในระดับกล้ำกึ่ง ทำให้สถานะภาพของมันในยุคหนึ่งถูกตรวจพบว่ามีปริมาณพอๆกันระหว่างความเป็นปฏิสสารแหละสสาร แหละการตกกลับสู่อำนาจความโน้มถ่วงของปฏิสสารภายใต้มิติที่เป็นความโน้มถ่วงนั้นถือได้ว่าเป็นเรื่องปกติของสถานะภาพในปัจจุบันของมัน กล่าวคือ สสารและปฏิสสารนั้นคือสิ่งเดียวกัน เพียงแต่อยู่ในปัจจัยขั้นตอนของเวลาที่ต่างกันในเรื่องของรูปสถานะเท่านั้น ดังนั้นปฏิสสารถ้ามาอยู่ในแวดล้อมที่เป็นเวลาและสถานะของสสาร นั่นถือได้ว่าเป็นการอยู่แบบผิดที่ผิดเวลานั่นเอง
เราต้องไม่ลืมว่า ทุกสรรพสิ่งในจักรวาลนั้น พัฒนาขึ้นมาจากพื้นฐานที่เป็นสิ่งเดียวกันทั้งหมด
และนั่นคือคำตอบที่ไม่ได้ซับซ้อนอะไร ระหว่าง สสารและปฎิสสาร และเวลานี้ สสารคือสถานะตัวแทนของปฏิสสารที่เข้ามาอยู่ในกำแพงของวิวัฒนาการณ์ในระดับผสมผสานเข้ากับอิทธิพลความโน้มถ่วง
กล่าวคือ จักรวาลและทุกสรรพสิ่งที่เราเห็น นั้นเกิดขึ้นมาจากสิ่งที่มีอัจฉริยะภาพทางปัญญาที่สูงจนเป็นอนันต์และมันก็คือผู้ที่อยู่เบื้องหลังการกระทำที่เป็นสิ่งสร้างทั้งหลายทั้งปวงของจักรวาลนี้ สิ่งๆนี้มันจะปรุงแต่งตัวตนสถานะของมันเองไปได้ในทุกๆมิติเพื่อให้ตัวตนของมันเองสามารถคงอยู่ได้ในทุกๆสถานะภาพ ( มีสถานะภาพที่เป็นอนันต์ ) แหละในทุกๆข้อจำกัดและทุกๆเงื่อนไขที่มีเกิดขึ้นนั้นถือได้ว่าเป็นกลไกหลักในการเร่งเร้าให้อัจฉริยะภาพทางปัญญาของมันนั้นสร้างหน้าที่คัดเลือกจัดสรรค์ข้อมูลในการปรุงแต่งรูปแบบวิวัฒนาการต่างๆของมันขึ้นมาเพื่อแก้ไขให้มันอยู่เหนือข้อจำกัดและเงื่อนไขต่างๆเหล่านั้น
ไอ้คนออกแบบการทดลองโคตรเก่ง
ชอบมากครับ
สวัสดีครับ
ทำไมกว้างใหญ่ ไม่สิ้นสุด หรือเราอยู่ในโลกจำลอง ของใคร หรือ ของใคร เชื่อว่าต้องมีที่สิ้นสุด
ืเป็นไปได้ไหมว่ามีคนอีกมิติหนึ่งสร้างเราขึ้นมา
👍👍👍
👍
มาแล้วววว
♥️♥️✌️
ลักษณะรูปร่างของ วอยด์ขนาดใหญ่. ที่เห็นกันอยู่ในทุกวันนี้. สอดคล้องมาก. กับพื้นที่สีเข้ม ใน cmb แสดงว่า ตรงนั้น ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนเลย ตั้งแต่แสงแรกของเอกภพ. นั่นอาจจะเป็นรอยแผลขนาดใหญ่. ที่เกิดจากการชนกันของฟองจักรวาล. ที่มีสสารต่างขั้วกัน. และจำนวนไม่เท่ากัน. การเจอกาแล็คซี่ ที่มีอายุเก่ากว่าบิ๊กแบง. ก็ไม่น่าจะใช่เรื่องแปลก. เพราะเป็นทรากของฟองจักรวาลเก่า ดังนั้น บิ๊กแบง. ก็น่าจะเป็นส่วนหนึ่งของการชนกัน ของฟองจักรวาลเท่านั้น และบิ๊กแบง มีอยู่จริง
การเจอกาแล็คซี่ ที่มีอายุเก่ากว่าบิ๊กแบง. เป็นสิ่งที่บ่งชี้ถึงข้อผิดพลาดในเรื่องของการคำนวนในเรื่องของเวลาการเกิดขึ้นมาของจักรวาลบนพื้นฐานความเข้าใจทางด้านข้อมูลที่ยังคงขาดความสมบูรณ์รอบด้าน แต่บุคคลชั้นนำที่เป็นศูนย์กลางทางด้านวิทยาศาสตร์เหล่านี้พากันด่วนสรุปเพื่อจับจองการประกาศผลงานการค้นคว้าเหล่านั้นกันทั้้งในแง่ของผลประโยชน์และในแง่ของบรรทัดฐานความแข็งแกร่งทางด้านค่านิยมทางวิทยาศาสตร์ ถามว่าคนเหล่านี้รู้ไหมว่าตัวเองกำลังเป็นแบบนี้ คำตอบคือรู้ครับ แต่กระนั้นสิ่งต่างๆเหล่านี้ก็เป็นการลงทุนที่ยังคงต้องการผู้เล่นที่มากด้วยตัวแปรที่เป็นทั้งข้อมูลทางวิชาการรวมถึงการคาดการณ์หรือสมมุติฐาน เพื่อเอามาใช้สร้างในส่วนที่เป็นข้อสงสัยและกลายเป้าหมายของการค้นคว้า หล่อเลี้ยงในส่วนของ ผลประโยชน์และค่านิยมทางสังคมที่ตอบสนองต่อความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี แต่ในความเป็นจริงของเรื่องราวทั้งหมดแล้ว ความพิการในด้านความรู้ของมนุษย์ ทำให้ มนุษย์เป็นได้แค่เด็กที่กำลังเล่นขายของอยู่ในจินตนาการของตนเองไปก็เท่านั้น
@@Prasa_Yiaedin จักรวาลวิทยา. เป็นเรื่องที่ยากที่สรุปอะไรออกมาเป็นรูปธรรม. เพราะมักจะอยู่เหนือความรับรู้ของมนุษย์ จึงมักเริ่มต้นด้วยการตั้งสมมติฐานขึ้นก่อน. แล้วค่อยหาคนมาพิสูจน์ทดลอง. คนที่ทดลองพิสูจน์ได้สำเร็จ. ก็รับรางวัลโนเบิลไป. ไม่เคยเห็นแจกรางวัลให้คนตั้งสมมติฐานนี่นะ
ทฤษฏีสัมพัทธภาพ ที่ไอสไตน์ตั้งสมมติฐาา. ก็ไม่ช่วยให้ไอสไตร์ได้รางวัลโนเบิล. ไอสไตน์ได้รางวัลกับเรื่องการวัดขนาดโมเลกุลน้ำ. และไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรื่องสัมพัทธภาพ. ของแกเลย
บางทีตัวอะตอมโมเลกุลในร่างกายเราอาจมีความรู้สึก
❤จัดทำได้ดีน่าสนใจและทันสมัยมากครับ
ไอสไตน์โครตเก่ง
เม้นแรก
การดู 750 ครั้ง 3 ชั่วโมงที่ผ่านมา
คนแรก
จักรวาล เต็มไปด้วยน้ำ ทั้ง จักรวาลมืดไปหมด แล้วจึงเริ่มก่อตัวขึ้น พระพุทธเจ้ามีบอกหมดในพระสูตร และโลกเรามีลักษณะเหมือนผลส้ม รู้ก่อนนักวิทยาศาสตร์อีก แต่คนกับไปชื่นชมนักวิทยาศาสตร์ ที่แอบเอาคำสอนของพระพุทธเจ้าไปใช้
พอๆเถอะอย่าเอาความเชื่อความศัทธามาปนกับวิทยาศาสตร์เลย ศาสตร์ทุกศาสตร์ล้วนมีคุณค่าและความงามในตัวของมันเอง อย่าเอามายืดโยงครับ
คุณคิดยังไงกับหลิวเต๋อหัว?❤
เมื่อแสงและเวลาก้าวเข้าสู่มิติของการอ่อนค่าในเรื่องของความไวในระดับยุคแรกเริ่มของมันลง ( หมดยุคของการไร้ขีดจำกัด หรือไร้สิ่งผูกมัดในแรงขับเคลื่อนของมัน ) มิติที่อยู่ในสถานะเหนืออำนาจความโน้มถ่วงของมันก็จะอ่อนค่าลงและขยับลงมาสู่มิติของแรงโน้มถ่วง ( แรงที่จะกลับเข้ามาเป็นสิ่งผูกมัดมันไว้ ) กรณีของปฏิสสารก็เช่นกัน ปรากฏการณ์ดังกล่าวของสสารและปฏิสสารคือการข้ามชั้นของสสารในยุคๆหนึ่งที่ความผูกมัดในเรื่องของสถานะความเป็นสสารของมันยังไม่เด่นชัดและถือว่าอยู่ในระดับกล้ำกึ่ง ทำให้สถานะภาพของมันในยุคหนึ่งถูกตรวจพบว่ามีปริมาณพอๆกันระหว่างความเป็นปฏิสสารแหละสสาร แหละการตกกลับสู่อำนาจความโน้มถ่วงของปฏิสสารภายใต้มิติที่เป็นความโน้มถ่วงนั้นถือได้ว่าเป็นเรื่องปกติของสถานะภาพในปัจจุบันของมัน กล่าวคือ สสารและปฏิสสารนั้นคือสิ่งเดียวกัน เพียงแต่อยู่ในปัจจัยขั้นตอนของเวลาที่ต่างกันในเรื่องของรูปสถานะเท่านั้น ดังนั้นปฏิสสารถ้ามาอยู่ในแวดล้อมที่เป็นเวลาและสถานะของสสาร นั่นถือได้ว่าเป็นการอยู่แบบผิดที่ผิดเวลานั่นเอง
เราต้องไม่ลืมว่า ทุกสรรพสิ่งในจักรวาลนั้น พัฒนาขึ้นมาจากพื้นฐานที่เป็นสิ่งเดียวกันทั้งหมด
และนั่นคือคำตอบที่ไม่ได้ซับซ้อนอะไร ระหว่าง สสารและปฎิสสาร และเวลานี้ สสารคือสถานะตัวแทนของปฏิสสารที่เข้ามาอยู่ในกำแพงของวิวัฒนาการณ์ในระดับผสมผสานเข้ากับอิทธิพลความโน้มถ่วง
กล่าวคือ จักรวาลและทุกสรรพสิ่งที่เราเห็น นั้นเกิดขึ้นมาจากสิ่งที่มีอัจฉริยะภาพทางปัญญาที่สูงจนเป็นอนันต์และมันก็คือผู้ที่อยู่เบื้องหลังการกระทำที่เป็นสิ่งสร้างทั้งหลายทั้งปวงของจักรวาลนี้ สิ่งๆนี้มันจะปรุงแต่งตัวตนสถานะของมันเองไปได้ในทุกๆมิติเพื่อให้ตัวตนของมันเองสามารถคงอยู่ได้ในทุกๆสถานะภาพ ( มีสถานะภาพที่เป็นอนันต์ ) แหละในทุกๆข้อจำกัดและทุกๆเงื่อนไขที่มีเกิดขึ้นนั้นถือได้ว่าเป็นกลไกหลักในการเร่งเร้าให้อัจฉริยะภาพทางปัญญาของมันนั้นสร้างหน้าที่คัดเลือกจัดสรรค์ข้อมูลในการปรุงแต่งรูปแบบวิวัฒนาการต่างๆของมันขึ้นมาเพื่อแก้ไขให้มันอยู่เหนือข้อจำกัดและเงื่อนไขต่างๆเหล่านั้น
ไอ้คนออกแบบการทดลองโคตรเก่ง
ชอบมากครับ
สวัสดีครับ
ทำไมกว้างใหญ่ ไม่สิ้นสุด หรือเราอยู่ในโลกจำลอง ของใคร หรือ ของใคร เชื่อว่าต้องมีที่สิ้นสุด
ืเป็นไปได้ไหมว่ามีคนอีกมิติหนึ่งสร้างเราขึ้นมา
👍👍👍
👍
มาแล้วววว
♥️♥️✌️
ลักษณะรูปร่างของ วอยด์ขนาดใหญ่. ที่เห็นกันอยู่ในทุกวันนี้. สอดคล้องมาก. กับพื้นที่สีเข้ม ใน cmb แสดงว่า ตรงนั้น ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนเลย ตั้งแต่แสงแรกของเอกภพ. นั่นอาจจะเป็นรอยแผลขนาดใหญ่. ที่เกิดจากการชนกันของฟองจักรวาล. ที่มีสสารต่างขั้วกัน. และจำนวนไม่เท่ากัน. การเจอกาแล็คซี่ ที่มีอายุเก่ากว่าบิ๊กแบง. ก็ไม่น่าจะใช่เรื่องแปลก. เพราะเป็นทรากของฟองจักรวาลเก่า ดังนั้น บิ๊กแบง. ก็น่าจะเป็นส่วนหนึ่งของการชนกัน ของฟองจักรวาลเท่านั้น และบิ๊กแบง มีอยู่จริง
การเจอกาแล็คซี่ ที่มีอายุเก่ากว่าบิ๊กแบง. เป็นสิ่งที่บ่งชี้ถึงข้อผิดพลาดในเรื่องของการคำนวนในเรื่องของเวลาการเกิดขึ้นมาของจักรวาลบนพื้นฐานความเข้าใจทางด้านข้อมูลที่ยังคงขาดความสมบูรณ์รอบด้าน แต่บุคคลชั้นนำที่เป็นศูนย์กลางทางด้านวิทยาศาสตร์เหล่านี้พากันด่วนสรุปเพื่อจับจองการประกาศผลงานการค้นคว้าเหล่านั้นกันทั้้งในแง่ของผลประโยชน์และในแง่ของบรรทัดฐานความแข็งแกร่งทางด้านค่านิยมทางวิทยาศาสตร์ ถามว่าคนเหล่านี้รู้ไหมว่าตัวเองกำลังเป็นแบบนี้ คำตอบคือรู้ครับ แต่กระนั้นสิ่งต่างๆเหล่านี้ก็เป็นการลงทุนที่ยังคงต้องการผู้เล่นที่มากด้วยตัวแปรที่เป็นทั้งข้อมูลทางวิชาการรวมถึงการคาดการณ์หรือสมมุติฐาน เพื่อเอามาใช้สร้างในส่วนที่เป็นข้อสงสัยและกลายเป้าหมายของการค้นคว้า หล่อเลี้ยงในส่วนของ ผลประโยชน์และค่านิยมทางสังคมที่ตอบสนองต่อความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี แต่ในความเป็นจริงของเรื่องราวทั้งหมดแล้ว ความพิการในด้านความรู้ของมนุษย์ ทำให้ มนุษย์เป็นได้แค่เด็กที่กำลังเล่นขายของอยู่ในจินตนาการของตนเองไปก็เท่านั้น
@@Prasa_Yiaedin จักรวาลวิทยา. เป็นเรื่องที่ยากที่สรุปอะไรออกมาเป็นรูปธรรม. เพราะมักจะอยู่เหนือความรับรู้ของมนุษย์ จึงมักเริ่มต้นด้วยการตั้งสมมติฐานขึ้นก่อน. แล้วค่อยหาคนมาพิสูจน์ทดลอง. คนที่ทดลองพิสูจน์ได้สำเร็จ. ก็รับรางวัลโนเบิลไป. ไม่เคยเห็นแจกรางวัลให้คนตั้งสมมติฐานนี่นะ
ทฤษฏีสัมพัทธภาพ ที่ไอสไตน์ตั้งสมมติฐาา. ก็ไม่ช่วยให้ไอสไตร์ได้รางวัลโนเบิล. ไอสไตน์ได้รางวัลกับเรื่องการวัดขนาดโมเลกุลน้ำ. และไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรื่องสัมพัทธภาพ. ของแกเลย
บางทีตัวอะตอมโมเลกุลในร่างกายเราอาจมีความรู้สึก
❤จัดทำได้ดีน่าสนใจและทันสมัยมากครับ
ไอสไตน์โครตเก่ง
เม้นแรก
การดู 750 ครั้ง 3 ชั่วโมงที่ผ่านมา
คนแรก
จักรวาล เต็มไปด้วยน้ำ ทั้ง จักรวาลมืดไปหมด แล้วจึงเริ่มก่อตัวขึ้น พระพุทธเจ้ามีบอกหมดในพระสูตร และโลกเรามีลักษณะเหมือนผลส้ม รู้ก่อนนักวิทยาศาสตร์อีก แต่คนกับไปชื่นชมนักวิทยาศาสตร์ ที่แอบเอาคำสอนของพระพุทธเจ้าไปใช้
พอๆเถอะอย่าเอาความเชื่อความศัทธามาปนกับวิทยาศาสตร์เลย ศาสตร์ทุกศาสตร์ล้วนมีคุณค่าและความงามในตัวของมันเอง อย่าเอามายืดโยงครับ
สวัสดีครับ