The Tale of "Starwhisper" (พากษ์ ไทย)

ในเมืองชายฝั่งอันเงียบสงบของ ซีเบิร์ดสเฮเว่น ที่ซึ่งใครบางคนจะได้ยินท้องทะเลกระซิบความลับให้ฟัง มีชายชราคนหนึ่งชื่อเอเลียส และเด็กน้อยชื่อฟินน์อาศัยอยู่ เอเลียส กะลาสีเรือผู้เกษียณแล้ว เขามีดวงตาราวกับคลื่นพายุ เขาใช้เวลาทั้งวันไปกับการแกะสลักเรือที่สลับซับซ้อน ซึ่งสะท้อนถึงเรือที่เขาเคยแล่นในวัยเด็ก ฟินน์ เด็กกำพร้าที่มีความอยากรู้อยากเห็นราวกับแมว พบสิ่งจรรโลงใจในการฟังนิทานของชายชรา และบทเพลงของนกนางนวล
ในแต่ละวันตอนรุ่งสาง พวกเขาจะออกไปที่ชายฝั่ง ที่ซึ่งนกนางนวลพากันเต้นรำราวล่องลอยไปใต้ผืนผ้าใบแห่งท้องฟ้า ชายชราสอนภาษาของท้องทะเลให้ฟินน์ สอนเรื่องอารมณ์ของกระแสน้ำ และเรื่องราวของดวงดาวที่นำทางลูกเรือกลับบ้าน
ในคืนที่กำหนดโชคชะตาได้มาถึง ขณะที่ดวงดาวถักทอด้ายสีเงินบนท้องฟ้า เอเลียสได้เปิดเผยผลงานชิ้นเอกชิ้นสุดท้ายของเขา-เรือชื่อ “สตาร์วิสเปอร์” มันเป็นพาหนะที่คู่กับนิทานที่เขาเล่า โดยมี ใบเรือ ที่ส่องแสงระยิบระยับราวกับละอองดาว และตัวเรือที่แกะสลักด้วยกลุ่มดาว
เอเลียสเล่าความฝันลับๆ ให้ฟินน์ฟัง-ล่องเรือไปยังที่ที่ทะเลจรดขอบฟ้าเป็นครั้งสุดท้าย ไล่ตามพระอาทิตย์ตกดินกระทั่งแสงสีแดงกลายเป็นแสงของดวงดาว แต่อายุที่มากขึ้นของเอเลียสได้ยึดเขาไว้กับชายฝั่ง และหัวใจของเขาก็โหยหาท้องทะเลและผืนน้ำในความใฝ่ฝัน
#inspiration #momentstogether #sea #familytime #เรื่องเล่า #นิทานเรื่องเล่า
เมื่อเห็นด้วยกับความวาดหวังของชายชรา ฟินน์จึงเสนอแผนอันกล้าหาญ ว่า พวกเขาจะเริ่มออกเดินทางไปในเวลากลางคืน โดยมีดวงดาวนำทาง โดยมีนกนางนวลเป็นผู้พิทักษ์ เมื่อเวลามาถึง ขณะที่พวกเขาออกเรือ ท้องทะเลก็โอบกอดพวกเขาราวกับเป็นลูกชายผู้หลงทางกลับบ้านเกิด
การเดินทางเป็นไปอย่างเงียบสงบจนกระทั่งเกิดพายุอย่างฉับพลัน ราวกับถูกปลุกเสกโดยวิญญาณอันไม่สงบแห่งห้วงลึก เรือสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง และดวงดาวก็หายไปหลังม่านแห่งความมืด เอเลียสและฟินน์ตัวเกาะติดกันแน่น หัวใจของพวกเขาเต้นแรงไปกับเสียงคำรามของคลื่น
ในท่ามกลางศูนย์กลางของพายุ และความสับสนวุ่นวาย ปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้น ฝูงนกนางนวลร่อนลงมา ปีกของพวกมันเปล่งประกายด้วยแสงอันบริสุทธิ์ เจาะทะลุค่ำคืนอันสับสนอลหม่าน พวกเขาล้อมวง "Starwhisper" ร้องเพลงเพื่อสงบทะเลที่ดุร้าย
เมื่อพายุสงบลง ดวงดาวก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง ทั้งยังสว่างสดใสกว่าที่เคย ส่องสว่างเส้นทางสู่ความเงียบสงบ ชายชราและเด็กชายซึ่งผูกพันกันด้วยการผจญภัยของพวกเขา พบว่าตัวเองไม่ได้อยู่ที่ขอบโลก แต่กลับอยู่ที่จุดเริ่มต้นของบทบาท ใหม่
เอเลียสกระซิบขอบคุณดวงดาว นกนางนวล และฟินน์ผู้จุดประกายการผจญภัยในจิตวิญญาณของเขาด้วยน้ำตาที่สะท้อนให้เห็นท้องทะเล และฟินน์ก็ตระหนักว่าบางครั้งเรื่องราวที่น่าทึ่งที่สุด ก็เกิดจากความกล้าที่จะติดตามดวงดาว และความไว้วางใจกันที่จะล่องเรือด้วยหัวใจ
เมื่อแสงแรกแห่งรุ่งอรุณสาดส่องท้องฟ้า “สตาร์วิสเปอร์” ก็กลับมายังซีเบิร์ดสเฮเว่น พร้อมแบกดวงวิญญาณสองดวงที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล ด้วยเสียงเพลงกล่อมเด็กจากท้องทะเล และการโอบกอดของดวงดาว และเหล่านกนางนวลผู้พิทักษ์ชายฝั่ง ก็ได้ร้องเพลงบทใหม่ ซึ่งเป็นเพลงแห่งความกล้าหาญ มิตรภาพ และการเต้นรำชั่วนิรันดร์ระหว่างท้องทะเลและท้องฟ้า

[@pritsadeeduklin1726]

น้ำเสียงน่าฟังมากคะคุณย่า