Nissan Serena e-Power Highway Star V เตรียมเปิดตัวในประเทศไทย

Sdílet
Vložit
  • čas přidán 19. 09. 2023
  • Nissan Serena e-Power Highway Star V เตรียมเปิดตัวในประเทศไทยจากการรายงานของ headlightmag.com โดยนำเข้าตัวรถจากโรงงาน Tan Chong Motor Assemblies (TCMA) ประเทศมาเลเซีย อาศัยสิทธิประโยนชน์ทางภาษี ภายใต้กรอบ AFTA บนเครื่องยนต์ 1.4 e-POWER รูปลักษณ์ไม่ต่างจากเวอร์ชั่นจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น
    ADVERTISEMENT
    โยโกฮามา ประเทศญี่ปุ่น NISSAN ประกาศเปิดตัว Serena (รหัส C28) รุ่นปรับปรุงใหม่ทั้งหมดในญี่ปุ่น โดยจะเริ่มขายในฤดูหนาวนี้ พร้อมขุมพลัง e-POWER ซึ่งจะเปิดขายในฤดูใบไม้ผลิ พร้อมการออกแบบที่เปลี่ยนแปลงทั้งภายนอก และ ภายในห้องโดยสาร ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง “ProPILOT 2.0” ProPILOT 2.0 กล้อง 7 ตัว เรดาร์ 5 ตัว และโซนาร์ 12 ตัวที่ติดตั้งบนรถจะตรวจจับเส้นสีขาว ป้ายจราจร และยานพาหนะโดยรอบ ด้วยการใช้ข้อมูลแผนที่ความละเอียดสูงแบบ 3 มิติ
    รุ่นเบนซิน ราคาจำหน่าย 2,768,700 - 3,269,200 เยน หรือประมาณ 717,000 - 846,000 บาท
    รุ่น e-POWER ราคาจำหน่าย 3,198,800 - 4,798,200 เยน หรือประมาณ 828,000 - 1,242,000 บาท
    Nissan Serena ปี 2023 จากสิ่งพิมพ์ในญี่ปุ่นระบุว่าจะมีการออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Nissan Ariya ภายใต้แนวคิด “Timeless Japanese Futurism” ไฟหน้าโฉบเฉี่ยวมากขึ้น กระจังหน้าขนาดใหญ่ที่บ่งบอกแนวคิด V-Motion ของแบรนด์ ไฟหน้าแบบ LED ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว
    มีสีตัวเครื่อง 14 สี ได้แก่ สีทูโทน 4 สี และสีโมโนโทน 10 สี
    NISSAN SERENA พัฒนาบนแพลตฟอร์มใหม่ของ Renault-Nissan ” CMF (Common Module Family) “
    ขนาดตัวถัง
    ยาว 4,690 มม.
    กว้าง 1,695 มม.
    สูง 1,870 มม.
    ระยะฐานล้อ 2,870 มม.
    ระบบขับเคลื่อน 2WD และ 4WD
    Highway Star V, e-POWER Highway Star V, e-POWER LUXION ความยาวรวม 4765 มม. กว้างรวม 1715 มม., e-POWER LUXION สูงรวม 1885 มม. ภายในได้รับการออกแบบ มีให้เลือก 7 - 8 ที่นั่ง 7 ที่นั่งแบบ 2+2+3 และแบบ 8 ที่นั่งแบบ 2+3+3 ใช้โทนสีดำ ระบบเปลี่ยนเกียร์แบบสวิตซ์ไฟฟ้า หน้าปัดสีขนาด 7 นิ้ว จอแสดงผลส่วนกลางขนาด 12.3 นิ้ว พร้อม Nissan Connect รองรับ “Apple CarPlay” และ “Android Auto” ลำโพง 6 ตำแหน่ง เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติแบบแผงสัมผัส
    รุ่น e-POWER มาพร้อมกับแหล่งจ่ายไฟ AC 100V (1500W) จ่ายไฟให้อุปกรณ์ไฟฟ้าภายนอกเป็นตัวเลือก
    ระบบชาร์จมือถือไร้สาย Qi
    หน้าจอ LCD ด้านบนของแถวที่ 2 แต่มีขนาดเพียง 11 นิ้วเท่านั้น
    เปิด-ปิดประตูด้วยเซ็นเซอร์ท้าย
    ประตูหลังเป็นแบบ Half Back Door ที่สามารถเปิดปิดได้ประมาณครึ่งหนึ่งของรถยนต์ทั่วไป คุณสามารถเปิดประตูเพื่อโหลดและขนสัมภาระของคุณได้อย่างง่ายดาย
    1.4 e-POWER
    เครื่องยนต์เบนซิน HR14DDe DOHC 3 สูบแถวเรียง 3 สูบ 1.4 ลิตร e-POWER ให้กำลัง 98 แรงม้า ที่ 5600 รอบต่อนาที แรงบิด 123 นิวตัน-เมตร ที่ 5600 รอบต่อนาที + มอเตอร์ รุ่น EM57 รวมกำลัง 163 แรงม้า ที่ 4400 - 5000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 315 นิวตัน-เมตร ที่ 2400 - 4000 รอบต่อนาที ส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ CVT อัตราประหยัดน้ำมัน 18.4 - 20.6 กม./ลิตร WLTC
    NISSAN 360° Safety Assist
    เทคโนโลยีเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนอัจฉริยะ (IFCW)
    เทคโนโลยีช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ (IEB)
    เทคโนโลยีเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง (LDW)
    เทคโนโลยีช่วยควบคุมรถเมื่อออกนอกช่องทางอัจฉริยะ(ILI)
    เทคโนโลยีเตือนจุดอับสายตา (BSW)
    เทคโนโลยีป้องกันการชนจากจุดอับสายตาอัจฉริยะ (IBSI)
    เทคโนโลยีตรวจจับวัตถุด้านหลังรถขณะถอย (RCTA)
    ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ (HBA)
  • Auta a dopravní prostředky

Komentáře • 5

  • @Max_jakgrawat
    @Max_jakgrawat Před 6 měsíci +4

    น่าขับ และน่าสนใจมาก ถ้านำมาขายในไทย จะเป็นเจ้าของรถให้ได้เลย

  • @AkkawatNookppp
    @AkkawatNookppp Před 3 měsíci +1

    ข่าวล่าสุดก็ยังเงียบนะครับ จะมาจริงไหม

  • @Masaru_kung.
    @Masaru_kung. Před 5 měsíci

    ชอบมากคะ🎉🎉🎉

  • @kataiaun
    @kataiaun Před 2 měsíci

    ผมชอบนิสสันตัวนี้มาก แต่ห่วงศูนย์บริการ หายไปเยอะ

  • @tapithorn
    @tapithorn Před 2 měsíci +1

    ถ้ามาเป็น model เก่า หรือราคาไปถึง 1.8ล้าน ไป Noah หรือ step wagon air ดีกว่าครับ
    เบาะแถว3 แขวนตชไม่แนบ ยื่นออกมา แถมต้องใช้เชือกแขวน
    ที่บังแดดไม่มีไฟ
    เบาะแถว2ไม่มีรองน่อง
    ออกแบบสู้ Toyota Honda ไม่ได้เลย
    เกียร์ปุ่มกด stepwagon สวยกว่ามาก