DAC vs Sound Card vs Interface มันแตกต่างกันอย่างไร?
Vložit
- čas přidán 3. 07. 2024
- คลิปนี้เป็นการมาบอกเล่าถึงความแตกต่างของอุปกรณ์ 3 ชนิดที่มีการใช้งานคล้ายคลึงกัน แต่มีวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง สำหรับอุปกรณ์ที่มีการเรียกกันว่า DAC, Sound Card และ Interface ในปัจจุบันนี้ ส่วนในอดีตชื่อเหล่านี้ยังไม่ได้มีการแยกออกจากกันแบบชัดเจน มีการเรียกปะปนกันจนทำให้หลายคนที่เคยจดจำจากอดีตเกิดความสับสน ตรงนี้ลองมารับชมกันครับว่า ณ ปัจจุบันอุปกรณ์ทั้งสามชนิดที่ว่านี้ มันมีอะไรต่างกัน? การใช้งานแต่ละตัวเหมาะกับใคร? เลือกใช้งานอย่างไหนดี? #DAC #SoundCard #interface
00:00 เกริ่นนำ
00:47 ทั้งหมดใช้ฟังเพลงได้ไหม?
02:02 ชื่อที่แตกต่างกัน เพราะอะไร?
02:38 DAC คือยังไง?
04:25 Interface คือยังไง?
06:34 Sound Card คือยังไง?
08:43 เสียงดีของแต่ละคนต่างกัน
10:07 สั้นๆนิยามของ DAC, Sound Card, Interface
ติดตามผลงานของเรา...
ติดตามผ่าน Facebook ได้ที่ : / zolkorn
ติดตามผ่าน Twitch : / zolkorn
ติดตามผ่าน Twitter ได้ที่ : / zolkorn
ติดตามเว็บไซต์ : www.zolkorn.com
ติดต่อเรา : www.zolkorn.com/contact/
พูดคุยระบบเสียง : / @justazound4395
Credit :
___________________________
End music :
Titre : Nothing I Won't Do (feat. Kianna)
Artist : Giulio Cercato
Powered by: / giuliocercatomusic - Věda a technologie
เข้าใจเลยครับ 🙏
โฮมเธอเตี้ยยยยย 555
ส่วนตัวผมใช้ Audient iD14 mkII ใช้ทำทุกอย่าง ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม ทำเพลง หรือทุก ๆ อย่างที่มีเสียงออกจากคอม
ไม่นานมานี้เคยลองซื้อ G6 กับ X4 มาใช้งานแยก ก็รู้สึกว่าซื้อมาแล้วไม่ได้เปิดใช้ฟีเจอร์จำลองจากโปรแกรมของพวกนี้เลย คือ ลองเปิดใช้แล้วรู้สึกมันหลอก ๆ หู
การเสียเงินครั้งนี้ทำให้รู้ว่าตัวเองชอบเสียงธรรมชาติมากกว่า ก็ขายทิ้งกลับมาใช้แบบแรก ฮาาา
แล้วซื้อหูฟังแต่ละประเภทมาใช้งาน ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนกว่าเยอะเลยฮะ
(เปรียบเปรยเหมือน : อยากได้เฟรมเรตในเกมเยอะขึ้น แต่ผมดันไปเปลี่ยน CPU แทนที่จะเป็น GPU ฮาาาาา)
วันนี้มีไลฟ์ไหมครับ
Sound Blaster AE-9 นอกจากต่อไมค์แล้ว มันเสียบอัดกีต้าร์ได้ไหมครับ
ผมใช้ Audio interface ยี่ห้อ focusrite scarlett 2i2 อยู่ครับ ไว้ใช้ทำเพลง ใช้กับ โปรแกรม daw ต่างๆ เพราะต้องการเสียง FLAT การบันทึก การ Converter ครับ แต่บางที ก็ ใช้ฟังเพลงหรือเล่นเกมส์ ก็ใช้ได้เหมือนกัน ครับ เสียงที่ดีคือเสียงที่เราชอบ แบบไม่ได้ เบส หนัก ก็ไม่ได้แปลว่าเสียงไม่ดีครับ
เสียงได้ออกมา กลับดีด้วยครับ มันขึ้นอยู่กับความชอบแต่ละบุคคลเรื่องเสียง
ถ้ามองที่ส่วนประกอบ จะพูดว่า DAC คือส่วนหนึ่งของ Audio Interface หรือ Sound Card ก็ได้ครับ เพราะมีแค่ DAC ไม่มี ADC / เรื่องเสียงอีกเรื่อง แล้วแต่รสนิยม แล้วแต่การใช้งาน 😀
EP หน้า บังทำเรื่องไมค์ คอนเดนเซอร์สำหรับร้องเพลงหน่อยนะครับ
ดูแล้วชักสนใจการฟังเสียงแบบflatแหะ
วิชาการตั้งนาน เจอโฮมเธอเตี้ย ที่ฟังมาได้ดูใหม่เลย
ผมลองสั่งซื้อ USB sound card ที่ใช้ชิบ DAC ของ Cmedia เบอร์ 6206 โดยที่ไม่ได้คาดหวังอะไรมาก ทีแรกนึกว่าเป็นแค่เสียง 5.1 แบบจำลอง ทดสอบใช้งานจริงมันรองรับเสียง 5.1 ทั้งโค้ด DTS และ AC3 เปิดไฟล์หนัง MKV จาก โปรแกรม power DVD กับ km player ให้ระบบเสียง 5, 1 รอบทิศทางได้จริง ผมใช้เพาเวอร์แอม 4 แชนแนล 2 ตัว แยกรับสัญญานและขับลำโพงกลางแหลม 5 ชุด + ซับ 10" 1 ดอก ดูหนังแบบแยกเสียงฟินๆ เวลาฟังเพลงก็ปิดเพาเวอร์ 1 ตัวเหลือแค่ลำโพงคู่หน้า + ซับ โดยรวมถือว่าดีเลยครับ ทำโฮมเธียเตอร์ด้วยการเพิ่มงบซื้อ Sound Card แค่สองร้อยกว่าบาท โคตรคุ้มๆๆเลยครับบัง
ยุคนี้ต้องประยุกต์การใช้งานครับ ไปซื้อพวก AV receiver ก็ไม่ไหว เพราะมีเครื่องเสียงอยู่แล้วครับบัง
ชอบมากๆครับ
คอนเทนท์ "vs"
คอนเทนท์ "เปรียบเทียบ" ตอบข้อสงสัยมึนงง
ืทำบ่อยๆนะครับ
ใช้หมดทุกอันครับแล้วมันแต่จุดประสงค์มากกว่า เล่นเกมดูหนัง7.2.4ใช้ซาว์นการ์ด ทำเพลงอัดเพลงฟังเพลง2.0ใช้อินเตอรเฟต ใช้2.1ฟังนอกบ้านใช้DAC ampต่อหลอดแก้ว
ถามว่าอันไหนเสียงดีสุดมันขึ้นอยู่กะสภานการ เล่นเกมดูหนังลำโพง7.2.4soundcardดีกว่า ฟังหูฟังใช้interfaceเสียงดีกว่า จะต่อDAC ampแก้วดูหนังลำโพง7.2.4ก็แพงไปต้องใช้หลายๆตัวใช้แค่ฟังเพลงลำโพง2.1ก็คุ้มเงิน
topping ของเค้าดีจริงไรจริง ผมใช้ครบๆเลย ฟังเพลง ดูหนัง เล่นเกม
ส่วนตัว Dx7pro ใช้เล่นเกมแล้วเสียงมันนุ่มไปครับ ขาดอารมณ์ของเกมไปเยอะเลย
ส่วนนึงผมมองว่ามันเกิดจากค่านิยมเหมือนพวกรถแห่ งานวัด หรือแม้แต่งานโชว์เครื่องเสียง ที่มีแต่จูนเบสบวมๆมาโชว์กันเหมือนไม่ผ่าน EQ ทำให้คนคิดว่าแบบนั้นคือซาวด์ที่ดีโดยที่ขาดความเข้าใจในเรื่อง EQ รายละเอียดของเสียงว่าต้องปรับประมาณไหนให้ได้ยินเสียงทุกอณูแม้แต่ซาวด์ที่เป็น ambient ปรับให้ได้ยินรายละเอียดครบถ้วนนั่นถึงจะเป็นซาวด์ที่ดีไม่ใช่สักแต่ดังแล้วเบสบวมๆเหมือนที่เค้าเอามาโชว์ๆกัน ดังแล้วมีแต่เบสหึ่มๆที่เหลือคือไม่ได้ยินอะไรเลยบางคนพาลูกไปด้วยงี้แบบ พี่เค้าจะรู้มั้ยว่ามันอันตรายนะหน่ะ
จริงมาก ทำไมเขาถึงชอบเบสหนักๆท่วมๆกันนะ
แบบเสียบเข้าบอร์ดกับแบบg6แบบไหยดีกว่ากันครับ
บังครับ ผมมี sb-z-se ต่อออก ใส่ x-5ได้ไหมครับ
ได้ครับ ถ้าจะใช้ X5 เป็น Amp หูฟังเพื่อจะได้ใช้ Balance เสียงที่ได้ก็จะเป็น X5 ครับ
มีใครพอทราบมั้ยครับว่า g6 ถือว่าเป็น dac ไหมครับ ถ้าจากนิยามของบังซอลที่บอกเเสดงว่า g6 ก็คือ soundcard ถูกมั้ยครับ
G6 ถ้าเปิด direct mode ก็จะทำตัวเป็น DAC แหละครับ เพราะมันจะปรุงแต่งอะไรไม่ได้อีก
ผมสงสัยอย่างพวก digital mixer อย่าง yamaha ag06mk2 เทียบกับ focusrite scarlett 2i2 มันต่างกันยังไงมากกว่า หาข้อมูลไม่ค่อยเคลียร์เลย
focusrite scarlett 2i2 มันก็คือ interface ครับ แต่ yamaha ag06mk2 มันคือ digital mixer ที่มี interface ประมาณนั้นครับ ขึ้นอยู่กับว่าใช้งานด้านไหนเป็นหลักมากกว่า ครับ
ตามด้านบนว่าเลยครับ มันคือ Mixer ที่แถมหรือมี interface มาให้ด้วยในตัว
yamaha ag06mk2 คือ digital mixer ชื่อมันก็บอกอยู่ว่าเครื่องผสมเสียงใช้ผสมเสียงและ process เสียงส่นมากใช้ในงาน live sound แต่ถ้า focusrite scarlett 2i2 มันคือ audio interface หลักคือใช้อัดเสียงถ้าเป็นงานทำเพลงที่ทำเป็นอัดเสียง post-production เป็นหลักใช้แค่ audio interface ก็คือเพียงพอเพราะถ้าจะ mix เสียงหรือ process เสียงก็ไปทำในโปรแกรม daw โน่นครับมันมีหน้า mixer ให้ในนั้น แถม signal processor ที่มาในรูปแบบ plug-in ใช้ร่วมกับโปรแกรม daw มันดีกว่าของที่มันมีาใน digital mixer อีกครับคือดีกว่าคนละชั้นดังนั้นถ้าไม่ทำ live sound ทำ stage ก็ไม่ต้องไปสรรหาซื้อ digital mixer มาใช้ครับเพราะมันแพงแถมยังไร้ประโยชน์สำหรับงาน post-production ครับ
สายหูฟังอัพเกรดทำให้เสียงดี(หรือเปลี่ยนไป)ขึ้นจริงไหมครับ
จริงครับ ภาค อนาล็อก
ฝั่งอะนาลอกสายไฟมีผลจริงครับ แต่จะมากน้อย ดีขึ้น เลวลง เป็นได้หมด
ขอบคุณครับ :D
เหมือนบังจะรู้ใจมากว่าผมกำลังกลับมาศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจัง กำลังหาดูคลิปของฝรั่งอยู่เลย มีคำถามครับบัง สงสัยมากๆ ขออนุญาตนอกเรื่องไปนิดนึงน่ะครับ
ผมมี interface focusrite อยู่ ใช้ทำเพลง และต้องการเสียงที่คลีนมากๆ เมื่อต่อหูฟังมอนิเตอร์ออกมาฟังมันไม่มีปัญหาใดๆ เพราะมันต่อตรงๆเลย มันคลีนหมดจด
คำถามคือ ในทางทฤษฎี เราสามารถเอา Output จาก interface จาก balanced เป็น Rca ได้ใช่มั้ยครับ
ผมจะเอา output โดยใช้สายด้านนึงที่เป็น TRS เสียบเข้า interface (Output ของFocusrite ไม่ได้เป็นXLR) ส่วนปลายอีกด้านเป็นแบบ RCA ฝั่ง RCA เสียบเข้า Amp เพื่อจะเปิดฟังด้วย MonitorSpeker
*ในทางทฤษฎีแล้ว เมื่อแปลงจาก BalanceTRS ให้เป็น RCA มันจะกลายเป็น Unbalance รึเปล่าครับบัง*
กลัวว่า ถ้าหากลงทุนไปแล้วมันจะสูญเปล่า กลัวจะเจอNoise มันเป็นปัญหามากๆครับ ที่สำคัญคือ InputของAmp ที่ราคาน่าคบหา ส่วนใหญ่มันจะเป็น RCA input ทั้งนั้นเลยครับบัง
ถ้าซื้อ amp ที่มีช่องInput แบบ XLRหรือTRSมันจะไม่มีปัญหาNoise เลย ต่อตรงๆ ต้นทางมายังไง ปลายทางก็ยังBalance แบบนั้น(จากกราฟบนจอ) แต่งบมีจำกัดครับ
สายที่แปลงจากTRSให้เป็นRCA มันหาง่ายมาก แต่กลัวจะNoiseเพราะโต๊ะทำงาน สายไฟมันรุงรังมาก มันมีไฟฟ้าวิ่งรอบตัว รวมถึงสัญญาณวิทยุบ้างไรบ้าง
*แล้วเมื่อแปลงจาก TRS เป็น RCA มันจะยังเป็นแฟลตอยู่ใช่มั้ยครับ มันโดนลดทอนย่านความถี่บางย่านรึเปล่า* อยากได้แบบแฟลตให้ได้มากที่สุด(ตามความรู้สึกเมื่อฟังจากSpekerMonitor) หากพลาดจุดไหนสักจุด เมื่อใช้หูฟังmonitor กับกราฟแสดงผล ทั้งNoise และย่านความถี่ที่โดนคัตไป มันแสดงชัดเจนมากเลยครับ ถ้าบางย่านโดนคัตเพราะคุณภาพของสายสัญญาณก็พอรับได้ครับด้วยงบที่จำกัด ก็เลยไม่อยากหลวมตัวซื้อสายแปลงแบบมั่วๆ
(วันนั้นในไลฟ์ออกเล ผมถามบังเรื่องแฟลต มันมีประโยชน์มากครับ ได้ศึกษาต่อจากข้อมูลที่บังแนะนำไป)
ถ้าใช้หูอย่างเดียว ตามจริตแล้วผมแทบจะฟังไม่ออกเลย เพราะใช้ลำโพงทั้วๆไปลองมาฟังดู
อีกอย่างคือบางคนเขามีหูฟังเทพ มันออกชัดทุกเม็ด ถ้าหลวมตัวแปลงสาย Balanceมั่วๆ เขินตๅยเลยครับ เมื่อทำเพลงเสร็จ กลับมาฟังเอง พอถึงคราวตัวเองจับได้ว่ามีข้อผิดพลาด หลังจากนั้นมันกลายเป็นตราบาปไปตลอดเลยอ่ะบัง 😂
เลยอยากปรึกษาบังก่อนจะตัดสินใจซื้อทั้งสายแปลงและซื้อAmpครับ
บังจะให้คำปรึกษาทางไหน เอาที่บังสะดวกเลยครับ จะคอมเม้น หรือไลฟ์ หรือคลิปก็ได้ครับ ขอบคุณบังล่วงหน้าเลย 🙏🏻
เรื่อง TRS balanced to RCA มันจะกลายเป็น Unbalanced ครับ เพราะระบบ balance มันต้องการสายไฟ 3 เส้นจนถึง Amp ซึ่งถ้าอยากได้ balanced ต้องหา amp ที่มี input balanced เท่านั้นครับ
ถามว่าต่อแบบ TRS to RCA จะยัง flat ไหม? เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับความยาวสาย และที่สำคัญที่สุดคือ Amp ของเราจะตอบสนองได้ flat ขนาดไหน ถ้า amp เรา flat ทีนี้ก็จะขึ้นกับลำโพงว่าตัวลำโพงตอบสนองแฟลตแค่ไหนอีก ส่วนเรื่องสายที่ออกจาก focusrite จะขึ้นกับความยาว ถ้ายาวมากมันจะกลายเป็นสายอากาศ ดักจับคลื่นต่างๆมาแทรก ทำให้เสียงเพี้ยนได้ถ้าสัญญาณรบกวนแถวนั้นมาก ซึ่งระบบ balanced จะป้องกันเรื่องนี้คือสัญญาณรบกวนจากภายนอก
ถ้าอยากได้แบบชัวร์ ยังไงก็ต้องลงทุนครับ เท่าที่ผมดูนะ ถ้างบพอไหว ลองหาลำโพง active ที่มี input เป็น balanced จะจบเลย ไม่ต้องผ่าน amp ซึ่งบ้านเราที่เห็นมีอยู่ก็ ลำโพงมอนิเตอร์ของ JBL ตระกูล P อย่าง 305P, 308P ที่มี balance input ครับ ผมว่าราคาตอนนี้ถือว่า ok เลยครับ
@@zolkorn ขอบคุณมากครับบัง เคลียเลย ทุกประเด็น 💚
ในเชิง Engineer แล้ว Balance มันคือดีกว่า Unbalance อยู่แล้วดังนั้นถ้าจะแปลง Output จาก Balance เป็น Unbalance แน่นอนว่ามันย่อมกากลงเพราะมันรับ Noise Floor จากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าดังนั้นถ้าคุณทำเพลงไปซื้อ Studio Monitor ดีกว่าครับ ความที่ว่าจะ Flat และดีเทลรายละเอียดของเสียงส่วนใหญ่มันมาจากตรงนี้มากกว่าเรื่องสายเยอะ
พวกนี้ใช้กับ TV ได้ไหมครับบัง
ถ้าจะใช้กับพวก tv ต้องดูตัวที่มันมี optic in ครับ ถ้าจะเสียบแบบ USB จะใช้ไม่ได้ครับ
Interface มันก็มี dac นี่หว่า
แนะนำ ลำโพงแอคทีฟ ต่อซัพ งบไม่เกิน 7-8 พัน ให้หน่อยครับ อ๋อ ซาวนกาดด้วยครับ ขอบคุณครับ อ๋อผมมี ตู้ซับ เชอรแมน 10นิ้ว อยู่แล้วครับ
ลำโพงนี่ตามตรงเลยนะครับ แนะนำยากครับ แต่ลองไล่ดูของ edifier ก็ได้ครับ มีหลายตัวที่ต่อ sub แยกได้ ส่วน sound card นี่ ถ้าเอาสุดครบจบในตัวเดียวก็ AE9 แหละครับ แต่ถ้าเอาประหยัดเน้นเพลงตัว Z-SE ก็ถือว่า ok เลย หรือถ้าแบบ usb ก็มี G6 อีกตัวที่ฟังเพลงดี
@@zolkorn ขอบคุณครับ
@@zolkorn นี้ครับ ผมมี รุ่นนี้ Sherman SB-60 ซื้อ edifier มาต่อได้เลย ใช่ไหมครับ มือใหม่ครับ ปกติ ต่อแต่ ลำโพงซับ 2.1 ธรรมดา สาย y 2 ออก 1
@@zolkorn ถามเพิ่ม อีกนิด คือ เสียบ ซาวนกาด รูเขียว รูเดียว ใช่ไหมครับ รึ เสียบ ซับ รู ดำ แยก อีดิดไฟเออร์ สีเขียว มือใหม่จริง ๆ กำลัง สับสน งง ๆ
เรื่อง DAC กับ Sound Card ตอนนี้ยังมีการแบ่งชั้นวรรณะกีนอยู่หรือเปล่า เคยเห็นกลุ่มบูชา DAC ก็บูชา DAC ซะเหลือเกิน Sound Card คือกากหมด ไม่ได้มองการใช้งานอะไรเลย
ยังมีอีกแยะเลยครับที่อะไรๆก็ต้อง Dac เท่านั้น