#ห้องสมุดหลังไมค์

Sdílet
Vložit
  • čas přidán 25. 08. 2024
  • พม่าเสียเมือง เป็น สารคดีซึ่งประพันธ์โดย หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช เกี่ยวกับความผันแปรในประเทศพม่า เริ่มตั้งแต่ต้นยุคราชวงศ์คองบองราชอาณาจักรพม่ายุคที่ 3 เรื่อยมาจนถึงรัชสมัยของพระเจ้าสีป่อและพระนางศุภยาลัต ที่อาณาจักรพม่าตกเป็นเมืองขึ้นของจักรวรรดิอังกฤษ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากสารคดีเรื่อง เที่ยวเมืองพม่า พระนิพนธ์ในสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ
    .
    นอกจากนี้ พม่าเสียเมือง ยังเป็นเค้าโครงของนวนิยายอีกเรื่องหนึ่ง คือ เพลิงพระนาง ซึ่งมีการนำมาสร้างเป็นละครโทรทัศน์แล้วหลายครั้ง
    .
    ติดตาม Thaipbs Podcast ได้ทาง
    Facebook: bit.ly/3aLiWev
    Twitter: bit.ly/38EEd8p
    Instagram: bit.ly/2Q2o06n
    Spotify: open.spotify.c...
    SoundCloud: / thaipbspodcast
    #ThaiPBSPodcast #ThaiPBS

Komentáře • 3

  • @user-ur1cu8jh9j
    @user-ur1cu8jh9j Před 2 lety

    ขอบคุณมากจ่ะที่ทำให้ในวันๆนึงมีอะไรให้รอคอย...รัก

  • @rainyseason4581
    @rainyseason4581 Před 2 lety

    งานเขียนของอาจารย์คึกฤทธิ์สมแล้วที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นระดับปรมาจารย์ การอธิบายอะไร หรือการมองอะไรเหมือนเห็นป่าทั้งป่า ตอนนี้เป็นตอนที่ฟังแล้วเป็นอย่างที่อาจารย์พูด คือ ให้ความรู้สึกหลายอย่างระคนกัน ทั้งเสียดาย เสียใจ สลดใจ สะท้อนใจ สงสาร ฯลฯ บอกไม่ถูก ขนาดเราไม่ใช่คนพม่า ไม่ได้มีชีวิตอยู่ร่วมชะตากรรม เรายังรู้สึกแบบนี้ แล้วคนพม่าเองจะรู้สึกอย่างไร ความผิดพลาดบางอย่างเราสามารถแก้ไข มีโอกาสแก้ตัว หรือกลับมาเริ่มต้นใหม่ได้ แต่ความผิดพลาดบางอย่างเราไม่มีโอกาสได้แก้ตัวอีกเลย ไม่มีโอกาสที่จะทำให้สิ่งต่าง ๆ กลับมาได้เหมือนเดิมอีกต่อไป เศร้า
    เรื่องการเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งนี้ เคยได้ยินคนไทยปัจจุบันบางคนบอกว่าเสียดายที่เมืองไทยน่าจะเป็นเมืองขึ้นฝรั่ง จะได้มีความเจริญ มีการปกครอง มีการวางผังเมือง มีการศึกษาที่ดีเหมือนฝรั่ง พูดภาษาอังกฤษได้ เหมือนสิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินเดีย ฟังแล้วก็ให้คิดสงสัยว่าจริงหรือเปล่า ถ้าเป็นเมืองขึ้นฝรั่งดีจริง ทำไมประเทศเหล่านี้จึงเรียกร้องเอกราชกัน จริงอยู่ฝรั่งอาจจะทิ้งสิ่งที่เค้าว่าดีไว้ แต่ชาติตะวันตกก็ทิ้งปัญหาในแต่ละประเทศไว้เหมือนกัน อังกฤษใช้นโยบายแบ่งแยกเพื่อการปกครอง ให้คนในทะเลาะกันเอง จากเดิมที่อาจจะมีปัญหาอยู่แล้ว เพื่อไม่ให้รวมตัวมาต่อต้านตัวเองได้ อย่างกรณีอินเดียปากีสถาน สิงหลทมิฬในศรีลังกา โรฮิงญาในพม่าและชนกลุ่มน้อยอื่นๆ เมื่อมองดูเมืองขึ้นของฝรั่งเศสรอบบ้านเรา อย่างกัมพูชา เวียดนาม ลาว ก็ใช่ว่าจะเจริญเหมือนมาเลเซีย หรือสิงคโปร์ อาจจะมีคนแย้งว่าก็เพราะเป็นฝรั่งเศส ไม่ใช่อังกฤษ แต่ถึงอย่างไรมันก็แสดงให้เห็นอยู่ดีว่าไม่ใช่การเป็นเมืองขึ้นฝรั่งแล้วจะดี
    อีกสิ่งหนึ่งที่ฟังแล้วใช่เลย เข้ากับปัจจุบันมาก คือ การวิเคราะห์และให้ความเห็นของอาจารย์ถึงเหตุการณในตอนที่ 13 นี้ ซึ่งฟังแล้วพอจะสรุปให้กับตัวเองไว้จำก็คือ การที่เรามีดี มีสิ่งที่น่าภาคภูมิใจ มีความภูมิใจในตัวเอง หากมีมากเกินไปจนไม่สนใจความเป็นไป การเปลี่ยนแปลงของโลก ก็อาจจะเป็นอันตราย เมื่อเวลาหนึ่งมาถึง เราอาจตั้งรับไม่ทัน กลับตัวไม่ทัน และสิ่งดีๆ สิ่งที่เป็นความภาคภูมิใจของเรานั้นอาจจะสลายไปโดยไม่มีวันหวนกลับมาอีก ความเปลี่ยนแปลงในโลกไม่เคยจบสิ้นดูได้จากประวัติศาสตร์ หากเรามองอะไรรอบด้าน รู้ทัน ปรับตัว แก้ไขให้ทันการณ์อยู่เสมอ สิ่งดีๆ สิ่งที่เป็นความภาคภูมิใจของเรา ยังประโยชน์ต่อบ้านเมืองของเรา ก็อาจจะยังอยู่กับเราต่อไปได้อีกนาน
    เนื้อหาในหนังสือเล่มนี้เปรียบเทียบกับเหตุการณ์ปัจจุบัน ไม่ล้าสมัยเลย เหตุการณ์ต่างๆ ในปัจจุบัน การล่าอาณานิคมก็ยังมีอยู่ แต่รูปแบบเปลี่ยนไป อาจจะไม่ใช้ได้กำลังทหารอย่างเดียว แต่เป็นการเข้ายึดระบบเศรษฐกิจ การส่งคนอพยพเข้าไปในดินแดนอื่นมากๆ หรือการให้อาวุธแก่ฝ่ายที่ตนสนับสนุนเพื่อล้มอำนาจของกลุ่มคนที่ตนไม่สามารถควบคุมได้ การใช้สื่อเป็นอาวุธโฆษณาใส่ร้าย ยั่วยุกัน ฯลฯ การล่าอาณานิคมในยุคนี้อาจจะหนักหน่วงและน่ากลัวยิ่งกว่าในอดีตเสียด้วยซ้ำ
    ต้องขอบคุณห้องสมุดหลังไมค์ที่อ่านได้อย่างน่าฟัง เพลิดเพลิน ตลอดจนการวิเคราะห์ ให้ความเห็นในมุมมองต่างๆ ที่กระทบใจ สะกิดใจได้เสมอ ขอบคุณค่ะ