เอาเงินใส่บาตรได้หรือไม่
Vložit
- čas přidán 27. 08. 2024
- เอาเงินใส่บาตรได้หรือไม่ ตอบ..ผิดพระวินัยค่ะ อยากทำให้ถูกต้องเชิญชมคลิปนี้
เมื่อไม่นานมานี้ครูบิ๊กได้มีโอกาสอ่านบทความของท่านอาจารย์ทองย้อย แสงสินชัย ที่เขียนไว้เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2563 ท่านเตือนชาวพุทธว่า “การนำเงินใส่บาตรให้พระนั้น..ผิดพระวินัย” ค่ะ
การทำบุญด้วยเงินที่ถูกต้องที่สุดคือ การไปที่วัดและมอบเงินไว้ให้กับ “ไวยาวัจกร” ซึ่งก็บุคคลที่มีหน้าที่บริหารจัดการเงินทองให้พระ จากนั้นเราก็เขียน “ใบปาวารณา” ว่าได้ฝากเงินทำบุญไว้เป็นจำนวนเท่าไหร่ แล้วค่อยนำใบปาวารณานั้นไปมอบให้พระสงฆ์รูปนั้นได้รับทราบ หากท่านมีเหตุจำเป็นต้องใช้เงินนั้นก็ไปเบิกจากไวยาวัจกร หรือมอบหมายให้ไวยาวัจกรไปซื้อหามาให้ค่ะ
ท่านอาจารย์ทองย้อยเองก็เข้าใจดีว่า การกระทำดังกล่าวอาจจะยุ่งยาก ไม่สะดวกกับโยม ๆ ทั้งหลาย ท่านจึงเสนอวิธีการที่แยบยลและยังถูกต้องตามพระวินัยด้วย นั่นก็คือ “ระบบซองจดหมาย” นั่นเองค่ะ
วิธีการง่าย ๆ หากซองจดหมาย (หรือกล่อง หรือภาชนะอะไรก็ได้) ติดตัว ติดรถไว้ เขียนหน้าซองว่า “เงินทำบุญ” เมื่อสบเหตุที่อยากจะใส่บาตรพระด้วยเงินเมื่อไหร่...ก็ให้หยิบเงินนั้นมา จบอธิษฐานเสียให้เรียบร้อย แต่แทนที่จะนำไปใส่บาตรพระ ให้ใส่ลงในซองนั้นแทน อยากทำบุญอีกก็จบแล้วใส่ซองจดหมายนั้นลงไปอีก ทำเช่นนี้ไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งท่านสะดวกและมีเวลาไปที่วัดจริง ๆ ท่านก็นำเงินนั้นไปซื้อของจำเป็นถวายวัด/พระก็ได้ หรือนำปัจจัยนั้นไปถวายพระ/วัดโดยผ่านไวยาวัจกรให้ถูกต้องตามพระวินัย
วิธีนี้เรียกว่า “คลีน” สบายใจด้วยกันทั้งพระทั้งโยมนะคะ
อาจารย์ทองย้อยท่านยังได้ฝากข้อคิดสะกิดใจสำหรับผู้ที่นิยมถวายปัจจัยกับ “พระบวชใหม่” เพราะเข้าใจว่า ศีลของท่านบริสุทธิ์มาก ซึ่งก็จริงค่ะ แต่วินาทีที่ท่านรับปัจจัยจากโยมไป นั่นแหล่ะ...ศีลของท่านเศร้าหมองทันทีค่ะ
ช่วยกันทำบุญให้ถูกต้องกันเถอะค่ะ ไม่ได้ยากเกินไปหากเรามีศรัทธาที่จะสืบต่อพระพุทธศาสนาให้ยั่งยืนจริง ๆ
- เว็บไซต์ของครูบิ๊ก www.teacherbik.com
- Facebook fanpage : / dhammanista
- เชิญบรรยายติดต่อ Line ID : teacherbik
เอาเงินใส่บาตรพระอยู่บ่อยๆ..
..ทำแล้วสบายใจเพราะเป็นเงินที่ได้มา
โดยสัมมาอาชีพที่สุจริต..ชีวิตมีความสุขตามอัตภาพ..ถ้าโลกหน้าจะตกนรก
ก็แล้วแต่...อายุ..วัณโณ.สุขัง.พะลัง.สาธุ..
พระในกทม. ท่านก็ต้องใช้เงินหลายๆๆอย่างนะ ไปโรงพยาบาลๆก็เก็บค่ายาค่ารักษาโรค ค่ารถแท็กซี่ ค่าน้ำค่าไฟในวัด อาจเป็นบางวัดที่ต้องจ่าย ฯลฯ
ัรึรึธุ
พวกรู้เพียงครึ่งๆกลางๆก็แบบนี้แหละ ยกเอาแต่บริบทของอดีตสมัยมาตัดสินเท่านั้น ไม่ต้องให้ค่า กรุณาพิจรณาและให้ความสำคัญต่อบริบทสังคมปัจจุบันด้วย ถ้าถวายไม่ได้หรือเป็นบาปคงไม่มีทำกันหรอก
มันไม่ใช้สมัยพุทธกาลที่จะไปหาตามต้นไม้
@@chairatkhamlee765 ก็ไม่รู้จริงไงเลยทำตามๆกัน แข่งกันทำบาป ให้พระโลภ
สมัก่อนพระจะมีโยมอุปฐาก จะต้องการอะไร ก็จะบอกกับโยมอุปฐาก แต่ปัจจุบันไม่มี จึงถวายเอง แต่ให้แต่ละครั้งไม่ต้องมาก โดยให้อธิฐานเป็นปัจจัย4
ถูกต้องครับ ถ้ามีเงินทองมากเกินไป แต่ถ้ามีไว้เพื่อดำรงชีพ ก็คงไม่ผิด พระวินัยกำหนดมาเมื่อกว่า 2,600 ปี ปัจจุบัน กับอดีตไม่เหมือนกันครับ อดีตกาล มีโยมอุปฐาก พระไปไหนก็จะมีโยม คอยดูแล ปัจจุบัน วัดไม่มีเหลือแล้วครับ พระบนเขา จะไปหาหมอในเมือง ต้องจ้างรถสองแถว ไม่มีใครมาทำกับข้าวให้ ถวายพระ โดยไม่คิดปัจจัย ปัจจุบันมีความจำเป็นต้องใช้ แต่เพื่อดำรงชีพ ลองไปศึกษามหาปเทส 4 ดูครับ
ใช่
ทำไม่ได้หรอกเห็นนิมนต์พระมาทำบุญบ้านก็ต้องถวายซองทุกที่แหละสวดงานศพก็ใส่ซองและชิ่งเป็นพระมียศก็ถวายปัจจัยเยอะมากมีการจำกัดด้วยไม่เห็นมีใครไม่ให้เงินเลย
ถ้าไม่สบายใจก็ให้ไปบริจาคที่วัดโดยตรง ทางวัดมีคณะกรรมการดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายภายในวัด เช่น ค่าน้ำ-ค่าไฟ, ค่าก่อสร้าง, ค่าซ่อมแซมต่างๆ หรือหากทางวัดจำเป็นต้องใช้อะไรในโอกาศต่างไป เราก็สามาาถจัดหาสิ่งจำเป็นเหล่านั้นไปส่งให้ที่วัดโดยตรงก็ได้ค่ะ
พระที่ท่านไม่รับก็มีครับ
แถวโรงนมหนองโพธิ์
โพธาราม
พระสายป่าที่เคร่งครัด
อีกมากที่ไม่ยอมรับครับ
ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้วนะคะ ทุกอย่างต้องใช้เงิน
ไม่ว่าเราจะทำบุญด้วยเงินหรือว่าสิ่งของหรืออะไรก็ได้ ทั้งที่ใจเราอยากจะทำ บริสุทธิ์ใจ มันก็คือบุญหมดล่ะครับ ฝากไว้ให้คิด
ท่านไม่ได้ห้ามไม่ให้ทำบุญด้วยเงิน แต่ท่านห้ามไม่ให้เอาเงินใส่บาตรพระ เพราะบาตรพระเอาไว้ใส่เฉพาะอาหารที่ฉันได้เท่านั้น และต้องเป็นอาหารที่พร้อมจะฉันได้ ไม่ต้องไปต้มแกง เพราะพระไม่สามารถหุงหาอาหารบริโภคเองได้ ผิดพระวินัยครับ เพราะฉะนั้นการใส่บาตรด้วยข้าวสารอาหารแห้งก็ไม่ถูกต้อง ความจริงพระก็ควรจะบอกกล่าวให้ญาติโยมได้ทราบ เพราะโยมก็ไม่รู้พระวินัยของสงฆ์
ขออนุญาตเล่าถึงประสบการณ์ที่เจอเมื่อข้าพเจ้าไปเที่ยวจังหวัดเลยพักหนึ่งคืนในตอนเช้ามีพระสามรูปเดินอุ้มบาตรผ่านมาข้าฯและเพื่อนจะพากันใส่บาตรด้วยเงินเนื่องจากไม่ได้เตรียมอาหารไว้พระรูปหนึ่งพูดว่า"อาตมาไม่รับปัจจัยพระพุทธเจ้าบัญญัติไว้ให้รับเฉพาะอาหารเท่านั้นโยมเอาเงินไปใช้เลยเป็นบาปทั้งผู้ให้บาปทั้งผู้รับ"ตั้งแต่นั้นมาข้าฯก็ไม่ได้ใส่บาตรพระด้วยเงินอีกต่อไป
พระใน.. กทม.ท่านมีค่าใช้จา่ย.วัดท่านยุ่ลึก
ออกมาต้องจา้ง.มอไซร์ออกมา.วันละเป็นร้อย.เราใส่ทุกวัน.สงสารท่าน
ให้อะไรได้ก็ให้ ทำแบบสุดยอดเลย รักพระมากสวยงาม อาหาร ทุกอย่าง
เงินที่ญาติโยมสละทานมา เรียกว่า"เงินบุญ" ก็นำไปใช้ในทางที่เกิดบุญ เช่น พระหนุ่มเณรน้อย นำไปเป็นค่ารถ ค่าหนังสือ หรือ พระอาพาธนำไปซื้อยาเฉพาะทาง หรือนำไปเกื้อกูลแก่ผู้ด้อยโอกาส สัตว์ที่เจ็บไข้ได้ป่วย และก็ใช้ในทางที่เป็นกุศลอีกมากมาย..
แต่ผู้ใดใช้ผิดทาง ก็เป็นกรรมของผู้นั้น..
สาธุค่ะ
พระพุทธเจ้าตรัสว่า พระวินัยบางข้อ บางอย่างนานไปอาจไม่เข้ากับยุคและสมัย ก็ให้ยกเลิกเสียได้.เมื่อพระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว พระมหากัสสปะทำสังคายนาพระวินัยได้บอกว่าพวกเราอย่ายกเลิกข้อห้ามเลยถ้าข้อห้ามนั้นไม่เข้ากับยุคสมัย ให้ผ่อนปรนไปตามยุคสมัยนั้นๆ
ทุกวันนี้มีแต่โลกสมมติค่ะ ไม่มีใครปฏิบัติได้ สังเกตโลก สังเกตุคนทุกวันนี้มีแต่ความวุ่นวาย เกิดจากคนเราผิดศีลผิดวินัย
ตรัสไว้ที่ไหน จากพระไตรปิฏกเล่มไหนหน้าไหนข้อที่เท่าไหร่?
?
ขออนุโมทนาบุญด้วยนะครับ สาธุ
แล้วแต่ศรัทธาของผู้ที่ต้องการทำบุญครับ แล้วแต่ความสะดวกของผู้ที่ทำ ไม่ว่าทำบุญด้วยอะไรก็ไม่ผิด ถ้าสิ่งที่ถวายไม่ผิดกฎหมายหรือศิลธรรมอันดีงาม
ไม่ผืดกฎหมายแต่พระผิดวินัยข้อนิดสักคีปาจืดตครับข้อ ว่ารับเ งก็ดีให้ผู้อื่นรับก็ดีต้องนิดสักคีปาจืดติ
ต้องใช้แบบปาวารณานั่นแหละถจะถูกพระวินัยผมจำไม่ได้แล้วว่าข้อที่เท่าไรพระพุทธเจ้าทรงบัญญัติพระวินัยไว้ดีมากถ้าหากพระปฏิบัติตามพระวินัยอย่างเข้งคัดแล้วจะดูสวยงามมากกว่านี้ อีกนะ
ฉันใส่บาตรอาหารเกือบทุกวันพระ และใส่เงินด้วย เพราะคิดว่าบางทีท่านคงจำเป็น แต่ไม่มาก20-40 และมีครั้งหนึ่งฉันพาแมวไปหาหมอ และพบพระสงฆ์รูปหนึ่งท่านก็พาแมวไปหาหมอเช่นกัน และเห็นค่ารักษาแมวของพระรูปนั้นเป็นเงิน1,800บาทเห็นท่านยิบเงินออกมา มีแต่แบงค์20ทั้งนั้นเลย ท่านบอกกับฉันว่าเป็นเงินที่ญาติโยมใส่บาตรมาให้ฉันคิดว่ายุคสมัยมันเปลี่ยน บางสิ่งบางอย่างมันก็ต้องเปลี่ยนแปรไปบ้าง
สาธุค่ะ
เราก็ใส่บาตรด้วยเงินหรือดอกไม้ประจำ แต่ท่านจะหงายบาตรรับ หรือจะปิดบาตร เราก็วางบนฝาบาตร ไม่ได้ใส่ในบาตร ก็คิดว่าท่านจำเป็นต้องใช้ ค่าน้ำค่าไฟ
ต้องตามพระธรรมวินัยครับไม่คิดส่วนตัว
พระบางวัดท่านต้องเสียค่าน้ำค่าไฟเองนะ
ลำบากใจจริง หมา20แมว30 เดือนนึง12000 ไม่เคยได้เงินจากส่วนกลางสงฆ์เพราะไม่มีส่วนของหมาแมว เงินได้จากกิจนิมนต์และบิณฑบาตร
ไวยาวัจกรแค่สมติขึ้นมาใหม่ในคั้งพุธการเขาก็ถวายกับพระเคยศึกษาอยู่บ้างครับ
ท่านจะเอาเงินจากไหนมาเสยค่าน้ำค่าไฟใครจะเป็นผู้เสียใท่านท่านเจ็บป่วยต้องนั่งรถก็ต้องเสียเงินชั่งมันเถอะถือว่าช่วยแบ่งภาระพระละกัน
สาธุค่ะ
ผิดข้อไหนบอกให้ชัดเจนด้วยครับ..พระสมัยนี้ท่านต้องใช้เงินครับ
ถ้าผิดก็ให้ชาวไทยเลิกบวชสิครับในครั้งพุธการเขาก็มีการถวายข้าวของเงินทองอยู่นะครับ
มีผู้บรรยายธรรมบางท่าน สถานปฏิบัติธรรมบางแห่ง ชอบพูดทำนองต้องการให้ผู้ฟังมองพระในแง่ลบ แทนที่จะอธิบายว่าสมัยอดีตเป็นเช่นนี้ สาเหตุที่ตัดห้ามเป็นเช่นนี้ และในโลกปัจจุบันมีการยอมรับว่าให้ปฏิบัตเช่นนี้ได้ พูดให้รอบคอบครบถ้วนถึงเหตุถึงผลแบบนี้จึึงจะถูกต้อง แต่กลับมายกคัมภีร์แถมพูดทำนองให้ผู้ฟังเห็นว่าพระปัจจุบันไม่ดี ไม่ถูกต้อง หรืออยากให้คนเบื่่อพระแล้วกลับหันมาทำบุญบริจาคให้มูลนิธิของพวกตัวเองเช่นนั้นเหรอ ขนาดพระไปช่วยน้ำท่วมยังพูดแต่ฝ่ายเดียวคือฝ่ายที่มีมาในคัมภีร์ในอดีตสมัย ไม่พูดถึงปัจจุบันสมัยที่โลกแปรเปลี่ยนไป บทบาทของพระกับการช่วยเหลือสังคม
ถ้าให้เงินพระแล้วสิ่งที่จะเกิดคือ คนให้ตกนรกและพระที่รับก็ตกนรก ลองกลับไปเรียนนะเพราะเปนโทษอย่างแรงถ้าตักบาตรด้วยเงินโปรดอย่าทำเพราะเราจะตกนรกแน่นอน ลองกลับไปเรียนกับผู้รู้เช่น อ.เผดิม นะ
พระไตรปิฏกฉบับหลวง เล่นที่๒ วินัยปิฏก มหาวิภังค์ ภาคที่๒ หน้าที่ ๑๐๘-๑๑๐ ข้อที่ ๑๐๕ ครับ
………………..พระบัญญัติ
๓๗. ๘. อนึ่ง ภิกษุใด รับก็ดี ให้รับก็ดี ซึ่งทอง เงิน หรือยินดีทอง เงิน
อันเขาเก็บไว้ให้, เป็นนิสสัคคิยปาจิตตีย์.
……………….
ส่วนพระภิกษุที่อ้างยุคสมัยนั้นคือ ๑.ไม่รู้จริงๆว่าผิด
๒.อ้างเผื่อความสะดวกสบาย หรือลาบสักการะของตนครับ
แบที่ ๑ พอเข้าใจอาจบวชใหม่ แบบที่๒ ะวกทำจนเป็นนิสัย พระเลว พวกโมฆะบุรุษ(บวชไปก็ว่างเปล่า)ครับ
ไปวัดทำบุญ ญาติโยมไม่ได้ถาม พูดรายละเอียด มากมาย ขนาดนั้นหรอกค่ะ แค่ ยกมือท่วมหัว อนุโมทนาสาธุ ค่ะ ขอบคุณ ค่ะ
ถูกต้องที่สุดเลยจ้า อนุโมทนาบุญที่นำมาบอก
สาธุค่ะ ร่วมด้วยช่วยกัน
การตัดสินพระธรรมวินัยต้องคำนึงถึงหลักของมหาปเทศ 4 ไม่เถียงครับ ในพระไตรปิฏกก็กล่าวไว้ แต่ก็มีข้อสนับสนุนให้ทำได้ ในครั้งพุทธกาลสามพันปีมาแล้ว โลกและสังคมแตกต่างกัน ถ้าไม่ถูกต้องชอบธรรมแล้ว ไม่นิยมกันทำหรอก บางอย่างไม่ถูกต้องในอดีต แต่ปัจจุบันยอมรับว่าถูก ประเด็นนี้ต้องพูดให้หมด ถ้าจะพูดเพียงครึ่งๆกลางแบบนี้ยังไม่สามารถมาตัดสินได้ ถ้าจะถวายแก่หมู่่ภิกษุสงฆ์ที่ไม่ได้ใช้ เช่น พระป่า พระกรรมฐาน แบบนี้ไม่ควรเพราะอาจนำภัยอันตรายมาสู่ท่านได้ ถ้าเป็นพระที่อยู่กับชาวบ้าน ก็ถวายได้ไม่ผิด เพราะมันจำเป็นต่อท่าน ถวายกับพวกพระป่าไม่ควร ควรถวายแก่พระที่อยู่ในบ้านในเมือง จะบอกว่ากรุงเทพเท่านั้นเป็นประเทศไทยจังหวัดอื่นไม่ใช่ แบบนี้ตอบไม่หมด ไม่ครบถ้วน
ใส่บาตรจะเป็นอาหารหรือเงินก็ใส่ไปตามศรัทราเถิด ได้บุญทั้งนั้น ใจเราเป็นใหญ่ ใจเราเป็นหัวหน้า สำเร็จที่ใจ
สาธุค่ะ
แล้วไวยาฯ มุบมิบเอาเงินนั้นไปล่ะจะทำอย่างไร แล้วในขขณะที่พระเดินทางแล้ว เจ็บป่วย จะทำอย่างไร
ตีความพระวินัยผิด
คำว่าชาตรูปรชตะ = Gold, Silver, รวมถึง Jiwery อื่นๆ อีก
ส่วนปัจจัยหรือธนบัตร = กัปปิยะ แปลว่าของคู่ควร
ดังนั้นจึงไม่ผิดพระวินัย แต่พระภิกษุไม่ควรเก็บสะสมไว้มาก เพราะทั้งอันตรายจากโจรและความโลภคือกิเลสของตัวเอง
หากเป็น *กัปปิยะ* ย่อมไม่ผิด
หากผิดต้องเป็น *อกัปปิยะ*
เป็นกำลังใจให้ผู้ทำclipนะครับ พระวินัยบัญญัติไว้ชัดเจน ธรรมดาโลกครับสิ่งที่ถูกต้องมักไม่ถูกใจ(ไม่ถูกจริตกิเลสโยมๆทั่งหลาย😁)
ขอบพระคุณมากค่ะ สำหรับกำลังใจดี ๆ สาธุนะคะ
ถูกต้องครับ ภิกษุสมัยนี้ตะแบงวินัยกันมาก โยมก็ไม่รู้วินัย ภิกษุก็ไม่ค่อยรู้หรือแก้ไม่รู้วินัยสงฆ์
ภิกษุต้องไม่สะสมเงินทองเป็นการส่วนตัวเพราะเงินทอง และสีกาคืออสรพิษ หรือข้าสึกของภิกษุ ทำให้เกิดกิเลส ตัณหาตามมาโดยไม่รู้ตัว ภิกษุต้องสละเงินทองทันทีไม่นำเข้ามาสู่ตัว ภิกษุดำรงชีพด้วยการขอ คือออกบิณฑบาตหาเลี้ยงชีพ และรับสิ่งของพอเต็มบาตรแล้วกลับวัด ถวายภิกษุด้วยปัจจัยสี่เท่านั้น
นอกนั้นไปจัดการในส่วนรวมโดยไวยาวัจกร และคณะกรรมการวัด
ภิกษุเป็นผู้ละออกจากครัวเรือนเพื่อมาศึกษา ปฏิบัติธรรม และสั่งสอนธรรม มีหน้าที่หรือกิจ ตามกิจของสงฆ์ ตามพระธรรมวินัย เท่านั้น อย่าออกนอกพระธรรมวินัย อย่าตู่คำสอนของพระพุทธเจ้า ต้องรักษาพระสัทธรรมไว้ให้คงมั่น ยั่งยืน
ความคิดล้าสมัยไปแล้วค่ะเพราะพระบางองค์ไม่ได้มีรถส่วนตัวจะไปไหนมาไหนก็ต้องใช้เงินไหนจะค่ารถ ค่าน้ำ ซื้อยารักษาโรค อย่าคิดกันเยอะเลยค่ะ ไม่ใช่ว่าจะทำบุญกันมากมายอะไรแค่1-2ร้อย ฟังแล้วปวดหัวทำไปเถอะค่ะทำไปแล้วใจเราเป็นสุขก็ทำไปเถอะค่ะ
ถูกต้องค่ะ
ปัจจัยอย่าใส่ในบาตร เพราะอาจเกิดการปนเปื้อนได้ แต่ให้ใส่ย่ามแทน 1. พระท่านมิได้เป็นผู้ร้องขอ มิได้ผิดศีล 2. เราถวายเองด้วยสรัทธา 3. มันไม่สะดวกในการเดินทางไปถวายที่วัด 4. การทำบุญทำเท่าที่เรามีความสามารถที่จะทำได้ การทำบุญ ที่ละพัน สองพัน มันอาจเป็นไปไม่ได้ 5.พระวินัยน่าจะเปลี่ยนแปลงได้ตามยุคสมัย 6. ถ้าการให้เงินพระเป็นการผิดพระวินัย และพระชั้นผู้ใหญ่รับเงินเดือนได้อย่างไร 8. อะไรที่ทำแล้วสบายใจ ก็ทำไปเถิด
สาธุค่ะ
Agree
ทำบุญก็ได้บุญ! ขอให้มีใจบริสุทธิ์ก็พอ แต่ผมมักจะใส่ซองถ้ามี แต่ถ้าไม่มีก็ใส่ย่าม อันสุดท้ายก็วางบนฝาบาตรจะไม่ใส่ปนกับข้าวในบาตรเพราะมันสกปรกอาจทำให้เกิดพาหะของโรคได้!
ขอบคุณสำหรับความรู้คะ🙏🙏🙏
เงินๆ ทองๆ ใครๆ ก็ อยากมีอยากได้ ทั้งนั้น .ผู้จะสนับสนุนศาสนาไม่ควรให้ทานนอกปัจจัยสี่ ถ้าให้เงิน มันอาจไปทำลายความเพียรที่ชอบ ของผู้เป็นภิกษุ.ผู้หวังความดับทุกข์..คิดแค่นี้ก็เห็นเหตุและผลแล้วครับ
เดินสายกลาง และให้ปรับเข้ากับยุคสมัย ใครเข้าใจยังไงก็เข้าใจไป ไม่เลวร้ายถึงขั้นปราชิก 4
ดีครับช่วยกันครับ พวกเราจะได้รักษาพุทธศาสนาให้อยู่ในประเทศ ไม่ใช่โดนทำลายโดยน้ำมือคนรุ่นเรา เดี๋ยวนี้คนนับถือพุทธ แต่ไม่ฟังคำสั่งสอนขององค์ตถาคต
อยู่อเมริกา การเดินทางไปวัดไกลจากบ้าน ทำอาหารก็เหลือเฟือ ฉันท์ไม่ไหว ทำก็ไม่สะดวกเหมือนไทย บางทีก็ใส่อาหารแห้ง ก็ใส่เงิน เพื่อความสะดวก แต่บนโบสถ์ มีตู้บริจาค เขียนว่าภัตราหาร , ค่าไฟ ค่าน้ำ ฯลฯ
ขอบคุณความรู้ดีๆที่ให้ค่ะ 👌🙏
ใช่ค่ะพระท่านต้องมีค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
รถรับจ้างเขาไม่รับพร
นะคะเขารับปัจจัยค่ะ
ทุกวันนี้เห็นแต่คนทำบุญใส่บาตร ใส่เงิน พระก็ไม่เห็นปฏิเสธ
ผิดจริงตามพระคัมภีร์ แต่ไม่ได้ร้ายแรง คอขาดบาดตายถึงขั้นต้องขาดจากควาามเป็นพระไปหรอก ถ้าอธิบายถึงเหตุถึงผลของวินัยข้อนี้ว่า ในอดีตสมัยเป็นเช่นนี้ ในบริบทปัจจุบันเป็นเช่นนี้ ข้อดี ข้อเสียให้รอบคอบคุมหลายๆด้าน ไม่ใช่จะว่าเพียงแค่นี้ ถ้าเป็นแบบนั้นก็แสดงว่ารู้เพียงแค่หลักพระวินัยที่จาารึกตามพระคัมภีร์เท่านั้น ส่วนเงื่อนไข กติกา ข้อยกเว้น ข้ออนุญาตไม่รู้เรื่องเลย
ในสมัยนี้ พระต้องขึ้นรถ ลงเรือ ไปเรียนหนังสือหรือไปปฎิบัติศาสนกิจนะ คุณต้องเดินสายกลางกันนะครับ อีกอย่าง รถ เรือ อย่าเก็บตังค์พระสิ..คือเอาไปถวายกองกลางที่วัดก็ได้มั้งครับ..แต่ควรให้เป็น คชจ.ท่านบ้าง เพราะต้องมี คชจ.งัยครับ
เหรียญยังมี 2 ด้าน จะสรุปเลยก็จะลำบากท่านนะครับ
พระสงฆ์ก็ต้องใช้ตังซื้อปัจจัยบางอย่างที่ขาดแคลน
ใช่
บางวัดไม่ใช่มีให้ทุกอย่าง
ผู้เอาเงินใส่บารตต้องตกนรกเพราะส่งแสริมให้คนเข้าไปใช้ผ้าเหลืองหากิน
@@DaDa-ik9fo แค่บางวัด ไม่ทุกวัด
ปัจจุบันนี้ เวลาอยากทำบุญด้วยปัจจัย จะทำบุญในกล่อง "ชำระหนี้สงฆ์ค่าน้ำ-ไฟ" และ"โลงศพ" ส่วนใส่บาตรก็ยังเหมือนเดิมคืออาหารคาวหวาน แต่ถ้าถวายสังฆทานที่จัดเอง ก็จะใส่ปัจจัยไปตามกำลัง เพราะสังฆทานที่พระรับ จะเป็นส่วนกลางของทางวัดค่ะ ขอบคุณนะคะ รักษาสุขภาพด้วยค่ะ
เป็นประโยชน์จริงๆค่ะ
พระรับเงินบาปทั้งผู้รับและผู้ให้❤
ฟังแล้วได้ความรู้มากมายคะ.เมื่อก่อนก็ใส่ตังคะเดี๋ยวนี้ไม่ใส่ตังเลยคะ.ถ้าท่านมาสวดที่บ้านงานพิธีถึงใส่ซอง
สาธุค่ะ
ขอบคุณมากครับ สำหรับคลิปดีๆ สำหรับฆราวาสชาวพุทธ
ยินดีที่คลิปเป็นประโยชน์ค่ะ
เคยใส่20 เพราะคิดว่า เป็นเงินของเรา และเมื่อเสียชีวิตไป เราก็ไปรับ คืน ใช้เป็นการเปิดทางให้เราเอง
สาธุค่ะ
สมัยนี้กับสมัยพุทธกาลมรื่องพระรับเงินโยมใส่บาตรพระดิวยเงินบาปดังท่าน อาจารย์สาธยายมันก็ถูกตามพระธรรม
🙏🙏🙏อนุโมทนาบุญ สาธุ สาธุ สาธุค่ะ🙏🙏🙏
พระคือคนที่ตัดจากกิเลสทั้งปวงคนที่บวชพระก็ต้องรู้ว่าจะต้องปฏิบัติตัวต่างจากคนทั่วไปอยู่แล้ว แต่ถ้าคิดว่ายังอยากใช้ชีวิตปรกติกินสามมื้อมีเงินทองใช้จ่ายตามสบายคือถ้ายังปฏิบัติตัวเหมือนชาวบ้านก็อย่าบวชเลยชาวบ้านเขาจะหมดศรัทธาเอา ทุกวันนี้ชาวบ้านจะยกมือไหว้พระยังต้องพินิจพิจารณาว่าพระปฏิบัติดีรึป่าวเพราะเขาไม่อยากกราบไหว้คนห่มเหลืองหาเงินเพื่อเก็บสะสมสรุปเงินคือชี้ให้คนเห็นว่าพระรูปไหนคือพระจริงพระปลอมเพราะถ้าพระยังสะสมทรัพย์กินสามมื้อมีโลภโกรธหลงก็อย่าบวชเลย และถ้าสำนักพระพุทธศาสนายังไม่แก้ไขเรื่องคัดคนมาบวชก็อย่าไปโทษชาวบ้านเลยที่เขาไม่อยากเข้าวัดและเสื่อมศรัทธาในนักบวช
เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ
พูดยาวไป อทิบายสั้นๆ ไม่ยาวมาก
เข้าใจง่ายๆ ยุคสมัยมันเปลี่ยน เรา
ทั้งหลายก้ควรเปลี่ยน ปรับ ให้สมดุลกัน บางอย่างพระท่าน พูดไม่ได้ บอกไม่ได้ พุดแล้วก้อาบัติออก
เพราะมันเป็นเรื่อง เงินๆทองๆ ทำตามสมควร ก้สมควร ครับ ทั้งพระ
ทั้งยม ไม่น่าเกลียดขนาดนั้น
ทุกๆอย่าง มันยุ่ที่จิตใจ กับ เจตนา
ขอบคุณมากๆค่ะ หายข้อข้องใจเลย ค่ะ
พูดได้ดีมากๆ
ขอบพระคุณมากค่ะ
พระต้องใช้เงินในการชำระค่ารถในการเดินทาง..ไวยาวัจกรไม่ได้เดินทางไปด้วย..เมื่อห้ามพระจับเงิน...แล้วพระจะชำระค่าเดินทางได้อย่างไร
คลิปนี้มั่นบ้า มั่นทำลายพระสงฆ๊โดยตรง พระเดินทางไกล รถไม่ให้พระนั่งฟรี พระก็ไม่ใช่เหาะได้ ยามเจ็บไข้ ร้านยาก็ไม่ใช่ให้ฟรี
มันแก้ยากแล้วค่ะคุณ🙏🙏🙏
ดิฉันใส่บาตรหน้าบ้านทุกวันเพราะมีพระสงฆ์ท่ีวัดใกล้บ้านท่านก็ไม่แข็งแรงนัก แต่ท่านก็ได้มาโปรดสัตว์ให้เราได้ทำบุญกุศลด้วยเราก็อายุมาก แต่บางครั้งจะใส่ปัจจัยถวายท่านเคยอ่านว่าจะอาบัติก็เข้าใจละแต่เราก็ได้อธิษฐานตั้งจิตขออย่าให้เป็นบาป. ทั้งเราทั้งท่าน เรามีเหตุผลถึงจะขัดพระวินัย ของพระพุทธองค์. เพราะสงฆ์ยุคปัจจุบันจำาเป็นต้องใช้เงินซื้อหยูกยาและเครื่องใช้ ท่ีจำเป็นวัดสมัยนี้อยู่ได้เพราะต้องมีปัจจัย ไม่มีโยมคนไหนจะมาเป็นผู้อุปถัมภ์เพราะต่างก็ไม้ได้มีทรัพย์สินมากมาย การจะเดินทางไปหาหมอท่ีรพ.ไกลๆ บางครั้งก็ต้องใช้เงิน อีกอย่างเราก็คิดว่าไม่ได้ถวายปัจจัยมากมายอะไร. ถ้าจะอาบัติขัดพระวินัยสมัย นี้คงมีพระอาบัติเกือบทั่วประเทศทุกวัดแข่งกันหาเงินเข้าวัดด้วยวิธีการต่างๆ เข่นวัดท่ีสันับสนุนเรื่องการให้หวยพระเองก็ยังเดิน หาซื้อหวยกันเอิกเกริก. ท่ีพูดอย่างนี้ไม่ได้เจตนาลบหลู่คำสอนของพุทธองค์แต่ควรอยู่ท่ีความตั้งใจอันบริสุทธิ์องผู้ถวายว่ามีเจตนาดีในการถวายถ้าเป็นบาปก็ต้องขออโหสิกรรมด้วย
ก็ลองไม่ใส่เงินดูสิจะมารับบาตรมั้ย เราไปปฏิบัตรมาคะหลวงพ่อปฏิบัติดีปฏิบัติชอบได้บอกคะ เราอยากทำจริงก็อธิษฐานใส่กระปุกไว้คะว่างวันไหนก็เอาไปทำที่วัดเลยคะ
ใช่เลยครับ ต้องถามว่ามาบวชเพื่ออะไรกัน
อนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ
ขอบคุณครับ
สาธุๆครับ
อนุโมทนาบุญสาธุๆๆค่ะ
ผิดครับเพื่อไม่ให้เกิดความโลภ
โลภ โทส โมห มีกันทุกคนที่ยังไม่หมดขี้เลสเพียงแต่ว่าใครจะมีมากมีน้อยกว่ากัน
ที่ทราบมาเงินวัดหายเยอะแยะเคยขึ้นรถกระเป๋ารถเมล์เก็บเงินพระเคยไปทานอาหารที่ร้านค้า พระ ต้องจ่ายค่าอาหารฟังและพูดไม่ออกเลยค่ะ
ตอนผมบวชอยู่ไม่เคยหยิบเงิน และไม่เคยใช้เงินเลยครับ
ไปบวชที่วัดไหน และบวชนานแค่ไหน
มันคนละยุคแล้วสมัยนี้ทุกอย่างต้องใช้เงินบางวัดเขาไม่มีเงินจะจ่ายให้ไปหาหมอ
เพราะมีญาติเตรียมให้พร้อมละซิ เช้าเตรียมอัดแน่นเลย
ประทานโทษ ท่านบวชกี่พรรษา
@@user-hk6zb5of1w 6 พรรษาครับผม
ไม่สมควรอย่างยิ่ง ถ้าเราอยากจะมีศาสนาพุทธ ไม่ควรครับ. อย่าบอกว่าทุกอย่างอยู่ที่ใจ(ถูกใจกับถูกต้องมันต่างกันครับ) เด็กวัดครับผม.
สาธุค่ะ
พระต้องเดินทางค่ะ ท่านก็ต้องใช้นะค่ะ
ใส่เงิน ผิดพระวินัย แต่ได้กุศลหรือไม่ เพราะทุกวันนี้เห็นใช้แต่เงินสร้างโน่นนี่ หรือชำระหนี้ค่าน้ำค่าไฟ ฯลฯ หนือค่าเดินทางของพระ เป็นต้น
คนละยุคสมัย..พุทธการ...กับปัจจุบัน...กาลเวลาเปลี่ยน...ทุกอย่างเปลี่ยนไป
ร +ๅ
พระก็ต้องจ่ายค่าน้ำค่าไฟสมัยพุทธกาลไม่มีน้ำไฟก็ไม่ต้องใช้จ่ายอะไร
วัดใกล้ๆบ้านที่สุด จะมีเจ้าหน้าที่วัดมาเก็บค่าน้ำค่าไฟกับพระสงฆ์ที่อาศัยอยู่ในวัดค่ะ พระป่วยท่านอยากไปหาหมอก็ไม่มีค่ารถค่ะ
พระสามเณรโดยเฉพาะบ้านนอกต้องใช้เงิน ไม่ได้มีไวยาวัจกร จัดการให้ คนไม่เข้าใจวินัยที่แท้จริงมาพูดไปเรื่อยนะ
การบวชคือการละ แม้แต่เงินยังละไม่ได้ ก็ควรสึก วัดเขาให้คฤหัสถ์เป็นคนดูแลเงินและรับเงินถวายวัด ไม่ใช่พระ ถ้าไม่มีอาหารใส่บาต ก็ไปฟังธรรมะเอา ก็ได้บุญ อย่าใส่เงิน อย่าไปคิดแทนพระว่าต้องใช้เงิน นั่นนี่ อย่าที่บอก ละไม่ได้ก็ควรสึก
บางคนไม่มีเวลา ก็ต้องใชเงิน ใส่บาตร
ส่วนใหญ่
พระรับ
ส่วนน้อย
หรือหาไม่เจอ
ที่จะไม่รับ
อย่ายึดติด
โยมสมัยนี้
ก้อไม่ตักบาตร
เยอะเหมือนสมัยก่อน
แต่โบราณ....
เงิน..
คือปัจจัยสำคัญสุด
ยา.. อาหาร.. ค่ามือถือ
ค่าน้ำไฟ.. ทำบุญต่อบุญ
ให้พ่อแม่ที่ไม่มีใครเลี้ยง
ไม่ประสงค์ทำส่วนรวม
ต้องการถวายส่วนตัว
ไวยาวัจน์กร.. โกงพระโกงวัดก้อมี.. คงไม่.. ถวายบ่อยๆหรือมากๆ.. ให้.. ท่านหรอก
ถวายได้ก้อไม่เกินหลัก100
อย่ายึดติด.. ทำแล้ว
เราสบายใจก้อ.. "ทำ"
พระต้องไปหาหมอเสียค่ารถเต็มๆไม่ได้จ่ายครึ่งพอออกจากงานมาบวชพระก็ต้องส่งประกันสังคมครับ
โย ปน ภิกฺขุ ชาตรูปรชตํ อุคฺคณฺเหยฺย วา อุคฺคณฺหาเปยฺย วา อุปนิกฺขิตฺตํ วา สาทิเยยฺย นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํฯ ก็ภิกษุใด รับเองก็ดี ใช้ให้ผู้อื่นรับก็ดี ยินดีเงินและทองที่เขาเก็บไว้เพื่อตนก็ดี ภิกษุนั้นต้องนิสสัคคิยะ ปาจิตตีย์. ที่มาวินัยปิฏกเล่มที่๒
สวดหน้าเมรุ..ใส่หลายรอบมาก..ไม่สมควรแล้วเพราะทำให้พระโลภะได้
เรียกปัจจัยคือของจำเป็นทั่วไป ไม่ใช่เงิน(สมมติบัญญัติ)...
ขอบคุณคะ
ตามสมควรครับยุคสมัยนี้ เงินคือของไม่บูดไม่เน่าครับ ก็อยู่ที่เจตนาที่พระจะไปใช้แบบไหน
ถูถต้อง
ผมเคยไปอยุ่ กทม กับหลวงพี่ ไม่ขอบอกชื่อวัดนะคับ มีเก็บค่าน้ำค่าไฟกับพระลูกวัด ติดมิเตอร์ตามห้องเลย มีกิจนิมนต์มีเก็บภาษีรายได้ต่อครั้งด้วย นี่คือวัดสมัยนี้ และผมก้อคิดว่าน่าจะมีไม่น้อยวัดแบบนี้
เชื่อครับ
และที่ทุกวันนี้มีกานทำบุญออนไลน์เหรอคะ ผิดไหมคะ ช่วยตอบด้วยค่ะ ขอบพระ คุณ ณ ทีนี้ ค่ะ
ขอขอบคุณครับ
อาตมาขออนุโมทนาสาธุ
@@Kehloiu_12345 สาธุเจ้าค่ะ
เป็นพระก็ต้องใช่เงินครับ จำเป็นครับ สายวัดป่าเห็นสาวนใหญ่จะไม่แตะต้องเงิน จะเอาเป็นกองกลาง พระรูปไหนจำเป็นต้องใช้จ่ายจะมาเบิกเป็นการนั้นไปครับ
ตอนผมบวชใหม่ออกมาจากโบสถ์คนใส่เงินในย่ามในบาตรหลักหมื่นผมไม่เอาสักบาทถวายต่อใหัวัดหมดเลยนะ หลายรูปวันนั้นรวย 5555
อนุโมทนาในการบวชของท่านในครั้งนั้นด้วยค่ะ
ในหมู่บ้านมีรถเก๋งมาส่งพระเพื่อมารับบิณฑบาตรจากชาวบ้าน เท่าที่ทราบเป็นรถที่พระจ้างให้มารับบิณฑบาตรจากชาวบ้านและส่งท่านกลับวัด จึงมีชาวบ้านใส่บาตรพร้อมด้วยซองใส่ธนบัตรเพื่อถวายพระด้วยค่ะ...ขออภัยหากใช้คำพูดไม่ถูกต้อง🙇🏿♂️
พระสวดหน้าศพ
เลี้ยงพระทำบุญ
ใส่ซองมาหลายสิบปี
พระก็ต้องใช้เงิน
..ทำไป..สบายใจ..
ขออนุโมทนาสาธุๆๆ
สาธุครับ
ขอบคุณค่ะ
ให้เดินสายกลางครับพระยังกินนํ้ากินข้าวขึ้นรถข้าว
ขึ้นรถไปไหน
ใส่บาตรตตอนเช้าทุกวันหน้าบ้านก็ใส่เงินทุกวันแต่ลูกศิษย์ทานเป็นคนจับมส่ย้ามและเดี๋ยวนี้พระเสียค่าน้ำค่าไฟเองถ้าไม่มีเงินจะเอาที่ไหนมาเสียสมัยมันเปลี่ยนไปแล้วถ้าสมัยก่อนพระไม่ต้องใช้เงินเดินอย่างเดียวแต่สมัยนี้พระต้องนั้งรถถ้าบาปก็ไม่รู้จะพูดยังแล้ว
สาธุค่ะ
เอาเงินใส่บาตร. (ผิดกฏ.จริง..) พระเจ้ามีเอาไว้ว่า.... ไม่ยีนดีกิน... ไม่ยีนดีเงินทอง... ไม่ยีนดีรวย.. (สระมดแล้ว)... (แต่เราอยากทำบุญ.... เท่านั้น...
นี่มัน สมัยให้แล้ว พิจารณาด้วย
โปรดเข้าใจใหม่นะคะรับ การนำเงินใส่บาตรเป็นบาป พระก็เป็นอาบัต ครับ
สาธุ
ถ้ายังมีความต้องใช้เงินอยู่ แล้วจะบวชไปเพื่ออะไร บวชคือการละ แสดงถึงการประกอบอาชีพบวช
สาธุค่ะ
สาธุจร้า
ก็ดีนะทำบุญให้ทานแล้ว ยังหวังสิ่งตอบแทนอีก
นักบวชคือผู้ใช้ชีวิตสมถะเพื่อแสวงหาสัจธรรมฝึกความอดทนอยู่กับธรรมชาติทุกวันนีเหรอนอนห้องแอร์กุฏิไม้สักทองมีคอมทุกห้อง สาธุ...
ก็มีเป็นบางส่วนครับ พระส่วนมากไม่ได้สบายแบบนั้นหรอก
ที่วัดมีตู้บริจาคมากมาย ค่าน้ำ/ไฟ ค่าต่างๆ หย่อนใส่ตู้เลย บำรุงวัด
หลวงพ่ออลงกรตก็ยังออกมาช่วยคน
สาธุค่ะ
ตถาคต...ผู้ไกลจากกิเลส...ไปแล้วด้วยดี...เห็นภัยในวัฏฏะ...สงสาร
สาธุสาธุสาธุ
มันก็ผิดวินัย ปาจิตตีนี้และ
แต่โยมชอบนะ วัดสะอาดดูดี