CEO คนใหม่ของโตโยต้าทำให้ทุกคนช็อค..ผิดคาด รถไฟฟ้าของโตโยต้าจะไปแนวทางไหน
Vložit
- čas přidán 1. 04. 2023
- CEO คนใหม่ของโตโยต้า ได้กล่าวเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2023 ว่ารถยนต์พลังงานไฮโดรเจนนั้นยังจำเป็นอยู่ส่วนรถไฟฟ้าที่มีแผนว่าจะเปิดตัวในปี 2026 นั้น จะเปิดตัวเจนเนอเรชั่นใหม่ภายใต้ป้ายชื่อ Lexus
- Auta a dopravní prostředky
คงจะใช่ครับ เพราะดูแล้วทำไมหลายประเทศไม่พัฒนารถยนต์ไฟฟ้าแบบเต็มตัว สักทีทั้งๆที่คิดได้ตั้งนานแล้ว อาจเป็นเพราะ รถยนต์ไฟฟ้า เป็นแค่รถยนต์พลังงานบริสุทธิ ในระยะสั้นๆ แล้วไม่นาน ก็จะเกิดปัญหาจากแบตเตอรี่ จำนวนมาก แถมแร่ที่นำมาผลิตแบตเตอรี่ ก็แพงและจะแพงมากในอนาคต แถมมีเหตุผลที่จะขาดแคลนแร่ในอนาคต และหายากกว่าน้ำมันด้วยซ้ำ สรุปแล้วถ้าหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าทั้งโลก ก็จะขาดแคลนแร่ที่นำมาผลิตแบตเตอร์ในอนาคตครับ
ดีแล้วครับ เพิ่มทางเลือกเอาไว้หลายๆ ประเภท เช่นถ้าวันข้างหน้า ถ้ารถ EV มีปีญหาเรื่องทรัพยากรที่นำมาทำแบตเตอร์รี่ อย่างน้อยก็ยังมีทางเลือกอื่นให้ไปต่อได้ คาดว่าสิ้นสุดยุคน้ำมัน รถยนต์อาจมีพลังงานทางเลือกมากกว่าหนึ่ง ไม่ได้ผูกขาดเหมือนตอนใช้น้ำมันอีกต่อไป
ในเรื่องประหยัดนันลืมไปได้เลย...ถึงคาร์บอนเป็น 0 แต่เครื่องยนต์ก็ต้องเปลี่ยนถ่ายของเหลวปกติ..เครื่องพังซ่อมทีใกล้เคียงเปลี่ยนแบตไฮบริดเลย
ทำขึ้นมาเลยครับรถไฮโดรเจน เขาก้อมีส่วนดีของเขาไม่น้อยนะครับ...จะประสพผลสำเร็จในการตลาดหรือไม่มันเป็นเรื่องอนาคตครับ...คนรุ่นใหม่อาจจะทุ่มใจให้พลังงานไฮโดรเจนก้อได้ครับ
โชคดีที่เราเกิดทัน
1.โกดักที่ทุ่มผลิตฟิล์มถ่ายรูปในช่วงที่กล้องดิจิทัลกำลังมา
2.โนเกียที่ไม่สนใจใช้ android os ในช่วงที่สมาร์ตโฟนกำลังมา
3. Blockbuster ปฏิเสธที่จะซื้อ Netflix มุ่งที่จะให้เช่าแผ่น ในขณะที่ สตีมมิ่งกำลังมา
4. โตโยต้า ยังชักช้าในขณะที่รถ ev กำลังมา
สามข้อแรกล้มไปแล้ว ข้อสี่ดูต่อไป
ชัดเจน
😊 แน่ นอนครับ บทเรียนมีแล้ว ดู ธุระกิจคนอื่น เป็นตัวอย่าง แต่ พี่โต ลงทุนไปเยอะแล้ว คงลงยาก
ต้องเสี่ยงครับ ไม่ชนะขาดก็แพ้ไปเลย นั่นคือสิ่งที่โตโยต้าเลือก การไม่เสี่ยงก็เป็นความเสี่ยงมากเหมือนกัน ถ้าล้มโปรเจคไฮโดรเจนไปลุยรถไฟฟ้า ก็น่าจะสู้จีนไม่ได้อยู่ดี ตอนนี้คือถอยไม่ได้ เดินหน้าดับเครื่องชนอย่างเดียว
ญี่ปุ่นนี่มุ่งมั่นมากในเรื่องอีโก้ตัวเอง ใครเกิดทันโซนี่เบต้าแมกซก็เหมือนกันสุดท้ายก็ม้วนเสื่อไปเงียบๆคนเดียว
@@chandhaket ทั้งที่เคยผลิตออกมาลองตลาดแล้ว แต่ขายไม่ออก ก็ยังไม่ยอมแพ้ นี่คือสายเลือดไอ้มดแดงโดยแท้!
จุดอ่อนรถไฟฟ้าคือ battery ที่ใช้ lithium เดี๋ยวอนาคตก็เจอปัญแบบน้ำมัน เพราะตอนนี้น้ำมันขึ้นลงก็ปั่นป่วนทั้งโลก ต่อไป lithium ที่มีแหล่งผลิตไม่กี่ประเทศจะยิ่งกว่านี้ ถ้ายังพัฒนา Battery รูปแบบใหม่มาใช้แพร่หลายไม่ได้สักที เช่นแบต โซเดียม ที่วิจัยและทดสอบกันอยู่ lithium เป็นสิ่งที่ใช้แล้วหมดไปเหมือนน้ำมัน เดี๋ยวมันก็ต้องเจอปัญหาแบบเดียวกันเพราะตอนนี้อุปกรณ์ในยุคนี้ใช้มันเยอะมาก
ตอนนี้แค่อุปกรณ์อื่นๆที่ใช้ lithium ก็เยอะมากอยู่แล้ว รถยน EV เข้ามาแย่งใช้อีกทำให้ราคา lithium พุ่งไปไกลแล้ว แค่พวกคนอวยทำเป็นไม่เห็นกันแค่นั้นเอง การมีตัวเลือกหลากหลายน่ะดีแล้ว
ใช้เกลือเลยพี่ไทยมีเยอะแยะ
ณ ตอนนี้มันพึ่งเริ่ม
มันก็เหมือนกับสมัยก่อนใช้ใบลาน พิราบสื่อสาร เดี๋ยวนี้ใช้ สมาร์ทโฟน อินเทอร์เน็ตไร้สายทั่วโลกสื่อสาร
ตอนนี้เขามีแบ็ตตัวใหม่ละครับ จีนมาตั้งโรงงานในไทยละ ชาร์ทไวขึ้น จุได้นานขึ้น น่าสนใจมาก หากทำได้จริง
รถน้ำมันจะลดลง
รถเทเลอร์ หัวลากผลิตในไทย วิ่งได้ 250 กม แต่แผลงแบ็ตมันเยอะ วิ่งได้เป็น1000 กม ผมยังทึ่งเลย
โตโยต้าไม่ควรคิดเช่นนี้เเพราะผู้ซื้อจะถูกเอาเปรียบเรื่องเชื้อเพลิง #ผู้คนผลิตไฮโดรเจนเหลวเองไม่ได้แต่สามารถผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์จากลมจากคลื่นทะเลใช้เองได้นั่แปลว่าเขาแทบไม่ต้องจ่ายค่าเชื้อเพลิง ส่วนไฮโดรเจนเมื่อไม่สามารถผลิตหรือทำเองได้ต้องอาศัยแบรด์ใหญ่ๆเพียงอย่างเดียวท้ายสุดก็จะผูกขาดตลาดเชื้อเพลิงไฮโดรเจน #การคิดเข่นนี้ถือว่าโตโยต้าเห็นแก่ตัว
ก็ดีนะ รถไฟฟ้า ค่าพลังงานถูกก็จริงแต่ค่าแบตไม่ถูกเลย เสียเวลาในการประจุ และข้อจำกัดด้านอายุแบต
ส่วนไฮโดรเจน ก็ต้องมาลุ้นเรื่องเซลล์พลังงานว่าจะสามารถพลิตให้ถูกลงได้อีกแค่ไหน จุดจำหน่าย
สุดท้ายทั้งสองแบบก็ต้องมาแข่งราคาขาย จุดเติมพลังงาน และการบำรุงรักษากัน
ต้นทุนของแบตเตอรี่แพงไป และระยะทางต่อการชาร์จ ยังไม่เหมาะ ถ้าเทียบกับเวลาการชาร์จ
ผมในฐานะลูกมาตลอดยังว่ารถยนไฟฟ้100%ดีที่สุดครับเมื่อเทียบกั
บเครื่องยนต์สันดาปแล้วเพาะมอเต้อไฟฟ้ากลไกลมีชิ้นส่วนน้อยมากๆผมรักมอเต้อไฟฟ้าครับ
ผมเห็นด้วยครับ
รถยนต์สันดาปควรหายไปจากโลกนานแล้ว ไม่น่าเชื่อว่าโตโยต้าจะคิดอะไรแบบนี้
เสี่ยงนะครับ อาจเหมือนบริษัทกล้องค่ายใหญ่ในอดีตก็ได้ น่าเสียดาย ตอนนี้ผมใช้อัลติส คุณภาพสุดยอด
แบตเสื่อมแล้วจัดการยังไงครับ แค่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ตอนนี้ก็เป็นขยะบานเลย
เดี๋ยวก็มีวิธีจัดการที่มีประสิทธิภาพครับ ดูอย่างขยะพลาสติกเดี๋ยวนี้เอามาทำน้ำมันหรือ upcycling กันมากมาย
ผมะฟ้ารอ โตโยต้า ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า เพราะมั่นใจในคุณภาพของโตโยต้า ดีครับฟันธงไปเลยว่าไม่ผลิต ผมจะได้เลิกหวัง และไม่ต้องรอ😢😢
แอดมินไม่เข้าใจเรื่อง รถไฮโดรเจนของโตโยต้า และ ทิศทางนโยบายของโตโยต้า ทำให้ผู้ฟังจำนวนมากเข้าใจผิดไปด้วย
รถพลังไฮโดรเจนของโตโยต้า มี 2 ระบบ ซี่งแตกต่างกัน
1. รถ FCEV ซี่งเติมไฮโดรเจนครั้งเดียว แล้วผ่านเครื่องเปลี่ยนไฮโดรเจนเป็พลังงานไฟฟ้า ไปหมุนมอเตอร์ มันจึงเป็นรถไฟฟ้านั่นเอง (แต่ไม่ใช่ชาร์ทแบต) เช่น รุ่น MIRAI ที่พูดถึง
2 รถสันดาปภายในใช้ไฮโดรเจนเป็น "เชื้อเพลิง" อันนี้โตโยต้าทำสำเร็จนานแล้ว อยู่ในการพัฒนาให้ดีขึ้น แรงขึ้น เป็นรถของอนาคต
โตโยต้า "ไม่เคยบอกว่า ไม่ทำรถไฟฟ้า" แต่จะ "ทำ รถไฟฟ้า หลายๆ ทางเลือก" คือ Hybrid มีนานแล้ว พัฒนาต่อ, BEV ก็ทำ ไม่เคยบอกว่าจะทิ้ง, FCEV ก็มีแล้ว แต่ต้องแก้ปัญหา ปั้มเติมไฮโดรเจนกับความกลัว (เพราะไม่เข้าใจ) ของผู้บริโภค, แบต Solid State โตโยต้าเป็นผู้นำ, แบต Sodium ก็สนใจพัฒนา ฯลฯ
ส่วนรถใช้น้ำมัน ยังขายได้อีกอย่างน้อย 15 ปี โตโยต้าครองตลาดเบอร์หนึ่งของโลก แฟนมี โรงงานมี ระบบการตลาดมี จะทิ้งเงินไปทำไม ขายไปจนกว่าจะเหือดนั่นแหละ กินง่าย สบายพุง.
@@sacentery5767 รู้ดีเรื่องนโยบายกว่า CEO โตโยต้าอีกนะครับ
@@sacentery5767 ไฮโดรเจน การข่นส่งการจัดเก็บยุ่งยาก ต้นทุนแพงมาก
Bz4x ก็มีนี่ครับ
คือค่ายย่น ไม่อยากทิ้ง เครื่องยนต์ ICE เพราะมันมีชิ้นส่วนเกี่ยวข้องในซัพพลายเชน ของชาติเดียวกันเยอะมาก เหมือนแนวคิด รถยนต์ไฺบริด ที่มีทั้งเครื่ิงยนต์ปั่นไฟ และมอเตอร์เพื่อขับเคลื่อนล้อ สิ้นเปลืองค่าบำรุงรักษามากขึ้น แค่อาจตอบโจทย์ ในช่วงสถานีชาร์จไฟฟ้า ยังไม่แพร่หลายพอ
ห่วงซัพพลาย หรือ ไม่มีความสามารถ
@@Hamber218 ถ้าโตโยต้าไม่มีความสามารถโลกก็ด้อยพัฒนาอะอีกอย่างการจะทำอะไรโตโยต้ามีมาตร,านการสำรองอะไรถึง50ก็ยังหาอะไหล่ได้
ที่สำคัญญี่ปุ่นหาแหล่งวัตถุดิบผลิตแบตไม่ได้ครับเลยมาแนวนี้เข้าใจกันใหม่นะครับ
@@rattanapan4867 ปกติญี่ปุ่นก็ไม่ได้ใช้ทรัพยากรภายในประเทศนะเพราะเป็นประเทศเดียวที่ลงทุนนอกประเทศมากที่สุด
ผู้บริหารเป็นคนรุ่นใหม่แต่ไม่คิดทิ้งของเก่า อนาคตของพี่โต.ก็คงอาจเปรียบได้กับ เช่นมือถือยี่ห้อหนึ่งที่ซึ่งมันเคยโดงดัง และครั้งหนึ่งมันคือแบรนด์ชั้นนำของโลก! ที่เกือบทุกคนในยุคนั้นเคยได้ใช้มัน และเป็นที่ยอดนิยม! แต่ในปัจจุบันแทบจะล่มสลายหายไปจากวงการ และพี่โตก็อาจจะเป็นเช่นนั้นหรือไม่ อีกไม่เกิน 10 ปีได้รู้?! ฟันธง!
หากรถไฮโดรเจนสามารถทำได้ จะฉีกตลาดรถยนต์ทั้งหมด โดยปราศจากคู่แข่ง เชียร์โตโยต้า
เช่นกัน กระแสรถไฟฟ้า เห่อเฉยๆ โดยเฉพาะเมืองไทย เพราะกฎหมายเอื้อ สาระพัด ไม่เกิน 8 ปี รอแบตเตอรี่เสื่อม รอดู ขยะ สนับสนุนรถไฮโดรเจนของพี่โต รอดู
มันจะกลายเป็นระเบิดเคลื่อนที่ที่ไว้ใช้ก่อการร้าย
@@mr.kodokomayomshit6129 น้ำมันดีเซล กับปุ๋ยยูเรียถูกกว่าเยอะ
@@mr.kodokomayomshit6129 ฮ่าๆ ฮ่าๆ ระเบิดไฮโดรเจน ..ดีครับ..จะได้ตายแบบไม่ทรมาน ..
@@somaithongdee2374 ความรุนแรงต่อขนาดบรรจุต่างกันเยอะ ไอ้หนุ่มน้อย ไอที่ว่ามาห่างกันเกินครึ่งนะจ๊ะความรุนแรง
แบตเตอรี่ที่ใช้ในรถยนต์ไฟฟ้าจนถึงวันนี้ยังไม่ลงตัว ว่าจะใช้แบบไหนเป็นหลักมันยังมีความเสี่ยงกับผู้ซื้อ ที่ซื้อรถมาในราคาที่สูงและที่สำคัญดูเหมือนว่าแบตเตอรี่ยังพัฒนาไปได้ไม่มากนัก แบตเตอรี่ชนิดเดียวกันที่ใช้ในโทรศัพท์มือถือก็ยังมีปัญหาพัฒนาต่อไปได้ไม่มากเกือบจะถึงทางตันทำให้ปัจจุบันไม่สามารถลดขนาดของโทรศัพท์มือถือได้และที่เราพบบ่อยๆ คือแบตเตอรี่หมดก่อนเวลาโดยไม่ทราบสาเหตุซึ่งหากเกิดในระบบรถยนต์ไฟฟ้า ขณะที่วิ่งด้วยความเร็วอาจเกิดอันตรายใหญ่หลวง ไม่รวมถึงประสิทธิภาพลดลงมากหลังจากเวลาผ่านไปหนึ่งปีหรือสองปีคงต้องรอกันต่อไป
เดี๋ยวอีกหน่อยมีรถพลังงานไฟฟ้าแสงอาทิตย์ Tesla กำลังพัฒนาอยู่
มันเป็นเหตุผลที่ง่ายมากๆ เพราะโตโยต้า ซัพพลายเออร์ยังไม่พร้อมจะผลิตในปริมาณมาก ทั้งตัวเครื่องไฮโดรเจนและ EV อาจจะต้องรอฐานผลิตไทยพร้อมก่อนในอีก 1-2 ปีข้างหน้า โตโยต้าก็เนียนขายรถยนต์น้ำมันกับไฮบริดไปได้อีก 2-3 ปี เพื่อดูแนวโน้มของ EV และก็ยังคงมุ่งเน้นพัฒนา ไฮโดรเจนต่อไป คิดว่า 3-5 ปี กำลังเหมาะสมสำหรับยุคตั้งต้นผลิตรถไฮโดรเจนขาย อาจจะเป็นที่ไทยเนี่ยแหละที่จะขายทั้งตลาด EV กับไฮโดรเจน พวก EV ก็เน้นไปที่รถส่วนบุคคล ส่วนไฮโดรเจนก็เน้นที่ รถขนส่งพาณิชย์ที่วิ่งวันนึง 500-1000 กิโลเมตร หรือแม้แต่เครื่องบิน หัวรากรถไฟ เรือเดินทะเล ไทยมีเทคโนโลยีผลิตแก๊สบริสุทธิ์ได้ดีทั้ง gulf และ PTT ไหนจะมี pt, bangjak อีก ขอแค่ญี่ปุ่นพร้อมถ่ายทอดเทคโนโลยีในการเปลี่ยน ก๊าซธรรมชาติ เป็น ไฮโดรเจนบริสุทธิ์ให้เรา เราก็อาจจะขยายไฮโดรเจนขายอีกทางให้มากพอมีความต้องการรถแบบไฮโดรเจนขายเช่นกัน
ญี่ปุ่นมีปัญหาเรื่องไฟฟ้าไม่พอ
โนเกียก็คิดแบบนี้หละ รออีก3-4ปี รอระบบ3G ก่อนขายปุ่มกดไปสุดท้าย
ฟิมล์ โกดัก ก็คิดแบบนี้แหละ สุดท้ายเจ๊ง
toyota คิดถูกแล้ว
เพื่อให้เข้าไปแย่งซื้อแร่ลิเทียมที่มีราคาแพง ซึ่งทำให้คุมราคาในอนาคตไม่ได้
เขาไม่ได้หยุดนิ่งกับเทคโนโลยีเก่าครับ แต่เขากำลังหาสิ่งที่มันทดแทนและเป็นพลังงานสะอาด ก็คือ ก๊าซ และ เซลล์แบตเตอรี่กำเนิดพลังงาน หรือที่เราเรียกว่า ev เขามีเทคโนโลยีทั้ง 2 ตัวอยู่แล้ว แต่เขาให้น้ำหนักเรื่องของไฮโดรเจนมากกว่า เขาเลยไปทุ่มตลาดทางนั้นพัฒนาและวิจัยมานานมาก ซึ่งเขาก็มีจุดแข็งในเรื่องไฮบริดเป็นตัวที่คอยอุ้มคุมสถานการณ์ไปก่อน แต่จุดเปลี่ยนก็คือ ไทยและอาเซียนนี่แหละครับ จากเดิมที่เป็นฐานผลิตรถยนต์น้ำมัน กำลังเปลี่ยนและผันเข้าสู่ตลาด ev ที่ได้รับอิทธิพลของรถยนต์ไฟฟ้าจีนเข้ามาทำตลาดมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ญี่ปุ่นเองเซอร์ไพรส์มากๆ เพราะ ตัวพ่อของวงการญี่ปุ่นกำลังมุ่งเน้นทำไฮโดรเจน และขายไฮบริดเหมือนกัน มันเปลี่ยนจากดีมานด์สูงขึ้นเรื่อยๆไปในอาเซียนโดยเฉพาะในไทย และอินโดนีเซีย กลายเป็นว่า ซัพพลายเออร์ของญี่ปุ่นไม่พร้อมขึ้นไลน์ผลิตใหม่ ซึ่งต่างจากค่ายจีนเขาขายในเมืองจีนมาไม่ต่ำกว่า 5 ปีแล้ว เขามีฐานผลิตในประเทศทั้งหมดและกำลังจะดันเข้ามาขายในอาเซียนโดยเฉพาะไทยและรอบๆบ้านเรา สิ่งที่ทำให้ญี่ปุ่นต้องจำยอมลงมาสู้ในตลาด ev ด้วยก็คือ การมาของเทสล่าในตลาดเอเซียและอาเซียน
ถ้าคิดแบบคนอื่น ทำเหมือนคนอื่น เราก็เป็นได้แค่ผู้ตาม..
แต่ถ้าเรามีความคิดริเริ่มเป็นของตัวเอง ไม่เดินตามรอยเท้าของใคร ก็ยังมีโอกาศที่จะเป็นผู้นำได้ในอนาคต 👏👍
อันนี้คือมุมมองของผม
1. รถไฟฟ้า ไม่เกิดหรอกครับ ถ้าให้ดูจากนี่อีก 5ปีนะ (มาเถียงเวลานี้ ทะเลาะกันเปล่าๆ เหมือนคนเชื่อ BTC แล้วมีคนเตือนให้ระวังในการซื้อ) ถ้าอยากชนะคำทันทานของผม รบกวนช่วยซื้อ รถ EV เลยครับ คนจริง คนเชื่อEVต้องซื้อครับ
2. ไม่ต้องห่วง toyota หรอกครับ ว่าจะตกเทรน toyota มีเครื่องยนต์หลายประเภท เบนซิน ดีเซล HV PHEV EV H2 และมีความชำนาญ และมี supply chain ที่แข็งแกร่ง เอาเวลาไปแช่ง Toyota ไปซื้อรถแบรนด์อื่นเถอะครับ ถ้ามั่นใจที่จะซื้อรถแบรนด์อื่น ว่าดีกว่า Toyota ซื้อเลยครับ
3. ที่เชียร์ EV กัน ถ้าเอาความจริงมาคุย คือ คุณแค่ต้องการ รถราคาถูก ซึ่ง กับคนต้องการประหยัดค่าน้ำมัน ซึ่งความจริง คนต้องการรถราคาถูก ก็ตลาดนึง คนต้องการประหยัดน้ำมันก็ตลาดนึง
ผมขอพูดตรงๆ รถในไทยไม่มีถูกหรอก ถ้าถูกซื้อสดเลยครับ จะจัดไฟแนนท์ทำไม ส่วนใหญ่แพงเพราะภาษี ถ้าคุณกดต้นทุนรถ คุณได้รถห่วย ถ้าคุณตัดภาษี รัฐสูบเสียรายได้ ดังนั้น อย่าบ่นครับ
4. รถEV เทคโนโลยีมันไม่ได้ล้ำเลิศอะไรหรอกครับ ในอุตสหกรรมยานยนต์เค้ามีเทคโนโลยี กันมานานแล้ว แต่ที่เค้าไม่ทำตลาด เพราะเค้าไม่คิดว่าจะมีคนบ้าซื้อ เพราะมันเร็วไป พูดแค่นี้ละกัน
ตอนนี้ น้ำกำลังเชี่ยว อย่าเอาเรือเข้าไปขวาง เด๋วเรือล่ม จมน้ำตาย ..😂
อ่านข่าวมาก ๆครับ มโนน้อยลง
1. ค่ายรถยักษ์ใหญ่บนโลกใบนี้ทุกค่ายประกาศวันสุดท้ายที่จะขายรถ ice ออกมาหมดแล้ว
2. ประเทศตะวันตกบางประเทศประกาศวันสุดท้ายที่จะอนุญาตให้จดทะเบียนรถ ice มาแล้วครับ
3. ประเทศบนโลกใบนี้ส่วนใหญ่ กำหนดเป้าหมายเรื่องการปล่อยคาร์บอนล่วงหน้า 10 20 30 ปีแล้ว ในแผนนั่นพ่วงด้วยว่าจะลดจากกาเพิ่มสัดส่วนยายนต์ไฟฟ้าจำนวนเท่าไหร่
4. จากข้อ 3. รู้หรือยังว่าประเทศไทยก็เดินหน้าไปแล้ว
5. ทุกอย่างมันถูกดิสรัปได้ เพราะงั้นประเทศผู้ผลิตน้ำมันอย่างซาอุฯ ประกาศแผนพัฒนาของชาติเพื่อรองรับการเดินไปสู๋ชาติที่ไม่ได้พึ่งพาการขายน้ำมันในอนาคตแล้ว
@@user-up7mw3qp9m ขอตอบตอนนี้นะครัย ที่คุณพูดมาทั้งหมด คือ เป็นเรื่องอนาคตครับ
การมองอะไรที่เกิน 5 ปี เป็นอะไรที่คนทำธุรกิจ เค้าไม่มองครับ มันมีความไม่แน่นอนสูง
จริงอยู่ที่หลายๆประเทศ กำลังผลักดัน ยกเลิกรถ ice แต่ในความจริงยกเลิกไม่ได้หรอกครับ
คุณอย่าไปตกหลุมพลางทางการตลาดซิครับ หากจะมีการเปลี่ยนแปลงจริงๆ ผมมอง 15-20 ปีครับ
คุณจะรอซื้ออีก 15-20 ปีไหมครับ เป็นผมคือ เลือกรถที่เหมาะสมต่อการใช้งานในปัจจุบัน คือจะซื้อรถในอีก 1-3 ปี ผมไม่มานั้งรอรถ EV หรอกครับ
คุณไปดูคลิปรถ. BYD OTTO3 ที่เค้าทดสอบวิ่ง 160,000 KM ทั่วไป คลิปมีบอดครับ ใช้จ่ายค่าไฟฟ้าไป เท่าไหร่ "จ่ายค่าไฟ 12X,XXX บาท " ( คลิปสปอนเซอร์ จาก byd ด้วยนะครับ หาดูเอาเอง)
ข้อมูลตามนี้ ผมใช้รถน้ำมัน HV PHEV ผมจ่าย กิโลละ 2-3 บาท ผมตี 3บาทต่อ km ผมจ่ายค่าน้ำมัน 480,000 ถ้าคุณใช้ HV หรือ PHEV ตี2 บาทต่อkm คุณจ่าย 320,000) หักส่วนต่าง12x,xxx ที่มาจากคลิปทดสอบ ตรงนี้ประหยัดค่าน้ำมัน ไปประมาณ 2xx,xxx-36x,xxx บาท
คำถามคือ คุณเปลี่ยนแบตราคาเท่าไหร่ (ราคาแบต เอาชดเชยค่าน้ำมัน 200,000-300,000 เปลี่นนราคานี้ได้รึเปล่าครับ ความจริงคือแพงกว่านี้โคตรๆ) แบตไม่มีวันถูกลงครับ ต่อให้มีถูกลง มันก็คนละรูปแบบแบต ใช้ร่วมกันไม่ได้ (คุณเคยเห็นรถ Hybrid เช่น prius camry ที่ใช้อยู่ เปลี่ยนชนิดแบตจากอู่นอก โมจาก Ni เป็น Li ไหมครับ คือ มันทำไม่ได้ไงละ ถึงทำได้ก็ไม่คุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์ รถจะกลายเป็นอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดนึง เหมือนมือถือนั้นแหละ
รถ Ev จะไร้มูลค่า เพราะคนซื้อต่อเค้ามองค่าซ่อม ขนาดแบต เวอร์ชั่นซอฟแวร์ติดรถ ขนาดมอเตอร์ ความมั่นใจ ต่างๆ เช่น ตัวชาร์ตติดรถ รถรุ่นใหม่จะน่าใช้กว่า และมี warranty ให้อุ่นใจ หากคุณซื้อ Ev คุณก็ต้องอยู่ในวังวนของการเปลี่ยนรถ ทุกๆ 5-8ปี หรือต้องใช้รถให้พังคามือ
น้ำมัน มีคนพูดบอกว่า น้ำมันจะหมดโลก ตั้งแต่ผมยังเด็กละ ต้องประหยัดพลังงาน ผ่านมา 30ปีกว่า ก็ไม่มีวี่แววว่าจะหมดครับ ทั้งที่ความสามารถในการขุดเจาะ ปริมาณการใช้ มันมากกว่า 30ปีที่แล้ว แบบคนละฟ้ากับดิน ที่น้ำมันมันสูง คุณไม่มองเงินเฟ้อบ้างเหรอ สมัยก่อนทอง 1บาท 3000-4000 วันนี้ทอง 30000 บาท ไม่มองว่าความจริงสินค้าโภคภัณฑ์มันก็ขึ้นของมันตามปกติ หรือไม่มองที่รัฐเก็บภาษีเกินไป เอาจริงๆ ต่อให้ไม่มีรถใช้น้ำมัน วิ่งในถนน มันก็ยังมีการขุดเจาะน้ำมันเอาขึ้นมาอยู่ดีครับ เพราะโลกเราก็ยังต้องใช้ปิโตเคมี ผมไม่รู้นะว่าคุณจะเห็นภาพความจริงของโลกใบนี้รึเปล่า
หรือจะเชื่อตามสื่อ
สุดท้าย สิ่งที่จะบอก สำหรับบางคน น้ำมันแพงก็จ่ายได้ครับ เค้าไม่ได้สนใจ ถ้ามันถูกก็ดีครับ
และผมก็มองว่ารถ ice ที่มีการพัฒนา จนอัตราสิ้นเปลือง ต่ำกว่า 2 บาทต่อ km เช่น 1.5 บาทต่อ km
ส่วนต่าง 1.5-0.6บาท (รถไฟฟ้าค่าใช้จ่าย ณ ปัจจุบัน 0.6-0.7 บาท ต่อkm ถ้า Ft ขึ้นก็มีโอกาสไปที่ 1 บาท) ผมจ่าย ส่วนต่าง 0.5-1.5 บาท ผมโอเค ครับ เพราะผมใช้รถน้อยวิ่งน้อย ผมไม่จำเป็นต้องใช้รถ ev เลยครับ สบายใจกว่า
ที่พูดมาเห็นไหมครับ ถ้าเอาเหตุผลมาคุย ข้อมูลมาคุย ก็เห็นว่ารถ Ev ไม่ได้เหมาะกันทุกคน
ไม่ปิดกั้นนะ ไฮโดรเจน เสร็จเมื่อไหร่ก็บอกมาละกัน ตอนนี้กำลังสนุกกับการขับ EV จีนอยู่ กว่าจะซื้อใหม่ก็คงอีกหลายปี
EVจีน ให้มันพ้น3ปีก่อนเถอะ
@@sportmanever3150 ในไทยขายมาเกิน 3 ปีแล้ว ในจีนก็ขายเยอะ ขายมานานกว่าไทยอีก เปิดหูเปิดตาบ้าง แต่ที่แน่ๆ ผมรู้สึกดีที่สามารถเลือกรถได้ ไม่โดนญี่ปุ่นผูกขาดเหมือนเมื่อก่อน
บอกว่าไฮโดรเจนตอบโจทย์ผู้ใช้รถมากกว่า พี่โตถามใครมาครับอยากรู้ว่า ผู้บริโภคคนไหนอยากได้รถไฮโดรเจนมากกว่าไฟฟ้า ณ เวลานี้
เพิ่มเติม.1. มีหลายคนบอกว่าใช้น้ำ ซึ่งเข้าในผิดนะครับ ไฮโดรเจนเป็นก๊าซครับ ใช้เป็นเชื้อเพลิงในเครื่องสันดาบภายใน เหมือนเครื่องยนต์ทั่วไปครับ แต่ได้ของเสียเป็นน้ำ ดูเหมือนจะสะอาดครับ แต่กระบวนการผลิตก๊าซไฮโดรเจนได้ก๊าซคาร์บอนเยอะมาก ยังมีของเสียอื่นๆอีก
ทุกพลังงาน สร้างมลพิษหมดละครับ แต่พลังงานไหนสร้างมลพิษน้อยสุด หรือสามารถควบคุมการปล่อยมลพิษได้มากกว่า
สุดท้ายพลังงานไหนมีประสิทธิภาพมากที่สุด มันก็น่าใช้สุดครับ ซึ่งผมมองว่าไฟฟ้าเป็นอะไรที่ให้ประสิทธิภาพมากที่สุด สูญเสียพลังงานน้อยที่สุด
ให้มีทางเลือกสำหรับผู้บริโภคเยอะๆเถอะครับ คนใช้ก็มี คนไม่ใช้ก็เลือกตามสะดวก ขอให้พลังงานทางเลือกที่ส่งผลต่อสิ่งอวดล้อมน้อยที่สุดก็พอครับ
โตโยต้าคือค่ายยักใหญ่ของโลกนะครับถ้าทำจริงยังไงก็มีคนชื้อค่ายนี้ขึ้นชื่อเรี่องความทนทาน
ผมคนหนึงชอบรถไฮโดรเจนครับ
ผมเองก็รอรถไฮโดรเจนเหมือนกัน
@@chiaochanthanasawet2895 ผมก็ชอบรถไฮโดรเจน แต่ให้ผมซื้อผมไม่ซื้อ😅😅
ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะคับแอด
ญี่ปุ่นเป็นมิตรในภาคธุรกิจกับไทยมานาน และนำสิ่งดีๆ เข้ามามีส่วนให้ไทยเราพัฒนาในหลากหลายรูปแบบ ศึกนี้ สิ่งที่จะเกิดมีผลกระทบกับไทยอย่างมาก การเป็นฐานการผลิตของญี่ปุ่น กับ จีน นั้นต่างกันมาก
คหสต. ผมเอาใจช่วยค่ายญี่ปุ่น และเชื่อว่าความเป็นญี่ปุ่น บวกกับ Lesson Learnในอดีต เค้าจะมีกึ๋นที่จะก้าวผ่าน transition ตรงนี้ไปได้ครับ
โตโยต้ามีเครื่อง2jz gte เป็นตำนานผมใช้ถึงทุกวันนี้ ถ้าโตต้าเปลี่ยนเทคโนโลยีใหม่ผมก็จะสนับสนุน
เรื่องแรก ปัญหาแบตเตอรี่ ยังคงเป็นปัญหาในเรื่องราคาอีกไปหลายสิบปี และนำมันยังคงอยู่บนโลกเชื้อเพลิงสันดาปไปอีกหลายสิบปี โตโยต้า มองถึงเครื่องยนต์สันดาบไฮโดรเจน ที่เป็นพลังงานบริสุทธิ์ 100% แม้จะยังห่างไกลกับความคุ้มทุนในเชิงธุรกิจ แต่เขามองว่าอีกไม่นานมันจะพัฒนาถึงจุดนั้น และโตโยตา จะเป็นเจ้าแห่งยานยนต์
แบตเกลือคับ อีสานเพียบเกลือสินเทา
ตอนรถมาติดแก๊สใหม่ๆมีแต่ว่าอันตราย...แต่นี่แรงดันมากกว่า LPG หลายสิบเท่า..จะอันตรายขนาดไหน
นึกถึงการระเบิดของยานชาเลนเจอร์ ยังติดตาอยู่ ฉะนั้นโตโยต้าต้องทำให้คนใช้รถไฮโดรเจนลืมภาพการระเบิดของยานชาเลนเจอร์
@@saran-4289ทรัพยากรธรรมชาติมีใช้ย่อมมีวันหมดนะครับ!
ใช่น้ำมันยังอยู่อีกหลายสิบปี แต่ไม่หลายมากนะ 30 -40 ปีก็น่าจะไม่ไหวละ แถมราคาน่าจะแพงขึ้นเรื่อยๆ ตามการลดลงของ supply ไม่ได้หมายความว่า ราคาจะนิ่งจนวันที่น้ำมันหมดไปจากโลก
เขาจะผลิตแบบไหนเราก็ไม่ต้องไปตื่นเต้นกับเขาเลย เพราะยังไงเขาก็ไม่ได้ขายถูกกว่ารถน้ำมัน อย่างทุกวันนี้เขาก็ขายรถไฟฟ้าแพงกว่ารถน้ำมันทั้งที่ต้นทุนการผลิตต่ำกว่ารถน้ำมันกว่50% เพราะเขาคำนวณไว้หมดแล้ว แต่ที่แน่ๆแพงตั้งแต่ซื้อเลย รถน้ำมันอาจจ่สยค่าน้ำมันมากหน่อยแต่จ่ายแบบตามตวามจำเป็นใช้ รถไฟฟ้าเอาค่าน้ำมันที่จะประหยัด+เข้าไปในราคารถแต่แรกแล้ว
แบตเสื่อมตามอายุและการใช้งาน ราคาแบตมีราคาสูงเกือบเท่าราคารถเลยก็ว่าได้
ส่วนระบบไฮโดรเจน มีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า และอุปกรณ์มีราคาถูกกว่าแบตเตอรี่
ในอนาคต ถ้าไม่มีไฮโดรเจน แล้วจะใช้อะไร ? สุดท้ายก็มาใช้รถพลังงาน EV ป่ะ
พิมพ์มาไม่คิด เขามีแต่ก้าวไปข้างหน้า อันนี้ ก้าวถอยหลัง
@@MulLaTeZCarL ไฮโดเจนผลิตมาจากน้ำครับ และน้ำมีปริมาณมาก ถ้าเทียบกับแร่ที่จะทำเเบตแล้วต่างกันมากโขเลยครับ แบตทำให้เกิดสารพิษ
พูดตามความจริงในปัจจุบัน
อนาคตอาจจะมีแบตที่ให้พลังงานยาวนานราคาถูกลง และนำไปรีไซเคิลใหม่ได้ก็ว่ากันไป
ทำเลยครับ ให้ถูกกว่าน้ำมัน ราคาไม่แพงมาก มีสถานีไฮโดรเจนรองรับ ก็พอ ใจอยากให้ทำรถแบบใช้น้ำเติมแทนได้เลย ยิ่งจะดีมากๆ 👍👍👍👍👍
เดีบวค่าน้ำก็ขื้นไปดัวยสี่ครับ
ถ้ามีเสียงเครื่องยนต์ยังไงโตไปผมยอมเลือกไฮโดรเจนอ่ะ😂
ไฮโดรเจน คือพลังงานสะอาดอย่างแท้จริง
รถไฮโดรเจนมีข้อดี คือ เติมพลังงานได้เร็วเท่าน้ำมัน
แต่ถ้าสามารถแก้ข้อเสียที่มีอยู่ได้ ถึงจะพอมีโอกาสทำให้คนนิยม ได้แก่
- ราคารถยนต์ต้องไม่แพงมาก
- มีสถานีเติมแก๊สทั่วถึงทุกพื้นที่ และค่าเติมแก๊สต้องไม่แพง
- ทำให้เกิดความเชื่อมั่นในเรื่องความปลอดภัย
ถ้าทำให้คนนิยมได้สำเร็จ ก็จะเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ที่ช่วยลดมลพิษทางอากาศ ต้องรอดูกันต่อไป
ว่าจะ รุ่ง หรือ จะเจ๊ง เพราะโจทย์นี้ไม่ง่ายเลย
Toyota Mirai เติมก๊าซ 5 นาที เต็มถัง 4-5 ร้อยบาท วิ่งได้ 7-8 ร้อยโลครับ
ในมุมมองของคนที่เคย สัมผัส H2 มาก่อน
H2 ลำบากในการดูแล ขนส่ง และ ไม่เหมาะสมในหลายๆแห่ง เช่นในเกาะเล็ก
รถไฮโดรเจนไม่เหมาะกับนิสัยการขับรถของคนไทยอย่างแรงครับ
@@macdonel.m4702 เอาจริงๆ มันก็รถไฟฟ้าน่ะครับ เพราะเอาก๊าซไฮโดรเจนไปผลิตไฟมาปั่นมอเตอร์ ที่ว่าไม่เหมาะนี่ไม่เหมาะยังไงครับ
@@rayonghardware เมืองไทยไม่ค่อยมีเกาะ
จุดเปลี่ยนคือ Battery เกลือ ถ้าสามารถพัฒนาประสิทธิภาพต่อน้ำหนักให้ใกล้เคียง Lithium ได้เมื่อไร รถไฟฟ้าจะลดต้นทุนลงมหาศาล ชนิดที่ใช้แล้วทิ้งไม่ต้องขายต่อยังคุ้ม แต่คงอีกซักพักใหญ่ๆ ส่วน Hydrogen ต้นทุนการผลิตและจัดจำหน่ายสูงมหาศาลไม่มีวันเกิดแน่นอน
ยังมีแร่ กราฟินอีกครับ เหนือกว่าแบตเกลือ
จัดเปลี่ยนที่ว่า ยังอยู่ในห้องแลปเลย
แล้วยังมีปัญหามากมายที่ต้องแก้
😂
เรื่องความจุ น้อยกว่าลิเที่ยม อายุการใช้งานสั้นกว่า
แต่มองว่า ถ้าเอามาใส่ในบ้าน หรือ เรือ พอไหว
@@kewintaylor7056 มือถือที่คุณใช้ มันก็เคยอยู่ในแลปมาก่อนครับ
การอยากเป็นผู้นำ ต้องทำสิ่งที่ยากให้เป็นไปได้…และแลกมากันความเสี่ยง ไม่มีถูกผิด เพิ่มทางเลือกที่หลากหลาย
Tesla ผลิตแบต solid state แบบ เกลือ ได้แล้ว ซึ่งราคาถูกกว่า แบบ ลิเธียม อีกไม่นานนี้ Toyota ก็จะพบจุดจบ แบบ Kodak, Nokia 🤣
@@JohnKickboxing 🤣 การศึกษา เป็นสิ่ง... สำคัญ!
แบตเตอรี่เกลือ ถึงมันจะถูก! แต่.. อายุการใช้งาน สั้น(มากก) แถมเก็บประจุได้ห่วยสุดๆ ราคาถูก แต่เปลี่ยนบ่อย แถมเเบตรั่ว ความเชื่อถือก็ต่ำ สรุปเงินที่จ่ายจริงต่อปี แทบไม่ต่างกัน เผลิอๆจะแพงกว่าแบบลิเทียม ไม่งั้นแบตเตอรี่เกลือ.. คงเกลื่อนไปแล้ว! บร๊าา~ ระดับธุรกิจล้านล้าน เค้าไม่ได้เง่า "สมอง" จำไว้ ถูกและดี ไม่มีจริง! [ถูกและดี]ส่วนมากป้ายนี้จะติดอยู่หน้าร้านค้าจีน และสินค้าจีน คุณภาพง่อยขนาดไหน เมดอินไชน่า คำคำนี้ไม่ได้มาเล่นๆ! 😜
@@Kefp_mimi Tesla กำลังสร้างสถานีเปลี่ยนแบตฯ ด้วยหุ่นยนต์ แบบอัตโนมัติทั่วประเทศ Tesla จะไม่ให้คนซื้อแบตฯ แต่เป็นการเช่าแบตฯ ต่างหาก แบต Lithium นับวันก็มีแต่จะขาดแคลนลงเรื่อยๆ ราคาก็ยิ่งจะแพงหูฉีกยิ่งกว่าแบต แบบ Soidium นะจ๊ะๆ 🤣
โตเขาคือเบอร์1เขาเชื่อว่ายังไงก็ขายได้ ถึงจะไม่มีรถไฟฟ้า เขาก็ขายได้ พี่โตเขาเชื่อว่าเขาไม่เหมือนโนเกียปุ่มกดเมื่อก่อนแน่ เพราะเขาคือเบอร์ 1 ของโลกเชียวนะเอ่อ
ชอบแนวคิดที่ต่าง และแอบเห็นด้วย ❤
250 บาร์ (3626 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว) แรงดันถังไฮโดรเจน ถังแก๊ส ทั่วไป 50 ปอนด์/ตารางนิ้ว
นึกภาพชนหนักๆไม่ออกเลย ไม่มีโอกาสได้เจอชิ้นส่วนคนขับด้วยซ้ำ.....
ไม่ลองก็ไม่รู้
@@info001a น่าลองครับ ปั้มลงทุนแพงกว่า ปั้มทั่วไป10เท่า ตัว แก๊สไฮโดรเจน ต้องแปลงจากแก๊สเป็นของเหลวในกาขนส่ง ถึงปลายทางก็ต้องแปลงจากของเหลวกลับมาเป็นแก๊สอีกที กระบวนการนี้ศูนย์เสียไปแล้ว30% ผมว่า ปวดหัวนะใครที่จะลงทุนทำสถานีเติม... แต่มันดีต่อโลกจริงๆ ต้องใช้เวลามากไปหน่อย แต่มีแน่นอน
ถ้าสามารถหาวิธีละลายก๊าซไฮโดรเจน เช่นเดียวกับการใช้อะซีโตนสะลายก๊าซเอทธีลีน ก็น่าจะลดความดันของถังได้สัก 10 เท่า ไม่งั้นการอัดก๊าซให้เป็นของเหลวที่ความดันกว่า 3000 ปอนด์ ถังบรรจุต้องหนามากและคงจะมีน้ำหนักมากกว่าตัวรถหลายเท่าทีเดียว
ดีครับ ชนกันแล้วเกิดไฮโดรเจนรั่วก็ตายแบบไม่ทรมาน
ถ้าเทคโนโลยีซุปเปอร์แบตเตอรี่ ทำสำเร็จ รถไฟฟ้าถึงจะประสบความสำเร็จครับ ถ้าผลิตไม่สำเร็จ แนวคิดไฮโดรเจนน่าจะเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ แต่ถ้าวันใดที่ซุปเปอร์แบตเตอรี่ทำสำเร็จ รถยนต์ทั้งหมดจะต้องเปลี่ยนมาเป็นรถไฟฟ้า
ดีๆแข่งกันพัฒนาต่อไป มีพลังงานทางเลือกหลากหลาย ไฟฟ้า ไฮโดรเจน ฯลฯ
ตอนนี้ใช้รถไฟฟ้า บอกเลย ... ลืมรถน้ำมันไปเลย ...
มันดีมากเลย เติมไฟฟ้าจากที่บ้านได้
อยากทราบครับ ปกติเราเติมน้ำมันรถด้วยการจ่ายเงินสดไม่ก็ผ่านบัตรเครดิต พอเปลี่ยนมาเป็นรถไฟฟ้า ชาร์จไฟที่บ้าน ค่าไฟเดือนนึงอยู่ประมาณเท่าไรครับ หากตัดจากค่าไฟฟ้าที่ต้องจ่ายปกติในแต่ละเดือน.
@@death7951 ชาร์ต1ครัิงไม่ถึง100วิ่ง 400-500 km
@@death7951 ปกติ ผมเติมน้ำมัน 4000 - 5000 ต่อเดือน ตอนนี้ เหลือ พันนิด ๆ สำหรับค่าไฟฟ้า
ที่สำคัญ ตอนรถติด รถไฟฟ้า 1 ชม. ไฟฟ้าลด 1% ดีมากๆ
และที่รู้สึกดีสุด ๆ คือ ช่วย รักษ์โลก co2 เป็น ศูนย์...
เอาน้ำเปล่าเติมได้เมื่อไหร่ นั่นละโลกจะกลับมาเขียวสดใส
ดีครับ เอาให้แน่ๆ
จะได้ตัดสินใจง่ายขึ้น
ภาพ จะไปไวขึ้น
ก็ถูกต้องแล้ว โตโยต้าใหญ่พอจะเล่นทุกสนามไปพร้อมๆ กันได้ แทงม้าทุกตัวไปพร้อมๆกัน
สื่อไทยหลายสำนัก ไม่รู้ว่าไม่ get จริง หรือพยายามจะบิดเบือนให้คนดูเข้าใจว่า โตโยต้าแทงม้าไฮโดรเจน แค่ตัวเดียวแบบทุ่มหมด
พัฒนาไฟฟ้าดีจริงรึยังอายุแบตนั้นสำคัญอายุแบตต้องคุ้มกับราคารถ เรื่องนี้จะเป็นปัญกับผู้ซื้อรถในอนาคต
ชื่นชมทางช่อง
เป็นช่องสุภาพสตรี แต่ โปรดักชั่น
Compact กระชับ รอบด้าน ภาพ/เสียงบรรยาย เลิศเลอ ขอให้ทางช่องแพร่หลายเป็นที่นิยมชมชอบตลอดไปนะครับ❤❤❤🎉🎉🎉❤❤❤
เอา contents ฝรั่งมาทั้งดุ้นเลยครับ แปลอังกฤษเป็นไทย ไม่ได้คิดอะไรเองเลย copyทุกอย่าง เดี๋ยวนี้ มีช่องยูทูปไทยแบบนี้เยอะมาก ทำตัวเป็นกาฝาก copy contents ฝรั่งมาแปลเป็นภาษาไทย เล่นง่ายมาก
สุดยอดมองข้ามช็อตมาก ไฮโดรเจนเป็นทางเลือกที่ดีครับ สะอาด ประหยัด เติมไว
ขอบคุณครับ
ผมอยากให้โตโยต้าพัฒนามุ่งเน้นในเรื่องของกระบะไฟฟ้าเป็นพิเศษ รับรองว่ารุ่งแน่นอนครับในตลาดเมืองไทย
วัยรุ่นพ่นหมึกไทยไม่ถูกใจสิ่งนี้
ปตทไม่เห็นด้วยครับ🤣🤣
เชื่อมือโตโยต้าว่า ยังไงก็ไม่ล้มแบบบริษัทในอุตสาหกรรมอื่นที่ปรับตัวไม่ทัน นอกจาก fuel cell แล้ว โตโยต้าคงไม่ทิ้ง bev ทีเดียว แต่แบตเตอร์รี่จะต้องก้าวหน้ากว่านี้ แล้วที่แน่ๆ โตโยต้าคงหากินกับ hev ได้อีกนาน
ผมว่าล้ม
ไม่มีวันล้มครับ ทุกวันนี้ขายสิทธิบัตรด้านไฮโดรเจนให้ค่ายต่างๆก็กำไรมหาศาลแล้ว ค่ายจีนกำลังเริ่มเดินหน้าการผลิต FCEV และ H2 บางค่ายส่งมอบให้กับลูกค้าไปแล้วมีแต่ BEV จะลดการผลิตลงไปเรื่อยๆในอนาคต
เอาแง่การใช้งานล้วน ๆ รถไฟฟ้ายังไม่เหมาะกับการใช้จริงจังพร้อม ๆ กัน ถ้ามีรถไฟฟ้าจำนวนมาก ที่เติมระหว่างทางไม่พอแน่นอน เดินทางถี่ ๆ ไกล ๆ ยังไม่ค่อยดี
ถ้าจะให้ทีก็ทำได้ครับ
จะออกมารูปแบบไหน ก็เทออฟชั่นบ้างนะ
ไม่ใช่กักซะเหมือนรถกระป๋อง
พอยัดออฟชั่นมาหน่อยราคาพุ่งหูชีก
แบรนใหม่ๆหรืออื่นๆเขาเทมาเยอะแล้วนะ
วัดกันรุ่นต่อรุ่นเลยเสี่ยโต
เรื่องคุณภาพมันก็ไม่ต่างกันมากหรอกครับ
เพราะขึ้นชื่อว่าของใช้ ทุกอย่างต้องเสียและชำรุดตามระยะการใช้งาน
อย่าลืมว่า ผู้บริโภค เขาก็ต้องพัฒนาการบริโภค
ไม่ใช่ผู้ผลิตจะพัฒนาเป็นอย่างเดียว
นึกถึงแบรนโทรศัพน์ที่ล้มไม่เป็นท่าเลยแบบนี้
จัดไปโตโย...จงกล้าที่จะเปนตัวของตัวเอง...เชื่อมั่นในสิ่งที่ทำ
ใช่เลย ทุกคนเป็นกำลังใจให้เสมอ เพราะถึงจะเจ๊ง ก็ไม่กระทบกับเราอยู่แล้ว
บ่รอด เพราะปรับตัวช้า
ถ้าอ่านตลาดพลาด ถึงล้มละลายเลยนะครับ
Kodak เคยคิดว่ากล้องดิจิตอลเป็นไปไม่ได้
@@Hamber218 รอดสิ เขาทำรถในเหมาะกับประเทศตัวเอง ญี่ปุ่นไม่ค่อยมีที่จอดรถ เวลาชาร์จจึงยุ่งยากมาก
การใช้พลังงานไฮโดรเจน มันคือพลังงานโลกอนาคต ในสังคมเมืองตึกสูง
แสดงว่าโตโยต้ายอมแพ้ในตลาดรถไฟฟ้าแล้ว คงเห็นว่ากว่าจะตามทันคนอื่น คงยากแล้ว เพราะทิ้งห่างมากไป เพราะโตโยต้าไม่มีเทคโนโลยีด้านรถไฟฟ้าเลย คงคิดวัดดวงกับไฮโดรเจน เลือกข้างไปเลย
ใช่ครับ น่าจะเป็นการดิ้นเฮือกสุดท้าย ทุ่มสุดตัว
ซึ่งดูแล้ว น่าจะไปไม่รอด
คิดเหมือนโนเกีย
เขาอาจคิดว่ามันเป็นแบบvdo. แป๊บเดี๋ยวมีcd. อีกไม่นานก็sd การ์ด
ผิดครับ toyota จะทำ EV ในรถยนต์ตลาดบน แบรนด์ Lexus จะออก EV ปีละรุ่น บอกแค่นี้
เขาก็มีEVนะ ในแบรนด์ L แต่กำลัง สู้กับเจ้าตลาดเพื่อยอดขาย และ ทางเลือกของ ลค.ในแบรนด์ตัวเอง และ ลค.ทั่วไปที่สนใจในแบรนด์...หรือไม่ก็กำลังสู้เพื่อกลัวเสียหน้า..
และในส่วนพลังงานhydrogen
อาจจะโชว์เหนือ นัยยะอยากเป็นผู้ฯ ในสิ่งที่คนบางคน อาจลืมไปแล้ว....
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
อย่าอ่าน!!!! กรู มโน!!!!! กินยาตามหมอสั่งแพร้บบบบ..😅😅
ชอบครับ กล้าเดินไปในทางที่ต่าง
อาจสำเร็จ หรือพังทลาย แต่ชอบในความหนักแน่นของการตัดสินใจแบบนี้ครับ ถ้าสำเร็จ เปิดตลาดไฮโดรเจนได้ คุณจะเป็นตำนาน แต่ไม่สำเร็จ คุณจะเป็นตำนานเช่นกัน
ยังไงผู้บริโภคเค้าก็มีตัวเลือก แต่ผมขอให้สำเร็จนะครับ คอนเซปต์มันดี ไร้มลพิษเลย แต่กลัวระเบิดอยู่ โดยเฉพาะสถานีชาร์จ
โนเกียแห่งยานยนต์
ไม่ยอมมาใช้แอนดรอยด์ จนต้องเจ๋ง โตโยต้าก็เช่นกัน
ความเป็นจริงแล้ว ไฮโดรเจนคือพลังงานที่สะอาดที่สุด ถ้ามองสูตรทางเคมีเมือไฮโดรเจนผ่าน กระบวนการICEก็จะกลับมาเป็นน้ำอีกครั้ง ต่างจาก แบตรเตอรี่สุดท้ายก็กลายเป็นขยะพิษ
สรุป รถเติมน้ำเปล่า เป็นรถที่ปลอดภัยที่สุด
@@tomokonaja1492 ปลอดภัยในรูปแบบไหนพอจะบอกได้ไหม
@@OMGOD650 แบตเตอรี่มีเสื่อม นำไปรีไซเคิลได้แค่ไม่กี่อย่าง นอกนั้นก็ทิ้งเป็นขยะสารพิษ ขณะที่เครื่องเติมน้ำเปล่า ก็แค่สกัดเอาไฮโดรเจนไปเป็นพลังงาน แล้วก็ทิ้งหรือระเหยไปเลย ซึ่งไม่ได้ส่งผลอะไรต่อสิ่งแวดล้อม
@@OMGOD650 ปัญหาคือ เขาไม่ผลิตเครื่องที่สกัดน้ำเป็นไฮโดรเจนลงไว้ในตัวรถแต่ละคัน(อนาคตก็ไม่แน่) เขาจะผลิตเฉพาะเครื่องยนต์ที่ทำงานด้วยไฮโดรเจนเท่านั้น เพื่อให้ภาคธุรกิจอยู่ได้ จากเติมน้ำมัน ก็จะกลายเป็นเติมก๊าซไฮโดรเจนแทน
@@tomokonaja1492
เขาจะผลิต เครื่องผลิตไฮโดรเจนติดรถไว้เพื่ออะไร?? ใช้ไฟจากไหนมาแยก??แบตรเตอร์รี่ไม่สามารถแยกแก๊สได้เพียงพอต่อการใช้งานแน่นอน เรายังหาสาเหตุไม่พบ??
ปัจจุบันญี่ปุ่นเขาทดลองสร้างโรงผลิต และสถานีจ่ายแก๊สไฮโดรเจนแล้ว
รถไฮดรอเจนนั่นราคาไม่ต่างกับ EV แต่ ราคาค่าลงทุนปั๊มไฮดรอเจนลงทุน 10~30 ล้าน ส่วนปั๊ม EV ตู้ชาทร์ตู้ล่ะ 1 ล้าน
ราคาอนาคตน่าจะเหลือไม่กี่แสนต่อตู้นะ
ยังไม่ได้พูดถึงวิธีการขนส่งอีกนะ
รถยนต์ไฟฟ้ารอชาร์เกือบชั่วโมง 20%-100% วิ่งได้แค่ 300-400 km
รถยนต์ไฮโดรเจน เติมไฮโดรเจนไม่ถึง 5 นาทีจาก 0 kg-7 kg วิ่งได้ 700-800 km
@@iskomaxmin ข้อดี ขอข้อเสียหน่อย
ตอนนี้ต้นทุนค่าใช้จ่ายต่อกิโลเมตรของรถไฮโดรเจนแพงกว่าน้ำมันอีก
แนวคิดดีมากครับ
เพราะคิดบนพื้นฐาน เหตุและผล
🎉💐ตามเชียร์คุณซาโตะอยู่นะคับ, ทำให้สำเร็จนะคับ💐🎉
ผมว่าพี่โตมาถูกทาง ที่จะมองข้ามรถไฟฟ้าใส่ถ่าย เพราะหลายคนรู้ดีว่า กระบวนการผลิตมันไม่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงเมื่อถ่านไฟฟ้าหมดอายุ มันทำลายยาก อาจถูกทิ้งเป็นสุสานเหมือนในระบบอุปกรณ์โทรศัพท์-คอมพิวเตอร์ .. และที่สำคัญถ้าในอีก 10กว่าปี มาตรฐานยุโรปปรับเรื่อง สิ่งแวดล้อมการปล่อยกาซเรือนกระจก ปรับมาตรฐานยูโร 5 เป็น 7 8 9 ขอบคุณที่พี่โตคิดล้ำนำหน้าไปถึงอนาคตในอีก 50-70 ปี
ใครจะสนสิ่งเเวดล้อมครับ ตลาดเเมส เค้าสนความสะดวก ความคุ้มค่า
แล้วการผลิต hydrogen ล่ะครับ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมไหม
ถ้าโตโยต้าหันรถไฮโดรเจนไปทางพวกรถพ่วง18ล้อ ขนส่งหนักทางอุตสาหกรรมทางเรือเชื่อว่าไฮโดรเจนยังมีโอกาสเกิด เพราะขนส่งระยะไกลข้ามจังหวัดไม่มีเวลามารอชาร์จ7-8ชม.แน่ สิ่งสำคัญคือความร่วมมือและการสร้างสถานีไฮโดรเจนพวกกรีนไฮโดรเจน ไม่ต้องเยอะแต่ให้พอต่อทั้งประเทศ คิดว่ามีอนาคตกว่ารถไฟฟ้าแบตเตอรี่ที่ไม่น่าขนส่งของทะเลจากตะวันออกหรือใต้ขึ้นมาถึงภาคเหนือภาคอีสานได้ รถไฟฟ้าแบตเตอรี่มันตอบโจทย์เฉพาะผู้ใช้ในเมืองไม่ใช่การค้าการขนส่งข้ามจังหวัด แต่รถไฮโดรเจนตอบโจทย์พวกนี้สบายๆ
รถไฟฟ้าถ้าทางไกลลำบากกว่าแน่ครับ ถ้ายังไม่มีเทคโนโลยีชาร์จเร็วแบบมากๆ
ไฮโดรเจนไม่เหมาะกับรถโดยสารทั่วไปครับ เนื่องจาก
1. สถานีเติม hydrogen ลงทุนสูงมาก
2. ตัว hydrogen เอง ถ้าไม่ผลิตใน site ขนาดใหญ่ๆ จะราคาแพงเพราะต้องแยก hydrogen จากน้ำโดยใช้ไฟฟ้า hydrogen ที่ราคาถูกที่สุดในปัจจุบันใช้การแยกจากก๊าซธรรมชาติ ซึ่งก็ไม่ต่างจากน้ำมัน ปล่อย co2 อยู่ดี
3. ตัวรถราคาแพง เพราะมีทั้ง fuel cell , battery และ ถังเก็บ hydrogen อีก (รถ hydrogen คือ BEV ชนิดหนึ่งที่ใช้ fuel cell มาชาร์ตแบตลูกเล็กๆก่อนใช้แบตไปขับ moter อีกที ไม่ได้ขับตรงจาก fuel cell นะครับ)
มองว่า hydrogen เหมาะกับรถขนส่งพวกรถบรรทุกที่มีเส้นทางวิ่งตายตัวครับ ตั้งสถานี hydrogen จำนวนไม่มากก็คลุมทุกเส้นทางถ้ารถโดยสารทั่วไป รถ BEV ดีกว่า hydrogen แน่นอนครับ ปล. เครื่องบินก็ใช้ hydrogen แทนน้ำมันได้ด้วยครับ ญี่ปุ่นเลยพยายามดัน hydrogen เพราะใช้กับการขนส่งได้ทั้งทางบก และทางอากาศ แต่ก็ดันไม่ขึ้นครับ ผ่านมาสิบกว่าปีแล้วก็ยังดันไม่ขึ้น
ถ้า Toyota ลุย EV มันสะเทือนสายการผลิตรถน้ำมันเครื่องยนต์สันดาบ เหมือนการตัดขาตัวเองออกเพื่อให้มีชีวิตรอด ซึ่งเขาเลือกอีกวิธี คือการไม่ยอมตัดขาทิ้ง แต่จะพัฒนาวิธีการรักษาขาไว้ใช้งานให้ได้นานที่สุด จะฉีดยา กินยา ฉายรังสี ผ่าตัด ทำทุกทางให้ upgrade ร่างกายนี้ให้ได้
รถไฮโดรเจนเปิดขายปี2015พร้อมรถ tesla m3 ผ่านมา6-7ยอดขาย tesla m3 ขายไปหลายล้านคัน แต่ รถไฮโดรเจนขายได้หลักพันหลักหมืนคัน😂😂
เปลี่ยนคนบริหาร
แต่รักษาแนวทางเดิม
ลาก่อน พี่โต
หลับหูหลับตาปั้นไฮโดรเจนต่อไป ยักษ์ที่ไม่ยอมตื่น
ก็ขอให้ฝันดีแล้วกัน คงเหลือแค่ชื่อในคำนาน
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ก็คงเหมือนเดิม แค่เพิ่มโซดา
เปลี่ยนคน คิดว่าจะเปลี่ยนความคิด ยังยึดติดกับความคิดเดิม ๆ
แอดมินไม่เข้าใจเรื่อง รถไฮโดรเจนของโตโยต้า และ ทิศทางนโยบายของโตโยต้า ทำให้ผู้ฟังจำนวนมากเข้าใจผิดไปด้วย
รถพลังไฮโดรเจนของโตโยต้า มี 2 ระบบ ซี่งแตกต่างกัน
1. รถ FCEV ซี่งเติมไฮโดรเจนครั้งเดียว แล้วผ่านเครื่องเปลี่ยนไฮโดรเจนเป็พลังงานไฟฟ้า ไปหมุนมอเตอร์ มันจึงเป็นรถไฟฟ้านั่นเอง (แต่ไม่ใช่ชาร์ทแบต) เช่น รุ่น MIRAI ที่พูดถึง
2 รถสันดาปภายในใช้ไฮโดรเจนเป็น "เชื้อเพลิง" อันนี้โตโยต้าทำสำเร็จนานแล้ว อยู่ในการพัฒนาให้ดีขึ้น แรงขึ้น เป็นรถของอนาคต
โตโยต้า "ไม่เคยบอกว่า ไม่ทำรถไฟฟ้า" แต่จะ "ทำ รถไฟฟ้า หลายๆ ทางเลือก" คือ Hybrid มีนานแล้ว พัฒนาต่อ, BEV ก็ทำ ไม่เคยบอกว่าจะทิ้ง, FCEV ก็มีแล้ว แต่ต้องแก้ปัญหา ปั้มเติมไฮโดรเจนกับความกลัว (เพราะไม่เข้าใจ) ของผู้บริโภค, แบต Solid State โตโยต้าเป็นผู้นำ, แบต Sodium ก็สนใจพัฒนา ฯลฯ
ส่วนรถใช้น้ำมัน ยังขายได้อีกอย่างน้อย 15 ปี โตโยต้าครองตลาดเบอร์หนึ่งของโลก แฟนมี โรงงานมี ระบบการตลาดมี จะทิ้งเงินไปทำไม ขายไปจนกว่าจะเหือดนั่นแหละ กินง่าย สบายพุง.
@@sacentery5767 ตรงนั้นมันแน่อยู่แล้ว ตลาดเครื่องสันดาป โตโยต้าเบอร์ 1
แล้วอีวีล่ะ???
คำว่ารถไฟฟ้า ตอนนี้ใคร ๆ ก็มองแต่เทสล่า
คงสิ้นตำนาน คราวนี้แหละ
ต้นทุนสูงกว่า เทศล่า
แต่บริหารด้วยแนวคิดแบบเดิม
เหมือนมี โทรศัพท์รองรับ 5 G
แต่ใช้ซิมทรศัพท์ 2 G
แล้วจะมีโทรศัพท์ 5 G มาทำสากทำไม???
บุญเก่าทำมามากมาย
แต่แตกลายไม้เป็น
จริง ๆ หากทำบริษัทลูก เช่นนำไดฮัทสุออกมาทำตลาดก็ได้ มินิรถไฟฟ้า ที่ใช้อยู่ ก็ไม่ยอมปล่อยออกมา มีเทคโนโลยี แต่ไม่เปิดเผย
เหมือนมีกระบี่ทีดี แต่ไม่ยอมชักออกมา
คงรอให้สนิมมากินก่อน
@@sacentery5767
ในที่สุดก็เจอ comment ที่มีความรู้👍
ผู้กำหนดแนวทางให้ซีโอตัวจริงของโตโยต้ามาอธิบายให้ฟังแล้วเด้อพี่น้อง..
เอาให้สุดที่ไฮโดรเจนละกันพี่โต คิดกว่ายากกว่าไฟฟ้าอีก
ผมเหนด้วยนะ เพราะค่าบำรุงซ่อมรถผEVคงแพง วิ่งผ่าน้ำถ้วม/จอดแช่ ไม่ดีแน่ลองโดนสักรอบก่อนครับ เพราะนับวันวาตะภัยมันร้ายแรงขึ้นทุกปีๆ และบริษัทผลิตน้ำมันเริ่มแอนตี้ขึ้นมาหน่อยๆเช่น การปรับขึ้นราคาน้ำมันเพื่อโกยกำไรก่อนตลาดแตก!
ถึงมีประกันไงครับ
อะไรก็เกิดขึ้นได้ เมื่อความต้องการพลังงานมีมากขึ้น การผลิตและราคาก็จะสูงตามแน่นอน
Nokia ยิ่งใหญ่แค่ไหน ก็ร่วงได้เพราะไม่ปรับตัวตามกระแส อยากเป็นแบบนั้นก็ คิดต่อไปครับ
รถยนต์นะคะไม่ใช่มือถือ
สำหรับบุคคลทั่วไปนะ ไฮโดรเจน มันก็ดีนะ แต่ว่าบุคคลธรรมดาไม่สามารถผลิตเองได้ ต่างจากไฟฟ้า ที่บุคคลธรรมดาสามารถผลิตเองได้จากโซล่าเซลล์ ทำให้รถไฟฟ้าสามารถชาร์จไฟจากที่ไหนก็ได้ ทั้งที่บ้าน ห้าง แต่ไฮโดรเจนยังต้องออกไปเติมก๊าซที่สถานีอย่างเดียวกับน้ำมัน ถ้าแข่งก็เหนื่อยหน่อยนะ เพราะยังไม่ค่อยเห็นมีใครกล้าลงสนามนี้ ส่วนมากไปลงไฟฟ้า เพราะสถานีชาร์จมันเริ่มเยอะกว่า แค่ผลิตรถไฟฟ้ามา ลูกค้าก็หาที่ชาร์จได้แล้ว แค่สถานีไฮโดรเจนยังยากอยู่
ถ้าจะได้จริงในช่วงเริ่ม คงสำหรับขนส่งขนาดใหญ่อ่ะ
ผมเชื่ออย่างนึงนะ อะไรก็ตามที่ตอนแรกโตโยต้าบอกว่าดีน้อยกว่าของตัวเอง สุดท้ายก็ทำหมดแหล่ะ เหมือนเครื่องยนต์ ไดเรกอินเจกชั่นในรถกระบะ ตอนแรกโตโยต้ามีแค่เครื่องมีหัวเผา(สเวิลแชมเบอร์)ใช้มาจนถึงโตโยต้าไทเกอร์2500=2L,2800=3L 3000=5L 3000=1KZ.. อีซูซุ ใช้เครื่องไดเรกอินเจกชั่น ตั้งแต่รุ่น KB-Z 2500 โตโยต้าก็ออกมาพูดว่าเครื่องของตัวเองดีกว่าพัฒนาต่อจากเครื่องไดเรกอินเจ็กชั่น แต่..รุ่นต่อจากนั้นอีกรุ่นเดียว ไทเกอร์ D4-D โตโยต้าก็ทำเครื่องไดเรกอินเจ็กขั่นที่ตัวเองเคยว่าล้าสมัยมาใส่รถตัวเอง ต่อมารถฟอร์ดทำแค๊ปเปิดได้ออกมา โตโยต้าก็ออกมาให้ข่าวว่าไม่มีนโยบายทำรถให้เป็นตู้กับข้าว พักเดียว วีโก้รุ่นตู้กับข้าวก็ออกมา กรณีนี้ก็น่าจะเหมือนเดิม สุดท้ายก็ทำผมว่า
แถมอีกอย่าง บอกว่าอีโค่คาร์ไม่เกิดหรอกรถเล็กเครื่องเล็กไปคนไทยไม่ใช้ ผ่านไปไม่กี่ปี ออกยาริสมากินรวบ
จุดเเข็งโป้ก ของรถไฟฟ้า คือมันชาตรไฟทีบ้านได้นี่ละ มันสะดวกสะบาย ตื่นไปทำงานก็ขับไปทำงานได้เลย สำหรับคนทีไปทำงานเช้าเย็นกลับ ซื้อรถทีวิ่งได้ 450 กิโลต่อชาตร มันโอเครมากๆ พลังไฮโดรเจน ก็ต้องเข้าปั่ม รถนํ้ามันก็เข้าปั้ม เเต่สำหรับคนทำงานเช้าเย็นกลับ มันโอเครมากๆสำหรับพวกเขา ประหยัดไปได้เยอะ มากๆ ใช้จนไกล้หมดระยะปรประกันเเบต ก็ไปเปลียนลูกใหม่ อย่างน้อยๆ 10 ปีขึ้นเเน่ๆ กว่าจะถึ่งต้อนนั้น เทคโนโลยี เเละสิ่งต่างๆ คงมีสิ่งใหม่ๆออกมา ค่อยว่ากัน
ต่อไปในอนาคต มันจะชาร์จจากโซล่าเซลล์ครับ ไม่ง้อไฟบ้าน 👍👍👍👍👍👍
เดี๋ยวๆๆๆๆ เอา แค่ ไฟฟ้าครัวเรือน ให้มันเจริญ ทุกที่ ก่อนเถอะ จะชาร์จ รถที่บ้าน กระแสไฟฟ้า ต้อง ดี
ที่ว่าจุดแข็งโป๊กคือชาร์จไฟที่บ้านได้ แต่จริงๆนั่นคือจุดอ่อนเลยครับที่ต้องเสรยเวลาชาร์จไฟ
…เพราะคนเมืองจำนวนไม่น้อย รถยนต์เข้าไม่ถึงตัวบ้าน ไม่ว่าจะย่านชุมชนซอยเล็กคับแคบ แฟลต คอนโดมิเนียมธรรมดา หมดโอกาสชาร์จไฟ ต้องรอคิวชาร์จปั๊มชาร์จศูนย์
@@nonchoosangkit9933
แล้วคุณคิดว่าคนที่ซื้อรถไฟฟ้า
เค้าไม่มีไฟฟ้าในบ้านรึไง
อีกอย่างไฟฟ้าไทยใช้แค่ 50%
ของกำลังการผลิตที่มีเท่านั้นคุณรู้หรือไม่
@@porpor6298 ใช้ แค่ 50 % แต่ ทำไม ไฟฟ้าไม่เจริญ ทั่วถึง แล้วคุณ รู้ คนที่ซื้อรถไฟ ฟ้า ที่บ้านเขามีที่ชาร์จ อย่าง ผม อยากซื้อรถไฟฟ้า แต่ที่บ้านไฟไม่ พอใช้ ต้องใช้หม้อ เพิ่มไฟ เขตอำเภอเมือง แท้ๆ หางจาก ตัวเมืองไม่ถึง 5กิโล อยู่มา 30 ปี ไม่พัฒนา ไปร้อง ทุกกับผู้ใหญ่บ้าน เขาก็ไม่สนใจ ให้ลูกบ้านไปร้องเรียนที่การไฟฟ้า ก็ไม่จัดการให้ แลัว พัก มีผู้ใหญ่บ้าน ไว้ทำสากกระเบือ อยู่กินเงินเดือนไป วันๆ ลูก บ้าน เดือนร้อนไม่สนใจ นี้แหละ ที่ผม ถึงบอก ว่าเอาแค่ไฟฟ้าครัวเรือน ให้ มัน เพียงพอก่อน เพราะคน ที่อยากซื้อรถไฟฟ้า ยังมี จุดชาร์จ ตามปั้ม น้ำมัน ก็มีให้ทุกที่ และเพียงพอด้วย ถ้าคนใช้รถไฟฟ้า มีเพียง แค่กลุ่ม เล็กๆ คุณไม่สามารถ เปลี่ยนแปลงโลก ให้ หันมาใช้ รถไฟฟ้า ได้ ทุกคน ความพร้อม เรื่องระบบจัดการไฟฟ้า ต้องมาก่อน และราคา ค่าซ่อมรถ ไฟฟ้า ไม่แพง เกินไปถึงตอนนั้น รถไฟฟ้าจะแทนที่ รถสันดาบ ได้ 100%
หมดคำอธิบายแล้วกับโนเกีย2
ผมว่า elon ก็เห็นปัญหาของ ev แต่มันต้องทำก่อนขายก่อนรวยก่อน แล้วค่อยมาแก้เรื่องสถานีไฮโดรเจน จะมาเป็น kodak nokia blackberry ไม่ได้ ต้องดูว่าพี่โตจะโดน ev คว่ำก่อนที่ ไฮโดรเจนจะเกิดไหม
อีกนาน เชื่อเถอะ ดูเทคโนจอทีวีได้ จอแก้วนา่นไหม มา lcd กว่าจะมา led มันต้องคุ้มก่อน
ตอนนี้เหมือนเลือกทา่งกันไปแล้วว่าเอา ev ก็จอ ev อีกหลายสิบปี
led พัฒนาจนมาถึง led ม้วนได้ยิดหดได้ ราคาสูงไง อีก 10 ปีก็ราคาเหมือนไม่ถึงหมื่น
คนทำปํ๊มหรือเครื่องเติม คงไม่ทำหลายอย่างมากหรอก ผมเชื่อว่ามันเปนรุ่นๆไป
เหมือน ตอนทำ mem ของกล้องดิจิตอล sd memstick การ์ดหลายแบบ memstick ของ sony กะผูกขาดสุดท้ายเจอพวกเยอะแบบ eu usa เอา sd และแบบอื่น จบเลย
ผมว่า ญี่ปุ่นฝืนกระแสเกิน เค้าควรเกาะเจ้าเทคโนแบบ usa eu ให้ดีๆ ดูจีนฉลาดมาก รู้แนวละ
เลยเลือกกระโดดไป ev เลย เพราะ ถ้าเล่นในตลาดเครื่องก็เสียเปรียบญี่ปุ่นอยุ่ดี
มีจุดยืนชัดเจน ชอบนะ ไม่รุ่งพวดพราดก็ค่อยๆล่วง แต่ผมว่าไฮโดเจน ไปต่อได้อีกเยอะ ถ้า ตยต สามารถ สร้างแหล่งเติมพลังงานในประเทศที่เขาขายของได้
ระวัง จะเหมือน โนเกีย
คนไทยยังเข้าใจผิดคิดว่าโนเกียตายไปแล้ว จริงๆ แล้วโนเกียยังผลิตโทร.รุ่นใหม่ออกมาเรื่อยๆ รุ่นปี 2023 ก็ยังมีออกมาหลายรุ่น ไปหาดูในเน็ตได้
ถ้าจะเปรียบเทียบเรื่องเจ๊งหายไปจากตลาด คงต้องเปรียบเทียบ โกดัก แทนแน่นอนกว่า
ผมว่าพลังงานไฮโรเจนคือพลังงานสะอาดและเป็นอนาคตที่แท้จริง เพราะอย่าลืมว่ารถ EV นั้น ต้องใช้แร่มาผลิตแบตเตอรี่จำนวนมหาศาล และแร่มีแต่จะหมดลง กระบวนการแตั้งแต่ต้นน้ำตั้งแต่ขุดเหมืองกว่าจะมาเป็นแบตเตอรี่ก็ไม่ได้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมทั้งหมด และในอนาคตอาจเกิดปัญหาขาดแคลนพลังงานไฟฟ้าซึ่งจะทำให้ต้นทุนในการใช้รถ EV เพิ่มขึ้นได้
เขากำลังพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้าด้วยแสงอาทิตย์ แสงอาทิตย์ไม่มีวันหมด อีกหน่อยจะมีพลังงานลมเวลารถวิ่ง เอาพลังงานลมกลับมาใช้อีก
@@KhobKhunKub แต่แบตเตอรี่ มันคือ ขยะหลังผ่านไป 10 ปี ส่วนการเปลี่ยนไฟฟ้าเป็น ไฮโดรเจน มันไม่มีขยะ ไงครับ
ประเด็นคือไฮโดรเจนมันสะอาดไม่จริงไง การผลิตไฮโดรเจนของโลกมันใช้พลังงานสกปรกเกิน 90%ยังใช้fuelcell กับถ่านหินเผาเพื่อให้ได้ hydrogen อยู่เลย แล้วพลังงานหายไประหว่างกระบวนการอีก 20-30%
ถ้ารักโลกจริงๆก็เติม fuel cell โดยตรงไปเลยไม่ดีกว่าเหรอครับ ถ้าปลายทางเหมือนกัน
มีความเป็นไปได้
เยี่ยมยอดค่ะ
รถไฟฟ้าอาจลดมลภาวะได้เมื่อเทียบกับรถยนต์สันดาป แต่ที่มาของไฟฟ้าก็ส่งผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมไม่ต่างกัน นี้คือสิ่งที่ทำให้ Toyota คิดต่าง
ผมรอรถพลังงานน้ำทะเลอยู่ครับ ของเสียที่ปล่อยออกมากลายเป็นน้ำจืด ถ้าทำได้ทุกคนบนโลก จะไม่ขาดแคลนน้ำ👍👍👍😆
จะคอยดู
ผมเริ่มเห็นเงาโนเกียรางๆแล้วสิ😂😂😂
โตโยต้า ... ไม่จำเปนต้องตามกระแส ของใคร .... การผลิตด้วยเทคโนโลยีฯของตนเอง ในสิ่งที่ตนเองชำนาญ... เข้าตำรา ที่ว่า ...อันความรู้ รู้กระจ่างแต่อย่างเดียว แต่ให้เชียวชาญเถิด จะเกิดผล... รอชมกันต่อไป...
ไฮโดร มันของกั๊กที่หมดอายุแล้ว สงสัยเสียดายอุตส่าดองมานาน
ทำรถยนต์น้ำมันให้วิ่งผสมไฮโดรเจน ได้สัก 25 กม./ลิตร นี่ก็ขายได้อีกนานตรับ อะไหล่ถูกลงหน่อย ก็ยังขายดีเหมือนเดิมไม่ต่างจากรถไฟฟ้า
อายุใช้งานรถยนต์ราว 15 ปี นับจากนี้ไปอีกราว 20 ปี รถเครื่องยนต์น้ำมันจะเหลือบนถนนไม่ถึงครึ่งครับ เวลา 15 ปีใช้เปลี่ยนผ่านสำหรับอุตสาหกรรมรถยนต์นี่เร็วมากๆนะครับ ถ้าเป้าหมายไม่ชัดเจน แน่นอนว่าปรับตัวกันไม่ทันหรอกครับ
ไฮโดรเจน 6-7 kg วิ่งได้เกือบ 1000 km เหลือแต่ราคาแก้สอย่างเดียว เทคโนโยโลยี่ในการแยกแก้สกำลังมาเร็ว อีก😊ไม่นานก็ลงมาแข่งกับรถไฟฟ้าได้แล้ว
เหตุผลที่ผู้คนคาดหวังกับรถไฟฟ้าโดยเฉพาะในฝั่งของผู้ใช้งาน ก็เพราะว่าต่อไปในอนาคตไม่ว่าพลังงานไฟฟ้าในรูปแบบใด ก็จะขาดแคลน พลังงานทางเลือกไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์จะเข้าใกล้กลุ่มผู้ใช้งานมากขึ้น และนั่นจะทำให้ผู้ใช้งานเลือกใช้พลังงานที่สามารถผลิตเองได้ มากกว่าที่จะใช้พลังงานที่ต้องพึ่งพาการซื้อหาเพียงอย่างเดียว แน่นอนไฮโดรเจนเป็นพลังงานที่สะอาด สามารถเติมได้เร็วและให้พลังงานที่มากพอในภาคขนส่ง มันจะไม่ต่างจากรถน้ำมันในปัจจุบันในการใช้งาน ถ้าหากพูดถึงในแง่ธุรกิจ พลังงานไฮโดรเจนจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า แต่ถ้าตลาดยังคงเป็นใหญ่และผู้ใช้ยังคงพัฒนาในส่วนของพลังงานแสงอาทิตย์ไปเรื่อยๆแบบปัจจุบัน ก็บอกได้ยากว่าพลังงานรูปแบบใดที่จะเป็นพลังงานในอนาคตที่แท้จริง
เค้าใช้ไฮโดรเจนมาเปลี่ยนเป็นไฟฟ้าได้โดยตรง แต่ผมก็ไม่รู้นะว่าโตโยตาเค้าจะทำแบบไหน
เคยเห็นฝรั่งเค้าทำอยู่ ใช้ชิปของโตโยตานี่แหละมั้ง
มันเหมาะมากเลยที่จะทำเก็บไว้แปลงไฟฟ้าในบ้าน แต่ก็น่ากลัวมาตรฐานความปลอดภัยอยู่
วิเคราะห์แบบคลุมเครือ และจบแบบกั๊กๆ
@@supmango1627 ถ้าจะเป็นพลังงานสะอาดก็ต้องเป็นระบบเซลเชื้อเพลิงหรือก็คือใช้ปฏิกิริยาของไฮไดรเจนมาผลิตไฟฟ้าน่ะแหละครับ เรื่องของเรื่องคือเราผลิตไฮโดรเจนเองไม่ได้ ดังนั้นสภาพการใช้งานก็จะยังคงเหมือนน้ำมันคือ ถูกผูกขาดโดยธุรกิจ และการผลิตไฮโรเจนเองก็ใช้ไฟฟ้า ดังนั้นเมื่อทรัพยากรผลิตไฟฟ้าแพง ไฮโดรเจนก็ย่อมแพงด้วย การเก็บไฮโดรเจนไว้ใช้ไม่ง่ายครับ มันต้องทำให้เย็นและอัดในรูปของเหลว ทิ้งถังให้ว่างไม่ได้เพราะแรงดันมันจะสูงมากอันตราย ซึ่งเรื่องที่มันเป็นสารไวไฟ ที่สร้างไฟไร้สีนี่ก็เป็นประเด็นนึงที่เขากังวลในการใช้งาน
แน่นอนว่าไม่ว่าแบบใดมันก็ต้องเป็นไปตามกลไกตลาดน่ะแหละเราทำอะไรมากไม่ได้ ธุรกิจมันแข่งกันเอง ส่วนเราๆ ลุ้นแต่ให้มันสะดวกก่อน ส่วนเรื่องปลอดภันเกรงว่าต้องรอเกิดเหตุใหญ่ๆ คนถึงจะตระหนักกัน
@@user-sd8lh1cr3y การจัดเก็บนั่นแหละที่น่ากลัว ไฮโดรเจนนิดเดียว ฝรั่งมันจุดเล่น พุ่งยังกะจรวด
ส่วนการผลิตดูแล้วไม่น่ายาก ไฟฟ้าจากโซลาเซลล์ น่าจะเอามาผลิตได้ดีกว่าเก็บในแบต
ก็อย่างที่คุณว่ามาตรฐานความปลอดภัยนั่นล่ะ ผมว่าคนเห็นคลิปที่ฝรั่งมันจุดไฮโดรเจนเล่น คงส่ายหน้าไม่กล้าใช้กันหมดล่ะมั้ง
ให้เอามาใส่รถผมไม่เอาล่ะหนึ่งคน นั่งทับลูกระเบิดชัดๆ
ขออย่าให้อะไหล่เยอะไปเหมือนรถนำ้มันครับแค่นั้นพอ
จะทำรถอะไรก็เรื่องของเขา บางทีเศรษฐีน้ำมันอาจจ่ายให้เขาเพื่อขอให้อย่าพึ่งทำขาย😂
เศรษฐีน้ำมัน ยิ้มเลย พลังงานไม่พอ ต้องนำมาช่วยปั้นพลังงานให้ทั้งการผลิตไฟฟ้า แล้วไฟฟ้าก็ต้องเอาไปใช้กับเครื่องผลิตไฮโดรเจน 555+
จากยักษ์ใหญ่วงการรถยนต์ ตอนนี้ตกขบวนแล้ว
สรุปtoyotaมีทางเลือกให้ลูกค้ามากกว่าค่ายอื่น…มีทางเลือกมากกว่า ก็ต้องดีกว่าสิครับ ไม่เห็นต้องคิดยากเลย😅😅😅
สื่อไทย ส่วนมาจะบอกคุณผู้ชมว่า toyota เลือก ไฮโดรเจนไปแล้วแบบสุดตัว ทำอย่างอื่นไม่ได้แล้ว ไม่ทันแล้ว ไม่มีเทคโนโลยี่อย่างอื่นแล้ว คนดูส่วนมากจะเชื่อตาม ไม่รับรู้ว่า toyotaมีทางเลือกให้ลูกค้ามากกว่าค่ายอื่น
เติมน้ำเปล่า 2 ลิตร วิ่งพันโล แบบนี้ถึงบันเทิงครับ
วิ่งไกลๆทำได้อยู่แล้ว แต่ราคาสูงลิ่วจะพร้อมซื้อรึเปล่าเท่านั้นเอง
ส่วนตัวเชื่อมั่นในรถ ev มีญาติเพิ่งซื้อมาคันนึง กล้าเสี่ยงแบบคนรุ่นใหม่ แต่ไม่ผิดหวัง เพราะชมว่า เหยียบแล้วพลังมาทันทีไม่ต้องรอรอบแบบรถสันดาป แล้วมีอีกแบรนด์คือ Nio เจ้านี้ก็ดังของจีนอีกเหมือนกัน ออกขายในยุโรปแล้ว ภาพลักษณ์เป็นรถหรูทีเดียว เน้นการสลับแบตที่สถานีเปลี่ยนแบต (swap) ใช้เวลาไม่กี่นาทีก็เปลี่ยนแบตที่ชาร์จรอไว้ให้ไปต่อให้เลย เหมือนเติมน้ำมันนั่นแหละ ไม่ต้องเสียเวลาเป็นครึ่งชั่วโมงเพื่อชาร์จ ส่วนที่ว่าแร่แรเอิร์ธจะหมด ก็ไม่น่าจะหมดเร็วหรอก (เหมือนข่าวตั้งแต่เด็ก ๆ ว่า น้ำมันจะหมดโลกในอีก 50 ปีข้างหน้า แต่ทุกวันนี้ก็ยังไม่หมดซักที)
สายอินดี้ ไม่สนโลก เขาไปไฟฟ้ากัน แต่ลวกเพ่จะไปไฮโดรเจน
ลูกเพ่ไปไม่ใหว
แอดมินไม่เข้าใจเรื่อง รถไฮโดรเจนของโตโยต้า และ ทิศทางนโยบายของโตโยต้า ทำให้ผู้ฟังจำนวนมากเข้าใจผิดไปด้วย
รถพลังไฮโดรเจนของโตโยต้า มี 2 ระบบ ซี่งแตกต่างกัน
1. รถ FCEV ซี่งเติมไฮโดรเจนครั้งเดียว แล้วผ่านเครื่องเปลี่ยนไฮโดรเจนเป็พลังงานไฟฟ้า ไปหมุนมอเตอร์ มันจึงเป็นรถไฟฟ้านั่นเอง (แต่ไม่ใช่ชาร์ทแบต) เช่น รุ่น MIRAI ที่พูดถึง
2 รถสันดาปภายในใช้ไฮโดรเจนเป็น "เชื้อเพลิง" อันนี้โตโยต้าทำสำเร็จนานแล้ว อยู่ในการพัฒนาให้ดีขึ้น แรงขึ้น เป็นรถของอนาคต
โตโยต้า "ไม่เคยบอกว่า ไม่ทำรถไฟฟ้า" แต่จะ "ทำ รถไฟฟ้า หลายๆ ทางเลือก" คือ Hybrid มีนานแล้ว พัฒนาต่อ, BEV ก็ทำ ไม่เคยบอกว่าจะทิ้ง, FCEV ก็มีแล้ว แต่ต้องแก้ปัญหา ปั้มเติมไฮโดรเจนกับความกลัว (เพราะไม่เข้าใจ) ของผู้บริโภค, แบต Solid State โตโยต้าเป็นผู้นำ, แบต Sodium ก็สนใจพัฒนา ฯลฯ
ส่วนรถใช้น้ำมัน ยังขายได้อีกอย่างน้อย 15 ปี โตโยต้าครองตลาดเบอร์หนึ่งของโลก แฟนมี โรงงานมี ระบบการตลาดมี จะทิ้งเงินไปทำไม ขายไปจนกว่าจะเหือดนั่นแหละ กินง่าย สบายพุง.
แน่ล่ะ ญี่ปุ่นไม่สามารถทิ้งเครื่องยนต์ICE ได้ เพราะเป็นธุรกิจหลักที่ฝังลึกมานาน
จึ่งต้องเอา ไฮโดรเจน มาประยุกใส่เครื่องยนต์แล้วขายให้ได้
จีนไม่ขายแร่สำคัญทำแบท
แอดมินไม่เข้าใจเรื่อง รถไฮโดรเจนของโตโยต้า และ ทิศทางนโยบายของโตโยต้า ทำให้ผู้ฟังจำนวนมากเข้าใจผิดไปด้วย
รถพลังไฮโดรเจนของโตโยต้า มี 2 ระบบ ซี่งแตกต่างกัน
1. รถ FCEV ซี่งเติมไฮโดรเจนครั้งเดียว แล้วผ่านเครื่องเปลี่ยนไฮโดรเจนเป็พลังงานไฟฟ้า ไปหมุนมอเตอร์ มันจึงเป็นรถไฟฟ้านั่นเอง (แต่ไม่ใช่ชาร์ทแบต) เช่น รุ่น MIRAI ที่พูดถึง
2 รถสันดาปภายในใช้ไฮโดรเจนเป็น "เชื้อเพลิง" อันนี้โตโยต้าทำสำเร็จนานแล้ว อยู่ในการพัฒนาให้ดีขึ้น แรงขึ้น เป็นรถของอนาคต
โตโยต้า "ไม่เคยบอกว่า ไม่ทำรถไฟฟ้า" แต่จะ "ทำ รถไฟฟ้า หลายๆ ทางเลือก" คือ Hybrid มีนานแล้ว พัฒนาต่อ, BEV ก็ทำ ไม่เคยบอกว่าจะทิ้ง, FCEV ก็มีแล้ว แต่ต้องแก้ปัญหา ปั้มเติมไฮโดรเจนกับความกลัว (เพราะไม่เข้าใจ) ของผู้บริโภค, แบต Solid State โตโยต้าเป็นผู้นำ, แบต Sodium ก็สนใจพัฒนา ฯลฯ
ส่วนรถใช้น้ำมัน ยังขายได้อีกอย่างน้อย 15 ปี โตโยต้าครองตลาดเบอร์หนึ่งของโลก แฟนมี โรงงานมี ระบบการตลาดมี จะทิ้งเงินไปทำไม ขายไปจนกว่าจะเหือดนั่นแหละ กินง่าย สบายพุง.
ทำไมไม่ทำรถใช้พลังงานแบบไร้ขีดจํากัด โดยไม่ต้องใช้อะไรมาเป็นเชื้อเพลิงเลย และไม่ต้องมีการชาร์จ ไฟฟ้าเข้าแบตเตอรี่ ใช้กลไกทำให้เกิดพลังงานแบบ free energy ที่ให้พลังงานมากกว่าเครื่องยนต์ใดๆ ทำงานแบบไม่มีการหยุดพักเลย เป็นพลังงานที่สะอาด ขณะที่ทำงานเครื่องเย็นเฉียบไม่ปล่อยความร้อนออกมาเลย เครื่องยนต์มีส่วนประกอบง่ายกว่าเครื่องยนต์ทั่วไป สามารถไปแทนเครื่องยนต์ไอพ่นของเครื่องบิน ทำขีปนาวุธ เคลื่อนที่ จากพื้นดิน สู่อวกาศได้เลย มันเป็นเครื่องยนต์แบบเส้นผมบังภูเขา ซึ่งสามารถออกแบบได้หลายวิธี ต่อไปในอนาคตเรามีพลังงานเหลือใช้ยังไม่จำกัด
ตอนนี้ใช้ไฮบริดอยู่ ถ้าซื้อใหม่ ผมก็ซื้อไฮบริดอีกฮะ ส่วนตัวว่ามันโอเคที่สุดล่ะ
ดีแล้วที่ทำแบบนี้ จริงรถไฟฟ้ามันไม่ make sense ตอนกลับมาชาจต์ต้องใช้พลังงานไฟฟ้าจำนวนมาก ซึ่งโรงไฟฟ้ายังคงใช้ แก๊สธรรมชาติ ถ่านหิน
ที่คุยว่าเป็นพลังงานไม่สะอาดอยู่ดี ลดการใช้น้ำมันช่วงกลางวันแต่พอกลางคืนต้องใช้น้ำมันเพิ่มในการผลิตไฟฟ้าเพื่อชาจ์ตแบต ที่โตโยต้าต้องทำคือต้องทำ
สถานีเติมไฮโดรเจนให้มากๆ จริงไฮบริคถัวเฉลี่ยแล้วมันก็ประหยัดไปเยอะ ออ ละการทำเหมืองที่จะได้มาซึ่งแร่ธาตุทำแบตเตอรี่นี่โคตรทำลายสิ่งแวดล้อมเลย
ไม่มีใครคิดตรงนี้บ้าง และ การ Reused แบตเตอรี่มีไม่ถึง 5% ขยะมลพิษจากแบตเตอรี่ จะเอาไว้ไหนทำลายไง
ชวนถาม
1.ไฮโดรเจนสะอาดจริงเหรอ? ลำพังตัวมันสะอาดแต่การได้มานั้นแสนสกปรก มากกว่า90%มาจาก fuel cell, และถ่านหิน และต่ำกว่า 1%มาจาก renewable นี่ยังไม่นับว่า พวกแม่เหล็กถาวรที่นำมาใช้ผลิต renewable มาจาก rare earths นะ จึงยังไม่เห็นด้วยว่าไฮโดรเจนนั้นสะอาดกว่าพลังงานอื่น
2. ไฮโดรเจนของโตโยต้าก็มีแนวคิดมาเก็บประจุไฟฟ้า ไม่ต่างจากแบตรถEV
3. ไฮโดรเจนมัน low density ค่าใช้จ่ายในการเคลื่อนย้ายเก็บรักษา แม้แต่พื้นที่จัดเก็บ ราคาสูงกว่าการตั้งสถานี EV charge หลายเท่า
4.เอา fuel cell ไปเผาเพื่อผลิต hydrogen, efficiency ประมาณ 70-80% แล้วเราเอา hydrogen ไปเติมต่อในรถ สู้เอา fuel cell ไปเติมโดยตรงในรถเลยไม่ดู make sense กว่าเหรอ?
ไม่ใช่ว่า EV มันดีประเสริฐไปหมดนะครับแต่ไฮโดรเจนเองก็ยังมีปัญหาในตัวรอผู้มาแก้ไขอยู่เช่นกัน
ความสะดวกสะบาย สาขาหลายทั่วประเทศเขาใช้ไฟฟ้า
เป็นไปได้ว่า ในเมื่อใครๆเน้น EV ตลาด EV ก็จะกลายเป็น สนามแข่งที่มีคู่แข่งมากมาย หรือ Red Ocean ในขณะเดียวกัน Hydrogen ก็คือ ทางเลือกที่ 2 ของรถในอนาคตแม้จะนิยมน้อยกว่า แต่คู่แข่งกลับแทบไม่มี Toyota ก็จะไม่ต่างจาก เรือใบแล่นฉิวนำใครต่อใครในตลาด Blue ocean ...( เป็นที่ พิสูจน์ได้แล้วว่า จริงๆแล้ว EV ก็ไม่ใช่พลังงานบริสุทธิ์จริงๆเพราะ ยังไงๆก็ยังใช่พลังงานไฟฟ้าที่มีที่มาจาก ก๊าซธรรมชาติ และ ถ่านหิน เป็นหลักอยู่ดี เพียงแต่สิ้นเปลืองน้อยกว่า รถน้ำมัน แถมยังมีเรื่อง แบตเตอรี่ ที่เมื่อหมดอายุก็จะกลายเป็น ขยะเป็นพิษ..ต่างจาก รถ Hydrogen ที่เป็นพลังงานบริสุทธิ์ของจริง ที่ไม่มีแม้กระทั้ง ของเสียที่จะเป็น ขยะเป็นพิษ..
ผมก็คิดเหมือนกันกับคุณตลาด EV คู่แข่งหน้าใหม่เยอะเกินไปไปหาตลาดที่ความนิยมรองลงมาแต่เราเป็นเจ้าตลาดดีกว่า
ผมว่าถ้าเบนเข็มรถไฮโดรเจนไปทางรถบรรทุกหรือรถโดยสารขนาดใหญ่ ดูน่าจะรุงกว่านะ
เป็นแนวคิดที่ไม่ฉลาดหากประเทศใดๆไม่มีนโยบายส่งเสริมเพราะต้นทุนที่สูงในการสร้างสถานีเติมH2 toyotaต้องลงทุนสร้างเองทั้งหมดใหวเหรอในขณะที่คนก็ไม่เชื่อถือเทคโนโลยีดังกล่าวจะสำเร็จ
@@somkiatunsamrong1840 รอดูกันไปครับว่า จะฉลาดหรือไม่ฉลาด...แตที่แน่ๆคือ หากใครจะลงแข่งกับ Toyata ใน เกมส์นี้ ก็คงยากที่จะตามทัน
งานนี้ วิสัยทัศน์ กับ ข้อมูลเชิงลึกทางวิชาการ ล้วนๆ ที่ทำให้ Toyota ทำแบบนี้
@@somkiatunsamrong1840 คุ้นๆเคยเห็นข่าวว่าเยอรมันผลิตเป็นเม็ดแล้วหยอดลงในถังให้เกิดเป็นก๊าซไฮโดรเจนในถึงเชื้อเพลิงหรืองัยนี้แหละครับ (ผมอาจจะจำผิด)
ถ้าพัฒนาการแยกไฮโดรเจนจากธรรมชาติ อย่าง่ายๆ แทบไม่ต้องมีสถานีเติม
ถูกต้องครับ ไฮโดรเจนคืออนาคตที่แท้จริง
อนาคตที่มืดมน
@@guitarfai2516 555 อีลอนว่าไว้ ไฮโดรเจนคืออนาคต และจะเป็นอนาคตตลอดไป 555
10กว่าปีก่อน Elon Musk ผู้นำรถ EV มาแทนรถน้ำมัน คนก้อบอกเป็นไปไม่ได้ อนาคตอีกหลาย10ปี ค่ายรถญี่ปุ่นคงสามารถนำรถพลังไฮโดเจนมาเป็นอีกทางเลือกแน่นอน
รอรถไฟฟ้าของพี่โตอยู่
ผมมั่นใจยี่ห้อนี้ยี่ห้อเดียวโตโยต้า
@@user-rl6fu5zv9y ต้องดีกว่าเทสล่าแน่นอน ต่อไปรถไฟฟ้าพี่โตต้องครองโลก ปล. ถ้ายังไม่เจ๊งก่อนนะ 555
@@info001a โตโยต้ามีเจ้งด้วยหรือครับ เอาสมองซีกไหนคิดครับ
สุดยอดครับ
ต่อจากไฟฟ้า จะมีการพัฒนานิวเคลียร์ที่สามารถบรรจุเป้นก้อนพลังงานจากไฟฟ้า ไฮโดรเจนมันค่อนข้าง out นะครับ
โอกาศรถจีนมาแล้ว จีนพัฒนารถไฟฟ้ามาไกลมากและเริ่มเสถียรขึ้นเรื่อยๆ ถ้าวันนึงวิ่งได้หลัก7ร้อยโลอัพ ยุ่นก็ยุ่นเถอะ
แบนญี่ปุ่น ไม่ค่อยมีเจ้าไหนขยับ เลย น่าสังเกตุ มีแต่แบนจีนทำรถไฟฟ้า เขาต้องซุ้มทำอะไรซักอย่าง
@@user-yr2pr3lg1m แต่แปลกนะ ในญี่ปุ่นก็เห็นใช้รถ EV คันจิ๋วๆ อยู่ทั่วไป แต่ไม่ทำรถโดยสารขนาดปกติออกมาขาย