Video není dostupné.
Omlouváme se.

ชาดก 500 ชาติ อรรถกถา ถุสชาดก ชาดกว่าด้วย รู้จักแกลบหรือข้าวสารในที่มืด

Sdílet
Vložit
  • čas přidán 16. 08. 2024
  • #ชาดก500ชาติ #อรรถกถา #ถุสชาดก #ชาดก #แกลบ #ข้าวสาร #พระศาสดา #ประชุมชาดก #อาจารย์ทิศาปาโมกข์ #เมืองตักกสิลา #พระพุทธเจ้า #พระเวฬุวันวิหาร #พระเจ้าอชาตศัตรู # ทารกในครรภ์ #มารดา #พระมเหสี #กินเลือด #พระเจ้าพิมพิสาร #น้องหญิง #พิสดาร #อนาคต #โหรหลวง #ทหาร #โหร #พระบิดา #พระโอรส #คาถา # พระกุมาร
    ณ พระเวฬุวันวิหาร พระศาสดา ทรงตรัสเล่าถึงพระเจ้าอชาตศัตรู ตั้งแต่ยังเป็นทารกอยู่ในครรภ์ของมารดา วันหนึ่งพระมเหสีเกิดแพ้ท้องอย่างหนัก "ท่านหญิงอาการเป็นยังไงบ้าง ดีขึ้นหรือยังเจ้าคะทรงยากกินเลือดอยู่ไหม" บ่าวรับใช้เอ่ยถาม "อื่ม" หญิงสาวพยักหน้ารับ ข้ายังอยากกินเลือดของท่านพี่อยู่เลย" ขณะเดียวกันพระเจ้าพิมพิสารที่อยู่ในห้องบังเอิญได้ยินบทสนทนาเข้า “อยากกินเลือดงั้นหรือ" พระเจ้าพิมพิสารมีสีหน้าฉงน "ทำไมอาการแพ้ท้องของน้องหญิงช่างพิสดารขนาดนี้ แล้วจะมีผลต่อบ้านเมืองในอนาคตหรือเปล่าลองปรึกษาโหรหลวงดูก่อนอาจจะไม่มีอะไรก็ได้" "ทหาร! เจ้าไปตามโหรมาพบข้าหน่อย"
    เมื่อโหรเดินทางมาถึง "ไม่ทราบว่าพระองค์มีอะไรให้หม่อมฉันรับใช้" "ข้ามีเรื่องหนึ่งอยากให้เจ้าทำนาย คือพระเทวีมีอาการแพ้ท้องแปลกๆ" "ยังไงหรือเจ้าข้า" จากนั้นพระเจ้าพิมพิสารเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้โหรประจำตัวฟัง "ข้าแต่พระองค์ กระหม่อมเกรงว่าเรื่องนี้ไม่ดีมากนัก" "อย่างไรหรือ" “ในอนาคตลูกชายคนนี้จะฆ่าพระองค์เพื่อยึดพระราชสมบัติ” "ห้ะ" พระเจ้าพิมพิสารมีสีหน้าตกใจเล็กน้อย "จริงพะย่ะค่ะ อาจจะฟังดูโหดร้ายแต่นี่คือเรื่องจริง" โหรยังเอ่ยสำทับ "ขอบใจมาก ส่วนเรื่องนี้ข้าจะจัดการเองเจ้าไปได้เเล้ว" "พะย่ะค่ะ"
    หลายวันต่อมา พระเจ้าพิมพิสารเก็บเรื่องคำทำนายไปนั่งคิดนอนคิดอยู่หลายวัน ว่าจะทำอย่างไรดีกับเหตุการณ์ครั้งนี้ "ข้าไม่อยากพรากชีวิตของเด็กตัวน้อยนี้เลย แต่ก็คงไม่มีทางเลือกอื่นแล้วสินะ" เช้าวันต่อมาขณะที่ทั้งสองอยู่ในห้องบรรทม "น้องหญิงพี่มีเรื่องอยากจะคุยกับน้องสักหน่อย" "เรื่องอะไรหรือเจ้าคะ" "อาการเเพ้ท้องของเจ้า" "แล้วผลออกมาเป็นอย่างไรบ้าง" สาวเจ้ามาสีหน้าสนอกสนใจ
    ขณะเดียวกันใบหน้าของพระเจ้าพิมพิสารถูกฉาบไปด้วยความหนักใจ ก่อนความเงียบจะเข้าเกาะกุม "ในอนาคตลูกของเราจะก่อกบฎ" "จริง หรือเจ้าคะ" พระเจ้าพิมพิสารพยักหน้าอย่างช้าๆ เพื่อตอกย้ำความจริง ภาพตรงหน้าหญิงกำลังนั่งก้มหน้า ใช้สองมือน้อยๆ ปิดบังใบหน้า เนื้อตัวสั่นเทา เหมือนกำลังสะกดกั้นความเจ็บปวดที่กำลังถาโถมเข้ามา "โถ..น้องหญิงของข้า ช่างน่าสงสารยิ่งนัก" ก่อนคนผู้เป็นสามีทรุดนั่งลงข้างๆ ภรรยา ใช้มือประคองใบหน้าอันงดงามให้เงยขึ้น
    "น้องหญิงช่วยเอาลูกในครรภ์ ออกได้ไหม" "แต่...นี่คือลูกของเรานะเจ้าคะ” “ได้โปรดไว้ชีวิตลูกของเราเถิด อย่าทำเวรทำกรรมเลย ท่านไม่รักลูกน้อยคนนี้แล้วหรือ” "ข้าทำอะไรลงไป แค่คำทำนายของโหรถึงกับทำให้เราทำเรื่องที่เลวร้ายเช่นนี้หรือ" พระองค์มองดูภรรยาสุดที่รักตรงหน้า “ก็ได้พี่จะไม่ทำร้ายลูกของเรา”
    ครั้นครบกำหนดคลอด พระโอรสถือกำเนิดขึ้น ได้รับนามว่า อชาตศัตรูกุมาร วันหนึ่งพระศาสดาและคณะภิกษุ ๕๐๐ รูป เสด็จไปที่วังพระเจ้าพิมพิสารก่อนประทับนั่ง พระองค์ทรงถวายภัตตาหารกับภิกษุสงฆ์ บรรดาข้าวปลาอาหาร ถูกจัดเตรียมอย่างปราณีตวางอยู่ตรงหน้าบรรดาพระภิกษุสงฆ์ ขณะเดียวกันพี่เลี้ยงพากุมารมาถวายกับพระเจ้าพิมพิสาร ก่อนพระองค์ทรงอุ้มพระโอรสมานั่งไว้บนตัก ด้วยความเสน่ห์หาขณะที่พระพุทธเจ้า ทรงเทศนาธรรรม พระราชามัวแต่เล่นกับลูกน้อยจนไม่ได้ฟังคำสั่งสอนของพระศาสดา พระศาสดาทรงทราบความประมาทของพระราชา จึงตรัสว่า “พระราชาในครั้งก่อน ทรงระแวงพระโอรสถึงกับเอาไปขังไว้ในปราสาท” ก่อนนำเรื่องในอดีตมาเล่าว่า
    ในอดีตกาล สมัยพระเจ้าพรหมทัตครองราชย์สมบัติในเมืองพาราณสี พระโพธิสัตว์คืออาจารย์ทิศาปาโมกข์ในเมืองตักกสิลาเปิดสำนักสอนศาสตร์และศิลป์ ในด้านต่างๆ ซึ่งผู้คนที่เข้ามาเรียน ส่วนใหญ่นั้นเป็นราชกุมารและพราหมณ์กุมาร ซึ่งพระโอรสของพระเจ้าพรหมทัต ได้เข้าเรียนสำนักทิศาปาโมกข์เช่นกัน เมื่อเวลาผ่านไปพระโอรสก็จบการศึกษา แต่ก่อนที่จะเดินทางกลับบ้านเมือง ของตน พระองค์ได้เข้าไปหาพระโพธิสัตว์ เพื่อกราบลาอาจารย์ของตนที่คอยถ่ายทอดความรู้เเละ สั่งสอนศาสตร์ต่างๆ แก่พระองค์
    "ท่านอาจารย์อยู่ไหมครับ" "เข้ามาเลย" "อ้าวพระองค์ยังไม่เดินทางกลับเมืองอีกหรือ" "ยังครับน่าจะะออกเดินทางพรุ่งนี้เช้า เลยคิดว่าก่อนที่จะเดินทางจะของกราบลาท่านอาจารย์ก่อน" พระโพธิสัตว์นิ่งไปชั่วครู่ ก่อนที่จะเอ่ยขึ้น "กระหม่อมมีของขวัญชิ้นหนึ่งที่อยากให้พระองค์" "อะไรหรือครับ" แววตาของพระโอรสเปล่งประกาย "มีของดีอะไรให้ผมหรือครับ" "ไม่ใช่แบบนั้น ตัวกระหม่อมไม่ได้มีอิทธิฤทธิ์อะไร" "สิ่งที่จะให้พระองค์คือ วิชาทำนายอวัยวะ คือการดูลักษณะรูปร่างของพระองค์ แล้วทำนายอนาคต เป็นศาสตร์แขนงหนึ่งของการดูดวง”
    พระองค์ต้องนั่งนิ่งๆ ให้กระหม่อมพิจารณา อวัยวะบนใบหน้า ตาหูจมูกปากก่อน อาจจะดูยุ่งยากนิดหน่อย เเต่ศาสตร์นี้เป็นการทำนายที่มีความแม่นยำมาก เดี๋ยวกระหม่อมจะเริ่มดูตั้งแต่ใบหน้าแล้ว เขียนลงบนกระดานแผ่นนี้ก่อน" เมื่อเวลาผ่านไปสักครู่ "เสร็จแล้วขอรับ" "คำทำนายเป็นเช่นไรในอนาคตข้าจะได้เป็นมหาราชอันยิ่งใหญ่ไหม" พระโพธิสัตว์นิ่งเงียบ
    "ไม่ต้องทำนายกระหม่อมก็รู้ว่าพระองค์นั้นเป็นกษัตริย์ที่ดีในอนาคตแน่นอน แต่มีเรื่องหนึ่งที่อยากให้พระโอรสท่องให้ขึ้นใจ คือ คาถาทั้งสี่นี้พระองค์จะใช้ได้ก็ต่อเมื่อขึ้นเป็นกษัตริย์และพระโอรสมีอายุ ๑๖ ปี อย่าลืมนะขอครับ เพื่อความปลอดภัยต่อพระองค์เอง” พระราชกุมารรับปาก ก่อนไหว้อาจารย์แล้วออกเดินทาง
    พระศาสดาทรงประชุมชาดกว่า
    อาจารย์ทิศาปาโมกข์ในเมืองตักกสิลาในครั้งนั้น ได้เป็น พระพุทธเจ้า
    ในครั้งนี้ผู้เล่าขอขอบคุณแหล่งที่มาของข้อมูลทั้งหลายที่ได้นำมาเล่าสู่กันฟัง
    และรวมถึงการติดตามชาดก 500 ชาติ ในคราวต่อไป...ขอขอบพระคุณค่ะ

Komentáře •