ยิ่งเรียนสูง! ยิ่งหนาว! ทำไมแรงงานจบใหม่ถึงไม่มีงานทำ? | In Focus
Vložit
- čas přidán 24. 08. 2024
- สำนักงานสถิติแห่งชาติ ไตรมาส 1 ปี 2566 พบว่าจำนวนคนว่างงานทุก ๆ 100 คน จะเป็นคนที่จบอุดมศึกษา 46 คน มัธยมปลาย 38 คน ประถมศึกษา 10 คน และต่ำกว่าประถมศึกษา 6 คน สะท้อนว่าตลาดแรงงานกำลังเผชิญปัญหาความไม่สอดคล้องกันระหว่างกำลังแรงงานที่ผลิตออกมา แล้วอะไรคือสาเหตุของการ “ยิ่งเรียนสูง ยิ่งหนาว” ?
#InFocus #beartaiBRIEF #แรงงาน
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
ติดตามข่าวสารได้ที่
Facebook : / beartaibrief
TikTok : www.tiktok.com...
Twitter : / beartaibrief
Blockdit : www.blockdit.c...
Website : www.beartai.co...
ปัญหาจริงๆคือ
นายทุนต้องการแรงงานที่เก่งมากรับแรงกดดันได้ทุกอย่าง ในราคาที่ถูกมากๆ
แต่ค่าแรงเสือกไม่สอดคล้องกับค่าครองชีพที่พุ่งสูงชิปหาย
ถ้าจะแก้ปัญหาควรแก้ที่รัฐบาลหยุดเอื้อผลประโยชน์ให้นายทุนก่อนเลยครับ
ไอ้เรื่องเรียนสูงแล้วตกงานมันปัญหาปลายเหตุครับ คนที่เรียนสูงได้แสดงว่าส่วนมากบ้านเค้ามีเงินครับ
ได้ยินคำว่าผลิตนักศึกษาเพื่อเป็นแรงงานป้อนให้อุตสาหกรรมมานานแล้ว โคตรขัดใจ
งงว่าทำไมถึงไม่ผลิตนักศึกษาให้เป็นเจ้าของธุรกิจเอง พัฒนาธุรกิจในประเทศเอง เป็นมากกว่าแรงงาน ??
การศึกษาประเทศไทยตั้งเป้าแต่จะเป็นแรงงานทาศของโลก เป้าหมายโคตรตลก อีก 1000 ปี ก็คงจะเป้าหมายเดิม
เห็นด้วยเลยค่ะ
เห็นด้วยมากๆค่ะ สอนแต่ให้เป็นลูกจ้าง แต่ไม่สอนให้เป็นเจ้าของธุรกิจ
โทษนายทุนแต่มหาวิทยาลัยที่ผลิตแรงงานพวกที่นี้ออกมาก็คือ
มหาวิทยาลัยของรัฐเองนี้แหละที่ผูกขาดหลักสูตร ซ้ำๆซากๆ
ที่ผลิตออกมา ไม่ตรงกับความต้องการของตลาดไม่มีทางเลือกอื่นๆ ให้คน
ตกร่องนายทุนอีกล่ะ
แล้วประเทศมีแต่ผู้ประกอบการ ไม่มีคนทำงาน จะอยู่ได้ไงฟะ?
อาจารย์เป็นลูกจ้าง เลยมีดรอบความคิดแบบนี้ครับ แต่ดีที่ท่สนกล้าออกมาแสดงความคิดเห็น
เป็นปัญหาระดับชาติมานานแล้ว นักเรียนเลือกเรียนไม่ตรงกับสายที่ตลาดแรงงานต้องการ มหาวิทยาลัยเน้นเปิดสาขาสังคมที่ต้นทุนการผลิตบัณฑิตถูก นโยบายการศึกษาที่เน้นแต่จะปฎิรูปให้เด็กเก่ง แต่ไม่เคยมองภาพรวมตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ตลาดแรงงานต้องการคนที่มีทักษะตรงสายงานจำนวนมาก ไม่ใช่ต้องการคนเก่งแต่ทำงานไม่ได้
ช่วงประถม มีใครออกแบบทดสอบความถนัดในตัวมั้ยล่ะ แบบตอบคำถามชุดนึงแล้วรู้ว่าตัวเองต้องการจะเป็นอะไร อยากจะทำอะไรในตอนโต ก็เลือกแล้วก็ต้องไปต่อใช่ไม่ใช่ก็ต้องดันจบ
ใช่ครับ อย่างวิชาช่างกลต้องใช้เครื่องจักรหลายสิบล้าน รัฐ เอกชนไม่กล้าลงทุน ทั้งที่จำเป็นต่อตลาดแรงงานที่สุด
เวรกรรม ยังมีระบบความคิดที่จะผลิตแรงงานให้ตรงความต้องการนายทุนอีกหรอ
@@user-ns8on9sq8iมีครับ แต่อยู่ในประเทศพัฒนาแล้ว
@@puddingman2331 ถ้าสายอาชีพก็แน่นอนอยู่แล้ว แต่มหาวิทยาลัยจริง ๆ แล้วเป็นวิชาการบริสุทธิ เอาไว้ให้คนที่ทำงานแล้วมาเรียนมากกว่า
เรียนสูงมาแค่ไหนไม่ใช่ประเด็น
ทำงานให้เป็นคือประเด็นที่สำคัญ
ใช้ๆ เดียวนี้เรียนเพื่อสอบผ่าน
เรียนสูงๆนะลูก โตขึ้นจะได้เป็นเจ้าคน นายคน คำสอนที่สังคมด้อยพัฒนา สั่งสอนกันมา 😂😂😂
อันนี้จริงครับ การทำงานมันไม่ใช่แค่กาข้อสอบในกระดาษ
@@pt..5130มันอยู่ที่มุมมองในแต่ละยุคสมัย จะว่าด้อยพัฒนาก็ไม่ใช่ สภาพการเมืองสังคมครอบครัว ณ เวลานั้น จะมีส่วนให้แนวคิดที่แตกต่าง แะลแนวที่คุณยกมาส่วนใหญ่คือสังคม ต่างจังหวัด คนรุ่นเก่า พอมาอีกรุ่นนึงก็คิดต่างออกไป อีกหน่อยเด็ดในอนาคตมันก็คิดพูดกันแหละว่าคนรุ่นเราแนวคิดด้อยพัฒนา
@@pt..5130แต่สังคมประเทศพัฒนา ระดับการศึกษาของพลเมืองเขาก็สูงถึงค่อนข้างสูง
ผู้ประกอบการไทยต้องการความคุ้มค่าในการใช้งานแรงงาน ค่าแรงถูก ได้งานตามที่ตัวเองต้องการ แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่อยากเสียทรัพย์ยากรในการเพิ่มทักษะให้แรงงาน ผมเห็นพูดกันแต่แรงงานต้องปรับตัวแบบนั้นแบบนี้คุณไม่พูดถึงผู้ประกอบการบ้างหล่ะ ทำงาน 10 บริษัทต่อให้ตำแหน่งเดียวกันมันอาจจะมีบางทักษะที่ใช้ร่วมกันได้ แต่แรงงานทุกคนต้องไปปรับตัวให้เข้ากับการทำงานแต่ละที่อยู่ดี เพราะฉนั้นมันก็แค่ข้ออ้างของผู้ประกอบการเพื่อต้นทุนที่ต่ำ และพยายามดึงประทศให้จมอยู่กับอุตสหกรรมใน Section เดิมๆ
การศึกษาอย่างเดียวไม่พอค่ะ คือ ต้องพัฒนาขวนขวายหาความรู้นอกห้องเรียนไปด้วยพร้อมๆกัน เน้นการปฏิบัติใช้งานจริงๆ แก้ปัญหาเฉพาะหน้า คนที่เรียนจบสูงมากแต่ไม่ตรงสายงาน ประสบการณ์ทำงานไม่มี หางานยากกว่าที่คนที่เรียนจบทั่วไปค่ะ ขึ้นอยู่กับสายงาน ช่องทาง และอีคิวการเอาตัวรอดในสังคมด้วยค่ะ เป็นเรื่องปกติมากค่ะ ที่เรียนจบมาแล้วทำงานไม่ตรงสายงาน โดยที่ไม่รู้ว่า ชอบทำงานอะไรหรือถูกจริตกับงานแบบไหนจริงๆ แต่เรียนให้จบไปก่อน
บ้างก็เรียนตามที่ตัวเองชอบ (เพราะมันง่ายสำหรับเขา) หลายคนอยากเรียนสายศิลป์ แต่ก็ต้องยอมรับจริง ๆ ว่า เป็นสิ่งที่สังคมไม่ได้ต้องการมากขนาดนั้น (คนจบสายศิลป์ แต่ไปศึกษา ไปทำงานเกี่ยวกับวิทย์คณิตก็มี) คือคุณควรเรียนเพื่อใช้ ไม่ใช่เพื่อเรียนให้ได้ใบปริญญาใบเดียว
การศึกษาสิงคโปร์ ถ้าเรียนจบ ม4 ได้วุฒิ O level เค้าจะแยกเป็นสองสายใหญ่ๆคือ ถ้ายังไม่ชัดเจนว่าชอบเรียนหรือทำงานอะไร จะเรียนต่อสองปี เรียก Junior college ได้วุฒิ A level และถึงจะเข้ามหาลัยต่อ คนที่จะเรียนต่อ JC ต้องเรียนเก่งเท่านั้น ส่วนคนที่รู้ว่าตัวเองชอบอะไรหรืออยากเรียนอะไร พอจบ ม4 จะเข้าเรียน Polytechnic 3 ปี จบแล้วทำงานได้เลยหรือเรียนมหาลัยต่อก็ได้ Poly ของเค้ากว้างมาก และ นร ส่วนใหญ่ของเค้ามากกว่า 70% เรียน Poly ซึ่งหลายคนก็สามารถเรียน JC ได้ แต่เค้าเลือกเรียนสายที่ตัวเองสนใจมากกว่า นี่ยังไม่นับเรื่องที่เค้าใช้ภาษาอังกฤษได้ดีนะ
😂เรียน ปตรี ได้15,000
จบปวช.ปวส. ได้12,000 นี้แหละคนถึงเรียนสูง หรือไม่จริง 😅
@@hotifahayu9640ปวช. ปวส. มีโอกาสได้ทำงานเร็วกว่า
โดยเฉพาะสายราชการ รับสมัครสายอาชีพ มากกว่าสาย ป.ตรี
ป.ตรี ค่อยไปเรียนปรับวุฒิทีหลัง
เด็กจบ ปวส. บางคนมีทักษะในการทำงาน มากกว่า เด็กป ตรี จริงๆ แต่สังคมไม่ยอมรับ ยอมรับในสายสามัญมากกว่า ทั้งนี้ควรปรับหลักสูตรให้มีการฝึกการทำงาน มากกว่า 1 ปี ในสถาบันอุดมศึกษามากขึ้น ยิ่งในปัจจบันที่อัตราการเกิดของประชากรน้อยลงแล้ว ก็ควรฝึกแรงงานที่มีทักษะสูงให้มากขึ้นด้วย
นี่แหละเหตุผลที่ประเทศพัฒนาช้า ไม่ดูความสามารถในการทำงาน แต่ดูวุฒิการศึกษา เอาจริงผมไม่จบปริญญาตรี รุ่นพี่ผมจบ ปตรี
แต่ความสามารถ ไม่เท่าผม ทั้ง ทฤษฏี และ ปฏิบัติ
พ่อเราเป็นคนนึงที่ทำงานสายวิศวะ เขายังบอกเลยว่าคนจบปวช ปวสมีความสามารถ แต่ด้วยสังคมไม่ยอมรับทำให้ต้องเรียนวิศวะในมหาลัยถึงจะออกมาทำงานได้รับการยอมรับและมีฐานเงินที่ดีขึ้นมาหน่อย
เรา *"จบ ป.ตรี ป.โท วิศวกรรม"*
เรามีลูกน้อง ปวส ปวช. 40 คน
เรา *"ต้องสอนงานใหม่ ให้เด็ก ปวส. ปวช. เหมือนเดิม"* เด็กจบใหม่ๆ ต้องสอนใหม่ทุกคนนั่นแหล่ะ
จิง น้องผม จบ วิศวะอิเล็กโทรนิก ลาดกระบัง บัดกรี ยังไม่เคยเห็นมันทำ ไม่เคยซื้อหัวแร้งด้วยซ้ำ มัลติมิเตอร์ด้วย
@@gitstudy6919ขี้โม้จริงจะบอกทฤษฏีเหนือกว่าคนจบสูงกว่าแค่รี้ดูก็รู้ละว่าขี้โม้มิติที่8ละ5555555
ความรู้ที่เป็นนามธรรมไม่สามารถประกอบอาชีพอิสระได้มากนัก ต่างกับความรู้ที่เป็นช่างเทคนิค ช่างกลที่หางานง่าย และสามารถทำเป็นอาชีพอิสระได้😀
จีนก้อน่าจะเจอปัญหาแนวๆนี้
ปลอบใจตัวเองต่อไป
จริงๆครับ ประเทศ อุตสาหกรรมส่วนใหญ่จบสายอาชีพโปลีเทคนิคเยอะ ทำงานตรงสายงานเยอะเช่นช่างไฟฟ้า บ้านโรงงานโรงแรมทุกที่ต้องมีช่าง ไฟฟ้าประจำ ในอนาคตก็ยังต้องการ ช่วงหนึ่งไทยขาดภาคโลจิสติกส์ แต่ตอนนี้เหมือนจะถึงจุดอิ่มตัวของโลจิสติกส์
จริงค่ะ โคตรชอบ มานั่งจำๆๆๆ โตมาใช้เครื่องคิดเลข เรียน ตปท เรียนแบบที่อาจารย์พูดทุกอย่างเลยค่ะ เอาเอกสารเข้าห้องสอบได้ คะแนนได้จากความเข้าใจของคุณล้วนๆๆ ว่าจริงๆๆทำได้ไหม หรือแค่ลอกๆ
ทำงานจริง เปิดเอกสารได้
ดูเวบาลอกการบ้าน คนลอกได้คะแนนดีกว่า คนให้ลอกอีก
จริง เรียนเมืองนอน เน้นค้นคว้า ตอนสอบหนังสือเข้าได้ ชอบมาก ตอนทำ Assessment ก็ถามเพื่อนได้ แต่ไม่ใช่ก๊อบกัน ต้องทำเอง เขียนเอง
@@SoiUtadao-rl9jbงานบางประเภท เปิดเอกสารในเวลาทำงานไม่ได้ก็มี เช่น แพทย์ที่กำลังผ่าตัด หรือทนายความที่กำลังว่าความในศาล
สมัยผม( ๖๐ ปีมาแล้ว) ท่องจำอย่างเดียว คุณจำสูตรไม่ได้กฏเกนฑ์ต่างๆ ทฤษฎีบทต่างๆมราใช้ในการพิสูจน์ทางเรขาคญิตไม่แม่น สูตรเคมี ตรางพรโดิคทีเกี่ยวกับธาตุต่างๆ ทำวิชาเลขในใจไม่ได้ ทอนตังไม่ได้แค่นี้ก็หมดสิทธิ์เรียนต่อสายสามัญได้แล้ว ผมเองความจำสับสนเพราะโดนยัดสิ่งเหล่านี้เข้าสมองเรียนไม่ประสพความสำเร็จที่เมืองไทย ต้องออกมาเรียนใหม่ที่เอมริกาโดยพ่อแม่ต้องจ่ายเงินเองทั้งหมด จึงสามารถเรียนสำเร็จได้
ถัาคุณคิดว่าจะทำงาน
คุณต้องคิดให้ได้ก่อนงานอะไร
และต้องใช้ความรู้เท่าใด แล้วคุณเรียน
เฉพาะความรู้เท่านั้นก็พอ..ไม่จำเป็นต้องเรียนสูงกว่างานที่ทำ แต่ถ้าคุณคิดจะเป็นหัวหน้า และหรือจะพัฒนางานตัวเองให้มากกว่านั้น ยิ่งต้องเรียนเพิ่มและ คุณต้องมีความรู้มากกว่านั้นจะพูดอะไร..มันต้องคิดให้รอบด้าน... อย่ามองด้านเดียว
แปลกใจทำใมมหาลัยหลายแห่ง เปิดสอนสาขาที่ไม่จำเป็น และรับนักศึกษาเขาเรียนมากกกก จนล้นตลาด เช่น สาขารัฐศาสตร์ สังคมศึกษา
ยุบราชภัฏ จบปัญหาแน่นอน
@@puddingman2331 ราชภัฎก้อเปิดสอนวิชาทางวิชาชีพ ทั้งที่รากฐานเดิม ความถนัดเดิมของราชภัฎคือ สายสังคม ต้องให้ราชภัฎยุบสายวิชาชีพ และเน้นส่งเสริมให้คนที่ทำงานแล้วมาเรียนเสริมเอาปริญญาตรีสายสังคม เป็น ป.ตรี ใบที่สอง
คนที่อยากเรียนสายอาชีพต้องเข้าเรียนในสถานศึกษาสายอาชีพเช่นวิทยาลัยอาชีวฯ /เทคนิค/ เกษตร/ การอาชีพ/ ม.ราชมงคลต่างๆ /ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี พระนครเหนือ ลาดกระบัง ปัจจุบันเปืดสอนสาขาวิชามากมายในระดับต่างๆเริ่มตั้งแต่ปวช. ปวส. ป.ตรี ป.โท ป.เอก
@@wanleewangtaetham8733 ม.พวกนี้รากฐานเดิมคือทางวิชาชีพ วิชาเฉพาะ ถ้าจะให้ดี ก้อไม่ควรเปิดสายทางสังคม ให้มุ่งเน้นผลิตคนในทางวิชาชีพต่อไป จนกลายเป็นจุดขายของ ม.
ส่วนตัวเราเรียนมหาลัยค่ะ ตอนแรกเคยคิดอยากจะเข้ามนุษย์ศาสตร์ เตรียมตัวทุกอย่างหมดแล้ว แต่ปรากฏว่าพอเข้ามหาลัยจริงๆเราดันไปเรียนอย่างอื่นแทน ตอนแรกก็แอบคิดว่าเราคิดผิดมั้ยที่มาเรียนอย่างอื่น แต่พอได้มีโอกาสลงวิชาของมนุษย์ศาสตร์ เเล้วลองไปเรียนดู เรารู้สึกเลยว่าเนื้อหาการเรียนมันเน้นเรียนกว้างๆ เน้นท่องจำแล้วสอบไม่ต่างจากตอนมัธยม มันแทบจะไม่ได้เรียนทักษะเฉพาะแบบจริงจังเลย รู้สึกคิดถูกมากๆที่มาเรียนอย่างอื่นแทน
งานมี แต่ไม่คุ้มค่าเล่าเรียน ไม่ตรงสาย ไม่ทำก็แค่นั้น พูดง่ายๆ เรียนสูงหางานยาก...ที่ตรงสายและคุ้มค่าเล่าเรียน 🤭🤭🤭
เพราะค่าแรงถูกเกินไป เงินเดือนภาคอุตสาหกรรมและบริการเงินเดือนน้อย แล้วใครอยากจะเรียนละครับ ทำให้เหมือนประเทศที่เจริญแล้วสิครับเงินภาคแรงงาน skilled labor กับ unskilled labor มีเงินเดือนไม่ต่างกันมาก ค่าแรง 3 ร้อยต้นมา 10 กว่าปี เงินเดือนขั้นต่ำก็ยึด 15,000 บาทมา 10 กว่าปีแล้ว ได้ ไปล้างจานอยู่ Australia ชมละ 540 บาท ดีกว่าครับ
คนไทยเกิดน้อยเพราะเงินไม่พอจะเลี้ยงลูกให้อยู่ในมาตรฐานที่ตนเองคิดว่าดี
คนรุ่นใหม่ภาษาอังกฤษเก่งสมัยก่อนเยอะ สมองไหลแน่ๆครับ
คำถามยอดฮิตของฝ่ายบุคคล เราต้องการคนที่มีประสบการทำงานค่ะ. เขาจบใหม่สิเอาประสบการมาเเต่ไสน้อ ขั่นบ่ให้โอกาสเขาได้ทำงาน
อยากให้แบบ ไม่ต้องจบสูงไรทั้งนั้น......... เอาแบบ ไปเรียน ไปฝึกงาน ไปวิจัย ที่โรงงาน + บริษัทนั้นๆๆ เลย ....... เมื่อผ่านไปซักพักนึง ก็บรรจุเลยยย
เห็นด้วย แบบ จบ ม.6ไปทำงานได้เลย
ม.ปลายควรเป็นโรงเรียนเตรียมต่างๆ เตรียมทหาร เตรียมแพทย์ เตรียมวิศวะ เทคโน เทคนิค ก็ให้โคกับโรงงานโดยตรงไปเลย
ที่เรียนๆเปิด เพราะ เวลาเรียนไปแล้ว มันจะกระจายได้หลายๆอาชีพครับเผื่อ อาชีพอื่นๆด้วย กันหลายๆปัจจัย
ตลกอ่ะ...... งานทางการแพทย์ วิศวะกรรม งานวิจัยและพัฒนาทางวิทยาศาสตร์ ทำแบบที่คุณบอกไม่ได้หรอก ต้องใช้ความรู้พื้นฐานทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์สูงมาก
พผูดง่ายๆ อยากเป็นอะ หมอ วิศวะ นักวิทย์ โดยไม่ต้องเรียนหนัก
งั้นผมถามคุณคำหนึ่ง....... ถ้าคุณป่วยหนัก.... คุณจะไปรักษากับหมอที่จบสั่วๆไหมครับ.........
ถ้าคุณจะซื้อรถ หรือ ขึ้นเครื่องบิน ที่สร้างโดยคนที่จบมาแบบสั่วๆ คุณจะซื้อไหมครับ กล้าจะขึ้นเครื่องไหมครับ
ของดีๆน่ะต้องดิ้นรนครับ
@@sathitwongcharit-yo5bl เดี๋ยวนี้เค้าเปิดโอกาสให้คนที่จบศิลป์ทั่วไปสามารถสอบแพทย์ได้แล้วครับ ไม่จำเป็นต้องอยู่ วิทย์-คณิต มันประยุทธ์กันแล้วอีกหน่อยเครื่องจักรai ก็จะผ่าตัดแทนหมอ ก็ต้องใช้พวกวิศวะ พวกเรียนเขียนโปรแกรม ถ้าเรียนมาทางเดียวจะตกงานง่ายมาก
มีแต่คนอยากจะเรียนต่อไม่คิดหาเงิน เอาเวลาที่ศึกษาในห้องเรียนแล้วไม่ได้ใช้มาศึกษาคริปโตแบบผมบวกมา 2-3 ล้าน ดีกว่าไปเรียนเยอะ
มันอยู่ที่ว่าคุณจบอะไรมา มหาวิทยาลัยที่จบมีหลักสูตรดีแค่ไหน เช่นโลกปัจจุบันการเรียนไอที แน่นอนหางานง่าย ถ้าจบมาแล้ว coding หรือเขียนโปรแกรมเป็นอันนี้แน่นอน มีตลาดรองรับแน่ๆ วิชาแนะแนวสำคัญมากๆสำหรับเด็กที่จะเข้ามหาวิทยาลัย บางคนไม่สนว่าจะเรียนอะไรขอให้ได้มีที่เรียน อันนี้เป็นความคิดที่ผิดมากๆ
บางคนไม่มีโอกาสแต่มีประสบการณ์ก็เอามาทำงานได้ขอไห้มุ่งมั่นทำจริง และเป็นไปได้จริง
เพราะไม่มีใครสอนให้เด็กสมัยหาตัวเองให้เจอ สอนแต่ให้เป็นเป็ดที่ต้องเก่งรอบด้าน
ต้องสอนด้วยหราเรื่องแค่หาตัวเอง สมมตบางคนเก่งกีต้า แต่มหาลัยไม่มีสอน เลยไม่ได้เรียน ต้องไปเรียนบัญชีอันที่ไม่ชอบ อันนี้จะโทษการศึกษาไหม ไม่อยากเรียนเขาก็ไม่บังคับ ตัดสินใจกันเองทั้งนั้น มีใครไปเอาปืนจ่อหัวให้ไปเรียนไหมก็เปล่า
@@user-pn1wi3hg7m เก่งกีตาร์สามารถไปต่อสายดนตรีได้ ที่เด็กไทยไม่นิยมไปต่อกันเพราะประเทศไม่เคยสนับสนุนด้านนี้เลยไม่ใช่หรอ เลยทำให้ต้องเลือกสิ่งที่เซฟกับตัวเองมากที่สุด ปัญหาเชิงโครงสร้างที่ต้องช่วยกันแก้
@@krtty9392จริง บ.ไทยหลายที่ชอบให้ทำงานจับฉ่าย(เพื่อใช้งานให้คุ้มเงินเดือน) ขณะที่ตปท.ให้ทำงานหน้าที่ของใครของมัน
จบไรเขาก็กดค่าแรงหมดนั้นแหละ ขนาด จบ ดร. ยังให้แค่สามหมื่นดูได้ตามตำแหน่งมหาลัยและสถาบันวิจัยอยากได้เพิ่มก็ต้องไปขอทุนนู้นนี่นั้นเปลืองเวลาชีวิตที่จะต้องมานั่งทำวิจัยเพิ่ม ตามบริษัทหาคนไม่ได้เยอะแยะเด็กจบใหม่ไม่เอาจะเอาแต่คนมีประสบการณ์ส่วนคนมีประสบการณ์ไม่มีใครมาทำเงินเดือนเท่าหางอึง คนมีประสบการณ์เขาก็แสวงหาโอกาสในชีวิต ส่วน ปวช ปวส อันนี้สงสารจริง เงินเดือนเท่า ม.6
ก็ค่าแรงไทย เขาจำกัดไม่เกิน15,000
ว่าง่ายๆเจาตั้งไว้ ไม่เกิน500 ต่อวัน คนที่ได้เกินก็ จะต้องมีความสามารถอื่นเพิ่ม เช่นภาษาที่2,3 เงินเดือนถึงจะได้เกิน25,000-40,000 ระบบไทยเป็นแบบนี้
เงินเดือนเมืองไทยกับเมืองนอกเปรียบเทียบกันไม่ได้ ขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจของแต่ละประเทศ เช่นเงินเดิอนป.ตรีในไทย พม่า ลาว สิงคโปร์ สหรัฐ อังกฤษญี่ปุ่น ย่อมแตกต่างกัน
อ่านหลายคอมเมนต์แล้วรู้สึกตลกยังไง ไม่รู้😅 ตกลงเรียนอะไรมากันบ้างครับเนี่ยเก่งกันเหลือเกิน คนจบป.ตรีมันก็ต้องฝึกงานกับสถานประกอบการเหมือนกัน มันถึงจะจบ เห็นคอมเม็นบางคนนี่รู้จริงหรือเปล่าก็ไม่รู้
เราจบวิดวะ
เด็กจบมาสมัยนี้ ทำยูทูป กับ ติ๊กตอคเท่านั้นครับ ไม่ค่อยจะทำงานออฟฟิตแล้ว รองลงมาค้าขายออนไลน์ แทน หรือง่ายๆ เป็นเจ้านายตัวเอง ร้อยละ 40%
ไม่จริงอะทำทุกคนทั่งประเทศคงเป็นไปไม่ได้ เอ่แค่ส่วนมากยังเป็นไปไม่ได้เลยอย่าคิดไปเอง
จริงครับ ผมจบปโท มาไม่เคยได้งานตรงสายที่เรียน แต่วิชาเศรษฐศาสตร์ก็ใช้ได้ดีในการดำรงชีวิต แต่วิชาบริหารเหมือนจะเสียเวลาเรียนไปเปล่าๆ
คุณสมัครงาน ไม่ตรงสายเอง
@@SoiUtadao-rl9jbสมัครแต่เขาไม่รับโอเคร
เพราะมันไม่specific มั้ยคะหนูเป็นเด็กมอปลาย ที่อยากต่อบริหารพอดีแต่ปรึกษาผู้ใหญ่เค้าบอกว่ามันไม่จำเพาะเจาะจงไม่ใช่วิชาชีพใครๆก็เป็นผู้บริหารได้ไม่จำเป็นต้องจบคณะนี้
@@clairekiskodchamon2448 บริหารมันคือการบูรณการความรู้ของหลายๆศาสตร์เข้ามาโดยการเรียนความรู้เบื้องต้นของสายอื่นๆเช่น บัญชี การเงิน เศรษฐศาสตร์ กฏหมาย มาใช้รวมๆกันไม่น่าเรียนหรอกครับ
@@clairekiskodchamon2448 คือมันต้องแล้วแต่มุมมองคุณด้วยอะนะ ผมจบบริหารมา แต่ชอบเรียนโปรแกรม สุดท้ายก็ ลองเขียน Program เอง จนมาเป็น Prorammer ได้ อยู่กับ Technical มาตลอด พอเป็น Manager มันต้องใช้การบริหารเนี่ยแหละ โดยเฉพาะพวก การเงิน Finance จะจำเป็นสุดๆ ระดับผู้บริหารคุยกันแต่ตัวเลข จนสุดท้ายเปิดบริษัทเองก็คือใช้เต็มๆ บอกได้เลยว่าเรียนก็ดีครับ แต่ส่วนตัวมองว่า บริหารมันเรียนทีหลังคุ้มกว่า การบริหารจริงๆมันไม่ตามทฤษฎีป๊ะๆหรอก Abaptation เยอะ แต่พอเรียนแล้วมันจะมีหลัก มีกรอบให้จับ แต่บางทีก็ต้องนอกกรอบบ้าง แล้วแต่เลือกใช้
ตอนนี้ผมอายุกำลังจะ 30 แอบเสียดายช่วงมัธยมมาก ส่วนตัวผมคิดว่าระบบการศึกษาควรจะมีการแนะนำ หรือทำให้เด็กเห็นภาพมากขึ้น ผมมั่นใจว่าเกินครึ่งเด็กเรียนต่อเพราะเรียนไปงั้นแหละ ถามว่าต่อไปจะเป็นอะไรก็ไม่รู้ ผมอยากให้ระบบการศึกษามีการแนะนำอย่างมีคุณภาพ เช่น คนนี้อยากทำค้าขาย ครูควรแนะนำว่าค้าขายต้องมีทักษะอะไรบ้าง อยากทำงานสายโรงงาน ก็ควรจะอธิบายว่าโรงงานมีตำแหน่งอะไรบ้าง ต้องมีความรู้ด้านไหนวุฒิอะไรเราถึงได้ทำงานในตำแหน่งนั้น ผมไม่รู้นะว่ารุ่นนี้เป็นไงแต่รุ่นผมครูสนใจแค่ ม ใหญ่ๆ กับคณะดังๆ ซึ่งเด็กรุ่นผมก็ตั้งใจจะสอบให้ติดทั้งๆที่ไม่รู้เลยว่าจบไปจะทำไร ขอแค่ให้ติด (ซึ่งผมก็หนึ่งในนั้น)
รุ่นนี้ก็เป็นเหมือนรุ่นของพี่เเหละเรียนต่อไปงั้นเเหละ
โลกก่อเปนแบบนี้แหละ สอนให้หาเงิน มากๆแล้วจะมีความสุข โลกของวัตถุนิยม อยากได้อยากมี อยากรวย อยากสบาย
1เพราะงานไม่มี
2เลือกงาน
3จบมาไม่มีคุณภาพ ได้แค่ใบปริญญา แต่ไม่มีความรู้ความสมารถอะไร
4เรียนๆท่องๆ ทำงานไม่เป็น ขาดหลักคิด เรียนมาเอาใบ ไม่ได้เรียนมาเพื่อให้ทำงานได้
ตปท หลายงานไม่สนใบปริญญา โยนงานให้ ทำได้ไหม เอางานไป
เชื่อป่ะ อาจารย์ที่สอนบางสาขา อาจารย์จบไม่ตรงสายไม่เคยมีประสบการณ์แต่สอบแล้วมาสอน นศ ไปงั้นๆ
@@Immoonpink เหมือนอาจารยเพ็ญศรีเลยนะ😀
@@suphatsontummanee1894 เพราะหลานไม่อยากให้ยุ่งเรื่องส่วนตัว
สำหรับเรางานป.ตรีหายากพอสมควร อัตราจ้างงานก็น้อยแถมหลายแห่งไม่ค่อยรับเด็กจบใหม่ งานบางที่ก็ไม่ได้ต้องการแรงงานภาคป.ตรีเพราะจ้างมาเกินความจำเป็น เนื้องานเขามีสูตรสำเร็จไว้แล้วให้ม.3เข้ามาทำก็ได้ เรื่องของหลักสูตรสาขาวิชาที่เรียนจบมาก็มีผลต่อการได้งาน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับผู้ประกอบการด้วย ถ้าเขาไม่รับก็คือไม่รับ
ที่จีนเเดง ก้อน่าจะมาแนวๆนี้ ปัญหาเริ่มเกิดแนวๆนี้
เขารับหมดแหละ ปตรีก็รับ งานเยอะแยะ ปัญหาคือ ทำไหวไหม ถ้าจะนั่งในห้องแอร์อย่างเดียว มันไม่มีหรอก
เห็นน้องแถวบ้านจบปริญาตรีปุ๊บ หางานทำไม่ได้ เพราะไม่มีประสบการณ์ เลยต่อโทอีก2ปี จบโทถึงเริ่มหางาน ผลเป็นไง หาไม่ได้สิ เงินเดือนปอตรีก็น้อยเกิน สรุปตอนนี้ยังเตะฝุ่นหางานอยู่
สาขาอะไร
น่าสงสาร
ไม่มีประสบการณ์ ยิ่งยากกว่าเดิม จบโทแบบไม่เคยทำงาน
เยี่ยมเลยครับ คิดถึงเมื่อ25ปีก่อน ตอนเปลี่ยนสายเรียนต่อเพื่อจะได้งานหลังจบ เพราะครอบครัวจนไม่ได้ร่ำรวย เลือกเรียนนอกกทม.เพราะค่าใช้จ่ายจะถูกกว่าและรับสาขาที่มีทุนผูกพันธ์ จบแล้วต้องทำงานใช้ทุน…แต่เด็กสมัยนี้ไม่ได้คิดว่าจบแล้วเป็นอะไรซะส่วนใหญ่
ความจำยังสำคัญ มากๆ ครับ เพราะเด็กที่สอนแล้วไม่รู้จักจำ มันทำงานผิดตลอด ถึงจะหาข้อมูลได้ แต่อย่างน้อยก็ต้องจำว่าหายังไง และถ้าเคยทำแล้ว ก็ต้องจำได้ว่าทำยังไง แล้วทำไมผมรู้สึกว่ามีแต่ความคิดเห็นทางทฤษฎี ไม่ค่อยตรงกับที่เจอในการทำงานจริงเลย เหมือนเวลาพวก ceo ชอบมายืนพูดแล้วคนนอกมองดูดี แต่คนในคือเดินหนี เพราะรู้ไส้
ระบบกลัวครูสอนพิมพ์ดีดไม่มีงานทำ แต่ไม่ได้สนใจทักษะที่เด็กควรได้รับ เป็นครูก็ต้องรู้จัก reskill บ้าง ไม่ใช่ตั้งหน้าตั้งตาจะสอนแต่พิมพ์ดีดไปจนวันตาย เป็นแม่พิมพ์ของชาติที่มีคุณภาพ ไม่ใช่แม่พิมพ์เก่าๆพังๆรอวันโละทิ้ง
เอาจริง ผมได้ทักษะ พิมพ์งานโดยไม่มอง แป้นพิมพ์ ทั้ง EN TH เพราะครูพิมพ์ดีดเลย ทุกวันนี้ยังรู้สึกขอบคุณท่านเลย เพราะเวลาจะพิมพ์งานอะไรสะดวกมากและงานเสร็จเร็วกว่าคนที่ก้มหน้าจิ้มอีก แต่อย่างว่า อุปกรณ์บ้างโรงเรียนหรือวิทยาลัยไม่ได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่ แทนที่จะเป็นแป้นคอมพิวเตอร์ แต่ได้แค่ แป้นพิมพ์ดีดที่เคาะจนปวดนิ้ว แต่คิดไปก็ดีอย่างมันทำให้เราไม่วอกแวกไปสนอย่างอื่นที่ไม่ใช่การพิมพ์
อาชีพฅรูก็มีการreskill upskill และสอนตามหลักสูตรว่าต้องสอนทักษะหรือเนื้อหาตามหลักสูตรที่กำหนด
โดยก.ศึกษาฯ สมัยนี้ไม่มีสถานศึกษาที่ไหนสอนพิมพ์ดีดแล้ว เค้าสอนการใช้computer กันหมดแล้ว ส่วนวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้สอนจะทันสมัยหรือเพียงพอหรือไม่ ขึ้นอยู่กับงบประมาณที่ได้รับ
ในความเป็นจริง สมัยนี้ไม่มีสาขานี้แล้วนะ
ไม่ใช่ยิ่งเรียนสูงยิ่งตกงาน แต่งานไม่ได้ต้องการระดับการศึดษาที่สูงขนาดนั้น การศึกษาไทยเป็นค่านิยมมากกว่าการนำไปใช้ ต้องแก้แนวคิดก่อนว่า
- ก่อนเรียนมีจุดมุ่งหมายชัดเจนหรือยังว่า...
- เรียนแล้วมีงานรองรับใหม
ตกงาน-ไม่มีงาน-หางานไม่ได้-หางานไม่เป็น มันคนละเนื่องกันเลยครับ
คนจบสูงก็ไปต่างประเทศกันหมดและค่ะ เขาคงไม่อยู่ที่นี้แน่ๆ ที่เป็นประเทศรองรับ เชื่อว่าบางคนสายปวสเขาก็ต้องไปอัพวุฒิตัวเองเช่นกัน ถ้าเก่งมากๆ ก็คงไปเช่นกันค่ะ ไม่มีใครอยากอยู่ทีเดิมหรอกค่ะ
ในชีวิตจริงผลงานมาจากประสบการ์ณ ดีกรีไม่ว่าสูงขนาดไหน ไม่ได้การันตีว่าจะทำงานได้ ยุคนี้ความคุ้มค่าต้องมาก่อน ยิ่งทำงานได้ด้วย มีดีกรีด้วยอันนี้น่าลงทุน แต่ถ้าไม่มีประสบการ์ณเลย เชิญป้ายหน้า
ทุกวันนี้ หาคนขับรถในกรุงเทพฯ ยากกว่าหาวิศวกรฯ ป.ตรี
เร่ง HR หาคนขับรถด่วนๆๆ ฝ่ายบุคคลตอบว่า ถ้าพี่เรียกวิศวกรฯ มาสอบสัมภาษณ์งาน 10 คน มันมาทั้ง 10 คนนั้นแหละ แต่เรียกสัมภาษณ์คนขับรถที่พร้อมทำงาน หายากมากๆ
การเรียนรู้พัฒนาตนเองในทุกด้านในตอนเด็กเพื่อหาความชอบที่จะทำ ผู้ปกครองต้องมีส่วนร่วมสูง พอโตขึ้นการเรียนรู้ที่หลากหลายจะช่วยให้เห็นหนทางเป็นของตัวเองไม่ว่า จะทำงานในองค์กรหรือเป็นเจ้าของกิจการ ก็ทำได้แต่อย่าหยุดพัฒนาตนเองใจความสำคัญมีแค่นี้
แพทย์ก็เรียนคล้ายแบบ 1:1:1:1 แต่ช่วงแรกเราใช้ 3 ปี จากนั้น เรียนไปทำงานไป คุณครูได้ดูตัว 3 ปี ใครperformances ดี จีบไว้เรียนต่อเป็น staff
ป.ตรี จบเเล้วเป็นนักวิชาการส่วนมาก
ทำงานตรงสายเเค่ 10%
ปวช ปวช ทำงานตรงสาย 90%
เอาจิงๆมันอยู่เเต่คนละถ้าเก่งจิง ที่ไหนก็รับ
เเต่บางครั้งไม่รู้จะรับปริญญาณสูงๆมาทำไม ในเมื่อทำงานได้เหมือนกัน บางคนก็ห้วสูงเกินอยู่นานๆก็อยากได้เงินเดือนสูงอยากได้โน้นอยากได้นี่
ตอนสมัยเรายังเด็ก เราก็ไม่รู้ว่า ปวช ปวส ต่างจากสายสามัญยังไง และต่อสายสามัญ อันไหนตะไปต่อยอดอะไร ไม่รู้เลย ตามเพื่อนล้วนๆ สุดท้ายเรียนไม่จบ จนมาทำงาน ถึงกลับไปเรียนใหม่ เพราะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร แต่ว่า เรียนจบมาก็เท่านั้นอ่ะ อายุเกินละ
บอกตามตรงนะครับว่าคนเรียนจบปริญญาหางานได้ยากมาก เพราะมีคนจบปริญญามากมาย ตัวเลือกของผู้ประกอบการเยอะมาก ผมคงไม่มีงานทำถ้าหากว่าตัวเองสอบเข้าไม่ได้ หากจะมีงานทำ ก็ต้องสร้างสมประสบการณ์ให้มากขึ้น
อย่างhr มหาวิทยาลัยนึงจบเกือบร้อย รวมทั้งประเทศเป็นพันคน บริษัทนึงรับแค่ไม่กี่คน คนเยอะกว่างานอีก😢
ถามว่าคนทึ่มีลูกคนไหนอยากส่งลูก ไปทำแรงงานBlue collar ละ เค้าก็พยายามส่งลูกเรียนสูงไว้ก่อน จะได้เป็น White collar ทั้งนั่น ไทยเราต้องปรับเอาทุนนิยมลงมากกว่านี่ แล้วไปดูประเทศเล็กที่โดยรวมดีกว่าประเทศดังๆ เช่น สวิส สวีเดน เดนมาร์ก นอร์เวย์ ฟินแลน ไม่ใช่ตามเมกา ญี่ปุ่น อังกฤษ ยุทธศาสตร์ประเทศนี้ไม่เหมาะจุดแข็งของเรา ประเทศเล็กๆพวกนั้น ไม่เจอปัญหาแรงงาน มีรัฐสวัสดิการ โดยรวม Overall ดีกว่า เมกา อีก
อเมริกาก็ไม่บ้าเรียนแบบบ้านเรานะ จบ high school เขาก็ไปทำงานกันแล้ว ต่อปริญญาแค่ส่วนน้อย ถ้าต่อจะไปทางวิชาชีพ ต้องไปสอบเอาใบสาขาต่างๆที่อยากทำงานนั้นๆ
@@mentosfd ขนาดไม่บ้านะ มหาลัยปริญญาระดับโลกเพียบ เน้นวิทยาศาสตร์ วิศวกรรม มันถึงเต็มไปด้วยนวัตกรรม พวก apple tesla วิศวกรล้วนจบปตรีหมดไม่บ้าได้ไง บ้าเหมือนกัน
@@kso826 ศาสตราจารย์ เคลย์ตัน คริสเตนเซน (Clayton Christensen) อาจารย์และนักการศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ประเทศสหรัฐอเมริกา เจ้าของทฤษฎี disruptive innovation ที่เลื่องชื่อ ได้เขียนบทความลงในหนังสือ The Innovative University กล่าวว่าในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยในอเมริกาปิดตัวไปแล้วกว่า 500 แห่ง จากทั้งหมดกว่า 4,500 แห่ง และคาดการณ์ว่าภายใน 10 ปีข้างหน้า จะมีมหาวิทยาลัยในอเมริกาปิดตัวลงอีกไม่น้อยกว่า 2,000 แห่ง
(ข้อมูลจาก: วิกฤติอุดมศึกษา “มหาวิทยาลัยเจ๊ง” อเมริกาปิดแล้วกว่า 500 แห่ง : Workpoint News Advertisement, 3 มีนาคม 2018)
ทำไมการเรียนมหาวิทยาลัยลดลงอย่างมาก และสิ่งนี้กำลังเกิดกับหลายประเทศ เช่น ญี่ปุ่น, รัสเซีย ฯลฯ
ที่ตกงานกัน มีหลายปัจจัย ไม่สู้งานบ้าง สอบไม่ผ่านบ้าง เอาประสบการณ์ผ่านงานบ้าง เน้นๆผลิตๆปริญญา ทั้งๆที่ประเทศขาดแรงงาน มันก็เฟ้อเป็นธรรมดา
@@kso826มึงยกตัวอย่างมาคนละเรื่อง คนที่เรียนต่อมหาวิทยาลัยต่างชาติ 80%
ยากให้แก้กฎหมายให้ทำงานได้ตั้งแต่อายุ15 เพราะส่วนใหญ่คนไทยเรียนอค่ ม.3 อายุ15ก็สามาีถทำงานได้แล้ว บางคนไม่มีเงินเรียนค่อจะเข้าทำงารโรงงารก็ไม่ได้ โรงงานจาดแรงงานก็ไปเอาต่าวด้าวมาทำอโรงงานเขาชอบพนักงานหนุ่มๆสาวๆ ต่างด้าวที่ทำงานในไทยอายุไม่ถึง18ก็เยอะยังทำงานโรงงานได้เลย
ระบบจัดหางานไม่เค้าถึง ตามชนบท หรือ เมืองเล็กๆต่างอำเภอ หน่วยงานรัฐควรจะมีสำนักงาน ให้บริษัทต่างๆ มา จัดหาแรงงาน ไทยตาม ท้องถิ่น ควรเข้า ถึงตัวเยาวชนที่ต้นทาง ตั้งแต่อยู่ใน รร.ชั้น ม.ต้น และ สำนักงานอำเภอ เป็น เหมาะสำหรับประกาศหาแรงงานคนไทย แต่กอย่างว่า เอาแรงงานต่างด้าวมา เจ้าหน้าที่ก็กินหัวคิว ต่อปีต่อ คน ฆ่าแรงงานไทยชัด ๆเพื่อนบ้านส่งยามาขายให้เยาชนไทยติดยาง้อแงม บวกกับความบันเทิงที่มีจนทุกหนทาง จบ ขี้เกียด เด็ก อาศัยใช้จ่ายสมบัติเก่าของ พ่อแม่ ไม่พอก็ยอมเป็นหนี้เค้า ฝากบอกผ่านช่องทางนี่ให้ท่าน เจ้านายทั้งหลายด้วย เคารพ น่ะ
จ๊ะ
แต่หา บ.ที่รับ ปวช. ปวส.ยากมาก (ไม่นับชนชั้นแรงงานตามโรงงาน) ส่วนใหญ่ 80% รับ ป.ตรี ไม่ว่าจะงานสำนักงานออฟฟิศ ยันร้านขายของตามห้าง และหลายไปที่ต้องพูดภาษาอังกฤษได้ แถมเงินเดือนก็แค่13,000 สำหรับผู้เพิ่งเริ่มงานใหม่ ต่อให้มีประสพการณ์ ก็ตาม
ชอบแนวทางการสอนของอาจารย์นะ
เยี่ยมเลย ต้องเฉลยให้หมด ถ้าคนไทยมีความรู้ ประเทศไทยเจริญเเน่ๆๆ🎉🎉❤❤❤❤😂😂😂
คนไทยก็มีความรู้ไง แต่คนเก่งๆเขาไปนอกหมด
ขอบคุณค่ะที่ออกมาพูด ดิฉันพยายาม จนท้อ ตอนนี้กลับมาสอนที่เมกา ค่ะ ขอแชร์คะ จริงไปทุกคนรู้ปัญหาแต่ไม่มีใครกล้าทำ คนกล้าทำก็โดนดูถูกว่าจะมีความเป็นครูพอ เอ้า งั้นก็ขอไปที่ชอบๆแล้วกัน +สมองไหล
อีกอย่าง คุณจะจบอะไรมา ไม่สำคัญ ถ้าคุณเป็นเด็กเส้น คุณก็ได้งานตามที่ต้องการ😂😂😂😂😂
จบสูงเลือกงาน เกี่ยงเงินเดือนต้องสูงทั้งที่ยังไม่มีประสบการณ์
พอเข้าไปทำจริงๆก็ทำแบบให้มันจบๆไม่ได้คุณภาพ พอ
และไม่สู้งาน เกิดปัญหา ก็คิดแต่ลาออก ส่วนที่อดทนก็ ผ่านและ
ไปต่อในสายงานนั้นๆได้ดีค่ะ
จริงคับ เพราะ นายจ้างส่วนใหญ่ คิดว่า การใช้แรง สำคัญกว่า ทักษะ เพราะยังไงมันก็สอนกันได้ สำหรับงานที่ไม่เฉพาะทาง เลยเลือกที่จะไม่จ้าง พวก ปริญญาบัตร แต่เลือกที่จ้าง วุฒิการศึกษาที่ต่ำตามเกณฑ์เงินเดือนของรัฐบาล ซึ่งบงบอกว่า บ้านเรามีแต่ งานอุตสาหกรรมที่เติบโตมากกว่างานบริษัท ต่างจากประเทศอื่น คนเกาหลีแห่ทำงานบริษัทและทิ้งงานโรงงาน ส่วนคนไทย ทิ้งงานบริษัทเพื่อไปทำงานโรงงาน
จบออกมาความรู้ที่ได้ใช้จริงมีเพียง10- 20% อีก 80% ต้องเรียนรู้ด้วยตัวเอง
เด็กจะได้ดี ไม่ได้อยู่ที่ว่าเรียนอะไรและเรียนสูงแค่ไหน
ขึ้นอยู่กับความใจสู้ เอาจริงเอาจัง และการ พัฒนาตัวเอง และสิ่งที่สำคัญเลยคือคุณธรรมในการประกอบวิชาชีพ เพราะจะไม่มีใครเจริญได้มั่นคง ถ้าคิดโกงในวิชาชีพของตัวเอง
การศึกษาไทยเน้น "ความจำ" ทำให้ได้บุคลากรที่ด้อย "คุณภาพ" ปัญหานี้ภาครัฐพึงเร่งปรับ "นโยบาย"
ลูกน้องบางคน สอนไม่เคยจำ ทำงานเสียหาย
เรียนไปพัฒนาอาชีพดั้งเดิมครอบครัวตัวเเองหาลู่ทางใหม่ๆให้ครอบครัว ไม่มีธุรกิจไม่มีงานมากพอในตจว. ไม่ควรสอนให้เป็นลูกจ้างอย่างเดียว. สอนให้ตรงกับความเป็นอยู่ของจว. ควรมีให้กู้ไปทำทุนเด็กจบใหม่ที่มีโครงการมานำเสนอและมีความเป็นไปได้ที่จะไปต่อในอนาคต
ยิ่งเรียนสูง แล้วยิ่งมีความรู้ความสามารถ แม้จะตกงาน ก็ไม่น่ากลัว ครับ
กลัวแต่ไอ้พวกสอบเก่ง เรียนสูงแล้วไม่มีความรู้อะดิ ทำมาหากินไม่เป็น แม้จะมีพวกนี้เต็มประเทศ ก็ไม่พ้น บ้านเมืองนั้นบรรลัย...แน่นอน
ยุคนี้ ขยันเรียนจนจบ สอบแข่งขันนู้นนี้ สุดท้ายก็ต้องมาทำงานให้คนที่เรียนไม่จบ 😂 แค่บางคนนะที่สำเร็จที่ไหวพริบดี ออกจากการเรียนแล้วจับทางได้ เช่นเดียวกันกับคนที่เรียนจบที่ได้ทำงานจริงๆ ส่วนใหญ่ก็ตกงานอย่างหัวข้อคลิป เพราะงั้นมันเอาแน่เอานอนไม่ได้ กับยุคนี้จริงๆ ส่วนผมเรียนจบแต่สุดท้าย เป็นนายตัวเอง เส้นทางหาหาเงินก็ไม่ตรงกับที่เรียนเลย รู้อะไรไม่เท่ารู้งี้ ไม่น่าเรียนให้เสียเวลาเลย คนๆหนึ่งมีความสามารถมากกว่าหนึ่ง และบางทีที่เรียนอยู่ก็ไม่ตรงกับความสามารถ เพราะงั้นไม่แปลกหลายคนจะหลงทาง ถ้าค้นหาตัวเองไม่เจอจริงๆก็เรียนๆให้มันจบๆไปก็ดีแล้ว ถ้ารู้ตัวทัน มั่นใจพอก็ดรอปไว้ ก็ไม่เห็นเสียหาย แถมยุคนี่เอาจริงๆ วุฒ ม.6 ก็ทำงานได้ละ 😅 เคยใช้สมัครทำงานช่วงหนึ่งสมัย เรีบน ป.ตรี ปี3 ช่วงนั้นขัดสนนิดหน่อย แถมเงินเดือนก็ เอาตรงๆมพอๆกับจบใหม่ แต่ดรอปเรียนไป ปีหนึ่ง
อาจารย์พูดได้ตรงประเด็นเลยครับ
อยากให้มีโครงการค้นหาความถนัดทางวิชาชีพ...
เพื่อให้เด็กๆค้นหาอาชีพ และความถนัดจริงๆของตัวเอง
ก่อนเรียนสายอาชีพนั้นๆ
เช่นเรา...กว่าจะรู้ตัว้องว่าชอบทำขนมเค้ก เบเกอรี่ ก็อายุ 42 ปีแล้ว
ทั้งที่จบป.ตรี บัญชีและทำงานที่ไม่ได้ตรงสายเรียนแล้วความชื่นชอบที่แท้จริงเลย เพราะความจำเป็นทางเศรษฐกิจที่ต้องทำงานตามตำแหน่งงานว่าง
น้องชายผมเรียน จบโลจิสติกส์ สุขมาได้ 5 ปีตอนนี้ฐานเงินเดือน 55,000 บาทครับ เรียนสายตลาดต้องการสำคัญมาก
อาจารย์เก่งมากเลยค่ะ มองขาดเลย ฟังคลิปตั้งแต่ต้นจนจบ นับถืออาจารย์มากเลยค่ะ
ก่อนเรียนอะไร ต้องดูว่า ตลาดต้องการอะไร อะไร รายได้ดีสุด ก็ต้องสนใจอันนั้น รีบทำ รึบหาเงิน ออกมา แล้วออกมา เปิดธุรกิจของตัวเอง
ทุกอาชีพ มีมาๆไปๆตามยุคสมัย
จบแพทย์...งานล้นมือ
จบแพทย์เฉพาะทาง...งานท่วมหัว
เป็นอาจารย์แพทย์...ยิ่งงานมาก...ตามวิชาการระดับโลก..สอนนักเรียนแพทย์ ..งานรักษาคนไข้
/ ทันตแพทย์ เภสัข เทคนิคการแพทย์ พยาบาล...ที่มาตรฐานสูง
งานล้นมือ
ยิ่งจบปริญญาเอกอเมริกา.....แพทย์ ทันตแพทย์ เภสัช เทคนิคการแพทย์ พยาบาล.....งานท่วมหัว ( เรื่อยรายได้...ไม่ต้องถาม...ท่วมมหาศาล )
สรุป
ประเทศในโลก..ต้องเน้นจุดแข็งตนเอง..
ไทย....เด่นด้านสาธารณะสุข..โรงพยาบาลเอกชน...ระดับโลก
ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ..นักท่องเที่ยวคุณภาพสูงจากทั่วโลก...หลายล้าน
พร้อมมาใข้บริการ..โรงพยาบาลเทพในไทย
/ จบปริญญาเอกอเมริกา...แพทย์ ทันตะแพทย์ เภสัช เทคนิคการแพทย์ พยาบาล
...ยิ่งเรียนสูง...ยิ่งขึ้นสวรรค์
งานดี..มีเกียรติ..รายได้สูงยิ่ง
อาชีพยกเว้นที่ยิ่งเรียนยิ่งไม่ตกงาน
รายได้มหาศาล เหรอ
เคยมีแฟน เป็นหมอ รายได้ก็งั้นๆ สองแสนมั้ง แต่ไม่ได้คบต่อนานแล้วค่ะ
ตอนนี้คบกับ พ่อค้า ชีวิตดีกว่ามากๆ.... ส่งลูก 3 คน เรียน นานาชาติได่ด้วย.... ถ้ายังคบหมอคนนั้น ป่านนี้ ก็คงยังจน ไม่มีปัญญา ส่งลูกเรียนดีๆหรอกค่ะ ยิ่งจะส่งลูกเรียนนอก ยิ่งเป็นไปไม่ได้
เงินเดือนแค่ สองแสน หักภาษี ค่ากินอยู่ ค่าผ่อนคอนโดห้องเล็กๆ ค่าผ่อนรถ ก็ไม่พอส่งลูกเรียนนานาชาติละค่ะ ค่าเทอม ปีละล้าน ลูกคนนึงยังส่งไม่ได้เลย..... ถ้าหวังจะอยู่บ้าน หลังใหญ่ๆมีสวนให้ลูกวิ่งเล่น มีสระเล็กๆ ก็ไม่ต้องคิด... อาชีพ หมอ ไม่มีปัญญาหรอกค่พ........ ตั้งแต่คบมา หมอนี่คือ จนสุดละค่ะ.... ถ้าคบต่อ มีหวังอยู่แบบอัตคัตแน่ๆ ส่ง รร. เอกชนทั่วไป อยุ่คอนโดห้องเล็กๆ... ทุกวันนี้ บ้านดีๆมีสวนมีสระ เป็นหลายสิบล้านค่ะ หมอไม่น่าซื้อไหวหรอกค่ะ ทำจนเกสียน ยังซื้อไม่ได้เลยค่ะ .... เพลีย
พอมาอยุ่ในกลุ่ม ผู้ปกครอง นานาชาติ ประเด็นคือ มีแต่พ่อค้า นักธุรกิจ ไม่มีหมอค่ะ มันคงสังคมคนละระดับกัน
@@uuuuu1266ไม่ตกงาน แต่ไม่รวย ต่อให้ เป็นคนที่ดังมากๆก็ไม่ได้อยู่ในระดับที่ รวยติดอันดับของประเทศได้ ถ้าไม่ทำธุรกิจ
อย่าว่าติดอันดับเลยค่ะ ต่อให้คนที่สำเร๋จด้านวิชาชีพแพทย มากๆ อย่างมาก เงืนเดือนก็หลักแสนอยุ่ดี..... ลูก สามคน แค่จะส่ง เรียน นานาชาติ ปีละล้านกว่า ยังไม่มัีปัญญาเลยค่ะ งานแต่งจะหวังมีแหวนเพชรแบบชมพู่ อารียา ก็คงเป็นไปไม่ได้เช่นกัน.... ถ้าเป็นเมียหมอ ป่านนี้ ไปออกงาน สร้อยเพชร สร้อยมรกตทับทิม เม็ดเด่นๆไปแข่งกับคนอื่นในงาน ก็คงไม่มีทางได้ใส่ เพราะ รายได้หมอก็คงซื้อ ไม่ไหว ชุดละ หลายสิบล้าน ร้อยล้าน ทำงานทั้งชีวิตจนเกสียน ก็ยังซื้อ สร้อยไม่ได้เลยค่ะ....... จะว่าไป ถ้าแต่งกับหมอ ก็คงไม่ได้ออกงานแบบนี่ เพราะในงาน ไม่น่ามีหมอ เพราะรวยไม่พอ
หมอเริ่มล้นตลาดแล้ว ในเอกชน
@@yow7465พูดไปเลยเปื่อยเอาแต่พูดรวยๆเข้าข้างตัวเอง ทุกอาชีพมีบทบาทสำคัญพ่วงกัน จะเอารวยเป็นหลักคงไม่หน้าถูกนักคับ ถ้าไม่มีคนงานก่อสร้างคุณจะแบกบูนทำเองไหม เลอะเทอะคับเป็นคนรวยอย่าเลอะเทอะคับ ไปดูคนรวยจริงๆเขาใช้ชีวิตคนปกตินี้ละ
ไม่มีอะไรผิดหรือถูกต้องเสมอไป เมื่อกาลเวลาผ่านไปต้องปรับตัว แล้วจะรอด
👍🏻
สาขา Science, technology, engineering, and mathematics (STEMs) เรียนยากจริง เข้าปีหนึ่ง 700 คน จบ 400 คน
เราสอบติดแพทย์ แต่ไม่เรียนแพทย์
แต่เลือกเรียนจบสายด้านนี้ => ไม่เห็นยากนี้
ไม่จริงครับ skill technical ไม่ใช่ปัญหา ปัญหาของคนไทยคือ ทำงานเป็นทีมไม่เป็น คิดเล็กคิดน้อยตำหนิไม่ได้ ไม่ยอมรับเสียงส่วนใหญ่ ถ้าโหวตในที่ประชุมไม่ผ่านก็ต่อต้านไม่ช่วย ไม่พูดในที่ประชุมแต่ไปพูดข้างนอก
เพื่อนผมเรียนจบ ม.3 มันไปเปิดร้านขายต้มยำ วันนึงอย่างต่ำๆก็ 2,000 ถึง 3,000 อ่ะ ไอ้เราก็อยากทำแบบมันดูบ้างนะแต่ไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ ทุกวันนี้ทอดไข่เจียวยังไหม้เลย 😅
ทอดยังไงไหม้
ประเทศไทยเราไม่มีบริษัทใหญ่ๆ ที่ทำเงินได้มากๆ ผลิตได้ทุกอย่าง มีโรงงานจ้างงานเยอะๆ นี่ถึงทำให้คนตกงานเยอะ ยกตัวอย่างอุตสากรรมรถยนต์ เครื่องใช้ไฟ็า เครื่องมืออิเล็กทรอนิค เครื่องจักร เทคโนโลยีอื่นๆ เราผลิตไม่ได้ แม้แต่คนไทยยยังไม่ซื้อไม่สนับสนุน นี่แหละคนถึงหางานยาก ทำโรงงานต่างชาติก็ได้แค่ค่าแรงขั้นต่ำ
ไม่ว่าที่ไหนในโลกเขารับคนตามอัตราขั้นต่ำทั้งนั้น ต้นทุนเขาต้องลดเพื่อการแข่งขัน รับคนมาทำสายการผลิตรับอ่านออกเขียนได้ ภาษาอังกฤษ ABCD นิดหน่อยเพื่อใช้ดูรหัสใบสั่งงาน ระดับสูงขึ้นก็เอาสายข้างล่างที่ทำมานานขึ้นมา สายช่างๆก็นานๆรับทีเมื่อมีคนลาออก
@@yutkijsamnong3202แสดงว่าลุงไม่เคยร่วมงานกับบริษัทระดับโลก เค้าจ่ายได้ไม่สนใจขั้นต่ำถ้าคนนั้นจบงานให้เค้าได้จริงๆ
รู้ตั้งแต่เริ่มเรียนแล้ว จนรู้สึกว่า จะไหวหรอหลังจากนี้ แถมไอ้ที่เรียนๆเนี่ย ไม่เห็นเหมือนในที่ทำงานจริงเลยนะ พอจบมาไม่ตงสายทำงานเข้าไปอีก นี่มีให้เรียนทำไม ยิ่งเกรดต่ำยิ่งชัดเจนเลยว่าแล้วแบบนี้ที่ทำงานเขาปฏิเสธแทบจะทันทีเลย รู้เรื่องนี้มาตั้งแต่12ปีก่อนแล้ว ทำไมเพิ่งจะมากล่าวเรื่องนี้กันเวลานี้
เพราะการเรียนไม่ใช่การทำงาน และเราไม่สอนให้คนทำงาน เราสอนให้คนทำข้อสอบ
ผมมีงานทำเพราะปวส ครับ
จบอะไร
โชคดีมาก ครอบครัวเกิดมากับพ่อแม่ยากจน เรียนจบแค่ ม.3 สามีก็จบแค่ ม.6 แต่มีความสามารถ ขับรถ เทรลเลอร์ ลากตู้คอนเทนเนอร์สินค้า เหมางาน และมีรายได้อิสระอีก รวมๆ เกือบ80k ไม่เห็นต้องเรียนสูง ใช้ความสามารถล้วนๆ แค่มีใบขับขี่ ท.3 ท.4 ก็มีรายได้ ครึ่งแสนได้แล้ว 😅😅
ดีครับ ได้ประเด็นความรู้แนวคิดเพิ่มขึ้น
เป็นเรื่องดี ๆ เป็นแนวคิดที่ควรต่อยอดครับ ขอบคุณครับ
ช่างตัดผมสงวนสำหรับคนไทย แต่ตอนนี้โฆษณาร้านทำผม ตัดผมกับช่างเกาหลีเต็มไปหมด ที่น่าเจ็บใจคือเรทค่าตัวช่างเกาหลีแพงกว่าช่างไทยหลายเท่ามาก
ปวช ปวส ต่างจังหวัดค่าแรงโคตรกดคุณภาพชีวิต ทำแค่มีกินไม่มีเก็บ ค่าแรงวันระ350-400
มาลุย กทม. ครับ ออกมารับงานเอง ตามคอนโดล้างแอร์เครื่องนึง ชม.เดียวก็ได้ 5-600 บาทละ งานติดตั้งแอร์ งานเดินสายไฟ งานปั๊มน้ำ งาน ซ่อม ทำดี ๆ ไม่โก่งราคา มีรอยยิ้มให้ลูกค้า ทำให้ลูกค้าไว้ใจ มีกินมีใช้จนตายล่ะครับ ถ้าถนัดช่างยนต์ ยิ่งได้เงินเยอะ ไปอีก
ใช่ถ้าเป็นจังหวัดเล็ก เศรษฐกิจไม่ใหญ่ก็ได้แค่ 300 บต่อวัน หรือมีการหักเงินด้วย ค่าแรงงานของแต่จังหวัดในไทยไม่เหมือนกัน
มีวิชาชีพ ทำเล่นๆได้วันละ 1000ขึ้นต่ำ
ถ้าภาคเอกชนจะช่วยให้นักเรียนศึกษาในสาขาที่ตัวเองต้องการก็ควรให้เงินเดือนที่จูงใจให้เขาเรียนในสาขานั้นๆไม่ใช่ไปกดค่าแรงเขาจนไม่สามารถสร้างอนาคตได้ เขาก็ต้องเสี่ยงไปเรียนสูงขึ้นเพืออนาคตเขา เรื่องค่านั้นทุกครั้งที่รัฐบาลจะเพิ่มค่าแรงเจ้าสัวก็ออกมาค้านทุกที ลองปล่อยให้ค่าแรงขั้นต่ำเพิ่มขึ้นเรือยๆจนแรงงานมีแรงจูงใจเขาก็จะเรียนในสิ่งที่เอกชนต้องการแน่นอน เมือมีคนเรียนเพิ่มก็จะมีเอกชนเปิดการสอนเพิ่มขึ้น ปัจจุบันนี้คนเรียนเขาต้องการเรียนแล้วมีรายได้ที่พอเพียง มีงานทำทั่งนั้นครับ เอกชนที่รวยหัดเสียสละบ้างอย่าโทษคนอื่นแต่ไม่ดูความผิดของตัวเอง อยากบอกเจ้าสัวว่าอย่าพูดแต่ความต้องการของตัวเองอย่างเดี่ยวลองพูดว่าท่านจะทำอะไรให้ประเทศไทย ทำอะไรให้พนักงานและคนไทยบ้างจะดีไม
เราไม่เข้าใจว่าบางคนเขาเรียนอย่างเดียว ไม่เคยทำงานพาร์ทไทมอะไรบ้างเลยเหรอ? อย่างเช่นทำงานเสิร์ฟ นั่นก็เป็นประสบการณ์งานด้านบริการได้แล้ว มีประสบการณ์พูดคุยรับออเดอร์จากลูกค้า ต้องมีประสบการณ์แก้ปัญหามาใช่ไหมเวลาลูกค้าไม่ถูกใจบางอย่าง หรือทำงานเป็นแคชเชียร์ก็เป็นประสบการณ์คำนวณ ถึงสมัยนี้จะใช้ระบบดิจิตอลก็เถอะ แต่การรับจ่ายเงินทอนที่ถูกต้องก็คือประสบการณ์ในความแม่นยำและนับตังเป็น อันนี้คือตัวอย่างเล็กๆน้อยๆนะเวลาที่เราดูใบสมัครงาน บางคนมาสมัครเป็นผู้จัดการแต่ไม่มีประสบการณ์อะไรมาเลย ดูไม่มีวุฒิภาวะอะไรเลยแล้วจะแก้ปัญหาอะไรได้ยังไง เรียนดีแต่ไม่มีประสบการณ์ กับคนที่เรียนโอเคแต่มีประสบการณ์และวุฒิภาวะ เป็นคุณจะเลือกใครดี
ป.ตรี เงินเดือน 15,000 ปวช. 8,000 ปวส.10,000 ใครก็อยากมีค่าแรงที่สูงกว่าทั้งนั้นแหล่ะ
สำคัญ คือ มหาวิทยาลัยควรเน้นสายวิชาชีพและกลุ่มวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและยุบสายสังคม!!!
ส่วนบริษัท ห้างร้าน โรงงาน จะเอาSkillทุกอย่างก็พิจารณาเงินเดือนด้วย คุณภาพคนสะท้องเงินเดือน
คุณลุงพูดถูก ประเทศนี้🇹🇭 จนก็ตกงาน สูงก็ตกงาน เรียนโง่แต่มีฐานะแบบนี้มีงาน มันมีอยู่จริงในประเทศนี้🇹🇭
โชคดี อาชีพที่ผมทำ ไม่มีสอนในรร. จริงๆ ผมเลือกทำเพราะว่าไม่มีในรร.นี่ละ คู่แข่งน้อยดี ไม่จำเป็นต้องทำงานทำอาชีพ ที่เรียนมาโดยตรงในสถานศึกษา แต่ให้เพิ่มความรู้ประสบการณ์ที่แตกต่างจากคนอื่น คู่แข่งคุณจะน้อยลงไปเรื่อยๆ ไม่ต้องหางาน แต่งานและเงินจะวิ่งเข้าหาคุณ คุณจะได้เลือกงานที่ดีที่สุดสำหรับคุณ จะง้องานหรือให้งานง้อคุณ
เพราะไม่ได้ศึกษาความต้องการของตลาดแรงงานมั้ง อาจรวไปถึงสู้เส้นสายไม่ได้และการเข้าถึง แหล่งจัดหางานตาทความสามารถตรงตามสายที่เรียนมา
คนเรียนต้องปรับตัวด้วยตัวเอง จะรอให้ภาคการศึกษามาปรับตามสถานการณ์คงไม่ทัน…เดี๋ยวนี้ เรียนจบหลักสูตรดีๆ จาก มหาลัย ตปท. ออนไลน์ได้เลย ประหยัดเงิน ยืดหยุ่นเวลา…ดังนั้น ปริญญาตรีจึงเป็นเพียงใบเบิกทาง ไม่ใช่ปลายทางการเรียนรู้
เพราะแบบนี้การศึกษาไทยถึงไม่ไปไหนซักที
เริ่มต้นมาด้วยการบอกว่าตัวเองเป็นกรรมการฯแต่กลับบอกแก้ไขในระดับหลักสูตรอะไรไม่ได้ แล้วจบท้ายด้วยทิ้งภาระมาที่ครู ต้นเหตุไม่แก้จะแก้ที่ปลายเหตุ อย่าลืมด้วยว่าปลาเหตุมีกฎระเบียบควบคุม ต้นเหตุต้องเปลี่ยนต้องแก้ หัวไม่กระดิกหางจะส่ายได้ไง แล้วสุดท้ายเราผลิตคนให้โรงงานหรือผลิตคนให้มีคุณภาพตามที่สนใจ งานไม่มีก็ต้องสร้างงาน คนพร้อมปรับตัวอยู่แล้ว ถ้าไม่ปรับก็อยู่ไม่ได้
เป็นถึง ดร. มาให้แนวคิด logic นี้ก็เพี้ยนแล้ว ควรให้ทัศนคติ ที่ไม่เลือกงาน หนักเอาเบาสู้....เรียนสูง มาทำงานง่ายๆ ซิ ดี....จะได้พัฒนางานตนเอง work study ,time motion มีท่าการทำงาน ergo design ที่เหมาะสมถูกต้องไหม ปลอดภัยไหม ทำ paperless สารพัด....แล้ว ดร. มีลูกก็ส่งเรียน แค่ไหน หละ ป.6 หรือ ม.3
เราเห็นด้วยค่ะ ไปแก้ที่ระบบการศึกษาที่รองรับกับพื้นฐานเศรษฐกิจ ระบบสังคม ที่ยอมรับ วุฒิสายวิชาชีพ ให้มากขึ้น ไม่ใช่บอกว่า ป ตรี จะโน้นนี่ ต้องฝึกงาน ต้องประยุกต์ใช้ หลายมหาวิทยาลัยดี ๆ ผลิตบัญฑิตที่ทำข้อสอบเชิงประยุกต์ใช้ เด็กมีคุณภาพคิดเป็นค่ะ เมื่อไปทำงาน เค้าก็ไปปรับตัวพัฒนาsoft skill ที่บอกได้ ทั้งเชิงวิชาการ และ ปฏิบัติ ไม่ใช่เด็ก ป.ตรี จะต้องถูกเหมารวม การที่เค้าเรียนแบบนั่น เค้าอาจจะอยากเข้าสู่งานที่ไม่ใช่งานบริการ งานด้านการผลิต อยากไปทำงานด้านบริหาร มันเป็นสิทธิในการเลือกเรียนของเค้า ระบบ recruit สมัยนี้ ก็เปลี่ยนไปมาก ไม่ปิดกั้น ถ้าไม่ใช่เฉพาะทางจริง ๆ เค้าต้องการคนที่ปรับตัว พร้อมฝึกฝน เนื่องจากแรงงานหรือคนที่จบตรงอาจจะไม่พอ เราสามารถสร้าง soft skill ได้ง่ายขึ้นมาก คอร์สสอนนอกห้องมีมากมาย สำคัญ เมื่อคุณไปทำงาน คุณทำอะไรและพัฒนาอะไรได้บ้าง ไม่ใช่จบสายอะไรมา
แบบนั้นก็ไม่มีความจำเป็นต้องเรียนอะไรที่จำเพาะมาเลยก็ได้
ต้องแยกว่าแรงงานในอุตสาหกรรมไหน ประเภทไหนด้วยครับ ปวช ปวส เนี้ยเขาเน้นเป็นแรงงานพื้นฐาน ปัจจุบัน ด้วย เครื่องจักรเข้ามาแทน เศรษฐกิจเปลี่ยน มันก็ต้อง ลดจำนวนแรงงานลงปกติ แต่ป.ตรี ป.โท เอก ต้องดูเป็นสาขา เราขาดแคลนสายนักวิจัย มากเลยนะครับ สมองไหลมาก
ปัญหาจริงๆอยู่ที่หลักสูตร และ บุคลากรที่สอนนี่แหละ ... จากประสบการณ์ที่ไปจบนอกและสอนที่ต่างประเทศนะคับ ปัญหาของระบบการศึกษาไทยคือ ไปเกรงใจห่วงบุคลากรที่เคยสอนแต่ไม่ยอมปรับตัวตามยุคสมัย ตัวอย่างเช่น อ.ท่านนึง สมัยผมยังเรียน ป.ตรี สอนวิชาเดิมแค่วิชาเดียว มาตลอด 25 - 30 ปี วางตัวดุจเทพเจ้า ไม่ยอมปรับตัวใดๆ และอีกปัญหาที่เชื่อผิดๆกันคือ การยึดคุณค่าของการตีพิมพ์ journal แต่ไม่สนใจพัฒนาการสอน สนใจแต่งานเอกสารสร้างภาพ ในขณะที่ ผู้สอนใน USA เค้าไม่สนใจสิ่งเหล่านี้กันต่อให้งาน conference เค้าก็ให้ค่ากันครับ สรุป เริ่มปรับที่ตัวผู้สอน และผู้ทรงคุณวุฒิทั้งหลายก่อนที่จะไปโทษ นศ และ เยาวชนครับ อายุ ประสบการณ์ ขนาดนี้ ยังไม่หลุดพ้นจากความคิดเก่าแก่ วางเป้าหมายผิด แต่จะไปหวังให้เยาวชนปรับเปลี่ยนเองได้ทั้งๆที่ "นำทางผิด" มันก็คงเป็นไปไม่ได้หรอกครับ
บริษัทไม่รับวุฒิอื่นนอกจาก ป ตรี ถามว่าคนจบมาผิดไหม ต้องถามภาคเอกชนก่อน จะเอา ป ตรี ไปทำไม
เอาไปทำงาน
อย่างน้อยก็คัดคนที่จัดการชีวิตตัวเองได้บ้างและไม่เอาปัญหามาให้บริษัท
ปัญหาคือการกดขี่ของผู้ประกอบการ ที่1คนใช้งาน10อย่าง และเงินเดือนแค่15000-20000แต่ ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ระดับการศึกษาเลยค่ะ คือยิ่งการศึกษาไม่สูงค่าเเรงก็ยิ่งกดได้ต่ำ ยิ่งการศึกษาสูงทำงานเก่งเรียกเยอะผู้ประกอบการก็ไม่รับค่ะ
จริงค่ะ ต้องคนเคยประสบมาเหมือนกัน ถึงรู้ความรู้สึกนี้
สิ่งที่ควรคู่กับอาชีพคือคุณธรรมความดีค่ะ สำคัญมาก ❤
ผมไม่เห็นด้วย กับ ความคิด ยิ่งเรียสูง ยิ่งตกงาน ตรรกะอะไร ไม่มีเหตุมีผลเลย คิดยากไหม ครับ ผมเรียนรู้ตลอดชีวิต หากที่พูดจริง ผมฉิบหายก่อน เพราะเรียนมาก ติดตามข้อมูลข่าวสาร วิชาการใหม่ๆ เช่น เศรษฐศาสตร์พฤติกรรม เศรษฐศาสตร์ความสุข มีการเงินอีก ฯลฯ แตกไปเยอะ
คิดถึง สิ่งที่เรามี ทักษะที่เราใช้ แล้วทำงาน . . . บางครั้งเทคโนโลยีทำให้เราสับสนเนื่องสูตรสำเร็จ ระบบสถิติทำให้รู้สึกว่าพลาดไม่ได้ ปัญหาของคนเรียนสูง คนชั้นต่ำอย่างผมไม่เข้าใจ ที่เห็นชัด คือพวกนอกกฏหมาย ชอบวัดพลัง มักตกงาน
เยี่ยมมากเลยครับอาจารย์
ขอบคุณความรู้จากคลิปครับ
แค่เด็กสายอาชีพ ที่แรงงานต้องการรัฐยังแก้ปัญหาเด็กตีกันไม่ได้เลย เรื่องอื่นคงไปไม่ถึง
ผมเรียนจบช่าง แต่เด็กช่างแถวขอนแก่น ไม่เคยมีข่าวตีกันนะ
กดค่าแรง ปวช. ปวส. มากต่างจังหวัด
ถ้าไม่จบ ป.ตรี นับเท่าม.6หมเยกเว้นช่างกลโรงงาน หรือคนที่เก่งจริงๆ ที่โรงงานหาทดแทนได้ยาก
เศรษฐกิจแบบนี้ กระทบหมด ยิ่งมีนายกๆ โง่ก็เตรียมจับมือกันลงเหว
ประสาอะไรกับ ปวช.ปวส. ขนาด ป.ตรี ยังเงินเดือนหมื่นกว่าๆเลย
ยังมีความเชื่อว่าเรียนสูงๆแล้วจะได้งานตำแหน่งสูงเงินเดือนดี เพราะเคยชินกับระบบราชการ. โลกปัจจุบันเปลี่ยนไปแล้ว. งานราชการมีตำแหน่งน้อยลงทุกที ภาคเอกชนมีงานมากขี้นทุกที ความต้องการแรงงานนั้นตรงตามที่แถลงมา เขาต้องการคนที่มีทักษะ ทำงานเป็นที่จะต่ายเต้าทำงงานตำแหน่งทางขึ้น มีความชำนาญและประสพการณ์ สำหรับความรู้ก็อขวนขวายศีกษาต่อเพื่อจะได้ขี้นเป็นฝ่ายบริหาร
การประเมินตำแหน่งงานงานเขาประเมินจาก Know how คือความรู้ ความชำนาญและประสพการณ์ Problem solving ความสำคัญในการแก้ปัญหา และAccountability คิอความรับผิดชอบของหน้าที่การงานที่ทำ ซึ่งทางราชการจะให้ความสำคัญกับด้านความรู้เป็นใหญ่
ไม่ให้ความสำคัญกับผู้ที่จบปวสซี่งได้ศึกษาต่อมีความรู้มากขึ้น
อีกเรี่องหนึ่งของภาตเอกชนเขาจะแบ่งการทำงานเป็นพวก Doer คือพวกมีทักษะแรงงานเช่นเสมียนพนักงานคนงาน และพวก Thinker คือพวกทำงานที่ใช้ความคิดพวกหัวหน้างานผู้จัดการ นักศึกษาที่จบปวสจะเป็นพวก doer ที่จะต้องศึกษานอกเวลาหรือที่มีการอบรมสั่งสอนภายในให้ได้เลื่อนขึ้นเป็นthinker เขาจะไม่จ้างผู้ที่มึความรู้อย่างเดียวมาเป็นหัวหน้าของผู้ที่มีความชำนาญและประสพการณ์ที่ทำงานเป็น. ตอนนี้Top heavy มี มาก แต่มีdoer คนทำงานเป็นไม่พอกับความต้องการของตลาดแรงงาน
ทำงานมา9ปีเต็ม เห็นเด็กรุ่นหลังเข้าแล้วออกเยอะ
1.ป.ตรี มี2แบบ
1.1 แบบเก่งจริง ทำจริง ทำได้จริงๆ แต่ ไฮเปอร์ ทำได้1-1.5ปี ลาออก เหตุผล งานยังไม่ท้าทาย บ๊ะ ของแทร่ บริษัทเสียกำลังดีๆไปละ1
1.2 แบบเก่งแต่ทฤษฎี พอให้ทำจริงๆเหลว เอาง่ายๆ พูดมากกว่าทำ สุดท้าย สังคมงานที่อยู่ยังไม่ใช่ก็ย้าย เหตุผล ได้งานใหม่ดีกว่า
2 ปวช./ปวส. เอาตรงๆเลยนะ น้องๆ2วุฒินี้
2.1ขาดคุณสมบัติ การตัดสินใจ ไม่กล้าตัดสินใจอะไรเลย แค่ปิดฝาเครื่องรึยัง ยังต้องถาม น้องครับ ทำงาน นี้ขีวิตจริงแล้ว ถ้าทุกอย่างหลังฝาเครื่องสมบูรณ์ น้องปิดเลยครับ ยกเว้นบางงานที่ต้องให้ หัวหน้า รีเช็คอีกรอบ
2.2 อันนี้พึ่งมาเจอหลังโควิดได้2รุ่นละ หนักไม่เอา เบาไม่สู้ แล้วคือ เจอในรุ่นปวส. ด้วย😢 ทำไมเปนยั่งงั้นกันหมดนเ้อน งานมาซ้อนๆกัน ชักหน้า ชักตา 😂😂 น้อง 3ปีแรก ก่อนพี่จะขึ้นตำแหน่งเอ็นฯ พี่ก้โดน รับภาระตรงนี้ไม่ได้ แย่เลยนะ นี้ชีวืตจริงแล้ว
โชคดีรู้ว่าตัวเองชอบอะไรและดื้อที่จะเลือกเรียนที่ชอบ ในบรรดาญาติพี่น้องทั้งหมดฉันเรียนน้อยที่สุดแต่หางานได้เองสนุกกับงานที่ทำไม่เคยตกงาน ปัจจุบันหกสิบกว่าแล้วยังทำงานแต่ทำพอสบายๆไม่ให้ว่างจนเหงา
ระบบศึกษาไทย ควรฝึกอาชีพให้...ไปคู่กับการสอน
อาจารย์พูดถูกทุกอย่างครับ
แล้วภาคเกษตรหละ มีแค่ภาคอุตสาหกรรม สินค้า บริการ ส่วนเกษตรกรลดลงเรื่อยๆ แล้วอีกหน่อยเราจะเอาอะไรกินกัน ควรส่งเสริมแก้ปัญหาภาคเกษตรด้วยครับ ผมว่า
ผมจบ ปวส. สุดท้ายก็ต้องไปเอา ป ตรีอยู่ดี งานที่เงินเดือนสูงๆยังไงเขาก็ขอ ป ตรี
ที่ตกงานกันส่วนใหญ่ มันรับเเรงกดดันไม่ได้มากกว่า
เข้าไปในบริษัททำงานจริง ไม่เหมือนภาพที่คิดกันไว้หรอก อย่างกะสนามรบ ยิ่งเรียนสูงก็ต้องรับผิดชอบสูง
งานไม่ได้เป้าที เหมือนขึ้นศาลที่ต้องโดนไต่สวน