พระนเรศตรัสให้ก่อ "เจดีย์ฐานสวมศพ" พระมหาอุปราชย์
Vložit
- čas přidán 8. 10. 2021
- เริ่มที่เจดีย์สวมพระศพ จบที่เจดีย์ยุทธหัตถี (?)
1. สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงสืบหาเจดีย์สวมพระศพพระมหาอุปราชย์ตามที่ปรากฏในพระราชพงศาวดารฉบับพันจันทนุมาศ ทีแรกพระองค์สงสัยเจดีย์องค์หนึ่งที่ จ.กาญจนบุรี ต่อมาในปี พ.ศ.2456 ได้พบกับฐานเจดีย์ที่มีขนาดใหญ่ในสุพรรณ ตั้งอยู่ใกล้หนองน้ำ ชาวบ้านเรียกหนองสาหร่าย สอดรับกับพระราชพงศาวดารฉบับหลวงประเสริฐ พระองค์ทรงเห็นว่า ที่นี่น่าจะเป็นเจดีย์ยุทธหัตถี
2. จากนั้น ที่ดอนเจดีย์สุพรรณ ได้กลายเป็นอนุสรณ์สถานระดับชาติ ในหลวง รัชกาลที่ 6 เสด็จมาประกอบพระราชพิธีบวงสรวง และโปรดเกล้าให้กรมศิลป์บูรณะ ต่อมารัฐบาลฯก็ได้พัฒนาพื้นที่เป็นอนุสรณ์สถานฯ แล้วเสร็จในปี พ.ศ.2502 มีนักวิชาการและประชาชนสนใจศึกษา มีทั้งกลุ่มที่เห็นด้วยและเห็นแตกต่าง
3. ประเด็นที่น่าสนใจ คือ ที่จริงสมเด็จกรมพระยาดำรงฯทรงเริ่มด้วยการสืบหาเจดีย์สวมพระศพ แต่มาจบลงที่เจดีย์ยุทธหัตถี
มองผิวเผินเราอาจคิดว่า 2 คำนี้คล้ายกัน แต่ที่จริง 2 คำนี้แตกต่างกัน เรื่องราวในตอนนี้ อ.ฉัตตริน เพียรธรรม เล่าถึงศึกกู้กรุงศรีอยุธยา และตั้งข้อสังเกตว่า เจดีย์สวมพระศพ แตกต่างจาก เจดีย์ยุทธหัตถีฯ
ขอขอบคุณ
- อ.ฉัตตริน เพียรธรรม
- คุณอภิศักดิ์ รุ่นเก๋าเล่าเกร็ด
- คุณอชิรวิทย์ อันธพันธ์
- คุณปัญชลิต โชติกเสถียร
- คุณอัฐพงษ์ บุญสร้าง
- วัดภูเขาทอง อยุธยา
- อนุสรณ์สถาน ดอนเจดีย์สุพรรณบุรี
- อนุสรณ์สถาน ดอนเจดีย์กาญจนบุรี
- มหาวิทยาลัยราชภัฎกาญจนบุรี
- สำนักศิลปากรที่ 2, 3 กรมศิลปากร
- มหาวิทยาลัยราชภัฎพระนคร
ภาพประกอบ
- อ.ฉัตตริน เพียรธรรม
- วิกิพีเดีย
- ศิลปวัฒนธรรม
- มติชน
- โชว์ศิลป์ถิ่นไทย
- พระล้านนา
- ภาพยนตร์ตำนานพระนเรศวรมหาราช
- จดหมายเหตุลาลูแบร์
- Thaitour
- wowtogether
- suphan.biz
- damrong.org
- doh.hpc.go.th
เนื่องจากคลิปนี้อาจารย์ฉันทัสพูดถึงคำว่า "เจดีย์สวมพระศพ" อยู่หลายครั้ง จนหลายท่านอาจจะเข้าใจว่าจะต้องมีพระศพหรือพระอัฐิของพระมหาอุปราชอยู่ภายในเจดีย์ แต่ที่จริงแล้วเราคืออาจารย์ซีและผมก็เข้าใจว่า พระศพของพระมหาอุปราชถูกนำกลับไปยังกรุงหงสาวดี ซึ่งพงศาวดารพม่าและจดหมายเหตุชาวตะวันตกในพม่าก็บันทึกไว้ตรงกัน ในความเห็นของผม "เจดีย์สวมพระศพ" ในที่นี้ดูจะเป็นสำนวนหรือคำเรียกที่แค่หมายถึง เจดีย์ที่อุทิศให้แก่ผู้ตายเท่านั้น ไม่ได้มีพระศพพระมหาอุปราขแต่อย่างใด ผมลองจินตนาการเดาส่งเล่นๆว่า ถ้าตระพังตรุเป็นที่ตั้งค่ายหลวงของพระมหาอุปราชตามที่ปรากฏในพงศาวดารก่อนที่จะยกทัพออกไปทำสงครามครั้งนี้ และเมื่อพระองค์สิ้นพระชนม์ในการรบ เหล่าแม่ทัพในกองก็คงต้องกันพระศพถอยกลับมาตั้งหลักที่ค่ายหลวงก่อนเป็นอันดับแรก ก่อนที่จะตัดสินใจถอนทัพกลับโดยเฉพาะเมื่อมีทัพไทยไล่ตีตามมาดังในพงศาวดารฉบับพันจันทฯ ผมคิดเล่นๆเอาเองว่า สงสัยตรงที่พระนเรศสร้างเจดีย์อาจเป็นที่ตั้งกระโจมที่ประทับของพระมหาอุปราช ซึ่งพระศพถูกนำกลับมาตั้งชั่วคราวก่อนที่จะอัญเชิญกลับไปหงสาวดีเสียกระมัง ถึงเรียก เจดีย์สวมพระศพ
ขอบคุณอาจารย์ฉัตตริน (Chattrin Pientam) ครับ
ขอบคุณครับอ.เอน่าจะเป็นเหมือนที่อ.ว่าครับ
เป็นการให้เกียรติครั้งสุดท้ายคนรู้จักกันมานาน
ขอบคุณครับอาจารย์เอ
ขอบคุณครับที่อธิบาย ผมกำลังสงสัยอยู่พอดี และน่าจะเป็นการอุทิศให้แก่พระมหาอุปราชา และอาจจะรวมถึงทหารที่ล้มตายเป็นจำนวนมากตามที่กล่าวถึงในพงศาวดารก็ได้
ผมเป็นคนพื้นถิ่น อ.พนมทวน ตอนแรกที่ได้ฟังอาจารย์ก็มีทัศนคติที่ต่อต้านอาจารย์ พอได้ฟังอาจารย์มาซักระยะเพราะได้กดติดตามก็ค่อยๆเปลี่ยนกลายเป็นเปิดรับและเห็นด้วยกับแนวทางการศึกษาประวัติศาสตร์แบบปลายเปิดครับ
ขอบคุณครับ
คนอื่นขีดเส้นใต้ให้เรามานาน
วันนี้ เรา แต่ละท้องถิ่น กำลังขีดเส้นใต้ เน้นความสำคัญของท้องถิ่น (พนมทวน)ด้วยตัวเราเอง
ผมว่า เหตุการณ์ที่ค่ายหลวงของพม่าทีทัพอยุธยาตีจนแตก นับเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของเรื่องนึ้อีกตอน แต่ประวัติศาสตร์ชาติ เน้นขีดเส้นใต้จุดเดียว ตอนเดียว คือจุดที่ตั้งของยุทธหัตถี เราจึงต้องมาแย่งกันว่า ใครจะได้อยู่ตรงจุดนั้น
เรื่องแย่งกันแบบนี้ ไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นกับพวกเราเลย
@@taspien ขอบคุณอาจารย์มากครับ
ขอบคุณความรู้ดีๆค่ะอาจารย์ พระนเรศถือว่าท่านเป็นผู้นำที่สุดยอดมากๆ แม้ศัตรูท่านก็ให้เกียรติ แสดงซึ่งความนับถือ ถือเป็นคู่รบ ที่สมศักดิ์ศรีมากๆเลยค่ะ ไม่แปลกที่ชัยชนะครั้งนั้นจะยิ่งใหญ่มาก
ครับคุณ N
ชัดเจนครับ เจดีย์สวมพระศพ
ครับ
ครับผมขอบคุณมากครับ
ยินดี ขอบคุณเช่นกันครับ
ฟังแล้วเห็นภาพ และมองภาพรวมได้ดีมากๆคับ เห็นด้วยในแนวความคิด มองนอกกรอบ และมุมมองใหม่ๆ ชื่นชมคับ
ขอบคุณครับคุณคิดฮอตอีแม่
อ.แข็งแรงครับ กราบขอบคุณ ความรู้♥️🙏♥️☕
ขอบคุณครับคุณนำพล
ขอบคุณครับอาจารย์
ขอบคุณเช่นกันครับคุณอาคม
ขอบคุณมากครับ
ครับ
เข้าใจเลยครับ แพ้ ชนะ แค่เสมอในใจ ไม่ผูกพยาบาทกัน
เรียนรู้จากศึกสงคราม♥️🙏♥️
ครับ
🙏✌🏽✌🏽
ขอบคุณครับ
เห็นด้วยทุกประการคับ การใช้วิทยาศาสตร์พิสูจน์ประวัติศาสตร์เป็นสิ่งที่ควรทำอย่างยิ่งครับ
ไม่งั้นเราก็จะเข้าใจอะไรผิดๆไปตราบนานเท่านาน
ขอบคุณครับคุณ I VO I MO
1. ใช้วิทยาศาสตร์พิสูจน์หลักฐานที่มี
2. ใช้เหตุผลพิสูจน์หลักการที่มี
3. ผลลัพธ์ คือ ประวัติ "ศาสตร์"
ประชาชนบ้านเราอยู่กันกระจัดกระจาย แถบลาวตอนล่าง จนถึงชายทะเลฝั่งเวียดนาม ถึงกับร้างผู้คน ผิดกับพม่า ประชากรหนาแน่น มีกำลังรบกับอินเดีย จีนได้ เทียบกำลังฝ่ายพม่ากับฝ่ายไทยจะ1ต่อ3 รึ1ต่อห้า ดังนั้น ชัยชนะต่อฝ่ายพม่า ในดินแดนไทย จึงยิ่งใหญ่มาก
เยี่ยมเลย ขอบคุณครับ
🙏🙏🙏💖ครับอาจารย์
ขอบคุณครับ
ชอบคลิปนี้มากค่ะได้ความรู้ชัดเจน ในสิ่งที่เคยสงสัย พูดกันสองคนก็ดีนะคะทำให้รู้สึกน่าสนใจตื่นตาตื่นใจมากขึ้น
ขอบคุณครับคุณแม่
ติดตามรายการอาจารย์ตลอดครับ ให้ความรู้ดีมาก
ขอบคุณครับคุณ Pisanu
เห็นด้วยกับเห็นต่าง ต้องเคารพซึ่งกันและกันครับ
ขอบคุณครับคุณ next
ในอดีตคงเกิดศึก บ้านใกล้เรือนเคียง สะท้อนการ อยากขึ้นเป็นใหญ่ ทุกแว่นแคว้น สงความจึงไม่ว่างเว้น
ประชาคง อยู่แบบ ไม่ค่อยมีความสุขสงบ♥️🙏♥️
ใช่ครับ
รักพระนเรศวรมหาราช
ครับคุณทองดี
สนามรบอยู่ที่ใด ก็มีกะโหลกช้าง ม้า วัว และ
ศาสตรา อาวุธ ทั้งหลาย อยู่ที้นั่น
ตายที่ใด ก็ฝังมันตรงนั้น ให้เปนหมายสำคัญ วันยุทธหัตถี ต่อไปให้ลูกสยามได้จำ
. ราม
.
ติดตามตลอดครับอาจารย์ ขอบคุณมากครับที่ให้ความรู้
ยินดีครับคุณธานิน
ผมดูอาจารย์มาทุกคลิป ผมขอยกย่องคลิปนี้เป็นคลิปที่ดีที่สุด ครบถ้วนในประเด็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ และเชื่อมโยงสะท้อนแนวผู้คน ตลอดจนตั้งคำต่อมุมมองประวัติศาสตร์ที่มีต่อสงคราม ที่เป็นเกียรติประวัติทั้งผู้ชนะและผู้แพ้ ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับคุณ Ing
ผมเองก็ได้อ่านได้คิด ไปตามเสียงสะท้อนจากคุณ Ing
เชื่อได้เลยว่า เสียงสะท้อนนี้ส่งผลต่อทิศทางรายการในอนาคต
เรียนสอบถามอาจารย์เพิ่มเติมครับ ในส่วนของพงศาวดารพม่าทุกฉบับ เกี่ยวกับพระศพของพระมหาอุปราชา ล้วนแต่ระบุต่างออกไปจากหลักฐานของไทยคือได้นำพระศพกลับไปทำพิธีที่พม่า มีเพียงเอกสารฝั่งไทยที่ ระบุถึงการทำพิธีศพ และทำเจดีย์ครอบพระศพไว้ที่ฝั่งอยุธยา ใช่ไหมครับ
ส่วนพระมหาเจดีย์ที่ทุ่งภูเขาทองนั้น พระเจ้าบุเรงนอก ผู้ชนะสิบทิศา เปนผู้สร้างในครารบชนะกรุงอโยธยา ศรีรามเทพนคร เปนมหาราชาอนุสรณ์
เมื่อสมเด็จพระนเรศวรย์ มหาราชย์(พระสีสรรค์เพชรย์ ที่๒ เกี่ยวด้วยเพชราม แก้ววิเชียรมาส เปนเพชร๗ สี มณี ๗ แสง เดิม
ประดิษฐานอยู่ที่ หน้าพระหน้าลาด(หน้าผาก)
องค์พระศรีสรรค์เพ็ชร กฤษดาญาณ์ ปัจจุบัน
องค์พระศรีสรรค์เพชร หลังจากพม่า(พระมาก) อังวะ ใช้ดินปืนหลายตันเผาลวกลอกทองไป เอาพระเศียรท่านเททิ้งลงคลองน้ำไว้มิให้ใครรู้ว่ามีพระศรีสรรค์เพชรฯ เอาเพชรเม็ดงาม รูปปิดรามมิด ไปประดิษฐานอยู่บนยอดพระมหาเจดีย์เชลยดาษกอง(ชเวดากอง)
ทองอโยธยาที่ย่างกุ้ง นั้นแล้ว
ส่วนพระเศียรพระศรีสรรค์เพชร์ฯ ปัจจุบัน ประดิษฐานที่พิพิธภัณฑ์ สถานแห่งชาติพระนคร กรุงเทพพระมหานาคร(เทพ+นาค)
. เสร็จยุทธหัตถีฯ ทรงสร้างพระมหาเจดีย์ ขึ้นมาพระองค์หนึ่ง โดยใช้กำลังทหารผู้ติดตามทัพหลวงมิทันยุทธฯนั้นเปนผู้สร้าง ตามแบบพระสมเด็จพระพันรัตน์ พระสังฆราชย์ประจำพระองค์ดำ นามว่า พระเจดีไชยมงคลบพิธ
สถิตย์มหาสีมาราม(ในวัดใหญ่(ไชยมงคล))
ส่วนพระมหาเจดีย์ทุ่งภูเขาทองนั้น เห็นแก่พระราชบิดาบุญธรรม (พระเจ้าบุเรงนอง) จึ่ง
ให้สร้างองค์ระฆังครอบไว้ เพื่อให้เห็นว่าชาว
อโยธยา ศรีรามเทพนคร มีไชย/^^
อินทร์
นเรศวรย์
Naray Son
ครับ
Thank you professor!
You are welcome!
คลิปนี้เป็นประโยชน์มากครับอาจารย์ การตีความพงศาวดารของชนชั้นนำบางครั้งก็เป็นกระแสจนทำให้เกิดความเชื่อที่อาจผิดไปจากตัวหนังสือ และเมื่อคนส่วนใหญ่เชื่อไปแล้วก็ยากที่จะตามแก้ การศึกษาประวัติศาสตร์จึงต้องขจัดอคติออกไปจากใจให้ได้ก่อน ไม่งั้นจะเอนเอียงไปได้ง่ายๆ
ใช่ครับคุณ ralph
ท่านก็สนใจของท่าน และหลายอย่างก็ส่งประโยชน์ต่อคนรุ่นหลัง
แต่สิ่งสำคัญ คือ เราเองก็ต้องพัฒนาความสนใจของเรา ที่เหมาะสมกับตัวตนและสถาการณ์รอบตัว ขณะเดียวกัน ก็สามารถขจัดอคติและยกระดับสติปัญญาไปพร้อมกัน
ติดตามตลอดครับอาจารย์ 💓
ขอบคุณครับคุณ กมลชัย
ข้อสรุปช่วงท้ายที่อาจารย์เสนอนั้นดีมากๆทำให้ต้องฉุกคิดตามเลยครับ อย่างน้อยการที่เราจะยกสถานะ “เจดีย์สวมพระศพ” ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ก็เป็นการให้ความสำคัญเรื่องมนุษยธรรมและมิตรภาพกับเพื่อนบ้านที่มีประวัติศาสตร์ร่วมกันได้ดี สอดรับกับแนวคิดการเป็นพลเมืองโลกในปัจจุบันด้วย อยากให้มีการผลักดันตรงจุดนี้เหมือนกันครับ เพราะประวัติศาสตร์มีไว้ให้เรียนรู้และเข้าใจอดีตมากกว่าจะนำมาใช้เป็นเครื่องมือเพื่อสร้างกำแพงต่อกันครับ
สุดยอด ใช่เลยครับคุณ Khemanij
❤💕 เป็นกำลังใจในการทำคริปครับอาจารย์
ขอบคุณครับคุณ Pisut
@@taspien ยินดีครับอาจารย์
หนูเข้าใจว่าท่านอาจารย์เป็นผู้รู้ที่ไม่ยืดติดความรู้ เป็นผู้มีปัญญาแต่ไม่ยืดติดอัดตา เป็นนักวิชาการที่ยอมรับการโต้แย่ง. สุดยอดที่สุดค่ะขอชื่นชม
สวัสดีครับคุณ Chartchai ใช่ครับ ถ้าเราสังเกตตนเอง เราจะพบว่า แค่ตัว "ความคิด" เองก็เป็นภาระกับเราระดับหนึ่งแล้ว ยิ่งถ้าเรา "ยึดถือ ความคิด" ก็ยิ่งเป็นภาระเหนื่อยกับเราเอง เหนื่อยมากขึ้นอีกเท่า
ขอบคุณที่ติดตามรายการครับ
@@taspien ขออภัยนะค่ะท่านอาจารย์ศึกษาธรรมชันสูงแล้วกระมังค่ะสาธุๆค่ะธรรมะรักษาค่ะ
เปล่าครับ แต่รู้สึกเฉยๆครับ
กดติดตามอาจารย์เพราะคลิปนี้เลยครับ ได้แง่คิด มุมมอง มิติหลักคิด ขอบคุณมากครับ
ขอบคุณครับคุณ กิตติศักดิ์
ติดตามตลอดเลยค่ะ
ขอบคุณครับคุณ นานเท่า ไรก็รอ
ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ ถ้าหากญาติพี่น้องพ่อลูกของเราไปทำสงครามแล้วเกิดต้องตายในต่างแดน เราก็คงอยากได้ร่างของเขาผู้นั้นกลับบ้าน กรณีนี้เป็นพระศพพระมหาอุปราชาแห่งหงสาวดี ถ้าหากไพร่พล แม่ทัพนายกองปล่อยให้พระศพตกค้างอยู่ในอาณาเขตของอยุธยา ทหารทั้งกองทัพคงได้ตายยกกองทัพหรืออาจจะทั้งโคตรวงศ์เพราะปล่อยให้พระมหาอุปราชาตายคาสมรภูมินี่ก็โทษตายอยู่แล้ว ทัพพม่าคงไม่ยอมปล่อยให้พระศพถูกชิงไปเป็นแน่ เจดีย์สวมพระศพจึงมีความเป็นไปได้น้อย แต่ถ้าเป็นเจดีย์ที่สร้างไว้ระลึกถึงทหารที่ตายในสงครามทั้งสองฝ่ายข้อนี้ดูจะมีความเป็นไปได้มากกว่า ส่วนเจดีย์ที่แสดงชัยชนะเหนือหงสาวดี เจดีย์ภูเขาทองดูมีความเหมาะสมและเป็นไปได้มากที่สุดทั้งลักษณะทางศิลปกรรมตามที่อาจารย์เล่าและทำเลที่ตั้งที่อยู่นอกเกาะเมืองอยุธยาไม่มาก ในสมัยอยุธยาความยิ่งใหญ่ของเจดีย์นี้สามารถมองเห็นได้จากภายในตัวเมืองหรือเรือเดินสมุทรก็น่าจะมองเห็นได้มาจากระยะไกล
ขอบคุณครับคุณ Bandith โดยส่วนตัว ผมคิดว่า
1. ทัพพม่านำศพพระมหาอุปราชย์กลับไป
2. พระนเรศ ตรัสให้ก่อเจดีย์สวมพระศพตามธรรมเนียมโบราณ
3. เจดีย์สวมพระศพ ที่จริง หมายถึงสวมโกศที่บรรจุอัฐิของผู้ตาย(ศพ)
4. เจดีย์ที่ อ.พนมทวน ถ้าใช่จริง อาจไม่มีอัฐิ(?) เข้าใจว่าถูกสร้างขึ้นเพื่อให้เกียรติครับ
ตามหาร่องรอย ยากนะผมว่า อย่างท่านมุ้ยท่านตามหาร่องรอยเก็บไปทำฉากทำหนัง พระนเรศวร ดูแล้วลำบากแทนเลย พื้นที่เปลี่ยนไปตามกาลเวลา ตามยากมาก
ใช่ครับ คุณโน๊ต
คงต้องอาศัยเวทีแลกเปลี่ยนระหว่างชาวบ้านท้องถิ่นกับนักวิชาการ อย่างไรก็ดี ก็ย่อมจะได้ประโยชน์กับทั้งสองฝ่าย รวมถึงได้ประโยชน์กับประวัติศาสตร์โดยรวม
ได้มุมมองใหม่ๆ ดีมากเลย
ขอบคุณครับท่าน
กระจ่างชัดเลยครับ..เราเอาไปคิดรวมกันเอง..
ครับคุณสมศักดิ์
อยู่ตำบล พังตรุ มีเจดีย์ มีสี่ห้าองค์ มีคันคูแต่ไม่มีใครสำรวจ เคยเห็นมาแล้ว
ขอบคุณมากครับ
"การพัฒนาจิตใจผ่านการเรียนรู้เรื่องราวในอดีต"
อาจารย์สรุปได้ประทับใจอีกแล้วครับ❤️❤️
ขอบคุณครับคุณ Intalay ผมรู้สึกว่า ประวัติศาสตร์ มีหลายระดับหรือหลายขั้น
ขั้น 1 กรณีแย่หน่อย เราใช้ประวัติศาสตร์เป็นอาวุทธทำร้ายผู้อื่น เช่น คนไทยดูถูกเขมร คนเขมรดูถูกไทย
ขั้น 2 ดีขึ้นมา เราใช้เพื่อตอบสนองความอยากรู้ แต่ยังไม่ทันคิดเรื่องประโยชน์ต่ออนาคตมากนัก
ขั้น 3 ดีขึ้นมาอีก เราใช้เพื่อตอบสนองความอยากรู้ และตั้งแท่นสำหรับให้คนรุ่นหลังบ่มเพาะสติปัญญา
โดยภาพรวม สังคมเราอยู่ในขั้น 2 ก้าวไปสู่ 3 ครับ
สวัสดีครับผม...😊😊
สวัสดีครับคุณ New Day of Flowers love
ประวัติศาสตร์คนสมัยก่อนได้บันทึกไว้เป็นหลักฐานบางสิ่งบางอย่างนั้นบอกว่าสิ่งนี้คือเจดี.วิหารบอกว่าได้เกิดขึ้นตั้งอยู่ที่นี้สะท้อนให้เห็นว่ามีอยู่จริง..
ขอบคุณครับคุณกรไกรวีร์
ที่บ้านตากก็มีเจดีย์พุ่มข้าวบิณฑ์องค์หนึ่ง คนบ้านตากเรียกว่า พระปั๋ง สมเด็จท่านเคยเสด็จไปทอดพระเนตร ทรงสันนิษฐานว่าอาจเป็น เจดีย์ที่สร้างเป็นอนุสรณ์ในศึกชนช้าง ในจารึกสุโขทัย แต่ท่านได้สอบถามชาวบ้านว่าเป็นเจดีย์อะไรก็ไม่มีใครรู้ที่ไปที่มาแต่ก็ช่วยกันดูแลรักษาไม่ใหโดนขุดเหมือนเจดีย์อื่นๆในบริเวณใกล้เคียง พอเรื่องนี้ออกไปอะไรที่เกี่ยวกับศึกยุทธหัตถีย์ก็ตามมา ด้านใต้มีวัดร้างปัจจุบันเรียกว่าหนองช้างเผือกมีร่างทรงว่าเป็นที่ฝังศพทหารที่ตายในศึชนช้าง ด้านตะวันออกมีเจดีย์องค์หนึ่งเรียกว่าเจดีย์ท่าชัยเขาว่าเป็นที่เก็บกระดูกพวกเจ้านายที่มาทำศึกกับสุโขทัย (เคยได้ยินคนเฒ่าคนแก่เล่าว่าตรงริมน้ำที่อยู่ตรงข้ามเจดีย์มีต้นไทรใหญ่อยู่ แต่เกิดมาเห็นมันก็ตายเหลือแต่ตอแล้ว)
ขอบคุณครับ คุณน้องอลิศ FC
ผมได้ข้อมูลลึกเลย จากคนท้องถิ่นแท้ๆ
ขอเสริมคุณอลิสครับ เจดีย์พระปั๋งนั้นมีนักวิชาการบางท่านบอกว่าเป็นเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุเพราะที่นั่นเป็นวัดเก่า บางท่านก็ว่าเป็นเจดีย์อนุสรณ์ยุทธหัตถีระหว่างพระรามคำแหงกับขุนสามชนเมืองฉอดครับ แต่ยังหาข้อสรุปลงไปแน่ชัดยังไม่ได้เสียทีเดียว
คิดว่าอยู่เมืองกาญจน์บุรีคะเพราะว่ามีหลักฐานมากกว่าคะ
ขอบคุณครับคุณเทวัญ ธิมา
สวัสดีครับอาจารย์ ยังหาข้อสรุปไม่ได้จริงๆ สำหรับเจดีย์ยุทธหัตถี
สวัสดีครับคุณ Reno
ในฐานะคนเมืองกาญจนบุรี กรมราชาฯเป็นจอมบิดเบือนประวัติศาสตร์🤣🤣🤣
ผมยังไม่รู้สึกอย่างนั้นนะครับ ท่านแค่เริ่มที่หาเจดีย์สวมพระศพ แต่จบที่เจดีย์ยุทธหัตถี ถือเป็นปกติของการสืบค้นอดีตที่อาจขยับหัวข้อไปบ้าง
เป็นไปได้ไหมครับที่จะถูกลูกปืนจนต้องถอยทัพก่อน ไทยตามตามตีต่อเนื่อง สุดท้ายทนพิษบาดแผลไม่ไหวสิ้นพระชนม์ ณ.สถานที่แห่งหนึ่งพม่าจึงหมดสภาพในการสู้รบต้องยุติศึกอย่างเป็นทางการ
สวัสดีครับคุณ พิพัฒน์
ก็เป็นไปได้อยู่ครับ
@@taspien ขอบพระคุณครับอาจาร์ย ดีใจมากครับที่อาจาร์ยที่อาจาร์ยตอบให้เสมอ
ประวัติศาสตร์ตอนนี้ปรากฏแต่ในพงศาวดารของไทยเท่านั้น พงศาวดารพม่าหาได้มีไม่ ตอนแรกๆผมก็ค่อนข้างเชื่อตามพงศาดารข้างไทย แต่เมื่อโลกโซเชียลเปิดกว้างการศึกษาค้นคว้ามากขึ้น พงศวาดารข้างพม่าหากลับได้บันทึกไว้ไม่ ความจึงน่าเชื่อว่าพระศพของพระมหาอุปราชาต้องมีการอัญเชิญพระศพกลับไปเมืองหงสาวดีจริง เพราะสมเด็จพระนเรศพระองค์ท่านก็ต้องให้พระเกียริต์แห่งองค์จอมทัพของพม่าเช่นกัน คงจะให้ขุนศึกแม่ทัพของพม่าอัญเชิญพระศพกลับไปหงสาวดีจริง คงไม่มีการนำพระศพของสมเด็จพระมหาอุปราชามาบำเพ็ญกุศลแต่อย่างใด
เห็นด้วยครับ คุณ Csc โดยส่วนตัว ผมคิดว่า
1. ทัพพม่านำศพพระมหาอุปราชย์กลับไป
2. พระนเรศ ตรัสให้ก่อเจดีย์สวมพระศพตามธรรมเนียมโบราณ
3. เจดีย์สวมพระศพ ที่จริง หมายถึงสวมโกศที่บรรจุอัฐิของผู้ตาย(ศพ)
4. เจดีย์ที่ อ.พนมทวน ถ้าใช่จริง อาจไม่มีอัฐิ(?) เข้าใจว่าถูกสร้างขึ้นเพื่อให้เกียรติครับ
ผมค่อนข้างคิดว่า "เจดีย์สวมพระศพ" ในที่นี้ดูจะเป็นสำนวนที่แค่หมายถึงเจดีย์อุทิศให้คนตายเท่านั้น (ซึ่งถ้าปกติเป็นญาติพี่น้องเราเองก็คงมีโกศเถ้าอัฐิบรรจุอยู่ด้วย) ซึ่งกรณีนี้ไม่ได้มีพระศพหรืออัฐิของพระมหาอุปราชแต่อย่างใด เพราะพม่าย่อมต้องนำศพของเจ้านายเขากลับไปด้วยอย่างแน่นอน
ใช่ หลังจากกูฟันอุปราชมังสามเกียรติ์ขาดคอช้างแล้ว กูสั่งให้สร้างพระเจดีย์สวมพระศพมันไว้ ณ.ที่ยุทธตายนั้น เหตุพม่ามันชอบขังกูไว้ สถานที่ ต.หนองสาหร่าย อ.พนมทวน
จ.กาญจนบุรี
สงครามรบพุ่งที่ไหน ความตายปรากฎที่นั่น
หัวกระโหลก ช้าง ม้า คน พลทหาร รวมตลอดถึง ศาสตราวุธ ตายเปนแสนศพ.
. เจริญพร
นเรศวรย์
Naray Son.
พระศรีอารย์
ครับ
เดี๋ยวนี้พอจะเน้นเนื้อหาตรงไหนก็ทำเสียงก้อง เหมือนละครคณะเกศทิพย์ด้วย ๕๕๕
ครับ ยกตัวอย่างเก่ามาก หลายคนอาจงงว่าคืออะไร 555
ผมนึกอ.เปรมชัย เสือดำ เหมือนมากขำๆนะครับ
ครับ(ยิ้มงงๆ)
@@taspien ภาพของ อาจารย์อีกคนที่อาจารย์อ้างอิงอะครับเหมือนเสี่ยเปรมชัยเลยครับ
ดิฉันว่าเจดีย์สวมพระศพน่าจะเป็นเจดีย์ที่สร้างคล้ายๆอนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิที่กรุงเทพสร้างเพื่อระลึกถึงทหารที่เสียชีวิตในสงครามครั้งนั้นหรือเปล่าคะไม่น่าจะเป็นเจดีย์สวมพระศพพระมหาอุปราชเพราะทหารของพม่าต้องเอาพระศพกลับเมืองของเขานะคะอาจารย์คิดว่ายังไงคะ
เห็นด้วยครับ เจดีย์สวมพระศพ ที่จริง หมายถึงสวมโกศ บรรจุอัฐิของผู้ตาย(ศพ) โดยส่วนตัว ผมก็คิดว่า
1. ทัพพม่านำศพพระมหาอุปราชย์กลับไป
2. พระนเรศ ตรัสให้ก่อเจดีย์สวมพระศพตามธรรมเนียม และสร้างเพื่อให้เกียรติพระมหาอุปราชย์ครับ
อยากถามท่านว่า ตอนพระนเรศหลั่งน้ำตัดขาดหงสา ท่านยืนหรือนั่งหลั่งน้ำครับ หนังบางเรื่องก็ยืนบางเรื่องก็นั่ง ความเป็นไปได้น่าจะเป็นอย่างไร
อืม ไม่เคยหาข้อมูลเรื่องนี้เลย
ไม่แน่ใจครับ
ติดตามครับขอบคุณครับใช่ครับต้องมีใจเป็นกลาง..เพราะเราคนปัจจุบันไม่รู้จริงๆ
สวัสดีครับคุณอนุวัฒน์ หากเทียบกัน คนรุ่นเราจะเหนี่อยหน่อย
1. คนรุ่นก่อนเรา มีความเชื่อแน่นเหนียว เชื่ออย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่เปลี่ยน
2. คนรุ่นหลังเรา เริ่มต้นก็หาเหตุผล เริ่มจากข้อมูล จึงไม่ได้เชื่อแน่นเหนียวแต่ต้น
3. คนรุ่นเรา อยู่ระหว่าง 1 กับ 2 เหนื่อยหน่อย
กาลามสูตร
ครับ
ขอบคุณอาจารย์สำหรับคลิปที่เต็มไปด้วยคุณภาพเหมือนเดิมนะครับ
ขอบคุณเช่นกันครับ คุณวัชระ
ติดตามต่อไปเรื่อยๆครับชอบมากครับประวัติศาสตร์ชาติไทย
ขอบคุณครับคุณบอย
ศพพระมหาอุปราชเค้าเอากลับพม่า
ไม่มีใครเค้าทำเจดีย์บรรจุยกย่องให้ข้าศึก อันนี้คือธรรมเนียม
สวัสดีครับคุณ รักคุณเสมอ
โดยส่วนตัว ผมเห็นดังนี้
1. ทัพพม่าคงนำพระศพพระมหาอุปราชย์กลับไป
2. เจดีย์สวมพระศพ เป็นสำนวนเรียกย่อ ที่จริง คือ เจดีย์ที่สวมโกศ บรรจุอัฐิของผู้ตาย(ศพ) หรือคือเจดีย์อุทิศให้ผู้ตาย
3. ผมก็ไม่คุ้นกับการสร้างให้ศัตรูเช่นกัน แต่ที่มีข้อความอยู่ในพงศาวดารฯนั้น ผมเข้าใจว่า พระนเรศได้ก่อเจดีย์ให้ เพราะ
- พระองค์เคยรู้จักคราวอยู่พม่า 8 ปี
- เจดีย์องค์นี้ (ถ้ามีจริง) เป็นเครื่องประกาศให้ทุกฝ่ายทราบว่า พระมหาอุปราชย์สิ้นพระชนม์จริง พระนเรศเป็นผู้สังหารและเป็นผู้ชนะศึก ไม่สามารถกุข่าวลือในทำนองเป็นกษัตริย์มีบุญอภินิหาร รอดตาย ฆ่าไม่ตาย ฯลฯ
ในเมื่อมีบันทึกไว้ในพงศาวดารว่ามีการสร้างเจดีย์สวมพระศพ จะโต้แย้งว่าไม่ได้สร้างคงต้องหาหลักฐานที่เป็นลายลักษณ์อักษรมาค้านถึงจะถูกนะครับ
อืมม ก็จริง ขอบคุณครับคุณ ralph
ไม่ได้นำพระศพ กลับไป ที่หงส์สา หรือครับ
นำกลับครับ
เจดีย์นี้ ถ้ามีจริง คงสร้างเป็นที่เคารพ ไม่มีอัฐิครับ
ก็ต้องไปดูหลักฐานทางพม่าด้วย ว่าบันทึกไว้อย่างไร พม่าจะทิ้งพระศพพระมหาอุปราชไว้หรือ? ธรรมเนียมในภาคพื้นนี้ พระนเรศ จะไม่ถวายพระศพกลับไปหรือ?
ขอบคุณครับ
สิ่งเอามา ข้อมูลจากหลายที่ แต่ละที่ห่างจากสมเด็จพระนเรศวร กี่ปีละครับ แต่ละท่าน กะแตกต่าง พงศาวดารแต่ที่แตกต่างกันมาก พม่าอีกแบบไทยอีกแบบ ไม่เคยเหมือนกันเลยครับ
ห่างเยอะครับ คุณ nook
ประวัติศาสตร์อยุธยาที่เรารับรู้กันในปัจจุบัน ก็อยู่บนเงื่อนไขนี้ เนื่องจากไม่ได้อิงจารึก แต่อิงพงศาวดารฯที่คัดลอกต่อมาอีกที
ผมมีคำถาม เหตุใดเราถึงเชื่อถือ ว่าประวัติศาสตร์ที่ถูกเรียบเรียงในสมัยรัตนโกสินทร์ถึงถูกต้อง ในพงศาวดารพม่า ได้เขียนอย่างชัดเจนว่าพระมหาอุปราช ต้องปืนสิ้นพระชน และมีการนำพระศพไปประกอบพิธีกรรม ในหงสาวดี ถ้าจะดูหลักฐานอื่นๆ ก็มีการกล่าวถึงไปในหลายเหตุผล แต่ส่วนใหญ่เป็นคำบอกเล่า แต่ในพงศาวดารไทย มีการเขียนในแบบนิยาย มีการแต่งเสริมเติมแต่งอย่างแน่นอน 1มีคำพูดเชื้อเชิญพระมหาอุปราช อันนี้ไม่มีทางมีแน่นอน 2การที่แม่ทัพใหญ่ของทั้งสองทัพจะมากระทำยุธหัตถีได้นั้นต้องมีการส่งสารเนื่องจาก แม่ทัพทั้งสอง สั่งการด้วยอาณัติสัญญาณ อยู่แนวหลัง สำหรับผม ไม่เชื่อว่ามีเจดีย์ยุทธหัตถี เพราะไม่มีการยุธหัตถี เพราะผู้ที่อยู่บนหลังช้าง คือเป้าที่ถูกลอบสังหารได้ง่าย ในสงครามสมัยนั้นเริ่มมีการใช้ปืนไฟ และมีชาวต่างชาติเข้ามาร่วมในการรบแล้วในสมัยนั้น หลังจากเหตุการครั้งนั้นก็มิได้มีใครทำยุทธหัตถีอีกเลย ทำไม?
ขอบคุณครับคุณ Pittaya
ผมได้ฟังข้อมูลละเอียดเลย
1. ประเด็นเรื่อง ต้องปืนไฟ และไม่เคยมียุทธหัตถีนั้น ผมไม่มีความเห็นครับ
2. ผมเห็นด้วยว่า ทัพพม่าคงนำพระศพพระมหาอุปราชย์กลับไป
3. เจดีย์สวมพระศพ เป็นคำเรียกย่อ ที่จริง คือ เจดีย์ที่สวมโกศ บรรจุอัฐิของผู้ตาย(ศพ)
4. ที่พระนเรศตรัสให้ก่อเจดีย์สวมพระศพ เป็นการกระทำตามอย่างธรรมเนียม ซึ่งในกรณีนี้ (ถ้ามีเจดีย์นั้นอยู่จริง) เข้าใจว่า ภายในไม่มีอัฐิของผู้ตาย
ไม่ผิดครับที่คุณจะเชื่อตามพงศาดารพม่าบันทึกไว้ แต่ก็อย่าลืมว่าบันทึกทุกฉบับในโลกนี้ถูกเขียนโดยคนที่ยังมีอคติอยู่ การเขียนเพื่อให้ฝ่ายตนเองดูดีเป็นเรื่องที่เห็นได้ทั่วไป ที่ผมบอกแบบนี้ผมก็หมายถึงการบันทึกของฝ่ายไทยด้วยนะครับ เพราะฉะนั้นถ้ามองอย่างเป็นกลางๆ เมื่อมีบันทึกเรื่องเดียวกันหลายฉบับแต่มีรายละเอียดแตกต่างกัน จึงไม่ควรปักใจเชื่อหลักฐานใดเลยทั้งสิ้น เก็บเป็นข้อมูลเอาไว้นั่นคือประโยชน์ของการศึกษาประวัติศาสตร์
มีสาระน่าติดตามครับเป้นความรุ้ที่ควรศึกษา
ขอบคุณครับคุณsomesung
เหมือนเรื่องพระเจ้าอู่ทองที่เอาไปผูกกับพระรามาธิบดีที่ 1 เลย
ใช่ครับ คุณ Frame "ภาษา" มีพลังขนาดนั้น ทำให้สิ่งต่างๆ เป็นจริง
ลงชื่อครับ
สวัสดีครับคุณสุรชัย
ขอบคุณมากครับอาจารย์
ไทยเคยเป็นเมืองขึ้นพม่าใช่ไหมครับอาจารย์
สวัสดีครับคุณ วิทยา
อยุธยาขึ้นต่อหงสาวดีในช่วงแผ่นดินพระมหาธรรมราชา
สุโขทัย อยุธยา พิษณุโลก มอญรามัญ ล้านนา ล้านช้าง ล้วนเคยเข้ากับพม่าครับ รบแพ้พม่าทั้งหมด ประชากรคนล่ะกลุ่ม แต่ล้วนเป็นมิตรกันดี ต่างจากคนไทยหรือไตยที่มาจากจีนที่ไม่เคยเป็นเมืองขึ้นใคร😓คนกรุงศรีอยุธยาแท้ๆอยู่ที่พม่าตอนนี้ ส่วนที่เหลือลี้ภัยหนีกระจัดกระจายบ้าง คือเหล่าใต้อาณานิคมกรุงศรีอยุธยา(เก่า)เจ้าตากก็ยึดเอาพื้นที่โดยรอบ ไล่ตีบ้างมาขออาศัยเองบ้าง แย่งชิงกันไปๆมาลงเอยที่จุดเริ่มต้นกรุงศรีอยุธยา(เก่า)ดูๆกันครับ ใครจริงใจใครใช้กลอุบาย😐ใครเข้าข้างใคร ถามผมถ้าผมเป็นชาวมอญรามัญ ผมจะรวมกับพม่า100%เพราะน่าจะดีกว่าจะช่วยสร้างชาติให้คนสยาม เพราะมอญรามัญมาอาสารบ สุดท้ายก็ไม่ได้กลับ แถมพี่น้องยังทรยศ พม่ามาอีก มอญรามัญมาเข้าไทยเพราะชังพม่าเหมือนกันคิดว่า สยามจะช่วย ที่ไหนได้กลายเป็นผู้ร้ายเฉยเลย
ได้ความรู้มากกว่าสมัยเรียนมัธยมครับ
ขอบคุณครับ ยุคนี้สื่อแชร์ความรู้กันกว้างและลึก ผมก็ได้ความรู้มากกว่าสมัยเรียนเชนกันครับ
ธรรมเนียมแบบนี้เป็นไปได้ไหมครับว่าจะได้มายากคีมภีร์มหาวง์ของลังกา
ไม่แน่ใจครับ หมายถึง ธรรมเนียมสร้างเจดีย์สวมพระโกศ(ศพ) อุทิศให้ผู้ตายหรือครับ ? คุณอ๊อด ช่วยขยายความคัมภีร์ฯ หน่อยครับ
@@taspien มันเป็นเรื่องการยุทธหัตถีของกษัตริย์ลังกาและมีการสร้างเจดีย์ยุทธหัตถีไว้ ซึ่งคัมภีร์นี้อาจเป็นต้นแบบที่อยุธยานำมาใช้ แต่ทีนี้ใช้ในแง่ไหน คือ 1. ผู้ที่ทำศึกยุทธหัตถี นำคตินี้มาใช้โดยตรง หรือ 2. เป็นคนรุ่นหลังที่นำคตินี้มาสวมในเรื่องเล่าของเหตุการณ์
แล้วเจดีย์สวมพระศพ มีพระศพในนั้นหรือไม่ครับ
โดยส่วนตัวคิดว่าไม่มีครับคุณ korrakrit100
ที่จริง เจดีย์สวมพระศพ เป็นแค่คำเรียก หมายถึง เจดีย์สวมพระโกศที่มีอัฐิของผู้ตาย(ศพ) แต่กรณีนี้ น่าจะสร้างโดยไม่มีอัฐิ เพราะเป็นภาวะสงคราม และทัพพม่าก็คงนำพระศพกลับไปแล้ว
@@taspien ขอบคุณครับ
ตอนนั้นกับตอนนี้ไม่เหมือนกัน
ผมจำแต่องค์พระเจ้าตากกู้กรุง
เพราะถ้าไม่มีท่านก็คงจะไม่มีปทท.
อยู่ในแผนที่โลกใช่มั๊ย?
ครับคุณ ampai
ขุดดูครับ ท่ามีโคงกระดูดก็ใช่ครับ
ขอบคุณครับ คุณมารส
ควรขุดศึกษาอีกรอบและหาค่าอายุอิฐ อย่างไรก็ดี อันที่จริง สำนวนคำว่า "เจดีย์สวมพระศพ" นั้นหมายถึง เจดีย์สวม "โกศ" ที่บรรจุอัฐิของผู้ตาย(ศพ) ส่วนศพของพระมหาอุปราชย์จริงๆ นั้น ผมคิดว่า
1. ทัพพม่าน่าจะนำศพพระมหาอุปราชย์กลับไปแล้ว
2. ด้วยจะให้เกียรติแก่พระมหาอุปราชย์ พระนเรศ จึงตรัสให้ก่อเจดีย์สวมพระศพตามธรรมเนียมครับ
ผมมีคำถามครับ...พม่าจะยอมทิ้งพระศพไว้ให้หรือครับ....
สวัสดีครับ คุณสมศักดิ์ คิดว่านำกลับไปด้วย
1. เจดีย์สวมพระศพ ที่จริงหมายถึง สวมโกศที่บรรจุอัฐิของผู้ตาย(ศพ)
2. พม่าคงนำศพพระมหาอุปราชย์กลับไปด้วย
3. พระนเรศตรัสให้ก่อเจดีย์สวมพระศพนั้น เป็นการก่อเจดีย์ตามธรรมเนียม ผมคิดว่าไม่มีอัฐิอยู่ในนั้น (ถ้าก่อเจดีย์จริง)
คหสต ผมว่าไม่มีหรอก ยุทธหัตถี เหมือนแต่งขึ้นมาเหมือนบทละะครมากกว่า
ครับ
ประเด็นนี้จุดประกายให้คนไทยได้รู้ว่า นักวิชาการอิสระแทบทุกคนมุ่งไปศิลปะขอมเพื่อหากิน แล้วทอดทิ้งการค้นหาประวัติศาสตร์ของคนไทยเอง
ครับ
รื้อเจดีย์ ขุดลงไปค้นดูว่ามีโครงกระดูกอวางอยู่ที่ก้นหลุมหรือไม่ ถ้ามีและเป็นโครงกระดูกเดี่ยวๆก็จะได้ศึกษากันต่อทางพันธุกรรมว่ามีเชื่อชาติใด
สวัสดีครับคุณ อนันต
ละแวกนั้น พบโครงกระดูกผู้เสียชีวิตหลายโครง น่าจะยังไม่มีใครนำไปศึกษาด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์
อาจารทำคลิปเกี่ยวกับพระพิมโบราณบ้างสิคับเช่นพระกรุวัดบ้านกร่าง
น่าสนใจครับคุณ Moroc
ไม่มีความรู้เรื่องพระพิมพ์เลยครับ ไว้ต้องโทรไปสัมภาษณ์คนที่มีความรู้
พระพิมสวนใหญ่การสร้างมักเกี่ยวข้องกับประวัติศาสคับ
ผมว่ายุแถวอยุธยา
น่าจะหมายถึงเจดีย์ยุทธหัตถีใ่ช่ไหมครับ
ทำไมพม่ากลายเป็นมอญ มั่วหรือเปล่า อยู่มั่วสิ พม่ากับมอญ คนละเผ่าพันพันธุ์กันนะ
สวัสดีครับคุณ Davarcan
ไม่เข้าใจเหมือนกันครับว่าทำไมคนอยุธยาถึงบอกว่าเป็นกษตริย์มอญ
1. อาจหมายถึงกษัตริย์หงสาวดี
2. อาจจดผิด
3. อื่นๆ
@@taspien ไปอ่านการทำพงศาวดารของสมเด็จกรมพระยาดำรงฯ ท่านใช้คำว่าแต่งพงศาวดาร สิ่งที่มาจากการแต่งไม่วครจะใช้เป็นหลักฐานทางประวัตืศาสตร์ ประวัติศาสตร์ต้องมาจากหลักฐานชั้นต้น เช่นเรื่องพระนเรศ ก็ควรจะมาจากการบอกเล่าโดยพระนเรศจริงจากพระโอษฐ์ของท่าน แล้วมีด้วย นาย Jacques de Coutre ได้เข้าเฝ้าพระนเรศ และท่านได้เล่าเหตุการณ์ยุทธหันถี เกิดบริเวณวัดภูเขาทองอยุธยานี่แหละ ท่านเก่งกว่าที่เราเรียนมาเยอะ ขนาดฝรั่งยังกลัว จากบันทึกนาย Jacques de Coutre ทำให้รู้ว่าพระนเรศเป็นลูกโทน ไม่ทราบว่าพระมารดาคือใคร น่าจะจริง ถ้าพี่น้องท้องเดียวกัน คนละผิว เป็นไปได้อย่างไง ดำ ขาว Jacques de Coutre ไม่ได้กล่าวถึง พระสุพรรณ กลายเป็นว่าท่านอาจจะไม่มีตัวตน แต่กลายเป็นว่าพระเอกา มีพี่ชายจริงๆคนหนึ่ง ซึ่งพระนเรศได้สั่งให้ยกทัพตามไปช่วย แต่แกล้งเดินทัพช้าๆหวังให้พระนเรศโดนพม่ารุมยำให้ตายไปเลย เพื่อเขาจะได้ขึ้นงัย แต่พระนเรศชนะ เพราะท่านเก่งมากเรื่องการรบ เสร็จศึกจึงมีการสอบสวน พี่เอกาไม่ทราบพระนามถูกลงโทษโดยการเอาทอดในน้ำมันเดือดๆให้ตายช้าๆ ส่วนทหารที่ตามไม่ทันไม่แน่ใจ 6หรือ 800 คนถูกเผาทั้งเป็น พระนเรศเก่งจริงมั้ย อย่าแต่พม่า ฝรั่งยังกลัว ตอนที่ Jacques de Coutre เข้าเฝ้าท่านพึงทอดฝรั่งไป5หรือ6คน ไปหาอ่านจาก The Memoirs and Memorials of Jacques de Coutre ฉบับแปลไม่แน่ใจว่าใครพิมพ์บ้าง แต่สุดท้าย Jacques de Coutre บอก คนที่วางยาพิษฆ่าพระนเรศคือ เอกาทศรถ ไปดูรายละเอียดเอง
ครับ
ขอบคุณครับอาจารย์
ยินดีครับคุณเกษม
เชื่อโดยำม่ตรวจสอบ้ชื่อโดยไม่อ่านบันทึกหลายๆเล่มเพื่อเปรียบเทียบเชื่อโดยไม่ศึกษาให้ถ่องแท้จึงเป็ความผิดพลาดฌง่ๆถึงคนรุ่นหลัง
ครับ
กาลามะสูตร
ครับ
ขอบคุณครับอาจารย์
ยินดีครับคุณอากร
ขอบคุณครับอาจารย์
ยินดีครับคุณ Samsonice
ขอบคุณอาจารย์ที่ให้ความรู้ข้อคิดในประวัติศาสตร์อย่างกว้างขวางทำให้ผู้รับฟังมีความรู้ความคิดกว้างไปด้วย
ยินดีครับคุณ เกษ
ใช่ครัคนที่คอมเม้นต์ต่อจากผมกล่าวถูกต้องแต่คนบรรยายมั่วอ่านหนีงสือเล่มสองเล่มเท่ากับตาบอกลิงไปอ่านจดหมายเหตุกลายๆเล่มและจดหมายเหตุพม่าที่หอแก้วให้จบแล้วค่อยมาบรรยายเป็นอาจารย์ที่โคตรมั่ว
สวัสดีครับคุณเอนก
หมายถึง ในเรื่องเจดีย์ฐานสวมพระศพที่นี่เหรอครับ
เรื่องนี้มีประเด็นขุ่นเคืองใจอะไรด้วยเหรอครับ ผมยังนึกไม่ออกเลย?
การรบกันควรหาหลักฐานให้แน่ชัดก่อนเจอแค่หนังสือรมจากชาวบ้านก็สรุปว่ารบกันที่ดอนเจดีย์
เห็นด้วยครับ อย่างไรก็ดี คลิปนี้ตั้งใจชี้ประเด็นใหม่ ดังนี้
คนมักพุ่งเป้าไปที่ "จุดชนช้าง"
คลิปนี้พุ่งเป้าไปที่ "จุดสวมพระศพ"