ซีวิคใหม่ เปิดราคาถูกลง!!! พาชม Honda Civic ไมเนอร์เชนจ์ MC2024

Sdílet
Vložit
  • čas přidán 9. 09. 2024
  • Honda Civic 2024 เปิดลงทะเบียนจองสิทธิ์เพื่อเป็นเจ้าของ ซีวิค ใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2567 - 22 สิงหาคม 2567 ณ โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ พร้อมรับฟรี! บัตรเติมน้ำมันมูลค่า 5,000 บาท* เมื่อจองและรับรถ ตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคม 2567 - 31 ตุลาคม 2567* โดยจะประกาศราคาและเปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 23 สิงหาคม 2567 พร้อมกันทั้งที่งาน Big Motor Sale 2024 และโชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ
    บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ตอกย้ำความเชื่อมั่นของลูกค้า ยืนยันการดำเนินธุรกิจและลงทุนผลิตภัณฑ์ใหม่ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อเปลี่ยนผ่านสู่ xEV อย่างมั่นคง ล่าสุด ประกาศให้ลูกค้าที่สนใจลงทะเบียนจองสิทธิ์เพื่อเป็นเจ้าของ ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ ภายใต้เจเนอเรชันที่ 11 ที่มีการปรับโฉมและเพิ่มเติมคุณค่า ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2567 - วันที่ 22 สิงหาคม 2567 ได้ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ ด้วยข้อเสนอพิเศษ ฟรีบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 5,000 บาท* เมื่อทำการจองและรับรถ ตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคม 2567 - 31 ตุลาคม 2567* และเตรียมพบกับข้อเสนอดอกเบี้ยพิเศษ* สำหรับลูกค้าและครอบครัวที่เป็นเจ้าของรถยนต์ฮอนด้า รวมถึงแคมเปญ “Honda Happy Trade-in*” และข้อเสนอพิเศษอื่น ๆ ที่พร้อมมอบความคุ้มค่าให้กับลูกค้าที่สนใจ โดยจะประกาศราคาและเปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 23 สิงหาคม 2567 พร้อมเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้สัมผัสเป็นครั้งแรกที่บูทฮอนด้า ในงาน Big Motor Sale 2024 ตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคม 2567 - 1 กันยายน 2567 และที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ
    ฮอนด้า ซีวิค เป็นรถยนต์ที่ได้รับความนิยมและครองใจลูกค้าชาวไทยมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เจเนอเรชันแรก จนถึงเจเนอเรชันที่ 11 โดยสามารถครองอันดับ 1 ด้านยอดขายกลุ่มคอมแพคท์คาร์ในไทย 8 ปีซ้อน ตั้งแต่ ปี 2559 - ปัจจุบัน
    ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นย่อย ได้แก่
     รุ่น e:HEV RS ราคาประมาณการ 1,23X,XXX บาท***
     รุ่น e:HEV EL+ ราคาประมาณการ 1,09X,XXX บาท***
     รุ่น EL+ ราคาประมาณการ 1,03X,XXX บาท***
    (ราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ จะประกาศในวันที่ 23 สิงหาคม 2567)
    ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ อัปลุคดีไซน์ความสปอร์ตพรีเมียมยิ่งขึ้น
    - ใหม่! กระจังหน้าและกันชนหน้าดีไซน์สปอร์ตโฉบเฉี่ยว
    - ใหม่! ไฟท้าย LED รมดำ เสริมความมีเอกลักษณ์ในตัว
    - ใหม่! ในรุ่น e:HEV RS มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว Matte Black ดีไซน์ใหม่ สไตล์สปอร์ต
    - ใหม่! ในรุ่น EL+ เพิ่มขนาดล้ออัลลอยเป็น 17 นิ้ว
    - ใหม่! สำหรับรุ่น EL+ และ e:HEV EL+ กับสีใหม่! สีน้ำเงินแคนยอนริเวอร์ (เมทัลลิก)
    ภายในห้องโดยสารกว้างขวางสะดวกสบาย ให้ความรู้สึกเท่ สปอร์ต และทันสมัย มาพร้อมเทคโนโลยีที่มอบความสะดวกสบายเหนือระดับ
    - ใหม่! ในรุ่น e:HEV RS มาพร้อมเบาะที่นั่งลายใหม่ Prime smooth ด้วยวัสดุเบาะหนังกลับและหนังสังเคราะห์สีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง อีกทั้งตกแต่งแผงคอนโซลหน้าและแผงประตูด้านข้างสีแดงสไตล์สปอร์ต
    - ในรุ่น EL+ และ e:HEV EL+ มาพร้อมวัสดุเบาะหนังแท้และหนังสังเคราะห์สีดำ
    - ใหม่! ช่องปรับอากาศผู้โดยสารตอนหลัง ในทุกรุ่นย่อย
    - ใหม่! เบาะที่นั่งด้านหลัง แยกพับแบบ 60:40 ในทุกรุ่นย่อย เสริมความมั่นใจในทุกเส้นทางด้วยเทคโนโลยีเพื่อการขับขี่ และเทคโนโลยีความปลอดภัยล้ำสมัย**
    - ใหม่! เซนเซอร์กะระยะหน้า 4 จุด และ หลัง 4 จุด (รุ่น e:HEV EL+ และ e:HEV RS)
    - ใหม่! โหมดการขับขี่แบบ Individual (Individual Mode) ที่เพิ่มเติมมาในรุ่น e:HEV เพื่อมอบการขับขี่ที่โดนใจสไตล์คุณ ยกระดับความสบายและสุนทรียภาพในทุกการเดินทาง พร้อมเชื่อมต่อผู้ขับขี่และรถให้เป็นหนึ่งเดียว ด้วยฟังก์ชันและเทคโนโลยีอันล้ำสมัย
    - ใหม่! ระบบเครื่องเสียงพร้อมลำโพง BOSE 12 ตำแหน่ง (เฉพาะรุ่น e:HEV RS)
    - ใหม่! Google built-in แอปและบริการของ Google ที่ติดตั้งมาในตัว ในทุกรุ่นย่อย
    - ใหม่! ช่องเชื่อมต่อ USB Type C 4 ช่อง โดยแบ่งเป็น 2 ช่องด้านหน้า และ 2 ช่องด้านหลัง ในทุกรุ่นย่อย
    - ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto (TM) แบบไร้สาย และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto ในทุกรุ่นย่อย
    - ฮอนด้า คอนเนค (Honda CONNECT) เทคโนโลยีเชื่อมต่อเพื่อการสื่อสารระหว่างผู้ขับขี่และรถยนต์ ในทุกรุ่นย่อย
    มาพร้อม 2 ทางเลือกของขุมพลังการขับเคลื่อน ทั้งระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ที่มอบสมรรถนะ อันทรงพลังผ่านการทำงานร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ผสานกำลังกับเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ตอบสนองทันใจด้วยแรงบิดมอเตอร์สูงสุด 315 นิวตัน-เมตร ให้อัตราการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมถึง 25 กิโลเมตร/ลิตร มอบความแรงเกินคาดประหยัดเกินใคร ให้คุณใช้ชีวิตได้อิสระ พาคุณไปได้ไกลกว่า 800 กิโลเมตร ด้วยน้ำมัน 1 ถัง****
    และขุมพลังเทอร์โบ 1.5 ลิตร ขับสนุก แรงเร้าใจ สไตล์สปอร์ต ด้วยกำลังสูงสุด 178 แรงม้า ตอบสนองได้อย่างทันใจด้วยแรงบิดสูงสุด 240 นิวตัน-เมตร ที่ 1,700 - 4,500 รอบต่อนาที และอัตราการประหยัดน้ำมัน 17.2 กิโลเมตร/ลิตร มั่นใจด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ที่พัฒนาประสิทธิภาพการทำงาน ในทุกรุ่นย่อย

Komentáře • 127