Velikost videa: 1280 X 720853 X 480640 X 360
Zobrazit ovladače přehrávání
Automatické přehrávání
Přehrát
หลวงพ่อรูปนี้เก่งมาก เป็นหลักให้หมู่คณะได้ดี อนุโมทนา สาธุ
น้อมกราบสาธุชัดเจนเจ้าค่ะเรื่องพระอนาคามี กราบอนุโมทนาสาธุเจ้าค่ะ 🙏
ชัดเจนมากเลยค่ะพระคุณเจ้า กราบนมัสการเจ้าค่ะ
กราบน้อมนมัสการครับสาธุ
ไม่จับเงินแล้วเป็นนักปฏิบัติดีได้หรือผมว่าดีหรือไม่ดีมันไม่เกี่ยวกับเงิน
สาธุสาธุสาธุทุกสิ่งมันมีเหตุปัจจัยของมันธรรมะธรรมชาติและเป็นธรรมดา
เพื่อนร่วมงานเหมาะแก่การศึกษาธรรม เห็นแล้วยิ้มไว้เข้าใจธรรมชาติ ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เมตตากรุณามุทิตา ต่อเพื่อนร่วมงาน ผลออกมาวางอุเบกขา " ไม่รู้ไม่ชี้ๆๆ " เป็นวิถีของพุทธะ ใช้ลดละปัญหาอารมณ์แฝง ที่คอยหลอนให้ร้อนรุกทุกข์ทิ่มแทง ออกจากแอ่งของความคิดจิตเบิกบาน. 😊...ไม่รู้ไม่ชี้.ๆ.ๆ.ๆ...
สาธุ พระคุณเจ้าอธิบายได้ละเอียดชัดมาก หวังว่าพวกเขาที่หลงทางกันอยู่คงเห็นทางสว่างและหยุดก่อกรรมเสียที
พระอาจารย์ตอบได้ตรงชัดเจนมากเลย เรื่องที่พระบางรูปที่ไม่ยอมรับตามพระสูตรที่ศาสดาแสดงเอาไว้ แบบนี้ก็ต้องออกไปนั่นแหละค่ะ
สาธุครับ เป็นเรื่องธรรมดาครับเพราะความเห็นต่างกัน แม้สมัยพุทธกาลก็มีพระเทวทัตและสาวกเห็นต่างจากพระพุทธเจ้าและพระอริสาวก ตราบใดที่ยังมีมนุษย์บนโลกนี้ ความเห็นต่างย่อมมีอยู่ มีแต่ผู้มีบารมีเข้าถึงมรรคผลนิพพานเท่านั้นจึงจะรู้เห็นตามที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสสอน
กราบนมัสการพระคุณเจ้า เจ้าค่ะ
เกจทุกท่านไม่มีฌานสมาบัติวสีก็ไม่มีโสดาบันยังไม่ได้ในภาคปฏิบัติ ในขันธ์ของ พวกท่านทั้ง หลายทั้งปวง ยังไม่อุบัติบัง เกิดขึ้นจริงอยู่ในเบื่องต้นแม้แต่ท่านที่กำลังบรรยายอยู่ ก็ยังไม่มีวูบๆวาบๆแล้วก็หายไปท่าน อุปาทานขึ้นมาเองสัณญาว่าไช่ แล้วมาตั้งตน เป็นเกจิอวดอุตริอิทธิฤทธิ เดชสิ่งเหล่านี้ไม่มีในสาวกของ พุทธ์พวกท่านบรรยายเข้าข้างตัวเองมทิฐิไม่ละเราจึงไม่เห็นด้วยผิดวินัยฆงค์ท่านผิด
ขอน้อมกราบพระอาจารย์สมทบสาธุๆๆๆ
พระธรรม คือ พระพุทธ อานนท์ ! ความคิดอาจมีแก่พวกเธออย่างนี้ว่า ธรรมวินัยของพวกเรามีพระศาสดาล่วงลับไปแล้ว พวกเราไม่มีพระศาสดาดังนี้ อานนท์ ! พวกเธออย่าคิดดังนั้น อานนท์ ! ธรรมก็ดีวินัยก็ดี ที่เราแสดงแล้วบัญญัติแล้ว แก่พวกเธอทั้งหลาย ธรรมวินัยนั้น จักเป็นศาสดาของพวกเธอทั้งหลายโดยกาลล่วงไปแห่งเรา
สาธุครับผม
ฟังหลวงพ่อ เข้าใจและเห็น ธรรมขึ้นครับ
เป็นพระสอนให้คนปฏิบัติดีปฏิบัติชอบก็พอแล้ว อนาคามงคามีน่ะไม่ต้องเรียกหาก็ได้ อย่าทำให้ประชาชนลุ่มหลงกับสิ่งที่จับต้องไม่ได้มองไม่เห็น เป็นสงฆ์ควรต้องทำอะไรชาวพุทธควรทำอะไรในชีวิตประจำวัน ใครอยากรู้ลึกซึ้งกว่าชาวบ้านธรรมดาค่อยสอนดีกว่ามั้ง
ถ้าบอกเส้นทางให้รู้ชัดเจน ก็จะดีกว่า นั่นเองค่ะ พระพุทธเจ้าท่านบอกเส้นทางไว้ให้รู้ตาม แบบชัดเจนนั่นเองค่ะ คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ ศีล การเกิดปรากฏขึ้นมาของ สมาธิ คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ ปัญญา ซึ่งพระพุทธเจ้าท่านทรงบอกสอนไว้ใน ตถาคตภาษิต เป็น มรรควิธีที่ง่าย คือ การเจริญ อานาปานสติ นั่นเองค่ะ ศีล เกิด สมาธิ เกิด ปัญญา เกิด ก็จะรู้จัก อนาคามี นั่นเองค่ะ ก็จะรู้ว่า ไปเกิดใน รูปภพ เป็นแบบนี้นี่เอง
หลักธรรมในพนะพุทธศาสนามีหยาบ กลาง ละเอียดและปราณีต มีครบพร้อมสรรพ แม้บุคลคลท่านก็เปรียบดังบัวสี่เหล่า แม้ระดับภูมิรู้ภูมิธรรมก็จำแนกได้แปดจำพวก ธรรมระดับไหนเหมาะแก่ใครก็เลือกเฟ้นกันเอา ท่านตรัสไว้ทั้งอรรถ พยัญชนะ บริบูรณ์ด้วยดี พร้อมให้ท่านพิสูจน์ทุกกาลทุกเมื่อ
@@daa6857 คำสอนของพระพุทธเจ้า ที่ท่านสอนว่า สังคสามัคคี คำสอนของพระพุทธเจ้านี้จะเกิดปรากฏขึ้นมานั่นเองค่ะ ก็คือ จะมีความคิดเห็นที่ค่อยๆ ตรงตามที่พระพุทธเจ้าท่านทรงบอกสอน สัจธรรม ไว้ให้รู้ตามนั่นเองค่ะ ในคำสอนของพระพุทธเจ้า จะมี สังขตธรรม จะมี กฏอิทัปปัจจยตา จะมี ปฏิจจสมุปบาท นั่นเองค่ะ และสังขตธรรม คือ ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมา และจะเกิดปรากฏขึ้นมาแบบว่า เหมือนกันหมดเลย ไม่มีผิดเพี้ยน คือ พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมให้แก่ ปัญจวัคคีย์ทั้งห้า นั่นเองค่ะ ธรรมที่เป็นเหตุนี้จะต้องเกิดปรากฏขึ้นมาก่อนนั่นเองค่ะ ถ้าธรรมนี้ไม่เกิดปรากฏขึ้นมา อริยมรรคมีองค์แปด ก็จะไม่เกิดปรากฏขึ้นมา เส้นทาง เจโตวิมุตติ และ เส้นทาง ปัญญาวิมุตติ ก็จะไม่เกิดปรากฏขึ้นมา สัทธานุสารี ธัมมานุสารี และ บุคคล 4 คู่ 8 พวก ก็จะไม่เกิดปรากฏขึ้นมา นั่นเองค่ะ ก็จะเป็นไปตามที่ พระพุทธเจ้าท่านทรงบอกสอนไว้ให้รู้ตาม นั่นเองค่ะว่า ท่านสอนเรื่อง ความไม่เที่ยง ท่านสอนเรื่อง กฏอิทัปปัจจยตา ท่านสอนเรื่อง ปฏิจจสมุปบาท เมื่อสังขตธรรม คือ ธรรมที่เป็นเหตุนี้ ไม่เกิดปรากฏขึ้นมา อริยมรรคมีองค์แปด ก็จะไม่เกิดปรากฏขึ้นมาแน่นอน
@@daa6857 ผู้ที่ ปฏิเสธ คำสอนของพระพุทธเจ้า ที่มีอยู่ใน ตำรา เป็นการปฏิเสธ ธรรมที่เป็นเหตุนี้ด้วย นั่นเองค่ะ คือ พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมให้แก่ ปัญจวัคคีย์ทั้งห้า นั่นเองค่ะ คำสอนของพระพุทธเจ้า ที่มีอยู่ใน ตำรา จะมี สังขตธรรม จะมี กฏอิทัปปัจจยตา จะมี ปฏิจจสมุปบาท นั่นเองค่ะ ถ้าไม่มี ก็คือเป็น คำแต่งใหม่ ที่เป็น สาวกภาษิต นั่นเองค่ะ เมื่อมีศรัทธาใน สาวกภาษิต อริยมรรคมีองค์แปด ก็จะไม่ เกิดปรากฏขึ้นมา นั่นเองค่ะ
คนส่วนใหญ่ ไม่ยอมภาวนา อาศัยแต่ตำรา เป็นเครื่องวัดมรรคผล กับอาศัย ความคิดของตัวเองมาตัดสิน ก็เลยมาเถียงกัน เห็นแล้ว สลดใจมากครับ ยิ่งพวกปราถนา พุทธภูมิ ด้วยแล้วยิ่งมีความคิดความเห็นวิปลาส ไปทั้งหมดแทบจะทุกคนเลย ผิดเพี้ยนไปจาก พุทธวจนะ ทั้งนั้นเลย
คนที่ปฏิบัติธรรม ต้องรู้ว่าปฏิบัติอย่างไร เพื่ออะไร ถ้าไม่รู้ไม่แสวงหาความรู้ ปฏิบัติแบบไหน ปฏิบัติมั่วไหม ต้องศึกษาก่อน เมื่อ ปฏิบัติธรรมไปแล้ว ได้เห็นนิมิต ก็นำมาเทียบกับหลักธรรมที่ศึกษา มนุษย์ไม่มช่พระพุทธเจ้า บางอย่างเห็นในนิมิตก็ งง ว่าคืออะไร พระพุทธเจ้าสอนเรื่องสมาธิการปฏิบัติไว่ครบถ้วนมากๆ ถ้าปฏิบัติจริงจะเห็นจะรู้ข้อนี้
ถ้าผู้ที่ปรารถนาพุทธภูมิจริง ไม่อวดใคร ไม่ใช่บอกว่า ปรารถนาพุทธภูมิเพื่อลาภ สักการะพวกนั้น ไม่ได้ศรัทธาในพระพุทธเจ้าจริง ผู้ปรารถนาพุทธภูมิ จะรักเคารพพระพุทธเจ้าอย่างมาก จะพยามยาม ศึกษาเรื่องรู้อย่างถูกต้อง อันไหนไม่เเน่ใจจะไม่พูด และที่สำคัญจะไม่ยอมทำให้ศาสนา ต้องบิดเบี้ยวแันเป็นเหตุแห่ง อายุพระศาสนาสั้น ผู้ปรารถนาพุทธภูมิจะ ทำทุกอย่างเพื่อ ปกป้องคำสินที่แท้จริง และผ฿้ปรารถนาพุทธภูมิ มีสติปัญญา ในทางพระพุทธศาสนา ระดับดี สามารถแยกแยะตีความหลักธรรมได้ ดีกว่าคนทั่วไป เพราะสะสมปัญญามาหลายภพหลายชาติ จึง เข้าสมาธิได้เร็ว ตีความธรรมะได้ดี และสามารถอธิบายได้ ในข้อที่ยากไปได้ ผู้ปรารถนาพุทธภูมิ คือผู้ที่จะเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต ยัอมมีวิชาติดตัวบ้างแหละที่จะสร้างศาสนาของตนเอง
กราบสาธุๆๆ เทศน์สอนตามแนวของพระพุทธเจ้า
กะผมก็อายุ70ปีแล้วครับ. ปัญหาแบบนี้มีอยู่ทุกหน่วยงาน มีคนดี มีคนไม่ดี. แต่ต้องดูตัวเองก่อนว่าเราดีจริงหรือ. หรือว่าเราไปอิจฉาเขา. ที่จริงเราดูเราก่อน. เขากินเหล้า ถ้าเราไม่กินเราก็กับบ้าน. แต่ส่วนมากก็ไปกับเขา. พอมาถึงบ้านไปโทษเขาว่าเขาชวนไปจริงๆคิดให้ดีมันเป็นเพราะใคร
กราบอนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ อธิบายธรรมะได้ดีมากตรงคำสอนของพระพุทธเจ้า ขอให้พบแต่ความดี ไม่มีความทุกข์ นิพพานะ ปัจจะโยโหตุ
ท่านตอบปัญหาเก่ง
ทำเป็นรู้ไปได้...แล้วใครคนไหนเป็นอะนาคามีบ้างถ้าเขาเป็น...เขาจะไม่พูดเพระเขาหายสงสัยแล้ว
ชอบใจ ใน " ตัง โข ปะนิทัง ทุกขัง อะริยะสัจจัง ปะริญเญย ยันติ ครับ " ทุกข์มีไว้ให้ปัญญา เข้าไปดู เข้าไปรู้ ว่ามันเกิดมาเพราะเหตุใด เมื่อเราเข้าไปศึกษา แล้ว " จักขุง อุทะปาทิ ดวงตาเกิดขึ้นแก่เรา ญาณัง อุทะปาทิ ความรู้เกิดขึ้นแก่เรา ปัญญา อุทะปาทิ ปัญญาเกิดขึ้นแก่เรา วิชา อุทะปาทิ เรื่องราวต่างๆเกิดขึ้นแก่เรา อาโลโก อุทะปาทิ แสงสว่างส่องไล่ความมืดออกไปหมด เกิดขึ้นแก่เรา "
คนละรูป กับทีมทนายกองทัพธรรมเข้าไป กราบขอขะมาลาโทษเจ้าค่ะ คล้ายๆมากเจ้าคะ
ท่านเป็นพระที่พร้อมก้มกราบทั้งกายทั้งใจเจ้าค่ะ
น้อมกราบสาธุเจ้าค่ะ
อนุโมทนาสาธุกับคุณอี้แทนคุณด้วยค่ะ ที่ได้มาสอบ ถามเทียบเคียงหลักธรรมะกับพระอาจารย์ และขอขอบคุณที่ช่วยปกป้องพระพุทธศาสนา ขอให้เจริญรุ่งเรืองค่ะ กราบสาธุพระอาจารย์ด้วยค่ะที่ท่านได้เมตตาสรุปได้อย่างดียิ่ง
เทสน์อย่างนี้ก็เทสน์ไปเถิดสมนะ แต่โยมตาอย่าอ้างเธอบ่อยให้โอกาสโยมอมราบัาง
ถ้านับถือพุทก็แค่เชื่อและนับถือคำสอนของพะพุทเจ้าพอ.ถ้าเชื่อจะมีผลกับชีวิตคือใช้วิตได้ง่ายขึ้น อะไรจะกลับมาเกิดได้หรือไม่ได้มันไม่มีผลกับการใช้ชีวิตหรอก
พระอาจารย์พูดดีมากครับ ตรงประเด็น 👉แต่การแก้ปัญหาต่างๆ จะคิดเอา บังคับจิตใจให้เป็นแบบนั้นแบบนี้ โดยการใช้หลักศาสนามาใช้ ไม่เกิดประโยชน์ครับ ตราบใดคนนำไปใช้ ไม่ฝึกภาวนาจิตใจ ด้วยการทำสมาธิเป็นประจำ หากทำประจำ จะมีสติมากขึ้น เกิดปัญญา หลังจากนั้นการนำหลักศาสนาไปใช้ มันจะมีผลลัพธ์ที่ดีครับ
ท่านมาจาขั้วโพธิรักษ์หรือเปล่าดูไม่โกนคิ้ว
พระพุทธเจ้าไม่ห้ามโกนคิ้ว การโกนคิ้วไม่มีในพระวินัย คิ้วไม่โกนก็ได้ครับ
ไม่ใชท่านไม่โกนคุณมองด้วยท่านไม่มีผมท่านโกนเดือนละ1ครั้งมันก็ยาวแต่ผมท่านไม่มีก็มองดูว่าท่านไม่โกนคิ้ว
น้อมกราบ..พระคุณเจ้าพระอาจารย์.ด้วยเคารพครับ
❤แน่นอนเราทราบแล้วด้วยตนเอง กับมาเกิดได้แน่นอนจริงๆอย่าโกธน่ะหายใจเข้าลึกหายใจออกให้สุดโต่งยำ้อีกเพราะเรารู้แล้วว่าอนาคามีกลับมาเกิดอีกได้ ❤ใสก็อนาคามีแล้วน่ะเราอยากให้ท่านนั่งสมาธิบ่อยๆหน่อยจนชำนิชำนานด้วยน่ะยำ้กลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีกได้❤อย่าโกธนะเรื่องนี้เรารู้ได้โดยพระอรหันต์ใสนี้และนะอย่าโกธหายใจให้อิ่มๆด้วยน่ะอย่างนี้และน่ะ ❤ใส
ตกลงพุดไม่ตรงหัวข้อพุดไม่รุ้เรี่อง
อนุโมทนาสาธุในธรรมเจ้าค่ะ
ใช่ค่ะสาธุค่ะ บาปเวรกรรมรักโลภโกรธหลงเเค้นชิงชังและทุกๆกิเลสเหล่านี้หยุดตั้งนานๆ แต่ทำไหมมนุษย์ทุกๆคนยังวิ่งหาสิ่งที่กล่าวมาทำไหมค่ะ😁😁😁😁😁
สาธุๆๆค่ะปัญหามนุษย์ทุกอย่าง ท่านพระพุทธให้วิธิแก้ทุกๆสิ่งอย่างของมนุษย์ปฏิบัติคิดกระทำได้ไหมตามคำสอนแท้จริงเท่านั้นคือคำตอบของมนุษย์
กราบอนุโมทนา สาธุ กับพระอาจารย์ เจ้าค่ะ
กราบสาธุเจ้าคะพระอาจารย์ จริงที่สุดเป็นไปไม่ได้ที่พระอนาคามีจะกลับมาเกิดในกามภพตัวเชื้อยางเหนียวไม่มีอีกแล้ว แม้พระโพธิสัตว์อย่างพระเวสสันดรก็ยังเป็นปุถุชนเลยแม้จะบำเพ็ญบารมีจนเต็มแล้วก็ตามเพราะถ้าท่านเป็นพระอริยบุคคลขั้นโสดาบันแล้วท่านจะไม่ยกลูกเมียให้เป็นทานได้หรอก เพราะระดับพระโสดาบันก็รู้แล้วว่าตนเองยังไม่มีแล้วสิ่งใดจะมีได้ ยึดหรือมีสิทธิเป็นเจ้าชีวิตลูกเมียยิ่งเป็นไปไม่ได้เลย ถ้าพระโพธิสัตว์บรรลุแล้วไม่มีทางยกลูกหรือเมียให้เป็นทานได้เลย ยุคสมัยนี้คนเสื่อมถอยจากพระธรรมวินัยไปไกลมากจึงหลงไปเชื่อถือลัทธิประหลาดวิปลาสคลาดเคลื่อนอย่างน่าสังเวชกล่าวว่าตนเป็นพุทธยังไม่ได้เลย พระธรรมวินัยยังคงอยู่แผนที่เส้นทางมีอยู่โดยสมบูรณ์แต่คนไม่ศึกษาและปฏิบัติให้ถึงแก่นแท้ ชอบอะไรง่ายเข้าไว้อะไรที่ไหนว่าดีวิเศษก็เฮกันไปคิดว่าชีวิตเหมือนอาหารสำเร็จรูปเปิดกระป๋องแล้วทานได้เลย ก่อนหน้าที่หนูเริ่มโตขึ้นก็ทำตามๆพ่อแม่ไปแต่ไม่เคยเข้าใจหรือศรัธทาจนกระทั้งได้อ่านหนังสือหลวงพ่อพุทธทาสเล่มตัวกูของกูจึงทึ่งมากว่าแบบนี้แหละคือคำตอบที่ถามในใจมาตลอดว่าศาสนาพุทธคืออะไรจากนั้นก็อ่านคู่มือมนุษย์,นิพพาน,พระไตรปิฎก,พุทธธรรม รู้สึกว่าตัวเองเกิดมาชาตินี้ไม่เป็นโมฆะชีวิตพบหนทางและมีจุดสิ้นสุดของวัฎฏะสังสาร หนูชอบฟังท่านพอจ.ปอ.ปยุตโต ท่านสอนธรรมเข้าใจแจ่มแจ้งมีเหตุผลสิ้นสงสัย ได้มาพบพระอาจารย์บรรยายธรรมได้สว่างเหมือนจุดปทีปในที่มืดโชคดีจริงๆเจ้าคะ🔆
พระเวสสันดร เป็นคำแต่งใหม่ไหมครับ? หากเป็นคำแต่งใหม่พระพุทธเจ้าไม่ให้เข้าไปศึกษาใช่หรือไม่ครับ?
สาธุ ๆๆ ต้องแบบนี้ จริงๆๆ ขอ อนุญาต แชร์ นะพระคุณเจ้า สาธุ
ใครเกิดได้ก็จงทำไปถ้าประสงค์จะเกิด ใครเกิดไม่ได้ก็ชั่งหัวมันเถิด มันเรื่องของเขา ส่วนเรื่องของผู้กล่าวเทศนานั้นถ้าทำไม่ได้ก็หาได้ประโยชน์อันใดไม่ในการโต้เถียงกัน ส่วนผู้ที่เชื่อว่าไม่ได้นั้นเขาก็ใช่ว่าจะปฏิบัติไปถึงขั้นพระอนาคามีได้ในปัจจุบันนี้ ก็ล้วนแต่จินตนาการตามตัวหนังสือกันไปก็เท่านั้น สาระสำคัญที่แท้จริงคือเลิกเถียงกัน แล้วก็ให้พากันปฏิบัติไปให้ถึงระดับพระอนาคามี เมื่อถึงแล้วก็จะรู้ได้ด้วยตนเองว่าสามารถทำได้หรือไม่ได้ก็เท่านั้น จงตั้งหน้าบำเพ็ญไป อย่าเสียเวลาไปเถียงไปทะเลาะขวิดกันไปขวิดกันมาอยู่นั่นเลย ลองก้มมองดูลูกนิมิตรที่ยืนอยู่นี่ก่อนเถิด แล้วกวาดสายตามองไปโดยรอบโลกว่าบัดนี้มันได้เกิดอะไรขึ้นมาแล้วบ้างจะเตรียมตัวตั้งรับอย่างไรดี อย่าพากันเอาแต่หมกอยู่ในจินตนาการของถ้อยคำโต้เถียงกันนั่นอยู่อีกเลย เสียเวลาไปเปล้าประโยชน์
ศิษย์พระเทวทัตจะไม่เชื่อพระไตรปิฎก เรียกว่าพระอลัชชีหรือพระนอกรีต
❤///
@@user-vt5rn2km1hสำคัญอยู่ที่ตีความหมาย เหมือนศีลข้อที่หนึ่ง คนที่กินเนื้อสัตว์ บอกไม่ผิดบาป คือตีความผิด
น้อมกราบโอวาทธรรม สาธุสาธุ ครับ
ภัยในโลกวัฏฏะสงสารมีมาก ผู้ไม่ประมาทรีบบำเพ็ญกุศลให้บริบูรณ์ในศีล,สมาธิ,ปัญญา เอาธรรมเป็นที่พึ่ง ไม่มัวสงสัยในบริบทภายนอกจนวุ่นวาย รีบภาวนากันเถอะ
สาธุครับ
พระศาสดาตรัสสอนไว้ว่า ละธรรมอย่างหนึ่ง ได้อนาคามี(นัยที่๑) ... ภิกษุทั้งหลาย! เธอทั้งหลายละธรรมอย่างหนึ่งได้ เรารับรองความเป็นอนคามีของเธอทั้งหลาย ธรรมอย่างหนึ่งเป็นอย่างไร? ภิกษุทั้งหลาย! เธอทั้งหลายละธรรมอย่างหนึ่ง คือ โลภะได้ เราเป็นผู้รับรองเธอทั้งหลายเพื่อความเป็นอนาคามี. ชนผู้เห็นแจ้งทั้งหลาย รู้ชัดด้วยดีซึ่งความโลภอันเป็นเหตุให้สัตว์ผู้โลภไปสู่ทุคติ แล้วละได้ ครั้นละได้แล้ว ย่อมไม่กลับมาสู่โลกนี้อีกในกาลไหนๆ. อ้างอิง บาลี อิติวุ.ขุ๒๕/๒๒๙/๑๗๙. ... ละธรรมอย่างหนึ่ง ได้อนาคามี (นัยที่๒) ... ภิกษุทั้งหลาย! เธอทั้งหลายละธรรมอย่างหนึ่งได้ เรารับรองความเป็นอนาคามีของเธอทั้งหลาย ธรรมอย่างหนึ่งเป็นอย่างไร? ภิกษุทั้งหลาย! เธอทั้งหลายละธรรมอย่างหนึ่ง คือ โทสะได้ เรารับรองความเป็นอนาคามีเธอทั้งหลาย. ชนผู้เห็นแจ้งทั้งหลาย รู้ชัดด้วยดีซึ่งโทสะอันเป็นเหตุให้สัตว์ผู้ประทุษร้าย ไปสู่ทุคติ แล้วละได้ ครั้นละได้แล้ว ย่อมไม่มาสู่โลกนี้อีกในกาลไหนๆ. อ้างอิง บาลี อิติวุ.ขุ๒๕/๒๒๙/๑๘๐. ...ละธรรมอย่างหนึ่ง ได้อนาคามี (นัยที่๓) ... ภิกษุทั้งหลาย! เธอทั้งหลายละธรรมอย่างหนึ่งได้ เรารับรองความเป็นอนาคามีของเธอทั้งหลาย ธรรมอย่างหนึ่งเป็นอย่างไร? ภิกษุทั้งหลาย! เธอทั้งหลายละธรรมอย่างหนึ่ง คือ โมหะได้ เรารับรองความเป็นอนาคามีเธอทั้งหลาย. ชนผู้เห็นแจ้งทั้งหลาย รู้ชัดด้วยดีซึ่งโมหะอันเป็นเหตุให้สัตว์ผู้หลงไปสู่ทุคติ แล้วละได้ ครั้นละได้แล้ว ย่อมไม่มาสู่โลกนี้อีกในกาลไหนๆ. อ้างอิง บาลี อิติวุ.ขุ๒๕/๒๒๙/๑๘๑ ...ละธรรมอย่างหนึ่ง ได้อนาคามี (นัยที่๔) ... ภิกษุทั้งหลาย! เธอทั้งหลายละธรรมอย่างหนึ่งได้ เรารับรองความเป็นอนาคามีของเธอทั้งหลาย ธรรมอย่างหนึ่งเป็นอย่างไร? ภิกษุทั้งหลาย! เธอทั้งหลายละธรรมอย่างหนึ่ง คือ โกธะ(ความโกรธ)ได้ เรารับรองความเป็นอนาคามีเธอทั้งหลาย. ชนผู้เห็นแจ้งทั้งหลาย รู้ชัดด้วยดีซึ่งความโกธะอันเป็นเหตุให้สัตว์ผู้โกรธ ไปสู่ทุคติ แล้วละได้ ครั้นละได้แล้ว ย่อมไม่มาสู่โลกนี้อีกในกาลไหนๆ. อ้างอิง บาลี อิติวุ.ขุ๒๕/๒๒๙/๑๘๒. ...ละธรรมอย่างหนึ่ง ได้อนาคามี (นัยที่๕) ... ภิกษุทั้งหลาย! เธอทั้งหลายละธรรมอย่างหนึ่งได้ เรารับรองความเป็นอนาคามีของเธอทั้งหลาย ธรรมอย่างหนึ่งเป็นอย่างไร? ภิกษุทั้งหลาย! เธอทั้งหลายละธรรมอย่างหนึ่ง คือ มักขะ(ความลบหลู่คุณ)ได้ เรารับรองความเป็นอนาคามีเธอทั้งหลาย. ชนผู้เห็นแจ้งทั้งหลาย รู้ชัดด้วยดีซึ่งมักขะอันเป็นเหตุให้สัตว์ผู้ลบหลู่ไปสู่ทุคติ แล้วละได้ ครั้นละได้แล้ว ย่อมไม่มาสู่โลกนี้อีกในกาลไหนๆ. อ้างอิง บาลี อิติวุ.ขุ๒๕/๒๒๙/๑๘๓.
น้อมกราบสาธุ สาธุ สาธุเจ้าค่ะ🙏🙏🙏🪷🪷
ถ้าสมมุทท่านกลับใจอยากมาเกิดไหมอีกตำรวจจะจับใช่ไหม่ครับหลวงพ่อหรือว่าชาวบ้านจะไม่ต้อนรับท่านแล้ว..
พอจ.ถอยไม่ได้เจ้าคะ นั่งโต๊ะทำงานติดกันพูดจาส่อเสียดตลอดเวลาทุกวัน อิจฉาริษยาเราเสมอและเจ้านายก็ชอบเพราะประจบเก่ง ส่วนเราทำแต่งานผลงานออกมาดียอดขายสูงกว่าทุกคนในออฟฟิต หนูทนนิ่งเงียบมา2-3ปีจนต้องลาออกคือไม่ไหวจริงๆเจ้าคะ ทำงานที่นั่นมาเป็นเวลา9ปีสร้างฐานลูกค้าให้บริษัทเป็นจำนวนมากจากศูนย์ ถ้าลูกจ้างด้วยกันอาจทนได้แต่เจ้านายเป็นด้วยก็สุดทนคะ ตอนบริษัทจะล่มนายจ้างมาขอร้องให้หนูไปช่วยเปิดตลาดให้จนมีฐานข้อมูลลูกค้ามหาศาล ไม่ใช่หนูไม่มีขันตินะคือทนสุดๆแล้วจริงๆมลพิษเต็มบริษัทคะ
นั่งใกล้กัน ต้องลุกขึ้นถีบปาก ก่อนออก
หมดกรรมก็จากกันไปไม่ว่าเป็นหรือตาย
1:41 ทำใจว่างๆรับบุญ
ธรรมชาติจิ้งหรีดมันกัดกันอยู่เเล้วอย่ามั่ว
เช่นที่ว่ามา คือ ปัญหาโลกิยวิสัยธรรม ย่อมเป็นไปตาม โลกธรรม หนีไม่พ้นโลกธรรม 8สุข-ทุกข์นินทา-สรรเสริญมีลาภ-เสื่อมลาภมียศ-เสื่อมยศทุกคนหนีไม่พ้นโลกธรรม ทุกคนอยู่เหนือโลกธรรมได้อดทนนะครับ เช่นคุณนี้ มีทุดที่
เทศให้มีหลักพระธรรมอย่ามั่ว ในพระไตรปิฎก แปดหมื่นพระธรรมขันธ์แปดหมื่นสี่พันความคิดอย่าเทศมั่วๆๆรู้สึกมั่ว เราต้องมีความสํานึก ว่าเราบวชแล้วต้องไปในทางธรรมอย่ามายุ่งกับทางโลก
สาธุ ครับ
ถ้าพระไม่จับเงินจริงๆๆแล้วจะมีโยมสักกี่คนที่ตามรับใช้พระสงฆ์
น้อมกราบสาธุๆๆๆเจ้าค่ะ
น้อมกราบสาธุๆๆเจ้าคะ
อนาคามี จะไม่หัวเราะ เพราะเป็นกามราคะ ประจบประแจง คือการหัวเราะ เป็นการบริโภคกาม ร้องไห้ เสียใจ จะไม่มีแก่พระอนาคามี ถ้าไคร สอนว่าอนาคามี กลับชาติมาเกิดได้ ก็แสดงว่า บุคคลนั้น ทำสังฆเภท ทำให้ศรัทธา และพระสงฆ์แตกแยก เป็นบาปกรรมหนัก อนันตะริยะกรรม ตก นรก หลายแสนกัปล์
โมทนาสาธุเจ้าค่ะ
ดูตัวอย่างจาก พระเทวทัต นั่นเองค่ะ เป็นผู้ที่ได้สดับในคำสอนของพระพุทธเจ้า จะมีแยกออกมาเป็น สอง นั่นเองค่ะ สายหนึ่งเป็น การเกิดปรากฏขึ้นมาของ องคุลีมาล อีก สายหนึ่ง จะเป็นการเกิดปรากฏขึ้นมาของ พระเทวทัต นั่นเองค่ะ มีบอกสอนไว้ใน อตัมมยตา นั่นเองค่ะ องคุลีมาล และ พระเทวทัต ได้ยินได้ฟัง คำสอนของพระพุทธเจ้า ครั้งที่ 1>2>3 เหมือนๆกัน องคุลีมาล ได้ยินได้ฟัง ครั้งแรก ก็มีศรัทธาใน คำสอนของพระพุทธเจ้า 2>3 ศรัทธาที่เกิดปรากฏขึ้นมาก็ยังคงมี ศรัทธาใน คำสอนของพระพุทธเจ้า นั่นเองค่ะ พระเทวทัต ได้ยินได้ฟัง คำสอนของพระพุทธเจ้า ครั้งแรก ก็ไม่มี ศรัทธาใน คำสอนของพระพุทธเจ้า คือ มีศรัทธาใน สาวกภาษิต ก็คือ มีความคิดเห็นที่เป็น มิจฉาทิฏฐิ นั่นเองค่ะ ได้ยินได้ฟัง คำสอนของพระพุทธเจ้า ครั้งที่ 2>3 ศรัทธาที่เกิดปรากฏขึ้นมายังคงมี ศรัทธาใน สาวกภาษิต คือ ยังคงมีความคิดเห็นที่เป็น มิจฉาทิฏฐิ นั่นเองค่ะ องคุลีมาล และ พระเทวทัต ที่ได้ยินได้ฟัง คำสอนของพระพุทธเจ้า 3 ครั้งเหมือนๆกัน ศรัทธาที่เกิดปรากฏขึ้นมาก็จะค่อยๆหยั่งลงมั่น นั่นเองค่ะ มีศรัทธาอันหยั่งลงมั่น ตามมาด้วย ไม่หวั่นไหว องคุลีมาล มีศรัทธาอันหยั่งลงมั่นไม่หวั่นไหวใน คำสอนของพระพุทธเจ้า เป็นการเกิดปรากฏขึ้นมาของ โสดาบัน > สกิทาคามี > อนาคามี > อรหันต์ พระเทวทัต มีศรัทธาอันหยั่งลงมั่นไม่หวั่นไหวใน สาวกภาษิต คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ อนันตริยกรรม คือ การทำสงฆ์ให้แตกแยก ( ความแตกแยก คือ ไม่กลับมามี ศรัทธาใน คำสอนของพระพุทธเจ้า แล้วนั่นเองค่ะ) เพราะศรัทธาหยั่งลงมั่นไม่หวั่นไหวใน สาวกภาษิต แล้วนั่นเองค่ะ
กราบขออโหสิกรรมต่อท่านพระอาจารย์กระผมความเมนต์ในคริบๆหนี่ง ตำนิท่านอาจารย์เพราะท่านหน้าตาสำเนียงการพูดคล้ายๆกับพระองค์หนึ่งที่สอนว่า อยาคามีกลับมาเกิดได้ ขอท่านอาจารย์อดโทษให้ด้วยค้บ
รูปเดียวกันครับที่ทีมทนายไปหา
น้อมกราบสาธุเจ้าค่ะ💐💐💐
อนาคามี แปลตามภาษาว่า ผู้ไม่เวียนกลับมาสู่โลกอีก
นมัสการหลวงพ่อครับ
พูดดีจังเลยครับ
สาธุๆ
พูดไปเรื่อยเปลื่อย ชีวิตก็แค่เกิดมาแล้วก็ตาย ไม่มีใครกำหนดชีวิตได้
ทุกข์ในอาริยะสัตว์สี่(ความจริงเรื่องยิ่งใหญ่ของสัตว์โลก มี ๔ ประการให้เห็น(คิดได้ว่า) ๑.การเกิด ๒. การแก่๓.การแก่ และ ๔. การตาย นี้เปน(คือ)ทุกขัง(ความไม่สบายกาย ไม่สบายใจ)มิใช่ เห็นเป็นธรรมดา(มิจฉาฑิฐิ)/^ ให้เธอฯ ไม่ปรารถนาการเกิดอีกแล้ว ขอเธอฯจงรอคอยการทำกาละ ด้วย"มรณะกาเล พุทธามนุษย์สติ" นี้วัชร์ชี้นิรพาน(การไม่ผ่านภะภูมิ) เจริญพร สาธุกัน.../^^^ ด้วยพระทันตธาตุส่วนพระเขี้ยวแก้วซี่บนขวาของสมณะโคดม พุทธเจ้าความตรัสรู้จึ่งมีแก่เรา. 16 อสงไขย 100,000 มหากัปล์= 16,500,000,000 ปีมนุษย์ ปัญญาธิกะ พระพุทธเจ้า ? สักแต่ กล่าวคือ สักแต่รู้ สักแต่เหน(ตา) สักแต่ได้ยิน(หู) อย่าเอาจิตของเราไปจับ เพราะจักเกิดสุข-ทุกข์เวทนาขึ้นมาทันดล(พระโสดาบัน ต้องอุเบกขาบารมี) อินทราธิราชย์เจ้า รามเทพบุตร์ พุทธองค์ ๕ สมณะเมตตา พุทธเจ้า พระศรีอาริยะเมตไตรย์.(ป.ล. อุปัติพระศรีอารย์ ในวันศุกร์ ที่๒๑ ธันวาคม พุทธในสมณะโคดม๒๕๕๕ (Friday 21 12 2012) เวลา๙.๐๙ นาทีรับการณ์ สยามประเทศไทย์ และวันอวสานโลก(โลกไม่สานต่อหรือ วันสิ้นโลกแท้จริง)ในวันศุกร์ ที่๒๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๘๙ เวลา ๐๙.๐๙ นาทีลับการณ์ สยามประเทศไทย์ ด้วยพระศรีอารย์ ครบพระชนมาชีพ ๘๐ ปี(พุทธองค์ มีอายุ ๘๐ ปีทุกพระองค์) ด้วยดวงพระอาทิตย์ระเบิดสุริยะเทพ ราม ดับขันธุ์ปรินิรพาน เอวังฯ สวัสดี. ❤)
ปฏิบัติแล้วเกิดความสุข ความสบายใจก็ทำไปเถอะ ไม่ต้องพูดถึงบุคคลนั้นบุคคลนี้ มันเสียเวลา (ไม่มีใครเกิดทันทั้งนั้น)
ถ้า ธรรมชาติ เหล่านี้ ไม่เกิดปรากฏขึ้นมา ก็จะทำให้ ไม่รู้ นั่นเองค่ะว่า อริยมรรคมีองค์แปด เกิดปรากฏขึ้นมาหรือเปล่า การเกิดปรากฏขึ้นมาของ สัทธานุสารี ก็จะเป็นการบอกให้รู้ นั่นเองค่ะว่า เป็นการเกิดปรากฏขึ้นมาของ อริยมรรคมีองค์แปด นั่นเองค่ะ สัทธานุสารี ไม่เกิดปรากฏขึ้นมา ก็แสดงว่า อริยมรรคมีองค์แปด ก็ไม่ได้เกิดปรากฏขึ้นมา เช่นกัน นั่นเองค่ะ แล้วที่บอกว่า ปฏิบัติ เป็นการปฏิบัติ ใน ธรรมวินัย ของใคร บัญญัติ เพราะว่า ถ้าเป็นการปฏิบัติ ใน ธรรมวินัยที่เป็น การบัญญัติ ของ พระพุทธเจ้า ก็จะต้องเป็น การเกิดปรากฏขึ้นมาของ อริยมรรคมีองค์แปด นั่นเองค่ะ เป็นการเกิดปรากฏขึ้นมาของ สัทธานุสารี นั่นเองค่ะ
หลงทางตั้งแต่อาจารย์ยันถึงลูกศิษย์อนาดใจจริงๆ
สาธุสาธุสาธุเจ้าค่ะ🙏🙏🙏
ท่านอาจารย์ยังมาเกิดอีกไม่ต้องปฏิบัติธรรมหรอกครับ
สาธุๆ คับอาจารย์
สาธุ สาธุ สาธุ อนโมทามิ
กราบสาธุ ครับผม
พระอนาคมีจะไม่มาเกิดในกามภพอีก
กราบสาธุครับ
กราบสาธุค่ะ
ปีญหา อยู่ ที่พ้นทุกข์ ปัญหา เกิดเป็น อะไร คงไม่สงสัย ให้สับสนเอง ปฎิบัติไปเถอะ ปัญหาในธาตุขันธั์ เสียเวลาสองสัย
สาธุ สาธุ สาธุ
ชัดเจนครับ สาธุๆๆๆ
ผมมีความคิดเห็นว่า ในคืนที่เจ้าชายสิทธัตถะจะประกาศตนเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น พระองค์ได้เข้าสู่ความเป็นพระอริยะที่ละขั้นก่อน จนถึงขั้นพระอรหันต์ แล้วจึงประกาศตนเป็นพระพุทธเจ้าครับ
สาธุ
🙏🙏🙏เจ้าค่ะ
สาธุๆๆ
นาทีที่ 43:20 ท่านตอบชัดเจนตรงตามพระไตรปิฎกแล้วค่ะ กราบสาธุที่ท่านไม่เพิกเฉยเลยตามพวกมิจฉาทิฏฐิโมฆะบุรุษ ที่บิดเบือนกล่าวตู่คำสอนของพระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าค่ะ🙏🙏🙏
*แปลตามหลักภาษา**อาคามี = แปลว่าผู้กลับมา**น = แปลว่าไม่**หลักภาษาบาลี คำผสมกัน น เมื่อมีสระอยู่ข้างหลังแปลงเป็น อน (น+อาคามี = อนาคามี)**พระดำรัสขององสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นหนึ่งไม่มี 2 ไม่กลับมาเกิดก็คือไม่กลับมาเกิด**พระอนาคามีกลับมาได้ แต่ไม่ได้กลับมาเกิด กลับมาแต่ดวงจิตแล้วเนรมิตสังขารขึ้นมา และกลับมาทำการอนุเคราะห์ ตักเตือนบางคนที่เคยร่วมทำอะไรกันมาเท่านั้น เช่นมาตักเตือนพระโกกาลิกะ ก่อนจะถูกแผ่นดินสูบ**ตักเตือนเสร็จแล้วก็กลับ ไม่ได้อยู่นาน*
อาคามี คือ เป็นผู้ที่ต้องกลับมา ก็คือ การได้การเกิดใน รูปภพ เมื่อจุติ ก็จะต้องมาเกิดใน กามภพ อีก นั่นเองค่ะ ในส่วนของ อนาคามี เมื่อปัญญา ฌาน4 สัมมาสังกัปปะ เกิดปรากฏขึ้นมา คือ ความดำริถูก ดำริออกจาก กาม พยาบาท เบียดเบียน ได้แล้ว ก็จะไม่กลับมาเกิดใน กามภพ แล้วนั่นเองค่ะ เมื่อ จุติ ก็จะ ปรินิพพาน นั่นเองค่ะ ไปเกิดใน รูปภพ 1 คราว ก็คือ พวกสะเก็ดไฟ นั่นเองค่ะ เป็น สะเก็ดไฟพวกที่ 7 นั่นเองค่ะ ดูตัวอย่างได้จาก พระผัคคุณณะ นั่นเองค่ะ
หลวงพ่อสอนดีมาก
ตรงครับ ชัดเจน
กราบสาธุค่ะพจ.
น้อมกราบนมัสการพระอาจารย์ด้วยความเคารพอย่างสูงเจ้าค่ะ🙏🙏🙏🌺🌺🌺
🎉ทำดีกับเขาไม่ยินดีไม่ยินร้ายกับเขาคงไม่เกิดปัญหาหรอก
พระอนาคามีมาเกิดได้ ผมเชื่อ100% มาเกิดมนชั้นสุธาวาสพรหมโลก🎉
พระพุทธเจ้า ท่านทรงบอกสอนไว้ให้รู้ตามใน ตถาคตภาษิต นั่นเองค่ะ คือ ศีล สมาธิ ปัญญา ศีล จะเป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมาก่อน นั่นเองค่ะ และ มีธรรมที่เกิดแต่เหตุ คือ สมาธิ นั่นเองค่ะ และ สมาธิ ก็จะเปลี่ยนมาเป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมา และ จะมี ธรรมที่เกิดแต่เหตุ คือ ปัญญา นั่นเองค่ะ และ ปัญญา ก็จะเปลี่ยนมาเป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมา นั่นเองค่ะ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ ปัญญา ฌาน4 สัมมาสังกัปปะ คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ อนาคามี นั่นเองค่ะ ศีล เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ จะต้องเกิดปรากฏขึ้นมาก่อน นั่นเองค่ะ และ จะตามมาด้วย สมาธิ เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นตามมา และ ปัญญา เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมา นั่นเองค่ะ เป็นเส้นทาง การเกิดปรากฏขึ้นมาของ อนาคามี นั่นเองค่ะ คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ ปัญญา ฌาน4 สัมมาสังกัปปะ นั่นเองค่ะ และ อนาคามี จะมีเกิดปรากฏขึ้นมาเหมือนๆกันหมดเลย นั่นเองค่ะ ดูตัวอย่างจาก พระผัคคุณณะ นั่นเองค่ะ จากพระสูตร ผัคคุณสูตร นั่นเองค่ะ
มรรควิธีที่ง่ายที่ พระพุทธเจ้า ท่านทรงบอกสอนไว้ให้รู้ตาม คือ การเจริญ อานาปานสติ นั่นเองค่ะ ก็จะเป็นการเกิดปรากฏขึ้นมาของ ศีล ก็จะเป็นการเกิดปรากฏขึ้นมาของ สมาธิ และ จะเป็นการเกิดปรากฏขึ้นมาของ ปัญญา ฌาน4 สัมมาสังกัปปะ นั่นเองค่ะ
เจริญอานาปานสติ เป็นการเกิดปรากฏขึ้นมาของ ศีล คือ วิญญาณซึ่งเข้าถือเอารูปตั้งอยู่ก็ตั้งอยู่ได้ เป็นวิญญาณที่มีรูปเป็น อารมณ์ มีรูปเป็นที่ตั้งอาศัย มีนันทิ เป็นที่เข้าไปส้องเสพ ก็ถึงความเจริญงอกงามงามไพบูลย์ได้ / การเจริญอานาปานสติ เป็น การเกิดปรากฏขึ้นมาของ สมาธิ คือ วิญญาณ ซึ่งเข้าถือเอา เวทนา อุเบกขา ตั้งอยู่ก็ตั้งอยู่ได้ เป็น วิญญาณที่มี เวทนาอุเบกขา เป็น อารมณ์ มี เวทนาอุเบกขา เป็นที่ตั้งอาศัย มีนันทิ เป็นที่เข้าไปส้องเสพ ก็ถึงความเจริญงอกงามไพบูลย์ได้ / การเจริญ อานาปานสติ เป็น การเกิดปรากฏขึ้นมาของ ปัญญา คือ วิญญาณซึ่งเข้าถือเอา สัญญา
เรื่องเงิน มีบทบาทสําคัญในการสร้างวัดอย่างมาก
เช็คดูพระสินคิด้วยครับ😂😂😂😂😂😂😂😂😂😂😂😂😂😂
เช็คทำไมเหรอ?
อนาคามี แปลว่าผู้ไม่กลับมาเกิดอีก อ.แปลว่าไม่
❤💐🙏🙏🙏💐❤
ฟังดีสาธุสาธุสาธุขออนุโมทนาบุญเจ้าค่ะ
...แต่หลวงพ่อตอบประเด็นเกี่ยวกับพระสงฆ์ ประพฤติผิด ดูดวง ทำนายโชคชะตา...ตอบไม่ตรง หลวงพ่อโยนให้บ้านเมือง....ไม่กล้าแตะ มส. ไม่กล้าพูดถึง มส. ซึ่งเป็นศูนย์รวมอำนาจ ทั้งบริหาร นิติบัญญั๖ิ และตุลาการ...โครงสร้างระดับการบริหารคณะสงฆ์แก้ได้ หากแก้จริง.....ไม่ตรงไปตรงมา เหมือนตอบในเรื่องอื่น
คำตอบอยู่นาทีที่เท่าไรคะ
🙏🙏🙏
ตอนคุณอี้ถามเสียงติดขัดไม่ชัดเจนทุกครั้ง คงเป็นเพราะไมค์ ?
❤😂🎉สาธุๆๆ🙏🙏🙏🙏🌲🌲🌲🌲🌲🌲🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌴🌴🌴🌴🌴🌴
ความคิดส่วนตัวนะครับแค่สงสัย. สมุติว่า ถ้าพระอนาคามีไม่เกิดอีกก็เท่ากับว่าไม่มีภพภูมิอีก. ว่างเปล่าแล้วทำไม. จะไปเกิด. จุติในสุทธาวาสอีกหละ. นั้นก็แสดงว่ามีสิ่งน้อมนำให้อนคามี. เกิดได้. จุติได้นะสิ ถึงไปเกิดชั้นสุทธาวาสได้..เพียงแต่เป็นไปตามวาสนาบารมีของตนเองไม่ใช่ไม่เกิดไม่จุติ. จนกว่าจะบันลุหลุดพ้น. เป็นอรหันต์นั้นแหละจึงจะไม่เกิด. ไม่จุติอีกไม่เหมือนพระอรหันต์. ถ้าเป็นอรหันต์แล้ว. ท่านไปเลย.ไม่มีเกิดไม่มีจุติ. ไม่มีที่จะไปพักหรือจุติชั้นนั้นชั้นนี้อีก.นั้นแหละไม่เกิดจริงๆเข้านิพพานไปเลย. ต่างกันกับพระอนาคามี. ต้องไปจุติไปเกิดชั้นสุทธาวาสก่อน..ถึงจะไปนิพพานได้..แล้วจะคิดว่าไม่เกิดไม่จุติอย่างไร..ย่อมมีอยู่ก็ตรงนี้แหละ..ความคิดส่วนตัวนะ..
เขาหมายถึงมาเกิดเป็นมนุษย์รึเปล่า??!!
ความคิดเห็นของคุณ กะถูกตามที่คุณคิดเอาเอง แต่คำว่า "ไม่มาเกิดนี่ " ไม่มาเกิดในโลกมนุษย์ จ้า
@@DirtyPrince999ใช่ๆครับ
ถูกต้อง
ต้องศึกษาให้ละเอียดถึงจะเห็นความจริง
ดีกับชั่วเลือกกันไม่ต้องพระไตรปิฏกแก้กันเขียนตามความคิดเห็นคนเขียนเราก็เกิดไม่ทันว่าตามกันมา
ถ้าคิดว่าพระไตรปิฎกถูกแต่งมาก็ อย่ามานับถือครับ ถ้ายังไม่อ่านมาตีความว่าพระไตรปิฎกไม่จริงคิดเอาเอง ไม่ควร เพราะ เมื่อศึกษาแล้ว จะเห็นถึงความเชื่อมโยงกันของหลักธรรมต่างๆได้
พระไตรปิฎกเปรียบได้ดั่งพุทธพจน์ของพระพุทธเจ้าที่พระสาวกพระอานนท์ พระกัสสปะ และ พระอัครสาวก ได้รวบรวมเอาคำสอนของพระพุทธเจ้าตลอดในพระชนม์ชีพ มาบรรจุไว้ในพระไตรปิฎก ดังนี้น ไม่ว่าสิ่งใดๆ ที่นอกเหนือจากในพระไตรปิฎก คือ ไม่ใช่ ทั้งนั้น พระสงฆ์สาวก หากนอกกรอบ ไม่เชื่อในคำสอนของพระพุทธเจ้า จะได้ชื่อว่า เป็นศายกบุตรพุทธชิโนรส ได้อย่างไร เขาจะเรียกพวกนอกคำสอนว่า ลัทธิ ทั้งนั้น พระคุณเจ้า
คำสอนของพระพุทธเจ้า จะมี สังขตธรรม จะมี กฏอิทัปปัจจยตา จะมี ปฏิจจสมุปบาท (กฏอิทัปปัจจยตา หรือ หัวใจ ปฏิจจสมุปบาท) คำสอนของพระพุทธเจ้า มี สังขตธรรม คือ มี ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมา นั่นเองค่ะ / คำสอนของพระพุทธเจ้า จะมี กฏอิทัปปัจจยตา คือ มีธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมา และ มีธรรมที่เกิดแต่เหตุ นั่นเองค่ะ / คำสอนของพระพุทธเจ้า จะมี ปฏิจจสมุปบาท (กฏอิทัปปัจจยตา หรือ หัวใจ ปฏิจจสมุปบาท) คือ มีธรรมที่เป็นเหตุ และ มีธรรมที่เกิดแต่เหตุ เรียงร้อยกันและกันในการเกิดปรากฏขึ้นมา นั่นเองค่ะ / ถ้าคำสอนไหน ที่ไม่มี สังขตธรรม ไม่มี กฏอิทัปปัจจยตา ไม่มี ปฏิจจสมุปบาท เป็น คำแต่งใหม่ ที่เป็น สาวกภาษิต นั่นเองค่ะ พระพุทธเจ้าท่านบอกสอนไว้ให้รู้ตามว่า ท่านสอนเรื่อง ความไม่เที่ยง ท่านสอนเรื่อง กฏอิทัปปัจจยตา ท่านสอนเรื่อง ปฏิจจสมุปบาท นั่นเองค่ะ ก็จะมีความชัดเจนแล้วว่า สังขตธรรม กฏอิทัปปัจจยตา ปฏิจจสมุปบาท มีอยู่ใน คำสอนของพระพุทธเจ้า ทั้งหมดเลยนั่นเองค่ะ ถ้าไม่มีก็เป็น สาวกภาษิต นั่นเองค่ะ
หลวงพ่อเข้าใจผิดอะไรเยอะมากเลยเกี่ยวกับเรื่องกรรม
ไปศึกษามาใหม่ กรรมทีาหลวงพ่อพูดถูกต้องแล้ว อย่าติโดยไ
หลวงพ่อรูปนี้เก่งมาก เป็นหลักให้หมู่คณะได้ดี อนุโมทนา สาธุ
น้อมกราบสาธุชัดเจนเจ้าค่ะเรื่องพระอนาคามี กราบอนุโมทนาสาธุเจ้าค่ะ 🙏
ชัดเจนมากเลยค่ะพระคุณเจ้า กราบนมัสการเจ้าค่ะ
กราบน้อมนมัสการครับสาธุ
ไม่จับเงินแล้วเป็นนักปฏิบัติดีได้หรือผมว่าดีหรือไม่ดีมันไม่เกี่ยวกับเงิน
สาธุสาธุสาธุ
ทุกสิ่งมันมีเหตุปัจจัยของมัน
ธรรมะ
ธรรมชาติ
และเป็นธรรมดา
เพื่อนร่วมงานเหมาะแก่การศึกษาธรรม เห็นแล้วยิ้มไว้
เข้าใจธรรมชาติ ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เมตตากรุณามุทิตา ต่อเพื่อนร่วมงาน ผลออกมาวางอุเบกขา
" ไม่รู้ไม่ชี้ๆๆ " เป็นวิถี
ของพุทธะ
ใช้ลดละปัญหา
อารมณ์แฝง
ที่คอยหลอนให้ร้อนรุก
ทุกข์ทิ่มแทง
ออกจากแอ่งของความคิด
จิตเบิกบาน. 😊
...ไม่รู้ไม่ชี้.ๆ.ๆ.ๆ...
สาธุ พระคุณเจ้าอธิบายได้ละเอียดชัดมาก หวังว่าพวกเขาที่หลงทางกันอยู่คงเห็นทางสว่างและหยุดก่อกรรมเสียที
พระอาจารย์ตอบได้ตรงชัดเจนมากเลย เรื่องที่พระบางรูปที่ไม่ยอมรับตามพระสูตรที่ศาสดาแสดงเอาไว้ แบบนี้ก็ต้องออกไปนั่นแหละค่ะ
สาธุครับ เป็นเรื่องธรรมดาครับเพราะความเห็นต่างกัน แม้สมัยพุทธกาลก็มีพระเทวทัตและสาวกเห็นต่างจากพระพุทธเจ้าและพระอริสาวก ตราบใดที่ยังมีมนุษย์บนโลกนี้ ความเห็นต่างย่อมมีอยู่ มีแต่ผู้มีบารมีเข้าถึงมรรคผลนิพพานเท่านั้นจึงจะรู้เห็นตามที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสสอน
กราบนมัสการพระคุณเจ้า เจ้าค่ะ
เกจทุกท่านไม่มีฌานสมาบัติวสีก็ไม่มีโสดาบันยังไม่ได้ในภาคปฏิบัติ ในขันธ์ของ พวกท่านทั้ง หลายทั้งปวง ยังไม่อุบัติบัง เกิดขึ้นจริงอยู่ในเบื่องต้นแม้แต่ท่านที่กำลังบรรยายอยู่ ก็ยังไม่มีวูบๆวาบๆแล้วก็หายไปท่าน อุปาทานขึ้นมาเองสัณญาว่าไช่ แล้วมาตั้งตน เป็นเกจิอวดอุตริอิทธิฤทธิ เดชสิ่งเหล่านี้ไม่มีในสาวกของ พุทธ์พวกท่านบรรยายเข้าข้างตัวเองมทิฐิไม่ละเราจึงไม่เห็นด้วยผิดวินัยฆงค์ท่านผิด
ขอน้อมกราบพระอาจารย์สมทบสาธุๆๆๆ
พระธรรม คือ พระพุทธ อานนท์ ! ความคิดอาจมีแก่พวกเธออย่างนี้ว่า ธรรมวินัยของพวกเรามีพระศาสดาล่วงลับไปแล้ว พวกเราไม่มีพระศาสดาดังนี้ อานนท์ ! พวกเธออย่าคิดดังนั้น อานนท์ ! ธรรมก็ดีวินัยก็ดี ที่เราแสดงแล้วบัญญัติแล้ว แก่พวกเธอทั้งหลาย ธรรมวินัยนั้น จักเป็นศาสดาของพวกเธอทั้งหลายโดยกาลล่วงไปแห่งเรา
สาธุครับผม
ฟังหลวงพ่อ เข้าใจและเห็น ธรรมขึ้นครับ
เป็นพระสอนให้คนปฏิบัติดีปฏิบัติชอบก็พอแล้ว อนาคามงคามีน่ะไม่ต้องเรียกหาก็ได้ อย่าทำให้ประชาชนลุ่มหลงกับสิ่งที่จับต้องไม่ได้มองไม่เห็น เป็นสงฆ์ควรต้องทำอะไรชาวพุทธควรทำอะไรในชีวิตประจำวัน ใครอยากรู้ลึกซึ้งกว่าชาวบ้านธรรมดาค่อยสอนดีกว่ามั้ง
ถ้าบอกเส้นทางให้รู้ชัดเจน ก็จะดีกว่า นั่นเองค่ะ พระพุทธเจ้าท่านบอกเส้นทางไว้ให้รู้ตาม แบบชัดเจนนั่นเองค่ะ คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ ศีล การเกิดปรากฏขึ้นมาของ สมาธิ คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ ปัญญา ซึ่งพระพุทธเจ้าท่านทรงบอกสอนไว้ใน ตถาคตภาษิต เป็น มรรควิธีที่ง่าย คือ การเจริญ อานาปานสติ นั่นเองค่ะ ศีล เกิด สมาธิ เกิด ปัญญา เกิด ก็จะรู้จัก อนาคามี นั่นเองค่ะ ก็จะรู้ว่า ไปเกิดใน รูปภพ เป็นแบบนี้นี่เอง
หลักธรรมในพนะพุทธศาสนามีหยาบ กลาง ละเอียดและปราณีต มีครบพร้อมสรรพ แม้บุคลคลท่านก็เปรียบดังบัวสี่เหล่า แม้ระดับภูมิรู้ภูมิธรรมก็จำแนกได้แปดจำพวก ธรรมระดับไหนเหมาะแก่ใครก็เลือกเฟ้นกันเอา ท่านตรัสไว้ทั้งอรรถ พยัญชนะ บริบูรณ์ด้วยดี พร้อมให้ท่านพิสูจน์ทุกกาลทุกเมื่อ
@@daa6857 คำสอนของพระพุทธเจ้า ที่ท่านสอนว่า สังคสามัคคี คำสอนของพระพุทธเจ้านี้จะเกิดปรากฏขึ้นมานั่นเองค่ะ ก็คือ จะมีความคิดเห็นที่ค่อยๆ ตรงตามที่พระพุทธเจ้าท่านทรงบอกสอน สัจธรรม ไว้ให้รู้ตามนั่นเองค่ะ ในคำสอนของพระพุทธเจ้า จะมี สังขตธรรม จะมี กฏอิทัปปัจจยตา จะมี ปฏิจจสมุปบาท นั่นเองค่ะ และสังขตธรรม คือ ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมา และจะเกิดปรากฏขึ้นมาแบบว่า เหมือนกันหมดเลย ไม่มีผิดเพี้ยน คือ พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมให้แก่ ปัญจวัคคีย์ทั้งห้า นั่นเองค่ะ ธรรมที่เป็นเหตุนี้จะต้องเกิดปรากฏขึ้นมาก่อนนั่นเองค่ะ ถ้าธรรมนี้ไม่เกิดปรากฏขึ้นมา อริยมรรคมีองค์แปด ก็จะไม่เกิดปรากฏขึ้นมา เส้นทาง เจโตวิมุตติ และ เส้นทาง ปัญญาวิมุตติ ก็จะไม่เกิดปรากฏขึ้นมา สัทธานุสารี ธัมมานุสารี และ บุคคล 4 คู่ 8 พวก ก็จะไม่เกิดปรากฏขึ้นมา นั่นเองค่ะ ก็จะเป็นไปตามที่ พระพุทธเจ้าท่านทรงบอกสอนไว้ให้รู้ตาม นั่นเองค่ะว่า ท่านสอนเรื่อง ความไม่เที่ยง ท่านสอนเรื่อง กฏอิทัปปัจจยตา ท่านสอนเรื่อง ปฏิจจสมุปบาท เมื่อสังขตธรรม คือ ธรรมที่เป็นเหตุนี้ ไม่เกิดปรากฏขึ้นมา อริยมรรคมีองค์แปด ก็จะไม่เกิดปรากฏขึ้นมาแน่นอน
@@daa6857 ผู้ที่ ปฏิเสธ คำสอนของพระพุทธเจ้า ที่มีอยู่ใน ตำรา เป็นการปฏิเสธ ธรรมที่เป็นเหตุนี้ด้วย นั่นเองค่ะ คือ พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมให้แก่ ปัญจวัคคีย์ทั้งห้า นั่นเองค่ะ คำสอนของพระพุทธเจ้า ที่มีอยู่ใน ตำรา จะมี สังขตธรรม จะมี กฏอิทัปปัจจยตา จะมี ปฏิจจสมุปบาท นั่นเองค่ะ ถ้าไม่มี ก็คือเป็น คำแต่งใหม่ ที่เป็น สาวกภาษิต นั่นเองค่ะ เมื่อมีศรัทธาใน สาวกภาษิต อริยมรรคมีองค์แปด ก็จะไม่ เกิดปรากฏขึ้นมา นั่นเองค่ะ
คนส่วนใหญ่ ไม่ยอมภาวนา อาศัยแต่ตำรา เป็นเครื่องวัดมรรคผล กับอาศัย ความคิดของตัวเองมาตัดสิน ก็เลยมาเถียงกัน เห็นแล้ว สลดใจมากครับ ยิ่งพวกปราถนา พุทธภูมิ ด้วยแล้วยิ่งมีความคิดความเห็นวิปลาส ไปทั้งหมดแทบจะทุกคนเลย ผิดเพี้ยนไปจาก พุทธวจนะ ทั้งนั้นเลย
คนที่ปฏิบัติธรรม ต้องรู้ว่าปฏิบัติอย่างไร เพื่ออะไร ถ้าไม่รู้ไม่แสวงหาความรู้ ปฏิบัติแบบไหน ปฏิบัติมั่วไหม ต้องศึกษาก่อน เมื่อ ปฏิบัติธรรมไปแล้ว ได้เห็นนิมิต ก็นำมาเทียบกับหลักธรรมที่ศึกษา มนุษย์ไม่มช่พระพุทธเจ้า บางอย่างเห็นในนิมิตก็ งง ว่าคืออะไร พระพุทธเจ้าสอนเรื่องสมาธิการปฏิบัติไว่ครบถ้วนมากๆ ถ้าปฏิบัติจริงจะเห็นจะรู้ข้อนี้
ถ้าผู้ที่ปรารถนาพุทธภูมิจริง ไม่อวดใคร ไม่ใช่บอกว่า ปรารถนาพุทธภูมิเพื่อลาภ สักการะพวกนั้น ไม่ได้ศรัทธาในพระพุทธเจ้าจริง ผู้ปรารถนาพุทธภูมิ จะรักเคารพพระพุทธเจ้าอย่างมาก จะพยามยาม ศึกษาเรื่องรู้อย่างถูกต้อง อันไหนไม่เเน่ใจจะไม่พูด และที่สำคัญจะไม่ยอมทำให้ศาสนา ต้องบิดเบี้ยวแันเป็นเหตุแห่ง อายุพระศาสนาสั้น ผู้ปรารถนาพุทธภูมิจะ ทำทุกอย่างเพื่อ ปกป้องคำสินที่แท้จริง และผ฿้ปรารถนาพุทธภูมิ มีสติปัญญา ในทางพระพุทธศาสนา ระดับดี สามารถแยกแยะตีความหลักธรรมได้ ดีกว่าคนทั่วไป เพราะสะสมปัญญามาหลายภพหลายชาติ จึง เข้าสมาธิได้เร็ว ตีความธรรมะได้ดี และสามารถอธิบายได้ ในข้อที่ยากไปได้ ผู้ปรารถนาพุทธภูมิ คือผู้ที่จะเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต ยัอมมีวิชาติดตัวบ้างแหละที่จะสร้างศาสนาของตนเอง
กราบสาธุๆๆ เทศน์สอนตามแนวของพระพุทธเจ้า
กะผมก็อายุ70ปีแล้วครับ. ปัญหาแบบนี้มีอยู่ทุกหน่วยงาน มีคนดี มีคนไม่ดี. แต่ต้องดูตัวเองก่อนว่าเราดีจริงหรือ. หรือว่าเราไปอิจฉาเขา. ที่จริงเราดูเราก่อน. เขากินเหล้า ถ้าเราไม่กินเราก็กับบ้าน. แต่ส่วนมากก็ไปกับเขา. พอมาถึงบ้านไปโทษเขาว่าเขาชวนไปจริงๆคิดให้ดีมันเป็นเพราะใคร
กราบอนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ อธิบายธรรมะได้ดีมากตรงคำสอนของพระพุทธเจ้า ขอให้พบแต่ความดี ไม่มีความทุกข์ นิพพานะ ปัจจะโยโหตุ
ท่านตอบปัญหาเก่ง
ทำเป็นรู้ไปได้...แล้วใครคนไหนเป็นอะนาคามีบ้างถ้าเขาเป็น...เขาจะไม่พูดเพระเขาหายสงสัยแล้ว
ชอบใจ ใน " ตัง โข ปะนิทัง ทุกขัง อะริยะสัจจัง ปะริญเญย ยันติ ครับ " ทุกข์มีไว้ให้ปัญญา เข้าไปดู เข้าไปรู้ ว่ามันเกิดมาเพราะเหตุใด เมื่อเราเข้าไปศึกษา แล้ว " จักขุง อุทะปาทิ ดวงตาเกิดขึ้นแก่เรา ญาณัง อุทะปาทิ ความรู้เกิดขึ้นแก่เรา ปัญญา อุทะปาทิ ปัญญาเกิดขึ้นแก่เรา วิชา อุทะปาทิ เรื่องราวต่างๆเกิดขึ้นแก่เรา อาโลโก อุทะปาทิ แสงสว่างส่องไล่ความมืดออกไปหมด เกิดขึ้นแก่เรา "
คนละรูป กับทีมทนายกองทัพธรรมเข้าไป กราบขอขะมาลาโทษเจ้าค่ะ คล้ายๆมากเจ้าคะ
ท่านเป็นพระที่พร้อมก้มกราบทั้งกายทั้งใจเจ้าค่ะ
น้อมกราบสาธุเจ้าค่ะ
อนุโมทนาสาธุกับคุณอี้แทนคุณด้วยค่ะ ที่ได้มาสอบ ถามเทียบเคียงหลักธรรมะกับพระอาจารย์ และขอขอบคุณที่ช่วยปกป้องพระพุทธศาสนา ขอให้เจริญรุ่งเรืองค่ะ กราบสาธุพระอาจารย์ด้วยค่ะที่ท่านได้เมตตาสรุปได้อย่างดียิ่ง
เทสน์อย่างนี้ก็
เทสน์ไปเถิด
สมนะ แต่โยม
ตาอย่าอ้างเธอ
บ่อยให้โอกาส
โยมอมราบัาง
ถ้านับถือพุทก็แค่เชื่อและนับถือคำสอนของพะพุทเจ้าพอ.ถ้าเชื่อจะมีผลกับชีวิตคือใช้วิตได้ง่ายขึ้น อะไรจะกลับมาเกิดได้หรือไม่ได้มันไม่มีผลกับการใช้ชีวิตหรอก
พระอาจารย์พูดดีมากครับ ตรงประเด็น 👉แต่การแก้ปัญหาต่างๆ จะคิดเอา บังคับจิตใจให้เป็นแบบนั้นแบบนี้ โดยการใช้หลักศาสนามาใช้ ไม่เกิดประโยชน์ครับ ตราบใดคนนำไปใช้ ไม่ฝึกภาวนาจิตใจ ด้วยการทำสมาธิเป็นประจำ หากทำประจำ จะมีสติมากขึ้น เกิดปัญญา หลังจากนั้นการนำหลักศาสนาไปใช้ มันจะมีผลลัพธ์ที่ดีครับ
ท่านมาจาขั้วโพธิรักษ์หรือเปล่าดูไม่โกนคิ้ว
พระพุทธเจ้าไม่ห้ามโกนคิ้ว การโกนคิ้วไม่มีในพระวินัย คิ้วไม่โกนก็ได้ครับ
ไม่ใชท่านไม่โกนคุณมองด้วยท่านไม่มีผมท่านโกนเดือนละ1ครั้งมันก็ยาวแต่ผมท่านไม่มีก็มองดูว่าท่านไม่โกนคิ้ว
น้อมกราบ..พระคุณเจ้า
พระอาจารย์.ด้วยเคารพครับ
❤แน่นอนเราทราบแล้วด้วยตนเอง กับมาเกิดได้แน่นอนจริงๆอย่าโกธน่ะหายใจเข้าลึกหายใจออกให้สุดโต่งยำ้อีกเพราะเรารู้แล้วว่าอนาคามีกลับมาเกิดอีกได้ ❤ใสก็อนาคามีแล้วน่ะเราอยากให้ท่านนั่งสมาธิบ่อยๆหน่อยจนชำนิชำนานด้วยน่ะยำ้กลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีกได้❤อย่าโกธนะเรื่องนี้เรารู้ได้โดยพระอรหันต์ใสนี้และนะอย่าโกธหายใจให้อิ่มๆด้วยน่ะอย่างนี้และน่ะ ❤ใส
ตกลงพุดไม่ตรงหัวข้อพุดไม่รุ้เรี่อง
อนุโมทนาสาธุในธรรมเจ้าค่ะ
ใช่ค่ะสาธุค่ะ บาปเวรกรรมรักโลภโกรธหลงเเค้นชิงชังและทุกๆกิเลสเหล่านี้หยุดตั้งนานๆ แต่ทำไหมมนุษย์ทุกๆคนยังวิ่งหาสิ่งที่กล่าวมาทำไหมค่ะ😁😁😁😁😁
สาธุๆๆค่ะปัญหามนุษย์ทุกอย่าง ท่านพระพุทธให้วิธิแก้ทุกๆสิ่งอย่างของมนุษย์ปฏิบัติคิดกระทำได้ไหมตามคำสอนแท้จริงเท่านั้นคือคำตอบของมนุษย์
กราบอนุโมทนา สาธุ กับพระอาจารย์ เจ้าค่ะ
กราบสาธุเจ้าคะพระอาจารย์ จริงที่สุดเป็นไปไม่ได้ที่พระอนาคามีจะกลับมาเกิดในกามภพตัวเชื้อยางเหนียวไม่มีอีกแล้ว แม้พระโพธิสัตว์อย่างพระเวสสันดรก็ยังเป็นปุถุชนเลยแม้จะบำเพ็ญบารมีจนเต็มแล้วก็ตามเพราะถ้าท่านเป็นพระอริยบุคคลขั้นโสดาบันแล้วท่านจะไม่ยกลูกเมียให้เป็นทานได้หรอก เพราะระดับพระโสดาบันก็รู้แล้วว่าตนเองยังไม่มีแล้วสิ่งใดจะมีได้ ยึดหรือมีสิทธิเป็นเจ้าชีวิตลูกเมียยิ่งเป็นไปไม่ได้เลย ถ้าพระโพธิสัตว์บรรลุแล้วไม่มีทางยกลูกหรือเมียให้เป็นทานได้เลย ยุคสมัยนี้คนเสื่อมถอยจากพระธรรมวินัยไปไกลมากจึงหลงไปเชื่อถือลัทธิประหลาดวิปลาสคลาดเคลื่อนอย่างน่าสังเวชกล่าวว่าตนเป็นพุทธยังไม่ได้เลย พระธรรมวินัยยังคงอยู่แผนที่เส้นทางมีอยู่โดยสมบูรณ์แต่คนไม่ศึกษาและปฏิบัติให้ถึงแก่นแท้ ชอบอะไรง่ายเข้าไว้อะไรที่ไหนว่าดีวิเศษก็เฮกันไปคิดว่าชีวิตเหมือนอาหารสำเร็จรูปเปิดกระป๋องแล้วทานได้เลย ก่อนหน้าที่หนูเริ่มโตขึ้นก็ทำตามๆพ่อแม่ไปแต่ไม่เคยเข้าใจหรือศรัธทาจนกระทั้งได้อ่านหนังสือหลวงพ่อพุทธทาสเล่มตัวกูของกูจึงทึ่งมากว่าแบบนี้แหละคือคำตอบที่ถามในใจมาตลอดว่าศาสนาพุทธคืออะไรจากนั้นก็อ่านคู่มือมนุษย์,นิพพาน,พระไตรปิฎก,พุทธธรรม รู้สึกว่าตัวเองเกิดมาชาตินี้ไม่เป็นโมฆะชีวิตพบหนทางและมีจุดสิ้นสุดของวัฎฏะสังสาร หนูชอบฟังท่านพอจ.ปอ.ปยุตโต ท่านสอนธรรมเข้าใจแจ่มแจ้งมีเหตุผลสิ้นสงสัย ได้มาพบพระอาจารย์บรรยายธรรมได้สว่างเหมือนจุดปทีปในที่มืดโชคดีจริงๆเจ้าคะ🔆
พระเวสสันดร เป็นคำแต่งใหม่ไหมครับ? หากเป็นคำแต่งใหม่พระพุทธเจ้าไม่ให้เข้าไปศึกษาใช่หรือไม่ครับ?
สาธุ ๆๆ ต้องแบบนี้ จริงๆๆ ขอ อนุญาต แชร์ นะพระคุณเจ้า สาธุ
ใครเกิดได้ก็จงทำไปถ้าประสงค์จะเกิด ใครเกิดไม่ได้ก็ชั่งหัวมันเถิด มันเรื่องของเขา ส่วนเรื่องของผู้กล่าวเทศนานั้นถ้าทำไม่ได้ก็หาได้ประโยชน์อันใดไม่ในการโต้เถียงกัน ส่วนผู้ที่เชื่อว่าไม่ได้นั้นเขาก็ใช่ว่าจะปฏิบัติไปถึงขั้นพระอนาคามีได้ในปัจจุบันนี้ ก็ล้วนแต่จินตนาการตามตัวหนังสือกันไปก็เท่านั้น สาระสำคัญที่แท้จริงคือเลิกเถียงกัน แล้วก็ให้พากันปฏิบัติไปให้ถึงระดับพระอนาคามี เมื่อถึงแล้วก็จะรู้ได้ด้วยตนเองว่าสามารถทำได้หรือไม่ได้ก็เท่านั้น จงตั้งหน้าบำเพ็ญไป อย่าเสียเวลาไปเถียงไปทะเลาะขวิดกันไปขวิดกันมาอยู่นั่นเลย ลองก้มมองดูลูกนิมิตรที่ยืนอยู่นี่ก่อนเถิด แล้วกวาดสายตามองไปโดยรอบโลกว่าบัดนี้มันได้เกิดอะไรขึ้นมาแล้วบ้างจะเตรียมตัวตั้งรับอย่างไรดี อย่าพากันเอาแต่หมกอยู่ในจินตนาการของถ้อยคำโต้เถียงกันนั่นอยู่อีกเลย เสียเวลาไปเปล้าประโยชน์
ศิษย์พระเทวทัตจะไม่เชื่อพระไตรปิฎก เรียกว่าพระอลัชชีหรือพระนอกรีต
❤///
@@user-vt5rn2km1hสำคัญอยู่ที่ตีความหมาย เหมือนศีลข้อที่หนึ่ง คนที่กินเนื้อสัตว์ บอกไม่ผิดบาป คือตีความผิด
น้อมกราบโอวาทธรรม สาธุสาธุ ครับ
ภัยในโลกวัฏฏะสงสารมีมาก ผู้ไม่ประมาทรีบบำเพ็ญกุศลให้บริบูรณ์ในศีล,สมาธิ,ปัญญา เอาธรรมเป็นที่พึ่ง ไม่มัวสงสัยในบริบทภายนอกจนวุ่นวาย รีบภาวนากันเถอะ
สาธุครับ
พระศาสดาตรัสสอนไว้ว่า ละธรรมอย่างหนึ่ง ได้อนาคามี(นัยที่๑)
...
ภิกษุทั้งหลาย! เธอทั้งหลายละธรรมอย่างหนึ่งได้ เรารับรองความเป็นอนคามีของเธอทั้งหลาย ธรรมอย่างหนึ่งเป็นอย่างไร?
ภิกษุทั้งหลาย! เธอทั้งหลายละธรรมอย่างหนึ่ง คือ โลภะได้ เราเป็นผู้รับรองเธอทั้งหลายเพื่อความเป็นอนาคามี.
ชนผู้เห็นแจ้งทั้งหลาย รู้ชัดด้วยดีซึ่งความโลภอันเป็นเหตุให้สัตว์ผู้โลภไปสู่ทุคติ แล้วละได้ ครั้นละได้แล้ว ย่อมไม่กลับมาสู่โลกนี้อีกในกาลไหนๆ.
อ้างอิง
บาลี อิติวุ.ขุ๒๕/๒๒๙/๑๗๙.
...
ละธรรมอย่างหนึ่ง ได้อนาคามี (นัยที่๒)
...
ภิกษุทั้งหลาย! เธอทั้งหลายละธรรมอย่างหนึ่งได้ เรารับรองความเป็นอนาคามีของเธอทั้งหลาย ธรรมอย่างหนึ่งเป็นอย่างไร?
ภิกษุทั้งหลาย! เธอทั้งหลายละธรรมอย่างหนึ่ง คือ โทสะได้ เรารับรองความเป็นอนาคามีเธอทั้งหลาย.
ชนผู้เห็นแจ้งทั้งหลาย รู้ชัดด้วยดีซึ่งโทสะอันเป็นเหตุให้สัตว์ผู้ประทุษร้าย ไปสู่ทุคติ แล้วละได้ ครั้นละได้แล้ว ย่อมไม่มาสู่โลกนี้อีกในกาลไหนๆ.
อ้างอิง
บาลี อิติวุ.ขุ๒๕/๒๒๙/๑๘๐.
...
ละธรรมอย่างหนึ่ง ได้อนาคามี (นัยที่๓)
...
ภิกษุทั้งหลาย! เธอทั้งหลายละธรรมอย่างหนึ่งได้ เรารับรองความเป็นอนาคามีของเธอทั้งหลาย ธรรมอย่างหนึ่งเป็นอย่างไร?
ภิกษุทั้งหลาย! เธอทั้งหลายละธรรมอย่างหนึ่ง คือ โมหะได้ เรารับรองความเป็นอนาคามีเธอทั้งหลาย.
ชนผู้เห็นแจ้งทั้งหลาย รู้ชัดด้วยดีซึ่งโมหะอันเป็นเหตุให้สัตว์ผู้หลงไปสู่ทุคติ แล้วละได้ ครั้นละได้แล้ว ย่อมไม่มาสู่โลกนี้อีกในกาลไหนๆ.
อ้างอิง
บาลี อิติวุ.ขุ๒๕/๒๒๙/๑๘๑
...
ละธรรมอย่างหนึ่ง ได้อนาคามี (นัยที่๔)
...
ภิกษุทั้งหลาย! เธอทั้งหลายละธรรมอย่างหนึ่งได้ เรารับรองความเป็นอนาคามีของเธอทั้งหลาย ธรรมอย่างหนึ่งเป็นอย่างไร?
ภิกษุทั้งหลาย! เธอทั้งหลายละธรรมอย่างหนึ่ง คือ โกธะ(ความโกรธ)ได้ เรารับรองความเป็นอนาคามีเธอทั้งหลาย.
ชนผู้เห็นแจ้งทั้งหลาย รู้ชัดด้วยดีซึ่งความโกธะอันเป็นเหตุให้สัตว์ผู้โกรธ ไปสู่ทุคติ แล้วละได้ ครั้นละได้แล้ว ย่อมไม่มาสู่โลกนี้อีกในกาลไหนๆ.
อ้างอิง
บาลี อิติวุ.ขุ๒๕/๒๒๙/๑๘๒.
...
ละธรรมอย่างหนึ่ง ได้อนาคามี (นัยที่๕)
...
ภิกษุทั้งหลาย! เธอทั้งหลายละธรรมอย่างหนึ่งได้ เรารับรองความเป็นอนาคามีของเธอทั้งหลาย ธรรมอย่างหนึ่งเป็นอย่างไร?
ภิกษุทั้งหลาย! เธอทั้งหลายละธรรมอย่างหนึ่ง คือ มักขะ(ความลบหลู่คุณ)ได้ เรารับรองความเป็นอนาคามีเธอทั้งหลาย.
ชนผู้เห็นแจ้งทั้งหลาย รู้ชัดด้วยดีซึ่งมักขะอันเป็นเหตุให้สัตว์ผู้ลบหลู่ไปสู่ทุคติ แล้วละได้ ครั้นละได้แล้ว ย่อมไม่มาสู่โลกนี้อีกในกาลไหนๆ.
อ้างอิง
บาลี อิติวุ.ขุ๒๕/๒๒๙/๑๘๓.
น้อมกราบสาธุ สาธุ สาธุเจ้าค่ะ🙏🙏🙏🪷🪷
ถ้าสมมุทท่านกลับใจอยากมาเกิดไหมอีกตำรวจจะจับใช่ไหม่ครับหลวงพ่อหรือว่าชาวบ้านจะไม่ต้อนรับท่านแล้ว..
พอจ.ถอยไม่ได้เจ้าคะ นั่งโต๊ะทำงานติดกันพูดจาส่อเสียดตลอดเวลาทุกวัน อิจฉาริษยาเราเสมอและเจ้านายก็ชอบเพราะประจบเก่ง ส่วนเราทำแต่งานผลงานออกมาดียอดขายสูงกว่าทุกคนในออฟฟิต หนูทนนิ่งเงียบมา2-3ปีจนต้องลาออกคือไม่ไหวจริงๆเจ้าคะ ทำงานที่นั่นมาเป็นเวลา9ปีสร้างฐานลูกค้าให้บริษัทเป็นจำนวนมากจากศูนย์ ถ้าลูกจ้างด้วยกันอาจทนได้แต่เจ้านายเป็นด้วยก็สุดทนคะ ตอนบริษัทจะล่มนายจ้างมาขอร้องให้หนูไปช่วยเปิดตลาดให้จนมีฐานข้อมูลลูกค้ามหาศาล ไม่ใช่หนูไม่มีขันตินะคือทนสุดๆแล้วจริงๆมลพิษเต็มบริษัทคะ
นั่งใกล้กัน ต้องลุกขึ้นถีบปาก ก่อนออก
หมดกรรมก็จากกันไปไม่ว่าเป็นหรือตาย
1:41 ทำใจว่างๆรับบุญ
ธรรมชาติจิ้งหรีดมันกัดกันอยู่เเล้วอย่ามั่ว
เช่นที่ว่ามา คือ ปัญหาโลกิยวิสัยธรรม ย่อมเป็นไปตาม โลกธรรม หนีไม่พ้น
โลกธรรม 8
สุข-ทุกข์
นินทา-สรรเสริญ
มีลาภ-เสื่อมลาภ
มียศ-เสื่อมยศ
ทุกคนหนีไม่พ้นโลกธรรม
ทุกคนอยู่เหนือโลกธรรมได้
อดทนนะครับ เช่นคุณนี้ มีทุดที่
เทศให้มีหลักพระธรรมอย่ามั่ว ในพระไตรปิฎก แปดหมื่นพระธรรมขันธ์แปดหมื่นสี่พันความคิดอย่าเทศมั่วๆๆรู้สึกมั่ว เราต้องมีความสํานึก ว่าเราบวชแล้วต้องไปในทางธรรมอย่ามายุ่งกับทางโลก
สาธุ ครับ
ถ้าพระไม่จับเงินจริงๆๆแล้วจะมีโยมสักกี่คนที่ตามรับใช้พระสงฆ์
น้อมกราบสาธุๆๆๆเจ้าค่ะ
น้อมกราบสาธุๆๆเจ้าคะ
อนาคามี จะไม่หัวเราะ เพราะเป็นกามราคะ ประจบประแจง คือการหัวเราะ เป็นการบริโภคกาม ร้องไห้ เสียใจ จะไม่มีแก่พระอนาคามี ถ้าไคร สอนว่าอนาคามี กลับชาติมาเกิดได้ ก็แสดงว่า บุคคลนั้น ทำสังฆเภท ทำให้ศรัทธา และพระสงฆ์แตกแยก เป็นบาปกรรมหนัก อนันตะริยะกรรม ตก นรก หลายแสนกัปล์
โมทนาสาธุเจ้าค่ะ
ดูตัวอย่างจาก พระเทวทัต นั่นเองค่ะ เป็นผู้ที่ได้สดับในคำสอนของพระพุทธเจ้า จะมีแยกออกมาเป็น สอง นั่นเองค่ะ สายหนึ่งเป็น การเกิดปรากฏขึ้นมาของ องคุลีมาล อีก สายหนึ่ง จะเป็นการเกิดปรากฏขึ้นมาของ พระเทวทัต นั่นเองค่ะ มีบอกสอนไว้ใน อตัมมยตา นั่นเองค่ะ องคุลีมาล และ พระเทวทัต ได้ยินได้ฟัง คำสอนของพระพุทธเจ้า ครั้งที่ 1>2>3 เหมือนๆกัน องคุลีมาล ได้ยินได้ฟัง ครั้งแรก ก็มีศรัทธาใน คำสอนของพระพุทธเจ้า 2>3 ศรัทธาที่เกิดปรากฏขึ้นมาก็ยังคงมี ศรัทธาใน คำสอนของพระพุทธเจ้า นั่นเองค่ะ พระเทวทัต ได้ยินได้ฟัง คำสอนของพระพุทธเจ้า ครั้งแรก ก็ไม่มี ศรัทธาใน คำสอนของพระพุทธเจ้า คือ มีศรัทธาใน สาวกภาษิต ก็คือ มีความคิดเห็นที่เป็น มิจฉาทิฏฐิ นั่นเองค่ะ ได้ยินได้ฟัง คำสอนของพระพุทธเจ้า ครั้งที่ 2>3 ศรัทธาที่เกิดปรากฏขึ้นมายังคงมี ศรัทธาใน สาวกภาษิต คือ ยังคงมีความคิดเห็นที่เป็น มิจฉาทิฏฐิ นั่นเองค่ะ องคุลีมาล และ พระเทวทัต ที่ได้ยินได้ฟัง คำสอนของพระพุทธเจ้า 3 ครั้งเหมือนๆกัน ศรัทธาที่เกิดปรากฏขึ้นมาก็จะค่อยๆหยั่งลงมั่น นั่นเองค่ะ มีศรัทธาอันหยั่งลงมั่น ตามมาด้วย ไม่หวั่นไหว องคุลีมาล มีศรัทธาอันหยั่งลงมั่นไม่หวั่นไหวใน คำสอนของพระพุทธเจ้า เป็นการเกิดปรากฏขึ้นมาของ โสดาบัน > สกิทาคามี > อนาคามี > อรหันต์ พระเทวทัต มีศรัทธาอันหยั่งลงมั่นไม่หวั่นไหวใน สาวกภาษิต คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ อนันตริยกรรม คือ การทำสงฆ์ให้แตกแยก ( ความแตกแยก คือ ไม่กลับมามี ศรัทธาใน คำสอนของพระพุทธเจ้า แล้วนั่นเองค่ะ) เพราะศรัทธาหยั่งลงมั่นไม่หวั่นไหวใน สาวกภาษิต แล้วนั่นเองค่ะ
กราบขออโหสิกรรมต่อท่านพระอาจารย์กระผมความเมนต์ในคริบๆหนี่ง ตำนิท่านอาจารย์เพราะท่านหน้าตาสำเนียงการพูดคล้ายๆกับพระองค์หนึ่งที่สอนว่า อยาคามีกลับมาเกิดได้ ขอท่านอาจารย์อดโทษให้ด้วยค้บ
รูปเดียวกันครับที่ทีมทนายไปหา
น้อมกราบสาธุเจ้าค่ะ💐💐💐
อนาคามี แปลตามภาษาว่า ผู้ไม่เวียนกลับมาสู่โลกอีก
นมัสการหลวงพ่อครับ
พูดดีจังเลยครับ
สาธุๆ
พูดไปเรื่อยเปลื่อย ชีวิตก็แค่เกิดมาแล้วก็ตาย ไม่มีใครกำหนดชีวิตได้
ทุกข์ในอาริยะสัตว์สี่(ความจริงเรื่องยิ่งใหญ่ของสัตว์โลก มี ๔ ประการ
ให้เห็น(คิดได้ว่า) ๑.การเกิด ๒. การแก่
๓.การแก่ และ ๔. การตาย นี้เปน(คือ)
ทุกขัง(ความไม่สบายกาย ไม่สบายใจ)
มิใช่ เห็นเป็นธรรมดา(มิจฉาฑิฐิ)/^
ให้เธอฯ ไม่ปรารถนาการเกิดอีกแล้ว
ขอเธอฯจงรอคอยการทำกาละ ด้วย
"มรณะกาเล พุทธามนุษย์สติ" นี้วัชร์ชี้
นิรพาน(การไม่ผ่านภะภูมิ)
เจริญพร สาธุกัน.../^^^
ด้วยพระทันตธาตุส่วนพระเขี้ยวแก้วซี่บนขวาของสมณะโคดม พุทธเจ้า
ความตรัสรู้จึ่งมีแก่เรา.
16 อสงไขย 100,000 มหากัปล์
= 16,500,000,000 ปีมนุษย์
ปัญญาธิกะ พระพุทธเจ้า
? สักแต่ กล่าวคือ สักแต่รู้ สักแต่เหน(ตา) สักแต่ได้ยิน(หู)
อย่าเอาจิตของเราไปจับ เพราะจักเกิด
สุข-ทุกข์เวทนาขึ้นมาทันดล(พระโสดาบัน ต้องอุเบกขาบารมี)
อินทราธิราชย์เจ้า
รามเทพบุตร์
พุทธองค์ ๕
สมณะเมตตา พุทธเจ้า
พระศรีอาริยะเมตไตรย์.
(ป.ล. อุปัติพระศรีอารย์ ในวันศุกร์ ที่
๒๑ ธันวาคม พุทธในสมณะโคดม
๒๕๕๕ (Friday 21 12 2012) เวลา
๙.๐๙ นาทีรับการณ์ สยามประเทศไทย์ และวันอวสานโลก(โลกไม่สานต่อ
หรือ วันสิ้นโลกแท้จริง)ในวันศุกร์ ที่
๒๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๘๙ เวลา ๐๙.๐๙ นาทีลับการณ์ สยามประเทศไทย์ ด้วยพระศรีอารย์ ครบพระชนมาชีพ ๘๐ ปี(พุทธองค์ มีอายุ ๘๐ ปีทุก
พระองค์) ด้วยดวงพระอาทิตย์ระเบิด
สุริยะเทพ ราม ดับขันธุ์ปรินิรพาน เอวังฯ สวัสดี. ❤)
ปฏิบัติแล้วเกิดความสุข ความสบายใจก็ทำไปเถอะ ไม่ต้องพูดถึงบุคคลนั้นบุคคลนี้ มันเสียเวลา (ไม่มีใครเกิดทันทั้งนั้น)
ถ้า ธรรมชาติ เหล่านี้ ไม่เกิดปรากฏขึ้นมา ก็จะทำให้ ไม่รู้ นั่นเองค่ะว่า อริยมรรคมีองค์แปด เกิดปรากฏขึ้นมาหรือเปล่า การเกิดปรากฏขึ้นมาของ สัทธานุสารี ก็จะเป็นการบอกให้รู้ นั่นเองค่ะว่า เป็นการเกิดปรากฏขึ้นมาของ อริยมรรคมีองค์แปด นั่นเองค่ะ สัทธานุสารี ไม่เกิดปรากฏขึ้นมา ก็แสดงว่า อริยมรรคมีองค์แปด ก็ไม่ได้เกิดปรากฏขึ้นมา เช่นกัน นั่นเองค่ะ แล้วที่บอกว่า ปฏิบัติ เป็นการปฏิบัติ ใน ธรรมวินัย ของใคร บัญญัติ เพราะว่า ถ้าเป็นการปฏิบัติ ใน ธรรมวินัยที่เป็น การบัญญัติ ของ พระพุทธเจ้า ก็จะต้องเป็น การเกิดปรากฏขึ้นมาของ อริยมรรคมีองค์แปด นั่นเองค่ะ เป็นการเกิดปรากฏขึ้นมาของ สัทธานุสารี นั่นเองค่ะ
หลงทางตั้งแต่อาจารย์ยันถึงลูกศิษย์อนาดใจจริงๆ
สาธุสาธุสาธุเจ้าค่ะ🙏🙏🙏
ท่านอาจารย์ยังมาเกิดอีกไม่ต้องปฏิบัติธรรมหรอกครับ
สาธุๆ คับอาจารย์
สาธุ สาธุ สาธุ อนโมทามิ
กราบสาธุ ครับผม
พระอนาคมีจะไม่มาเกิดในกามภพอีก
สาธุครับผม
กราบสาธุครับ
กราบสาธุค่ะ
ปีญหา อยู่ ที่พ้นทุกข์ ปัญหา เกิดเป็น อะไร คงไม่สงสัย ให้สับสนเอง ปฎิบัติไปเถอะ ปัญหาในธาตุขันธั์ เสียเวลาสองสัย
สาธุ สาธุ สาธุ
ชัดเจนครับ สาธุๆๆๆ
ผมมีความคิดเห็นว่า ในคืนที่เจ้าชายสิทธัตถะจะประกาศตนเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
นั้น พระองค์ได้เข้าสู่ความเป็นพระอริยะที่ละขั้นก่อน จนถึงขั้นพระอรหันต์ แล้วจึงประกาศตนเป็นพระพุทธเจ้าครับ
สาธุ
🙏🙏🙏เจ้าค่ะ
สาธุๆๆ
นาทีที่ 43:20 ท่านตอบชัดเจนตรงตามพระไตรปิฎกแล้วค่ะ กราบสาธุที่ท่านไม่เพิกเฉยเลยตามพวกมิจฉาทิฏฐิโมฆะบุรุษ ที่บิดเบือนกล่าวตู่คำสอนของพระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าค่ะ🙏🙏🙏
*แปลตามหลักภาษา*
*อาคามี = แปลว่าผู้กลับมา*
*น = แปลว่าไม่*
*หลักภาษาบาลี คำผสมกัน น เมื่อมีสระอยู่ข้างหลังแปลงเป็น อน (น+อาคามี = อนาคามี)*
*พระดำรัสขององสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นหนึ่งไม่มี 2 ไม่กลับมาเกิดก็คือไม่กลับมาเกิด*
*พระอนาคามีกลับมาได้ แต่ไม่ได้กลับมาเกิด กลับมาแต่ดวงจิตแล้วเนรมิตสังขารขึ้นมา และกลับมาทำการอนุเคราะห์ ตักเตือนบางคนที่เคยร่วมทำอะไรกันมาเท่านั้น เช่นมาตักเตือนพระโกกาลิกะ ก่อนจะถูกแผ่นดินสูบ*
*ตักเตือนเสร็จแล้วก็กลับ ไม่ได้อยู่นาน*
อาคามี คือ เป็นผู้ที่ต้องกลับมา ก็คือ การได้การเกิดใน รูปภพ เมื่อจุติ ก็จะต้องมาเกิดใน กามภพ อีก นั่นเองค่ะ ในส่วนของ อนาคามี เมื่อปัญญา ฌาน4 สัมมาสังกัปปะ เกิดปรากฏขึ้นมา คือ ความดำริถูก ดำริออกจาก กาม พยาบาท เบียดเบียน ได้แล้ว ก็จะไม่กลับมาเกิดใน กามภพ แล้วนั่นเองค่ะ เมื่อ จุติ ก็จะ ปรินิพพาน นั่นเองค่ะ ไปเกิดใน รูปภพ 1 คราว ก็คือ พวกสะเก็ดไฟ นั่นเองค่ะ เป็น สะเก็ดไฟพวกที่ 7 นั่นเองค่ะ ดูตัวอย่างได้จาก พระผัคคุณณะ นั่นเองค่ะ
หลวงพ่อสอนดีมาก
ตรงครับ ชัดเจน
กราบสาธุค่ะพจ.
น้อมกราบนมัสการพระอาจารย์ด้วยความเคารพอย่างสูงเจ้าค่ะ🙏🙏🙏🌺🌺🌺
🎉ทำดีกับเขาไม่ยินดีไม่ยินร้ายกับเขาคงไม่เกิดปัญหาหรอก
พระอนาคามีมาเกิดได้ ผมเชื่อ100% มาเกิดมนชั้นสุธาวาสพรหมโลก🎉
พระพุทธเจ้า ท่านทรงบอกสอนไว้ให้รู้ตามใน ตถาคตภาษิต นั่นเองค่ะ คือ ศีล สมาธิ ปัญญา ศีล จะเป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมาก่อน นั่นเองค่ะ และ มีธรรมที่เกิดแต่เหตุ คือ สมาธิ นั่นเองค่ะ และ สมาธิ ก็จะเปลี่ยนมาเป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมา และ จะมี ธรรมที่เกิดแต่เหตุ คือ ปัญญา นั่นเองค่ะ และ ปัญญา ก็จะเปลี่ยนมาเป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมา นั่นเองค่ะ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ ปัญญา ฌาน4 สัมมาสังกัปปะ คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ อนาคามี นั่นเองค่ะ ศีล เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ จะต้องเกิดปรากฏขึ้นมาก่อน นั่นเองค่ะ และ จะตามมาด้วย สมาธิ เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นตามมา และ ปัญญา เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมา นั่นเองค่ะ เป็นเส้นทาง การเกิดปรากฏขึ้นมาของ อนาคามี นั่นเองค่ะ คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ ปัญญา ฌาน4 สัมมาสังกัปปะ นั่นเองค่ะ และ อนาคามี จะมีเกิดปรากฏขึ้นมาเหมือนๆกันหมดเลย นั่นเองค่ะ ดูตัวอย่างจาก พระผัคคุณณะ นั่นเองค่ะ จากพระสูตร ผัคคุณสูตร นั่นเองค่ะ
มรรควิธีที่ง่ายที่ พระพุทธเจ้า ท่านทรงบอกสอนไว้ให้รู้ตาม คือ การเจริญ อานาปานสติ นั่นเองค่ะ ก็จะเป็นการเกิดปรากฏขึ้นมาของ ศีล ก็จะเป็นการเกิดปรากฏขึ้นมาของ สมาธิ และ จะเป็นการเกิดปรากฏขึ้นมาของ ปัญญา ฌาน4 สัมมาสังกัปปะ นั่นเองค่ะ
เจริญอานาปานสติ เป็นการเกิดปรากฏขึ้นมาของ ศีล คือ วิญญาณซึ่งเข้าถือเอารูปตั้งอยู่ก็ตั้งอยู่ได้ เป็นวิญญาณที่มีรูปเป็น อารมณ์ มีรูปเป็นที่ตั้งอาศัย มีนันทิ เป็นที่เข้าไปส้องเสพ ก็ถึงความเจริญงอกงามงามไพบูลย์ได้ / การเจริญอานาปานสติ เป็น การเกิดปรากฏขึ้นมาของ สมาธิ คือ วิญญาณ ซึ่งเข้าถือเอา เวทนา อุเบกขา ตั้งอยู่ก็ตั้งอยู่ได้ เป็น วิญญาณที่มี เวทนาอุเบกขา เป็น อารมณ์ มี เวทนาอุเบกขา เป็นที่ตั้งอาศัย มีนันทิ เป็นที่เข้าไปส้องเสพ ก็ถึงความเจริญงอกงามไพบูลย์ได้ / การเจริญ อานาปานสติ เป็น การเกิดปรากฏขึ้นมาของ ปัญญา คือ วิญญาณซึ่งเข้าถือเอา สัญญา
เรื่องเงิน มีบทบาทสําคัญในการสร้างวัดอย่างมาก
เช็คดูพระสินคิด้วยครับ😂😂😂😂😂😂😂😂😂😂😂😂😂😂
เช็คทำไมเหรอ?
อนาคามี แปลว่าผู้ไม่กลับมาเกิดอีก อ.แปลว่าไม่
❤💐🙏🙏🙏💐❤
ฟังดีสาธุสาธุสาธุขออนุโมทนาบุญเจ้าค่ะ
...แต่หลวงพ่อตอบประเด็นเกี่ยวกับพระสงฆ์ ประพฤติผิด ดูดวง ทำนายโชคชะตา...ตอบไม่ตรง หลวงพ่อโยนให้บ้านเมือง....ไม่กล้าแตะ มส. ไม่กล้าพูดถึง มส. ซึ่งเป็นศูนย์รวมอำนาจ ทั้งบริหาร นิติบัญญั๖ิ และตุลาการ...โครงสร้างระดับการบริหารคณะสงฆ์แก้ได้ หากแก้จริง.....ไม่ตรงไปตรงมา เหมือนตอบในเรื่องอื่น
คำตอบอยู่นาทีที่เท่าไรคะ
🙏🙏🙏
ตอนคุณอี้ถามเสียงติดขัดไม่ชัดเจนทุกครั้ง คงเป็นเพราะไมค์ ?
❤😂🎉สาธุๆๆ🙏🙏🙏🙏🌲🌲🌲🌲🌲🌲🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌴🌴🌴🌴🌴🌴
ความคิดส่วนตัวนะครับ
แค่สงสัย. สมุติว่า ถ้าพระอนาคามีไม่เกิดอีกก็เท่ากับว่า
ไม่มีภพภูมิอีก. ว่างเปล่า
แล้วทำไม. จะไปเกิด. จุติใน
สุทธาวาสอีกหละ. นั้นก็แสดงว่ามีสิ่งน้อมนำให้อนคามี. เกิดได้. จุติได้นะสิ ถึงไปเกิดชั้นสุทธาวาสได้..เพียงแต่เป็นไป
ตามวาสนาบารมีของตนเอง
ไม่ใช่ไม่เกิดไม่จุติ. จนกว่าจะ
บันลุหลุดพ้น. เป็นอรหันต์นั้นแหละจึงจะไม่เกิด. ไม่จุติอีก
ไม่เหมือนพระอรหันต์. ถ้าเป็น
อรหันต์แล้ว. ท่านไปเลย.ไม่มีเกิดไม่มีจุติ. ไม่มีที่จะไปพัก
หรือจุติชั้นนั้นชั้นนี้อีก.นั้นแหละไม่เกิดจริงๆเข้านิพพาน
ไปเลย. ต่างกันกับพระอนาคามี. ต้องไปจุติไปเกิด
ชั้นสุทธาวาสก่อน..ถึงจะไปนิพพานได้..แล้วจะคิดว่าไม่เกิดไม่จุติอย่างไร..ย่อมมีอยู่
ก็ตรงนี้แหละ..ความคิดส่วนตัวนะ..
เขาหมายถึงมาเกิดเป็นมนุษย์รึเปล่า??!!
ความคิดเห็นของคุณ กะถูกตามที่คุณคิดเอาเอง
แต่คำว่า "ไม่มาเกิดนี่ " ไม่มาเกิดในโลกมนุษย์ จ้า
@@DirtyPrince999ใช่ๆครับ
ถูกต้อง
ต้องศึกษาให้ละเอียดถึงจะเห็นความจริง
ดีกับชั่วเลือกกัน
ไม่ต้องพระไตรปิฏกแก้กันเขียนตามความคิดเห็นคนเขียนเราก็เกิดไม่ทันว่าตามกันมา
ถ้าคิดว่าพระไตรปิฎกถูกแต่งมาก็ อย่ามานับถือครับ ถ้ายังไม่อ่านมาตีความว่าพระไตรปิฎกไม่จริงคิดเอาเอง ไม่ควร เพราะ เมื่อศึกษาแล้ว จะเห็นถึงความเชื่อมโยงกันของหลักธรรมต่างๆได้
พระไตรปิฎกเปรียบได้ดั่งพุทธพจน์ของพระพุทธเจ้าที่พระสาวกพระอานนท์ พระกัสสปะ และ พระอัครสาวก ได้รวบรวมเอาคำสอนของพระพุทธเจ้าตลอดในพระชนม์ชีพ มาบรรจุไว้ในพระไตรปิฎก ดังนี้น ไม่ว่าสิ่งใดๆ ที่นอกเหนือจากในพระไตรปิฎก คือ ไม่ใช่ ทั้งนั้น พระสงฆ์สาวก หากนอกกรอบ ไม่เชื่อในคำสอนของพระพุทธเจ้า จะได้ชื่อว่า เป็นศายกบุตรพุทธชิโนรส ได้อย่างไร เขาจะเรียกพวกนอกคำสอนว่า ลัทธิ ทั้งนั้น พระคุณเจ้า
คำสอนของพระพุทธเจ้า จะมี สังขตธรรม จะมี กฏอิทัปปัจจยตา จะมี ปฏิจจสมุปบาท (กฏอิทัปปัจจยตา หรือ หัวใจ ปฏิจจสมุปบาท) คำสอนของพระพุทธเจ้า มี สังขตธรรม คือ มี ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมา นั่นเองค่ะ / คำสอนของพระพุทธเจ้า จะมี กฏอิทัปปัจจยตา คือ มีธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมา และ มีธรรมที่เกิดแต่เหตุ นั่นเองค่ะ / คำสอนของพระพุทธเจ้า จะมี ปฏิจจสมุปบาท (กฏอิทัปปัจจยตา หรือ หัวใจ ปฏิจจสมุปบาท) คือ มีธรรมที่เป็นเหตุ และ มีธรรมที่เกิดแต่เหตุ เรียงร้อยกันและกันในการเกิดปรากฏขึ้นมา นั่นเองค่ะ / ถ้าคำสอนไหน ที่ไม่มี สังขตธรรม ไม่มี กฏอิทัปปัจจยตา ไม่มี ปฏิจจสมุปบาท เป็น คำแต่งใหม่ ที่เป็น สาวกภาษิต นั่นเองค่ะ พระพุทธเจ้าท่านบอกสอนไว้ให้รู้ตามว่า ท่านสอนเรื่อง ความไม่เที่ยง ท่านสอนเรื่อง กฏอิทัปปัจจยตา ท่านสอนเรื่อง ปฏิจจสมุปบาท นั่นเองค่ะ ก็จะมีความชัดเจนแล้วว่า สังขตธรรม กฏอิทัปปัจจยตา ปฏิจจสมุปบาท มีอยู่ใน คำสอนของพระพุทธเจ้า ทั้งหมดเลยนั่นเองค่ะ ถ้าไม่มีก็เป็น สาวกภาษิต นั่นเองค่ะ
หลวงพ่อเข้าใจผิดอะไรเยอะมากเลยเกี่ยวกับเรื่องกรรม
ไปศึกษามาใหม่ กรรมทีาหลวงพ่อพูดถูกต้องแล้ว อย่าติโดยไ