ส่วนตัวมองว่า Work Smart อย่างเดียวไม่พอแล้ว ต้อง Work Hard ด้วย เพราะว่าเดี๋ยวทุกคนเข้าถึงความรู้ Know How มหาศาล ยิ่งมี AI มาช่วยด้วย คนอื่นก็ Work Smart เหมือนกัน แถม Work hard กว่าด้วย แล้วอีกอย่างการที่เราคิดว่าเรา Work Smart แล้ว อาจจะไม่จริงหรือคิดไปเองก็ได้ ดังนั้นถ้า Work Hard เราอาจจะเพิ่มโอกาสได้เรียนรู้วิธีอื่น ๆ ในการ Work Smart ขึ้นไปอีก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่ได้การันตีถึงความสำเร็จ แต่อย่างน้อยก็เพิ่มโอกาสให้เรารอดมากขึ้น
ผมทำงานสายอาหารเครื่องดื่มมาราวๆ 15 ปี สายงานนี้ไม่มีคำว่า work life balance มีแต่คำว่า work fucking hard ส่วน smart รึเปล่าไม่รู้รู้แต่ speed จัดจ้านมาก ธุรกิจสายนี้วัดความเร็วมากๆ
เศรษฐกิจไม่ดีครับ work hard ครับถึงจะอยู่รอด ถ้าบริษัทไม่รอดเราจะมีงานทำได้งัยครับ ถึงบริษัทไปไม่รอด แต่อย่างน้อยๆเราก็เก่งขึ้นครับจากการ Work hard เป็นเรื่องส่วนบุคคลครับ ถ้าไม่อยากเก่งขึ้นก็ทำงานแบบเดิมๆไปครับ
ก็เค้าบอกอยู่ว่า Work Smart ไง มันก็จะทำให้สามารถ WLB ได้ คนอคติ เวลาอ่านคำว่า Work hard หรือ Work smart หรือ Work Life Balance สุดท้ายมันจะอ่านออกแต่คำว่า Work แค่นั้นแหละ
เข้าใจมากๆเลยค่ะ ตอนนี้ต้อง work hard + work smart ถึงจะอยู่รอด ด้วยสภาพเศรษฐกิจและการแข่งขันต่างๆ ทำให้เราต้องสู้ชีวิตมากๆ แต่สุดท้ายผลที่เกิดขึ้นก็ได้รับกับตัวเองนี่แหละค่ะ ตอนนี้สิ่งที่กำลังพยายามเพิ่มเติมคือ ออกกำลังกาย และดูแลตัวเองนี่แหละ 😂
คุณรวิศน่าจะ balance น้อยไปเทียบกับประชากรออฟฟิศป่าวคะ วีคนึงทำทุกวันเกิน 40 ชมอยู่แล้ว แบบนี้คือ work harder than the other but still trying to find balance ka
ส่วนตัวสิ่งที่คุณแท็ปพูดมาตลอดทั้งคลิปผมมองว่ามันก็คือการ Balance แบบนึงนั่นแหละ เพียงแต่พอเราได้ยินคำว่า Work-Life Balance แล้วไปตีความว่ามันคือความอยากชิล แต่จริงๆแล้ว Balance มันคือการรักษาสมดุลตามสถานการณ์ที่เราเจอ และ ที่เราอยากจะเป็นนั่นแหละ จริงๆการรักษาสมดุลมันทำได้แม้ว่ามันจะเป็นช่วงต้อง Work Hard to survive อย่างที่คุณว่า ก็อย่างเช่นตัวอย่างที่คุณยกมาว่า อยากมีเวลาออกกำลังกายก็ต้องตื่นเช้า อยากตื่นเช้าแต่นอนพอก็ต้องนอนเร็ว นั่นแหละ
(แต่ผมว่าสำคัญกว่าคือบริบทในชีวิตแต่ละคนไม่เหมือนกัน คุณแท็ปเป็น CEO ที่ประสบพบเจออะไรบางอย่างก็คิดอีกแบบหนึ่ง คนที่พอมีต้นทุนชีวิต มีโอกาสก็คิดอีกแบบหนึ่ง คนที่มีภาระต้องจัดการดูแลก็คิดอีกแบบหนึ่ง คนที่ทำงานทุ่มเทจนป่วยกายแล้วเลิกก็คิดอีกแบบหนึ่ง มันเลยทำให้มุมมองต่อประเด็น Work Hard, Work Smart, Work-Life Balance มันเสียงแตกกันไป คิดว่าพยายามทำความเข้าใจว่ามันมีคนจากหลากหลาย background หลากหลายประสบการณ์ แล้วพยายามมี Empathy ต่อกันก็น่าจะดี)
ส่วนตัวมองว่า Work Smart อย่างเดียวไม่พอแล้ว ต้อง Work Hard ด้วย เพราะว่าเดี๋ยวทุกคนเข้าถึงความรู้ Know How มหาศาล ยิ่งมี AI มาช่วยด้วย คนอื่นก็ Work Smart เหมือนกัน แถม Work hard กว่าด้วย แล้วอีกอย่างการที่เราคิดว่าเรา Work Smart แล้ว อาจจะไม่จริงหรือคิดไปเองก็ได้ ดังนั้นถ้า Work Hard เราอาจจะเพิ่มโอกาสได้เรียนรู้วิธีอื่น ๆ ในการ Work Smart ขึ้นไปอีก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่ได้การันตีถึงความสำเร็จ แต่อย่างน้อยก็เพิ่มโอกาสให้เรารอดมากขึ้น
อะจิงดิ ?
ถ้าคุณเป็นลูกน้อง จำเป็นที่จะทำให้บริษัทได้กำไร เพราะนั่นหมายถึงการจ้างงาน
แต่ถ้ามั่นใจว่าตัวเองมีความสามรถ ออกมาเป็นเจ้าของบริษัท ก้อทำไป ทำให้บริษัทตัวเองมีกำไร
ยุคแข่งขัน ไม่ว่าจะยุคทองหรือยุคเงินฝืด มันมีการแข่งขันเสมอ ยิ่งยุคนี้
1.ยุคเงินเฟ้อ
2.ยุคผู้สูงอายุ
3.ยุคai
4.ยุคประชากรน้อย
ผมทำงานสายอาหารเครื่องดื่มมาราวๆ
15 ปี สายงานนี้ไม่มีคำว่า work life balance มีแต่คำว่า work fucking hard ส่วน smart รึเปล่าไม่รู้รู้แต่ speed จัดจ้านมาก ธุรกิจสายนี้วัดความเร็วมากๆ
แต่ละมื้อแต่ละ day
แสงมาแรงมาก อยากให้คุณรวิศใช้จังหวะนี้นำสินค้าของแบรนด์ มาพูดในรายการเพื่อให้คนได้เห็นว่ากว่าจะเป็นสินค้าชิ้นนี้ ชิ้นนั้นได้ ศรีจันทร์คิดอะไรอยู่ อาจมีการพาชมกระบวนการทำงานสักนิดหน่อย และเมื่อพนักงาน work hard แล้ว บริษัทได้มอบอะไรให้พนักงานบ้าง(คนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าองค์กรของคุณมีสวัสดิการที่ดีมากๆ) เป็นกำลังใจให้เสมอครับ
เศรษฐกิจไม่ดีครับ work hard ครับถึงจะอยู่รอด ถ้าบริษัทไม่รอดเราจะมีงานทำได้งัยครับ ถึงบริษัทไปไม่รอด แต่อย่างน้อยๆเราก็เก่งขึ้นครับจากการ Work hard เป็นเรื่องส่วนบุคคลครับ ถ้าไม่อยากเก่งขึ้นก็ทำงานแบบเดิมๆไปครับ
ผมเห็นด้วยกับอาจารย์ครับ ไม่ใช่เพราะความเชื่อ แต่ผมว่ามันมีเหตุและผลครับ❤❤❤
จงทำงานหนักเพื่อตัวเองครับ เพราะการทำงานหนักในที่ๆ ไม่ควรทำ มันไม่ช่วยให้ชีวิตดีขึัน แต่ถ้าเราไปทำงานหนักในธุรกิจตัวเอง หรือ เรียนรู้หนักนั้นถึงจะคุ้มค่า ถ้าจะทำสิ่งใดเราอาจจะต้องประเมิณ ความคุ้มค่าที่จะได้มาและสิ่งที่จะเสียไปด้วยตลอดเช่น สุขภาพ,คนรอบตัว เพราะงั้นสุดท้ายมันก็เหมือนการ balance อยู่ดีหรือเปล่าครับ
ตามฟังและดูช่องนี้เรื่อยๆครับ หลายเรื่องเห็นด้วย บางเรื่องไม่เห็นด้วย ทั้งสองแบบเอาไปคิดต่อเองอันไหนเอามาใช้กับเราได้ก็ทำ อันไหนไม่เข้ากับเราหรือไม่ชอบก็ปล่อยผ่านไปไม่เสียเวลาต่อความยาวสาวความยืด
ติดตามต่อไปครับ
Word hard ต่อไป เพื่อตัวเอง ไม่ใช่เพื่อใคร แม้วันนึงบริษัทจะไม่รักเรา แต่ไม่เสียใจเลย เพราะระหว่างที่ work hard ได้อะไรกลับมามากมายเลย
ใช่ๆ ได้โรคกะเพาะกับมาไง 555
@@kira555007 time management ⏱️
เห็นด้วยค่ะ จริงที่สุดค่ะ work smart + work hard ผลต้องมาจากเหตุ. Work life balance เหมาะกับคนที่มีต้นทุนมาดีอยู่แล้ว
Work-life flow 🍃
พอมาฟัง clip นี้แล้วเข้าใจบริบทเลยครับ
เราว่าเราอ่านคุณรวิศตอนแรกแล้วเราก็เข้าใจที่คุณรวิศต้องการจะสื่อนะ 😂 งงกับคนที่เค้าเอาไปตีความในแง่ลบมากจริงๆ work hard ไม่ได้ให้คุณทำงานเดิมๆจนตาย แต่ต้องเรียนรู้ พัฒนาตัวเอง ทำให้หนักขึ้น ถ้ารู้ว่างานเดิมทำไปแล้ว income มันไม่ได้เพิ่ม ก็ทำงานอื่น ใช้เวลาตัวเองให้เกิดประโยชน์ แทนที่จะใช้เวลาว่างหลังเลิกงานหย่อนๆสบายๆ ก้อาจจะเหมือนคุณรวิศบอก คือเรียนรู้มากขึ้น หาช่องทางการเงินใหม่ๆมากขึ้น ไม่งั้นธุรกิจอื่นเปลี่ยนผ่านงานเก่าๆตายหมด ตอนนั้นแหละคุณจะลำบาก
หรืออาจจะเปนนิยามในแง่ของ work-life-balance ที่แตกต่างกัน ลองเลื่อนไปอ่านคอมเม้นนึงเจอว่า อ่าวคุณรวิศก็ยังออกกำลังกายนิ ยังบอกให้ไปเจอเพื่อนฝูงนิ มันไม่ wlb ยังไง ก็ wlb อยู่ดีนั่นแหละ เลยคิดว่างั้นอาจจะต้องตีความ wlb ของแต่ละคนกันใหม่
ตามนิยามความเข้าใจเราคือ wlb อย่างเช่น work = 8 ชม/วัน
Life = อ่านหนังสือ พักผ่อน ทำแพลนเนอร์ เที่ยวเล่นกับเพื่อนๆ ทำอาหาร เล่นกีฬา นอนเปื่อยดูหนัง 8 ชม/วัน
Sleep = 8 ชม/วัน
อันนี้คือการบาลานซ์ทุกส่วน
แต่ถ้า work hard ขึ้นอาจจะเป็น
Work 8 ชมเดิมยังทำอยู่นั่นแหละ
แต่จาก life ทั้ง 8 ชม อาจจะต้องแบ่งเป็นออกมาเพิ่มอีกสัก 2-3 ชม. ในการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ การศึกษา AI การพัฒนาธุรกิจ การหาช่องทางรายได้เพิ่มจากเดิม (สมมติคนทำงานประจำ) เพื่อให้มีช่องทางรายได้มีหนทางสำรองมากขึ้น เพราะปัจจุบัน work แค่อย่างเดียวมันมีโอกาสมากๆที่จะตายได้ง่าย ยังไม่พูดถึงเศรษฐกิจที่เงินเฟ้อขึ้นเรื่อยๆ แต่ค่าแรงไม่ขึ้นเลย ถ้ายังทำเหมือนเดิม ค่าข้าวกินสำหรับบางคนยังไม่พอด้วยซ้ำตอนนี้ อย่าพูดถึงอนาคตเลย
แต่ยังไงก็ตามถ้าคุณรวยอยู่แล้ว คิดว่ามากกว่านี้ก็ไม่กระทบอยู่แล้ว หรือก็ work hard อยู่แล้ว ทำวันละ 10 ชมอยู่แล้ว you think you can survive ก็อาจจะไม่จำเป็นต้อง harder ก็ได้ แต่ทางนี้ต้องทำค่ะ 😂😂😂😂 เล่นน้อยลง หาโอกาสรอดให้มากขึ้น สู้ๆนะคะทุกคน
Work Life Balance มันเหมือนเป็นคำนามธรรม คำทางการตลาด ที่ตอบสนองความไม่อยากทำอะไร(ขี้เกียจ)ในสมองของมนุษย์ใช่มั้ยครับ
ทีนี้ถ้ารู้ว่ามันเป็นแค่การตลาด,คำนามธรรม วัดค่าอะไรก็ไม่ได้ ก็ไม่ต้องให้น้ำหนักกับมันก็ได้ เพราะมันไม่มีจริงตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
มาใส่ใจอะไรที่วัดค่าได้ เช่น สุขภาพ(Healthy), ผลงาน(Productivity) ก็จบละ
สุดท้ายพี่ก็ต้อง WLB อยู่ดีปะครับการที่พี่จะ นอนไวได้ กินอาหารดีๆได้ ออกกำลังกายได้คือพี่ก็ต้อง Balance สัดส่วนของชีวิตให้ดีที่สุดเพื่อที่จะทำให้ชีวิตพี่ Balance แต่ในโพสต์พี่บอกว่า WLB กำลังจะตายสรุปแบบนี้คือต้อง WLB หรือ ไม่ต้อง WLB ครับผมว่าพี่พูดงงไปหมด
ก็เค้าบอกอยู่ว่า Work Smart ไง มันก็จะทำให้สามารถ WLB ได้ คนอคติ เวลาอ่านคำว่า Work hard หรือ Work smart หรือ Work Life Balance สุดท้ายมันจะอ่านออกแต่คำว่า Work แค่นั้นแหละ
หัวข้อโพสคือ หมดยุค work life balance สรุปคือยังจะแถว่าการ work hard smart คือจะมี WLB อยู่หรอ 😂😂😂
พี่แทป พูดแต่ละเรื่อง ในแต่ละตอน กว่า 70% ที่ผมดูและฟังมาตลอด มักจะตรงกับสถานะการณ์ปัจจุบันที่ผมเผชิญอยู่ของผมเสมอเลยครับ ในฐานะที่ผมเป็น Millenial อายุปาเข้าไป 37 แล้ว แล้วผมกำลังจะออกไปทำงานต่างประเทศอีกครั้ง เพื่อเก็บเงิน เพราะทนไม่ไหวแล้วจริงกับสถานการ์ณในประเทศ เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า และผมตั้งใจว่าจะตั้งตัวให้ได้อีกครั้งใน 3 ปี ขอบคุณที่แชร์เรื่องราว และสร้างกำลังใจให้ผมเสมอมาคับ
ผมเองทำธุรกิจเล็กๆ ส่วนตัวเห็นด้วยครับ มันมีสัญญาณมาตั้งแต่ปีที่แล้ว แย่ลงเรื่อยๆ และยังไม่มีทีท่าจะดีขี้นเลยครับ ผมคิดว่าผมเองคงต้องเต็มที่ต่อจากนี้ ขอให้ทุกท่านโชคดี และผ่านไปได้ด้วยกันนะครับ
กังวลใจกับสถาวะเศษฐกิจในบ้านเรา เพราะตั้งใจจะเปลี่ยนสายงานเซลล์ปีหน้าค่ะ 🙏
เข้าใจและเป็นข้อคิดที่ดีมากๆค่ะ ส่วนตัวยังมีกำลังสู้ต่อไป และยังรู้สึกมีแรงมีไฟ ถ้าเรามีกำลังเราก็จะช่วยคนรอบข้างได้มากขึ้น
ยังไงเป็นกำลังใจให้ทุกคนรอดต่อไป ตามแต่เป้าหมาย หรือความตั้งใจของแต่ละคนนะคะ
เห็นด้วยมากๆค่ะ
ฝืนตัวเองไปวิ่งตอนเช้า ความรู้สึกดีๆมาตอนหลังวิ่งเสร็จ
สุขภาพต้องดีเพื่อโฟกัสการทำงาน
เวลาว่างหาเรียนทักษะเพิ่ม คิดว่าขยันเพื่อตัวเอง ไม่ใช่เพื่อนายจ้าง
ตอนนี้ไม่ว่าจะทำงานในสายไหนก็ต้องตื่นตัวเพราะเศรษฐกิจแย่มากจริงๆ
เป็นกำลังใจให้กับทุกท่านที่ต้อง Work Hard&Work Smart ครับแต่ต้องอย่าลืมแบ่งเวลาไปใช้ชีวิตด้วยครับ💪
ต้องทั้ง Hard และ Smart
เท่าที่พบเจอคนที่สำเร็จในชีวิตและการทำงาน ทุกคนผ่านการทำงานหนักมาทั้งนั้น
เมื่อ Hard จนเก่งแล้ว คำว่า smart จะมาเอง
จริงค่ะ ตอนนี้กำลังพยายามปรับการนอนเพื่อตื่นเช้าไปออกกำลังกายเช้าแทน เพราะหลัง 09.00 เป็นต้นไปคือ Focus งานยาวๆ 😂❤
กำลังเผชิญอยู่ค่ะ ได้ทำงานเพิ่ม work hard แต่จำเป็นต้อง work Smart ให้ได้ สถานการณ์มันกดดัน หน.ให้ทำ เราก็ต้องได้ทำ ปฏิเสธงานไม่ได้
Work Life Balance != Slow Life ... แต่คือ Balance เพื่อให้สู้ต่อได้
(ผมก็ไม่เข้าใจถึง Anti WLB)
เห็นด้วยมากๆครับ สำหรับคนชนช้้นกลางถึงล่าง ตอนนี้ต้องขยันมากขึ้นจะดีกว่าครับ
อาจจะต้อง Work hard มากขึ้น
ลด Balance ลง แต่ยังต้องให้ความสำคัญเรื่องสุขภาพ และความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวครับ
ขอบคุณที่แชร์ค่ะ เตรียมตัว เตรียมใจให้พร้อม เราจะได้ผ่านทุกๆอย่างไปได้ เราจะต้องรอดและได้ไปต่อค่ะ
เห็นด้วยครับ การ Work Hard ต้องควบคู่ ไปกับ Work Smart ด้วย จะถึงลงตัว ไม่คว้าน้ำเหลว ในสิ่งที่ลงทุนลงแรงลงใจไปแล้ว การทำอะไร ที่มันยากๆมันต้องใช้หัวสมองวิเคราะห์ ออกมาให้มันสำเร็จดีที่สุด เพื่อที่จะได้ผลลับ สำเร็จอย่างแท้จริง สามารถเหลือเวลา ไปจัดการกับ สิ่งอื่นๆได้ โดยยังมีเวลาในการใช้ชีวิต ให้ความสำคัญต่อตนเอง และ ครอบครัวได้มากขึ้น
เข้าใจมากๆเลยค่ะ ตอนนี้ต้อง work hard + work smart ถึงจะอยู่รอด ด้วยสภาพเศรษฐกิจและการแข่งขันต่างๆ ทำให้เราต้องสู้ชีวิตมากๆ แต่สุดท้ายผลที่เกิดขึ้นก็ได้รับกับตัวเองนี่แหละค่ะ
ตอนนี้สิ่งที่กำลังพยายามเพิ่มเติมคือ ออกกำลังกาย และดูแลตัวเองนี่แหละ 😂
จริงครับ
ทำแบบนี้ มาตลอดเลย แต่บางช่วงขาดการออกกำลังกาย ทำงานหนักมาก ทำงาน7วัน แต่3เดือนจะ ไปเที่ยว รอบละ3-4วัน เพื่อบูสสมอง ทำงานแบบ ไม่เคยนึกถึงวันหยุด แต่ไม่เบื่อนะคะ เพราะเราชอบงาน มันทำให้ เราคิดว่า เรามีเวลาให้ลูกน้อยลงไหม
แต่ต้องกลับบ้านไปอ่านนิทาน เล่นกะลูก30นาที อย่างน้อยๆ5วัน/ สัปดาห์ให้ได้
เวลาไปเที่ยว shut down งานและมือถือ แทบไม่จับ อยู่กับลูก ให้เยอะ 24 ชม
สรุป quality time สำคัญกว่า จำนวนเวลาจริงๆ
โฟกัสสิ่งตรงหน้า สำคัญจริงๆค่ะ❤
เยี่ยมเลย work hard and smart
เห็นด้วยค่า เวลาว่างหาคอร์สอัพเดท skill ตลอดเลย ขอบคุณพี่แท๊บมากค่า^^
ทำงานให้ถูกที่ สำหรับผมจบ จะ smart จะ hard จะ life balance จุดที่เรายืน ❤🎉
ขอบคุณค่ะ เห็นด้วยกับคำนี้เช่นเดียวกัน fc ตลอดไปค่ะ❤❤
รู้สึกดีมากที่พาตัวเองมาถึงจุดที่ชอบการทำงานได้สักที มันรู้สึกโอเคมาก
ขอบคุณค่ะ เห็นด้วยกับคำนี้เช่นกันค่ะ Be comfortable with discomfort 😊
ขอบคุณที่ทำคลิปออกมาค่ะ
เข้าใจทุกมุม แต่มันเหนื่อยอ่ะ อยากนอน
เห็นด้วยครับ ยิ่งช่วงนี้เศรษฐกิจทรุดตัวด้วย
จริงๆ คิดว่า work-life balance มันไม่จำเป็นต้อง 50-50 ก็ได้นะคะ มันอาจเป็น 70-30 / 60-40 ก็ได้ แล้วแต่ว่าเราอยาดเน้นชีวิตด้านไหนค่ะ
ดีมากๆค่ะ คุณรวิศ 👏🏻👏🏻🙏🏻
คิดว่ามองสั้นกันเกินไปครับ เพราะ WLB มันอาจจะเป็นการทำงานหนักๆเลยหนุ่มสาวเพราะมีแรง พอช่วงที่แรงเริ่มหมดแต่มีความสำเร็จ ก็จะได้ใช้ชีวิตที่สบายหรือเออรี่รีไทน์ได้ไวขึ้นอีก ทีเหลือก็ใช้ชีวิตอยู่ดีครับ แค่ไม่ได้มองเป็นวันๆ แต่มองภาพระยะยาวครับผม
ขอบคุณค่ะ เข้าใจแนวคิดนี้มากขึ้นค่ะ
ขอบคุณครับ
เห็นด้วยมากๆ ค่ะ สังเกตจากช่วงหลังโควิดที่เศรษฐกิจฟื้นตัว ประกอบกับเทคโนโลยี AI ที่เราใช้กันมากขึ้น พนักงานในบริษัทก็มีงานต้องทำมากขึ้น challenge มากขึ้น องค์กรต้องปรับตัวต้องรอด รับกับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต ไม่ว่าเรื่องสภาพอากาศ การแข่งขันของคู่แข่ง ทุกคนหลีกเลี่ยงwork hard ไม่ได้เลย แต่เราก็ก็ยังไม่ work smart เท่าที่ควร ยังคงทำงานด้วยรูปแบบเดิมๆ อยาก สร้างculture องค์กรที่ work smart ทำยังไงดีคะ
ขอบคุณมากครับสำหรับความกระจ่าง
กำลังรอเลยครับ ขอบคุณที่แบ่งปันครับผม :)
ขอบคุณที่ทำคลิปนี้นะคะ❤
Work hard + work smart💪🏻
ขอบคุณพี่แท๊บมากครับ ❤❤❤
น่าสนใจ
เห็นด้วยมากๆครับ❤❤
ฟังๆดูก็คือธรรมมะเลยค่ะ
ดีมากๆ เลยครับ ep นี้
ช่วย 10 ปีที่ผ่านมานี้รู้สึก work smart ก็เพีบงพอแล้ว เพราะแข่งกับแค่คนทั้งโลก ตอนนี้แข่งกับ AI ท้อหนักก่าเดิม 😢
ชอบเรื่องมากๆคับ
นี่ก็ Work Life Balance นี่นา ...
คุณรวิศน่าจะ balance น้อยไปเทียบกับประชากรออฟฟิศป่าวคะ วีคนึงทำทุกวันเกิน 40 ชมอยู่แล้ว แบบนี้คือ work harder than the other but still trying to find balance ka
คิดสะว่าเป็นโพส ให้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นดีกว่าค่ะ ส่วนตัวไม่ได้รู้สึกว่าจะต้องมาตัดสินว่าใครถูกใครผิด คนโพสเขาก็พูดในมุมของเขาค่ะ
อะไรแบบนี้ต้องทำคลิป long form จริงๆคับบ
❤❤❤ดีมากเลยค่ะ
ขอบคุณสำหรับการแชร์สิ่งที่น่าสนใจนะครับ
DOT เราไม่เท่ากัน , Status ก็ไม่เท่ากัน ความเข้าใจเลยต่างกันออกไปครับ เรื่องปกติมาก
ระวังเปนกรดไหลย้อนแพนิคไม่รุตัวนะจั้บ😅
เข้าใจบริบทมากขึ้นจากเรื่องในโพสต์มากๆครับ
แต่ละประเทศ4ข้อนี้ไม่เหมือนกันนะหนูว่า
กำลังรอเลยค่ะ
ในเฟสบุ้คมันคงสั้นไปแหละครับ พอฟังเต็ม ผมเห็นด้วยหลายเรื่องเลย
ไม่น่าไปเตือนเลยครับ😂
ได้งานเพิ่ม แต่เงินไม่เพิ่ม😢😢
👍
ผมทำงานภาครัฐครับ ชิวๆ รับเงินเดือน ชิวๆ^^
อาจจะไม่ได้คาดหวังให้ Work Hard แต่ต้อง Work Smart ค่ะ
❤❤❤
Work Hard ในที่นี้ยังต้องนอน 8 ชม.ไหม หรือต้องลดชั่วโมงนอนเพื่อเพิ่มเวลาพัฒนาตัวเอง นอนน้อยลง
เป้นกลจใหัค่ะ
🤍
🔥🔥🔥
สรุปพี่แท็ป: แล้วแต่จะคิด ชีวิตคนละแบบ
🤔
🧐
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ