กราบนมัสการหลวงตาเจ้าค่ะ🙏🙏🙏
หลวงพ่อ นี่ละ ครับ
ของแท้ ตั้งแต่เจอใน tiktok (ไม่ต้องพูด) ฟังแล้วคิดตาม
ปฏิบัติตามธรรมเปลี่ยนพฤติกรรมของมนุษย์ ธรรมไม่มีขายอยากได้ต้องทำเอง พระอริยะบุคคลมีหนทางเดียวกัน ขออนุโมทนาบุญด้วยครับหลวงตามหาชน.
ฟังท่านแล้วสบายใจ ไม่ขี้เกียจปฏิบัติธรรมเลยคะ เช้ามา บ้านมา เย็นมา ค่ำมา เปิดฟังแต่คลิปหลวงตาคะ❤❤🙏🙏☺️☺️🙇🙇🙇
น้อมกราบสาธุสาธุสาธุเจ้าค่ะ
กราบธรรมะองค์หลวงตาเจ้าค่ะ
กราบสาธุครับ
นักภาวณาของแท้ครับ ดูแต่ละคำพูดที่ออกมาจากปากท่านซิครับ สติกำกับทุกคำ สาธุครับ
สาธุค่ะ
❤สาธุธรรมนำปฎิบัติตน❤😀
ผมชอบหลวงตาสินทรัพย์มากครับ ผมติดตามฟังหลวงตาเทศน์ผ่านสื่อออนไลตลอดครับ🙏🙏🙏
สาธุๆๆเจ้าค่ะ
กราบสาธุๆๆครับ
❤❤❤❤❤
กราบสาธุ ครับ
สาธุยินดีในบุญค่ะ🎉🎉🎉
สาธุค่ะเป็นความคิดที่ดีมากค่ะ
กราบ...หลวงตา 🙏🙏🙏
กราบนมัสการหลวงตาค่ะ..โยมจันทนีฟังจากชัยนาทค่ะ.🙏🏼🙏🏼🙏🏼
ผมอยากถวายแคปซูลที่มีสรรพคุณที่เหมาะสมกับหลวงตาและพระสงฆ์ทุกรูปนธ์กับ.
🙏🙏🙏
น้อมกราบหลวงตาเจ้าค่ะ
สาธุ สาธุ สาธุ ❤
หลวงตาครับผมควรจะนับถือศาสนาพุทธหรือศาสนาอิสลามดีครับช่วยชี้แนะหน่อยครับ
เรื่องแบบนี้น่าห่วงครับเพราะมีคนที่เขาไม่รู้จริงๆแค่คำว่าปัญญายังเขียนไม่ถูกเลยครับถ้าเขาตกอยู่ในกลุ่มของลัทธิที่มีพร้อมเช่นเริ่มจากการเลี้ยงดูอบรมชี้นำมีพรรคพวกทำเป็นตัวอย่างอย่าให้บอกนะครับว่าลัทธิไหนเราก็เห็นกันอยู่แล้วสมควรที่จะอธิบายเรื่องปัญญาให้ฟังเป็นพื้นฐานที่ผ่านมาครูบาอาจารย์ฝ่ายพระป่าได้แนะนำให้ปฏิบัติกรรมฐาน,คนส่วนมากก็ไม่เข้าใจว่ามันคืออะไรเพราะไม่เห็นผลเรื่องแบบนี้ถ้าไม่ปฏิบัติจะไม่รู้เรื่องเลยครับแต่พอหลวงตามาแนะนำให้ฝึกอาณาปาณะสติดูลหายใจแล้วปรากฏว่าได้ผลดีครับ
ศาสนาทุกศาสนาเป็นเพียงศูนย์รวมผู้คนเป็นหมู่คณะเท่านั้น แต่ศาสนา"พุทธ" แปลว่า ผู้รู้แจ้งแห่งสัจธรรม *ผู้ตื่นจากความหลับไหลในความมืดบอดพบแสงสว่างแห่งความเป็นจริง *ผู้เบิกบานเจริญปัญญาก้าวไปสู่ความดับทุกข์ความวิมุติหลุดพ้นจากวัฏสงสารอันเป็นทุกข์แห่งนี้ด้วย อธิศีล อธิจิต อธิปัญญา บุคคลผู้ใดแม้จะนับถืออะไรนับถือสิ่งใด นับถือศาสนาใดก็ตาม ถ้าเป็นผู้รู้ผู้ตืนผู้เบิกบานในสัจธรรมเหล่านี้บุคคลผู้นั้นชื่อว่าเป็นพุทธะ เพราะคำว่าพุทธะ แปลว่าผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานนั้นเอง ถึงแม้เกิดในศาสราพุทธแต่ยังมืดบอดหลงไหลไปในทางที่ผิดเป็นเหล่ามิจฉาทิฏฐิบุคตลผู้นั้นก็เป็นพุทธเพียงในนามในสำเนาทะเบียนบ้าน หาได้ชื่อว่าเป็นพุทธจริงไม่ เพราะฉะนั้นพุทธเป็นได้ทุกศาสนาฉะนี้แล
ถ้าฝึกสมาธิได้ ไม่ขึ้นกับศาสนาเลยครับ ไม่ใช่ของศาสนาไหนด้วย ต่อให้ถือพุทธแต่ไม่ปฏิบัติก็ไม่มีประโยชน์เลย ถ้าคุณปฏิบัติคุณจะรู้สิ่งต่างๆตามความเป็นจริงเอง จะมีปัญญาด้วยตัวเอง ดีกว่าแค่นั่งฟังคนอื่นแล้วไม่รู้เค้าจะเชื่อได้แค่ไหน
เอาง่ายๆนะครับ. สิ่งที่พระพุทธเจ้า
ค้นพบ. มันมีอยู่แล้วตามธรรมชาติ เพียงแต่ท่านทรงเป็นผู้ชี้ทางเท่านั้น
รู้ได้เฉพาะคนที่ฝึกเท่านั้น
รู้ได้เฉพาะต้น. ❤❤❤❤
สาธุสาธุสาธุ
ฉันฟังคำสอนของท่านทุกวัน ค่ะ
🙏🙏🙏อำนาจสมาธิใช้ในทางคำสอนพระพุทธเจ้าอย่าหลงทำให้คนนับถือเหมือนหลวงพ่อเข้าใจถูกไหมค่ะ
สาธุครับ
กราบหลวงตาสาธุ
น้อมกราบสาธุค่ะ
น้อมกราบหลวงตาสาธุค่ะ🙏🙏🙏
สาธุๆๆ
สาธุครับ
สาธุ ๆ ๆ ครับ
สาธุ
สาธุ.สาธุ.สาธุ.ครับ.❤❤❤❤😂❤❤❤❤
สาธุครับหลวงตา
สาธุ สาธุเจ้าค่ะ🙏
กราบสาธุครับหลวงตา🙏🙏🙏🙇🙇🙇💟
กราบสาธุค่ะ
น้อมกราบสาธุๆๆ
❤❤❤❤❤❤
กราบนมัสการหลวงตาครับ
น้อมกราบหลวงตาค่ะ🙏❤️
ใช่ครับอันตรายสำหรับผู้เรียน
🙏🙏🙏😌
🙏🙏🙏กราบสาธุคะหลวงตา
ชอบหลวงตาเทศสนุกเข้าถึงง่ายผ่อนคลายดีมากค่ะสาธุ🎉❤
❤❤❤❤❤❤❤❤❤😅😅😅😅
ครูบาหมูองค์ที่ชอบถักรองเท้ารึเปล่าครับหลวงตารึองค์ไหนครับสาธุ
🤣🤣🤣🙏🙏🙏💝💝💝
การเกิดปรากฏขึ้นของ อินทรีย์5 พละ5 ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา /ศรัทธา เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้น และ ธรรมที่เกิดแต่เหตุ คือ วิริยะ/ การเกิดปรากฏขึ้นของ ศรัทธา เป็นศรัทธาใน ตถาคตภาษิต อริยมรรคมีองค์แปด จึงเกิดปรากฏขึ้น/การนำ ตถาคตภาษิต มาบอกต่อ คือ เป็นการกระทำทาง วาจา เป็น ศีล เป็นผู้มีศีล เป็น สัมมาวาจา นั่นเองคะ/การเกิดปรากฏขึ้นของ ศรัทธา เป็นศรัทธาใน สาวกภาษิต อริยมรรคมีองค์แปด ไม่เกิดปรากฏขึ้น เป็นการเกิดปรากฏขึ้นของ สังโยชน์ ทั้งสิบ /การนำ สาวกภาษิต มาบอกต่อ คือ การมีศรัทธาใน สาวกภาษิต เป็นการกระทำทาง วาจา เป็นผู้ทุศีล เป็น มิจฉาวาจา เพราะเป็นการพูดโกหก เพราะที่นำมาบอกต่อเป็น สาวกภาษิต ไม่ใช่ ตถาคตภาษิต นั่นเองคะ เป็นการกระทำกรรมดำทาง วาจา4 พูดโกหก พูดยุยงให้เขาแตกกัน พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อ เป็นการเกิดปรากฏขึ้นของ การทำสงฆ์ให้แตกแยก อนันตริยกรรม นั่นเองคะ ตถาคตภาษิต มีกฏอิทัปปัจจยตา มีปฏิจจสมุปบาท มีสังขตธรรม จึงเป็น สัมมาทิฏฐิ/สาวกภาษิต ไม่มีกฏอิทัปปัจจยตา ไม่มีปฏิจจสมุปบาท ไม่มีสังขตธรรม จึงไม่เป็น สัมมาทิฏฐิ นั่นเองคะ
@@user-jx9dx3vn5b มีศรัทธาใน ตถาคตภาษิต คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ อริยมรรคมีองค์แปด นั่นเองค่ะ / การเกิดปรากฏขึ้นมาของ อริยมรรคมีองค์แปด คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ เส้นทางเจโตวิมุตติ และ เส้นทางปัญญาวิมุตติ นั่นเองค่ะ พระพุทธเจ้าท่านตรัสรู้อริยสัจสี่ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ได้ด้วยพระองค์เอง ท่านมีเมตตาบอกสอนไว้ให้รู้ตามนั่นเองค่ะ เข้ามา ฟัง อ่าน จด ท่องจำ ตถาคตภาษิต ฟังมาจากไหน ใครนำ ตถาคตภาษิต มาบอกต่อ อ่านจากที่ไหน จดมาจากที่ไหน และ ท่องจำ คุณตาของดิฉันบอกว่าจะให้ ธรรมมะ คุณน้าหาสมุดและดินสอมาให้ ดิฉันก็จดตามที่คุณตาบอก เมื่อจดได้หมดแล้วก็อ่านให้คุณตาฟัง คุณตาก็พยักหน้า แล้วดิฉันก็นำมาท่องจำจนคล่องปากขึ้นใจ นั่นเองคะ และ ดิฉันมาเจอ พุทธวจน เมื่อปี พ.ศ.2564 วันที่ 8 เมษายน นั่นเองค่ะ เจอคลิปที่พระอาจารย์ คึกฤทธิ์ สอน อริยมรรคมีองค์แปด นั่นเองค่ะ ก็ฟังคำสอนของพระพุทธเจ้าจาก พระอาจารย์ คึกฤทธิ์ ที่ท่านนำ คำสอนของพระพุทธเจ้า ตถาคตภาษิต มาบอกต่อ นั่นเองค่ะ ตถาคตภาษิต คือ คำสอนของพระพุทธเจ้า คำสอนของพระพุทธเจ้า เป็น ธรรมชาติ ที่มีเกิดปรากฏขึ้นมาตามความเป็นจริง ตถาคตภาษิต จะมี กฏอิทัปปัจจยตา มี ปฏิจจสมุปบาท มี สังขตธรรม จึงเป็น สัมมาทิฏฐิ คือ ตถาคตภาษิต เป็น สัมมาทิฏฐิ เป็น อริยมรรคมีองค์แปด ในข้อแรกนั่นเองค่ะ อินทรีย์5 พละ5 เป็น ตถาคตภาษิต ก็ฟังมาจาก พระอาจารย์ คึกฤทธิ์ ที่ท่านนำ ตถาคตภาษิต มาบอกต่อ เข้าไปอ่านในหนังสือ จดลงในสมุด แล้วก็ท่องจำจนคล่องปากขึ้นใจนั่นเองค่ะ แล้วในวันหนึ่งก็เห็นการเกิดปรากฏขึ้นมาของ ศรัทธา เห็น การเกิดปรากฏขึ้นมาของ วิริยะ ตามมาด้วย สติ สมาธิ ปัญญา นั่นเองค่ะ เห็นการเกิดปรากฏขึ้นมาของ อินทรีย์5 พละ5 นั่นเองค่ะ พระพุทธเจ้าท่านบอกเหตุปัจจัยถูกไว้ให้รู้ตามว่า มีกัลยาณมิตร เป็น เหตุให้ได้ฟังธรรม การที่จะได้รู้ ธรรม จึงเป็นการ ได้ฟังมาจาก ... ซึ่งก็คือ กัลยาณมิตร นั่นเองค่ะ ที่นำ ตถาคตภาษิต มาบอกต่อ กัลยาณมิตร เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมา และ ธรรมที่เกิดแต่เหตุ คือ เป็นผู้ที่ได้สดับใน ตถาคตภาษิต นั่นเองค่ะ นี่คือคำสอนของพระพุทธเจ้า นั่นเองค่ะ เพราะว่า มีกฏอิทัปปัจจยตา มี ปฏิจจสมุปบาท มี สังขตธรรม จึงเป็น สัมมาทิฏฐิ ทุกคน จะต้องได้ยิน ได้ฟังมา ได้อ่านมา จากที่มี กัลยาณมิตร ทั้งนั้น นั่นเองค่ะ
@@user-jx9dx3vn5b คำสอนของพระพุทธเจ้า เป็น ธรรมชาติ ที่มีเกิดปรากฏขึ้นมาตามความเป็นจริง การนำ คำสอนของพระพุทธเจ้า ตถาคตภาษิต มาบอกต่อ จึงเป็นความคิดเห็นที่เป็น สัมมาทิฏฐิ เป็น สัมมาวาจา เป็นการเกิดปรากฏขึ้นมาของ อริยมรรคมีองค์แปด นั่นเองค่ะ ตถาคตภาษิต จะมีการเกิดปรากฏขึ้นมาของ กฏอิทัปปัจจยตา ยกตัวอย่าง การเกิดปรากฏขึ้นมาของ สังขตธรรม เกิด เสื่อม ดับ อนัตตา เนตังมะมะ เนโสหมัสสมิ นะเมโสอัตตา กฏอิทัปปัจจยตา จะเกิดปรากฏขึ้นมาอย่างนี้ค่ะ (เกิด>เสื่อม) (เสื่อม>ดับ) (ดับ>อนัตตา) ( อนัตตา>เนตังมะมะ เนโสหมัสสมิ นะเมโสอัตตา ) การเกิดปรากฏขึ้นมาของ กฏอิทัปปัจจยตา ตามที่พระพุทธเจ้าท่านได้บอกสอนไว้ให้รู้ตามนั่นเองค่ะ กฏอิทัปปัจจยตา เกิดปรากฏขึ้นมาอย่างนี้อย่างนี้ค่ะ ซึ่งพระพุทธเจ้าท่านก็ได้บอกสอนไว้ให้รู้ตามว่า ธรรมทั้งหลายย่อมทนต่อการเพ่งพิสูจน์ นั่นเองค่ะ คำสอนของพระพุทธเจ้าเป็น ธรรมชาติ ที่มีเกิดปรากฏขึ้นมาตามความเป็นจริงอย่างนี้อย่างนี้นั่นเองค่ะ สามารถเพ่งพิสูจน์ได้นั่นเองค่ะ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ สังขตธรรม เกิด เสื่อม ดับ อนัตตา เนตังมะมะ เนโสหมัสสมิ นะเมโสอัตตา ก็เป็นการนำ คำสอนของพระพุทธเจ้ามาบอกต่อนั่นเองค่ะ
@@user-jx9dx3vn5b คำสอนของพระพุทธเจ้า ตถาคตภาษิต มีการเกิดปรากฏขึ้นมาของ กฏอิทัปปัจจยตา และ มีการเกิดปรากฏขึ้นมาของ ปฏิจจสมุปบาท นั่นเองค่ะ (กฏอิทัปปัจจยตา หรือ หัวใจ ปฏิจจสมุปบาท) ที่นำมาบอกต่อ คือการฟังมา และ อ่านมา และเป็นการเกิดปรากฏขึ้นมาของ ปัญญา แล้วนั่นเองค่ะ คือมีความเข้าใจใน คำสอนของพระพุทธเจ้าแล้วนั่นเองค่ะ ยกตัวอย่าง ตถาคตภาษิต ที่มีการเกิดปรากฏขึ้นมาของ ปฏิจจสมุปบาท / การเกิดปรากฏขึ้นมาของ สังขตธรรม จะมี ธรรมที่เป็นเหตุ และ มีธรรมที่เกิดแต่เหตุ เรียงร้อยกันและกันในการเกิดปรากฏขึ้นมา ที่เรียกว่า ปฏิจจสมุปบาท นั่นเองค่ะ (เกิด>เสื่อม)>(เสื่อม>ดับ)>(ดับ>อนัตตา)>(อนัตตา>เนตังมะมะ เนโสหมัสสมิ นะเมโสอัตตา) ธรรมทั้งหลายย่อมทนต่อการเพ่งพิสูจน์นั่นเองค่ะ เมื่อเพ่งพิสูจน์ก็จะเห็น การเกิดปรากฏขึ้นมาของ กฏอิทัปปัจจยตา และ ปฏิจจสมุปบาท นั่นเองค่ะ ก็จะทำให้รู้ว่านี่คือ คำสอนของพระพุทธเจ้า ตถาคตภาษิตา นั่นเองค่ะ คำสอนของพระพุทธเจ้า ตถาคตภาษิต จะเป็นแบบนี้เหมือนกันทั้งหมดเลย นั่นเองค่ะ
@@user-jx9dx3vn5b ธรรมทั้งหลายย่อมทนต่อการเพ่งพิสูจน์ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ สังขตธรรม /เกิด เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมา และ ธรรมที่เกิดแต่เหตุ คือ เสื่อม (เกิด>เสื่อม) เป็นการเกิดปรากฏขึ้นมาของ กฏอิทัปปัจจยตา นั่นเองค่ะ / เสื่อม เป็น ธรรมที่เกิดแต่เหตุ เมื่อเปลี่ยนมาเป็น ธรรมที่เป็นเหตุ / เสื่อม เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมา ( ผมหงอกขาว หนังเหี่ยวย่น ฟันหลุดร่วง เดินตัวงอ) และ ธรรมที่เกิดแต่เหตุ คือ ดับ ( เสื่อม>ดับ) เป็นการเกิดปรากฏขึ้นมาของ กฏอิทัปปัจจยตา และ เป็นการเกิดปรากฏขึ้นมาของ ปฏิจจสมุปบาท แล้วนั่นเองค่ะ / ดับ เป็น ธรรมที่เกิดแต่เหตุ เมื่อเปลี่ยนมาเป็น ธรรมที่เป็นเหตุ / ดับ เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมา (ตาย) และ ธรรมที่เกิดแต่เหตุ คือ อนัตตา (ดับ>อนัตตา) เป็นการเกิดปรากฏขึ้นมาของ กฏอิทัปปัจจยตา และ เป็นการเกิดปรากฏขึ้นมาของ ปฏิจจสมุปบาท นั่นเองค่ะ / อนัตตา เป็น ธรรมที่เกิดแต่เหตุ เมื่อเปลี่ยนมาเป็น ธรรมที่เป็นเหตุ / อนัตตา เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมา ( อนัตตา คือ การมีตัวตนแค่ชั่วคราว มีเกิด มีเสื่อม มีดับ เป็นอนัตตา เมื่อตาย นำไปเผาเหลือแต่ขี้เถ้า คือการเกิดปรากฏขึ้นมาของ อนัตตา นั่นเองค่ะ คือ การมีตัวตนแค่ชั่วคราว ) และ ธรรมที่เกิดแต่เหตุ คือ เนตังมะมะ เนโสหมัสสมิ นะเมโสอัตตา (อนัตตา>เนตังมะมะ เนโสหมัสสมิ นะเมโสอัตตา )เป็นการเกิดปรากฏขึ้นมาของ กฏอิทัปปัจจยตา และ เป็นการเกิดปรากฏขึ้นมาของ ปฏิจจสมุปบาท นั่นเองค่ะ
ใช้ปัญญาพิจารณาเอง ฟังหลวงตามาถึงขั้นนี้แล้ว คิดเองไม่ได้หรือ
กราบสาธุครับ
สาธุ สาธุ สาธุ
สาธุๆๆ
สาธุค่ะ
สาธุครับ
สาธุๆๆเจ้าค่ะ
น้อมกราบสาธุสาธุสาธุเจ้าค่ะ
🙏🙏🙏
สาธุครับ
กราบสาธุ..ค่ะ ดิฉันฟังคลิบนี้5รอบ ก็ขำทุกครั้งและได้ธรรมทุกครั้งที่ฟัง🙏🙏🙏