Velikost videa: 1280 X 720853 X 480640 X 360
Zobrazit ovladače přehrávání
Automatické přehrávání
Přehrát
ทุกวันนี้ข่าวแย่ๆมันไม่ได้มากขึ้นค่ะ เมื่อก่อนก็มากค่ะ เพียงแต่เข้าถึงสื่อได้น้อยกว่าค่ะ และสมัยนี้ดูมากกว่าเพราะเข้าถึงสื่อได้ง่ายแล้วเร็วกว่ามากค่ะ
คือผมว่าบางทีมันก็เป็นเหมือนการศรัทธาที่ทำให้เกิดพลังใจกับตัวเองนะ เหมือนอาจจะสร้างที่ยึดเหนี่ยวจิตใจให้กับตัวเอง เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นในการใช้ชีวิต ในการทำอะไรต่างๆ ในการใช้ชีวิตให้ดีขึ้น สร้างความสุขให้กับตัวเอง
คนนี้เป็นมอร์มอนนะครับ ไม่ใช่คริสเตียน
ผมได้เรื่องรู้จากคลิปนี้คือ จะถือหรือไม่ถือ แค่ตัวเรามีความสุขก็พอแล้วนี้นิ ตอนพี่ผู้หญิงเขาพูดถึงพระเจ้าแววตาเขาดูมีความสุข ถึงผมจะไม่นับถือศาสนา แต่ผมก็ศึกษา ศาสนาต่างๆ มันก็อาจจะมีสักอย่างหรือไม่มี ก็สุขดี แบบพี่คริส แฮมเวส ที่ถือพุธ แต่ ครอบครัวเขา ถือคริสทั้งครอบครัว
ศาสนาคริสเข้าจะไม่โกรธไม่โมโหคนที่ไม่เชื่อศาสนาเขาหรือไม่ชอบศาสนาเขา เขาไม่โกรธจริงๆนะไม่ได้เก็บอารมณ์โกรธไว้
ผมไม่เชื่อเรื่องพระเจ้า และก็ไม่มีศาสนา แต่ผมก็มีที่ยึดเหนี่ยวจิตใจคือครอบครัวกับคนรอบข้าง แต่ผมทำไรผมก็รู้ตัวว่าผมทำไร ทำดีก็ไม่มีปัญหา ทำไม่ดีก็รับผลที่ทำให้ได้ ชีวิตเรามีแค่นั้นจริงๆ ไม่ได้ไปทำให้ใครเดือดร้อน และคนที่นับถือศาสนาก็ไม่ได้มีผลกระทบอะไรกับผม
ก่อนที่มีศาสนา พระเจ้าไปอยู่ที่ไหนมา?
เขาใจผิดแล้วท่าน ศาสนามาพร้อมกับมนุษย์คนแรกของโลกแล้ว
@@NICK-qc2bv ศาสนทูต อาดำ ครับ
@@NICK-qc2bv ว่าแล้วนี่คืออะไรเหรอ คุณรู้มาจากใหนละครับ ถ้าคุณรู้มาจากการดูหนังมันก็ไม่แปลกที่คุณจะตลก เพราะหนังที่สร้างมานั้น มาจากคริสเตียน
@@NICK-qc2bv สมมุติว่าผมเชื่อเรื่องที่คุณบอก แนะนำให้ไปดูคลิปพิสูจน์อิสลามเชิงประจักษ์ ครับ แล้วคุณจะรู้ว่าคุณพลาดอะไร
@@NICK-qc2bv แนะนำให้ดูคลิปพิสูจน์อิสลามเชิงประจักษ์ ครับ
ทนดูจบไม่ได้จริงๆ เพราะคนนับถือพระเจ้ามีแค่คนเดียว ส่วนคนที่ไม่ถือคือเยอะจนเหมือนพยายามค้านความเชื่อคนอื่นๆ
ดูให้จบก็ดีนะคะ เพราะเจตนาช่องดูเหมือนเขาไม่ได้มาค้านอะไรกับคนที่นับถือพระเจ้าเลยค่ะ เป็นเพียงการตั้งคำถาม แม้แต่ตัวคนที่นับถือพระเจ้าเองเขาก็ยังมีคำถามเลยค่ะ
เขาไม่ได้ค้าน เขาตั้งคำถาม
เรื่องที่ไม่ให้กินชากาแฟ ก็เพราะชา กาแฟเป็นเครื่องดื่มของคนมุสลิม ซึ่งสมัยก่อนคนมุสลิมมักจะรวมตัวกันในคาเฟ่และคุยกันเรื่องวิทยาศาสตร์ ทั้งวิทยาศาสตร์ทั้งศาสนาอิสลามเป็นส่วนที่ทำให้ศาสนาคริสต์สั่นคลอน ชาวคริสต์จึงถูกห้ามไม่ให้กินชากาแฟเพราะอาจจะมีบทสนทนากับชาวมุสลิมแล้วกลับมาตั้งคำถามกับศาสนาคริสต์สรุปกฎนี้มีไว้เพื่อความมั่นคงของศาสนาคริสต์ครับ
ผมเป็นคนไม่เชื่อในศาสนาใดๆทังนั้น ทุกๆคำสอนในศาสนาต่างๆ ล้วนแต่มีเหตุมีผลเพื่อให้คนเป็นดี ไอ้คำสอนแปกๆมันแค่บิดเบื่อนคำสอนในนิกายต่างๆที่แตกหน่อออกมาจากศาสนานั้นๆ ยกตัวอย่าง ศาสนาพุทธที่คนไทยนับถือมักจะบิดเบื่อนไปในทางศาสนาผีหรือพราหมณ์ มากกว่า เชื่อในสิ่งศักดิ์สิทธิ์อภินิหาร บลาๆ ก็ว่ากันไป
1.ผู้สร้างต่อให้มีจริงก็ไม่ได้แปลว่าจะเป็นเหมือนที่นิยาม เพราะหลายๆอย่างคือคิดเองแล้วยัดไปในตัวพระเจ้าเอาเองทั้งนั้น มันเป็นการช่วยกันเสริมเรื่องราว ให้สิ่งที่ไม่มีอยู่ให้มีภาพที่ชัดขึ้นเพื่อความสบายใจหรือเปล่า2.ในระดับที่สามารถสร้างได้ทุกอย่าง แต่กลับสร้างสิ่งที่บกพร่อง เพื่ออะไร? แล้วดาวอื่นๆ กาแล็กซีอื่นๆ สร้างมาเพื่อประโยชน์อันใด หรือมนุษย์ตอนนิยามพระเจ้าขึ้นมายังศึกษาไม่ถึงเลยไม่ได้ใส่ร่วมไปกับการแต่งเรื่องด้วย3.ในระดับนั้น พระเจ้ากระทำสิ่งเล็กน้อย ที่ดูเหมือนเป็นกิจกรรมที่มนุษย์ก็ทำกัน (การทดลอง) ในระดับนั้น พระเจ้าต้องทำไปเพื่ออะไร? แล้วจะสิ้นสุดเมื่อไร? หรือถ้าไม่สิ้นสุด แสดงว่าไม่มีจุดประสงค์หรือ? พระเจ้าที่สร้างทุกอย่าง เหนือทุกอย่าง อยากรู้อะไรในการทดสอบ ทำไมไม่สร้างใหม่ หรือทำไมไม่สร้างให้ดีแต่แรก
ผมมองว่า ศาสดา เรานี้ คนที่คิดศาสนาขึ้นมา ผมว่าเขาฉลาดมากเลยนะ ผมยกให้เหมือนนั่งวิทยาศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่เลย มันคือคู่มือมนุษย์ ในการทำแต่ละเรื่องเขาเขียนคำตอบไว้แล้วอยู่ที่เราใจใหม ลองอ่านดีมันคือคำตอบที่เราสงสัยในการทำแต่ละอย่างของชีวิต ศาสนา=คู่มือชีวิตของมนุษย์
พระเจ้า : รักมนุษย์ สัตว์ที่สูญพันธ์ : 👁👄👁
ลองเอาคนพุทธมาตอบคำถามที่ครับ ขอคนที่เป็นพุทธแท้น่ะครับ
ดันครับ
สรุปก็ไม่รู้ห้ามกินทำไม
ผมรู้สึกว่าคนที่เบียดเบียนทางศาสนากลับกลายเป็นคนบางส่วนที่บอกว่าตัวเองไม่มีศาสนา กับคนบางส่วนที่บอกว่าตัวเองเป็นพุทธ(แบบไทยๆ) เหตุนี้ละมั้งคนถึงมีศาสนาเพื่อที่จะไม่เบียดเบียดซึ่งกันตามคำสอนของแต่ละศาสนา ส่วนตัวไม่ระบุศาสนาและเลือกใช้ปรัชญาแทน ซึ่งมันสามารถปรับไปตามสถานการณ์ได้ไวกว่า
ดีอีกช่อง
ช่องนำเสนอความหลากหลายเพื่อมาถกกัน อย่างมีสติ
สำหรับผมศาสนาอารมณ์เหมือนนักต้มตุ๋นอ่ะ เหมือนสมัยนี้ที่เราเห็นกันบ่อยๆ พระบิดางี้555
พลอย จำโอได้ไหม พระเจ้าอวยพร ฮาเลฮูย่า
ตอบคำถามด้วยคำถาม
สรุปก็คือความศรัทธาอยู่ความคิดและจิตใจ มีเพียงแค่อยู่ข้างในนั้น
บางคำเหมือนมาจาก philosopher เลยอ่ะ
อยากรู้เรื่องที่เป็นเหตุให้เค้าเชื่อในพระเจ้า อยากให้เค้าเล่าให้ฟังมากกว่า
นับถือหรือไม่นับถือ ปลายทางคือมึงต้องเป็นคนดีแค่นั้นเอง ทุกศาสนาสอนอย่างนั้น ทุกคนมีสิทธิตั้งคำถาม แล้วหาคำตอบด้วยตัวโมง
ประเด็นคือคนจะเป็นคนดีได้อย่างไรในเมื่อนิยามความดีไม่เหมือนกัน คุณจะเอาอะไรเป็นบรรทัดฐาน สุดท้ายคุณก็ตามใจตัวเองนะและ
เอา เฮอโมอิเล็กตัส ไปไว้ไหนก่อน...เยซูสร้างโลกใน6วันแต่เกิดหลังฮินดู 2000 ปี ? ฮัลโหล
พระเยซูไม่ใช่ผู้สร้างโลกนะครับ ผู้ส้รางทุกสรรพสิ่งคือพระบิดาโดยความเชื่อของชาวคริสต์เตียนแบ่งเป็นสามยุค ในตรีเอกนุภาพ ครับพระบิดา (ยุคแรก) ผู้สร้างทุกสรรพสิ่งพระบุตร (ยุคพระเยซู) ผู้เผยพระคำของพระเจ้า ผู้ไถ่บาปมาตายเพื่อทุกคนถ้าเชื่อในพระเยซูจะได้รับความรอด เป็นภารกิจที่พระเจ้าบนสวรรค์ส่งมาให้ทำเพื่อไม่ให้ใครอวดอ้างในความรอดและตัดสินเขาผู้นั้นได้ และ เป็นผู้มาเป็นตัวอย่างให้กับพวกเราชาวโลกครับว่าเราทุกคนก็เป็นเหมือนพระเยซูได้ เพราะเราทุกคนก็เป็นบุตรของพระเจ้า เราทุกคนสามารถติดสนิทกับพระเจ้าได้ เหมือนกับพระเยซูที่เป็นพระบุตรของพระเจ้าที่ลงมาเป็นมนุษย์พระวิญญาณบริสุทธิ์ (ยุคสุดท้าย) คือพระเจ้าที่อยู่ในตัวเราทุกคนที่เชื่อในพระเจ้า พระวิญญาณจะรู้ทุกสิ่งที่เราคิด รู้ทุกสิ่ง และมีฤทธิ์เดชมากในความคิด จิตใจ จิตวิญญาณ และกำลังของผู้ศรัทธาทั้งสามพระนี้รวมกันเป็นพระเจ้าเพียงองค์เดียวกล่าวคือพระเจ้านั้นมีองค์เดียวเเต่ดำรงค์ในสามบุคคลครับ รวมกันเป็นพระเจ้าองค์เดียวกัน และเป็นพระเจ้านิรันดร์ร่วมกัน เท่าเทียมกัน มีอมตะร่วมกัน เชื่อมต่อถึงกันทั้งหมด หากเราเชื่อในพระเยซู พระเจ้าทั้งสามองค์นี้จะเชื่อมถึงกันทั้งหมดครับส่วนนิกายลัทธิเทียมเท็จที่อ้างว่าเป็นคริสต์ส่วนใหญ่จะปฎิเสธพระเจ้าทั้งสามองค์นี้ครับ และมีหลายมักปฏิเสธพระบุตร พระวิญญาณบริสุทธื์ว่าไม่ใช่พระเจ้า พระเจ้ามีองค์คือพระบิดา แต่ในไบเบิลเราสอนไว้ชัดเจนครับว่า พระบิดาเป็นพระเจ้านิรันดร์ พระบุตรเป็นนิรันดร์ พระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นพระเจ้า (รวมเป็นพระเจ้าองค์เดียว)ขอพระเจ้าอวยพรครับ
ก็ใครใคร่ทำอะไรทำ แบบไม่เดือดร้อนใครก็พอ ไม่เอาความเชื่อไม่เชื่อมาจิกกัดกัน 😂
ที่พูดว่า พระองค์บอกมาอย่างงั้น พระองค์ตั้งกฏมาอย่างงี้ คำถามคือ พระองค์ส่งใครมาบอก ใครเป็นคนจดบันทึก แล้วคนๆนั้นเชื่อถือได้กี่เปอร์เซ็น พระเจ้าใช้หลักเหตุผลอะไรมาเป็นตัวกำหนดว่าทำสิ่งนั้นได้ ทำสิ่งนั้นไม่ได้ ทั้งๆที่ชีวิตก็เป็นของเรา มีหลักฐานอะไรที่เราจะเอามาพิสูจว่าพระเจ้ามีตัวตนอยู่จริงๆ เป็นแสงบินลงมาจากท้องฟ้าหรอ แล้วพระเจ้าพูดภาษาอะไร พูดไทยได้มั้ย can you speak thai? แล้วเอาอะไรมามั่นใจว่าพระเจ้าเป็นคนดีเหมือนกัน ท่านอาจจะอยากบงการอะไรในตัวเราก็ได้ ศาสนาทุกศาสนามีแค่สิ่งๆเดียวที่เหมือนกัน ย้ำ!! มีแค่สิ่งเดียวเท่านั้น คือ สอนให้เราเป็นคนดีของสังคม ในส่วนที่เหลือเนี่ยคือส่วนตัวของพระเจ้า อย่างเช่น มูฮัมหมัด ไม่ชอบสกปรก เห็นหมูสกปรกตัวเหม็น เลยไม่กินหมู เขาห้ามคนอื่นด้วยหรือป่าว เบียดเบียนคนอื่นมั้ย? สิ่งที่พระพุทธเจ้าห้าม มังสวณิชชา หมายถึง ค้าขายสัตว์เพื่อนำไปฆ่า หรือการส่งเสริมให้ทำผิดศีลข้อที่ ๑ คำถามคือ ก็ยังมีอยู่ มนุษย์เรากินเพื่ออยู่รอด มนุษย์กินได้ทั้งพืชและสัตว์ ถามว่ากินพืชอย่างเดียวได้มั้ย ได้ครับ แต่ว่าสารอาหารที่ได้รับก็จะไม่ครบถ้วน เพราะวิตามินบางตัวที่ได้จากพืช มันทดแทนกันกับเนื้อไม่ได้ ซึ่งอาจทำให้เกิดโรดแทรกซ้อนบางโรค บางอย่างเราควรละเว้น คำถามอีกคำถามคือ ไม่เชื่อในตัวพระเจ้าได้มั้ย ได้ครับ ผมมองว่าพวกเขาก็คือบุคคล คนหนึ่ง มีอยู่จริงหรือเปล่าไม่รู้ แต่คำสอนบางอย่างสามารถเอามาใช้ได้จริง แค่นั้นก็พอแล้วเปล่าวะ พระเจ้าจะเป็นอะไรก็ช่างมันเหอะ แต่คำสอนที่มีอยู่เนี่ย ทุกศาสนาเอามา compact กันแล้วเนี่ย สามารถเอามาใช้ได้จริงนะ ไม่ต้องใช้ทุกอันก็ได้ เพราะบางอย่างมันล้าหลังเกินกว่าจะเอามาใช้ เพราะเราก็ไม่รู้ว่าพระเจ้าเกิดขึ้นมาในยุคไหนอะเนอะ คำสอนมันผุดขึ้นมาในช่วงไหนก็ไม่รู้ แต่ผมไม่เชื่อในตัวพระเจ้า ผมเชื่อในหลักการ คำสอน ที่จะสามารถทำให้การใช้ชีวิตของผม เป็นไปอย่างราบรื่น ถ้าใครที่เห็นต่างตรงไหน แชร์กันที่ใต้เม้นท์นะครับ
ส่วนที่ว่าถ้าไม่มีศาสนา ผู้คนก็จะไม่มีที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ผมถามหน่อย กี่เปอร์เซ็นของคนที่ไปวัดทำบุญ คุณสบายใจขึ้นจริงๆรึเปล่า หรือคิดไปเอง สมมุติว่าคุณทำบุญ คุณผ่อนคลาย คุณกลับบ้านมา เห็นหมาที่บ้านทำลายข้าวของ เตียงเละเทะ ทีวีจอแตก คุณยังผ่อนคลายอยู่มั้ย แล้วคุณจะทำยังไง กลับไปวัดหรอ นึกถึงพระเจ้าหรอ โอ้พระเจ้าทรงโปรด ช่วยลูกจับหมาตัวนี้โยนออกนอกบ้านและทำความสะอาดห้องที งี้อ่อ? ผมว่ามันอยู่ที่ช่วงเวลามากกว่าว่าสิ่งยึดเหนี่ยวของเราเวลานั้นคืออะไร ยิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ ไม่ใช่สิ่งที่ทำตามๆใคร แต่เราต่างหากที่เป็นคนเลือกทำเอง ทำอะไรแล้วผ่อนคลายและไม่ลำบากชีวิตคนอื่น นั่นคือเรื่องดี เพราะมันมีไว้ดับความโมโห ความใจร้อนของเรา ผมไว้พระผมยังกำหมัดกับบทสวดเลย พูดอะไรก็ไม่รู้ฟังไม่รู้เรื่อง ท่องก็อืดอาดยืดยาด สำเนียงเหมือนคนง่วงนอน ผมไม่ผ่อนคลาย ผมเล่นเกม นั่งระบายสิ่งที่อยู่ในหัวกับเพื่อนๆ ผมผ่อนคลายมากกว่า ชอบสิ่งไหนก็ไปทำสิ่งนั้นดีกว่านะ เพราะไม่อย่างงั้น จะอึดอัดซะเองเพียงเพราะเห็นเขาทำเราเลยทำตาม ถ้ารู้ว่ามันไม่ใช่ก็ไม่ต้องทำ และอีกอย่าง ศาสนาเผยแพร่ได้ แต่อย่ายัดเยียดนะครับ มันไม่ดี เบียดเบียนชีวิต
คุณมองตื่นไป คำถาม คุณคิดว่าโลกนี้เกิดขึ้นมาเองโดยบังเอิญหรือ แน่นอนมันไม่บังเอิญ มันต้องมีผู้ออกแบบ ผู้ว่างระบบ และผู้สร้าง สิ่งนี้มีอยู่จริงแน่นอน และไม่เหมือนสิ่งใดเลย ดังนั้นเราจะจินตนาการไม่ออก สิ่งที่เราจินตนาการออกมันไม่ใช้ผู้สร้าง ผู้สร้างไม่ได้กำหนดจากผู้ได และไม่ได้ให้กำหนดผู้ใด ดังนั้นผู้สร้างที่แท้จริงไม่มีลูก
ไอ้คำว่าทดสอบ คือคำพูดให้ดูดีป่าว พอลำบากก็จะโยนไปให้พระเจ้าทดสอบ เอะอะก็ทดสอบ มีอยู่เรื่องนึง มีคุณยายมีน้ำใจเห็นด้วยความสงสารส่งเงินให้ชาว คริส ที่บ้านจน สร้างบ้านต่อเติม เพราะด้วยนำใจและความสงสาร แต่คนคริสกลุ่มนั้น ไม่เคยขอบคุณคุณยาย แต่ดันไปคิดว่าพระเจ้าดนใจให้คุณยายช่วยเหลือเพราะคิดว่าตัวเองคือคนที่เชื่อพระเจ้า ไปขอบคุณพระเจ้า ไม่พูดถึงน้ำใจคุณยาย
เวลาตอบไม่ได้ก็ใช้วิธีนี้แหละ ง่ายดี
อย่าอินเกินครับ ขนาดศาสนาเดียวกันยังเชื่อไม่เหมือนกัน เรื่องแต่งทั้งนั้น ปากต่อปากเลยกลายเป็นหลายศาสนาแค่นั้น มองโลกความจริงดีกว่าค้าบ
🤍
อดีต: ศาสนาเกิดขึ้นมาเพื่อตอบคำถามในสิ่งที่มนุษย์ไม่รู้หรือหาคำตอบให้กับสิ่งเหล่านั้นไม่ได้ เช่น เสียงฟ้าร้องเกิดจากอะไร? ฟ้าผ่าเกิดจากอะไร?ปัจจุบัน: เมื่อมนุษย์มีความรู้อันเป็นวิทยาศาสตร์มากขึ้นและสามารถหาคำตอบให้กับสิ่งต่างๆนั้นได้ ศาสนาจึงไม่ใช่เครื่องมือที่จำเป็นอีกต่อไปในการสรูป: ศาสนา และ วิทยาศาสตร์ ก็แค่เครื่องมือหนึ่ง ที่ใช้ในการตอบคำถามและแก้ไขปัญหาของมนุษย์เพียงแต่ต่างกันก็แค่เครื่องมือแต่ละชิ้นมาจากคนละยุคสมัย ประสิทธิภาพของเครื่องมือแตกต่างกัน และผลลัพธ์ที่ได้ไม่เหมือนกัน
มอรมอนไม่ใช่คริสเตียน czcams.com/video/iOz7czkBdbU/video.html
ทุกวันนี้ข่าวแย่ๆมันไม่ได้มากขึ้นค่ะ เมื่อก่อนก็มากค่ะ เพียงแต่เข้าถึงสื่อได้น้อยกว่าค่ะ และสมัยนี้ดูมากกว่าเพราะเข้าถึงสื่อได้ง่ายแล้วเร็วกว่ามากค่ะ
คือผมว่าบางทีมันก็เป็นเหมือนการศรัทธาที่ทำให้เกิดพลังใจกับตัวเองนะ เหมือนอาจจะสร้างที่ยึดเหนี่ยวจิตใจให้กับตัวเอง เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นในการใช้ชีวิต ในการทำอะไรต่างๆ ในการใช้ชีวิตให้ดีขึ้น สร้างความสุขให้กับตัวเอง
คนนี้เป็นมอร์มอนนะครับ ไม่ใช่คริสเตียน
ผมได้เรื่องรู้จากคลิปนี้คือ จะถือหรือไม่ถือ แค่ตัวเรามีความสุขก็พอแล้วนี้นิ ตอนพี่ผู้หญิงเขาพูดถึงพระเจ้าแววตาเขาดูมีความสุข ถึงผมจะไม่นับถือศาสนา แต่ผมก็ศึกษา ศาสนาต่างๆ มันก็อาจจะมีสักอย่างหรือไม่มี ก็สุขดี แบบพี่คริส แฮมเวส ที่ถือพุธ แต่ ครอบครัวเขา ถือคริสทั้งครอบครัว
ศาสนาคริสเข้าจะไม่โกรธไม่โมโหคนที่ไม่เชื่อศาสนาเขาหรือไม่ชอบศาสนาเขา เขาไม่โกรธจริงๆนะไม่ได้เก็บอารมณ์โกรธไว้
ผมไม่เชื่อเรื่องพระเจ้า และก็ไม่มีศาสนา แต่ผมก็มีที่ยึดเหนี่ยวจิตใจคือครอบครัวกับคนรอบข้าง แต่ผมทำไรผมก็รู้ตัวว่าผมทำไร ทำดีก็ไม่มีปัญหา ทำไม่ดีก็รับผลที่ทำให้ได้ ชีวิตเรามีแค่นั้นจริงๆ ไม่ได้ไปทำให้ใครเดือดร้อน และคนที่นับถือศาสนาก็ไม่ได้มีผลกระทบอะไรกับผม
ก่อนที่มีศาสนา พระเจ้าไปอยู่ที่ไหนมา?
เขาใจผิดแล้วท่าน ศาสนามาพร้อมกับมนุษย์คนแรกของโลกแล้ว
@@NICK-qc2bv ศาสนทูต อาดำ ครับ
@@NICK-qc2bv ว่าแล้วนี่คืออะไรเหรอ คุณรู้มาจากใหนละครับ ถ้าคุณรู้มาจากการดูหนังมันก็ไม่แปลกที่คุณจะตลก เพราะหนังที่สร้างมานั้น มาจากคริสเตียน
@@NICK-qc2bv สมมุติว่าผมเชื่อเรื่องที่คุณบอก แนะนำให้ไปดูคลิปพิสูจน์อิสลามเชิงประจักษ์ ครับ แล้วคุณจะรู้ว่าคุณพลาดอะไร
@@NICK-qc2bv แนะนำให้ดูคลิปพิสูจน์อิสลามเชิงประจักษ์ ครับ
ทนดูจบไม่ได้จริงๆ เพราะคนนับถือพระเจ้ามีแค่คนเดียว ส่วนคนที่ไม่ถือคือเยอะจนเหมือนพยายามค้านความเชื่อคนอื่นๆ
ดูให้จบก็ดีนะคะ เพราะเจตนาช่องดูเหมือนเขาไม่ได้มาค้านอะไรกับคนที่นับถือพระเจ้าเลยค่ะ เป็นเพียงการตั้งคำถาม แม้แต่ตัวคนที่นับถือพระเจ้าเองเขาก็ยังมีคำถามเลยค่ะ
เขาไม่ได้ค้าน เขาตั้งคำถาม
เรื่องที่ไม่ให้กินชากาแฟ ก็เพราะชา กาแฟเป็นเครื่องดื่มของคนมุสลิม ซึ่งสมัยก่อนคนมุสลิมมักจะรวมตัวกันในคาเฟ่และคุยกันเรื่องวิทยาศาสตร์ ทั้งวิทยาศาสตร์ทั้งศาสนาอิสลามเป็นส่วนที่ทำให้ศาสนาคริสต์สั่นคลอน ชาวคริสต์จึงถูกห้ามไม่ให้กินชากาแฟเพราะอาจจะมีบทสนทนากับชาวมุสลิมแล้วกลับมาตั้งคำถามกับศาสนาคริสต์
สรุปกฎนี้มีไว้เพื่อความมั่นคงของศาสนาคริสต์ครับ
ผมเป็นคนไม่เชื่อในศาสนาใดๆทังนั้น ทุกๆคำสอนในศาสนาต่างๆ ล้วนแต่มีเหตุมีผลเพื่อให้คนเป็นดี ไอ้คำสอนแปกๆมันแค่บิดเบื่อนคำสอนในนิกายต่างๆที่แตกหน่อออกมาจากศาสนานั้นๆ ยกตัวอย่าง ศาสนาพุทธที่คนไทยนับถือมักจะบิดเบื่อนไปในทางศาสนาผีหรือพราหมณ์ มากกว่า เชื่อในสิ่งศักดิ์สิทธิ์อภินิหาร บลาๆ ก็ว่ากันไป
1.ผู้สร้างต่อให้มีจริงก็ไม่ได้แปลว่าจะเป็นเหมือนที่นิยาม เพราะหลายๆอย่างคือคิดเองแล้วยัดไปในตัวพระเจ้าเอาเองทั้งนั้น มันเป็นการช่วยกันเสริมเรื่องราว ให้สิ่งที่ไม่มีอยู่ให้มีภาพที่ชัดขึ้นเพื่อความสบายใจหรือเปล่า
2.ในระดับที่สามารถสร้างได้ทุกอย่าง แต่กลับสร้างสิ่งที่บกพร่อง เพื่ออะไร? แล้วดาวอื่นๆ กาแล็กซีอื่นๆ สร้างมาเพื่อประโยชน์อันใด หรือมนุษย์ตอนนิยามพระเจ้าขึ้นมายังศึกษาไม่ถึงเลยไม่ได้ใส่ร่วมไปกับการแต่งเรื่องด้วย
3.ในระดับนั้น พระเจ้ากระทำสิ่งเล็กน้อย ที่ดูเหมือนเป็นกิจกรรมที่มนุษย์ก็ทำกัน (การทดลอง) ในระดับนั้น พระเจ้าต้องทำไปเพื่ออะไร? แล้วจะสิ้นสุดเมื่อไร? หรือถ้าไม่สิ้นสุด แสดงว่าไม่มีจุดประสงค์หรือ? พระเจ้าที่สร้างทุกอย่าง เหนือทุกอย่าง อยากรู้อะไรในการทดสอบ ทำไมไม่สร้างใหม่ หรือทำไมไม่สร้างให้ดีแต่แรก
ผมมองว่า ศาสดา เรานี้ คนที่คิดศาสนาขึ้นมา ผมว่าเขาฉลาดมากเลยนะ ผมยกให้เหมือนนั่งวิทยาศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่เลย มันคือคู่มือมนุษย์ ในการทำแต่ละเรื่องเขาเขียนคำตอบไว้แล้วอยู่ที่เราใจใหม ลองอ่านดีมันคือคำตอบที่เราสงสัยในการทำแต่ละอย่างของชีวิต ศาสนา=คู่มือชีวิตของมนุษย์
พระเจ้า : รักมนุษย์
สัตว์ที่สูญพันธ์ : 👁👄👁
ลองเอาคนพุทธมาตอบคำถามที่ครับ ขอคนที่เป็นพุทธแท้น่ะครับ
ดันครับ
สรุปก็ไม่รู้ห้ามกินทำไม
ผมรู้สึกว่าคนที่เบียดเบียนทางศาสนากลับกลายเป็นคนบางส่วนที่บอกว่าตัวเองไม่มีศาสนา กับคนบางส่วนที่บอกว่าตัวเองเป็นพุทธ(แบบไทยๆ) เหตุนี้ละมั้งคนถึงมีศาสนาเพื่อที่จะไม่เบียดเบียดซึ่งกันตามคำสอนของแต่ละศาสนา ส่วนตัวไม่ระบุศาสนาและเลือกใช้ปรัชญาแทน ซึ่งมันสามารถปรับไปตามสถานการณ์ได้ไวกว่า
ดีอีกช่อง
ช่องนำเสนอความหลากหลายเพื่อมาถกกัน อย่างมีสติ
สำหรับผมศาสนาอารมณ์เหมือนนักต้มตุ๋นอ่ะ เหมือนสมัยนี้ที่เราเห็นกันบ่อยๆ พระบิดางี้555
พลอย จำโอได้ไหม พระเจ้าอวยพร ฮาเลฮูย่า
ตอบคำถามด้วยคำถาม
สรุปก็คือความศรัทธาอยู่ความคิดและจิตใจ มีเพียงแค่อยู่ข้างในนั้น
บางคำเหมือนมาจาก philosopher เลยอ่ะ
อยากรู้เรื่องที่เป็นเหตุให้เค้าเชื่อในพระเจ้า อยากให้เค้าเล่าให้ฟังมากกว่า
นับถือหรือไม่นับถือ ปลายทางคือมึงต้องเป็นคนดีแค่นั้นเอง ทุกศาสนาสอนอย่างนั้น ทุกคนมีสิทธิตั้งคำถาม แล้วหาคำตอบด้วยตัวโมง
ประเด็นคือคนจะเป็นคนดีได้อย่างไรในเมื่อนิยามความดีไม่เหมือนกัน คุณจะเอาอะไรเป็นบรรทัดฐาน สุดท้ายคุณก็ตามใจตัวเองนะและ
เอา เฮอโมอิเล็กตัส ไปไว้ไหนก่อน...
เยซูสร้างโลกใน6วัน
แต่เกิดหลังฮินดู 2000 ปี ? ฮัลโหล
พระเยซูไม่ใช่ผู้สร้างโลกนะครับ ผู้ส้รางทุกสรรพสิ่งคือพระบิดา
โดยความเชื่อของชาวคริสต์เตียนแบ่งเป็นสามยุค ในตรีเอกนุภาพ ครับ
พระบิดา (ยุคแรก) ผู้สร้างทุกสรรพสิ่ง
พระบุตร (ยุคพระเยซู) ผู้เผยพระคำของพระเจ้า ผู้ไถ่บาปมาตายเพื่อทุกคนถ้าเชื่อในพระเยซูจะได้รับความรอด เป็นภารกิจที่พระเจ้าบนสวรรค์ส่งมาให้ทำเพื่อไม่ให้ใครอวดอ้างในความรอดและตัดสินเขาผู้นั้นได้ และ เป็นผู้มาเป็นตัวอย่างให้กับพวกเราชาวโลกครับว่าเราทุกคนก็เป็นเหมือนพระเยซูได้ เพราะเราทุกคนก็เป็นบุตรของพระเจ้า เราทุกคนสามารถติดสนิทกับพระเจ้าได้ เหมือนกับพระเยซูที่เป็นพระบุตรของพระเจ้าที่ลงมาเป็นมนุษย์
พระวิญญาณบริสุทธิ์ (ยุคสุดท้าย) คือพระเจ้าที่อยู่ในตัวเราทุกคนที่เชื่อในพระเจ้า พระวิญญาณจะรู้ทุกสิ่งที่เราคิด รู้ทุกสิ่ง และมีฤทธิ์เดชมากในความคิด จิตใจ จิตวิญญาณ และกำลังของผู้ศรัทธา
ทั้งสามพระนี้รวมกันเป็นพระเจ้าเพียงองค์เดียว
กล่าวคือพระเจ้านั้นมีองค์เดียวเเต่ดำรงค์ในสามบุคคลครับ รวมกันเป็นพระเจ้าองค์เดียวกัน และเป็นพระเจ้านิรันดร์ร่วมกัน เท่าเทียมกัน มีอมตะร่วมกัน เชื่อมต่อถึงกันทั้งหมด
หากเราเชื่อในพระเยซู พระเจ้าทั้งสามองค์นี้จะเชื่อมถึงกันทั้งหมดครับ
ส่วนนิกายลัทธิเทียมเท็จที่อ้างว่าเป็นคริสต์ส่วนใหญ่จะปฎิเสธพระเจ้าทั้งสามองค์นี้ครับ และมีหลายมักปฏิเสธพระบุตร พระวิญญาณบริสุทธื์ว่าไม่ใช่พระเจ้า พระเจ้ามีองค์คือพระบิดา แต่ในไบเบิลเราสอนไว้ชัดเจนครับว่า พระบิดาเป็นพระเจ้านิรันดร์ พระบุตรเป็นนิรันดร์ พระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นพระเจ้า (รวมเป็นพระเจ้าองค์เดียว)
ขอพระเจ้าอวยพรครับ
ก็ใครใคร่ทำอะไรทำ แบบไม่เดือดร้อนใครก็พอ ไม่เอาความเชื่อไม่เชื่อมาจิกกัดกัน 😂
ที่พูดว่า พระองค์บอกมาอย่างงั้น พระองค์ตั้งกฏมาอย่างงี้ คำถามคือ พระองค์ส่งใครมาบอก ใครเป็นคนจดบันทึก แล้วคนๆนั้นเชื่อถือได้กี่เปอร์เซ็น พระเจ้าใช้หลักเหตุผลอะไรมาเป็นตัวกำหนดว่าทำสิ่งนั้นได้ ทำสิ่งนั้นไม่ได้ ทั้งๆที่ชีวิตก็เป็นของเรา มีหลักฐานอะไรที่เราจะเอามาพิสูจว่าพระเจ้ามีตัวตนอยู่จริงๆ เป็นแสงบินลงมาจากท้องฟ้าหรอ แล้วพระเจ้าพูดภาษาอะไร พูดไทยได้มั้ย can you speak thai? แล้วเอาอะไรมามั่นใจว่าพระเจ้าเป็นคนดีเหมือนกัน ท่านอาจจะอยากบงการอะไรในตัวเราก็ได้ ศาสนาทุกศาสนามีแค่สิ่งๆเดียวที่เหมือนกัน ย้ำ!! มีแค่สิ่งเดียวเท่านั้น คือ สอนให้เราเป็นคนดีของสังคม ในส่วนที่เหลือเนี่ยคือส่วนตัวของพระเจ้า อย่างเช่น มูฮัมหมัด ไม่ชอบสกปรก เห็นหมูสกปรกตัวเหม็น เลยไม่กินหมู เขาห้ามคนอื่นด้วยหรือป่าว เบียดเบียนคนอื่นมั้ย? สิ่งที่พระพุทธเจ้าห้าม มังสวณิชชา หมายถึง ค้าขายสัตว์เพื่อนำไปฆ่า หรือการส่งเสริมให้ทำผิดศีลข้อที่ ๑ คำถามคือ ก็ยังมีอยู่ มนุษย์เรากินเพื่ออยู่รอด มนุษย์กินได้ทั้งพืชและสัตว์ ถามว่ากินพืชอย่างเดียวได้มั้ย ได้ครับ แต่ว่าสารอาหารที่ได้รับก็จะไม่ครบถ้วน เพราะวิตามินบางตัวที่ได้จากพืช มันทดแทนกันกับเนื้อไม่ได้ ซึ่งอาจทำให้เกิดโรดแทรกซ้อนบางโรค บางอย่างเราควรละเว้น คำถามอีกคำถามคือ ไม่เชื่อในตัวพระเจ้าได้มั้ย ได้ครับ ผมมองว่าพวกเขาก็คือบุคคล คนหนึ่ง มีอยู่จริงหรือเปล่าไม่รู้ แต่คำสอนบางอย่างสามารถเอามาใช้ได้จริง แค่นั้นก็พอแล้วเปล่าวะ พระเจ้าจะเป็นอะไรก็ช่างมันเหอะ แต่คำสอนที่มีอยู่เนี่ย ทุกศาสนาเอามา compact กันแล้วเนี่ย สามารถเอามาใช้ได้จริงนะ ไม่ต้องใช้ทุกอันก็ได้ เพราะบางอย่างมันล้าหลังเกินกว่าจะเอามาใช้ เพราะเราก็ไม่รู้ว่าพระเจ้าเกิดขึ้นมาในยุคไหนอะเนอะ คำสอนมันผุดขึ้นมาในช่วงไหนก็ไม่รู้ แต่ผมไม่เชื่อในตัวพระเจ้า ผมเชื่อในหลักการ คำสอน ที่จะสามารถทำให้การใช้ชีวิตของผม เป็นไปอย่างราบรื่น ถ้าใครที่เห็นต่างตรงไหน แชร์กันที่ใต้เม้นท์นะครับ
ส่วนที่ว่าถ้าไม่มีศาสนา ผู้คนก็จะไม่มีที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ผมถามหน่อย กี่เปอร์เซ็นของคนที่ไปวัดทำบุญ คุณสบายใจขึ้นจริงๆรึเปล่า หรือคิดไปเอง สมมุติว่าคุณทำบุญ คุณผ่อนคลาย คุณกลับบ้านมา เห็นหมาที่บ้านทำลายข้าวของ เตียงเละเทะ ทีวีจอแตก คุณยังผ่อนคลายอยู่มั้ย แล้วคุณจะทำยังไง กลับไปวัดหรอ นึกถึงพระเจ้าหรอ โอ้พระเจ้าทรงโปรด ช่วยลูกจับหมาตัวนี้โยนออกนอกบ้านและทำความสะอาดห้องที งี้อ่อ? ผมว่ามันอยู่ที่ช่วงเวลามากกว่าว่าสิ่งยึดเหนี่ยวของเราเวลานั้นคืออะไร ยิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ ไม่ใช่สิ่งที่ทำตามๆใคร แต่เราต่างหากที่เป็นคนเลือกทำเอง ทำอะไรแล้วผ่อนคลายและไม่ลำบากชีวิตคนอื่น นั่นคือเรื่องดี เพราะมันมีไว้ดับความโมโห ความใจร้อนของเรา ผมไว้พระผมยังกำหมัดกับบทสวดเลย พูดอะไรก็ไม่รู้ฟังไม่รู้เรื่อง ท่องก็อืดอาดยืดยาด สำเนียงเหมือนคนง่วงนอน ผมไม่ผ่อนคลาย ผมเล่นเกม นั่งระบายสิ่งที่อยู่ในหัวกับเพื่อนๆ ผมผ่อนคลายมากกว่า ชอบสิ่งไหนก็ไปทำสิ่งนั้นดีกว่านะ เพราะไม่อย่างงั้น จะอึดอัดซะเองเพียงเพราะเห็นเขาทำเราเลยทำตาม ถ้ารู้ว่ามันไม่ใช่ก็ไม่ต้องทำ และอีกอย่าง ศาสนาเผยแพร่ได้ แต่อย่ายัดเยียดนะครับ มันไม่ดี เบียดเบียนชีวิต
คุณมองตื่นไป คำถาม คุณคิดว่าโลกนี้เกิดขึ้นมาเองโดยบังเอิญหรือ แน่นอนมันไม่บังเอิญ มันต้องมีผู้ออกแบบ ผู้ว่างระบบ และผู้สร้าง สิ่งนี้มีอยู่จริงแน่นอน และไม่เหมือนสิ่งใดเลย ดังนั้นเราจะจินตนาการไม่ออก สิ่งที่เราจินตนาการออกมันไม่ใช้ผู้สร้าง ผู้สร้างไม่ได้กำหนดจากผู้ได และไม่ได้ให้กำหนดผู้ใด ดังนั้นผู้สร้างที่แท้จริงไม่มีลูก
ไอ้คำว่าทดสอบ คือคำพูดให้ดูดีป่าว พอลำบากก็จะโยนไปให้พระเจ้าทดสอบ เอะอะก็ทดสอบ มีอยู่เรื่องนึง มีคุณยายมีน้ำใจเห็นด้วยความสงสารส่งเงินให้ชาว คริส ที่บ้านจน สร้างบ้านต่อเติม เพราะด้วยนำใจและความสงสาร แต่คนคริสกลุ่มนั้น ไม่เคยขอบคุณคุณยาย แต่ดันไปคิดว่าพระเจ้าดนใจให้คุณยายช่วยเหลือเพราะคิดว่าตัวเองคือคนที่เชื่อพระเจ้า ไปขอบคุณพระเจ้า ไม่พูดถึงน้ำใจคุณยาย
เวลาตอบไม่ได้ก็ใช้วิธีนี้แหละ ง่ายดี
อย่าอินเกินครับ ขนาดศาสนาเดียวกันยังเชื่อไม่เหมือนกัน เรื่องแต่งทั้งนั้น ปากต่อปากเลยกลายเป็นหลายศาสนาแค่นั้น มองโลกความจริงดีกว่าค้าบ
🤍
อดีต: ศาสนาเกิดขึ้นมาเพื่อตอบคำถามในสิ่งที่มนุษย์ไม่รู้หรือหาคำตอบให้กับสิ่งเหล่านั้นไม่ได้ เช่น เสียงฟ้าร้องเกิดจากอะไร? ฟ้าผ่าเกิดจากอะไร?
ปัจจุบัน: เมื่อมนุษย์มีความรู้อันเป็นวิทยาศาสตร์มากขึ้นและสามารถหาคำตอบให้กับสิ่งต่างๆนั้นได้ ศาสนาจึงไม่ใช่เครื่องมือที่จำเป็นอีกต่อไปในการ
สรูป: ศาสนา และ วิทยาศาสตร์ ก็แค่เครื่องมือหนึ่ง ที่ใช้ในการตอบคำถามและแก้ไขปัญหาของมนุษย์
เพียงแต่ต่างกันก็แค่เครื่องมือแต่ละชิ้นมาจากคนละยุคสมัย ประสิทธิภาพของเครื่องมือแตกต่างกัน และผลลัพธ์ที่ได้ไม่เหมือนกัน
มอรมอนไม่ใช่คริสเตียน czcams.com/video/iOz7czkBdbU/video.html