3 เสือแดนกลางอังกฤษยุค 2000S แต่ทำไมอยู่ด้วยกันไม่ได้ ? | Footballista EP.106
Vložit
- čas přidán 10. 09. 2024
- #MainStand : ปัญหาโลกแตกในโลกฟุตบอลนั้นมีมากมาย และหนึ่งในนั้นคือคำถามที่ว่า แฟรงค์ แลมพาร์ด, พอล สโคลส์ หรือ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ใครคือมิดฟิลด์ที่ดีกว่ากัน
นี่คือเรื่องราวคำถามโลกแตก และเมื่อทุกคนดันเกิดทันรุ่นกันอีกด้วย
ติดตามที่ MainStand Stories
-----------------------------------------------------------
เพื่อไม่ให้พลาดเรื่องสนุก ๆ อีกมากมาย ตามไปดูเรื่องราวของ Main Stand เพิ่มเติมได้ที่ Website ของเรา :
www.mainstand....
#Footballista #พรีเมียร์ลีก
3 คนนี้ เป็นห้องเครื่องครับ ถ้าเอาลงพร้อมกันหมด จะทำให้ ตำแหน่ง ล้อ เบรค เพลา ท่อ เบรค ลดน้อยลง ทีมจะไม่แรง แซงใครไม่ได้ครับ
เปรียบเทียบได้ดีและตรงประเด็นครับ เห็นภาพเลย
ช่าย ผิดที่โค้ดมันโง่
เอา สโคลไปเล่นเป็นปีก มันใช้อะไรคิดหวะ
กันณ์ เรสซิ่งก็มา
ปัญหามันอยู่ที่ผู้จัดการทีมครับ จะเล่นระบบ4-4-2 ก็ลงได้แค่สองคนถ้าเล่น4-3-3 กลางก็ได้สามคน เจอราด-สโคลนี่สไตลบอคทูบอคเห็นๆแค่เอาอีกคนเล่นตำเเหน่งมาเกเลเลก็ลงตัวแต่ผู่จัดทีมยุคนั้นของอังกฤษความสามารถไม่ถึง ใช่แต่4-4-2 ทีมอื่นเขาก็อ่านกินขาดแล้วครับ 4-4-2วิ่งปีกผู้จัดการทีมอื่นเขาแก้เกมได้อยู่แล้ว
ถ้าเล่นระบบในยุคปัจจุบันผมว่าเล่นได้้ดีแน่ครับ เช่นระบบ 4-2-3-1 ห้องเครื่องกลาง2คือแรมพาจ กับเจอร์ราร์ด ตัวรุกกลางพอลสโคลส์ ขวาเบคแฮม ซ้าย โอเว่น หน้าเป้ารูนี่ย์
โอเว่น555
อยู่ที่โค้ช จริงๆ อันเชลอตติ สามารถทำให้ แลมพาร์ด เดโก้ บัลลัค เล่นด้วยกันได้ สามคนนี้ ก็สไตร์ไกล้เคียงกันมาก โค้ชทีมชาติมือไม่ถึงนั้นเอง
จริง โค้ชมือไม่ถึงเอง
จริงครับ โค้ชเก่งๆเขาจะทำได้ครับ
ทำเป็นรู้ดีมึงอ่ะ
จริงโค๊ชแม่งกาก
ละจะเอาเบคแฮม ลงตรงไหนครับ
ถ้ายุคนี้ล่ะก็ สบายๆเลยครับ ใส่ DMF ตัวนึง
4-3-3 , false nine ให้ schole เล่น
Gerrard Lampard เล่น box to box
ถ้าไม่เน้นออกปีกมากก็ 4-3-1-2
Schole เป็น AMF อยู่หลัง Owen Heskey
4312ผมว่าคนที่เหมาะเล่นกลางรุกคือเบคแฮมไม่งั้นไม่มีที่ให้ลงแน่ ส่วนสโคลส์ยืนกับน้าเจิดและแลมพาร์ด
False 9 ต้องแลมป์พาร์ดคนเดียวครับ สโคล์ลให้เล่น b2b พี่เจิร์ด เบอร์ 6
ถ้าจัดทีมแบบยึดติดในยุคนั้น ในระบบ 4-4-2 จากนักเตะในยุคนั้นอังกฤษควรเลือกใช้สโคล์มากที่สุด (มิดฟิลด์คู่อีกคนเป็นตัวรับ) เพราะ ตอนนั้นอังกฤษมี ศูนย์หน้าดีๆมากมาย แถมยืนคู่อีก ต้องการตัวจ่ายและสร้างสรรค์ มากกว่าตัวเข้าทำเอง ซึ่งสโคล์ตอบโจทย์มากที่สุด ณ ตอนนั้น
แต่ถ้า ในตอนนั้นไม่ยึดติดระบบ 4-4-2 ผมว่า 3-5-2 ก็น่าสน กองกลาง ให้เบ็คแฮมกับด้านซ้ายเป็นวิงแบ็คที่ไม่ต้องเน้นรับมากนัก (ใช้เซ็นเตอร์ซ้าย-ขวา คอยสนับสนุน) มีตัวรับ 1 คน ใช้เซนเตอร์ช่วยซัพพอทบ้าง เพลย์เมคเกอร์ 2 คน ให้อิสระ คือ สโคล กับ เจอราด โดยมีแลมพาท เป็นหน้าต่ำ ยืนคู่กับ กองหน้าอีกคน จะใช้ความเร็วหรือตัวพักบอล ขึ้นอยู่กับอีกฝั่ง
เคยคิดเล่นๆสมัยนั้นนะครับว่า ถ้า Ryan Giggs เลือกเล่นให้ทีมชาติอังกฤษในตอนนั้น อาจจะไปได้ไกลกว่านี้ มันขาดตรงนั้นจริงๆ
ถ้ารวมทีมukได้จะโหดมาก
ผมว่า แทคติกการเล่น อังกฤษ เน้นขึ้น ริมเส้น ต้องมี ปีก ซ้าย และ ปีกขวา ดีๆ ถ้าเป็น ยุคนี้ นักเตะ แบบ กิ๊ก อาจจะ ดูไม่โดดเด่นเพราะ ยุคนี้ ปีกเน้นเลี้ยงไปยิง มากกว่า เปิดบอล ครับ
@@kuayraia5748แต่ ยุคนั้นปีกซ้ายที่เก่งสุดๆมีแค่ไม่กี่คนเองครับ ปีกซ้ายคือตำแหน่งที่ทีมชาติอังกฤษขาดความสมดุลตรงนี้ไป จริงอยู่ที่พูดมามีนักเตะที่เก่งกว่าหลายคน แต่ถ้าในตำแหน่งปีกซ้ายกิ๊กส์คือนักเตะ1ใน3ของโลกแน่นอน
ถูกครับ
@@kuayraia5748 ที่คุณกล่าวมาเกี่ยวอะไรกับอังกฤษ งงง
เจอร์ราร์ดเล่นดี มีดิสม่า ฮ่ามันน์
แลมพาร์ดเล่นดี มีมาเกเรเร่
สโคลส์เล่นดี มีลอยคีน
จิงเลยคับ
มีตัวรับคอยจัดการเกมรับ จะได้ไม่ต้องพะวงกับเกมรับ เล่นเกมรุกได้อย่างอิสระ
ยุคที่เจอร์ราดพีคสุดคือมีอลอนโซ่ครับ สามกลางอังกฤษช่วงพีคมีกลางรับเก่งๆอยู่ข้างหลังทั้ง3คน
@@FocusplusPassion ถ้ายุคนั้นก้มาสเคราโน่
@@nackfiwry902 ใช่ครับเจิด อลอนโซ่ มาสเคคือยุคกลางแบกทีมเลย ดีกว่ากลางตอนนี้ทุกตัว แต่ปีกซ้าย-ขวาธรรมดามาก สมิเซอร์ แบเกอร์ บาเบิลงี้ ที่คิดว่าเด็ดคือคีเวลก็โชว์ฟอร์มไม่ออก โดยรวมคือยังสู้ทีมยุคปัจจุบันไม่ได้
เอาจริงๆ อังกฤษช่วงนั้น ขาดปีกซ้ายดีๆคับ เลยพยามจับ สโคล เจอราด แม้แต่ แม้คก้า ก็ยังต้องไปเล่นฝั่งซ้าย แทนที่จะมีปีกซ้ายธรรมชาติไปเล่น จุดพลาดของสเวนเลยในตอนนั้น
ยุคสเปนครองโลก เพราะมีตัวรับคอยปัดกวาดแบบบุชเกสให้ชาบี้ และ อิเนตต้า ทั้งๆที่สเปนมีกองกลางสายรุกเก่งๆเยอะ แต่โค๊ชก็ตัดสินใจใส่ตัวปัดกวาดไปหนึ่งคน แต่โค๊ชอังกฤษยุคนั้นไม่ใส่กลางรับเลย ทีมเลยไม่สมดุลคับ
สเปนมีกองกลางล้นทีม แต่ไม่เคยเป็นปัญหาของโค้ชเลย เดลบอสเก้เคยจัดทัพโดยไม่มีกองหน้าอาชีพด้วยซ้ำ จัดการส่งฟาเบกัสกับดาบิด ซิลบาลงเล่นหน้าแทนก็ยังทำมาแล้ว สเวนควรใส่ฮาร์กีฟหรือคาริคก็ได้ เพราะอังกฤษยุคนั้นไม่มีตัวรับธรรมชาติเลยสักคน
สโคลส์ เจอร์ราร์ด แลมพาร์ด
ถ้าคุณเป็นโค้ช คุณจะดร็อปใครให้นั่งสำรอง มหาเทพทั้งนั้น(ยุคนั้น) ดร็อปตัวไหน ก็โดน เหล่าประะชาก่นด่าแน่นอน .
@@ธุลีดิน-ป4ณ 4-2-3-1 เอาคาร์ริคกับแบรี่รับยัดอีกสามคนลงกลาง แต่ต้องดรอปเบ๊ค หน้าเว่นหรือรูนใครก็ได้หมด ถ้า4-3-3 เจิดเล่นต่ำสุดเพราะเล่นรับได้ดีกว่าเพื่อน สโคลอยู่ระหว่างเจิดกับแลมพ์เพราะสโคลคุมจังหวะดีสุดเล่นบอลง่ายมีวิชั่นดีกว่าอีก2คน แลมพ์ยืนหลังกองหน้า แต่หน้า3คนอาจต้องใช้เบ๊คเล่นหน้าขวาไม่รู้จะได้มั้ย
แบร์รี่ไม่ไหวจริงๆ เรือเกลือ วิ่งตามตูดโอซิล
โค๊ชใม่เก่งคับง่ายๆ
เสียดายมากจริง ๆ ครับ สามคนนี้ ถ้าร่วมกันได้ อังกฤษคงไปได้ไกลกว่านั้นเยอะ
ยูโร 2004 ก็เคยเล่นและน่ะ แพ้ ฝรั่งเศษ 2 - 1 และ แพ้ จุดโทษ โปตุเกส
@@brucewaynethedarkknightofg311 เค้าหมายถึงเล่นร่วมกันได้ ไม่ใช่ เคยเล่นด้วยกัน
""จำเปนจะต้องเลือกใช้แค่2คนต่อเกมก้พอ((สลับกันลงก็ได้)) เพราะตน.อื่นๆก้จำเปนต้องมีในทีม จะให้ไปจุกยุ่ที่จุดเดวกันมากๆไปก้ไม่มีผลดีต่อทีมหรอก
__แต่การวางระบบการเล่นของโค้ช จะต้องคิดให้รอบคอบ เพื่อปย.สุงสุดต่อทีม!!
อันนี้จริงๆเลยนะคับ ตั้งแต่ดูบอลโลกมา อังกฤษไม่เคยเป็นทีมที่ลงตัวเลยซักทีนะ อันนี้ในความรู้สึกผม แต่แปลกในพรีเมียร์ลีคเล่นกันสนุกมันส์ทุกทีม แต่กลับกันทีมชาติอังกฤษไม่ค่อยจะลงตัวเลยซักครั้งนึง เป็นเพราะความสมดุลมันไม่ได้
เอาง่ายๆคือคาร์ริค อยู่แมนยูมา10กว่าปี กงาดมาทุกแชมป์ เป็นตัวจริงในทีมตลอด แต่เป็นสำรองทีมชาติซะงั้น เหมือนโค้ชจะวัดที่ชื่อเสียงมากกว่าคุณภาพในสนาม
อคติล้วนคับ
เพราะเฮียแกเน้นเล่นง่าย
จนแฟนบอลตั้งฉายาให้ว่าเฮียแปะ
คือแปะบอลไปมา
แต่หารู้ไม่ว่าแมนยูพอขาดแกเหมือนขาดใจ
@@wachira010 บวก1ครับ ผมว่าคาริคเป็นคนเล่นบอลง่ายนะ ไม่เล่นยาก นักเตะแบบแกนี่แหละครับของจริง ถ้าไม่เจ๋งจริง ป๋าไม่เอามาแทนรอยคีนแน่นอนครับ และคาริคคงไม่ยืนหยัดกับแมนยูมาเป็น10ปีอ่ะครับ.
ยุคที่อังกฤษมีคาร์ริคนี่แหละ ที่ไม่ควรเอาเจอร์ราดกับแลมพาร์ดลงพร้อมกันที่สุดละ
การเล่นบอลให้ง่ายๆ ยากสุด
555 อย่าอวยเลยคาริคผมบอกเลยป๋าดันล้วนๆ ไม่มีส้นตรีนอะไรเลย จะบอกตัวรับก็กากๆจ่ายบอลก็งั้นๆแต่ได้มาอยู่กับทีมที่ดีเลยรอดมาได้ ผมชอบมันมากเลยตอนที่เขาอวยมันพอได้มาดูเล่นจริงถึงว่าเขาเอาเพื่อนมันไปหมดทั้งโคล ทั้งแลมป์ ไม่มีใครเอามัน
โค้ชล้วนๆเลยครับ ที่เลือกใช้นักเตะผิดประเภทไปหน่อย เอาสโคลไปเล่นปีกทั้งๆที่สโคลเป็นห้องเครื่องเชิงรุก ถ้าตอนนั้นแกกล้าดร็อปใครสักคนจะดีกว่านี้แน่นอน
อังกฤษยุคนั้นแน่นมากทุกตำแหน่งตั้งแต่กองหลังยันกองหน้า แต่ไม่ประสบความสำเร็จอะไรเลย เป็นยุคทองที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา เสียดายจริงๆ.
อังกฤษ จบเพราะจุดโทษ
เเต่ในยุคนั้น ชาติอืนก็ใช่ย่อยนะคับ
เพราะโค้ชที่เข้ามาคุมทีมชาติอังกฤษตอนนั้นมีแต่มือไม่ถึง+ไม่กล้าเด็ดขาดพอที่จะให้ใครนั่งหรือลง โดยเฉพาะ สเวน โกรันอีริคสัน และยุคนั้นเป็นยุคระบบ 4-4-2 แบบโบราณ ไม่ว่าจะยืนเรียงกัน หรือยืนเป็นข้าวหลามตัดในจังหวะเกมบุก
ส่วนตัวคิดว่า 3คนนี้ สามารถเล่นด้วยกันได้ในระบบ 3-5-2 โดยคู่กลางเป็นเจอร์ราด-สโคลส์ แค่ให้สโคล์สเล่นเกมรุกเยอะกว่าเจิด เล่นสูงกว่าเจิดหน่อยในจังหวะเกมสวนกลับ ส่วนแลพพาร์ดก็ยืนหลังคู่กองหน้า ซึ่งเป็นคล้ายตำแหน่งประจำที่เค้ายืนหลัง ดร๊อกบาในสโมสรอยู่แล้ว (ทั้ง3คนนี้มีหัวจิตหัวใจที่เล่นเพื่อทีมได้อยู่แล้วทั้งรุกและรับ แต่ไม่ใช่การเล่นริมเส้น) บางกรณีแผนเป็น3-5-2 แต่อาจจะใส่ผู้เล่นลงไปเล่นแบบ3-6-1 ก็ได้ โดยการปรับสโคลส์มายืนในตำแหน่งแลพพาร์ด(ที่กล่าวไว้ข้างต้น) และดันแลพพาร์ดไปเล่นกองหน้าคู่ที่ยืนต่ำกว่าอีกคน เปรียบเสมือน มีตัวหลังกองหน้าทั้ง2คน ทั้งแลมพ์และสโคลส์ หน้าตอนนั้นเป็นเฮสกี้ หรือ เคร้าช์ เก็บบอลสบายๆ คู่กลางเป็นเจอร์ราดกับตัวรับธรรมชาติเลยอีกคน ตำแหน่งวิงแบ็ค ขึ้นสุดลงสุดในสมัยนั้นของอังกฤษเล่น3-5-2ได้สบายมาก ทั้งแอชลี่ยโคล แกรี่เนวิล
น่าเสียดายที่ได้โค้ชที่ฝีมือไม่ถึง และไม่กล้าเสี่ยงคิดแผนแบบใหม่ และความกล้าในการตัดสินใจเลือกนักเตะลงหรือนั่ง ในยุค4-4-2 และโค้ชที่คุมก็ชอบใช้4-4-2 ทั้งที่ยุคนั้นแผนที่กำลังมาใหม่และมาแรงที่เริ่มมาก็คือ 4-2-3-1 เค้าก็ไม่กล้าใช้
โอ้ว ผมเม้นตอนดูคลิปไปแค่ไม่เกิน2นาที เม้นเสร็จกลับไปดูต่อ ผมก็มองว่าโค้ชนั้นแหละไม่กล้าตัดสินใจ หรือลองคิดอะไรใหม่ๆ
ถ้ายุคนั้นเล่น4-3-3น่าจะพอเล่นได้ เจอร์ราด สามารถเล่นเป็นตัวกวาดหน้าแผงหลังและคอยปั้นเกมจากแนวลึก วางยาว ลักษณะเหมือนบุสเกสต์ยืนได้ สโคลส์ยืนตรงกลางคอยเคาะสั้นยาวเปลี่ยนจังหวะเกม แลมพ์ยืนตัวบนสุด น่าจะพอได้นะ
ยุคทองของสิงโตคำราม.. แต่ผสมไม่เคยได้เลย
สโคลส์ เป็นจอมทัพยูไนเต็ด ส่วนทีมชาติ นี่คือทีมชาติอังกฤษ อย่างไงจอมทัพก็มีส่วนสำคัญกับทีม
เจอร์ราร์ด เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของลิเวอร์พูล ส่วนทีมชาติ นี่คือทีมชาติอังกฤษไม่ใช่ลิเวอร์พูล
แลมพาร์ด เป็นนักเตะที่เชลซีขาดไม่ได้ ส่วนทีมชาติ นี่คือทีมชาติอังกฤษไม่ใช่เชลซี
ที่นั้นแมนยู ก็ไม่ใช่ทีมชาติอังกฤษครับ
มูรินโญ่บอก ถ้าเจอราดย้ายมาเชลซี ผมจะทำให้เห็นว่าเจอราดกับเเลมพาดเล่นด้วยกันได้ เพราะเขามีมากาเลเล่เล่นกลางรับให้เจอราดกับแลมพาด
ตอนบอลโลกปี2002 อังกฤษเจอบราซิล ตอนนั้นทั้งโรงเรียนผมหยุดสอนเพราะคู่นี้เลย ตอนนั้นจำได้ว่าอังกฤษตอนนั้น ขวัญใจมหาชนจริงๆ
เสียดายมากครับยุคทองของนักเตะอังกฤษเลย เท่าที่คิดออกระบบน่าจะ4-3-3หรือ4-2-3-1น่าจะเวิร์ก ส่วนตัวมองว่าโค๊ชมือไม่ถึงมากกว่า
สมัยนั้นน่าจะลองเล่น 4-2-3-1 สามารถยัดเข้าไปได้หมดแน่
ส.เจอราด คือนักเตะที่ครบเครื่องที่สุดในสามคนนี้ จ่ายบอลได้, เลี้ยงบอลได้, ยิงไกลได้, ตัดเกมได้, เปิดบอลได้ คือสุดๆ
เรื่องการจ่ายบอลสั้นยาว
สโคลส์ดีสุดใน3คนนี้คับ
@@sarayutsuwannapha2387 แล้วเค้าบอกอยู่ว่าครบเครื่อง
😂😂😂😂😂
คอมเม้นแบบนี้เถียงกันตายเปล่า
คงแล้วแต่แท็คติค ถ้าต้องการเน้นทำเกมเนียนๆสโคลดีที่สุด ถ้าเน้นตัวสอดไปจบสกอร์แลมพ์ก็ดีสุด แต่ถ้าต้องการเน้นสมดุลย์ รุก-รับ เจิดก็เหมาะสุด
ยุคอังกฤษปี2000
ยุคนั้นรวมดาราทั้งนั้น
เชลซี แมนยู ลิเวอร์พูล
สัดจริงครับยุคนั้นตำนานเลบย
อยากให้พูดเรื่อง สเปนยุค2010หน่อยครับ ผู้เล่นแต่ละคนแต่ล่ะตำแหน่งลงตัวมากครับชอบมากโดยเฉาะชาบีอีเนสต้า
ประเด็นคือมันไม่ใช่แค่เสือ3ตัว แต่เสือกเป็น3ตัวครึ่ง (เบ็คแฮม) อีกคน รวมถึงฝึมือโค้ชเองไม่ถึง สมาคมปรับตัวช้าไปกับฟุตบอลสมัยใหม่ ณ ยุคนั้น
ถ้าเล่น4 3 3 เอาสโคลมาเป็นกลางรับหรือbox to boxก็ใด้เพราะแกตัววิ่งอยู่แล้วบ้าพลังคล้ายๆก็องเต้ เจอร์ราร์ดตัวปั้นเกม เเลมพ์พาร์ดตัวรุกเพราะตอนนี้นต้องยอมรับว่าแลมพ์พาร์ดโหดจริง สโคลก็เริ่มแก่แล้วเล่นรับสบาย
ต้องเอาเจอลาดรับ เพราะตอนเริ้มเจอร์ลาดเล่นตัวรับ ตะวฮารดแมนมาก่อน เอาสโคลดเชื่อม แลมพาตรุก อันนี้สวยๆๆ
เพราะไม่มีใครเล่นรับธรรมชาติครับ คอนเท็นพี่ยักษ์ดีมากครับ ทำต่อครับพี่✌👍
ก็ตอนนั้น อังกฤษ ใช้แผน 4-4-2 ระบบ หลัง4 กลาง2 ปีก2 หน้า 2 เข้าใจได้อ่ะน่ะคับ🤣
สโคลส์ ความสำเร็จกับสโมสรมากสุดใน 3 คนถ้าเอาเขาไปไว้บนม้านั่งสำรอง แล้วทีมแพ้ขึ้นมาผู้จัดการทีมเละเป็นขี้แน่นอน
ยอดกองกลางทั้งสามคน รักพี่เสียดายน้อง ตัวแปรอีกคนคือเบ็คแฮม ที่ผ่านบอลแม่น และ ความเข้าใจทางฝั่งขวาที่เล่นกับแกรี เนวิลล์ ฝั่งซ้ายพึ่งพาแอชลีย์ โคล ในการขึ้นเกม ไม่มีปีกซ้ายธรรมชาติ จะเล่นหน้าตัวเดียว ก็ดันมีไมเคิล โอเว่น และ เวนย์ รูนี่ย์อีก กลายเป็นไม่เด่นสักทาง
สมัยนั้นอังกฤษนังเล่นฟุตบอลสไตล์โบราณอยู่เลย ถ้ามาเล่นในยุคนี้ในระบบสมัยใหม่ ในระบบ4-3-3 วางกลางสามคน ผมว่าเล่นร่วมกันได้แน่ๆ ให้คนนึงคุมจังหวะหน้ากองหลังแบบที่ปีร์โล่เล่นให้อิตาลี แล้วเอาสองคนมาเล่นเชื่อมจังหวะกับพวกกองหน้า แบบที่โมดริชกับราคิติชยืนคู่กันในโครเอเชียตอนบอลโลก2018 แต่ประเด็นจริงๆคือ สามคนนี้แฟรงค์ แลมพ์ สโคล เป็นมิดฟิลด์เชิงรุกให้กับสโมสรทั้งหมด ใครจะยอมลดบทบาทลงมาเป็นมิดฟิลด์ตัวรับแล้วบทบาทน้อยที่สุดในทีมชาติล่ะ
ทั้ง3คน พออยู่ทีมเดียวกัน แล้วแทบจะเหมือนกันทุกอย่าง มีดีที่ลูกยิงไกลเหมืินกันอีก หนักใจแทนโค้ชครับ5555
จริงตีนหนักทั้ง3คนเลย
แต่ละคอนเท้นของ footballistaโครตดี เสียงพี่ยักก็โครตสุดด
เห็นด้วยครับผมม 🙏❤️
ยกมือเห็นด้วย อีกคน
การมี เจอร์ราด แลมป์พาด และ มาเกเลเล่ เล่น ร่วมกันในแดน กลาง มันคือความฝันของผม < โจเซ่ มูริญโญ่ >
ข้อมูลจากเพจวาทะลูกหนังครับ 🙏🏻
แผนตอนนั้นไม่ดี สโคลควรเล่นในตำแหน่งที่เล่นให้แมนยู เพราะการใช้สโคลเล่นคุมจังหวะดีที่สุด ดูความสำเร็จของแมนยูเป็นตัวอย่าง
ถ้าอังกฤษชุดนั้นมาเล่นยุคปัจจุบันแล้วปรับมาใช้ 4-2-3-1 หรือ 3-5-2 น่าจะไปได้อยู่
แต่ตอนนั้นทีมอื่นมันก็สุดมากๆเหมือนกัน และโดยรวมทีมดีกว่าอังกฤษ
พี่ครับขอเรื้องเล่าสเปนยุค4-6-0ไม่มีกองหน้าเเต่ครองโลกหน่อยคับทำไมถึงเก่ง
เพราะกลางจาก บาซ่า ยุคที่โหดที่สุดในโลกด้วย เล่นด้วยกันจากสโมสร มันเลยส่งผลกับทีมชาติ
จำได้เลย ยูโร 2012
ยุคนั้นบาซ่าครึ่งทีม555
คาริค ดีที่สุดที่จะเข้ามาเติมเต็มในแผงกลางอังกฤษชุดนี้
เจอร์ราร์ดเล่นตัวรับเพราะขยันทุ่มเทเก็บกวาดได้ดี
สโคลส์ยืนตัวกลางเชื่อมเกมส์เพราะเปิดบอลส่งบอลแม่น
แลมพาร์ดเล่นตัวรุกเพราะเซนต์เกมส์บุกดี ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ
แบบนี้ หน้าสาม แบคแฮมหน้าขวา รูนี้หน้าซ้าย โอเว่นหน้ากลาง
@@danpossible5300 ผมขอแย้งหน่อยว่า จริงๆอยากให้เป็น Formation นี้มากกว่า
รูนี่ย์
โอเว่น
แลมพาร์ด
สโคล์ เบคส์
เจอร์ราด
อ.โคล ริโอ เทอรี่ ก.เนวิลล์
อยู่ที่การต้องการของโค้ชคับ เพราะสามตัวนี้ ตัวเด่นคือโคล แลมกับเจอดรับรุก
ชอบแลมพ์ตอนยิงไกลนี่แหละครับ แฉลบเป็นเข้า
ชอบทั้ง3คนเลย เเต่ พอล สโคลส์ 1ในดวงใจ
อยากให้พี่ยักษ์ เล่าถึงนักเตะเลสเตอร์3คน ที่มาซื้อบริการที่ไทย แล้วถูกเลสเตอร์ยกเลิกสัญญา ว่าชีวิตพวกเขาเหล่านั้นเป็นอย่างไร
อยากรู้เหมือนกัน ดันๆๆ
ทำไมผมมองว่าทั้งสามคนเล่นไม่เหมือนกันเลย แต่สิ่งที่เหมือนกันอย่างหนึ่งคือ ทั้งสามคนไม่มีใครเป็นตัวรับธรรมชาติเลย ทั้งๆที่มี คาริก ฮากรีฟ แบรี่ ที่เป็นตัวรับธรรมชาติ แต่ดันไม่เลือกใช้เลยซักคน เพราะอีกนในแผงมิดฟิล ก็ต้องเป็น superstar อย่างแบ็คแฮม และกองหน้าก็ต้องเอารูนี่ และโอเว่น ลงทั้งคู่ คือต้องเลือก ยังไงก็ต้องมีตัวรับซักคน จะเห็นได้ชัดว่าตอนที่เอาฮากรีฟ คาริก ลงไปทีมสมดุลมาก ฟอร์มดีทั้งทีม ถ้าไม่เอาแบ็คแฮมออก ก็ต้องเอากองหน้าออก 1 คน
อีกอย่างคือ ตอนนั้นยึดติดกันระบบ 4-4-2 มากเกินไป MC 2 คน ยังไงก็ต้องมีคนเล่นเกมรับ แต่ทั้งสามคนไม่มีใครเป็นเชิงรับเลย
อังกฤษ ยุคนั้น 3-5-2 เหมาะสุด ลงตัวสุดในความคิดผม
หน้าคู่ รูนี่ โอเว่น
วิงแบ็ค ซ้าย เอโคล ขวา เบ็คแฮม
3 กลาง แลมป์ เจอร์ราด สโคล์ เป็นตัว โฮลบอล
หลัง3 เทอร์รี่ แคมเบล เฟอร์ดินาน
ตัวสำรอง แต่ละตำแหน่ง ก็คุณภาพทั้งทีม
โคลต้องเล่นกับเนวิล
@@newjameskoso2070 แทนกันได้หมดครับ ความยืดหยุ่นสูง นักเตะคุณภาพทั้งทีมขึ้นอยุ่กับว่า เจอทีมอะไร
ผู้จัดการทีมนั้นแหละผิดรักพี่เสียดายน้องจะจับยัดลงหมดทั้งสาม
กลัวสื่อด่าเกินไปจนไม่กล้าจัดทีมที่ตัวเองต้องการ
เสือ2ตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้ แต่นี่มีถึง3เสือก็เละสิครับ
แล้วทำไมเสือ 11 ตัว อยู่ไหนโหลเดียวกันได้ 555+
@@jackieyungmaitaii แก๋วๆๆ
เสือ11ตัวอยู่ด้วยกันสบายเลยนะครับ
ที่เสือ11ตัวอยู่ด้วยกันได้ก็ เพราะ...มีหัวใจไม่เเข็งไม่อ่อน....55
@@MKDK6gu พอสาวออดอ้อน แค่มองก็สั่นก็ไหว
5555
ดูก็รู้แฟนคลับ มนต์สิทธิ คำสร้อย แน่นอนครับ 5555
ติดตามการ เล่าครับ. สุดยอดมาก
กลางตัวคุมเกมทั้งนั้นเลย แต่ไม่ใช่สายวิ่งปั่นป่วนเกมรับฝั่งตรงข้าม เอามารวมๆกัน เลยขาดมิติอื่นๆที่ควรจะมีเช่นกันในเกมครับ
หลังจากนั้นไม่กี่ปี สเปนทำ 4-6-0 เป็นแชมป์ให้ดู
4 6 0 แชมป์ยูโร 2012 แค่นั้นะครับ
หน้าเป้า
2008 ตอเรส ได้ยูโร
2010 บีย่า ได้แชมป์โลก
2012 460 ถึงได้ยูโร
@@krha3955 460 คืออะไรครับพี่
@@edhz2001 ดูแมนซิตี้ ตอนที่เชซุสกับกุนเจ็บก็ได้ครับ เป๊ปใช้กองกลางยืนเป็นFalse9 แต่ก็ยังยิงกระจายเหมือนเดิม
@@krha3955 ขอบคุณครับ ผมเริ่มดูบอลจริงจังๆปี11/12 ที่เชลซีได้แชมป์ยูฟ่า ก่อนหน้านั้นเกิดไม่ทัน555
เอาแผนบาซ่ามาทำ
อยากฟังพี่เล่าประวัติกรรมการ ปิแอร์ลุยจิ คอลิน่า (Pierluigi collina) ครับ
ภาพรวมก็คล้ายๆ แต่รวมกันไม่ลงตัวไม่สมดุลเข้าขากันเหมือนกลมกลืน+กลืนกิน บางทีอยู่ที่โค้ชการจัดแผนให้ลงตัวบางทีก็เสียดายจนเสียหายไม่เกิดไรที่ดีขึ้น
ผมว่า ใน 3 คนนี้ เจอร์ราร์ด มีความหลากหลายที่สุด ทำได้ทุกอย่างในแดนกลาง ถ้าให้เค้าเสียสละเล่นเป็นกลางรับ น่าจะเวิร์ค นะครับ เล่น 4-3-3
ใช่เลยคับ ผมยุในยุคนั้น ทั้งๆๆซุปตาเต็มทีม เต็มประเทศ แต่ไม่ประสบความสำเร็จ คิดว่าประเทศเราน่าจะได้ข้อคิดบ้างนะคับ อย่าให้สื่อกดดันผุ้จัดการทีม ถ้าเค้าพลาดก่ตัวเค้า แต่คนกดดันเผ่นก่อนเลย
ฟันเฟืองตัวเดียวกันใส่ตำแหน่งอื่นก็ไม่ได้ลงที่เดียวกันก็ล้น แพ้มาก็โดนบ่นทำใจจริงๆ
หากแลมพาร์ดใส่เสื้อสีแดงลงสนาม เขาจะดังกว่านี้ และเผลอๆจะถูกยกย่องเป็นกองกลางที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์อังกฤษด้วยซ้ำ หากใครนึกการเล่นไม่ออก อยากให้นึกถึงบรูโน่แมนยู แต่ต่างกันแค่ แลมพาร์ดทำมันติดต่อกัน 10 ฤดูกาลติดต่อกัน.
ผมว่า 3-4-3 ก็น่าสนใจ
Owen - Rooney
A.Cole - Lampard - Beckham
Gerrard - Scholes
Ferdinand - Terry - Campbell
James
Owen - Rooney ทิ้งคู่นี้ไว้ด้านหน้าดีแล้ว
กองกลางตัวทำเกม 3 คน Lampard มีอิสระในการส่องไกล Cole กับ Beck ครอสดีอยู่แล้ว
กองกลางตัว Hold เกม 2 คน เน้นรับ เน้นดันบอล Gerrard - Scholes ยืนคลุมกลางได้ดีอยู่แล้ว มีโอกาสลงมาแพ้คเกมรับเป็น 5 ยังได้
หลัง 3 ในที่นี้คือตัวหลักทั้งนั้น คิดว่าแข็งพอสมควรครับ อย่างน้อยมีปีกคอยลงมาซัพพอรตเล่นรูปแบบหลัง 5 ตอนเกมรับก็ได้
แต่อย่างว่านะครับ แผนฟุตบอลสมัยนั้น ยังไม่ค่อยมีแผนใหม่ๆ ส่วนใหญ่ก็ Standard 4-4-2 กันทั้งนั้น ก็ต้องยอมรับว่าเสียดายจริงๆครับ
สมัยนั้น ผจก.ทีม ไม่คิดนอกกรอบ ยึดติดกับระบบ 4-4-2 (มีขุนพลดี ไม่รู้จักใช้เอง)
พอพูดถึงเรื่องระบบ ผมต้องขอชื่นชม เป๊ป เพราะสมัยย้ายมาคุมทีม แมนฯซิตี้ ใหม่ๆ
เขายังยึดติดระบบ tiki taka แล้วไปไม่รอด เป๊ป ปรับเปลี่ยนระบบด้วยการเล่นเพรสซิ่ง
จนถึงในยุคปัจจุบัน ต้องชมเลยว่า เป็นระบบการเล่นที่ดีที่สุดทีมหนึ่ง สิ่งที่พิสูจน์ก็คือ
ไม่ว่าจะนักเตะชุดใหญ่ ชุดเล็ก หรือการทดแทนตำแหน่งการเล่นของนักเตะก็เล่นได้ดี
(โดยส่วนตัว ผมเป็นแฟนหงส์ แต่ยอมรับว่า ระบบเพรสซิ่งของ เป๊ป ดีกว่าของ JK)
ณ ปัจจุบัน สิ่งที่อยากดูคือการเจอกันของ แมนฯซิตี้ - บาเยิร์น บิวนิค แต่ไม่รู้จะได้โคจร
มาเจอกันหรือไม่?
เอาจริงๆ ถ้า 3 คนนี้ ลงพร้อมกันในทีมชาติ ผมว่า โคตรดี สำหรับ ทีมชาติ
โค๊ชใจไม่กล้า
โค้ดกากคับ
จริงๆต้องให้เจอราดยืนเกมรับ เพราะเจอราดเป็นมิดฟิวประเภทบ้าพลัง วิ่งขึ้นลงไม่มีหมด // ส่วนสโคล์กับแลมพ์ผาดยืนกลางรุก ให้แลมพ์ผาดเป็นเพเมคเกอร์ ยืนอยู่หลังกองหน้า สโคล์เหมือนจะต้องลงมาเชื่อเกมต่อจากเจอราด อะไรประมาณนี้ครับ
ถ้วยเยอะ ต้องสโคลส์
สถิติยิง จ่าย ต้อง แลมพาร์ด
พลังใจการขับเคลื่อนแบกทีม ต้อง เจอร์ราร์ด
สามคนนี้ถ้ามูคุมคงโหดมากๆ กลางสไตล์นี้มูชอบ และอาจจะไปได้ไกลกว่านี้
จริงครับ มูใช้ 4-3-3
สโคลส์ เจอราด แลมพาร์ด ลงพร้อมกันก็เหมือนเอา AMF ลงพร้อมกัน 3 ตัว AMF ตัวขึ้นเกมส์เบอร์ 10 มีได้แค่ตัวเดียว ส่วนอีก 3 ตัว คือผสม CMF DMF LMF RMF แล้วแต่แผนการเล่น DMF ก็ตัดเกมส์ เทรินบอลให้ AMF ส่วน CMF ขึ้นมาช่วย AMF ในการผ่านบอล ส่วน LMF กับ RMF ก็ ออกด้านข้าง
แผน AMF ก็ได้แผน 4 - 3 - 1 - 2 และ 4 - 2 - 3 - 1 และ 4 - 3 - 3 คือ แผงกองหน้า ให้ CF ยืนหน้าเดี่ยว และขยับ LWG กับ RWG ลงมาหน่อยนึงแบบ และดันกลาง ขึ้นเป็น AMF และเหลือ 2 ตัวไว้เป็น CMF และดัน LB กับ RB ขึ้นเป็น WB
4 - 3 - 3
CF(9)
LWG(11). RWG(7)
AMF(10)
CMF(8). CMF(6)
WB(2) WB(3)
CB(4). CB(5)
GK(1)
แต่ อังกฤษ มันเป็นบอลทื่อเล่นบอลตามฟุตเวิรค ลูกโหม่ง ยิงไกล ฟรีคิก จุดโทษก็ไม่แข็ง อังกฤษ ไม่มีลูกพลิกแพลงไม่มีลูกที่เล่นด้วยจินตนาการในการเจาะ บุกลุยต่อบอลไปข้างหน้าไม่มีพื้นที่ไปต่อก็รอเพื่อนเติมไม่กล้าเลี้ยงบอลไปต่อไปสุดเส้นหลังก็เปิดบอลโยนยาวจากลูกด้านข้างรอโหม่ง บอลกระเด็นออกมาก็ยิงไกลจากแถวสอง เสียบอลก็ไล่บอลแบบรักษาตำแหน่งตัวเองและดักบอลเป็นด่านเป็นด่าน ไม่ดักบอลแบบคุมโซนเข้าคนซ้อนคน ลูกเปิดยาว เบ็คแฮม สมัยก่อนก็เปิดดีน่ะแต่รับยากมาก และพื้นที่ของ เบ็คแฮม ในการไล่บอลก็ไม่ดี อังกฤษ เล่นบอล 4 - 4 - 2 น่ะดีสุดแล้วแบบปี 2006 แต่จุดอ่อนมันอยู่ตรงการดวลเป้านี่แหละรีบเล่นเร่งเกมส์กลัวต่อเวลาไปถึงการยิงจุดโทษ ถ้าไปเล่นสไตล์แบบ 4 - 3 - 3 หรือ 4 - 3 - 2 - 1 หรือ 4 - 3 - 1 - 2 ตัว AMF มันต้องอัฉริยะในการพลิกเกมส์สมองล้วนล้วน อย่าง ซีดาน ริเกลเม่ ชาบี อิเนสต้า มันต้องมีทักษะในการเอาตัวรอดจากการโดนบีบไล่บอล ควรจะออกบอลไปทางไหนที่ทำให้ทีมตัวเองได้เปรียบสามารถพลิกเกมส์ได้ ลูกเปิดเตะมุมต้องรู้ใจกับ CF และ CB และเปิดบอลไปล่วงหน้าและให้ CF กับ CB วิ่งไปตำแหน่งที่ AMF เปิดบอลให้ และลูกฟรีคิกก็แม่นยำด้วย รวมถึงลูก Killer pass ให้ CF เส้นไลน์แมนจาก CB ฝ่ายตรงข้ามกับ CF บอลที่จ่ายจะต้องพร้อมกันทั้ง 3 คน และลูกยิงส่องไกลจากแถว 2 ก็ต้องแม่นยำด้วย การล้วงบอลตำ่และเปิดบอลยาวหลุดการทะลุช่องจากตำแหน่ง กองหลังคู่แข่งดันสูงขึ้นมา เตะลูกจุดโทษ หรือ ได้ลูกจุดโทษ ก็ต้องเป็นคนแรกที่ได้อาสายิงลูกนั้น
ถ้าจะเอาแค่สถิติการแอสซิสการยิง แลมพาร์ดกับเจอร์ราดจะเหนือกว่าชาบีกับอิเนียสต้าด้วยซ้ำไป
การป้องกันจะทำให้คุณไม่เสียประตู
เกมรุกจะทำให้คุณได้ประตู
แต่เกมแดนกลางจะทำให้คุณมีโอกาสชนะมากกว่า
ชาบี อิเนียสต้า พอลสโคล เป็นมิลฟิลด์สไตล์คุมเกม ไม่ได้มีสไตล์รุกจ๋าแบบแลมพาร์ดหรือเจอร์ราด
ผมบอกได้แค่ว่าแลมพาร์ดกับเจอร์ราดไม่มีทางคุมแดนกลางได้แบบพอลสโคลแน่นอน สำหรับคนดูบอลเป็นก็คงจะบอกได้แค่นี้
เล่นสไตล์เหมือนกันทั้งสามคนเลย
เปรียบกับสุดยอดในยุคเดียวกันอย่างทีมชาติฝรั่งเศสซีดาน
เดชองส์ จอร์เกฟ หรือบราซิลที่มีริวัลโด้ โรนัลดินโญ่งี้ ก็สู้ไม่ไหวง่ะ
ที่จริงทีมอังกฤษในบอลโลก2002 ทีมที่เขี่ยอาเจนฯตกรอบไปนั้น ก็ถือว่าไม่ธรรมดานะครับ..ถ้ามีเจอร์ราร์ดในแม็ตที่พบบราซิลในรอบ8ทีมคงจะดี..แต่ก็อย่างว่าล่ะครับบางทีบอลก็อาจมีเรื่องดวงเข้ามามีส่วน..ต้องพบกับบราซิลทีมที่มี3Rซึ่งถือว่าสุดยอดมากๆในช่วงเวลานั้นเร็วเกินไปครับ..ทัวร์นาเม้นนั้นถ้าเป็นอังกฤษเข้าชิงกับบราซิลแทนที่เยอรมัน แม็ตชิงคงน่าดูกว่านั้นมากครับ..(แม็ตนั้นผมทายสกอร์ให้บราซิลชนะเยอรมัน 2-0 ครับ)..ชัดเป๊ะ..😀😀😀
ด้วยระบบของสเวนมากกว่าครับ ที่ไม่ชัดเจนถึงสโคลจะอยู่ด้านข้างแต่ก็หุบมาช่วยกลางได้ แต่พอให้ขึ้นหมดลงหมด ต่างคนต่างคิดว่าอีกคนจะลง ที่จริงถ้าขยับเจอราดไปอยู่หน้าเซนเตอร์ เกมรับจะแน่นขึ้นไม่ต้องวิ่งพล่าน แล้วให้แลมป์ดันขึ้นไปอยู่หลังกองหน้าให้สโคลเบรคเกมตรงกลางก็ทำได้ บวกกับทำดีแค่ไหนก็โดนวิจารณ์ ใครอยากจะเล่น เอาเวลาไปพักแล้วลุยกับสโมสรที่ให้เกียรติดีกว่าเยอะ ทำไมสื่อไม่คิดแบบนี้ คิดกลับกันว่าเวลาเล่นให้สโมสรทุ่มเท ผลงานเลยดีกว่า แทนที่จะสนับสนุนคนในชาติ แล้วแบบนี้จะเจริญได้ยังไงครับ
โดยส่วนตัวก็อยากรู้เหมือนกันว่า
... ถ้า ณ ตอนนั้น Gerrard ย้ายมา Chelsea
Mourinho จะจัดทีมยังไง สำหรับผมเสียดายที่มันไม่เกิดขึ้น
แต่ถ้ามองอีกมุมก็ดีแล้วที่ไม่ย้าย เพราะแกเป็นทั้งกัปตันและไอคอนของ Liverpool
ต้องเล่น4-4-2 แบบdiamondไม่งั้นก็4-5-1ไปเลยครับผมว่าน่าจะดีกว่า4-4-2แบบ Classic
ถ้าจำเป็นต้องใช้3 ตัว ผมจะเอา เจิดลงไปcm แล้วให้ สโครคู่เจิดแล้วให้แลม Am ครับ ถ้ามันจำเป็นมากนะ
ถ้า3คนนี้เกิดมาช้ากว่านี้สัก10ปีจะสามารถเล่นพร้อมกันได้ลยครับ ในฟุตบอลสมัยใหม่ด้วยระบบ4 2 3 1 โดยให้สโคลส์เป็นfalse nine ส่วนแลมพาร์ดกับเจอราร์ด เป็นหน้ากึ่งปีก ซ้ายกับขวา และระหว่สงเกมส์ให้วิ่งสลับกะนซ้ายขวาได้ตลอด ส่วนสโคลลงต่ำมาคอยจ่ายบอลให้ตีวรุกคนอื่นๆเนื่งจากสโคลส์จ่ายบอลสั้นยาวได้ดีสุดใน3คนนี้และยิงประตูในกรอบเขตโทษได้เที่สุดใน3คนนี่ แลมกับเจอราร์ด ถนัดยิงนอกกรอบเขตโทษมากกว่า
เม้นท์นี้เจ๋งมาก ผมยังนึกไม่ถึงเลย เป็นแผนที่เวิร์คมาก กลางรับแจ่ม ๆ สักตัว
จากเด็กผีครับ ผมคิดว่า ควรเล่น 3 (dc เฟอดินาน เทอรี่ แคมแบล) 1 (dmc เจอราด) 3 (cm เบคแคม+แลมพาด amc สโคล) 2 sc โอเว่น เชียร์เรอร์ / พอกันทีกับการโยนไปมาน่ารำคาญ ทำชิ่ง1-2 แล้วเข้าชาร์ตจากเชียร์เร่อร์ แล้วเอา 3 ตัวปัญหานี่ยืนกางป้อมแถวสองเลย ต๊าปๆ!!
ถูกต้องครับผมเคยใช้3คนนี้ในเพลย์2มันเป็นการตัดสินใจที่ยากครับยิ่งช่วงเวลานั้น3คนนี้ขึ้นชื่อระดับซูเปอร์สตาร์ต่อให้กุนซือขั้นเทพระดับใหนก็จัดระบบที่ลงตัวและสำเร็จได้ยากมากๆเลยครับ
ชอบน้ำเสียงมากๆเลยครับ
สำหรับผม ถ้าถามว่าใครดีสุดใน 3 คนนี้ ก่อนอื่นเลยต้องขอบอกว่า 3 คนนี้คือกองกลางที่สุดยอดอย่างแท้จริง แต่ถ้าให้เลือกคนที่ครบเครื่องที่สุด
ผมให้ “Steven Gerrard” ครับ
รุกก็ดุดัน ส่องไกลแถว 2 ได้คมไม่แพ้ใคร มีความเร็วสูงสุดใน 3 คน เล่นปีกได้ เล่นวิงแบ็ค กองหน้ายังเล่นมาแล้วได้ ค่อนข้างสารพัดประโยชน์ อีกอย่างเกมรับของเขาก็น่าจะทำได้ดีที่สุดใน 3 คนนี้ แข็งแกร่ง ดุดัน ใจใหญ่ เรียกได้ว่า ค่อนข้างครบเครื่อง ทั้งรับทั้งรุกครับ และมีความเป็นผู้นำสูงสุดด้วย
แต่ก็สุดยอดทั้ง 3 คนนั้นแหละครับ ปัญหานี้อยู่ที่โค้ชล้วนๆ 555
หรือไม่ก็ลองหาค่าพลังในเกมฟุตบอลที่ผู้พัฒนาเขาวิเคราะห์สถิติและเฉลี่ยนค่าพลังมา Gerrard จะค่อนข้างมีคะแนนที่สูงในทุกๆส่วนครับ
ถ้าโค้ชสมัยนั้นเก่งๆนะ แผน 3 4 2 1 แบบเชลซีใช่ตอนนี้น่าจะพอลงได้ วิงแบคโหดมากด้วย
รูนนี่
แลมพาร์ด สโคล
อ.โคล เจอราด คาริค โจโคล
เทอรี่ โซแคมเบล เฟอดินาน
อิตาลี 2006 มีแต่ตัว top ขนาด เดลปิเอโร่ อินซากี้ ยังนั่งสำรอง ทุกอย่างอยู่ที่แท็คติคของโค้ช สเวนมือไม่ถึงมากกว่า
จริง มันคือการรักพี่เสียดายน้องต่างหาก ถ้าโค้ชเก๋าๆ คุณต้องกล้าดรอปต่อให้นักเตะเก่งแค่ไหนแต่ไม่เข้าระบบก็ต้องดรอผ
เพราะการปั่นของสื่อไงบวกกัยคนในประเทศ
พูดนะมันง่าย ใครๆก็พูดได้ มันมีปัจจัยหลายอย่าง คุณต้องลองอยู่จุดนั้นแล้วคุณจะตัดสินใจยังไง รับแรงกดดันไหวมั้ย อย่าพูดเลยว่าเขามือไม่ถึง โค๊ชไม่ได้จับฉลากมาเป็นนะครับ ถ้าไม่มีคุณสมบัติมากพอ เขาไม่ให้มาคุมทีมง่ายๆหรอก เขาคงได้รับพิจรณามาแล้วครับว่าเหมาะสม
เพราะเล่นไม่ใช่ตำแหน่งตัวเองแล้วไปนั่งสำลอง สโคส เลยออกจากทีมชาติไง. แลมควรเป็นสำลองเป็นไป เพราะพูดถึงเกมรับเล่นไม่ดีเท่า เจอกับสโคส 2คนนี้เล่นได้ดี ทั้ง cm ทั้ง cdm สโคสมีประสมการณ์งานทีมชาติมากกว่าด้วย ในแดนกลาง
เอาง่ายๆตำแหน่งชนตำแหน่ง ใครๆก็รู้ว่าสโคลตอนนั้นเวิร์ลคลาสขนาดใหน เสือกจับมาเล่นปีก จะแท็กติคใหนก็ไม่ควรเอาคนเล่นตำแหน่งเดียวกันลงพร้อมกันอยู่ดี ห้องเครื่องที่ดีที่สุดและครบเครื่องที่สุด ผมให้สโคล เจอราดกับแลมป์พาร์ด ตอนนั้น ยังห่างกับสโคลหลายๆเรื่องเลย 3คนนี้เคยเอามาให้ตำนานหลายๆคนเลือก ไม่ต้องคิดเลยว่าตำนานพวกนั้นเลือกใคร สโคลถูกโหวตเป็นกองกลางเบอร์1ตลอด #ผมแฟนมาดริด คนล่ะลีกกันเลย แต่เล่นดีจนผมติดตามพรีเมียร์ลีกอ่ะ
คิดว่าถ้าจำเป็นด้วยเงือนไขต้องมีสามคนลงพร้อมกัน น่าจะเอาสโคลไว้กลางสูงแทน แล้วลองทดสอบดูว่าเจอราดหรือแลมพาร์ดจะบังคับใครเล่นด้านซ้าย โดยส่วนตัวอยากให้สโคลส์เล่นกลางสูงเพราะแม้จะมีสถิติการยิงประตูต่ำกว่าแลมพาร์ดแต่ก็ถือว่ามีสถิติที่หรูหรามากพอสำหรับตำแหน่งกองกลาง และแลมพาร์ดเล่นกลางต่ำด้วยรูปร่างที่สูงกว่าสโคลส์ซึ่งจำเป็นกับดารเล่นลูกโหม่งถ้าต้องนยื่นต่ำเพื่อหยุดเกมส์รุกทางอากาศของคู่แข่ง ด้วยแลมพาร์ดเป็นนักเตะที่มีความสามารถในการคุมแดนกลางเกมส์รุกในแบบอัจฉริยะทีเดียวน่าจะเอามาอ่านเกมส์รุกของคู่แข่งได้อย่างแม่นยำ เหมือนที่นักเตะเกมส์รุกหลายคนเคยสลับมาเล่นเกมส์รับ เช่นโลธาร์ มัทเธอุส ก็เอาประสบการณ์อ่านเกมส์ของตัวเองย้ายมาเล่นเป็นสวีปเปอร์ตัวสุดท้ายได้อย่างสุดยอด ถ้าเป็นเจอร์ราร์ดก็คงเหมือนกันนะครับ แต่ท่าเจอร์ราร์ดวิ่งมันดูเทห์กว่านะครับ ด้านข้างน่าจะได้วิ่งสปีดมากกว่า
ผมว่า 3 คนนี้ยืนในตำแหน่งที่ตำแหน่งเดียวกัน ทุกคนมีเกมส์รุกดีมาก แต่คนที่พอมีเกมส์รับบ้างก็แลมพาร์ท ทำให้มันทับตำแหน่งกันเอง
ถ้าตอนนั้นใช้แผน 3 - 5 - 2 หรือ 4 - 3 - 3 น่าจะดีกว่านี้
สโคลล์ ดีตอนเขายืนตรงกลาง ให้ยืนริมเส้นนี่เล่นไม่ออกแน่ ไม่ใช่ตำแหน่งที่เขาเคยเล่น
ปี2000มีนักเตะเวิลคลาสทั้งทีมแต่ไม่ประสบความสำเร็จปัญหาอยุ่ที่ผู้จัดการแล้วครับ
เสียดายที่ แผนการเล่นสมัยก่อนนิยมใช้ 4 4 2
ถ้าเป็น 4 3 3 แบบตอนนี้ลงตัวเลย
Roon Scholes Owen
Lam Gerrard Beck
Cole Terry Camp Nev
มีข้อแม้ว่า Gerrard เล่นในแบบมิดฟิวตัวรับ
ถ้าไม่จับลงพร้อมกันสื่อกดดัน พอเอาลงพร้อมกันผลงานก็ไม่ดีและ3คนนี้ไม่มีใครยอมลดบทบาทตัวเองด้วย และที่เอาสโคล์ยืนซ้ายเพราะเขาคล่องตัวสุด ทำให้ถ่างโซนป้องกันระหว่างแบ้คขวากับเซนเตอร์ได้
Cr.จำไม่ได้ว่าอ่านมาจากไหนแต่ขอบคุณนะครับ
ผมแฟนแมนยู แต่ถ้าสำหรับผมจะไห้สโคลส์เป็นตัวรับแล้วไห้เจอราดกับแลมพ์ไปเล่นตัวรุก ผมว่ามันเวิร์คมาก
4-5-1 สำหรับผมมันไช่มากสำหรับชุดนี้
เห็นด้วยครับ ถ้าเอา beckham ลงไปด้วยก็ต้อง 451 หรือไม่ก็ 352
ยากมากที่จะตัดใครไปจริงๆครับ ถ้าไม่ใช่ 3-5-2
ผมเป็นโค้ชน่ะ ผมส่งกลางลง3คนเลย เอาแลมพาดไป เป็นกลางตัวรุก เจอร์ราดสโคล์ คู่กลางทำ2หน้าที่คือช่วยกันตัดเกมส์ด้วย และเลือกเอาว่ากองหน้าจะเอาใครระหว่างโอเว่นกับรูนี่
เคยมีคนวิจารว่า แลมกับสโคลเล่นร่วมกันได้ แต่ เจอราดเวลาลงชอบยืนสูงกว่าแลมพาด ทั้งๆที่แผนคือต้องยืนต่ำกว่าเลยทับไลน์แลมพาด เพราะจิงๆเขาวางแลมพาด am /เจอราด cm/ สโคล dm เหมือนปีโล่
คือมันผิดตั้งแต่เลือกระบบการเล่นก่อนแล้วเอาคนมายัดลงไป แทนที่จะดูทรัพยากรที่มีก่อนแล้วค่อยหาวีธีใช้
ขนาดโค้ชทีมชาติอังกฤษตอนนั้นยังปวดหัวเลย แล้วเป็นโค้ชที่มีประสบการณ์มามากมายผมเคยดูสารคดีทีมชาติอังกฤษอยู่ โค้ชคนนี้ไม่ธรรมดาน้ะผมบอกเลย ในมุมมองผมคิดว่าที่โค้ชจัดแผนแบบนี้คือเขาเชื่อมั่นในฝีมือของนักเตะ แล้วคิดว่านักเตะเหล่านี้ดีพอที่สามารถทำได้ บางทีสาเหตุที่ทำให้ทีมในตอนนั้นเหมือนจัดแผนผิดแต่จริงมันอาจจะมาจาก สถานการณ์รอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นผู้ช่วย,ตัวผู้เล่น,ข่าว,แฟนบอล,กระแสฟุตบอลในยุคนั้น แต่สุดท้ายถึงจะไม่มีผลงานแบบเป็นชิ้นเป็นอัน ก็ยังเป็นบทเรียนในหลายๆด้านให้แก่ชาวโลก
ในมุมมองของผมคิดว่าเข้าใจสเวน กลืนไม่เข้าคายไม่ออก เหมือนที่คุณยักษ์บอกนักบอลอังกฤษ มีมูลค่าทางการตลาดทั่งโลกถ้าดร๊อปใครคนนึงแฟนคลับหรือนักข่าวก็เล่นแก ดังนั้นแกถึงต้องจัดตัวแบบเอาใจแฟนคลับทำให้ผลงานอังกฤษในยุคนั้นไปไม่ถึงแชมป์ทั้งที่มีนักเตะดีๆและกำลังพีคมากๆ
ยุคนั้นอังกฤษมีมิดฟิลด์ เก่งๆเพียบ สโคลส์,เจอร์ราร์ด,เเลมพาร์ด,คาริค,แกเรท เเบรี่,สก็อต ปาคเกอร์
ผมเสียวดายแบรี่ กับ คาริกที่สุดละ
ตวามเห็นส่วนตัวนะ
4-2-3-1
รูนี่(โอเว่น)
สโคล แลมพาร์ด โจโคล
เจอราด เบ็คแฮม
แอชลี่โคล เกรี่ เนวิล
แคมเบล เฟอร์ดินาน
ซีแมน
เจอราดเล่น box to box
Beckham เล่นแบบ ปิโร่-อลอนโซ่
สโคลยืนซ้ายแต่ไม่ต้องเติมให้แอชลี่โคลวิ่งเติมเอาตัวเองหุบกลางไปช่วยรูนี่ทำหน้าที่เหมือนกลางรุกแต่ยืนไปฝั่งซ้าย แลมคอยแถว2 ฝั่งขวาแกรี่ไม่ต้องเติมเยอะลงมาช่วยหลังบ่อยๆ รับได้คอยส่งให้เบคแกเปิดขึ้นหน้าสวยๆให้โจ โคลวิ่งเล่นไปเลย
สมัยนั้นผมว่าแผนมันไม่ยืดหยุ่นเหมือนสมัยนี้
อิงปี2002
ปล.ผมไม่ได้เชียร์อังกฤษนะครับ
ถ้าเป็นผมนะแลมพาร์ด กับ เจอร์ราร์ด เล่น CDM เพราะเจอร์ราร์ดเป็นสไตล์ Box to Box วิ่งทั้งเกมส์อยู่แล้วปรับให้เขารับแล้วเติมน้อยๆ และแลมพาร์ดก็เหมือนกัน ยืนคู่ละรับพร้อมเจอร์ราร์ดเลยแล้ว สโคลส์ก็ยืน CM หรือ CAM ก็ได้ แลมพาร์ดและเจอร์ราร์ดจ่ายบอลได้ดีก็ใช้ตรงนี้ในการทำเกมส์ให้สโคลส์เป็นเพลย์เมคเกอร์ลากบอลไปทำเกมส์รุกรวมกับกองหน้า หรือถ้า สโคลส์ยืน CAM แลมพาร์ด CM เจอร์ราร์ด CDM
แลมพาร์ดจ่ายบอลดี ยิงไกลดี เจอร์ราร์ดเล่นเกมส์รับได้ดี คุมเกมส์ได้ดี
แค่นี้ก็ลงตัวแล้ว สำหรับความคิดผมนะ
ถ้าถามว่าจะเอาสามคนนี้เล่นด้วยกันได้ยังไง ภายใต้เงื่อนไขว่าต้องเล่น 4-4-2 คำตอบพอมีอยู่จุดนึง
คือต้องเอาเจอร์ราร์ด สโคลส์ หรือแลมพาร์ด คนใดคนนึง ขึ้นไปเล่นหน้าต่ำ อยู่ข้างหลังโอเว่น
แต่แลกกับสิ่งที่เสียหายกว่า...คือการต้องถอยรูนี่ย์ที่เป็นดาวรุ่งพรสวรรค์สูงสุดของอังกฤษในช่วงเวลานั้นมาเล่นริมเส้นฝั่งซ้าย
ยุคที่สโมสรในอังกฤษ โหดที่สุดเลยมั้งครับ แต่เสียดายนะระดับในระดับทีมชาติ อังกฤษยังเป็นรอง
ทีมชาติอังกฤษยุคนั้น เหมือนมีแต่ส่วนผสมชั้นเลิศ แต่สูตรผสมมันดันไม่ลงตัว น่าเสียดายมากๆ
คนผสม มันไม่ได้เรื่อง
ทับไลน์กันเอง ยืนเบอร์ 8 ทั้ง 3 คน
หมัน
แม่น
อยู่โค๊ชครับ คิด ฉลาดแค่ไหน
เป๊ป ยังใช้ เบอร์ 10 _ 2 คนได้ ซิลบา เดบรอย
เอาเบอร์ 8 ไปเล่นกลางรับ (กุนโดกัน)
@@thebeats8580 กุนโดกันไปเล่นรับเสียของเลยไม่เก่งใช้ความสามารถได้ไม่เต็ม พอกลับตำแหน่งเดิมปีนี้โห โหดจัดเลย
แลมป์พาดดีสุดแล้วครับบบ
😎😘
ผมว่าไม่มีใครดีกว่าใครหรอกครับ ดีเยี่ยมกันทั้ง3คนแหละครับ.
ดีในที้นี้หมายถึงยิงเยอะกว่าสองคนที่เหลืออะหรอ ?
ไม่ถึง
เป็นที่ระบบการเล่นมีผู้เล่นระดับนี้ 4-2-3-1 PC ตัวรับ เพราะเข้าบอลแบบหนักหน่วงลุยเก็บกวาดในแดนกลาง LP กับ GR ตัวปั้นเกมตัวสอดทำประตู
มันคิดยากนะ
เบค ก็จองปีกขวาละ จะจัด 4-4-2 ไดมอน ก็ไม่ได้
ถ้าเป็น 4-3-3 ก็ต้องหลุดไปนั่ง 1 คน เพื่อเติมตัวรับลงมา
วิธีแก้ไข ก็คือเล่น ฟอลไนท์ ซึ่งตอนนั้นมันไม่ได้รับคาวมนิยม หรือ อีกวิธีคือ ให้ใครคนึ่งไปยืนตัวรับคอยคุมจังหวะเกมส์ ซึ่งด้วยชื่อเสียง
อิมเเพ๊คของนักเตะเองมันก็คงยากที่จะมีใครสักคนไปยืนตัวรับ
อยากฟังเรื่องของ Paul Gascoigne ครับ ผมคิดว่าเค้าคือคนเก่งที่ถูกลืม
ในสนามเก่งจริงครับตัวนี้ no.1 ในยุคนั้นเลย
แต่นอกสนามนี่ซิ........
.วงจรชีวิต คล้ายๆ จอร์ช เบส
ก็เหมือนยุคที่เอาซิโก้กับโซคราเตสลงพร้อมกันนั่นละครับ คือตำแหน่งมันทับกันมันต้องเลือกเอาใครสักคน แต่พอไปเอาลงเล่นทั้งหมด ก็ต้องมีคนที่ต้องเล่นในตำแหน่งที่ไม่ถนัด เรื่องนี้อยู่ที่ความเข้าใจเกมของโค้ชครับ ปและผลงานทีมชาติบราซิล, และอังกฤษในยุคดังกล่าวเป็นเช่นไรก็เห็นๆกันอยู่ละครับ