Velikost videa: 1280 X 720853 X 480640 X 360
Zobrazit ovladače přehrávání
Automatické přehrávání
Přehrát
เราจบบัญชีจุฬาค่ะ จบมา 4 ปีแล้ว เราฐานะปานกลางแบบข้าว 60 บาทตอนนั้นรู้สึกว่าแพงอะ แล้วอยู่ในดงลูกคุณหนูบ้านทำธุรกิจส่วนตัว ตอนแรกรู้สึกว่าตัวเองจนมากๆ เรากินกาแฟโรงอาหาร 30 บาท เพื่อนกินสตาบัค เราต่อรถ 3 ต่อกลับบ้าน เพื่อนมีคอนโดติดรถไฟฟ้าที่พ่อแม่ซื้อให้ แต่ว่าเรียนด้วยกันมาเรื่อยๆ จะเข้าใจเองว่าเพื่อนไม่เคยเหยียดเราเลย ไม่เคยมองว่าเราต่ำกว่า มีแต่เรารู้สึกไปเองว่าเค้าสูงส่งกว่า เค้าไม่ได้กินสตาบัคเพราะเหยียดกาแฟโรงอาหาร เค้าแค่ขี้เกียจต่อแถว หรือเวลานั่งทำงานก็ไปนั่งสตาบัคเพราะโรงอาหารมันไม่มีปลั๊ก เค้าไม่ได้คิดอะไรเยอะแบบที่เราคิดว่าเค้าเป็นเลย ส่วนอาจารย์ส่วนใหญ่ที่ดูเทสดี ศัพท์สูง เพราะอาจารย์จุฬาส่วนใหญ่จบนอกค่ะ ตัวชีทที่ใช้เรียนก็ภาษาอังกฤษ text book ก็อังกฤษ บางคำใช้ทับศัพท์ไปเลยมันเก็ตกว่า ไม่ใช่เรื่องของอาจารย์เหยียดเด็กเลยเหมือนกันแต่ค่าครองชีพของการอยู่จุฬาแพงจริงๆ ถ้าไม่ใช่หอใน(ที่ระบบห่วยมากและตึกเน่ามากๆ) หอนอกถูกสุดตอนนั้นก็เดือนละ 8500 แล้ว โรงอาหารคณะก็ชอบมีพนง.ออฟฟิศมาแย่งที่นั่ง เข้าใจแหละว่ามันถูกกว่าข้างนอก แต่บางทีจะรีบกินเพื่อไปทำอะไรต่อก็ต้องกัดฟันเดินเข้าร้านในจามสแควร์ที่เป็นห้างงี้ ร้านน้ำ/กาแฟในม.ก็โดนพวกเฟรนไชส์ซื้อหมดกลายเป็นแก้วละ 60+ แล้วยิ่งตอนนี้ทุบตึกแถวทิ้งทำคอนโดหมดแบบนี้ยิ่งอยู่ยากไปอีก จักรยานที่เคยมีให้ขี่ในม.ก็เปลี่ยนเป็นรถ ev นั่งคนเดียวเพราะอยากอวดม.อื่นที่มาดูงาน กรรมมาตกอยู่กับนิสิตเลือกเอาจะเดินหรือจ่าย 30 บาทเช่าไอ้รถนี่เรื่องนี้โทษจุฬาแบบที่ตัวระบบกับทีมบริหารเลยค่ะ
เห็นด้วยในเมื่อสภาบันได้ผลประโยชน์มหาศาล ทำไมไม่เด็กเก่งๆ ทุกๆสถาบันเรียนฟรี และที่พักราคาถูก ค่าบริโภคราคาถูกสำหรับนักศึกษา
@@user-kz4ni6qi9m ยังงี้ลองไปจี้มหาลัยดูครับ ว่าผลประโยชน์มหาศาลที่ว่า เพียงพอหรือไม่กับการพัฒนาหลักสูตร จ้างเจ้าหน้าที่ อาจารย์ ดูแลนักศึกษา บำรุงอาคาร ทุนการศึกษา ทุนสนับสนุนโครงการ ทุนอื่นมากมาย แบบนี้จะเห็นผลมากกว่า ทราบมาว่าค่าเทอมก็ไม่ได้ต่างจาก มรัฐอื่นๆเท่าไร
ค่าที่เก็บจากผู้เช่าแพง ทำให้ อาหารบริเวณนั้นแพงไฟอีก
@@user-kz4ni6qi9mมันมีทุนให้ทุกมอเลยค่ะ ลองหาข้อมูลดู เด็กเก่งๆเค้าก็ไปสอบชิงทุนเอากัน
ไม่น่าเรียนอะแบบนี้ ไม่คุ้ม พอออกนอกระบบแล้วเป็นธุรกิจไปหมด ส่วนตัวจบมานานแล้ว เป็นเด็กต่างจังหวัดไปเรียน อยู่ในนั้นก็บ้านนอกมาก ต่างจังหวัดบังคับทรงนักเรียน ไม่ให้ทำผม แต่งตัว เราเป็นเด็กดีก็ปฏิบัติตาม แต่พอเข้าจุฬาฯ กลายเป็นดูด้อยกว่าคนอื่น ถ้าย้อนกลับไปได้ก็จะเลือกมหาวิทยาลัยท้องถิ่นหรือไม่ก็ธรรมศาสตร์
เท่าที่สัมผัสเด็กจุฬา รู้สึกว่าเทสสูงกว่าคนทั่ว ๆ ไป บางคนก็อาจจะไม่ได้มาก แต่ก็สูงกว่าปกติ แต่ทั้งนี้ก็ไม่เคยรู้สึกว่าพวกเขาเหยียดคนจนนะคะ คือรสนิยมสูงเป็นเรื่องของการบริโภค ไม่ใช่เรื่องของนิสัย คนรวยที่เหยียดคนจนแบบในละครคุณธรรม เรายังไม่เคยเจอในชีวิตจริงเลยค่ะ ถ้าเจอก็คงมองว่ามันเป็นบ้าเรามองว่าเด็กจุฬาบ้านรวยไม่ได้ผิดอะไรเลย ก็พ่อแม่เขามีลูกเมื่อพร้อม ต้องอยู่ที่สังคมรอบตัวแล้วว่าจะจัดการกับความเหลื่อมล้ำตรงนี้ยังไง
บางคนก็คิดไปเองว่า คนที่positionสูงกว่า จะดูถูกตัวเอง เช่น เขาสวยกว่า ขับรถแพงกว่า พอเกิดปฏิสัมพันธ์อะไรกันสักอย่างแล้วเอามาคิดว่าเขาเหยียด อันนี้ประสาท
แสดงว่ายังไม่เจอคนเหยียด จุฬาเขาไม่คบคนนอกสถาบัน
ไม่เคยเจอ ไม่ได้หมายความว่าไม่มีค่ะ
@@MrClick-bi8oeเราจบที่อื่น แต่ก็คุยกันสนิทกันอยู่นะคะ กับน้องที่จบจุฬา (หรือเราอาจจะสนิทกับเขาฝ่ายเดียวก็ได้😂😂)
@@beer3859คงจะแบบนั้นค่ะ เราคงโชคดีที่ไม่เจออะไรแบบนั้น
มีเพื่อนเป็นเด็กจุฬาหลายคน คนจบจากจุฬาก็รวยมากหลายคนจริงๆนะ เกือบทั้งหมดไปเรียนต่อเมืองนอก กลับมาก็มีเงินจากพ่อแม่มาลงทุน ไม่ใช่ ล้านสองล้าน แต่เป็นหลักสิบล้านบาท จำได้เลยว่า ตอนเรียนจบ เราฉลองการเรียนจบด้วยการไปเที่ยวระยอง แต่เพื่อนจุฬา ฉลองด้วยการยกโขยงไปเที่ยว Iceland อึ้งๆนิดหน่อย แต่ก็เข้าใจในความแตกต่างทางสังคม
อ่าว แบบนี้ที่ตอนมัธยมที่บอกว่าต้องใส่ชุดนักเรียน ต้องทรงหัวเกรียน เพื่อจะได้ไม่เหลื่อมล้ำ มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรนะซิ หรือเผลอๆแล้วทั้งมวลก็เป็นแค่โลกสมมุติที่รั้วมัธยมพยายามปิดตาเด็กๆไว้😆😆😆
จริงค่ะ เป็นความจริงที่คนส่วนใหญ่มักจะรับไม่ได้ แล้วมาปลอบตัวเอง แถมprotectพวกคนรวยเหล่านั้นด้วย นี่แหละสังคมไปแปลกดี คนจนปกป้องคนรวยเอาใจช่วยคนรวย_
@@zerocrystal1ยากอะไรล่ะอย่างแต่งตัวแบบไหนก็เชิญถ้า รร ไม่ว่าอะไรแต่ถ้าเค้าไม่ให้เรียนก็อย่าไปง้อ
@@zerocrystal1 ไม่ถูกทั้งหมดครับ เพราะในสังคมจุฬาก็ยังใส่ชุดนิสิตไปเรียนครับ เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยครับ จะได้รู้ว่าเป็นนิสิต ไม่ใช่คนนอก และเพื่อความปลอดภัยครับภายในองค์กรครับ
ใช้คำว่าเกือบหมดไม่ได้หรอก แวดวงที่รู้จักมีแบบที่บอกไม่ถึง 20% รุ่นเราฉลองด้วยการเที่ยวทะเลเหมือนกัน
เด็กจุฬารวยจริง แต่นอกจากความรวยอีกสิ่งที่เห็นได้ชัดคือเด็กส่วนมากมาจากครอบครัวที่อบอุ่น พ่อแม่ตั้งใจมีลูกจริงๆ คือเราทำงานเป็นพนักงานโรงพยาบาล โรงพยาบาลที่เราทำอยู่เป็นโรงเรียนแพทย์ จะมีนักศึกษาแพทย์จากจุฬามาฝึกงาน มีอยู่ครั้งนึง เราเข้าเวรวันอาทิตย์ แล้วเราเดินผ่านหอพักนักศึกษาแพทย์ ปกติ เสาร์-อาทิตย์นักศึกษาก็จะกลับบ้าน แล้วพ่อแม่เขาจะมาส่งลูกกลับหอช่วงเย็นของวันอาทิตย์ เราเห็นพ่อแม่ขับรถมาส่งนักศึกษาแพทย์ แล้วคือจากที่เห็นความสัมพันธ์ในครอบครัวเขาคือดีมาก ก่อนนักศึกษาขึ้นหอพ่อแม่ก็ต้องมาหอมมากอด แบบเราเข้าใจเลยว่าความสำเร็จอ่ะมันต้องมาจากพื้นฐานครอบครัวที่แข็งแรงก่อนจริงๆ
จริงเด็กขาดความอบอุ่น เด็กมีปัญหาเนี่ยยากจะมีชีวิตที่ดีได้เพราะมัวแต่ไปปวดหัวเรื่องพ่อแม่ทะเลาะกัน
เห็นด้วยครับ
เห็นด้วยกับคำแนะนำของน้องค่ะ ความได้เปรียบของจฬคือเป็นมหาวิทยาลัยเก่าแก่ มีที่ดินใจกลางเมือง ราคาแพง จำนวนมาก ซึ่งก็เป็นที่ดินที่ได้รับพระราชทานมาเพื่อใช้ปย. ในการศึกษา แต่จฬกลับใช้โอกาสนี้ในการทำธุรกิจและหาเงินจนลืมไปว่า เป็นสถาบันเพื่อการศึกษา จฬเปลี่ยนไปมากค่ะ
จุฬาไม่ยึดโยงกับประชาชนเหมือนธรรมศาสตร์😢
@@jerjai252ก้นี่ ฬ ไม่ใช่ มธ
@@jerjai252ธรรมศาสตร์ก่อตั้งโดยกลุ่มคนที่มีอุดมการณ์ทางการเมืองสูงครับ
ผมเกิดแถวนั้นปัจจุบันอายุ 64บ้านผมก็โดนไล่ที่เพื่อสร้างที่จอดรถหลัง สำนักงานอธิการบดี
จุฬาเปลี่ยนไปก็คนที่บริหารทรัพย์สินจุฬาฯเปลี่ยนไปอีกอย่างเหมือนได้เงินจากรัฐน้อยลงมั้งเลยต้องใช้สิ่งที่มีมาหาเงินให้ได้มากที่สุด
ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกที่คนรวยจะเข้าจุฬาได้ อาจจะมีลูกเมื่อพร้อม มีเงินใช้ ส่งลูกเรียนพิเศษได้ กินอะไรดีๆได้สุขภาพดี พร้อมเรียนพร้อมสอบติดได้ ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ก็ไม่ใช่ว่ามีแค่เด็กรวยเท่านั้นที่จะเข้าได้ ก็ต้องมีความรู้ความสามารถถึงจะเข้าได้ ส่วนตัวไม่ได้เรียนจุฬา ไม่ได้รวย การที่คนเรียนจุฬาจะมีคนรวยจำนวนมาก ก็ไม่ได้แปลกอะไร เพราะบางทีคนรวยจริงๆเขาก็ไม่ได้อยากจะเรียนจุฬา เรียนเอกชนนู้น แต่คนเรียนเอกชนก็ไม่ใช่ทุกคนจะบ้านรวย ทุกที่มันมีทั้งคนรวยและคนรวยแหละ ผมเรียนมหาลัยนักศึกษาสำนักวิชาอื่นใช้ipadเรียนกันหมด พอเรียนsecเดียวกันสำนักที่ผมอยู่ก็จะเป็นสำนักวิชาที่นักศึกษาไม่ค่อยจะมีIpadกับเขาหรอก ทั้งๆที่ผมอยู่สำนักวิชาITนะ555555 ไม่ใช่เพราะสำนักวิชาผมรวมคนไม่มีตังค์มารวมกันนะ แค่life styleคนในสำนักวิชาไม่ได้เหมือนกับชาวบ้านเขา หลายๆคนมีคอมที่ห้อง ใช้คอมเป็นส่วนใหญ่ (ดักเลยว่าหลายคนก็คอมเก่าหลายปีแล้ว แค่ใช้ทำงานส่งอาจารย์ได้) แต่ก็ไม่ได้มีใครมองเหยียดกันว่าแกรวย แกจนอะไรแบบนั้นเลย มันอยู่ที่mind set คนแหละว่าจะมองเพื่อนร่วมมหาลัยว่าอย่างไง ชีวิตจริงไม่ได้มีใครฐานะทางบ้านขนาดนั้นหรอก เหมือนข่าวที่ลุงรปภ.ใช้Iphone 15 Pro Max บอกว่ามาทำงานเอาสังคม รายได้หลักมาจากที่ดินปล่อยให้ธนาคารเช่าเดือนละ3แสน 55555 (อันนี้ข่าวจากเวียดนาม)ยาวหน่อย แค่อยากเล่าเฉยๆ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นได้ครับ555555
mindset ของผู้บริหารจุฬาฯควรปรับใหม่ครับ ให้รู้จักตอบแทนสังคมให้มากกว่านี้ คุณจะทุบหอเก่าก็ไม่ได้ผิดอะไรถ้าหากสิ่งที่จะทำคือทำหอใหม่ให้ทันสมัยและควบคุมราคาให้เหมาะสมไม่แพงเวอร์วังไม่กระทบกับครอบครัวเกินไป
ส่วนตัวไม่ได้เรียนจุฬา แต่เข้าใจน้อง คิดบ้างว่าถ้าเป็นเรา เพื่อนชวนไปกินข้าวในห้างก็อยากไปแต่ไปไม่ได้เพราะไม่มีเงิน คงรู้สึกแย่ ตอนเที่ยงอาจารย์ปล่อยให้พักแป๊ปเดียว โรงอาหารในมอ คิวยาว เพื่อนๆชวนกันไปสามย่านมิตรทาวน์ เราไปไม่ได้ เพราะต้องประหยัด คิดว่าจุฬาควรแก้ไขเรื่องนี้
จริงขอเซอร์วิสสาธารณูปโภคเยอะกว่านี้ ร้านอาหารจำกัดราคาไม่ให้ขายเกินเท่านี้ๆ จักรยานให้ฟรีไม่ใช่รถไฟฟ้า น่าเรียนกว่าเยอะ มาเรียนไม่ได้มาโชว์รวย ระบบก็แหม่
เพื่อนในห้องใช้โทรศัพ 30,000+ ทานข้าวมื้อละ 100+ แล้วมีอยู่คนนึงที่ไม่มีแม้แต่จะจ่ายค่าเน็ต ใช้มือถือตกรุ่น ไม่มีเงินกินข้าวเกิน 50 บาทต่อมื้อ คิดว่าเพื่อนคนที่ไม่มีนั้น จะต้องปรับตัวยังไงหละครับ เพื่อนชวนทานข้าว..เชี่ยกูไม่มีไปกับเค้า เพื่อนชวนช้อป..เชี่ยกูไม่มีไปกับเค้า เพื่อนช่วยเที่ยว..เชี่ยกูไม่มีไปกับเค้า ถูกของแทนไทยแล้ว สังคมมันบีบบังคับ แม้แต่ อจ.เอง บางทีแม่งก็เอาง่ายคิดว่าเด็กมีใช้กันหมด ใครไม่มีก็เดี๋ยวยืมเพื่อนเอาช่วย ๆ กันเอา แล้วก็จ่ายโซลูชั่นที่ต้องผ่านของพวกนั้นให้เด็กเช่น พรีเซ้นต้องใส่แฟลชไดรฟ์มาขึ้นจอ ส่งงานต้องผ่านเมลล์ นี่ยังไม่พูดถึงการขยายบรรทัดฐานอีกเด็กส่งงานตามมาตรฐานเคยได้ 10 เต็ม พอมีเด็กบ้านรวยมาจ้างเค้าทำ หรือมีทูลในการทำมาก มีโรงงาน มีแมชชีน มีบริษัท มีพนักงานของที่บ้าน มีทรัพยากรมากแล้วทำออกมาจนโอเวอร์ อจ.ก็ไปปรับมาตรฐานใหม่เช่นการบอกว่าดูกลุ่มนั้นเค้าทำสิ ดูคนนั้นเค้าทำสิ ทำมาแค่นี้แล้วฉันจะให้เท่ากันหรอ เป็นต้น
ในมุมของเราไม่มีใครผิด คนที่บ้านรวย พ่อแม่เค้าก็วางแผนชีวิตวางแผนอนาคตมาดี การใช้ชีวิตของเค้า ใช้ของแพงๆ นั่นคือเค้าไม่ได้รู้สึกว่ามันแพง มันเหมือนเป็นการใช้ชีวิตโดยปกติส่วนครอบครัวที่รายได้ค่อนข้างต่ำ ก็มีความพยายามอยากได้ในสิ่งที่ดีที่สุดเช่นกัน แต่ต้องใช้ความพยายามมากหน่อย
เด็กที่ดราม่าแค่อายุ 17-19 เอง ก็คือเด็ก บางทีเขาก็อยากเข้ากลุ่มเพื่อนแค่นั้น ง่าย ๆ แค่เพื่อนชวนไปเดินห้างทุกอย่างมีค่าใช้จ่าย ค่ารถ เพื่อนกินชามุกแก้ว 40 กินข้าวในห้างร้านธรรมดา คือน้องเขาไม่สามารถเข้ากลุ่มกับเพื่อน ๆ ได้เลย คงสักปี 3-4 เด็กถึงได้เรียนรู้ ตอนนี้คงน้อยใจ
ไช่ครับจากที่น้องพูดผมเข้าใจว่าแบบนั่นแหละอารมณ์แบบอึดอัดอยุ่ในสังคมรวยๆจะให้ทำตัวจนเหมื่อนเดิมไปตลอดมันก็แปลกๆกลับกันถ้าน้องอยุ่ในสังคมที่้เป็นชนชั้นเดียวกันคงไม่รู้สึกแบบนี่แต่ก็จะไม่ได้รับการศึกษาที่ดีที่สุดและเป็นที่ยอมรับได้เหมื่อนกัน
จริงครับ เพื่อนบางกลุ่มกินข้าวหรูได้แทบทุกมื้อ ถ้าเราไปอยู่กลุ่มนั้นก็เตรียมจนได้เลยครับเป็นเพื่อนเรียนได้แต่ถ้าต้องไปกินข้าวด้วยกันไปเที่ยวด้วยกันต้องปฏิเสธ
เสื้อผ้า กางเกง รองเท้า เรายังต้องเลือกที่พอดีตัวแล้วสังคมการศึกษาอะ สังคมดีดี มันก็มีต้นทุน เลือกที่ทุนทรัพย์ไหวดีกว่ามั้ย ? พวกนักเรียนทุน ที่มีความสามารถในการสอบเพื่อให้ได้ทุน (หรือทุนให้เปล่า? จากการพิสูจน์ความจน) ก็ต้องเข้าใจว่าคุณแค่ได้ผ่านเข้าประตูไปรับการศึกษาที่ดีเทียบเท่ากับคนที่มีต้นทุนพร้อมจ่ายในทุกด้านไง คุณแค่ได้ผ่านเข้าประตูมา ไม่ใช่ว่าจะมีเหมือนคนอื่นเขา เข้ามหาลัยมาเรียน ก็ต้องเข้าใจ ว่ามาเรียนอะ โชว์ทักษะของตัวเองไปสิเกียรตินิยมไปสิผลักดันตัวเองไปให้สุดในสถานศึกษา อัพสกิลเข้าแล้วหวังว่าวันหนึ่ง สังคมการทำงานจะให้โอกาสคุณได้มีงานมีเงินมีชีวิตที่ดีอย่าไปคาดหวังว่าจะมีเหมือนคนอื่นเขาในตอนนี้เลยเกิดต่างกัน ต้นทุนชีวิตต่างกันทำใจ. ขวนขวายต่อไป
ถ้าชวนเพื่อนทำกิจกรรมอื่นแทนที่ไม่ค่อยใช้ค่าใช้จ่ายพอได้ไหม พวกกิจกรรมชมรมในมหาลัย ไปออกกำลังกาย ว่ายน้ำที่ศูนย์ฟรี หรือบางทีเพื่อนชวนนั่งอ่านหนังสือส่วนเราทำงานคณะไป เดินเล่นตลาดนัดกลางคืนแบบอยากดูบรรยากาศเฉยๆ เคยมีเพื่อนที่บอกเหมือนกันว่าลำบากเรื่องค่าใช้จ่าย บางทีไปเที่ยวด้วยกันหลังเขาเสร็จงาน part time แล้วก็มี จริงๆเราก็เข้าใจเขานะบางทีทั้งสองฝ่ายอาจจะแค่อยากใช้เวลาด้วยกันเฉยๆก็ได้แต่ไลฟสไตล์ต่างกัน ถ้าคุยๆว่าเราไปได้ไม่ได้ตรงไหนคิดว่าเพื่อนเขาเข้าใจ เราก็ไม่ได้รวยอยู่หอใน แต่เงินที่พ่อแม่ให้ในสมัยนั้นค่อนข้างครอบคลุมสำหรับเราราวๆ6000 เหลือเก็บทุกเดือนเพราะอยู่คณะที่วันๆทำแต่งานไม่มีเวลาเที่ยว แต่ถ้ามีเพื่อนที่ไลฟสไตล์กินห้างทุกมื้อก็คงไปด้วยบ่อยๆไม่ได้เหมือนกัน จะไปนานๆทีแบบกินเลี้ยงเป็นกลุ่ม
@@55mmiiพูดเหมือนหลุดออกมาจากละครคุณธรรม ชวนเพื่อนทำกิจกรรมอื่นตามความประสงค์ของตัวเองคนเดียวทุกครั้ง โดยไม่เหมาะกับรสนิยมหรือความชอบของเขารั้งแต่จะมีคนเกลียด นานๆทีๆร่วสังสรรค์กับเขา ก็เหมือนคนนอกจะหากลุ่มคอนเน็คชั่นลำบากหน่อยนะ มนุษย์เป็นสัตว์สังคมนินา แถมยังเป็นสัตว์นักล่า ถ้าเข้าร่วมกลุ่มไม่ได้ ก็จะถูกล่าเป็นธรรมดา
เป็นคนชนชั้นกลางบ้านไม่ลำบากแต่ก็ไม่ได้รวย ต้องบอกว่าการเป็นคนจนหรือคนกลางๆในหมู่คนรวยมันก็เศร้าๆนิดนึงแหละ ส่วนตัวโชคดีนะเพื่อนๆใจดีไม่ได้แย่อะไร แต่ถึงเพื่อนไม่ได้รังเกียจ เราก็ไม่สามารถไปเที่ยวไปใช้ชีวิตกับเพื่อนได้ เพราะคนมีเงิน ชีวิตประจำวันก็ไปแต่ในสนานที่ที่ต้องใช้เงินค่อนข้างเยอะ เพื่อนไม่ได้อวด แต่เราแค่มีเงินไม่พอที่จะเข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวันที่อยู่นอกห้องเรียนกับเพื่อนๆได้ มันคือความเป็นจริงในโลกนี้ ประเทศไหนๆไม่ว่าจะเจริญแค่ไหนมันก็มีแก๊ประหว่างคนรวยกับคนจนอยู่ดี
จริง. ไป. กิน เอ็มเค กับเพื่อนบ่อยก็ไม่ได้. เพื่อน กินเอ็มเค เป็นเรื่องปกติ เหมือนกินหมูกระทะ.
งานวิจัยนี้.... สรุปได้เห็นภาพชัดมากความเหลื่อมล้ำ... นำมาซึ่งโอกาสที่ต่างกันโอกาสที่ต่างกัน.. นำมาซึ่ง คุณภาพชีวิต... ที่ต่างกันบางคนมีแต้มต่อเป็นบวก.... บางคนเริ่มจากติดลบแทบทุกเรื่องคนที่เริ่มจาก 8 จะทำให้ถึง 10 มันคงไม่ต้องใช้พลังมากนักแต่คนที่เริ่มจาก -5 จะไปให้ถึง 10 มันคงต้องทุ่มเทพลังทุกอย่างสุดชีวิต.. จึงจะไปถึงได้ระบบที่กำหนดเป็นโครงสร้างสังคม ที่ตราเป็นกฎหมาย/ระเบียบสารพัด... จึงเป็นพื้นฐานสำคัญมาก ว่า จุดเริ่มต้นของคนในสังคม แต่ละคน จะเป็นเช่นไร.... ใครจะเข้าถึงโอกาสได้ยาก หรือ ง่ายต่างกันเท่าใดถ้าไม่เปลี่ยนแปลงโครงสร้างสังคม โครงสร้างอำนาจ ที่กำหนดความเป็นไปของสังคม.... ก้อยากที่จะเปลี่ยนอะไรๆได้หนึ่งในโอกาส ที่จะเปลี่ยนโครงสร้างอำนาจ/สังคมได้.... คือ.. ตัวคุณเอง
บ้านเรา จุฬามาตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ค่ะ เมื่อก่อนพ่อแม่เราก็ไม่ได้มีฐานะอะไร โดยเฉพาะทางแม่ต้องเรียกว่าจนมากด้วยซ้ำ แต่อยู่จุฬาได้สบาย ๆ (แม่เราอาศัยหอใน)พอมารุ่นเรา เนื่องจากเราอยู่ กทม เลยต้องพักข้างนอก ค่าครองชีพเริ่มจะสูงขึ้นมา แต่ยังมีอะไรให้กินอยู่ ชุมชนยังไม่ถึงกับหายไปหมดขนาดนั้น อย่างน้อยสามย่านเก่ายังมี กินเสต็กสามย่าน อาหารญี่ปุ่นก็กินที่หอยูพอได้ ถ้าอยากประหยัดก็กินแถวสะพานเหลือง บ้านเราเป็นชนชั้นกลางยังพออยู่ได้พอเราจบมาไม่กี่ปี รุ่นน้องเราเข้าไปเรียน โอ้โห คอนโดเป็นดอกเห็ด แล้วแพงมาก...แบบ มากกกกก มีสามย่านมิตรทาวน์ตามมา ส่วนจามจุรีสแควร์...ร้างพ่อแม่เราพูดเรื่องนี้ก็จะบ่น ๆ ว่าเด็กที่เค้าไม่รวยจะอยู่กันยังไง เอาเงินไปทำแต่ห้าง จุฬาเปลี่ยนไปมากจริง ๆปัญหาไม่ใช่เรื่องอยากมีหรือไม่อยากมีตามเพื่อน แต่จุฬาสร้างแต่ห้าง ไล่ชุมชน ค่าครองชีพแพง ทำให้เด็กที่บ้านไม่ได้มีต้นทุนขนาดนั้นใช้ชีวิตกันลำบากจริง ๆ
ฟ
คืออยู่จุฬาเรียนเก่งเเพื่อให้ไปรอดไม่พอนะครับ ต้องขยันทำงานเพื่อหางานมาประทังชีวิตแต่ละวันด้วยสำหรับคนที่ฐานะทางการเงินต่ำ😢😢 สภาพแวดล้อมมันบีบคั้นให้ไปทางนั้นจริงๆ
เรียนจุฬาไม่จำเป็นต้องอยู่แถวจุฬา นั่งรถไฟฟ้าเข้ามาได้ เลือกเอาเลย bts mrt สถานีที่ค่าเช่าถูกๆ ค่าข้าวที่คณะก็แสนจะถูก
เราเคยอยู่ทั้งม.รัฐ และมาต่อโทที่จุฬาค่ะ รู้เลยว่า location และสิ่งแวดล้อมมันมีอิทธิพลต่อการใช้ชีวิต ไปจนถึงความคิดความอ่านมากๆ เราว่าไม่แปลกที่คนที่ฐานะทางบ้านด้อยกว่าจะรู้สึกแบบนั้น ขนาดบ้านเราชนชั้นกลางยังสัมผัสได้ถึงความแตกต่างเลยค่ะ และมันเป็นธรรมชาติของคนค่ะที่จะมีอีโก้อยากได้อยากมี และเราว่างานวิจัยนี้ดีมากเลยนะ ตั้งคำถามและแสดงคำตอบออกมาได้อย่างน่าสนใจ แล้วยังตั้งคำถามต่อได้อีกเรื่อยๆกับสังคม ทั้งเรื่องการเข้าถึงศึกษา ค่าใช้จ่ายในการใช้ชีวิตเป็นนิสิต ภาพลักษณ์ของเด็กจุฬาที่งานวิจัยเหมือนจะสื่ออกมาว่า…เพราะเป็น”ลูกคุณหนู”ก็เลย”มีความสามารถด้านวิชาการ”…อันนี้เราหวังว่าทางจุฬาจะเข้าใจถึงสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในหลายๆเรื่อง และหาทางจัดการได้อย่างเป็นรูปธรรมนะคะ…อย่างน้อยก็ควรให้สถาบัน friendly กับนิสิตทุกฐานะ ทุกคนจริงๆ… มองอีกทางก็เหมือนพัฒนาสถาบันไปในตัวด้วยค่ะ
มันเหนือกว่ามหาลัยอื่นจริงๆครับ 80-90 เปอร์เซ็นเลย
เห็นด้วยที่จุฬาควรสร้างชุมชน หอพักราคาปกติไว้สำหรับนิสิตทั่วไปบ้าง
"สิ่งที่ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับเรา ไม่ได้แปลว่าไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับคนอื่น" ใช่ครับ คนเรายังขาดความเข้าอกเข้าใจผู้อื่น(Empathy) อยู่อีกมาก สิ่งที่ไม่ได้เจอ ไม่ได้เห็น มันไม่ได้แปลว่ามันไม่มีอยู่ อ่าว ทำไมจู่ๆมันเข้าสู่อารมณ์เรืองลี้ลับไปได้วะเนี่ย
มีหลายคนที่พูดประมาณว่า ชั้นคนนึงเรียน ฬ มาก็มีสังคม ไม่ต้องทำตัวรวย คบเพื่อนรวยก็ได้นี่นา จะบอกว่า ใช่ครับ ทำได้เลย ไม่มีใครห้าม แต่ต้นทุนทางสังคมของคุณจะเสียไปเพราะคุณไม่ได้ใช้ชีวิตในสังคมคนรวย มีอะไรก็เอื้อเกื้อกูลกัน ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันเป็นบันไดที่ดีมากๆขั้นแรกสำหรับคนที่ต้องการเอาตัวเองเช้าสังคมชนชั้นสูง ขึ้นอยุ่กับพวกเค้าแล้วว่า พวกเค้าจะรับ life style จนๆของคุณได้หรือไม่ ถ้าคุณต้องการเป็นหนึ่งในกลุ่มเด็กพวกนั้น
เอาจริงๆเด็กรวยมันไม่ได้เหยียดเด็กจนหรอก แต่ไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิตมันต่างกันเลยดูเหมือนแบ่งแยกโดยอัตโนมัติ อย่างสิ่งที่ผมเจอตอนเรียนคือมันมีกลุ่มที่ขับรถมาเรียน เลิกเรียนไปเที่ยวห้าง ไปร้านเหล้าหรูๆ ปิดเทอมยกพวกไปเที่ยวต่างประเทศ ใช้ชีวิตในแบบที่อย่าว่าแต่คนจนเลยชนชั้นกลางอย่างผมยังไปจอยด้วยไม่ไหว
ใช่นั้นแหละสภาพความเป็นจริง จนได้อิจฉาคนรวยได้ ก้หาวิธีรวยแบบคนอื่น ไม่ใช่โทษสังคม
กลับกัน บ้านเราค่อนข้างมีฐานะดี ชีวิตไม่เคยลำบาก ไม่เคยทำงาน สมัยเรียนได้ค่าขนมเดือนละแปดพัน จบรร.เอกชนเราไปเข้าม.รัฐ ทั้งเพื่อนรอบตัวส่วนใหญ่ ทั้งรุ่นพี่บางคน ฐานะไม่ดี เราก็ต้องปรับตัวเยอะเหมือนกัน เราอยากกินแมคก็ไม่กล้าซื้อ เดินเล่นกับเพื่อนเจอของถูกใจก็ไม่กล้าซื้อ ไม่กล้าบอกว่าตัวเองได้ค่าขนมเท่าไร หรือที่บ้านมีแม่บ้าน เพราะเพื่อนเราเวลาไปไหนเจออะไรก็จะพูดว่าแพง เห็นคนกินสตาร์บัคก็บอกพวกนั้นบ้ารึเปล่า ขนาดข้าวจากละเจ็ดสิบเขาก็บอกแพงไม่เอา เราอยากกินก็ไม่กล้าพูด กลัวโดนหาว่าอวดรวย ตอนเพื่อนรู้ว่าเราไม่ได้ทำงานพิเศษ ใช้เงินพ่อแม่ เขาก็มองเราเป็นไก่อ่อน เป็นคนไม่เอาไหนอยู่อย่างนั้นได้ปีนึง ทนสังคมไม่ไหว แอบรู้สึกท๊อกซิกนิดหน่อย เลยซิว สุดท้ายมาจบที่ราม สบายใจ ไม่มีใครยุ่งกับใคร ไม่มีใครสนใจด้วยซ้ำว่าเราทำอะไร😂
ใช่เลย มองว่าอาจมีบ้างที่เหยียด แต่เท่าที่สัมผัสนิสัยดีหลายคน แต่ส่วนใหญ่การใช้ชีวิตเค้าต่างกับเราเท่านั้นเอง
จริง ไม่มีใครเหยียด
สม
ชอบความคิดของคุณเนมมากๆครับ ถ้ามองจากมุมน้องแทนไทมันไม่ผิดเลยที่เขาสะท้อนแบบนั้น เพราะความเป็นจริงมันอดไม่ได้หรอกที่จะมีการเปรียบเทียบ นี่ยังแอบคิดเลยว่าน้องอาจจะพูดถึงทัศนคติทั้งหมดของน้องไม่หมดด้วยซ้ำ คำว่า แพง ของน้องความหมายมันลึกมาก มันหมายถึงโครงสร้างทางสังคมที่ต่างกันจนรู้สึกว่ามันแพงเกินกว่าที่เขาจะมีมันได้
อื้มจริงๆ รู้สึกว่าตัวเองบ้านมีฐานะกลางๆ พอไปเที่ยวตปท.ไปยุโรปปีละ1-2ทริปได้ แต่พอมารู้จักกับสังคมเพื่อนเด็กจุฬา คือไฮโซไปเลย life style คืออีกเลเวลทุกมิติ โดยที่นั่นเป็นธรรมชาติ เป็นชีวิตปกติของพวกเขานะ พวกเขาไม่ได้คิดจะอวดรวยอะ แต่ไลฟ์สไตล์การใช้เงินเขามากกว่าเราหลายเท่าตัวจนเรารู้สึกด้อยไปเลย ต่างจากม.รัฐในกทม.อื่นไปสุดๆร้านอาหารแถวจุฬาเยอะมากแต่ราคาก็แรงจริงนานๆกินทีก็ได้อยู่ แต่ถ้ากินทุกๆวันสำหรับเด็กตจว.ก็จัดว่าโหดนะ มหาลัยควรตระหนักเรื่องนี้ ถือว่าเป็นประเด็นที่น่าสนใจ
พูดในฐานะคนชนชั้นกลางบางทีก็จนเงินพอใช้เดือนชนเดือนบางทีก็ไม่พอต้องไปยืมคนข้างบ้าน มีเพื่อนชวนไปกินข้าวในห้างไปกินข้าวร้านนั้นนู้นนี้บางทีมื้อละ 70+ แค่นี้สำหรับเราก็แพงแล้ว เวลาไปเรียนได้วันละ100 กินนิดๆหน่อยๆก้เหลือออมไว้ ลำบากใจเหมือนกันเลยไม่ค่อยเข้าสังคม ไม่ไปเที่ยวกับใครเลย แต่ก็ยังมีเพื่อนอยู่ให้พอรู้จักเวลาเรียนเวลาทำงาน อยู่คนเดียวก็มีความสุขดีเหงานิดหน่อยแต่ก็หาอะไรทำไปเรื่อยเปื่อย ไม่รู้จะแก้ปัญหาแบบนี้ยังไงเหมือนกัน คงต้องรอเรียนจบแล้วทำงาน ถึงจะมีเพื่อนหรอ😂 ก็ไม่เชิงอะเพื่อนก็มีมาให้รู้จักเรื่อยๆตั้งแต่สมัยเรียน แค่ไม่เคยได้ไปเที่ยวด้วยกัน มีแค่ทักทายกันเวลาเจอหน้าแค่นั้น เพื่อนที่ฐานะพอๆกันเค้าก็ไม่ค่อยอยากไปไหนเหมือนกันอยู่ดีเพราะไม่ค่อยมีเงิน นัดเจอกันก็แค่เดินเล่น พูดคุยกัน มีเงินเก็บเหลือหน่อยก็ไปทานอะไรด้วยกันนิดหน่อย นานๆทีจะมีโอกาส
อยากให้เด็กจุฬาที่บอกให้เเทนไทเปลี่ยนmindset ไปสัมผัสชีวิตรรเด็กชายขอบจังเลยค่ะ ที่บ้านเอ็งรวยจ่ายเงินเองเรียนที่ดีได้ ยินดีด้วยค่ะ เด็กขายขอบบางคนเเค่มหาลัยรัฐดีๆบางคนยังสอบเข้าไม่ได้เลย การเเข่งขันสูง ไม่มีเงินเรียน ความเหลื่อมล้ำมันคือความจริงค่ะ ที่เราต้องเจอ การที่ตัวเองรู้สึกตัวเองเปรียบเทียบมันเกิดอยู่เเล้ว เมื่ออยุ่ในบรรดาคนมีอันจะกิน ตอนเรียนเพื่อนมีรถขับ อินี่ขี่มอไซค์ยังรู้สึกเลยค่ะ
@@colonelzans ถ้างั้นตรรกะนี้ก็บอกได้ว่าคนรวยก็ควรไปเรียนเมืองนอกค่ะ มีปัญญาเรียน สูงส่งกว่าพวกปัญญาชนจบในประเทศแน่นอนค่ะ
สังคมกดดันจริงค่ะ 😊น้องสาวที่เป็นเด็ก ตจว. โตมาด้วยกันเข้าจุฬาไปแล้ว ฆตต น้องเรียนเก่งมากค่ะ แต่ ฆตต ก่อนจะเรียนจบ เกียรติฯ 1 ตอนน้องจะขึ้นปี 4เคยไปเที่ยวหาน้องที่สยาม น้องต้องประหยัดทุกอย่างค่ะไม่ได้ว่ามหาลัยหรอกค่ะ แต่การส่งเด็ก ตจว. จนๆ เข้ามาในเมืองหลวงคนเดียว มันก็กดดันมากพอแล้ว ไหนจะเรื่องอื่นๆอีก ต้นทุนคนเรามันต่างกันเยอะ ตัวเปรียบเทียบเยอะความต่างของสังคม คือ เด็กรวยที่ทำตัวจน แค่ไม่ทำตัวรวย แต่เด็กจนที่ทำตัวจน คือทำตัวรวยไม่ได้ชีวิตมันไม่ได้ให้ทางเลือกเราขนาดนั้นทุกวันนี้ก็ยังโกรธพ่อแม่น้องที่กดดันน้อง ให้เข้าจุฬาทั้งที่ฐานะก็ขัดสน เพราะเดิมตัวน้องสาวเราก็ไม่เคยอยากเข้าจุฬา แต่ก็ตั้งใจเรียนเข้าไปตามที่พ่อแม่บังคับ 555ตายแล้วร้องไห้ เอาอะไรคืนมาไม่ได้
ผิดกับญาติเราที่แกก็ขัดสน แต่พี่แกเรียนเก่งมากจนสอบติดจุฬาและได้ทุน พ่อแม่แกบอกไม่เงินจะส่งแกเรียนแกขู่จะฆ่าตัวตาย จนลุงป้าเรายอม ยอมรับเลยขนาดได้ทุนยังต้องประหยัดมากๆเงินเดือนลุงป้ากับน้องชายแกรวมกันมาจ่ายค่าเทอมแกคนเดียวบางทีและแกก็เปลี่ยนสายระหว่างเรียนด้วยแต่ด้วยที่แกก็เก่งจริงๆด้วยจบมาแล้วแกก็ได้งานดีเงินเดือนเกือบแตะหลักแสนละ ตอนนี้ลุงเราเสียละแกก็เลี้ยงแม่แกสบายๆ ซื้อบ้าน รถ แต่เรื่องรสนิยมใช้ของใช้อะไรดีๆเราว่าก็คงปกติที่คนเราอยากได้อะไรที่ดีที่สุดตราบใดที่ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน การลงทุนที่ดีคือการลงทุนกับการศึกษามันก็ไม่ได้เกินจริงนะเราว่ายิ่งศักยภาพของคนบางคนเขามีมากเป็นทุนโดยธรรมชาติถ้ามีแรงสนับสนุนสังคมก็จะได้คนมี คุณภาพเพิ่มขึ้นมาอีก 1 คน
ผมชักจะเริ่มเป็นห่วงพี่สาวผมแล้วหละสิเรียนหมออยู่ปี 4 เห็นโทรมาร้องไห้กับผมบ่อยเลยช่วงนี้ว่าเหนื่อย เครียด
@@Squier123 ดูแลพี่สาวให้ดีดีนะคะ อยู่ กทม. เครียดอยู่แล้ว ไหนจะเรียนอีก มันหลายอย่างค่ะ
@@Squier123ซื้อขนม ของชอบอะไรไปฝาก เทคแคร์ดูแลด้วยการกระทำ และ มั่นให้กำลังใจบ่อยๆครับ สัญญาณเริ่มเตือนมาแล้ว ดูแลพี่สาวมากๆครับ🎉🎉🎉
@@Squier123คุยกับเค้าบ่อยๆนะครับ อยุ่เป้นเพื่อน อยุ่เป็นที่รับฟัง ในตอนที่ยังมีโอกาสครับ
เด็กจุฬาหลายคนหน้าตาดี บุคลิกดี ฐานะดี แต่ก็ไม่ได้เหยียดกันขนาดนั้น คนรวยคนจนเป็นเพื่อนกันปกติ เท่าที่อยู่มา4ปี เพื่อนรวยร้อยล้านก็ไม่เห็นจะทำตัวเบ่งอะไร
จบจุฬาฯ มาเหมือนกัน เมื่อหลายสิบปีก่อน ข้อนี้เห็นด้วยครับ
เห็นด้วย ไม่เคยโดนเหยียด พวกรวยจัดๆ โคดหล่อโคดสวย เค้าก็ทำตัวปกติ ใครlifestyle เข้ากันก็จับกลุ่มกัน แนวใครแนวมัน ดราม่ามาจากพวกเด็กม ปลายแหงๆ 555 คนเรียนจบแล้วไม่เห็นมีใครบ่น
อยู่มหาลัยแล้วคนมันเยอะสังคมกว้างเริ่มต่างคนต่างอยู่ไม่ได้มีใครสนใจเราขนาดนั้น
โดนใจกับคำคุณเนมว่า "จบมา 10 กว่าปีไม่แน่ใจ นวัตกรรมการศึกษา" เราก็ไม่แน่ใจ จนอยากกลับไปเรียนโท เพราะมันมีอะไรอัฟเดทที่รายังไม่ค่อยเข้าใจในส่วนลึก ถึงแม้ว่างานที่ทำค่อนข้างเกาะกะแสเทรนก็ต่มส่วนแทนไทยน่าสงสารที่ออกมาพูดในมุมมองตัวเองในฐานะเด็กทุน แล้วก็กลายเป็นเหยื่อทางสังคม แต่เข้าใจน้องขนาดบ้านเราฐานะกลางๆ แต่ตอนเด็กๆพ่อแม่กัดฟันหาเงินให้เรียนโรงเรียนคนค่อนข้างมีฐานะ ที่เพื่อนสนิทในกลุ่มเปิดโลกให้เรารู้จักหลุยห์ วิตตองตั้งแต่ป.3 สายการบินต้องนั่งสายการบินนี้ สายการบินนั้นถูก ปีใหม่+สงกรานต์ หรือปิดเทอมกลับบ้านยาย/ บ้านอาม่า เพื่อนในกลุ่มเที่ยวญี่ปุ่น อเมริกา ฮอลแลนด์ ยุโรป อีกกลุ่มเรียนซัมเมอร์อังกฤษ พอมัธยม พ่อเพื่อนก็ซื้อคาเทียร์เป็นของขวัญวันเกิดเพื่อน😢 คิดแล้วแอบเศร้า แต่เราไม่เคยโดนเพื่อนดูถูก แถมรักกันด้วย แต่อาจมีพ่อแม่เพื่อนแบบกะแซะเพื่อนสมัยเด็กให้เลิกครบอยู่บ้าน เพราะคนละระดับกัน
เพราะบางทีคนเราก็ไม่อยากแปลกแยก อยากมีเพื่อนเที่ยวเล่น เรียนด้วยกันปกติ เพียงแต่ไม่มีเงินและพื้นฐานชีวิตต่างๆมันไม่เท่าเขา ทำให้แทนไทรู้สึกแปลกแยก ทั้งๆที่คนกลุ่มนั้นเขาไม่ได้เหยียดอะไรเลย เพียงแค่เขาใช้ชีวิตปกติแบบไม่ขัดสน การใช้ชีวิตที่ดูแพงนั้นถูกหล่อหลอมมาตั้งแต่เด็กๆ ได้เรียนรร.ดีๆ ครอบครัวมีความพร้อม ไม่แปลกที่แทนไทจะคิดแบบนี้ค่ะ มีคนรู้สึกแบบนี้อีกเยอะ❤ เอาใจช่วยน้องๆที่ยังเรียนอยู่นะ สมัยเราเรียน10ปีก่อน มันก็เป็นแบบนี้แหละ แต่คนแบบเดียวกันมันมักจะดึงดูดกันเอง เราก็คบกับคนที่เท่าๆกัน โหนรถเมล์ กินข้าวข้างทางด้วยกันได้ปกติแบบไม่ฝืน สู้ๆนะน้องๆ
จริง
จริง พื้นฐานครอบครัวรวยกันอยุ่แล้ว การมีเงินมีหน้าตาดี เวลาเข้าสังคมก็มีโอกาสมากกว่า คือถ้าที่บ้านเค้าพร้อม เค้าก็กล้ามั่นใจ มากกว่า เพราะเค้ามีการซัพพอร์ต การไม่มีเงินไปอยุ่สังคมไหนก็ลำบากโอกาสก็น้อย
ส่วนตัวจบจุฬา และบ้านไม่ได้รวย เดินทางจากชายขอบกทม ไปเรียน ลำบากอยู่ แต่ ช่วงที่เรียน ก็เห็นได้ชัดว่า เด็กที่บ้านรวยก็ไม่ได้เหยียดเพื่อนร่วมคณะ จะมีแค่บางกลุ่มบางคนที่มีนิสัยชอบเหยียดชอบเช็คว่าใครใช้อะไรยี่ห้ออะไรขับรถอะไร ตอนนั้นก็เลือกที่จะไม่คบไม่คุย เพราะแค่ไปเรียน ไม่ได้ไปให้ใครดูถูก เลยไม่แคร์ แต่ต้องยอมรับว่ามันเป็นเรื่องจริงอย่างที่น้องเค้าพูด สังคมมันหล่อหลอม ให้เราอยากมีบ้าง อยากเป็น ส่วนตัวตอนนั้นคือไม่มี เลยไม่ได้สนใจ คบเพื่อนทีคุยด้วยแล้วสบายใจ ช่วยเหลือกันเรื่องเรียน เลยรอดมาได้ 😅
ไม่ใช่แค่ค่าครองชีพ เพื่อนๆจุฬาฯหลายคนขับรถหลักล้านมาเรียน พ่อแม่ขับรถหรูมารับส่ง เดินเที่ยวกินสยามเฮฮาสบายๆ มันชัดอยู่แล้วถ้าไม่หลอกตัวเองว่าเด็กจุฬาส่วนใหญ่มีฐานะและต้นทุนทางบ้านได้เปรียบมากกว่า
ผมก็จบนิติจุฬานะ ก็กินข้าวโรงอาหาร4ปีแต่ก็กินข้างนอกบ้างแล้วแต่โอกาส พ่อแม่ก็เป็นข้าราชการบำนาญ ก็เฉยๆนะไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองจนหรือรวย หรือสูง หรือต่ำกว่าเพื่อนๆหรือคนอื่นแต่อย่างไร..น่าจะอยู่ที่ทัศนคติของแต่ละคนแหละ😊
เข้าใจเลยค่ะ เราไม่สามารถยื่นโควต้าธรรมศาสตร์ได้ แค่เพราะเรามีบ้านเดี่ยวอยู่ในหมู่บ้านจัดสรร มหาลัยปัดให้เราเป็นคนมีเงินทันที เพราะเรามีบ้าน ทั้งๆที่บางวันก็ไม่ได้ไปโรงเรียน เพราะไม่มีเงินเหลือแล้ว การพิสูจน์ความจนเป็นอะไรที่แย่มากๆ ถ้าเราเป็นแทนไท แล้วไม่เจอเพื่อนชนชั้นเดียวกัน น่าจะเครียดมากพอดูเลย ทุกวันนี้ก็เรียนมหาลัยต่างจังหวัด กินไข่เจียวเกิน4วันก็เบื่อแล้วค่ะ อยากออกไปกินข้าวข้างนอกแบบเพื่อนคนอื่นที่เขาไปกินบ้างก็ไม่ได้ ต้องทนประหยัดไว้ มันไม่แปลกนะคะที่แทนไทหรือคนชนชั้นล่างคนอื่นจะรู้สึกอยากได้อยากมี แต่คนที่เอาเลนส์ชนชั้นตัวเองไปตัดสินคนที่ชนชั้นต่ำกว่า แล้วบอกว่าเธออยากได้เกินตัว ทั้งๆที่บางทีเขายังไม่ได้เลย แค่อยากเฉยๆ อันนี้แปลก
ที่บอกว่าม.ธรรมศาสตร์ปัดออกไป ไม่รับโคต้า บอกว่าเพราะ มีบ้านเดี่ยวในหมู่บ้านใหญ่ คงไม่ใช่เหตุผลแน่นอน ทำไม.. ไม่ดูว่าโคต้ามีจำกัดและมีคะที่สมัครเยอะ มันธรรมดาที่จะต้องมีคนได้และคะไม่ได้ ไม่สามารถรับได้ทุกคน ต้องดูอะไรหลายๆอย่างไม่ใช่เกรดคะแนนอย่างเดียว ทัศนคติจากการสัมภาษณ์ อย่างลูกคนเล็กยื่นคะแนนกับงานที่เคยทำเกรดก็ไม่ได้สูงมาก 2.98 ไม่ถึง3ด้วยซ้ำ แต่เค้าทำงานตัดต่อ ทำงานด้านคอนโทลเสียง อุปกรณ์ทำฉาก รับจ้างถ่ายงาน คอนเทนต์ และอีเว้นต่างๆ ชอบเล่นกล้อง และคอมพิวเตอร์ ส่วนโคต้าที่รับตอนนั้น รับเพียง22คน ยื่นสมัคร159 รอบที่2 ตัดเหลือ50คน รอบ3 เอา 22 คน ลูกไปยื่นเอง สมัครเอง ได้เข้ารอบ ถ้าถามว่าที่บ้านมีไหม? ก็พออยู่ได้ เพราะมีอพาร์ตเมนต์อยู่ใน กทม.ให้เช่าใกล้กับม.เอกชนในกทม. เค้าก็ไม่ปัดตกนะตอนนี้คนเล็กพึ่งเรียนจบและรับปริญญาไปแล้ว ได้งานแล้ว บอกให้เค้าเรียนต่อเลย เค้าก็บอกว่า ขอทำงานก่อน อยากหาประสบการณ์ จึงไม่น่าใช่ ส่วนอีกคนเพื่อนเค้า คุณพ่อเป็นวิศวกรทำงานธุรกิจส่วนตัว และยังมีปั้มน้ำมัน ก็ไม่โดนปรับตกนะ ไม่อยากให้อคติกับอาจารย์ที่สัมภาษณ์การตัดสินยิ่งมีการ ยื่นผลงาน ยื่นผลคะแนน และดูทัศนคติของเด็กก็มีส่วนในการผ่านแต่ละรอบ และบอกเลยว่า เราและลูก ไม่ได้รู้จักหรือสนิทกับอาจารย์ในมหาวิทยาลัยเป็นการส่วนตัวเลยด้วยซ้ำ(การเก็บผลงาน น้องเค้าเก็บผลงานเค้าเอง ตั้งแต่ม.4 ถึง ม.6)คะ
บางครั้งคนรวยก็ไม่ได้เหยียด เเค่ lifestyle ไม่เหมือนกัน ความชอบ การใช้เงิน มันก็ต่างกัน
คนรวยไม่ได้เหยียดหรอก แต่คนจนหลอนไปเอง ด้อยค่าตัวเองเอง
เค้าคงอึดอัดเพราะเข้าการใช้ชีวิตของเพื่อนได้ยาก สิ่งที่เพื่อนกินเพื่อนใช้กิจกรรมที่เพื่อนทำ เค้าอาจจะไม่สามารถมีส่วนร่วมได้เพราะจ่ายไม่ไหว
@@Econeer-Dเฮ้อ การเหยียบคนอื่นมีในทุกสังคม ขนาดคุณก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไร ยังเหยียดคนจนด้วยกันเองอยู่เลยเนี่ย 😂
ที่ทำได้น่าจะ เป็นเพื่อนกันกับคนที่คล้ายๆกัน หรือไม่ก็ถ้าเพื่อนรวยก็เป็นเพื่อนกันตอนเรียน พยายามไม่มีส่วนร่วมในการใช้ชีวิตของเพื่อน...มีอีกอันคือถ้าเพื่อนช่วยบ้างเหมือนให้สามารถทำอะไรด้วยกันก็ดีไป
จริง เขาไม่เหยียด เราแค่ไม่สามารถใช้ชีวิตเป็นเพื่อนกับเขาได้ขนาดนั้้น แค่การใช้ชีวิตก็พื้นฐานไม่เหมือนกันแล้ว
ดูเวลาจุฬามีพิธีใดๆซิ ฟุตบอลจุฬาธรรมศาสตร์ด้วย จุฬาจะpresentตัวเองเหมือนที่เราเห็นในละครช่อง3...คือ....สูงศักดิ์ งดงาม เลอค่า เสด็จจุติมาจากฟากฟ้าสรวงสวรรค์
เห็นภาพเลอ
เข้าใจน้องแทนไทนะ มันไม่มีใครผิดหรอกก็สังคงมันเหลื่อมล้ำแบบนี้อะแหละ คิดสภาพน้องเป็นเด็กทุน พอเข้ามาเรียนในสังคมหรูๆ เพื่อนๆรอบตัวต่างมีของใช้แบรนกันทั้งนั้น คนในมออาจจะคิดว่ามันเป็นเรื่องปรกติไม่ได้โอ้อวดอะไร แต่สำหรับเด็กทุนที่เข้าไปอยู่มันให้ความรู้สึกต่างกันนะ ในขณะที่น้องโดนสังคมล่อหลอมจนเริ่มรุ้สึกเห็นความแตกต่างของฐานะตัวเอง การที่น้องอยากได้ชุดดีๆอยากกินอาหารแพงบ้างๆ มองว่าน้องก็ไม่ผิดอะไร แค่ยอมรับผลกระทบที่ตามมาเท่านั้น ถ้าแทนไทบริหารเงินพออะนะ ในเมื่อสังคมน้องเห็นทุกวันมันเป็นอย่างนั้น เหมือนเราที่บางทีลึกๆก็อิจฉาคนที่มีตังซื้อนู้นซื้อนี้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องมาห่วงว่าต้องใช้แบบเดือนชนเดือน ขนาดตัวเราเองถ้าเลือกได้ก็อยากทำให้ตัวเองดูดีในสายตาคนเหมือนกัน เรายังซื้อเสื้อผ้าสวยๆทั้งๆที่ก็ไม่จำเป็นเหมือนกัน ไม่มีคนมาเหยียดแทนไทเรื่องความจนหรอกในจุฬาน่ะ แต่สิ่งที่เป็นเรื่องธรรมดาของคนในมอต่างหากที่ทำให้แทนไทดูแตกต่างและรู้สึกด้อยค่าตัวเอง จริงๆจะบอกให้น้องไม่ต้องสนใจก็ได้แหละ แต่การได้เห็นคนอื่นทำเรื่องปรกติที่ไม่ปรกติสำหรับแทนไท ลึกๆมันก็ต้องคิดอยู่แล้ว
เพื่อนสนิทติดจุฬาชนบท อารมณ์ทุนเรียนดีแต่ยากจน ส่วนเราเก่งน้อยกว่าติดธรรมศาสตร์โน้นเลยปี1-2เรียนรังสิต ปั่นจักรยานตัวดำหลายสิบปีก่อน แต่เพื่อนคือคนละสังคมกะเราเลย ไม่มีเงินนะแต่พยายามผลักดันตัวเองให้มีกน้าตาในสังคมเพ้่อนจุฬา แม้อยู่หอมันก็จะมีเกรตเพื่อนคบ มันมีจริงๆ เว้ย เพื่อนโทรมาร้องไห้บ่อยๆ และเจอกันก็เครียดมากเรื่องหน้าตาในสังคมจุฬา คือตอนนั้นบอกเพื่อนไปว่า แค่เรียนมึงก็เหนื่อยแล้วป่ะแล้วมึงจะมาเหนื่อยในการเข้าสังคมอีกหรอ หลังจากเพื่อนกัดฟันเรียนเภสัชจบนางกลับตจวทันทีและไม่เข้ามาทำงานกทมเลย ตอนนี้กลายเป็นผู้อำนวยกาฝ่ายใหญ่โตมากๆทางภาคอีสาน เพราะดีกรีจบจุฬานะเว้ย นามสกุลนี้ติดตัวไปตลอดชีพอะ
ชอบที่คุณเนมพูดตอนจบอะ จุฬาทำแบบนั้นยิ่งทำให้คนไม่ค่อยมีเงินเรียนจุฬาลำบากขึ้นกว่าแต่ก่อนเยอะเลย
เห็นด้วยสุดๆ คิดถึงโบนันซ่า คิดถึงบรรยากาศเก่าๆ ร้านข้าว ร้านขนม ร้านถ่ายพุริ ร้านหนังสือการ์ตูน เสื้อผ้า ราคาจับต้องได้...... ทุกอย่างกลายเป็นแค่ภาพความทรงจำดีๆไปหมดเเล้ว ทุกวันนี้ กลางคนเเล้ว กลับไปเดินย่านนั้น กลายเป็นเดินไม่ไหว คือสร้างให้พวกลูกคนรวยเดิน only ที่แทร่กิจกรรมดีๆ ภาพเก่าๆ เด็กๆนัดคุย นัดเจอกันร้านอินเตอร์ หรือ ชั้นสองเชสเตอร์กริลล์... ไม่มีอีกเเล้วววว
มุมมองส่วนตัวผมนะ มันไม่สำคัญว่าสังคมนั้นจะเป็นยังไง มันสำคัญว่าเราจะยอมเปลี่ยนตัวเองเพื่อเข้าสังคมนั้นหรือเปล่าต่างหาก สิ่งที่อาจารย์และน้องคนนั้นพูดผมเห็นด้วย แต่อยากให้ลองพิจารณาดีๆว่าเราอึดอัดใจหรือไม่กับสังคมที่เราอยู่ เราใช้ชีวิตลำบากขึ้นหรือไม่ และการที่เราต้องเข้าสังคมนั้นเพราะเรามีเหตุผลสมควรกับสิ่งที่เราต้องเสียไปหรือไม่ มันคือภูมิคุ้มกันทางสังคมที่ดีที่ครอบครัวต้องสร้างให้ และสิ่งนี้แหละคือจุดสำคัญสำหรับเรื่องนี้ที่ผมเห็นนะ คนที่เห็นเรื่องนี้เป็นปกติก็เพราะเขาเป็นคนแบบนั้นและอยู่ในสังคมแบบนั้นได้สะบาย แต่ถ้าคนบางคนรู้สึกสูญเสียความเป็นตัวเอง รู้สึกชีวิตลำบากขึ้น เพื่อแลกกับคอนเน็คชั่นที่จะถีบชีวิตตัวเองให้เป็นชนชั้นอีลิทในอนาคต ถ้ามันรู้สึกว่าคุ้มแล้วกับการที่ต้องเปลี่ยนตัวตนเพื่อเข้าสังคมนั้นก็แล้วแต่คนๆนั้นจะชั่งน้ำหนัก ผมกำลังพูดในมุมมองสัตว์สังคม มันมีสังคมอีกหลายรูปแบบมาก และคนบางส่วนก็อยากเป็นที่ยอมรับในสังคมที่ตนอยู่ แต่บางครั้งคนบางส่วนนั้นลืมตั้งสติสำรวจใจตัวเองว่าเราเป็นคนประเภทที่เราอยากอยู่จริงหรือ และคำตอบของสิ่งนี้ก็ย้อนกลับไปที่เรื่องภูมิคุ้มกันทางสังคม ผมสมมุติว่าถ้าเด็กทุนอีกคนที่มาจากตจว.เจอสถานการณ์เดียวกันนี้ในสังคมนี้ แต่ถ้าเขามีภูมิคุ้มกันทางสังคมที่ดี เขาใช้ชีวิตในความเป็นตัวเองได้อย่างมีความสุข และมองโลกในแง่ดีว่าที่เพื่อนบางส่วนไม่คบด้วยมันก็แค่ไลฟ์สไตล์ชีวิตไม่เหมือนกัน เขาอาจเหยียดเรา แต่เราก็ไม่จำเป็นต้องทำตัวน่ารังเกียจแบบเขาก็ได้นี่นา และส่วนตัวผมเขื่อว่าไม่มีใครโดดเดี่ยวหรอกครับ ในสังคมนั้นๆมันจะมีคนประเภทเดียวกับเราอยู่แน่นอน เขาอาจรอวันให้เราไปสร้างสังคมด้วยกันก็ได้ คนประเภทเดียวกันย่อมอยู่รวมกันเป็นสังคมนั้น ถ้าเราอึดอัดก็คงไม่ใช่ที่ของเรา อันนี้ส่วนตัวแบบคร่าวๆนะ
คุณพ่อคุณแม่เด็กจุฬามีเงินเดือนรวมกันประมาณ 200,000 บาท แต่ไปอยู่ที่ สยาม-สามย่าน แล้วรับรู้เลยว่าตัวเองจน เพราะทุกอย่างรอบตัวแพงหมด กินข้าวธรรมดายัง เริ่มต้น 70 บาทไม่รวมน้ำ และ notebook ขั้นต่ำ ต้องเป็น apple .. จริง ๆ มันไม่มีใครผิดนะครับ ต่อให้ที่โพสมาข้างต้นเป็นความจริงก็ตาม
ผมเรียนคณะผู้หญิงเยอะๆ ผมก็เห็นสาวหลายคนใช้ก็ laptop ธรรมดาครับ สาวพวกนี้ก็เห็นมีความสุขกัน สดใส มีกลุ่มเพื่อนของเขา ส่วนกลุ่มคุณหนูราชนิกุล macbook+starbuck+goyard ก็มีกลุ่มของพวกเขากันไป ทุกคนมีกลุ่มก้อนของตัวเอง สังคมหลากหลาย
สมัยก่อนเรียนใช้แค่ปากกาสมุดหนังสือคือจบไม่แปลกแยก พอหลังๆมาอย่างมากต้องมีโทรศัพท์นะ ต้องมีไอแพตนะ คอมต้องสเปกดีๆนะ ไม่มีใครบังคับเราให้ต้องมีหรอกใครก็พูดได้ แต่สุดท้ายสภาพการเรียนก็จะกดดันให้เรา 'ต้องมี' เอง
ตอนเรียนจุฬาทำให้เราได้รู้เลยว่าคนรวยมันเยอะขนาดนี้เลยหรอ ขณะที่บ้านเราเองก็ไม่ได้จน ชนขั้นกลาง รายได้ต่อเดือนมากกว่าค่าเฉลี่ยในคลิปนี้ ก็ยังรู้สึกว่าเพื่อนในคณะรวยกันเยอะมาก
จากปสก.ตรงที่เคยสัมผัสคนรวย รวยแบบรวยจริงๆนะ คือโลกคตตตจะใส มารยาทดี พ่อแม่คตสอนดี ไม่นินทาไม่แสดงความขี้อิจฉาใดๆเลย คืือก็ไม่เชิงว่าเป็นพระมาเกิด แต่โดยรวมเลยคือในบรรดาผู้ใหญ่ทั้งหมด ชอบคนนี้ที่สุด ก็ไม่รู้ว่าบ้านรวยบ้านอื่นเป็นยังไง แต่เกิดมา27ปีในชีวิต คนรวยที่เคยรู้จักจะเป็นคนสุภาพ พูดดีไม่หยาบคายไม่อวดด้วยนะ(แบบคาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิดนะไม่ใช่ดิ้นมาจนรวย)
ถ้าอิงตามงานวิจัยนะ เด็กจุฬามาจากบ้านที่ค่อนข้างมีฐานะ เขาก็จะมีวิถีชีวิตที่สอดคล้องกับกำลังทรัพย์ของเขามันก็เป็นเรื่องปกตินะครับ สิ่งที่มันแปลกสำหรับคนที่เพิ่งจบมัธยมมาแล้วเข้ามหาวิทยาลัยคือ ตอนอยู่ประถม มัธยม ความแตกต่างระหว่างฐานะไม่ค่อยมีอิทธิพลต่อการยอมรับ การให้เกียรติต่อเราของคนรอบข้างมากนัก ถึงแม้ฐานะจะค่อยๆมีผลต่อมุมมองที่คนอื่นมองเรามากขึ้นเรื่อยๆตามอายุที่มากขึ้น ประเด็นสำคัญน่าจะอยู่ตรงที่ ความชันของสิ่งนี้มากกว่า พูดง่ายๆคือ ระดับการให้เกียรติคนที่ฐานะไม่ได้ดี ใช้โทรศัพท์แอนดรอย คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คแบบธรรมดา กินอาหารโรงอาหาร กับคนที่มีฐานะดี มันต่างกันมากแค่ไหน ถ้ามันต่างกันมากถึงระดับที่คนฐานะไม่ดีโดนบูลลี่ โดนล้อ มีเพื่อนน้อย อันนี้ไม่เกี่ยวกับรสนิยมนะครับ ทุกๆคนก็อยากมีสังคมที่ดี อยากบอกน้องๆว่า อายุยิ่งเยอะขึ้น เรื่องนี้จะหนักข้อขึ้นเรื่อยๆด้วยซ้ำ ถ้าเราทำให้คนที่ฐานะดีไม่พอใจ เผลอๆคนอื่นไม่กล้าคุยกับเรา
ฉันที่จนแล้วเรียนที่ราชภัฎในกทม.ยังรู้สึกด้วยกว่าคนอื่นทจะซื้อคอมดีๆมาไว้เรียนยังลำบาก กิจกรรมอะไรที่นอกเหนือวิชาก็ต้องงด ความเหลื่อมล้ำในจิตใจลบได้ยากมาก
การทำลายชุมชนสามย่าน คือการยัดเยียดความแพงให้นักศึกษา
สมัยก่อนมีชุมชนสามย่านด้วยหรอครับ
@@thanabodeefk.1130หมายถึงตลาดเก่าที่ถูกแปลงเป็นห้างราคาแพงครับ เรียกชุมชนก็ไม่ผิดนะ
@@thanabodeefk.1130 ไปอยู่ไหนมาคะ เมื่อก่อนแถวนั้นมันก็มีชุมชน ย่านร้านค้าบ้านคนทั่วไปนี่แหละค่ะ แต่โดนไล่ที่เอาไปทำสนามรถ ทำห้างเกือบหมดแล้วค่า
@@vialiomw276 อยู่ที่อื่นครับ เพิ่งย้ายมาเรียน ขอบคุณมากนะครับ🤩
@@thanabodeefk.1130ตะก่อนตึก3ย่านmidtownคือตลาดสามย่านมีอาหารราคาถูกอร่อยๆเยอะและราคาไม่แพงถูกเลยโดยเฉพาะสเต็กพื้นที่รอบๆก็เป็นตลาดขายอาหารร้านเกมpsราคาถูกให้คนในพื้นที่
เป็นเด็กจุฬา ฯ แต้บ้านจนครับ (แต่ก็ได้รับความช่วยเหลือจากสังคมจุฬาฯ มากพอสมควร)
เคยมีแฟนเก่าเป็นเด็ก ฬ ก็ แอบ surprise ที่แบบ บ้านเราเกิดมา ทำงานบ้านเองหมด แต่บ้านเขามีแม่บ้านมาตั้งแต่เกิด พี่สาวเขามีกัน 3 คน ก็ จบมา ไปต่ออังกฤษ กันหมด ถึงแม้จะมีอะไรหลายอย่างที่ต่างเรามาก แต่เขาไม่เคยเหยียดเราเลย แถมยังชมว่าเราเก่งที่ทำอะไรด้วยตัวเองหมด อยู่ที่คนแหละ
พูดแบบตรงไปตรงมาเลย สังคมชนชั้นวรรณะสังคมนึ่งเลย
555 ธรรมดาครับ สังคมไทยชอบใช้กันจังเลยไอ้คำว่า mindsetเนี้ย ได้ยินจนรู้สึกว่าคำนี้มันตลก ไม่ว่าใครก็ตามที่พูดความจริง ในมุมมองและความรู้สึกทางสังคมที่ต่างออกไป จะมีคนวิพากย์mindsetของคนผู้นั้นเสมอ ทั้งๆที่ในความเป็นจริง แต่ละคนมันผ่านอะไรมา มันเจออะไรมา ไม่เหมือนกันหรอก แม้จะอยู่ในรั้วมหาลัยเดียวกัน. หรือแม้จะอยู่ในบ้านหลังเดียวกันก็ตาม
มันไม่มีหรอกคนจน 1 คนท่ามกลางคนรวยหรือแม้แต่ชนชั้นกลาง ที่เขาจะไม่รู้สึกมีปมด้อยอะ ลองคิดดูเพื่อนนั่งข้างๆกันถามว่ากลางวันนี้กินอะไรดี เย็นนี้ไปเที่ยวไหน น้องใช้ทุนที่หลักๆทานแต่ในโรงอาหารเขาจะรู้สึกโดดเดี่ยวแค่ไหนอะ เขาก็ต้องเข้าสังคมถูกปะ ชีวิต 4-5 ปีมันจะให้มีแต่ความรู้ก็ไม่ถูกอะ คนที่เข้ามาด่าน้องดัดจริตอยากได้อยากมี ก็อยากให้คิดบ้าง น้องอยากมีเหมือนเพื่อนมันก็ไม่แปลกเลย ถ้าเราคบเพื่อนเราก็อยากไปไหนด้วยกันปะ อยากคุยเรื่องเดียวกันรู้เรื่อง บางคนคอมเมนต์น้องจิกกัดแต่ตัวเองก็ยังอยากได้อยากมีเหมือนคนอื่นๆก็เยอะ
เคยมีเพื่อนเป็นคนตจว. แต่ได้ทุนหรือได้โควต้าอะไรสักอย่างมาเรียนจุฬา .. เพื่อนเล่าว่าเด็กทุน หรือเด็กบ้านจนค่อนข้างอยู่ยากในสังคมที่นั่น จะขอทุน ขออะไรกลายเป็นเรื่องแปลก ประหลาด แตกต่างเพราะนศ. ส่วนใหญ่ที่นั่นเขาไม่ขอ ไม่ทำกัน .. นั่นสังคมในสมัยนั้น สมัยสักยี่สิบกว่าปีมาแล้ว จากประเด็นนี้จนถึงปจบ. สังคมภายในที่นั่นก็น่าจะไม่เปลี่ยนไปเท่าไหร่ ที่เปลี่ยนแบบเห็น ๆ ก็คงเป็นที่แอดสรุปในตอนท้าย คหสต. ก็ว่าจุฬาคิดหาทำแต่เงิน ๆๆ เหมือนบมจ. ในตลาดหลักทรัพย์ มากกว่าสถาบันการศึกษาเก่าแก่อันทรงเกียรติ🙄
ใจนึงก็เข้าใจคนจน แต่อีกใจก็ต้องเข้าใจคนกลาง คนรวยบ้าง จะเอาใจแต่คนจนไปตลอดก็คงไม่เกิดการพัฒนา เรื่องสร้างห้างสร้างคอนโด ก็ให้เขาสร้างไปเถอะ ถ้าส่วนนึงให้บุคคลากร ให้นักศึกษามีส่วนร่วม มันก็เป็นการเปิดการพัฒนา จะ Romance อะไรกับวัตถุมากมาย ถึงจุดนึงมันก็ต้องจากไป แต่เรื่องทำลายหอยูโดยที่ไม่มีสิ่งทดแทนใกล้เคียงให้ อันนี้ก็น่าเห็นใจ เพราะธรรมดาก็ตัวเลือกไม่น่าจะเยอะมากกันอยู่แล้ว
เคยต้องทำงานที่ต้องเจอนักศึกษาหลากหลายสถาบัน บอกเลยทุกครั้งที่เจอเด็ก ฬ คือแต่ละคนดูไฮโซมาก ผิวพรรณวรรณะดี ดูมีรสนิยม เดินเหมือนลอยมา
พวกดัดจริตไงครับ โดนแดดไม่ได้😂😂ส่วนมากสวยเพราะมือหมอทั้งนั้น หน้าตา ผิวพรรณ ตอนแรกๆไม่ได้แบบนั้นหรอก เลยต้องไปหาหมออัพเกรดหน้าตา ผิวพรรณ พอเริ่มดูดีนิสัยก็จะเปลี่ยน จะเริ่มหยิ่งๆหน่อย เดินเชิดๆ เพราะคิดว่าตัวเองมีราคา😂😂
@@user-tn2cq9wz4kนี่ก้มองโลกในแง่ร้ายเกินไปมั้ย
@@QWERTYQWERTY-iv7pi ไม่ได้มองโลกในแง่ร้าย แต่มันคือเรื่องจริงที่เจอมากับตัวเอง
เขามีเงินค่ะ เขามีสิทธิ์ที่จะเลือกสิ่งที่ดีให้ตัวเองค่ะถ้าการที่ผิวพรรณดีหรือการฉีดหน้าทำหน้าไม่ไปทำให้ใครเดือดร้อน และสร้างความมั่นใจค่ะ
@@user-tn2cq9wz4k มันมีคนขาวเพราะกรรมพันธุ์ด้วยนะ ใจเย็นๆ และถึงเขาจะทำสวย อันนี้มันก็เงินเขาแหละ ไม่ผิดอะไรนะ 5555
เด็กจุฬาในที่นี้รวมถึงภาคพิเศษต่างๆ ที่เข้าได้โดยไม่เน้นผลการเรียนในการสอบเข้าด้วยรึเปล่า พวกนี้ค่าเข้าค่าเทอมแพงกว่าภาคปรกติอยู่แล้ว ระบบภาคพิเศษมันมีมานานแล้ว มีเงินเยอะมีที่นั่งให้เรียนแน่นอน
อันนี้จริง ถ้าคุณเรียนมหาลัย ตจว การมีรถญี่ปุ่นไปเรียน นาฬิกา apple watch หรือใช้ iphone ก็จะว้าว แซวกัน รวยหวะๆ แต่ในความเป็นจริงสังคมจุฬาคือ iphone เรื่องปกติมาก ใช้เก่าใหม่ไม่มีใครสนใจ เพราะมันแค่มือถือเครื่องนึงจะซื้อเมื่อไหร่ก็ได้ นาฬิกา เด็กจุฬาชั้นอีลิท ใส่ PP ,AP , ROLEX รถใช้รถ BENZ , BMW , AUDI , หรืออาจจะ PORSCHE กันเกลื่อนกลาด ใช้ชีวิตกินข้าวพารากอน กิน fine dine กันเป็นเรื่องธรรมดา ปิดเทอมไปซัมเมอร์ ตปท หรือไปเที่ยวเล่นยุโรปกันเป็นว่าเล่น ฮ่องกง สิงค์โปร์นี่เหมือนไปพัทยา อยากไปคือไปได้ทันที ตกค่ำเที่ยวทองหล่อ เอกมัย กันได้แบบถี่ๆ สังคมชนชั้นคนรวย คน elite ในจุฬา ต่างกับ ม.ตามต่างจังหวัดแบบฟ้ากับเหวจริงๆครับ ต้นทุนในชีวิตทางบ้านต่างกันมาก จบออกมาก็ไปเรียนคอร์ส ต่อยอดธุรกิจทางบ้าน เชื่อม connection กันไปเป็นทอดๆ
จิงแท้ สมัยเรียน เพื่อนใช้เบน บีเอ็มมีให้เห็นส่วนนึง แต่ส่วนใหญ่หลายๆคนเค้าก็ติดดินกินข้าวโรงอาหารนะ เว้นแต่บางกลุ่บางคณะเกาะกลุ่มกันเองเที่ยวต่างประเทศเรื่อยๆใช้แบรนเนม แต่เป็นกลุ่มน้อยเพราะเพื่อนจะไม่คบเพราะlife styleต่างจากชาวบ้านเกินไปจะไม่ค่อยมีใครยุ่งโดยบางคนรวยมาก แต่ทำดูlow เพื่อนสมัยเรียน บางคนดูโคตรงก ขี้เหนียว ในกลุ่มนินทาว่าขับbenzแต่เวลาไปกินนี้เลือกกินถูกๆถ้าไปกินแพงก็ขอแชร์ จนบางทีคิดว่ารวยจิงป่าว จบเรียนตอนไปต่อโทอังก เค้าต้องทำเอกสารรับรองการเงินว่ามีพอที่เรียนจบโท หรือป่าว เพื่อนเอาเอกสารมาแล้วทำตกเพื่อนอีกคนไปหยิบขึ้นมาดูมีเงินร้อยกว่าล้านเป็นชื่อมันเองไม่ใช่พ่อแม่ ตกใจกันใหญ่ รู้แค่คราวๆว่าทำอสังหา แต่ไม่นึกว่ารวยขนาดนี้ เพื่อนบ้างคนตอนเรียนดูปรกติ แต่พอเรียนจบเพิง มารู้ว่าเป็นเจ้าของsyntec เด็กบัญชี ปัจจุบันเป็นceoของsyntecแล้วชื่อยี้ ส่วนทองหล่อเอกมัยนี้น่าจะเป็นแหล่งเที่ยวของเด็กจุฟาอยู่แล้วในอดีต ไม่เที่ยวrcaกับรัชดา ส่วนถ้าใครยังโสดถ้าไม่ต่อโทต่างประเทศก็มักต่อที่ศศินเผื่อหาแฟนเพราะเป็นแหล่งรวมลูกนักธุรกิจ คนใหญ่คนโต เพื่อนในรุ่นไปเรียนก็ได้แฟนเป็นลูกเจ้าของโรงบาลรามคำแหง
แต่ละกลุ่มคนก็ใช้ชีวิตในแบบที่เค้าเป็น และนี่แหละคือเส้นกั้นระหว่าง คนรวย คนจน คนชั้นกลาง มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเอง มันเป็นความปกติที่ไม่ปกติ แต่ถ้าสามกลุ่มมารวมกันเส้นกั้นมันก็จะชัดเจนขึ้น
ไม่ต้องถึงจุฬาหรอก สังคมมัธยมโดยเฉพาะในห้องเรียนโครงการ EP เป็นต้น นี่เห็นถึงความต่างชั้นแล้ว เด็กส่วนใหญ่ในห้องนี้ไม่ต้องถามถึงด้านภาษาเลย ต้องถามว่าพ่อแม่่ทำงานอะไรถึงจะมีเงินจ่ายค่าเทอมที่แพงระยับขนาดนั้นได้ ซึ่งเด็กส่วนใหญ่จะเรียนห้องนี้ได้พ่อแม่ก็จะต้องมีฐานะพอสมควร สังคมส่วนใหญ่ในห้องเป็นของคนรวย กลับกันถ้าพ่อแม่เป็นแค่ข้าราชการ ฐานะปานกลางที่พอจะมีเงินจ่ายค่าเทอมลูกอยู่บ้าง เด็กในนี้ก็จะเป็นคนละอย่างเลย คนรอบข้างใช้ของแพงๆ ในขณะที่ตัวเองต้องอดทนเก็บเงินเพราะรู้ว่าพ่อแม่ลำบาก เวลาจะทำอะไรกับเพื่อน เพื่อนจะพาไปไหนก็ลำบากใจเพราะค่าใช้จ่ายเยอะ สถานที่และะสังคมที่เจอเลยต่างกันมาก
ในมุมมองของผู้ปกรอง ผู้ปกครองที่เค้าจะมีเงินได้ มีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีได้ เค้าก็ผ่านการทำงานมาอย่างเหนื่อยยากในบางอาชีพ ค่าตอบแทนที่ได้รับมันก็คุ้มค่ากับที่เค้าลงแรงไป และพ่อแม่ก็มอบคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับลูกของเค้ามัน มันไม่ผิดหรอกครับ คุณมีน้อยกว่า "อาจ"เป็นเพราะหลายเหตุปัจจัย ผู้ปกครองของคุณพยายามมากพอหรือไม่ ที่จะทำพัฒนาให้ชีวิตดีขึ้น ผู้ปกครองของคุณสอนเรื่องการอย่าตกเป็นเหยื่อของวัตถุนิยมมากน้อยแค่ไหน ครอบครัวอื่นผมไม่ทราบได้ แต่ผม และภรรยา สอนให้ลูกรู้จักประมาณตน ไม่ฟุ่มเฟือย และใช่ครับ ผมเหนื่อยยากลำบาก กว่าจะมีฐานะที่ดีขึ้นมาได้ และมอบการศึกษาที่ดี พร้อมกับคุณภาพชีวิตที่ดีให้ลูกๆ ของผม มันเป็นเรื่องที่พ่อแม่เกือบทุกคน ที่อยากให้กับลูกของตนเองได้มากที่สุด เพื่อตัวเค้าเองในอนาคต อยากจะบอกว่า เมื่อเราโตขึ้น เราควรเลิกโทษนั่นนี่ ว่ามันทำให้เราอับจนหนทาง ไม่มีอนาคตที่ดีเหมือนคนอื่นเค้า พัฒนาตัวเองเถอะครับ ผู้ปกครองเราทำมาได้เท่าไหนเค้าก็ทำสุดกำลังของเค้าเเล้ว ต่อไปคือหน้าที่ของเด็กๆ เอง ที่จะไปต่อให้ไกลกว่าที่เป็นอยู่ "เลิกโทษสังคมรอบข้างครับ แก้ที่ตัวเราเอง"
จริงครับ มันมีคนที่รวยแบบรวยจริง แต่ก็ไม่ได้แบบว่าคนชนชั้นกลางค่อนล่างอยู่ไม่ได้มันก็คือสังคมที่เราต้องเข้าใจว่ามันไม่เท่ากันเหมือนสังคมออฟฟิสถ้าคนที่มองว่าเขาอยู่แล้วมี ปห. เราก็ควรช่วยให้เขาอยู่ได้ดีกว่าไปตำหนิเขา
เราเข้าใจเอาเองมาตลอด ว่าผลการเรียนไม่เกี่ยวกับความรวยความจน น่าจะขึ้นอยู่กับว่าตัวนักศึกษาเขาเอ็นจอยการเรียนมากกว่า และเด็กที่ได้รับทุนการศึกษาก็เพราะเรียนดี ไม่คิดว่าพวกเขาจะต้องถูกพิสูจน์ความจนอย่างเข้มข้น ส่วนเรื่องสภาพแวดล้อมที่แพงขึ้น เห็นด้วยว่าจุฬาควรจะโฟกัสความเป็นอยู่ของนักศึกษาในภาพรวมเป็นหลัก มิใช่ผลประโยชน์ทางธุรกิจ
จนก็กินแบบจน จนก็เรียนแบบจนงี้ป่ะ เหมือนแบรนด์หรูๆที่ถ้าคุณมองว่าแพงก็แสดงว่าคุณไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายเรา อันนี้น่าคิดนะ เข้าใจน้องเขานะถ้าอยู่กลุ่มเดียวฐานะเดียวกันน้องคงไม่ต้องพยายามอะไร แต่สังคมยังตัดสินการทำงานว่าคุณเรียนมหาวิทยาลัยไหนอยู่ คนเราอยากทำให้ชีวิตตัวเองดีขึ้นอยู่แล้ว แล้วก็ต้องเอาตัวเอาไปอยู่ชนชั้นที่มันต่างกัน น้องไม่ได้อยากดูรวยดูแพงหรอก น้องแต่อยากปกติในคนหมู่นั้น ซึ่งความปกติของเขาราคาค่อนข้างสูง
มันอยู่ที่เลือกคบเพื่อน สังคมมหาลัยก็ร้อยพ่อพันแม่ เลือกคนที่เขาคบกันที่ตัวตน ไม่ต้องไปสนใจพ่อแม่เขา ไม่ต้องไปสนใจฐานะที่บ้านเขา ถ้าเราเจอคนแบบเดียวกัน ศีลเสมอกันก็จะเป็นเพื่อนกันได้เองอย่าไปตั้งเงื่อนไขให้ตัวเอง ยิ่งเงื่อนไขกับตัวเองมาก ความสุขก็จะน้อย รู้สึกขาด รู้สึกด้อย รู้สึกมีปมตลอดเวลา
เกือบยี่สิบปีที่เเล้วเรียนจุฬาป.โท เพื่อนเกือบทั้งกลุ่มเด็กกรุงเทพ ค่อนข้างมีฐานะ มาจากครอบครัวที่มีพื้นฐานดี พ่อเเม่เป็นหมอ อาจารย์ จำได้ว่าเคยบอกกับตัวเองว่าว่าเพื่อนกลุ่มนี้คืนเพื่อนที่ดีที่สุดที่เคยมีมา เพราะทุกคนสุภาพ นิสัยดี น่ารักกันทุกคน บางคนเก่งมากเเต่ไม่เคยอวดค่ะ
น้องพูดทิ้งท้ายแบบขนหัวลุกเลย จริงหมด ทุกอย่างวันนี้กลายเป็นเงิยหมุนรอบตัวหมด
ชีวิตเรียนแถมสยามมา 7 ปี กล้าพูดว่าไลฟ์สไตล์เราเปลี่ยนไปมากจริง ๆ แต่ก่อน จะซื้อน้ำราคา 60 บาทรู้สึกว่าแพงมาก แต่ตอนนี้ราคา 60 บาทคือถูกแล้ว ไม่เคยรู้สึกแย่กับฐานะบ้านตัวเอง จนได้เห็นคนรอบตัวสามารถไปเที่ยวตปทได้บ่อยๆ กินอาหารจารละหลายร้อย มีบ้านใจกลางเมือง ซื้อเสื้อผ้ารองเท้าหลักพันได้แบบไม่ต้องคิดอะไร มันเปิดปสกความเหลื่อมล้ำจริงๆนะ เราเข้าใจแทนไทมากๆ
มีเพื่อนที่อยู่ในทุกๆฐานะ แบบที่รายได้น้อยกว่าเราไปจนถึงรวยกว่าเรา ทุกคนเป็นเพื่อนที่ดีมากๆนะ แต่มันชัดมากเลยว่าไลฟ์สไตล์มันโคตรจะต่างกันมากกกกกกกกก แล้วอะไรพวกนี้ก็จะค่อยๆคัดสังคมรอบตัวเรา
เห้อให้พูดเรื่องนี้ก็พูดไม่หมด การ fit in ดข้ากับสังคมได้ (ที่เกิดจากการตีความเอาเอง ความอยากมีอยากเป็นเหมือนคนอื่น) มันราคาแพงมากกก เสื้อผ้าหน้าผมรองเท้ากระเป๋าโทรศัพท์อุปกรณ์ทุกอย่าง ละทุกคนมีเหมือนเป็นยูนิฟอร์มอะ
อยากให้มหาลัยมันมีความแคมปัสกว่านี้ ทุกวันนี้คืออยู่กลางเมือง ไปไหนก็มีแต่ห้าง ค่าครองชีพสูงลิ่ว โดยเฉพาะคณะที่ถูกแยกออกมาอย่างเรา ไม่เคยได้ใช้ฟาซิลิตี้ของมอเลย ทุกวันนี้ไปเรียนคือเดินผ่านห้างเข้าคณะ เรียนเสร็จเดินผ่านห้างกลับ ไม่มีความเป็นแคมปัสเลย คือมันก็สะดวกดีที่อยู่ในเมือง แต่บางทีเราก็อยากให้สิ่งแวดล้อมรอบคณะเรามัน pocket friendly และน่าอยู่มากกว่านี้
อย่าถามถึงความเท่าเทียมเลยบนโลกนี้มันไม่มีอยู่จริงหรอก
แค่อย่าไปรบกวนหรือทำให้คนอื่นเดือดร้อนก็พอ
ในครอบครัวยังไม่เท่ากันเเลย
ถูก ความเท่าเทียมเป็นแค่คำปลอบใจ
@@cordybertron9379แต่การเรียกร้องอะไรพวกนี้ของบางคน หรือบางกลุ่มมันทำให้คนอื่นเดือดร้อนครับ
จริงครับโลกความเป็นจริงมันไม่ได้สวยหรูพูดเเล้วเศร้าเเต่ก็ต้องยอมรับความจริงงง
ประเด็นเรื่อง macbook อันนี้ไม่รู้ครับแต่สำหรับ iPad ถ้าคนทั้งคณะใช้ iPad ทำงานคุณจะใช้กระดาษจดส่งอ่ะครับมันก็ไม่ได้หรือได้ขนาดที่เขาส่งงานกันด้วย iPad คุณคิดถึง สีหน้าของอาจารย์และเพื่อนๆ ที่ต้องเห็นความแตกต่างของคุณความล่าช้าในการทำงานของคุณ แต่ในสังคมของมหาวิทยาลัย เรื่องของชนชั้นมันมีอยู่จริง
ไอแพดหรือไม่ก็โน้ตบุคจำเป็นมากจริงๆค่ะ ขนาดเราเป็นคนประหยัดยังต้องลงทุนซื้อของพวกนี้เพราะต้องใช้ทำงานส่งเเทบทุกวิชาเลย
จริงๆใช่Tabletก็ได้นะไม่ได้แพงมาก
@@hyperboyz9 แต่คุณภาพนะสิคะ จะใช้ได้สักกี่ปี ขนาดของน้องเราซัมซุงTab S6lite ราคา12000 ผ่านไป1ปีกระตุกและช้า 2ปีผ่านไปอาการเริ่มหนัก แล้วเด็กนักเรียนเขาใช้แทบจะทั้งวันทั้งคืน ซื้อไอแพดเจน9ราคา10000+ปากกายี่ห้ออื่นๆราคา400-800คุ้มกว่ามากค่ะ เพราะแรงกว่ามาก ใช้ได้ยาวๆจนจบสบาย
ipad ไม่ได้แพงขนาดนั้นครับ แถมนักศึกษายังมีส่วนลด แล้วเพื่อนผมไม่ใช้ ipad เลยมันก็อยู่ได้ครับ มันดูสไลด์ในจอโทรศัพเก่าๆเล็กๆ ถ้ามีการบ้านก็เขียนโน้ตใส่กระดาษแล้วถ่ายส่งครู เป็นเด็กตจวง่ายๆ เขาไม่คิดเยอะคิดเล็กคิดน้อยเลย แถมเป็นคนประหยัด
โดยความเห็นส่วนตัวนะ บอกก่อนไม่ได้จบจุฬา เรียนแค่เอกชน จะมองภาพรวมๆทั่วโลกจริงๆแล้วกลุ่มที่เรียนมหาลัยถือว่าเป็น hightknowledge สังเกตุได้ว่าคนที่จบระดับนี้ขึ้นไปจะไม่ค่อยเหยียดกันทั้งฐานะและเพศ แต่มักจะตามกันตามประสาวัยรุ่นกลืนสังคม ซึ่งไม่ได้แปลกอะไร กว่าจะเป็นตัวของตัวเองก็ต้องใช้เวลาหาตัวเองให้เจอกันก่อน
ต้องทำวิจัยต่อ เกี่ยวกับการเข้ามาเรียนที่ จุฬ นั้นมีความต้องการอะไร อยากได้อะไรจากที่นี่ เพราะคนจนกับคนรวยมีจุดหมายที่ต่างกันนะกับการเลือกเรียนซักที่หนึ่ง และในเหตุการณ์ปกติ คนรวยเหล่านั้นจะไม่คิดต่อต้านหรือมีปัญหากับคนชนชั้นกลางหรือล่างแน่นอน เพราะคนจนไม่ใช่ปัญหาของพวกเค้าในสถานที่แห่งนี้ แถมคนจนๆเนี่ยแหละคือสิ่งที่จะทำให้คนรวยได้แสดงออกถึงคุณค่าของตัวเองได้มากขึ้น ด้วยการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่หรือแค่การเป็นเพื่อนด้วย แต่ถ้าทั้งหมดนี้ถูกวิเคราะห์จากที่ทำงานในแต่ละะแห่งบ้างละผมกล้าพูดเลยว่าชัดกว่านี้แน่นอน เราออาจจะได้เห็นในอีกมุมที่ดำมืดดดดดดดดดดดดดด ก็อาจจะเนอะ
นักเรียนหญิงเข้าปี 1 ต้องใส่ชุดนิสิต กระโปรงพลีท รองเท้าขาว แล้วรู้มั้ยว่ากระโปรงพลีทจุฬาบอกความรวยได้ตอนนั้น ไปซื้อชุดนิสิตที่สยามสแควร์ (ซึ่งตึกนั้นโดนทุบไปแล้ว) พึ่งรู้ว่าเสื้อนิสิตต่างกับเสื้อนักศึกษา กระโปรงพลีทหลักร้อยต้นๆ เป็นเอวยางยืด แต่มันจะมีร้านนึงได้ยินว่าอยู่แถวสามย่าน (เพราะไม่เคยไป 555) เป็นกระโปรงพลีทขอบเรียบ รอยพับจีบอย่างไฮโซ ความทิ้งตัวของกระโปรงช่างสวยงาม เพื่อนบอกน่าจะ 700 มีเข็มขัดขายด้วย สีของเข็มขัดหนังกลับนั้นมีความนู้ดสวยกว่าเข็มขัดที่ขายในจุฬาซะอีก อยากได้นะ แต่ไม่เห็นความจำเป็น 5555ปีหนึ่งอย่างลืมซื้อติ้งด้วยนะ (เข็มกระดุม? รูปสัญลักษณ์ตามคณะ ไม่มีประโยชน์อะไร แค่สวย อวดว่าอยู่คณะอะไร และทำให้การแต่งตัวไปเรียนใช้เวลาเพิ่มอีก 10 นาที=สาย เพราะอย่าลืมบวกเวลารถติดไปด้วย) กับรองเท้าขาวอันนั้นที่ขาวไม่เกิดอาทิตย์
พอจำได้ตอนลูกสาวสอบเอ็น น่าจะ 10 กว่าปีมาแล้ว ได้ถามลูกว่าทำไมไม่ได้เลือกจุฬาอันดับ 1 นางบอกว่ามีแต่คนรวยๆไม่เอาละอยู่ลำบาก เพราะที่บ้านรับราชการเพราะอาจารย์ที่ รร ก็บอกว่าลูกสาวถ้าเลือกโอกาสติดแน่นอน ก็ไปเลือกที่อื่นพอเรียนนางได้ทุนไปเรียนต่างประเทศ จบมามีงานทำ เงินเดือนสูงเป็นบริษัทญี่ปุนเลยไม่รู้จริงไหม
เห็นด้วยกับน้องค่ะ ไม่จำเป็นต้อง จุฬา น้องเราอยู่มอ.อื่นต้องมาขอไอแพค เพื่อเอาไปเรียน ทั้งๆที่มีโน๊ตบุ๊คอยู่แล้ว บอกเอาไปส่งงาน เราว่าอาจารย์มีส่วน คุณเลือกสะดวกคุณ แต่นศ.ต้องมาขอผู้ปกครองเพื่อส่งงาน มหาลัยก็ไม่ได้ซัตพอร์ตอะไรเลย
เราว่าเค้าไม่ได้บังคับว่าต้องใช้ไอแพดทำ แต่การใช้ไอแพดจะทำให้น้องคุณทำงานง่ายขึ้น ก็แค่นั้น ถ้าเราไม่มี เราก็จะลำบากกว่าคนอื่นิดหน่อย แต่ไม่ใช่ทำไม่ได้
@@penguinfreezing3860 มันเหมือนเป็นการสร้างค่านิยมหรือป่าวคะ ฟังก์ชันบางตัวที่ window andriod ไม่มี แต่คนใช้ apple มี บางทีคนเป็นอาจารย์ ควรหาวิธีการที่สามารถทำได้ สะดวกทั้งสองแพลตฟอร์มหรือแพลตฟอร์มอื่นๆอีกไมคะ
เพื่อนตอนประถม แยกย้ายกันไป เพื่อนไปเรียนเตรียมอุดมต่อด้วยจุฬา ไปเจอกันอีกที คือเปลี่ยนไปเลย ใช้ชีวิตกันคนละแบบ ถ้าพูดง่ายๆ คือใช้ชีวิตแบบรวยขึ้นมา ทั้งการไปเที่ยวก็ต้องเที่ยวตปท. กระเป๋าก็แพง เราว่าสังคมเชฟคนออกมาคือมีผลสุดๆ
ลูกพี่ลูกน้องเราได้ทุนนาฏศิลป์ไปเรียนต่อจุฬานะ ยังบอกเลยว่าเป็นมหาลัยแบ่งชนชั้น พวกเด็กรวยจะเกาะกลุ่มกัน มีไอโฟนตัวท็อป กระเป๋าหลักแสน นาฬิกาหรู ส่วนพวกเด็กทุนบ้านกลางๆค่อนจนก็จะเป็นอีกกลุ่ม
มันแบ่งชั้น และคัดแยกด้วยวิธีการใช้ชีวิตอยู่แล้ว เข้ามาแรกๆ อาจคุยเจอกันปกติ แต่หลังๆ พอวิถีการใช้ชีวิตต่างก็พากันเหวี่ยงไปอยู่ในสังคมของตัวเองเอง คนศีลเสมอกันอยู่ด้วยกัน ไม่ใช่ว่าคนรวยจะไม่คบคนจน
ชอบที่สรุปเรื่องทุบตึกสร้างห้าง จริงสุดๆๆๆ เราจบจุฬาเหมือนกัน เมื่อก่อนหาของกินง่ายมาก ตอนนี้ไปเดินแถวนั้นยังสงสัยว่าเด็กๆจะกินอะไรกัน เรามีเงินเดือน ยังรู้สึกว่าแถวนั้นโคตรแพงเลย
เราเป็นเด็กบ้านนอก ไม่เคยรู้ว่าคนในกทม. ให้ความสำคัญกับการเรียนจฬ มากขนาดนี้ ขอแค่เรียน จฬ เป็นคณะอะไรก็ถือว่าเก่งหมด
จากประสบการณ์ เคยทำงานกับเด็กจุฬาฯ นะครับ ยอมรับนะครับว่าส่วนใหญ่(80%)รวยจริง เด็กจบใหม่บางคน มีรถหรู (ราคา 1 ล้าน++) มีไลฟ์สไตล์ รสนิยมที่สูงกว่าทั่วไปเช่น กาแฟ ต้องสตาร์บัค ข้าวกลางวันก็เห้นชวนกันไปทานบนห้าง ร้านอาหารที่มีชื่อ แต่ผมคิดว่ามันก็แค่ไลฟ์สไตล์ อีกด้านนึงพวกเขา Nice มาก และ ใช้ชีวิตในการทำงาน เหมือนพนักงานทั่วไปคนนึง ไม่ได้หยิ่งผยองในตัวเองอะไรเลย แต่ก็นั่นแหละ ผมไม่เคยชวนเด็กๆจุฬาฯ กินข้าวเลยเพราะ ไม่กล้าชวนไปกินก๋วยเตี๋ยว ข้าวราดแกง 5555555
ใครคิดถึงสเต็ก ชั้น 2 ตลาด 3 ย่านบ้างฮะ ถูก อร่อย โดนทุบทิ้งไปแล้ว
แต่ก่อนผมชอบไปกินที่้รานทูเดย์สเต๊กครับ (ร้านที่มีห้องแอร์) แต่ตอนนี้ไม่รู้ไปอยู่ที่ไหนแล้ว มีอีกร้านที่ย้ายลงมาด้านล่างก็โมกทิพย์
อร่อย เยอะ ถูก กินเสร็จเดินไปเล่นpsข้างๆตลาดต่อ
ดาวเทียมพริกไทดำ
อ้าว โดนทุบทิ้งไปแล้วหรือครับ ไม่ได้ไปนานไม่รู้เลย
ยังอยู่ไม่ใช่หรอครับ555555
เด็กจุฬาส่วนมากมีอันจะกิน เทสโดยรวมมันก็เลยสูงไปด้วยเรื่องนี้มันเป็นปกติของสังคมที่คนรวยมารวมตัวกัน แต่คนที่ไม่ได้บ้านรวยมันคือความรับผิดชอบของคุณ mindset ของคุณเองที่จะไม่ใช้จ่ายเกินตัว Ipad MacBook มันไม่ได้จำเป็นกับการเรียน มันช่วยให้เรียนสะดวกขึ้น แต่คุณไม่จำเป็นต้องใช้มัน ผมไม่เคยเรียนจุฬาแต่ก็เคยเรียนเตรียมอุดม เคยไปเรียนมหาวิทยาลัยต่างประเทศมา สังคมก็คือคนรวยเยอะ มือถือไอโฟน ใช้ไอแพด แมคบุ๊ค ปัจจุบันนี้ก็ทำงานในสังคมที่รอบตัวรายได้สูง ลูกค้าก็เป็นคนรวย คนในทีม 80% มีไอแพด แต่ผมก็เข้ากันกับทุกคนได้โดยไม่จำเป็นต้องมีไอแพด ไม่ต้องใช้คอมแพงๆ ไม่ต้องมีแมคบุ๊ค และเป็นแบบนี้มาตั้งแต่ตอน ม.ปลายที่เตรียมอุดมแล้ว ของแบบนี้มันอยู่ที่ mindset ตัวเองล้วนๆ มหาลัยมีควรจะสร้าง facility ให้ตอบโจทย์คนรายได้น้อยจริง แต่ถ้าเป็นเรื่องของที่ใช้ รสนิยม อุปกรณ์การเรียนต่างๆ มหาลัยเข้าไปยุ่งไม่ได้อยู่แล้ว มันเงินเค้า เค้าจะซื้ออะไรมาใช้คุณจะมาน้อยเนื้อต่ำใจแล้วโทษคนรวย โทษมหาลัยไม่ได้
มันเป็นค่านิยม อยู่ที่ตัวเราว่าเราพึงพอใจในการใช้ชีวิตของแต่ละคนในรั้วมหาลัยนั้นๆ ส่วนตัวไม่น่าจะเอามาเป็นประเด่น เพราะจริงๆแล้วมันเป็นกันในทุกๆสถานศึกษา ตั้งแต่โรงเรียนอนุบาล ถึง มหาวิทยาลัย ต่อให้เป็นโรงเรียนที่อยู่ในตามชนบทที่เป็นโรงเรียนไม่ได้มีชื่อเสียงอะไรเลย ก็ยังมีการแบ่งกลุ่มเด็กมีอันจะกิน กับเด็กบ้านจน เหมือนกัน มันเป็นที่ระบบการศึกษาก็ส่วนนึงที่ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำในสังคม รายได้ของครอบครัวก็ด้วย จึงทำให้เกิดสถาบันการศึกษาที่สร้างขึ้นมาเพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายในเชิงธุรกิจมากกว่าการให้โอกาสทางการศึกษากับเด็กจริงๆ ถ้าถามว่าผิดไหมที่ทางสถาบันการศึกษานั้นๆจะยกตัวเองให้อยู่ในอีกระดับที่สูงขึ้นทางสังคมก็เป็นสิทธิของสถานศึกษานั้นๆไม่ได้ผิดอะไร มันขึ้นอยู่กับจิตสำนึกของผู้เรียน ในการใช้ชีวิตมากกว่า เป็นกันแบบนี้กันทั้งโลก ถ้าจะแก้ปัญหาต้องแก้ที่ระบบทางด้านเศรษฐกิจจะดีกว่า การที่เลือกจะเรียนในมหาลัยหรือสถานศึกษาดังๆอาจต้องมาพร้อมกับค่าใช้จ่ายที่สูง ค่านิยมทางสังคมที่สูง กลุ่มคนที่อยู่ในอีกระดับนึง ขึ้นอยู่ที่มุมมองของเรามากกว่า..พอใจแค่ไหนกับจุดที่เรายืนอยู่ในสังคม ทั้งสถาบันการศึกษา,กลุ่มเพื่อน, อาชีพ และวิถีการใช้ชีวิตต่อไปในอนาคต...ส่วนตัวไม่ได้ให้น้ำหนักไปกับเรื่องพวกนี้มากนัก เพราะรู้ว่า.. เวลาเปิดกระเป๋าตังค์เรามีเงินเหลือแค่ไหนกับการใช้จ่าย อะไรที่ซื้อได้ และ ซื้อไม่ได้ในตอนนี้..อยู่กับโลกความเป็นจริงถูกต้องที่สุด..ไม่เหนื่อย
สอบเข้าจุฬา ไม่ได้ยากถ้าเด็กคนนั้นมีความสามารถ แต่การใช้ชีวิตเรียนจุฬานี่แหละยาก สำหรับคนที่มาจากครอบครัวพอมีพอกิน 😅😅😅😅 ดังนั้นปมคิดว่า นอกจากเด็กต้องเก่ง ครอบครัวก็ต้องพอมีฐานะมีทุนทรัพย์สนับสนุนการใช้ชีวิตด้วย
ถ้าหาเพื่อนระดับเดียวกันไม่ได้จริงๆ ก็แค่อยู่คนเดียวครับ แล้วก็อย่าดู IG เยอะ มาคณะ ตั้งใจเรียน กลับหอ อ่านหนังสือ โฟกัสเป้าหมายชีวิตแค่นี้เอง
ระบบการศึกษาไทย แบ่งชนชั้นจริงๆ ที่สวิส จน รวยเรียนที่เดียวกันค่ะ
ข้อเท็จจริงนึงที่ไม่อาจปฎิเสธได้คือ สังคมรอบๆจุฬามันทั้งผลักและบีบให้เด็กโซนนั้น ต้องปรับตัว ทั้งค่าใช้จ่ายกินอยู่ก็เอื้อกับคนที่พอจะมีหรือมีเหลือๆ และไม่ผิดที่เด็กส่วนใหญ่อยากจะไปอยู่ในสังคมนั้นๆ ถ้าบ้านคุณทำนา คุณเห็นข้างบ้านมีเครื่องเกี่ยวข้าว ก็ไม่ผิดที่คุณอยากจะมีบ้างเพราะมันทำให้ชีวิตคุณง่ายขึ้น
รู้จักพอเเล้วจะมีความสุข ถ้ามีเพื่อนที่มองคนที่ภายนอกนั่นไม่ใช่เพื่อนนั่นมันเเค่พวก หาสังคมของตัวเองให้เจอ อาจารย์ควรอบรมณ์เเสดงตนเองเป็นเเบบอย่างเเก่นักศึกษาสอนให้รู้จักคุณค่าของความเป็นคนที่เเท้จริง 🇹🇭💪🏻🎉
โทษmindset ทำไม โทษความอยากได้อยากมีทำไม ก็เพราะความอยากได้อยากมีไม่ใช่เหรอถึงพยายามสอบเข้าจุฬา สุดท้ายคนเราก็เอาบันทัดฐานตัวเองไปตัดสินคนอื่น
พอเข้าใจความรู้สึกคนจนที่อยู่ท่ามกลางคนรวย แต่มันก็ขึ้นอยู่ว่าเราจะตอบสนองยังไง และคิดว่าส่วนใหญ่คงไม่รู้สึกไปทางบวก ส่วนเรื่องค่าครองชีพก็ขึ้นอยู่กับสังคม และมหาลัยจัดการ
ญาติเราก็จบ จุฬา แต่ครอบครัวไม่ได้มีฐานะนะ ทั้งครอบครัวพ่อแม่รวมถึงน้องชายแกเห็นต้องรวบรวมเงินเดือน 3 คนในครอบครัวมาจ่ายค่าเทอมให้แกคนเดียว ทั้งที่แกก็ได้ทุน และแกก็ทำงานด้วยแต่แกเรียนเก่งมากๆ ตอนแรกแกเรียนหมอเรียนไปสักพักแกก็เปลี่ยนสายไปเรียน บริหาร เรื่องการใช้ชีวิตหรูหรามันอยู่ที่คนและการเลี้ยงดู การเรียนม.ชื่อดังมันก็ต้องยอมรับว่ามันได้สิทธิ์พิเศษหลายอย่างโดยอัตโนมัติหลายด้านเอาจริงๆถ้าเงินถึงลูกพร้อมเชื่อว่าหลายๆคนก็อยากให้ลูกเรียน ม.ชื่อดัง
เด็ก ม.ราม บ้านจน เป็นเด็กวัด ยาม เด็กเข็นผัก เด็กเสริฟ แต่ก็สามารถเป็นผู้ว่า อธิบดี ปลัดกระทรวง ได้เยอะกว่าเด็กจุฬาตัวอย่างล่าสุด PR ราม ประกาศข่าว ศิษย์เก่า ม.ราม มีจำนวนผู้ว่ามากที่สุด 34 ราย และมีจำนวน นายอำเภอ 552 ราย จำนวนมากที่สุด มากกว่า จุฬา ธรรมศาสตร์
ส่วนตัว เราไม่ได้สนใจเลย ว่าใครจะรวยจะจน แต่ว่า เราเป็น เด็ก ตจว คนหนึ่งที่มาเรียนที่ มหาลัยดังในกรุงเทพ แล้วรู้สึกได้ว่าคนกรุงเทพ คน mindset ดีจริงๆ สั่งสอนกันมาดีมากๆ พวกเขาได้รับการอบรมจากโรงเรียน ในย่านกรุงเทพเราเห็นความต่าง ระหว่างเรากับเขาชัดเจนเลย.ก็ได้แต่คิดว่า ระบบการศึกษาไทยเรามันจะดีขึ้น กว่าที่เป็นอยู่
สมัยนั้นเราไปเรียนม.เอกชนที่ลูกคนรวยเยอะประมาณนึงก็รู้สึกเหมือนกันค่ะ มาจากจังหวัดเล็กๆที่โรงเรียนไม่สามารถสอนยากได้เพราะเด็กจะผ่านแค่กำมือเดียว แต่เด็กจังหวัดใหญ่ๆ/เด็กกทม.คือร่ำเรียนกันมาต่างระดับจริงๆ ค่ะ แถมไม่ใช่แค่ในตำรา แต่วิธีการใช้ชีวิตก็ด้วย😅
นี่เอาง่ายๆเลย จากึคนรู้จัก หลานเราเลย บ้านรวยมั้ย พ่อแม่มีเงินเก็บ ตีเป็น รวยครับ แต่เรียนเก่งมาก จบสวนกุหลาบมา เพิ่งเข้าจุฬา ปีแรก ลูกเจ้านายเก่า จบหมอจุฬา คือรวยจริง ปิดเทอมไปซัมเมอร์ ตปท. ทุกปี เที่ยวยุโรปทุกปี ก็รวย
เรื่องฐานะ คนรวย คนจน ไม่ผิดนะครับ บางคนก็ไม่ได้เหยียด หรือคิดเรื่องฐานะเลยแต่สังคมรอบตัวมีผลมากนะครับถามว่ามีผลยังไง ดูตำรวจ ทหารครับตอนเข้าไปเคยมีอุดมการณ์อยู่ไปนานๆ ก็โดนระบบกลืนครับไม่ใช่เลวไปทุกคน แต่คนที่ไม่ทำตามระบบไปก็จะถูกแช่แข็ง และมีความคิดที่จะไม่ต่อต้านระบบเอาแค่อยู่รอดได้ในกรณีเดียวกันกับ จฬ เด็กอายุ 18-19 เห็นสังคมแบบนี้ทุกวัน จากทุกที่รอบๆตัวต่อให้เพื่อนดีแค่ไหน แต่เพื่อนมีเงิน สมมุติเลี้ยงข้าวเราทุกวัน เลี้ยงเหล้าทุกครั้งที่ไปเที่ยว จะไม่คิดอะไรไม้รู้สึกอะไร เป็นไปไม่ได้ครับ มันต้องรู้สึกบ้างแหละว่า เราด้อยว่ะ อึดอัด เกรงใจ เพื่อนก็ไม่ได้ผิดอะไร เราต่างหากที่อยากจะ ใกล้เคียง เพื่อนไม่มีทางทัดเทียมได้หรอกครัแค่อยากจะใกล้เคียง รู้สึกว่าอยาก เป็นเพื่อนกัน โดยที่รู้สึก สนิทใจกันจริงๆด้วยความเคารพในความคิดเห็นในคลิปนี้ ขอบคุณครับ
ประเด็นอยู่ที่ คนมีฐานะดี เขาก็มีการส่งเสริมให้ให้ลูกมีความพร้อมในการเข้ามหาวิทยาลัยชั้นดี แต่เมื่อเด็กเหล่านี้ เมื่อจบมาแล้วมีมุมมองต่อสังคมอยากไร ถ้ามองว่าต้นทุนทั้งหมดในการเรียนจนจบเขาไม่ได้พึ่งพาอะไรจากสังคม เขาก็ไม่ต้องตอบแทนอะไรสังคม
บ้านรวยไม่เท่าไร เเต่ถ้าหน้าตาดี จะได้สิทธิพิเศษมากกว่าคนอื่น ชีวิตจะง่ายขึ้นมาก ได้งานง่ายกว่า
หน้าตาไม่ดีหรอ
บ้านรวย+หน้าตาดี=💅💅💅
หลวงพี่หน้าตาดี+อุปนิสัยดี+ความรู้ดี = 🙂🙂
แค่มีใบปริญญาที่นี่ก็ได้งานแล้วค่าาาา เพราะคอนเนคชั่นตามองค์กรเก่าแก่ใหญ่ๆ ม.นี้ทั้งนั้นค่ะ
หน้าตาดีอยู่จุฟา ไม่ต้องรวย ถ้าผู้หญิงนี้ โดนล้อมด้วยคนรวยๆเลือกได้ว่าจะเอารวยหน้าตาดีหรือการศึกษาสูง
รวยอีก 1 เสียงครับ มีเพื่อนโรงเรียนเดียวกันสมัยเรียนนางก็รวยมาก จบมหาลัยมา นางก็ไม่ทำงานเป็นสิบปี พอ 30 กว่านางก็กลับมารับตำแหน่งประธานบริษัทแห่งหนึ่ง ผมนี่ได้แต่มองชีวิตนางแบบตาปริบๆ เหมือนเราเป็นสิ่งมีชีวิตคนละประเภทกัน
ส่วนตัวเป็นคนนอกที่มองเด็กจุฬาด้วยความชื่นชมค่ะ บ้านเราไม่ค่อยมี เราสอบติดจุฬา ไม่ได้เก่งขนาดได้ทุน คิดค่าใช้จ่ายคร่าวๆของตัวเอง ค่าเช่าห้องแถวจุฬาไม่ไหวแน่ๆ เดินทางก็หลายต่อมาก มีคิดเรื่องสังคมเหมือนกันว่าคงหรูหรา (ความคิดแบบเด็กๆ😂) เลยถอดใจและเรียนมหาลัยอันดับรองลงมา ที่ค่าหอถูกกว่านี่คือโลกทุนนิยม เป็นความจริงที่โตมาแล้วจะเสียใจกับมันจนเข้าใจโลกไปเองว่าชนชั้นมันมีอยู่ทุกที่แหละ ต้นทุนน้อยกว่าต้องขยันต้องแกร่งมากกว่า และคนรวยไม่จำเป็นต้องมาแคร์เรื่องนี้เลย เพราะครอบครัวเขาวางแผนชีวิตให้มาอย่างดี แต่เราเชื่อว่าการศึกษาทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นได้ค่ะ ถ้าไปเปรียบเทียบ มัวแต่ด้อยค่าตัวเอง คงไม่มีวันที่จะพอใจกับความสำเร็จซักที
น้องเขาพูดถูก จุฬาไล่ที่สร้างแต่อาคารที่มีราคาแพงทันสมัยต้นทุนต่าง ๆ ก็สูงขึ้น บรรดาผู้บริหารก็เรียนจบสูง ๆ มันสมองชั้นนำของประเทศ แต่ละเลยสังคมในมุมของการเผื่อแผ่ผมเกิดแถวนั้นตั้งแต่สนามกีฬาจุฬา (จารุเสถียร)ยังไม่สร้าง โดนไล่ที่ เพื่อทำที่จอดรถ😂
เขาเคยเอาเด็กจุฬามานั่งเถียงกัน ซึ่งอีกคนเป็นสายสามัญ อีกคนเป็นอาชีวะ สายสามัญจะออกไปแนวทางเหยียดหยาม บูลลี่ ส่วนอาชีวะจะออกไปในทางพูดถึงข้อดีและข้อเสีย แต่สามัญก็คือเหมือนเขาไม่เปิดกว้างและนำข้อมูลเก่ามา บอกว่าเด็กจบ ปวส.ได้เงินสูงสุด 8000 บาท ทั้งที่ความจริงเดียวนี้เขาได้ เกือบ 30000 บาทแล้วครับ
สถานที่ที่จุฬาควรทุบมากที่สุดคืออุเทนถวาย ว่าแต่ตอนนี้เรื่องไปถึงไหนแล้ว เห็นว่าอุเทนถวายสู้สุดใจเลย
เราจบบัญชีจุฬาค่ะ จบมา 4 ปีแล้ว เราฐานะปานกลางแบบข้าว 60 บาทตอนนั้นรู้สึกว่าแพงอะ แล้วอยู่ในดงลูกคุณหนูบ้านทำธุรกิจส่วนตัว ตอนแรกรู้สึกว่าตัวเองจนมากๆ เรากินกาแฟโรงอาหาร 30 บาท เพื่อนกินสตาบัค เราต่อรถ 3 ต่อกลับบ้าน เพื่อนมีคอนโดติดรถไฟฟ้าที่พ่อแม่ซื้อให้ แต่ว่าเรียนด้วยกันมาเรื่อยๆ จะเข้าใจเองว่าเพื่อนไม่เคยเหยียดเราเลย ไม่เคยมองว่าเราต่ำกว่า มีแต่เรารู้สึกไปเองว่าเค้าสูงส่งกว่า เค้าไม่ได้กินสตาบัคเพราะเหยียดกาแฟโรงอาหาร เค้าแค่ขี้เกียจต่อแถว หรือเวลานั่งทำงานก็ไปนั่งสตาบัคเพราะโรงอาหารมันไม่มีปลั๊ก เค้าไม่ได้คิดอะไรเยอะแบบที่เราคิดว่าเค้าเป็นเลย ส่วนอาจารย์ส่วนใหญ่ที่ดูเทสดี ศัพท์สูง เพราะอาจารย์จุฬาส่วนใหญ่จบนอกค่ะ ตัวชีทที่ใช้เรียนก็ภาษาอังกฤษ text book ก็อังกฤษ บางคำใช้ทับศัพท์ไปเลยมันเก็ตกว่า ไม่ใช่เรื่องของอาจารย์เหยียดเด็กเลยเหมือนกัน
แต่ค่าครองชีพของการอยู่จุฬาแพงจริงๆ ถ้าไม่ใช่หอใน(ที่ระบบห่วยมากและตึกเน่ามากๆ) หอนอกถูกสุดตอนนั้นก็เดือนละ 8500 แล้ว โรงอาหารคณะก็ชอบมีพนง.ออฟฟิศมาแย่งที่นั่ง เข้าใจแหละว่ามันถูกกว่าข้างนอก แต่บางทีจะรีบกินเพื่อไปทำอะไรต่อก็ต้องกัดฟันเดินเข้าร้านในจามสแควร์ที่เป็นห้างงี้ ร้านน้ำ/กาแฟในม.ก็โดนพวกเฟรนไชส์ซื้อหมดกลายเป็นแก้วละ 60+ แล้วยิ่งตอนนี้ทุบตึกแถวทิ้งทำคอนโดหมดแบบนี้ยิ่งอยู่ยากไปอีก จักรยานที่เคยมีให้ขี่ในม.ก็เปลี่ยนเป็นรถ ev นั่งคนเดียวเพราะอยากอวดม.อื่นที่มาดูงาน กรรมมาตกอยู่กับนิสิตเลือกเอาจะเดินหรือจ่าย 30 บาทเช่าไอ้รถนี่
เรื่องนี้โทษจุฬาแบบที่ตัวระบบกับทีมบริหารเลยค่ะ
เห็นด้วยในเมื่อสภาบันได้ผลประโยชน์มหาศาล ทำไมไม่เด็กเก่งๆ ทุกๆสถาบันเรียนฟรี และที่พักราคาถูก ค่าบริโภคราคาถูกสำหรับนักศึกษา
@@user-kz4ni6qi9m ยังงี้ลองไปจี้มหาลัยดูครับ ว่าผลประโยชน์มหาศาลที่ว่า เพียงพอหรือไม่กับการพัฒนาหลักสูตร จ้างเจ้าหน้าที่ อาจารย์ ดูแลนักศึกษา บำรุงอาคาร ทุนการศึกษา ทุนสนับสนุนโครงการ ทุนอื่นมากมาย แบบนี้จะเห็นผลมากกว่า ทราบมาว่าค่าเทอมก็ไม่ได้ต่างจาก มรัฐอื่นๆเท่าไร
ค่าที่เก็บจากผู้เช่าแพง ทำให้ อาหารบริเวณนั้นแพงไฟอีก
@@user-kz4ni6qi9mมันมีทุนให้ทุกมอเลยค่ะ ลองหาข้อมูลดู เด็กเก่งๆเค้าก็ไปสอบชิงทุนเอากัน
ไม่น่าเรียนอะแบบนี้ ไม่คุ้ม พอออกนอกระบบแล้วเป็นธุรกิจไปหมด ส่วนตัวจบมานานแล้ว เป็นเด็กต่างจังหวัดไปเรียน อยู่ในนั้นก็บ้านนอกมาก ต่างจังหวัดบังคับทรงนักเรียน ไม่ให้ทำผม แต่งตัว เราเป็นเด็กดีก็ปฏิบัติตาม แต่พอเข้าจุฬาฯ กลายเป็นดูด้อยกว่าคนอื่น ถ้าย้อนกลับไปได้ก็จะเลือกมหาวิทยาลัยท้องถิ่นหรือไม่ก็ธรรมศาสตร์
เท่าที่สัมผัสเด็กจุฬา รู้สึกว่าเทสสูงกว่าคนทั่ว ๆ ไป บางคนก็อาจจะไม่ได้มาก แต่ก็สูงกว่าปกติ แต่ทั้งนี้ก็ไม่เคยรู้สึกว่าพวกเขาเหยียดคนจนนะคะ คือรสนิยมสูงเป็นเรื่องของการบริโภค ไม่ใช่เรื่องของนิสัย คนรวยที่เหยียดคนจนแบบในละครคุณธรรม เรายังไม่เคยเจอในชีวิตจริงเลยค่ะ ถ้าเจอก็คงมองว่ามันเป็นบ้า
เรามองว่าเด็กจุฬาบ้านรวยไม่ได้ผิดอะไรเลย ก็พ่อแม่เขามีลูกเมื่อพร้อม ต้องอยู่ที่สังคมรอบตัวแล้วว่าจะจัดการกับความเหลื่อมล้ำตรงนี้ยังไง
บางคนก็คิดไปเองว่า คนที่positionสูงกว่า จะดูถูกตัวเอง เช่น เขาสวยกว่า ขับรถแพงกว่า พอเกิดปฏิสัมพันธ์อะไรกันสักอย่างแล้วเอามาคิดว่าเขาเหยียด อันนี้ประสาท
แสดงว่ายังไม่เจอคนเหยียด จุฬาเขาไม่คบคนนอกสถาบัน
ไม่เคยเจอ ไม่ได้หมายความว่าไม่มีค่ะ
@@MrClick-bi8oeเราจบที่อื่น แต่ก็คุยกันสนิทกันอยู่นะคะ กับน้องที่จบจุฬา (หรือเราอาจจะสนิทกับเขาฝ่ายเดียวก็ได้😂😂)
@@beer3859คงจะแบบนั้นค่ะ เราคงโชคดีที่ไม่เจออะไรแบบนั้น
มีเพื่อนเป็นเด็กจุฬาหลายคน คนจบจากจุฬาก็รวยมากหลายคนจริงๆนะ เกือบทั้งหมดไปเรียนต่อเมืองนอก กลับมาก็มีเงินจากพ่อแม่มาลงทุน ไม่ใช่ ล้านสองล้าน แต่เป็นหลักสิบล้านบาท จำได้เลยว่า ตอนเรียนจบ เราฉลองการเรียนจบด้วยการไปเที่ยวระยอง แต่เพื่อนจุฬา ฉลองด้วยการยกโขยงไปเที่ยว Iceland อึ้งๆนิดหน่อย แต่ก็เข้าใจในความแตกต่างทางสังคม
อ่าว แบบนี้ที่ตอนมัธยมที่บอกว่าต้องใส่ชุดนักเรียน ต้องทรงหัวเกรียน เพื่อจะได้ไม่เหลื่อมล้ำ มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรนะซิ หรือเผลอๆแล้วทั้งมวลก็เป็นแค่โลกสมมุติที่รั้วมัธยมพยายามปิดตาเด็กๆไว้😆😆😆
จริงค่ะ เป็นความจริงที่คนส่วนใหญ่มักจะรับไม่ได้ แล้วมาปลอบตัวเอง แถมprotectพวกคนรวยเหล่านั้นด้วย นี่แหละสังคมไปแปลกดี คนจนปกป้องคนรวยเอาใจช่วยคนรวย_
@@zerocrystal1ยากอะไรล่ะอย่างแต่งตัวแบบไหนก็เชิญถ้า รร ไม่ว่าอะไรแต่ถ้าเค้าไม่ให้เรียนก็อย่าไปง้อ
@@zerocrystal1 ไม่ถูกทั้งหมดครับ เพราะในสังคมจุฬาก็ยังใส่ชุดนิสิตไปเรียนครับ เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยครับ จะได้รู้ว่าเป็นนิสิต ไม่ใช่คนนอก และเพื่อความปลอดภัยครับภายในองค์กรครับ
ใช้คำว่าเกือบหมดไม่ได้หรอก แวดวงที่รู้จักมีแบบที่บอกไม่ถึง 20% รุ่นเราฉลองด้วยการเที่ยวทะเลเหมือนกัน
เด็กจุฬารวยจริง แต่นอกจากความรวยอีกสิ่งที่เห็นได้ชัดคือเด็กส่วนมากมาจากครอบครัวที่อบอุ่น พ่อแม่ตั้งใจมีลูกจริงๆ คือเราทำงานเป็นพนักงานโรงพยาบาล โรงพยาบาลที่เราทำอยู่เป็นโรงเรียนแพทย์ จะมีนักศึกษาแพทย์จากจุฬามาฝึกงาน มีอยู่ครั้งนึง เราเข้าเวรวันอาทิตย์ แล้วเราเดินผ่านหอพักนักศึกษาแพทย์ ปกติ เสาร์-อาทิตย์นักศึกษาก็จะกลับบ้าน แล้วพ่อแม่เขาจะมาส่งลูกกลับหอช่วงเย็นของวันอาทิตย์ เราเห็นพ่อแม่ขับรถมาส่งนักศึกษาแพทย์ แล้วคือจากที่เห็นความสัมพันธ์ในครอบครัวเขาคือดีมาก ก่อนนักศึกษาขึ้นหอพ่อแม่ก็ต้องมาหอมมากอด แบบเราเข้าใจเลยว่าความสำเร็จอ่ะมันต้องมาจากพื้นฐานครอบครัวที่แข็งแรงก่อนจริงๆ
จริงเด็กขาดความอบอุ่น เด็กมีปัญหาเนี่ยยากจะมีชีวิตที่ดีได้เพราะมัวแต่ไปปวดหัวเรื่องพ่อแม่ทะเลาะกัน
เห็นด้วยครับ
เห็นด้วยกับคำแนะนำของน้องค่ะ ความได้เปรียบของจฬคือเป็นมหาวิทยาลัยเก่าแก่ มีที่ดินใจกลางเมือง ราคาแพง จำนวนมาก ซึ่งก็เป็นที่ดินที่ได้รับพระราชทานมาเพื่อใช้ปย. ในการศึกษา แต่จฬกลับใช้โอกาสนี้ในการทำธุรกิจและหาเงินจนลืมไปว่า เป็นสถาบันเพื่อการศึกษา จฬเปลี่ยนไปมากค่ะ
จุฬาไม่ยึดโยงกับประชาชนเหมือนธรรมศาสตร์😢
@@jerjai252ก้นี่ ฬ ไม่ใช่ มธ
@@jerjai252ธรรมศาสตร์ก่อตั้งโดยกลุ่มคนที่มีอุดมการณ์ทางการเมืองสูงครับ
ผมเกิดแถวนั้นปัจจุบันอายุ 64บ้านผมก็โดนไล่ที่เพื่อสร้างที่จอดรถหลัง สำนักงานอธิการบดี
จุฬาเปลี่ยนไปก็คนที่บริหารทรัพย์สินจุฬาฯเปลี่ยนไปอีกอย่างเหมือนได้เงินจากรัฐน้อยลงมั้งเลยต้องใช้สิ่งที่มีมาหาเงินให้ได้มากที่สุด
ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกที่คนรวยจะเข้าจุฬาได้ อาจจะมีลูกเมื่อพร้อม มีเงินใช้ ส่งลูกเรียนพิเศษได้ กินอะไรดีๆได้สุขภาพดี พร้อมเรียนพร้อมสอบติดได้ ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ก็ไม่ใช่ว่ามีแค่เด็กรวยเท่านั้นที่จะเข้าได้ ก็ต้องมีความรู้ความสามารถถึงจะเข้าได้ ส่วนตัวไม่ได้เรียนจุฬา ไม่ได้รวย การที่คนเรียนจุฬาจะมีคนรวยจำนวนมาก ก็ไม่ได้แปลกอะไร เพราะบางทีคนรวยจริงๆเขาก็ไม่ได้อยากจะเรียนจุฬา เรียนเอกชนนู้น แต่คนเรียนเอกชนก็ไม่ใช่ทุกคนจะบ้านรวย ทุกที่มันมีทั้งคนรวยและคนรวยแหละ ผมเรียนมหาลัยนักศึกษาสำนักวิชาอื่นใช้ipadเรียนกันหมด พอเรียนsecเดียวกันสำนักที่ผมอยู่ก็จะเป็นสำนักวิชาที่นักศึกษาไม่ค่อยจะมีIpadกับเขาหรอก ทั้งๆที่ผมอยู่สำนักวิชาITนะ555555 ไม่ใช่เพราะสำนักวิชาผมรวมคนไม่มีตังค์มารวมกันนะ แค่life styleคนในสำนักวิชาไม่ได้เหมือนกับชาวบ้านเขา หลายๆคนมีคอมที่ห้อง ใช้คอมเป็นส่วนใหญ่ (ดักเลยว่าหลายคนก็คอมเก่าหลายปีแล้ว แค่ใช้ทำงานส่งอาจารย์ได้) แต่ก็ไม่ได้มีใครมองเหยียดกันว่าแกรวย แกจนอะไรแบบนั้นเลย มันอยู่ที่mind set คนแหละว่าจะมองเพื่อนร่วมมหาลัยว่าอย่างไง ชีวิตจริงไม่ได้มีใครฐานะทางบ้านขนาดนั้นหรอก เหมือนข่าวที่ลุงรปภ.ใช้Iphone 15 Pro Max บอกว่ามาทำงานเอาสังคม รายได้หลักมาจากที่ดินปล่อยให้ธนาคารเช่าเดือนละ3แสน 55555 (อันนี้ข่าวจากเวียดนาม)
ยาวหน่อย แค่อยากเล่าเฉยๆ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นได้ครับ555555
mindset ของผู้บริหารจุฬาฯควรปรับใหม่ครับ ให้รู้จักตอบแทนสังคมให้มากกว่านี้ คุณจะทุบหอเก่าก็ไม่ได้ผิดอะไรถ้าหากสิ่งที่จะทำคือทำหอใหม่ให้ทันสมัยและควบคุมราคาให้เหมาะสมไม่แพงเวอร์วังไม่กระทบกับครอบครัวเกินไป
ส่วนตัวไม่ได้เรียนจุฬา แต่เข้าใจน้อง คิดบ้างว่าถ้าเป็นเรา เพื่อนชวนไปกินข้าวในห้างก็อยากไปแต่ไปไม่ได้เพราะไม่มีเงิน คงรู้สึกแย่ ตอนเที่ยงอาจารย์ปล่อยให้พักแป๊ปเดียว โรงอาหารในมอ คิวยาว เพื่อนๆชวนกันไปสามย่านมิตรทาวน์ เราไปไม่ได้ เพราะต้องประหยัด
คิดว่าจุฬาควรแก้ไขเรื่องนี้
จริงขอเซอร์วิสสาธารณูปโภคเยอะกว่านี้ ร้านอาหารจำกัดราคาไม่ให้ขายเกินเท่านี้ๆ จักรยานให้ฟรีไม่ใช่รถไฟฟ้า น่าเรียนกว่าเยอะ มาเรียนไม่ได้มาโชว์รวย ระบบก็แหม่
เพื่อนในห้องใช้โทรศัพ 30,000+ ทานข้าวมื้อละ 100+ แล้วมีอยู่คนนึงที่ไม่มีแม้แต่จะจ่ายค่าเน็ต ใช้มือถือตกรุ่น ไม่มีเงินกินข้าวเกิน 50 บาทต่อมื้อ คิดว่าเพื่อนคนที่ไม่มีนั้น จะต้องปรับตัวยังไงหละครับ เพื่อนชวนทานข้าว..เชี่ยกูไม่มีไปกับเค้า เพื่อนชวนช้อป..เชี่ยกูไม่มีไปกับเค้า เพื่อนช่วยเที่ยว..เชี่ยกูไม่มีไปกับเค้า
ถูกของแทนไทยแล้ว สังคมมันบีบบังคับ แม้แต่ อจ.เอง บางทีแม่งก็เอาง่ายคิดว่าเด็กมีใช้กันหมด ใครไม่มีก็เดี๋ยวยืมเพื่อนเอาช่วย ๆ กันเอา แล้วก็จ่ายโซลูชั่นที่ต้องผ่านของพวกนั้นให้เด็กเช่น พรีเซ้นต้องใส่แฟลชไดรฟ์มาขึ้นจอ ส่งงานต้องผ่านเมลล์ นี่ยังไม่พูดถึงการขยายบรรทัดฐานอีกเด็กส่งงานตามมาตรฐานเคยได้ 10 เต็ม พอมีเด็กบ้านรวยมาจ้างเค้าทำ หรือมีทูลในการทำมาก มีโรงงาน มีแมชชีน มีบริษัท มีพนักงานของที่บ้าน มีทรัพยากรมากแล้วทำออกมาจนโอเวอร์ อจ.ก็ไปปรับมาตรฐานใหม่เช่นการบอกว่าดูกลุ่มนั้นเค้าทำสิ ดูคนนั้นเค้าทำสิ ทำมาแค่นี้แล้วฉันจะให้เท่ากันหรอ เป็นต้น
ในมุมของเราไม่มีใครผิด คนที่บ้านรวย พ่อแม่เค้าก็วางแผนชีวิตวางแผนอนาคตมาดี การใช้ชีวิตของเค้า ใช้ของแพงๆ นั่นคือเค้าไม่ได้รู้สึกว่ามันแพง มันเหมือนเป็นการใช้ชีวิตโดยปกติ
ส่วนครอบครัวที่รายได้ค่อนข้างต่ำ ก็มีความพยายามอยากได้ในสิ่งที่ดีที่สุดเช่นกัน แต่ต้องใช้ความพยายามมากหน่อย
เด็กที่ดราม่าแค่อายุ 17-19 เอง ก็คือเด็ก บางทีเขาก็อยากเข้ากลุ่มเพื่อนแค่นั้น ง่าย ๆ แค่เพื่อนชวนไปเดินห้างทุกอย่างมีค่าใช้จ่าย ค่ารถ เพื่อนกินชามุกแก้ว 40 กินข้าวในห้างร้านธรรมดา คือน้องเขาไม่สามารถเข้ากลุ่มกับเพื่อน ๆ ได้เลย คงสักปี 3-4 เด็กถึงได้เรียนรู้ ตอนนี้คงน้อยใจ
ไช่ครับจากที่น้องพูดผมเข้าใจว่าแบบนั่นแหละอารมณ์แบบอึดอัดอยุ่ในสังคมรวยๆจะให้ทำตัวจนเหมื่อนเดิมไปตลอดมันก็แปลกๆ
กลับกันถ้าน้องอยุ่ในสังคมที่้เป็นชนชั้นเดียวกันคงไม่รู้สึกแบบนี่แต่ก็จะไม่ได้รับการศึกษาที่ดีที่สุดและเป็นที่ยอมรับได้เหมื่อนกัน
จริงครับ เพื่อนบางกลุ่มกินข้าวหรูได้แทบทุกมื้อ ถ้าเราไปอยู่กลุ่มนั้นก็เตรียมจนได้เลยครับ
เป็นเพื่อนเรียนได้แต่ถ้าต้องไปกินข้าวด้วยกันไปเที่ยวด้วยกันต้องปฏิเสธ
เสื้อผ้า กางเกง รองเท้า เรายังต้องเลือกที่พอดีตัว
แล้วสังคมการศึกษาอะ สังคมดีดี มันก็มีต้นทุน เลือกที่ทุนทรัพย์ไหวดีกว่ามั้ย ?
พวกนักเรียนทุน ที่มีความสามารถในการสอบเพื่อให้ได้ทุน (หรือทุนให้เปล่า? จากการพิสูจน์ความจน) ก็ต้องเข้าใจว่าคุณแค่ได้ผ่านเข้าประตูไปรับการศึกษาที่ดีเทียบเท่ากับคนที่มีต้นทุนพร้อมจ่ายในทุกด้านไง คุณแค่ได้ผ่านเข้าประตูมา ไม่ใช่ว่าจะมีเหมือนคนอื่นเขา
เข้ามหาลัยมาเรียน ก็ต้องเข้าใจ ว่ามาเรียนอะ โชว์ทักษะของตัวเองไปสิ
เกียรตินิยมไปสิ
ผลักดันตัวเองไปให้สุดในสถานศึกษา อัพสกิลเข้า
แล้วหวังว่าวันหนึ่ง สังคมการทำงานจะให้โอกาสคุณได้มีงานมีเงินมีชีวิตที่ดี
อย่าไปคาดหวังว่าจะมีเหมือนคนอื่นเขาในตอนนี้เลย
เกิดต่างกัน ต้นทุนชีวิตต่างกัน
ทำใจ. ขวนขวายต่อไป
ถ้าชวนเพื่อนทำกิจกรรมอื่นแทนที่ไม่ค่อยใช้ค่าใช้จ่ายพอได้ไหม พวกกิจกรรมชมรมในมหาลัย ไปออกกำลังกาย ว่ายน้ำที่ศูนย์ฟรี หรือบางทีเพื่อนชวนนั่งอ่านหนังสือส่วนเราทำงานคณะไป เดินเล่นตลาดนัดกลางคืนแบบอยากดูบรรยากาศเฉยๆ เคยมีเพื่อนที่บอกเหมือนกันว่าลำบากเรื่องค่าใช้จ่าย บางทีไปเที่ยวด้วยกันหลังเขาเสร็จงาน part time แล้วก็มี จริงๆเราก็เข้าใจเขานะบางทีทั้งสองฝ่ายอาจจะแค่อยากใช้เวลาด้วยกันเฉยๆก็ได้แต่ไลฟสไตล์ต่างกัน ถ้าคุยๆว่าเราไปได้ไม่ได้ตรงไหนคิดว่าเพื่อนเขาเข้าใจ เราก็ไม่ได้รวยอยู่หอใน แต่เงินที่พ่อแม่ให้ในสมัยนั้นค่อนข้างครอบคลุมสำหรับเราราวๆ6000 เหลือเก็บทุกเดือนเพราะอยู่คณะที่วันๆทำแต่งานไม่มีเวลาเที่ยว แต่ถ้ามีเพื่อนที่ไลฟสไตล์กินห้างทุกมื้อก็คงไปด้วยบ่อยๆไม่ได้เหมือนกัน จะไปนานๆทีแบบกินเลี้ยงเป็นกลุ่ม
@@55mmiiพูดเหมือนหลุดออกมาจากละครคุณธรรม ชวนเพื่อนทำกิจกรรมอื่นตามความประสงค์ของตัวเองคนเดียวทุกครั้ง โดยไม่เหมาะกับรสนิยมหรือความชอบของเขารั้งแต่จะมีคนเกลียด นานๆทีๆร่วสังสรรค์กับเขา ก็เหมือนคนนอกจะหากลุ่มคอนเน็คชั่นลำบากหน่อยนะ มนุษย์เป็นสัตว์สังคมนินา แถมยังเป็นสัตว์นักล่า ถ้าเข้าร่วมกลุ่มไม่ได้ ก็จะถูกล่าเป็นธรรมดา
เป็นคนชนชั้นกลางบ้านไม่ลำบากแต่ก็ไม่ได้รวย ต้องบอกว่าการเป็นคนจนหรือคนกลางๆในหมู่คนรวยมันก็เศร้าๆนิดนึงแหละ ส่วนตัวโชคดีนะเพื่อนๆใจดีไม่ได้แย่อะไร แต่ถึงเพื่อนไม่ได้รังเกียจ เราก็ไม่สามารถไปเที่ยวไปใช้ชีวิตกับเพื่อนได้ เพราะคนมีเงิน ชีวิตประจำวันก็ไปแต่ในสนานที่ที่ต้องใช้เงินค่อนข้างเยอะ เพื่อนไม่ได้อวด แต่เราแค่มีเงินไม่พอที่จะเข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวันที่อยู่นอกห้องเรียนกับเพื่อนๆได้ มันคือความเป็นจริงในโลกนี้ ประเทศไหนๆไม่ว่าจะเจริญแค่ไหนมันก็มีแก๊ประหว่างคนรวยกับคนจนอยู่ดี
จริง. ไป. กิน เอ็มเค กับเพื่อนบ่อยก็ไม่ได้. เพื่อน กินเอ็มเค เป็นเรื่องปกติ เหมือนกินหมูกระทะ.
งานวิจัยนี้.... สรุปได้เห็นภาพชัดมาก
ความเหลื่อมล้ำ... นำมาซึ่งโอกาสที่ต่างกัน
โอกาสที่ต่างกัน.. นำมาซึ่ง คุณภาพชีวิต... ที่ต่างกัน
บางคนมีแต้มต่อเป็นบวก.... บางคนเริ่มจากติดลบแทบทุกเรื่อง
คนที่เริ่มจาก 8 จะทำให้ถึง 10 มันคงไม่ต้องใช้พลังมากนัก
แต่คนที่เริ่มจาก -5 จะไปให้ถึง 10 มันคงต้องทุ่มเทพลังทุกอย่างสุดชีวิต.. จึงจะไปถึงได้
ระบบที่กำหนดเป็นโครงสร้างสังคม ที่ตราเป็นกฎหมาย/ระเบียบสารพัด... จึงเป็นพื้นฐานสำคัญมาก ว่า จุดเริ่มต้นของคนในสังคม แต่ละคน จะเป็นเช่นไร.... ใครจะเข้าถึงโอกาสได้ยาก หรือ ง่ายต่างกันเท่าใด
ถ้าไม่เปลี่ยนแปลงโครงสร้างสังคม โครงสร้างอำนาจ ที่กำหนดความเป็นไปของสังคม.... ก้อยากที่จะเปลี่ยนอะไรๆได้
หนึ่งในโอกาส ที่จะเปลี่ยนโครงสร้างอำนาจ/สังคมได้.... คือ.. ตัวคุณเอง
บ้านเรา จุฬามาตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ค่ะ เมื่อก่อนพ่อแม่เราก็ไม่ได้มีฐานะอะไร โดยเฉพาะทางแม่ต้องเรียกว่าจนมากด้วยซ้ำ แต่อยู่จุฬาได้สบาย ๆ (แม่เราอาศัยหอใน)
พอมารุ่นเรา เนื่องจากเราอยู่ กทม เลยต้องพักข้างนอก ค่าครองชีพเริ่มจะสูงขึ้นมา แต่ยังมีอะไรให้กินอยู่ ชุมชนยังไม่ถึงกับหายไปหมดขนาดนั้น อย่างน้อยสามย่านเก่ายังมี กินเสต็กสามย่าน อาหารญี่ปุ่นก็กินที่หอยูพอได้ ถ้าอยากประหยัดก็กินแถวสะพานเหลือง บ้านเราเป็นชนชั้นกลางยังพออยู่ได้
พอเราจบมาไม่กี่ปี รุ่นน้องเราเข้าไปเรียน โอ้โห คอนโดเป็นดอกเห็ด แล้วแพงมาก...แบบ มากกกกก มีสามย่านมิตรทาวน์ตามมา ส่วนจามจุรีสแควร์...ร้าง
พ่อแม่เราพูดเรื่องนี้ก็จะบ่น ๆ ว่าเด็กที่เค้าไม่รวยจะอยู่กันยังไง เอาเงินไปทำแต่ห้าง
จุฬาเปลี่ยนไปมากจริง ๆ
ปัญหาไม่ใช่เรื่องอยากมีหรือไม่อยากมีตามเพื่อน แต่จุฬาสร้างแต่ห้าง ไล่ชุมชน ค่าครองชีพแพง ทำให้เด็กที่บ้านไม่ได้มีต้นทุนขนาดนั้นใช้ชีวิตกันลำบากจริง ๆ
ฟ
เห็นด้วยครับ
คืออยู่จุฬาเรียนเก่งเเพื่อให้ไปรอดไม่พอนะครับ ต้องขยันทำงานเพื่อหางานมาประทังชีวิตแต่ละวันด้วยสำหรับคนที่ฐานะทางการเงินต่ำ😢😢 สภาพแวดล้อมมันบีบคั้นให้ไปทางนั้นจริงๆ
เรียนจุฬาไม่จำเป็นต้องอยู่แถวจุฬา นั่งรถไฟฟ้าเข้ามาได้ เลือกเอาเลย bts mrt สถานีที่ค่าเช่าถูกๆ ค่าข้าวที่คณะก็แสนจะถูก
เราเคยอยู่ทั้งม.รัฐ และมาต่อโทที่จุฬาค่ะ รู้เลยว่า location และสิ่งแวดล้อมมันมีอิทธิพลต่อการใช้ชีวิต ไปจนถึงความคิดความอ่านมากๆ เราว่าไม่แปลกที่คนที่ฐานะทางบ้านด้อยกว่าจะรู้สึกแบบนั้น ขนาดบ้านเราชนชั้นกลางยังสัมผัสได้ถึงความแตกต่างเลยค่ะ และมันเป็นธรรมชาติของคนค่ะที่จะมีอีโก้อยากได้อยากมี และเราว่างานวิจัยนี้ดีมากเลยนะ ตั้งคำถามและแสดงคำตอบออกมาได้อย่างน่าสนใจ แล้วยังตั้งคำถามต่อได้อีกเรื่อยๆกับสังคม ทั้งเรื่องการเข้าถึงศึกษา ค่าใช้จ่ายในการใช้ชีวิตเป็นนิสิต ภาพลักษณ์ของเด็กจุฬาที่งานวิจัยเหมือนจะสื่ออกมาว่า…เพราะเป็น”ลูกคุณหนู”ก็เลย”มีความสามารถด้านวิชาการ”…อันนี้เราหวังว่าทางจุฬาจะเข้าใจถึงสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในหลายๆเรื่อง และหาทางจัดการได้อย่างเป็นรูปธรรมนะคะ…อย่างน้อยก็ควรให้สถาบัน friendly กับนิสิตทุกฐานะ ทุกคนจริงๆ… มองอีกทางก็เหมือนพัฒนาสถาบันไปในตัวด้วยค่ะ
มันเหนือกว่ามหาลัยอื่นจริงๆครับ 80-90 เปอร์เซ็นเลย
เห็นด้วยที่จุฬาควรสร้างชุมชน หอพักราคาปกติไว้สำหรับนิสิตทั่วไปบ้าง
"สิ่งที่ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับเรา ไม่ได้แปลว่าไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับคนอื่น" ใช่ครับ คนเรายังขาดความเข้าอกเข้าใจผู้อื่น(Empathy) อยู่อีกมาก สิ่งที่ไม่ได้เจอ ไม่ได้เห็น มันไม่ได้แปลว่ามันไม่มีอยู่ อ่าว ทำไมจู่ๆมันเข้าสู่อารมณ์เรืองลี้ลับไปได้วะเนี่ย
มีหลายคนที่พูดประมาณว่า ชั้นคนนึงเรียน ฬ มาก็มีสังคม ไม่ต้องทำตัวรวย คบเพื่อนรวยก็ได้นี่นา จะบอกว่า ใช่ครับ ทำได้เลย ไม่มีใครห้าม แต่ต้นทุนทางสังคมของคุณจะเสียไปเพราะคุณไม่ได้ใช้ชีวิตในสังคมคนรวย มีอะไรก็เอื้อเกื้อกูลกัน ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันเป็นบันไดที่ดีมากๆขั้นแรกสำหรับคนที่ต้องการเอาตัวเองเช้าสังคมชนชั้นสูง ขึ้นอยุ่กับพวกเค้าแล้วว่า พวกเค้าจะรับ life style จนๆของคุณได้หรือไม่ ถ้าคุณต้องการเป็นหนึ่งในกลุ่มเด็กพวกนั้น
เอาจริงๆเด็กรวยมันไม่ได้เหยียดเด็กจนหรอก แต่ไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิตมันต่างกันเลยดูเหมือนแบ่งแยกโดยอัตโนมัติ อย่างสิ่งที่ผมเจอตอนเรียนคือมันมีกลุ่มที่ขับรถมาเรียน เลิกเรียนไปเที่ยวห้าง ไปร้านเหล้าหรูๆ ปิดเทอมยกพวกไปเที่ยวต่างประเทศ ใช้ชีวิตในแบบที่อย่าว่าแต่คนจนเลยชนชั้นกลางอย่างผมยังไปจอยด้วยไม่ไหว
ใช่นั้นแหละสภาพความเป็นจริง จนได้อิจฉาคนรวยได้ ก้หาวิธีรวยแบบคนอื่น ไม่ใช่โทษสังคม
กลับกัน บ้านเราค่อนข้างมีฐานะดี ชีวิตไม่เคยลำบาก ไม่เคยทำงาน สมัยเรียนได้ค่าขนมเดือนละแปดพัน จบรร.เอกชน
เราไปเข้าม.รัฐ ทั้งเพื่อนรอบตัวส่วนใหญ่ ทั้งรุ่นพี่บางคน ฐานะไม่ดี เราก็ต้องปรับตัวเยอะเหมือนกัน เราอยากกินแมคก็ไม่กล้าซื้อ เดินเล่นกับเพื่อนเจอของถูกใจก็ไม่กล้าซื้อ ไม่กล้าบอกว่าตัวเองได้ค่าขนมเท่าไร หรือที่บ้านมีแม่บ้าน เพราะเพื่อนเราเวลาไปไหนเจออะไรก็จะพูดว่าแพง เห็นคนกินสตาร์บัคก็บอกพวกนั้นบ้ารึเปล่า ขนาดข้าวจากละเจ็ดสิบเขาก็บอกแพงไม่เอา เราอยากกินก็ไม่กล้าพูด กลัวโดนหาว่าอวดรวย ตอนเพื่อนรู้ว่าเราไม่ได้ทำงานพิเศษ ใช้เงินพ่อแม่ เขาก็มองเราเป็นไก่อ่อน เป็นคนไม่เอาไหน
อยู่อย่างนั้นได้ปีนึง ทนสังคมไม่ไหว แอบรู้สึกท๊อกซิกนิดหน่อย เลยซิว สุดท้ายมาจบที่ราม สบายใจ ไม่มีใครยุ่งกับใคร ไม่มีใครสนใจด้วยซ้ำว่าเราทำอะไร😂
ใช่เลย มองว่าอาจมีบ้างที่เหยียด แต่เท่าที่สัมผัสนิสัยดีหลายคน แต่ส่วนใหญ่การใช้ชีวิตเค้าต่างกับเราเท่านั้นเอง
จริง ไม่มีใครเหยียด
สม
ชอบความคิดของคุณเนมมากๆครับ ถ้ามองจากมุมน้องแทนไทมันไม่ผิดเลยที่เขาสะท้อนแบบนั้น เพราะความเป็นจริงมันอดไม่ได้หรอกที่จะมีการเปรียบเทียบ นี่ยังแอบคิดเลยว่าน้องอาจจะพูดถึงทัศนคติทั้งหมดของน้องไม่หมดด้วยซ้ำ คำว่า แพง ของน้องความหมายมันลึกมาก มันหมายถึงโครงสร้างทางสังคมที่ต่างกันจนรู้สึกว่ามันแพงเกินกว่าที่เขาจะมีมันได้
อื้มจริงๆ รู้สึกว่าตัวเองบ้านมีฐานะกลางๆ พอไปเที่ยวตปท.ไปยุโรปปีละ1-2ทริปได้ แต่พอมารู้จักกับสังคมเพื่อนเด็กจุฬา คือไฮโซไปเลย life style คืออีกเลเวลทุกมิติ โดยที่นั่นเป็นธรรมชาติ เป็นชีวิตปกติของพวกเขานะ พวกเขาไม่ได้คิดจะอวดรวยอะ แต่ไลฟ์สไตล์การใช้เงินเขามากกว่าเราหลายเท่าตัวจนเรารู้สึกด้อยไปเลย ต่างจากม.รัฐในกทม.อื่นไปสุดๆ
ร้านอาหารแถวจุฬาเยอะมากแต่ราคาก็แรงจริงนานๆกินทีก็ได้อยู่ แต่ถ้ากินทุกๆวันสำหรับเด็กตจว.ก็จัดว่าโหดนะ มหาลัยควรตระหนักเรื่องนี้ ถือว่าเป็นประเด็นที่น่าสนใจ
พูดในฐานะคนชนชั้นกลางบางทีก็จนเงินพอใช้เดือนชนเดือนบางทีก็ไม่พอต้องไปยืมคนข้างบ้าน มีเพื่อนชวนไปกินข้าวในห้างไปกินข้าวร้านนั้นนู้นนี้บางทีมื้อละ 70+ แค่นี้สำหรับเราก็แพงแล้ว เวลาไปเรียนได้วันละ100 กินนิดๆหน่อยๆก้เหลือออมไว้ ลำบากใจเหมือนกันเลยไม่ค่อยเข้าสังคม ไม่ไปเที่ยวกับใครเลย แต่ก็ยังมีเพื่อนอยู่ให้พอรู้จักเวลาเรียนเวลาทำงาน อยู่คนเดียวก็มีความสุขดีเหงานิดหน่อยแต่ก็หาอะไรทำไปเรื่อยเปื่อย ไม่รู้จะแก้ปัญหาแบบนี้ยังไงเหมือนกัน คงต้องรอเรียนจบแล้วทำงาน ถึงจะมีเพื่อนหรอ😂 ก็ไม่เชิงอะเพื่อนก็มีมาให้รู้จักเรื่อยๆตั้งแต่สมัยเรียน แค่ไม่เคยได้ไปเที่ยวด้วยกัน มีแค่ทักทายกันเวลาเจอหน้าแค่นั้น เพื่อนที่ฐานะพอๆกันเค้าก็ไม่ค่อยอยากไปไหนเหมือนกันอยู่ดีเพราะไม่ค่อยมีเงิน นัดเจอกันก็แค่เดินเล่น พูดคุยกัน มีเงินเก็บเหลือหน่อยก็ไปทานอะไรด้วยกันนิดหน่อย นานๆทีจะมีโอกาส
อยากให้เด็กจุฬาที่บอกให้เเทนไทเปลี่ยนmindset ไปสัมผัสชีวิตรรเด็กชายขอบจังเลยค่ะ ที่บ้านเอ็งรวยจ่ายเงินเองเรียนที่ดีได้ ยินดีด้วยค่ะ เด็กขายขอบบางคนเเค่มหาลัยรัฐดีๆบางคนยังสอบเข้าไม่ได้เลย การเเข่งขันสูง ไม่มีเงินเรียน ความเหลื่อมล้ำมันคือความจริงค่ะ ที่เราต้องเจอ การที่ตัวเองรู้สึกตัวเองเปรียบเทียบมันเกิดอยู่เเล้ว เมื่ออยุ่ในบรรดาคนมีอันจะกิน ตอนเรียนเพื่อนมีรถขับ อินี่ขี่มอไซค์ยังรู้สึกเลยค่ะ
@@colonelzans ถ้างั้นตรรกะนี้ก็บอกได้ว่าคนรวยก็ควรไปเรียนเมืองนอกค่ะ มีปัญญาเรียน สูงส่งกว่าพวกปัญญาชนจบในประเทศแน่นอนค่ะ
สังคมกดดันจริงค่ะ 😊
น้องสาวที่เป็นเด็ก ตจว. โตมาด้วยกัน
เข้าจุฬาไปแล้ว ฆตต น้องเรียนเก่งมากค่ะ แต่ ฆตต ก่อนจะเรียนจบ เกียรติฯ 1 ตอนน้องจะขึ้นปี 4
เคยไปเที่ยวหาน้องที่สยาม น้องต้องประหยัดทุกอย่างค่ะ
ไม่ได้ว่ามหาลัยหรอกค่ะ แต่การส่งเด็ก ตจว. จนๆ เข้ามาในเมืองหลวงคนเดียว มันก็กดดันมากพอแล้ว ไหนจะเรื่องอื่นๆอีก ต้นทุนคนเรามันต่างกันเยอะ ตัวเปรียบเทียบเยอะ
ความต่างของสังคม คือ เด็กรวยที่ทำตัวจน แค่ไม่ทำตัวรวย แต่เด็กจนที่ทำตัวจน คือทำตัวรวยไม่ได้
ชีวิตมันไม่ได้ให้ทางเลือกเราขนาดนั้น
ทุกวันนี้ก็ยังโกรธพ่อแม่น้องที่กดดันน้อง ให้เข้าจุฬาทั้งที่ฐานะก็ขัดสน เพราะเดิมตัวน้องสาวเราก็ไม่เคยอยากเข้าจุฬา แต่ก็ตั้งใจเรียนเข้าไปตามที่พ่อแม่บังคับ 555
ตายแล้วร้องไห้ เอาอะไรคืนมาไม่ได้
ผิดกับญาติเราที่แกก็ขัดสน แต่พี่แกเรียนเก่งมากจนสอบติดจุฬาและได้ทุน พ่อแม่แกบอกไม่เงินจะส่งแกเรียนแกขู่จะฆ่าตัวตาย จนลุงป้าเรายอม ยอมรับเลยขนาดได้ทุนยังต้องประหยัดมากๆเงินเดือนลุงป้ากับน้องชายแกรวมกันมาจ่ายค่าเทอมแกคนเดียวบางทีและแกก็เปลี่ยนสายระหว่างเรียนด้วยแต่ด้วยที่แกก็เก่งจริงๆด้วยจบมาแล้วแกก็ได้งานดีเงินเดือนเกือบแตะหลักแสนละ ตอนนี้ลุงเราเสียละแกก็เลี้ยงแม่แกสบายๆ ซื้อบ้าน รถ แต่เรื่องรสนิยมใช้ของใช้อะไรดีๆเราว่าก็คงปกติที่คนเราอยากได้อะไรที่ดีที่สุดตราบใดที่ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน การลงทุนที่ดีคือการลงทุนกับการศึกษามันก็ไม่ได้เกินจริงนะเราว่ายิ่งศักยภาพของคนบางคนเขามีมากเป็นทุนโดยธรรมชาติถ้ามีแรงสนับสนุนสังคมก็จะได้คนมี คุณภาพเพิ่มขึ้นมาอีก 1 คน
ผมชักจะเริ่มเป็นห่วงพี่สาวผมแล้วหละสิเรียนหมออยู่ปี 4 เห็นโทรมาร้องไห้กับผมบ่อยเลยช่วงนี้ว่าเหนื่อย เครียด
@@Squier123 ดูแลพี่สาวให้ดีดีนะคะ อยู่ กทม. เครียดอยู่แล้ว ไหนจะเรียนอีก มันหลายอย่างค่ะ
@@Squier123ซื้อขนม ของชอบอะไรไปฝาก เทคแคร์ดูแลด้วยการกระทำ และ มั่นให้กำลังใจบ่อยๆครับ สัญญาณเริ่มเตือนมาแล้ว ดูแลพี่สาวมากๆครับ
🎉🎉🎉
@@Squier123คุยกับเค้าบ่อยๆนะครับ อยุ่เป้นเพื่อน อยุ่เป็นที่รับฟัง ในตอนที่ยังมีโอกาสครับ
เด็กจุฬาหลายคนหน้าตาดี บุคลิกดี ฐานะดี แต่ก็ไม่ได้เหยียดกันขนาดนั้น คนรวยคนจนเป็นเพื่อนกันปกติ เท่าที่อยู่มา4ปี เพื่อนรวยร้อยล้านก็ไม่เห็นจะทำตัวเบ่งอะไร
จบจุฬาฯ มาเหมือนกัน เมื่อหลายสิบปีก่อน ข้อนี้เห็นด้วยครับ
เห็นด้วย ไม่เคยโดนเหยียด พวกรวยจัดๆ โคดหล่อโคดสวย เค้าก็ทำตัวปกติ
ใครlifestyle เข้ากันก็จับกลุ่มกัน แนวใครแนวมัน
ดราม่ามาจากพวกเด็กม ปลายแหงๆ 555 คนเรียนจบแล้วไม่เห็นมีใครบ่น
อยู่มหาลัยแล้วคนมันเยอะสังคมกว้างเริ่มต่างคนต่างอยู่ไม่ได้มีใครสนใจเราขนาดนั้น
โดนใจกับคำคุณเนมว่า "จบมา 10 กว่าปีไม่แน่ใจ นวัตกรรมการศึกษา" เราก็ไม่แน่ใจ จนอยากกลับไปเรียนโท เพราะมันมีอะไรอัฟเดทที่รายังไม่ค่อยเข้าใจในส่วนลึก ถึงแม้ว่างานที่ทำค่อนข้างเกาะกะแสเทรนก็ต่ม
ส่วนแทนไทยน่าสงสารที่ออกมาพูดในมุมมองตัวเองในฐานะเด็กทุน แล้วก็กลายเป็นเหยื่อทางสังคม แต่เข้าใจน้องขนาดบ้านเราฐานะกลางๆ แต่ตอนเด็กๆพ่อแม่กัดฟันหาเงินให้เรียนโรงเรียนคนค่อนข้างมีฐานะ ที่เพื่อนสนิทในกลุ่มเปิดโลกให้เรารู้จักหลุยห์ วิตตองตั้งแต่ป.3 สายการบินต้องนั่งสายการบินนี้ สายการบินนั้นถูก ปีใหม่+สงกรานต์ หรือปิดเทอมกลับบ้านยาย/ บ้านอาม่า เพื่อนในกลุ่มเที่ยวญี่ปุ่น อเมริกา ฮอลแลนด์ ยุโรป อีกกลุ่มเรียนซัมเมอร์อังกฤษ พอมัธยม พ่อเพื่อนก็ซื้อคาเทียร์เป็นของขวัญวันเกิดเพื่อน😢
คิดแล้วแอบเศร้า แต่เราไม่เคยโดนเพื่อนดูถูก แถมรักกันด้วย แต่อาจมีพ่อแม่เพื่อนแบบกะแซะเพื่อนสมัยเด็กให้เลิกครบอยู่บ้าน เพราะคนละระดับกัน
เพราะบางทีคนเราก็ไม่อยากแปลกแยก อยากมีเพื่อนเที่ยวเล่น เรียนด้วยกันปกติ เพียงแต่ไม่มีเงินและพื้นฐานชีวิตต่างๆมันไม่เท่าเขา ทำให้แทนไทรู้สึกแปลกแยก ทั้งๆที่คนกลุ่มนั้นเขาไม่ได้เหยียดอะไรเลย เพียงแค่เขาใช้ชีวิตปกติแบบไม่ขัดสน การใช้ชีวิตที่ดูแพงนั้นถูกหล่อหลอมมาตั้งแต่เด็กๆ ได้เรียนรร.ดีๆ ครอบครัวมีความพร้อม ไม่แปลกที่แทนไทจะคิดแบบนี้ค่ะ มีคนรู้สึกแบบนี้อีกเยอะ❤ เอาใจช่วยน้องๆที่ยังเรียนอยู่นะ
สมัยเราเรียน10ปีก่อน มันก็เป็นแบบนี้แหละ แต่คนแบบเดียวกันมันมักจะดึงดูดกันเอง เราก็คบกับคนที่เท่าๆกัน โหนรถเมล์ กินข้าวข้างทางด้วยกันได้ปกติแบบไม่ฝืน สู้ๆนะน้องๆ
จริง
จริง พื้นฐานครอบครัวรวยกันอยุ่แล้ว การมีเงินมีหน้าตาดี เวลาเข้าสังคมก็มีโอกาสมากกว่า คือถ้าที่บ้านเค้าพร้อม เค้าก็กล้ามั่นใจ มากกว่า เพราะเค้ามีการซัพพอร์ต การไม่มีเงินไปอยุ่สังคมไหนก็ลำบากโอกาสก็น้อย
ส่วนตัวจบจุฬา และบ้านไม่ได้รวย เดินทางจากชายขอบกทม ไปเรียน ลำบากอยู่ แต่ ช่วงที่เรียน ก็เห็นได้ชัดว่า เด็กที่บ้านรวยก็ไม่ได้เหยียดเพื่อนร่วมคณะ จะมีแค่บางกลุ่มบางคนที่มีนิสัยชอบเหยียดชอบเช็คว่าใครใช้อะไรยี่ห้ออะไรขับรถอะไร ตอนนั้นก็เลือกที่จะไม่คบไม่คุย เพราะแค่ไปเรียน ไม่ได้ไปให้ใครดูถูก เลยไม่แคร์ แต่ต้องยอมรับว่ามันเป็นเรื่องจริงอย่างที่น้องเค้าพูด สังคมมันหล่อหลอม ให้เราอยากมีบ้าง อยากเป็น ส่วนตัวตอนนั้นคือไม่มี เลยไม่ได้สนใจ คบเพื่อนทีคุยด้วยแล้วสบายใจ ช่วยเหลือกันเรื่องเรียน เลยรอดมาได้ 😅
ไม่ใช่แค่ค่าครองชีพ เพื่อนๆจุฬาฯหลายคนขับรถหลักล้านมาเรียน พ่อแม่ขับรถหรูมารับส่ง เดินเที่ยวกินสยามเฮฮาสบายๆ มันชัดอยู่แล้วถ้าไม่หลอกตัวเองว่าเด็กจุฬาส่วนใหญ่มีฐานะและต้นทุนทางบ้านได้เปรียบมากกว่า
ผมก็จบนิติจุฬานะ ก็กินข้าวโรงอาหาร4ปีแต่ก็กินข้างนอกบ้างแล้วแต่โอกาส พ่อแม่ก็เป็นข้าราชการบำนาญ ก็เฉยๆนะไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองจนหรือรวย หรือสูง หรือต่ำกว่าเพื่อนๆหรือคนอื่นแต่อย่างไร..น่าจะอยู่ที่ทัศนคติของแต่ละคนแหละ😊
เข้าใจเลยค่ะ เราไม่สามารถยื่นโควต้าธรรมศาสตร์ได้ แค่เพราะเรามีบ้านเดี่ยวอยู่ในหมู่บ้านจัดสรร มหาลัยปัดให้เราเป็นคนมีเงินทันที เพราะเรามีบ้าน ทั้งๆที่บางวันก็ไม่ได้ไปโรงเรียน เพราะไม่มีเงินเหลือแล้ว การพิสูจน์ความจนเป็นอะไรที่แย่มากๆ ถ้าเราเป็นแทนไท แล้วไม่เจอเพื่อนชนชั้นเดียวกัน น่าจะเครียดมากพอดูเลย ทุกวันนี้ก็เรียนมหาลัยต่างจังหวัด กินไข่เจียวเกิน4วันก็เบื่อแล้วค่ะ อยากออกไปกินข้าวข้างนอกแบบเพื่อนคนอื่นที่เขาไปกินบ้างก็ไม่ได้ ต้องทนประหยัดไว้ มันไม่แปลกนะคะที่แทนไทหรือคนชนชั้นล่างคนอื่นจะรู้สึกอยากได้อยากมี แต่คนที่เอาเลนส์ชนชั้นตัวเองไปตัดสินคนที่ชนชั้นต่ำกว่า แล้วบอกว่าเธออยากได้เกินตัว ทั้งๆที่บางทีเขายังไม่ได้เลย แค่อยากเฉยๆ อันนี้แปลก
ที่บอกว่าม.ธรรมศาสตร์ปัดออกไป ไม่รับโคต้า บอกว่าเพราะ มีบ้านเดี่ยวในหมู่บ้านใหญ่ คงไม่ใช่เหตุผลแน่นอน ทำไม.. ไม่ดูว่าโคต้ามีจำกัดและมีคะที่สมัครเยอะ มันธรรมดาที่จะต้องมีคนได้และคะไม่ได้ ไม่สามารถรับได้ทุกคน ต้องดูอะไรหลายๆอย่างไม่ใช่เกรดคะแนนอย่างเดียว ทัศนคติจากการสัมภาษณ์ อย่างลูกคนเล็กยื่นคะแนนกับงานที่เคยทำเกรดก็ไม่ได้สูงมาก 2.98 ไม่ถึง3ด้วยซ้ำ แต่เค้าทำงานตัดต่อ ทำงานด้านคอนโทลเสียง อุปกรณ์ทำฉาก รับจ้างถ่ายงาน คอนเทนต์ และอีเว้นต่างๆ ชอบเล่นกล้อง และคอมพิวเตอร์ ส่วนโคต้าที่รับตอนนั้น รับเพียง22คน ยื่นสมัคร159 รอบที่2 ตัดเหลือ50คน รอบ3 เอา 22 คน ลูกไปยื่นเอง สมัครเอง ได้เข้ารอบ ถ้าถามว่าที่บ้านมีไหม? ก็พออยู่ได้ เพราะมีอพาร์ตเมนต์อยู่ใน กทม.ให้เช่าใกล้กับม.เอกชนในกทม. เค้าก็ไม่ปัดตกนะตอนนี้คนเล็กพึ่งเรียนจบและรับปริญญาไปแล้ว ได้งานแล้ว บอกให้เค้าเรียนต่อเลย เค้าก็บอกว่า ขอทำงานก่อน อยากหาประสบการณ์ จึงไม่น่าใช่ ส่วนอีกคนเพื่อนเค้า คุณพ่อเป็นวิศวกรทำงานธุรกิจส่วนตัว และยังมีปั้มน้ำมัน ก็ไม่โดนปรับตกนะ ไม่อยากให้อคติกับอาจารย์ที่สัมภาษณ์การตัดสินยิ่งมีการ ยื่นผลงาน ยื่นผลคะแนน และดูทัศนคติของเด็กก็มีส่วนในการผ่านแต่ละรอบ และบอกเลยว่า เราและลูก ไม่ได้รู้จักหรือสนิทกับอาจารย์ในมหาวิทยาลัยเป็นการส่วนตัวเลยด้วยซ้ำ(การเก็บผลงาน น้องเค้าเก็บผลงานเค้าเอง ตั้งแต่ม.4 ถึง ม.6)คะ
บางครั้งคนรวยก็ไม่ได้เหยียด เเค่ lifestyle ไม่เหมือนกัน ความชอบ การใช้เงิน มันก็ต่างกัน
คนรวยไม่ได้เหยียดหรอก แต่คนจนหลอนไปเอง ด้อยค่าตัวเองเอง
เค้าคงอึดอัดเพราะเข้าการใช้ชีวิตของเพื่อนได้ยาก สิ่งที่เพื่อนกินเพื่อนใช้กิจกรรมที่เพื่อนทำ เค้าอาจจะไม่สามารถมีส่วนร่วมได้เพราะจ่ายไม่ไหว
@@Econeer-Dเฮ้อ การเหยียบคนอื่นมีในทุกสังคม ขนาดคุณก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไร ยังเหยียดคนจนด้วยกันเองอยู่เลยเนี่ย 😂
ที่ทำได้น่าจะ เป็นเพื่อนกันกับคนที่คล้ายๆกัน หรือไม่ก็ถ้าเพื่อนรวยก็เป็นเพื่อนกันตอนเรียน พยายามไม่มีส่วนร่วมในการใช้ชีวิตของเพื่อน...มีอีกอันคือถ้าเพื่อนช่วยบ้างเหมือนให้สามารถทำอะไรด้วยกันก็ดีไป
จริง เขาไม่เหยียด เราแค่ไม่สามารถใช้ชีวิตเป็นเพื่อนกับเขาได้ขนาดนั้้น แค่การใช้ชีวิตก็พื้นฐานไม่เหมือนกันแล้ว
ดูเวลาจุฬามีพิธีใดๆซิ ฟุตบอลจุฬาธรรมศาสตร์ด้วย จุฬาจะpresentตัวเองเหมือนที่เราเห็นในละครช่อง3...คือ....สูงศักดิ์ งดงาม เลอค่า เสด็จจุติมาจากฟากฟ้าสรวงสวรรค์
เห็นภาพเลอ
เข้าใจน้องแทนไทนะ มันไม่มีใครผิดหรอกก็สังคงมันเหลื่อมล้ำแบบนี้อะแหละ คิดสภาพน้องเป็นเด็กทุน พอเข้ามาเรียนในสังคมหรูๆ เพื่อนๆรอบตัวต่างมีของใช้แบรนกันทั้งนั้น คนในมออาจจะคิดว่ามันเป็นเรื่องปรกติไม่ได้โอ้อวดอะไร แต่สำหรับเด็กทุนที่เข้าไปอยู่มันให้ความรู้สึกต่างกันนะ ในขณะที่น้องโดนสังคมล่อหลอมจนเริ่มรุ้สึกเห็นความแตกต่างของฐานะตัวเอง การที่น้องอยากได้ชุดดีๆอยากกินอาหารแพงบ้างๆ มองว่าน้องก็ไม่ผิดอะไร แค่ยอมรับผลกระทบที่ตามมาเท่านั้น ถ้าแทนไทบริหารเงินพออะนะ ในเมื่อสังคมน้องเห็นทุกวันมันเป็นอย่างนั้น เหมือนเราที่บางทีลึกๆก็อิจฉาคนที่มีตังซื้อนู้นซื้อนี้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องมาห่วงว่าต้องใช้แบบเดือนชนเดือน ขนาดตัวเราเองถ้าเลือกได้ก็อยากทำให้ตัวเองดูดีในสายตาคนเหมือนกัน เรายังซื้อเสื้อผ้าสวยๆทั้งๆที่ก็ไม่จำเป็นเหมือนกัน ไม่มีคนมาเหยียดแทนไทเรื่องความจนหรอกในจุฬาน่ะ แต่สิ่งที่เป็นเรื่องธรรมดาของคนในมอต่างหากที่ทำให้แทนไทดูแตกต่างและรู้สึกด้อยค่าตัวเอง จริงๆจะบอกให้น้องไม่ต้องสนใจก็ได้แหละ แต่การได้เห็นคนอื่นทำเรื่องปรกติที่ไม่ปรกติสำหรับแทนไท ลึกๆมันก็ต้องคิดอยู่แล้ว
เพื่อนสนิทติดจุฬาชนบท อารมณ์ทุนเรียนดีแต่ยากจน ส่วนเราเก่งน้อยกว่าติดธรรมศาสตร์โน้นเลยปี1-2เรียนรังสิต ปั่นจักรยานตัวดำหลายสิบปีก่อน แต่เพื่อนคือคนละสังคมกะเราเลย ไม่มีเงินนะแต่พยายามผลักดันตัวเองให้มีกน้าตาในสังคมเพ้่อนจุฬา แม้อยู่หอมันก็จะมีเกรตเพื่อนคบ มันมีจริงๆ เว้ย เพื่อนโทรมาร้องไห้บ่อยๆ และเจอกันก็เครียดมากเรื่องหน้าตาในสังคมจุฬา คือตอนนั้นบอกเพื่อนไปว่า แค่เรียนมึงก็เหนื่อยแล้วป่ะแล้วมึงจะมาเหนื่อยในการเข้าสังคมอีกหรอ หลังจากเพื่อนกัดฟันเรียนเภสัชจบนางกลับตจวทันทีและไม่เข้ามาทำงานกทมเลย ตอนนี้กลายเป็นผู้อำนวยกาฝ่ายใหญ่โตมากๆทางภาคอีสาน เพราะดีกรีจบจุฬานะเว้ย นามสกุลนี้ติดตัวไปตลอดชีพอะ
ชอบที่คุณเนมพูดตอนจบอะ จุฬาทำแบบนั้นยิ่งทำให้คนไม่ค่อยมีเงินเรียนจุฬาลำบากขึ้นกว่าแต่ก่อนเยอะเลย
เห็นด้วยสุดๆ คิดถึงโบนันซ่า คิดถึงบรรยากาศเก่าๆ ร้านข้าว ร้านขนม ร้านถ่ายพุริ ร้านหนังสือการ์ตูน เสื้อผ้า ราคาจับต้องได้...... ทุกอย่างกลายเป็นแค่ภาพความทรงจำดีๆไปหมดเเล้ว ทุกวันนี้ กลางคนเเล้ว กลับไปเดินย่านนั้น กลายเป็นเดินไม่ไหว คือสร้างให้พวกลูกคนรวยเดิน only ที่แทร่
กิจกรรมดีๆ ภาพเก่าๆ เด็กๆนัดคุย นัดเจอกันร้านอินเตอร์ หรือ ชั้นสองเชสเตอร์กริลล์... ไม่มีอีกเเล้วววว
มุมมองส่วนตัวผมนะ มันไม่สำคัญว่าสังคมนั้นจะเป็นยังไง มันสำคัญว่าเราจะยอมเปลี่ยนตัวเองเพื่อเข้าสังคมนั้นหรือเปล่าต่างหาก สิ่งที่อาจารย์และน้องคนนั้นพูดผมเห็นด้วย แต่อยากให้ลองพิจารณาดีๆว่าเราอึดอัดใจหรือไม่กับสังคมที่เราอยู่ เราใช้ชีวิตลำบากขึ้นหรือไม่ และการที่เราต้องเข้าสังคมนั้นเพราะเรามีเหตุผลสมควรกับสิ่งที่เราต้องเสียไปหรือไม่ มันคือภูมิคุ้มกันทางสังคมที่ดีที่ครอบครัวต้องสร้างให้ และสิ่งนี้แหละคือจุดสำคัญสำหรับเรื่องนี้ที่ผมเห็นนะ คนที่เห็นเรื่องนี้เป็นปกติก็เพราะเขาเป็นคนแบบนั้นและอยู่ในสังคมแบบนั้นได้สะบาย แต่ถ้าคนบางคนรู้สึกสูญเสียความเป็นตัวเอง รู้สึกชีวิตลำบากขึ้น เพื่อแลกกับคอนเน็คชั่นที่จะถีบชีวิตตัวเองให้เป็นชนชั้นอีลิทในอนาคต ถ้ามันรู้สึกว่าคุ้มแล้วกับการที่ต้องเปลี่ยนตัวตนเพื่อเข้าสังคมนั้นก็แล้วแต่คนๆนั้นจะชั่งน้ำหนัก
ผมกำลังพูดในมุมมองสัตว์สังคม มันมีสังคมอีกหลายรูปแบบมาก และคนบางส่วนก็อยากเป็นที่ยอมรับในสังคมที่ตนอยู่ แต่บางครั้งคนบางส่วนนั้นลืมตั้งสติสำรวจใจตัวเองว่าเราเป็นคนประเภทที่เราอยากอยู่จริงหรือ และคำตอบของสิ่งนี้ก็ย้อนกลับไปที่เรื่องภูมิคุ้มกันทางสังคม ผมสมมุติว่าถ้าเด็กทุนอีกคนที่มาจากตจว.เจอสถานการณ์เดียวกันนี้ในสังคมนี้ แต่ถ้าเขามีภูมิคุ้มกันทางสังคมที่ดี เขาใช้ชีวิตในความเป็นตัวเองได้อย่างมีความสุข และมองโลกในแง่ดีว่าที่เพื่อนบางส่วนไม่คบด้วยมันก็แค่ไลฟ์สไตล์ชีวิตไม่เหมือนกัน เขาอาจเหยียดเรา แต่เราก็ไม่จำเป็นต้องทำตัวน่ารังเกียจแบบเขาก็ได้นี่นา และส่วนตัวผมเขื่อว่าไม่มีใครโดดเดี่ยวหรอกครับ ในสังคมนั้นๆมันจะมีคนประเภทเดียวกับเราอยู่แน่นอน เขาอาจรอวันให้เราไปสร้างสังคมด้วยกันก็ได้ คนประเภทเดียวกันย่อมอยู่รวมกันเป็นสังคมนั้น ถ้าเราอึดอัดก็คงไม่ใช่ที่ของเรา อันนี้ส่วนตัวแบบคร่าวๆนะ
คุณพ่อคุณแม่เด็กจุฬามีเงินเดือนรวมกันประมาณ 200,000 บาท แต่ไปอยู่ที่ สยาม-สามย่าน แล้วรับรู้เลยว่าตัวเองจน เพราะทุกอย่างรอบตัวแพงหมด กินข้าวธรรมดายัง เริ่มต้น 70 บาทไม่รวมน้ำ และ notebook ขั้นต่ำ ต้องเป็น apple .. จริง ๆ มันไม่มีใครผิดนะครับ ต่อให้ที่โพสมาข้างต้นเป็นความจริงก็ตาม
ผมเรียนคณะผู้หญิงเยอะๆ ผมก็เห็นสาวหลายคนใช้ก็ laptop ธรรมดาครับ สาวพวกนี้ก็เห็นมีความสุขกัน สดใส มีกลุ่มเพื่อนของเขา ส่วนกลุ่มคุณหนูราชนิกุล macbook+starbuck+goyard ก็มีกลุ่มของพวกเขากันไป ทุกคนมีกลุ่มก้อนของตัวเอง สังคมหลากหลาย
สมัยก่อนเรียนใช้แค่ปากกาสมุดหนังสือคือจบไม่แปลกแยก พอหลังๆมาอย่างมากต้องมีโทรศัพท์นะ ต้องมีไอแพตนะ คอมต้องสเปกดีๆนะ ไม่มีใครบังคับเราให้ต้องมีหรอกใครก็พูดได้ แต่สุดท้ายสภาพการเรียนก็จะกดดันให้เรา 'ต้องมี' เอง
ตอนเรียนจุฬาทำให้เราได้รู้เลยว่าคนรวยมันเยอะขนาดนี้เลยหรอ ขณะที่บ้านเราเองก็ไม่ได้จน ชนขั้นกลาง รายได้ต่อเดือนมากกว่าค่าเฉลี่ยในคลิปนี้ ก็ยังรู้สึกว่าเพื่อนในคณะรวยกันเยอะมาก
จากปสก.ตรงที่เคยสัมผัสคนรวย รวยแบบรวยจริงๆนะ คือโลกคตตตจะใส มารยาทดี พ่อแม่คตสอนดี ไม่นินทาไม่แสดงความขี้อิจฉาใดๆเลย คืือก็ไม่เชิงว่าเป็นพระมาเกิด แต่โดยรวมเลยคือในบรรดาผู้ใหญ่ทั้งหมด ชอบคนนี้ที่สุด ก็ไม่รู้ว่าบ้านรวยบ้านอื่นเป็นยังไง แต่เกิดมา27ปีในชีวิต คนรวยที่เคยรู้จักจะเป็นคนสุภาพ พูดดีไม่หยาบคายไม่อวดด้วยนะ(แบบคาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิดนะไม่ใช่ดิ้นมาจนรวย)
ถ้าอิงตามงานวิจัยนะ เด็กจุฬามาจากบ้านที่ค่อนข้างมีฐานะ เขาก็จะมีวิถีชีวิตที่สอดคล้องกับกำลังทรัพย์ของเขามันก็เป็นเรื่องปกตินะครับ สิ่งที่มันแปลกสำหรับคนที่เพิ่งจบมัธยมมาแล้วเข้ามหาวิทยาลัยคือ ตอนอยู่ประถม มัธยม ความแตกต่างระหว่างฐานะไม่ค่อยมีอิทธิพลต่อการยอมรับ การให้เกียรติต่อเราของคนรอบข้างมากนัก ถึงแม้ฐานะจะค่อยๆมีผลต่อมุมมองที่คนอื่นมองเรามากขึ้นเรื่อยๆตามอายุที่มากขึ้น ประเด็นสำคัญน่าจะอยู่ตรงที่ ความชันของสิ่งนี้มากกว่า พูดง่ายๆคือ ระดับการให้เกียรติคนที่ฐานะไม่ได้ดี ใช้โทรศัพท์แอนดรอย คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คแบบธรรมดา กินอาหารโรงอาหาร กับคนที่มีฐานะดี มันต่างกันมากแค่ไหน ถ้ามันต่างกันมากถึงระดับที่คนฐานะไม่ดีโดนบูลลี่ โดนล้อ มีเพื่อนน้อย อันนี้ไม่เกี่ยวกับรสนิยมนะครับ ทุกๆคนก็อยากมีสังคมที่ดี
อยากบอกน้องๆว่า อายุยิ่งเยอะขึ้น เรื่องนี้จะหนักข้อขึ้นเรื่อยๆด้วยซ้ำ ถ้าเราทำให้คนที่ฐานะดีไม่พอใจ เผลอๆคนอื่นไม่กล้าคุยกับเรา
ฉันที่จนแล้วเรียนที่ราชภัฎในกทม.ยังรู้สึกด้วยกว่าคนอื่นทจะซื้อคอมดีๆมาไว้เรียนยังลำบาก กิจกรรมอะไรที่นอกเหนือวิชาก็ต้องงด ความเหลื่อมล้ำในจิตใจลบได้ยากมาก
การทำลายชุมชนสามย่าน คือการยัดเยียดความแพงให้นักศึกษา
สมัยก่อนมีชุมชนสามย่านด้วยหรอครับ
@@thanabodeefk.1130หมายถึงตลาดเก่าที่ถูกแปลงเป็นห้างราคาแพงครับ เรียกชุมชนก็ไม่ผิดนะ
@@thanabodeefk.1130 ไปอยู่ไหนมาคะ เมื่อก่อนแถวนั้นมันก็มีชุมชน ย่านร้านค้าบ้านคนทั่วไปนี่แหละค่ะ แต่โดนไล่ที่เอาไปทำสนามรถ ทำห้างเกือบหมดแล้วค่า
@@vialiomw276 อยู่ที่อื่นครับ เพิ่งย้ายมาเรียน ขอบคุณมากนะครับ🤩
@@thanabodeefk.1130ตะก่อนตึก3ย่านmidtownคือตลาดสามย่านมีอาหารราคาถูกอร่อยๆเยอะและราคาไม่แพงถูกเลยโดยเฉพาะสเต็กพื้นที่รอบๆก็เป็นตลาดขายอาหารร้านเกมpsราคาถูกให้คนในพื้นที่
เป็นเด็กจุฬา ฯ แต้บ้านจนครับ (แต่ก็ได้รับความช่วยเหลือจากสังคมจุฬาฯ มากพอสมควร)
เคยมีแฟนเก่าเป็นเด็ก ฬ ก็ แอบ surprise ที่แบบ บ้านเราเกิดมา ทำงานบ้านเองหมด แต่บ้านเขามีแม่บ้านมาตั้งแต่เกิด พี่สาวเขามีกัน 3 คน ก็ จบมา ไปต่ออังกฤษ กันหมด
ถึงแม้จะมีอะไรหลายอย่างที่ต่างเรามาก แต่เขาไม่เคยเหยียดเราเลย แถมยังชมว่าเราเก่งที่ทำอะไรด้วยตัวเองหมด อยู่ที่คนแหละ
พูดแบบตรงไปตรงมาเลย สังคมชนชั้นวรรณะสังคมนึ่งเลย
555 ธรรมดาครับ สังคมไทยชอบใช้กันจังเลยไอ้คำว่า mindsetเนี้ย ได้ยินจนรู้สึกว่าคำนี้มันตลก
ไม่ว่าใครก็ตามที่พูดความจริง ในมุมมองและความรู้สึกทางสังคมที่ต่างออกไป จะมีคนวิพากย์mindsetของคนผู้นั้นเสมอ ทั้งๆที่ในความเป็นจริง แต่ละคนมันผ่านอะไรมา มันเจออะไรมา ไม่เหมือนกันหรอก แม้จะอยู่ในรั้วมหาลัยเดียวกัน. หรือแม้จะอยู่ในบ้านหลังเดียวกันก็ตาม
มันไม่มีหรอกคนจน 1 คนท่ามกลางคนรวยหรือแม้แต่ชนชั้นกลาง ที่เขาจะไม่รู้สึกมีปมด้อยอะ ลองคิดดูเพื่อนนั่งข้างๆกันถามว่ากลางวันนี้กินอะไรดี เย็นนี้ไปเที่ยวไหน น้องใช้ทุนที่หลักๆทานแต่ในโรงอาหารเขาจะรู้สึกโดดเดี่ยวแค่ไหนอะ เขาก็ต้องเข้าสังคมถูกปะ ชีวิต 4-5 ปีมันจะให้มีแต่ความรู้ก็ไม่ถูกอะ คนที่เข้ามาด่าน้องดัดจริตอยากได้อยากมี ก็อยากให้คิดบ้าง น้องอยากมีเหมือนเพื่อนมันก็ไม่แปลกเลย ถ้าเราคบเพื่อนเราก็อยากไปไหนด้วยกันปะ อยากคุยเรื่องเดียวกันรู้เรื่อง บางคนคอมเมนต์น้องจิกกัดแต่ตัวเองก็ยังอยากได้อยากมีเหมือนคนอื่นๆก็เยอะ
เคยมีเพื่อนเป็นคนตจว. แต่ได้ทุนหรือได้โควต้าอะไรสักอย่างมาเรียนจุฬา .. เพื่อนเล่าว่าเด็กทุน หรือเด็กบ้านจนค่อนข้างอยู่ยากในสังคมที่นั่น จะขอทุน ขออะไรกลายเป็นเรื่องแปลก ประหลาด แตกต่างเพราะนศ. ส่วนใหญ่ที่นั่นเขาไม่ขอ ไม่ทำกัน .. นั่นสังคมในสมัยนั้น สมัยสักยี่สิบกว่าปีมาแล้ว จากประเด็นนี้จนถึงปจบ. สังคมภายในที่นั่นก็น่าจะไม่เปลี่ยนไปเท่าไหร่ ที่เปลี่ยนแบบเห็น ๆ ก็คงเป็นที่แอดสรุปในตอนท้าย คหสต. ก็ว่าจุฬาคิดหาทำแต่เงิน ๆๆ เหมือนบมจ. ในตลาดหลักทรัพย์ มากกว่าสถาบันการศึกษาเก่าแก่อันทรงเกียรติ🙄
ใจนึงก็เข้าใจคนจน แต่อีกใจก็ต้องเข้าใจคนกลาง คนรวยบ้าง จะเอาใจแต่คนจนไปตลอดก็คงไม่เกิดการพัฒนา เรื่องสร้างห้างสร้างคอนโด ก็ให้เขาสร้างไปเถอะ ถ้าส่วนนึงให้บุคคลากร ให้นักศึกษามีส่วนร่วม มันก็เป็นการเปิดการพัฒนา จะ Romance อะไรกับวัตถุมากมาย ถึงจุดนึงมันก็ต้องจากไป แต่เรื่องทำลายหอยูโดยที่ไม่มีสิ่งทดแทนใกล้เคียงให้ อันนี้ก็น่าเห็นใจ เพราะธรรมดาก็ตัวเลือกไม่น่าจะเยอะมากกันอยู่แล้ว
เคยต้องทำงานที่ต้องเจอนักศึกษาหลากหลายสถาบัน บอกเลยทุกครั้งที่เจอเด็ก ฬ คือแต่ละคนดูไฮโซมาก ผิวพรรณวรรณะดี ดูมีรสนิยม เดินเหมือนลอยมา
พวกดัดจริตไงครับ โดนแดดไม่ได้😂😂ส่วนมากสวยเพราะมือหมอทั้งนั้น หน้าตา ผิวพรรณ ตอนแรกๆไม่ได้แบบนั้นหรอก เลยต้องไปหาหมออัพเกรดหน้าตา ผิวพรรณ พอเริ่มดูดีนิสัยก็จะเปลี่ยน จะเริ่มหยิ่งๆหน่อย เดินเชิดๆ เพราะคิดว่าตัวเองมีราคา😂😂
@@user-tn2cq9wz4k
นี่ก้มองโลกในแง่ร้ายเกินไปมั้ย
@@QWERTYQWERTY-iv7pi ไม่ได้มองโลกในแง่ร้าย แต่มันคือเรื่องจริงที่เจอมากับตัวเอง
เขามีเงินค่ะ เขามีสิทธิ์ที่จะเลือกสิ่งที่ดีให้ตัวเองค่ะถ้าการที่ผิวพรรณดีหรือการฉีดหน้าทำหน้าไม่ไปทำให้ใครเดือดร้อน และสร้างความมั่นใจค่ะ
@@user-tn2cq9wz4k มันมีคนขาวเพราะกรรมพันธุ์ด้วยนะ ใจเย็นๆ และถึงเขาจะทำสวย อันนี้มันก็เงินเขาแหละ ไม่ผิดอะไรนะ 5555
เด็กจุฬาในที่นี้รวมถึงภาคพิเศษต่างๆ ที่เข้าได้โดยไม่เน้นผลการเรียนในการสอบเข้าด้วยรึเปล่า พวกนี้ค่าเข้าค่าเทอมแพงกว่าภาคปรกติอยู่แล้ว ระบบภาคพิเศษมันมีมานานแล้ว มีเงินเยอะมีที่นั่งให้เรียนแน่นอน
อันนี้จริง ถ้าคุณเรียนมหาลัย ตจว การมีรถญี่ปุ่นไปเรียน นาฬิกา apple watch หรือใช้ iphone ก็จะว้าว แซวกัน รวยหวะๆ แต่ในความเป็นจริงสังคมจุฬาคือ iphone เรื่องปกติมาก ใช้เก่าใหม่ไม่มีใครสนใจ เพราะมันแค่มือถือเครื่องนึงจะซื้อเมื่อไหร่ก็ได้ นาฬิกา เด็กจุฬาชั้นอีลิท ใส่ PP ,AP , ROLEX รถใช้รถ BENZ , BMW , AUDI , หรืออาจจะ PORSCHE กันเกลื่อนกลาด ใช้ชีวิตกินข้าวพารากอน กิน fine dine กันเป็นเรื่องธรรมดา ปิดเทอมไปซัมเมอร์ ตปท หรือไปเที่ยวเล่นยุโรปกันเป็นว่าเล่น ฮ่องกง สิงค์โปร์นี่เหมือนไปพัทยา อยากไปคือไปได้ทันที ตกค่ำเที่ยวทองหล่อ เอกมัย กันได้แบบถี่ๆ สังคมชนชั้นคนรวย คน elite ในจุฬา ต่างกับ ม.ตามต่างจังหวัดแบบฟ้ากับเหวจริงๆครับ ต้นทุนในชีวิตทางบ้านต่างกันมาก จบออกมาก็ไปเรียนคอร์ส ต่อยอดธุรกิจทางบ้าน เชื่อม connection กันไปเป็นทอดๆ
จิงแท้ สมัยเรียน เพื่อนใช้เบน บีเอ็มมีให้เห็นส่วนนึง แต่ส่วนใหญ่หลายๆคนเค้าก็ติดดินกินข้าวโรงอาหารนะ เว้นแต่บางกลุ่บางคณะเกาะกลุ่มกันเองเที่ยวต่างประเทศเรื่อยๆใช้แบรนเนม แต่เป็นกลุ่มน้อยเพราะเพื่อนจะไม่คบเพราะlife styleต่างจากชาวบ้านเกินไปจะไม่ค่อยมีใครยุ่งโดยบางคนรวยมาก แต่ทำดูlow เพื่อนสมัยเรียน บางคนดูโคตรงก ขี้เหนียว ในกลุ่มนินทาว่าขับbenzแต่เวลาไปกินนี้เลือกกินถูกๆถ้าไปกินแพงก็ขอแชร์ จนบางทีคิดว่ารวยจิงป่าว จบเรียนตอนไปต่อโทอังก เค้าต้องทำเอกสารรับรองการเงินว่ามีพอที่เรียนจบโท หรือป่าว เพื่อนเอาเอกสารมาแล้วทำตกเพื่อนอีกคนไปหยิบขึ้นมาดูมีเงินร้อยกว่าล้านเป็นชื่อมันเองไม่ใช่พ่อแม่ ตกใจกันใหญ่ รู้แค่คราวๆว่าทำอสังหา แต่ไม่นึกว่ารวยขนาดนี้ เพื่อนบ้างคนตอนเรียนดูปรกติ แต่พอเรียนจบเพิง มารู้ว่าเป็นเจ้าของsyntec เด็กบัญชี ปัจจุบันเป็นceoของsyntecแล้วชื่อยี้ ส่วนทองหล่อเอกมัยนี้น่าจะเป็นแหล่งเที่ยวของเด็กจุฟาอยู่แล้วในอดีต ไม่เที่ยวrcaกับรัชดา ส่วนถ้าใครยังโสดถ้าไม่ต่อโทต่างประเทศก็มักต่อที่ศศินเผื่อหาแฟนเพราะเป็นแหล่งรวมลูกนักธุรกิจ คนใหญ่คนโต เพื่อนในรุ่นไปเรียนก็ได้แฟนเป็นลูกเจ้าของโรงบาลรามคำแหง
แต่ละกลุ่มคนก็ใช้ชีวิตในแบบที่เค้าเป็น และนี่แหละคือเส้นกั้นระหว่าง คนรวย คนจน คนชั้นกลาง มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเอง มันเป็นความปกติที่ไม่ปกติ แต่ถ้าสามกลุ่มมารวมกันเส้นกั้นมันก็จะชัดเจนขึ้น
ไม่ต้องถึงจุฬาหรอก สังคมมัธยมโดยเฉพาะในห้องเรียนโครงการ EP เป็นต้น นี่เห็นถึงความต่างชั้นแล้ว เด็กส่วนใหญ่ในห้องนี้ไม่ต้องถามถึงด้านภาษาเลย ต้องถามว่าพ่อแม่่ทำงานอะไรถึงจะมีเงินจ่ายค่าเทอมที่แพงระยับขนาดนั้นได้ ซึ่งเด็กส่วนใหญ่จะเรียนห้องนี้ได้พ่อแม่ก็จะต้องมีฐานะพอสมควร สังคมส่วนใหญ่ในห้องเป็นของคนรวย กลับกันถ้าพ่อแม่เป็นแค่ข้าราชการ ฐานะปานกลางที่พอจะมีเงินจ่ายค่าเทอมลูกอยู่บ้าง เด็กในนี้ก็จะเป็นคนละอย่างเลย คนรอบข้างใช้ของแพงๆ ในขณะที่ตัวเองต้องอดทนเก็บเงินเพราะรู้ว่าพ่อแม่ลำบาก เวลาจะทำอะไรกับเพื่อน เพื่อนจะพาไปไหนก็ลำบากใจเพราะค่าใช้จ่ายเยอะ สถานที่และะสังคมที่เจอเลยต่างกันมาก
ในมุมมองของผู้ปกรอง ผู้ปกครองที่เค้าจะมีเงินได้ มีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีได้ เค้าก็ผ่านการทำงานมาอย่างเหนื่อยยากในบางอาชีพ ค่าตอบแทนที่ได้รับมันก็คุ้มค่ากับที่เค้าลงแรงไป และพ่อแม่ก็มอบคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับลูกของเค้ามัน มันไม่ผิดหรอกครับ คุณมีน้อยกว่า "อาจ"เป็นเพราะหลายเหตุปัจจัย ผู้ปกครองของคุณพยายามมากพอหรือไม่ ที่จะทำพัฒนาให้ชีวิตดีขึ้น ผู้ปกครองของคุณสอนเรื่องการอย่าตกเป็นเหยื่อของวัตถุนิยมมากน้อยแค่ไหน ครอบครัวอื่นผมไม่ทราบได้ แต่ผม และภรรยา สอนให้ลูกรู้จักประมาณตน ไม่ฟุ่มเฟือย และใช่ครับ ผมเหนื่อยยากลำบาก กว่าจะมีฐานะที่ดีขึ้นมาได้ และมอบการศึกษาที่ดี พร้อมกับคุณภาพชีวิตที่ดีให้ลูกๆ ของผม มันเป็นเรื่องที่พ่อแม่เกือบทุกคน ที่อยากให้กับลูกของตนเองได้มากที่สุด เพื่อตัวเค้าเองในอนาคต
อยากจะบอกว่า เมื่อเราโตขึ้น เราควรเลิกโทษนั่นนี่ ว่ามันทำให้เราอับจนหนทาง ไม่มีอนาคตที่ดีเหมือนคนอื่นเค้า พัฒนาตัวเองเถอะครับ ผู้ปกครองเราทำมาได้เท่าไหนเค้าก็ทำสุดกำลังของเค้าเเล้ว ต่อไปคือหน้าที่ของเด็กๆ เอง ที่จะไปต่อให้ไกลกว่าที่เป็นอยู่ "เลิกโทษสังคมรอบข้างครับ แก้ที่ตัวเราเอง"
จริงครับ มันมีคนที่รวยแบบรวยจริง แต่ก็ไม่ได้แบบว่าคนชนชั้นกลางค่อนล่างอยู่ไม่ได้
มันก็คือสังคมที่เราต้องเข้าใจว่ามันไม่เท่ากันเหมือนสังคมออฟฟิส
ถ้าคนที่มองว่าเขาอยู่แล้วมี ปห. เราก็ควรช่วยให้เขาอยู่ได้ดีกว่าไปตำหนิเขา
เราเข้าใจเอาเองมาตลอด ว่าผลการเรียนไม่เกี่ยวกับความรวยความจน น่าจะขึ้นอยู่กับว่าตัวนักศึกษาเขาเอ็นจอยการเรียนมากกว่า และเด็กที่ได้รับทุนการศึกษาก็เพราะเรียนดี ไม่คิดว่าพวกเขาจะต้องถูกพิสูจน์ความจนอย่างเข้มข้น ส่วนเรื่องสภาพแวดล้อมที่แพงขึ้น เห็นด้วยว่าจุฬาควรจะโฟกัสความเป็นอยู่ของนักศึกษาในภาพรวมเป็นหลัก มิใช่ผลประโยชน์ทางธุรกิจ
จนก็กินแบบจน จนก็เรียนแบบจนงี้ป่ะ เหมือนแบรนด์หรูๆที่ถ้าคุณมองว่าแพงก็แสดงว่าคุณไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายเรา อันนี้น่าคิดนะ เข้าใจน้องเขานะถ้าอยู่กลุ่มเดียวฐานะเดียวกันน้องคงไม่ต้องพยายามอะไร แต่สังคมยังตัดสินการทำงานว่าคุณเรียนมหาวิทยาลัยไหนอยู่ คนเราอยากทำให้ชีวิตตัวเองดีขึ้นอยู่แล้ว แล้วก็ต้องเอาตัวเอาไปอยู่ชนชั้นที่มันต่างกัน น้องไม่ได้อยากดูรวยดูแพงหรอก น้องแต่อยากปกติในคนหมู่นั้น ซึ่งความปกติของเขาราคาค่อนข้างสูง
มันอยู่ที่เลือกคบเพื่อน สังคมมหาลัยก็ร้อยพ่อพันแม่ เลือกคนที่เขาคบกันที่ตัวตน ไม่ต้องไปสนใจพ่อแม่เขา ไม่ต้องไปสนใจฐานะที่บ้านเขา ถ้าเราเจอคนแบบเดียวกัน ศีลเสมอกันก็จะเป็นเพื่อนกันได้เอง
อย่าไปตั้งเงื่อนไขให้ตัวเอง ยิ่งเงื่อนไขกับตัวเองมาก ความสุขก็จะน้อย รู้สึกขาด รู้สึกด้อย รู้สึกมีปมตลอดเวลา
เกือบยี่สิบปีที่เเล้วเรียนจุฬาป.โท เพื่อนเกือบทั้งกลุ่มเด็กกรุงเทพ ค่อนข้างมีฐานะ มาจากครอบครัวที่มีพื้นฐานดี พ่อเเม่เป็นหมอ อาจารย์ จำได้ว่าเคยบอกกับตัวเองว่าว่าเพื่อนกลุ่มนี้คืนเพื่อนที่ดีที่สุดที่เคยมีมา เพราะทุกคนสุภาพ นิสัยดี น่ารักกันทุกคน บางคนเก่งมากเเต่ไม่เคยอวดค่ะ
น้องพูดทิ้งท้ายแบบขนหัวลุกเลย จริงหมด ทุกอย่างวันนี้กลายเป็นเงิยหมุนรอบตัวหมด
ชีวิตเรียนแถมสยามมา 7 ปี กล้าพูดว่าไลฟ์สไตล์เราเปลี่ยนไปมากจริง ๆ แต่ก่อน จะซื้อน้ำราคา 60 บาทรู้สึกว่าแพงมาก แต่ตอนนี้ราคา 60 บาทคือถูกแล้ว ไม่เคยรู้สึกแย่กับฐานะบ้านตัวเอง จนได้เห็นคนรอบตัวสามารถไปเที่ยวตปทได้บ่อยๆ กินอาหารจารละหลายร้อย มีบ้านใจกลางเมือง ซื้อเสื้อผ้ารองเท้าหลักพันได้แบบไม่ต้องคิดอะไร มันเปิดปสกความเหลื่อมล้ำจริงๆนะ เราเข้าใจแทนไทมากๆ
มีเพื่อนที่อยู่ในทุกๆฐานะ แบบที่รายได้น้อยกว่าเราไปจนถึงรวยกว่าเรา ทุกคนเป็นเพื่อนที่ดีมากๆนะ แต่มันชัดมากเลยว่าไลฟ์สไตล์มันโคตรจะต่างกันมากกกกกกกกก แล้วอะไรพวกนี้ก็จะค่อยๆคัดสังคมรอบตัวเรา
เห้อให้พูดเรื่องนี้ก็พูดไม่หมด การ fit in ดข้ากับสังคมได้ (ที่เกิดจากการตีความเอาเอง ความอยากมีอยากเป็นเหมือนคนอื่น) มันราคาแพงมากกก เสื้อผ้าหน้าผมรองเท้ากระเป๋าโทรศัพท์อุปกรณ์ทุกอย่าง ละทุกคนมีเหมือนเป็นยูนิฟอร์มอะ
อยากให้มหาลัยมันมีความแคมปัสกว่านี้ ทุกวันนี้คืออยู่กลางเมือง ไปไหนก็มีแต่ห้าง ค่าครองชีพสูงลิ่ว โดยเฉพาะคณะที่ถูกแยกออกมาอย่างเรา ไม่เคยได้ใช้ฟาซิลิตี้ของมอเลย ทุกวันนี้ไปเรียนคือเดินผ่านห้างเข้าคณะ เรียนเสร็จเดินผ่านห้างกลับ ไม่มีความเป็นแคมปัสเลย คือมันก็สะดวกดีที่อยู่ในเมือง แต่บางทีเราก็อยากให้สิ่งแวดล้อมรอบคณะเรามัน pocket friendly และน่าอยู่มากกว่านี้
อย่าถามถึงความเท่าเทียมเลยบนโลกนี้มันไม่มีอยู่จริงหรอก
แค่อย่าไปรบกวนหรือทำให้คนอื่นเดือดร้อนก็พอ
ในครอบครัวยังไม่เท่ากันเเลย
ถูก ความเท่าเทียมเป็นแค่คำปลอบใจ
@@cordybertron9379แต่การเรียกร้องอะไรพวกนี้ของบางคน หรือบางกลุ่มมันทำให้คนอื่นเดือดร้อนครับ
จริงครับโลกความเป็นจริงมันไม่ได้สวยหรูพูดเเล้วเศร้าเเต่ก็ต้องยอมรับความจริงงง
ประเด็นเรื่อง macbook อันนี้ไม่รู้ครับแต่สำหรับ iPad ถ้าคนทั้งคณะใช้ iPad ทำงานคุณจะใช้กระดาษจดส่งอ่ะครับมันก็ไม่ได้หรือได้ขนาดที่เขาส่งงานกันด้วย iPad คุณคิดถึง สีหน้าของอาจารย์และเพื่อนๆ ที่ต้องเห็นความแตกต่างของคุณความล่าช้าในการทำงานของคุณ แต่ในสังคมของมหาวิทยาลัย เรื่องของชนชั้นมันมีอยู่จริง
ไอแพดหรือไม่ก็โน้ตบุคจำเป็นมากจริงๆค่ะ ขนาดเราเป็นคนประหยัดยังต้องลงทุนซื้อของพวกนี้เพราะต้องใช้ทำงานส่งเเทบทุกวิชาเลย
จริงๆใช่Tabletก็ได้นะไม่ได้แพงมาก
@@hyperboyz9 แต่คุณภาพนะสิคะ จะใช้ได้สักกี่ปี ขนาดของน้องเราซัมซุงTab S6lite ราคา12000 ผ่านไป1ปีกระตุกและช้า 2ปีผ่านไปอาการเริ่มหนัก แล้วเด็กนักเรียนเขาใช้แทบจะทั้งวันทั้งคืน ซื้อไอแพดเจน9ราคา10000+ปากกายี่ห้ออื่นๆราคา400-800คุ้มกว่ามากค่ะ เพราะแรงกว่ามาก ใช้ได้ยาวๆจนจบสบาย
ipad ไม่ได้แพงขนาดนั้นครับ แถมนักศึกษายังมีส่วนลด แล้วเพื่อนผมไม่ใช้ ipad เลยมันก็อยู่ได้ครับ มันดูสไลด์ในจอโทรศัพเก่าๆเล็กๆ ถ้ามีการบ้านก็เขียนโน้ตใส่กระดาษแล้วถ่ายส่งครู เป็นเด็กตจวง่ายๆ เขาไม่คิดเยอะคิดเล็กคิดน้อยเลย แถมเป็นคนประหยัด
โดยความเห็นส่วนตัวนะ บอกก่อนไม่ได้จบจุฬา เรียนแค่เอกชน จะมองภาพรวมๆทั่วโลก
จริงๆแล้วกลุ่มที่เรียนมหาลัยถือว่าเป็น hightknowledge สังเกตุได้ว่าคนที่จบระดับนี้ขึ้นไปจะไม่ค่อยเหยียดกันทั้งฐานะและเพศ แต่มักจะตามกันตามประสาวัยรุ่นกลืนสังคม ซึ่งไม่ได้แปลกอะไร กว่าจะเป็นตัวของตัวเองก็ต้องใช้เวลาหาตัวเองให้เจอกันก่อน
ต้องทำวิจัยต่อ เกี่ยวกับการเข้ามาเรียนที่ จุฬ นั้นมีความต้องการอะไร อยากได้อะไรจากที่นี่ เพราะคนจนกับคนรวยมีจุดหมายที่ต่างกันนะกับการเลือกเรียนซักที่หนึ่ง และในเหตุการณ์ปกติ คนรวยเหล่านั้นจะไม่คิดต่อต้านหรือมีปัญหากับคนชนชั้นกลางหรือล่างแน่นอน เพราะคนจนไม่ใช่ปัญหาของพวกเค้าในสถานที่แห่งนี้ แถมคนจนๆเนี่ยแหละคือสิ่งที่จะทำให้คนรวยได้แสดงออกถึงคุณค่าของตัวเองได้มากขึ้น ด้วยการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่หรือแค่การเป็นเพื่อนด้วย แต่ถ้าทั้งหมดนี้ถูกวิเคราะห์จากที่ทำงานในแต่ละะแห่งบ้างละผมกล้าพูดเลยว่าชัดกว่านี้แน่นอน เราออาจจะได้เห็นในอีกมุมที่ดำมืดดดดดดดดดดดดดด ก็อาจจะเนอะ
นักเรียนหญิงเข้าปี 1 ต้องใส่ชุดนิสิต กระโปรงพลีท รองเท้าขาว แล้วรู้มั้ยว่ากระโปรงพลีทจุฬาบอกความรวยได้
ตอนนั้น ไปซื้อชุดนิสิตที่สยามสแควร์ (ซึ่งตึกนั้นโดนทุบไปแล้ว) พึ่งรู้ว่าเสื้อนิสิตต่างกับเสื้อนักศึกษา กระโปรงพลีทหลักร้อยต้นๆ เป็นเอวยางยืด
แต่มันจะมีร้านนึงได้ยินว่าอยู่แถวสามย่าน (เพราะไม่เคยไป 555) เป็นกระโปรงพลีทขอบเรียบ รอยพับจีบอย่างไฮโซ ความทิ้งตัวของกระโปรงช่างสวยงาม เพื่อนบอกน่าจะ 700 มีเข็มขัดขายด้วย สีของเข็มขัดหนังกลับนั้นมีความนู้ดสวยกว่าเข็มขัดที่ขายในจุฬาซะอีก อยากได้นะ แต่ไม่เห็นความจำเป็น 5555
ปีหนึ่งอย่างลืมซื้อติ้งด้วยนะ (เข็มกระดุม? รูปสัญลักษณ์ตามคณะ ไม่มีประโยชน์อะไร แค่สวย อวดว่าอยู่คณะอะไร และทำให้การแต่งตัวไปเรียนใช้เวลาเพิ่มอีก 10 นาที=สาย เพราะอย่าลืมบวกเวลารถติดไปด้วย) กับรองเท้าขาวอันนั้นที่ขาวไม่เกิดอาทิตย์
พอจำได้ตอนลูกสาวสอบเอ็น น่าจะ 10 กว่าปีมาแล้ว ได้ถามลูกว่าทำไมไม่ได้เลือกจุฬาอันดับ 1 นางบอกว่ามีแต่คนรวยๆไม่เอาละอยู่ลำบาก เพราะที่บ้านรับราชการเพราะอาจารย์ที่ รร ก็บอกว่าลูกสาวถ้าเลือกโอกาสติดแน่นอน ก็ไปเลือกที่อื่นพอเรียนนางได้ทุนไปเรียนต่างประเทศ จบมามีงานทำ เงินเดือนสูงเป็นบริษัทญี่ปุนเลยไม่รู้จริงไหม
เห็นด้วยกับน้องค่ะ ไม่จำเป็นต้อง จุฬา
น้องเราอยู่มอ.อื่นต้องมาขอไอแพค เพื่อเอาไปเรียน ทั้งๆที่มีโน๊ตบุ๊คอยู่แล้ว บอกเอาไปส่งงาน เราว่าอาจารย์มีส่วน คุณเลือกสะดวกคุณ แต่นศ.ต้องมาขอผู้ปกครองเพื่อส่งงาน มหาลัยก็ไม่ได้ซัตพอร์ตอะไรเลย
เราว่าเค้าไม่ได้บังคับว่าต้องใช้ไอแพดทำ แต่การใช้ไอแพดจะทำให้น้องคุณทำงานง่ายขึ้น ก็แค่นั้น ถ้าเราไม่มี เราก็จะลำบากกว่าคนอื่นิดหน่อย แต่ไม่ใช่ทำไม่ได้
@@penguinfreezing3860 มันเหมือนเป็นการสร้างค่านิยมหรือป่าวคะ ฟังก์ชันบางตัวที่ window andriod ไม่มี แต่คนใช้ apple มี บางทีคนเป็นอาจารย์ ควรหาวิธีการที่สามารถทำได้ สะดวกทั้งสองแพลตฟอร์มหรือแพลตฟอร์มอื่นๆอีกไมคะ
สม
เพื่อนตอนประถม แยกย้ายกันไป เพื่อนไปเรียนเตรียมอุดมต่อด้วยจุฬา ไปเจอกันอีกที คือเปลี่ยนไปเลย ใช้ชีวิตกันคนละแบบ ถ้าพูดง่ายๆ คือใช้ชีวิตแบบรวยขึ้นมา ทั้งการไปเที่ยวก็ต้องเที่ยวตปท. กระเป๋าก็แพง เราว่าสังคมเชฟคนออกมาคือมีผลสุดๆ
ลูกพี่ลูกน้องเราได้ทุนนาฏศิลป์ไปเรียนต่อจุฬานะ ยังบอกเลยว่าเป็นมหาลัยแบ่งชนชั้น พวกเด็กรวยจะเกาะกลุ่มกัน มีไอโฟนตัวท็อป กระเป๋าหลักแสน นาฬิกาหรู ส่วนพวกเด็กทุนบ้านกลางๆค่อนจนก็จะเป็นอีกกลุ่ม
มันแบ่งชั้น และคัดแยกด้วยวิธีการใช้ชีวิตอยู่แล้ว เข้ามาแรกๆ อาจคุยเจอกันปกติ แต่หลังๆ พอวิถีการใช้ชีวิตต่างก็พากันเหวี่ยงไปอยู่ในสังคมของตัวเองเอง คนศีลเสมอกันอยู่ด้วยกัน ไม่ใช่ว่าคนรวยจะไม่คบคนจน
ชอบที่สรุปเรื่องทุบตึกสร้างห้าง จริงสุดๆๆๆ เราจบจุฬาเหมือนกัน เมื่อก่อนหาของกินง่ายมาก ตอนนี้ไปเดินแถวนั้นยังสงสัยว่าเด็กๆจะกินอะไรกัน เรามีเงินเดือน ยังรู้สึกว่าแถวนั้นโคตรแพงเลย
เราเป็นเด็กบ้านนอก ไม่เคยรู้ว่าคนในกทม. ให้ความสำคัญกับการเรียนจฬ มากขนาดนี้ ขอแค่เรียน จฬ เป็นคณะอะไรก็ถือว่าเก่งหมด
จากประสบการณ์ เคยทำงานกับเด็กจุฬาฯ นะครับ ยอมรับนะครับว่าส่วนใหญ่(80%)รวยจริง เด็กจบใหม่บางคน มีรถหรู (ราคา 1 ล้าน++) มีไลฟ์สไตล์ รสนิยมที่สูงกว่าทั่วไปเช่น กาแฟ ต้องสตาร์บัค ข้าวกลางวันก็เห้นชวนกันไปทานบนห้าง ร้านอาหารที่มีชื่อ แต่ผมคิดว่ามันก็แค่ไลฟ์สไตล์ อีกด้านนึงพวกเขา Nice มาก และ ใช้ชีวิตในการทำงาน เหมือนพนักงานทั่วไปคนนึง ไม่ได้หยิ่งผยองในตัวเองอะไรเลย แต่ก็นั่นแหละ ผมไม่เคยชวนเด็กๆจุฬาฯ กินข้าวเลยเพราะ ไม่กล้าชวนไปกินก๋วยเตี๋ยว ข้าวราดแกง 5555555
ใครคิดถึงสเต็ก ชั้น 2 ตลาด 3 ย่านบ้างฮะ ถูก อร่อย โดนทุบทิ้งไปแล้ว
แต่ก่อนผมชอบไปกินที่้รานทูเดย์สเต๊กครับ (ร้านที่มีห้องแอร์) แต่ตอนนี้ไม่รู้ไปอยู่ที่ไหนแล้ว มีอีกร้านที่ย้ายลงมาด้านล่างก็โมกทิพย์
อร่อย เยอะ ถูก กินเสร็จเดินไปเล่นpsข้างๆตลาดต่อ
ดาวเทียมพริกไทดำ
อ้าว โดนทุบทิ้งไปแล้วหรือครับ ไม่ได้ไปนานไม่รู้เลย
ยังอยู่ไม่ใช่หรอครับ555555
เด็กจุฬาส่วนมากมีอันจะกิน เทสโดยรวมมันก็เลยสูงไปด้วยเรื่องนี้มันเป็นปกติของสังคมที่คนรวยมารวมตัวกัน แต่คนที่ไม่ได้บ้านรวยมันคือความรับผิดชอบของคุณ mindset ของคุณเองที่จะไม่ใช้จ่ายเกินตัว Ipad MacBook มันไม่ได้จำเป็นกับการเรียน มันช่วยให้เรียนสะดวกขึ้น แต่คุณไม่จำเป็นต้องใช้มัน ผมไม่เคยเรียนจุฬาแต่ก็เคยเรียนเตรียมอุดม เคยไปเรียนมหาวิทยาลัยต่างประเทศมา สังคมก็คือคนรวยเยอะ มือถือไอโฟน ใช้ไอแพด แมคบุ๊ค ปัจจุบันนี้ก็ทำงานในสังคมที่รอบตัวรายได้สูง ลูกค้าก็เป็นคนรวย คนในทีม 80% มีไอแพด แต่ผมก็เข้ากันกับทุกคนได้โดยไม่จำเป็นต้องมีไอแพด ไม่ต้องใช้คอมแพงๆ ไม่ต้องมีแมคบุ๊ค และเป็นแบบนี้มาตั้งแต่ตอน ม.ปลายที่เตรียมอุดมแล้ว ของแบบนี้มันอยู่ที่ mindset ตัวเองล้วนๆ
มหาลัยมีควรจะสร้าง facility ให้ตอบโจทย์คนรายได้น้อยจริง แต่ถ้าเป็นเรื่องของที่ใช้ รสนิยม อุปกรณ์การเรียนต่างๆ มหาลัยเข้าไปยุ่งไม่ได้อยู่แล้ว มันเงินเค้า เค้าจะซื้ออะไรมาใช้คุณจะมาน้อยเนื้อต่ำใจแล้วโทษคนรวย โทษมหาลัยไม่ได้
มันเป็นค่านิยม อยู่ที่ตัวเราว่าเราพึงพอใจในการใช้ชีวิตของแต่ละคนในรั้วมหาลัยนั้นๆ ส่วนตัวไม่น่าจะเอามาเป็นประเด่น เพราะจริงๆแล้วมันเป็นกันในทุกๆสถานศึกษา ตั้งแต่โรงเรียนอนุบาล ถึง มหาวิทยาลัย ต่อให้เป็นโรงเรียนที่อยู่ในตามชนบทที่เป็นโรงเรียนไม่ได้มีชื่อเสียงอะไรเลย ก็ยังมีการแบ่งกลุ่มเด็กมีอันจะกิน กับเด็กบ้านจน เหมือนกัน มันเป็นที่ระบบการศึกษาก็ส่วนนึงที่ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำในสังคม รายได้ของครอบครัวก็ด้วย จึงทำให้เกิดสถาบันการศึกษาที่สร้างขึ้นมาเพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายในเชิงธุรกิจมากกว่าการให้โอกาสทางการศึกษากับเด็กจริงๆ ถ้าถามว่าผิดไหมที่ทางสถาบันการศึกษานั้นๆจะยกตัวเองให้อยู่ในอีกระดับที่สูงขึ้นทางสังคมก็เป็นสิทธิของสถานศึกษานั้นๆไม่ได้ผิดอะไร มันขึ้นอยู่กับจิตสำนึกของผู้เรียน ในการใช้ชีวิตมากกว่า เป็นกันแบบนี้กันทั้งโลก ถ้าจะแก้ปัญหาต้องแก้ที่ระบบทางด้านเศรษฐกิจจะดีกว่า การที่เลือกจะเรียนในมหาลัยหรือสถานศึกษาดังๆอาจต้องมาพร้อมกับค่าใช้จ่ายที่สูง ค่านิยมทางสังคมที่สูง กลุ่มคนที่อยู่ในอีกระดับนึง ขึ้นอยู่ที่มุมมองของเรามากกว่า..พอใจแค่ไหนกับจุดที่เรายืนอยู่ในสังคม ทั้งสถาบันการศึกษา,กลุ่มเพื่อน, อาชีพ และวิถีการใช้ชีวิตต่อไปในอนาคต...ส่วนตัวไม่ได้ให้น้ำหนักไปกับเรื่องพวกนี้มากนัก เพราะรู้ว่า.. เวลาเปิดกระเป๋าตังค์เรามีเงินเหลือแค่ไหนกับการใช้จ่าย อะไรที่ซื้อได้ และ ซื้อไม่ได้ในตอนนี้..อยู่กับโลกความเป็นจริงถูกต้องที่สุด..ไม่เหนื่อย
สอบเข้าจุฬา ไม่ได้ยากถ้าเด็กคนนั้นมีความสามารถ แต่การใช้ชีวิตเรียนจุฬานี่แหละยาก สำหรับคนที่มาจากครอบครัวพอมีพอกิน 😅😅😅😅 ดังนั้นปมคิดว่า นอกจากเด็กต้องเก่ง ครอบครัวก็ต้องพอมีฐานะมีทุนทรัพย์สนับสนุนการใช้ชีวิตด้วย
ถ้าหาเพื่อนระดับเดียวกันไม่ได้จริงๆ ก็แค่อยู่คนเดียวครับ แล้วก็อย่าดู IG เยอะ มาคณะ ตั้งใจเรียน กลับหอ อ่านหนังสือ โฟกัสเป้าหมายชีวิตแค่นี้เอง
ระบบการศึกษาไทย แบ่งชนชั้นจริงๆ ที่สวิส จน รวยเรียนที่เดียวกันค่ะ
ข้อเท็จจริงนึงที่ไม่อาจปฎิเสธได้คือ สังคมรอบๆจุฬามันทั้งผลักและบีบให้เด็กโซนนั้น ต้องปรับตัว ทั้งค่าใช้จ่ายกินอยู่ก็เอื้อกับคนที่พอจะมีหรือมีเหลือๆ และไม่ผิดที่เด็กส่วนใหญ่อยากจะไปอยู่ในสังคมนั้นๆ ถ้าบ้านคุณทำนา คุณเห็นข้างบ้านมีเครื่องเกี่ยวข้าว ก็ไม่ผิดที่คุณอยากจะมีบ้างเพราะมันทำให้ชีวิตคุณง่ายขึ้น
รู้จักพอเเล้วจะมีความสุข ถ้ามีเพื่อนที่มองคนที่ภายนอกนั่นไม่ใช่เพื่อนนั่นมันเเค่พวก หาสังคมของตัวเองให้เจอ อาจารย์ควรอบรมณ์เเสดงตนเองเป็นเเบบอย่างเเก่นักศึกษาสอนให้รู้จักคุณค่าของความเป็นคนที่เเท้จริง 🇹🇭💪🏻🎉
โทษmindset ทำไม โทษความอยากได้อยากมีทำไม ก็เพราะความอยากได้อยากมีไม่ใช่เหรอถึงพยายามสอบเข้าจุฬา สุดท้ายคนเราก็เอาบันทัดฐานตัวเองไปตัดสินคนอื่น
พอเข้าใจความรู้สึกคนจนที่อยู่ท่ามกลางคนรวย แต่มันก็ขึ้นอยู่ว่าเราจะตอบสนองยังไง และคิดว่าส่วนใหญ่คงไม่รู้สึกไปทางบวก ส่วนเรื่องค่าครองชีพก็ขึ้นอยู่กับสังคม และมหาลัยจัดการ
ญาติเราก็จบ จุฬา แต่ครอบครัวไม่ได้มีฐานะนะ ทั้งครอบครัวพ่อแม่รวมถึงน้องชายแกเห็นต้องรวบรวมเงินเดือน 3 คนในครอบครัวมาจ่ายค่าเทอมให้แกคนเดียว ทั้งที่แกก็ได้ทุน และแกก็ทำงานด้วยแต่แกเรียนเก่งมากๆ ตอนแรกแกเรียนหมอเรียนไปสักพักแกก็เปลี่ยนสายไปเรียน บริหาร เรื่องการใช้ชีวิตหรูหรามันอยู่ที่คนและการเลี้ยงดู การเรียนม.ชื่อดังมันก็ต้องยอมรับว่ามันได้สิทธิ์พิเศษหลายอย่างโดยอัตโนมัติหลายด้านเอาจริงๆถ้าเงินถึงลูกพร้อมเชื่อว่าหลายๆคนก็อยากให้ลูกเรียน ม.ชื่อดัง
เด็ก ม.ราม บ้านจน เป็นเด็กวัด ยาม เด็กเข็นผัก เด็กเสริฟ แต่ก็สามารถเป็นผู้ว่า อธิบดี ปลัดกระทรวง ได้เยอะกว่าเด็กจุฬา
ตัวอย่างล่าสุด PR ราม ประกาศข่าว ศิษย์เก่า ม.ราม มีจำนวนผู้ว่ามากที่สุด 34 ราย และมีจำนวน นายอำเภอ 552 ราย จำนวนมากที่สุด มากกว่า จุฬา ธรรมศาสตร์
ส่วนตัว เราไม่ได้สนใจเลย ว่าใครจะรวยจะจน
แต่ว่า เราเป็น เด็ก ตจว คนหนึ่งที่มาเรียนที่ มหาลัยดังในกรุงเทพ แล้วรู้สึกได้ว่า
คนกรุงเทพ คน mindset ดีจริงๆ สั่งสอนกันมาดีมากๆ พวกเขาได้รับการอบรมจากโรงเรียน ในย่านกรุงเทพ
เราเห็นความต่าง ระหว่างเรากับเขาชัดเจนเลย
.
ก็ได้แต่คิดว่า ระบบการศึกษาไทยเรามันจะดีขึ้น กว่าที่เป็นอยู่
สมัยนั้นเราไปเรียนม.เอกชนที่ลูกคนรวยเยอะประมาณนึงก็รู้สึกเหมือนกันค่ะ มาจากจังหวัดเล็กๆที่โรงเรียนไม่สามารถสอนยากได้เพราะเด็กจะผ่านแค่กำมือเดียว แต่เด็กจังหวัดใหญ่ๆ/เด็กกทม.คือร่ำเรียนกันมาต่างระดับจริงๆ ค่ะ แถมไม่ใช่แค่ในตำรา แต่วิธีการใช้ชีวิตก็ด้วย😅
นี่เอาง่ายๆเลย จากึคนรู้จัก หลานเราเลย บ้านรวยมั้ย พ่อแม่มีเงินเก็บ ตีเป็น รวยครับ แต่เรียนเก่งมาก จบสวนกุหลาบมา เพิ่งเข้าจุฬา ปีแรก ลูกเจ้านายเก่า จบหมอจุฬา คือรวยจริง ปิดเทอมไปซัมเมอร์ ตปท. ทุกปี เที่ยวยุโรปทุกปี ก็รวย
เรื่องฐานะ คนรวย คนจน ไม่ผิดนะครับ บางคนก็ไม่ได้เหยียด หรือคิดเรื่องฐานะเลย
แต่
สังคมรอบตัวมีผลมากนะครับ
ถามว่ามีผลยังไง ดูตำรวจ ทหารครับ
ตอนเข้าไปเคยมีอุดมการณ์
อยู่ไปนานๆ ก็โดนระบบกลืนครับ
ไม่ใช่เลวไปทุกคน แต่คนที่ไม่ทำตามระบบไป
ก็จะถูกแช่แข็ง และมีความคิดที่จะไม่ต่อต้านระบบ
เอาแค่อยู่รอดได้
ในกรณีเดียวกันกับ จฬ
เด็กอายุ 18-19 เห็นสังคมแบบนี้ทุกวัน จากทุกที่รอบๆตัว
ต่อให้เพื่อนดีแค่ไหน แต่เพื่อนมีเงิน สมมุติเลี้ยงข้าวเราทุกวัน เลี้ยงเหล้าทุกครั้งที่ไปเที่ยว จะไม่คิดอะไรไม้รู้สึกอะไร เป็นไปไม่ได้ครับ มันต้องรู้สึกบ้างแหละว่า
เราด้อยว่ะ อึดอัด เกรงใจ
เพื่อนก็ไม่ได้ผิดอะไร เราต่างหากที่อยากจะ ใกล้เคียง เพื่อน
ไม่มีทางทัดเทียมได้หรอกครัแค่อยากจะใกล้เคียง รู้สึกว่าอยาก เป็นเพื่อนกัน โดยที่รู้สึก สนิทใจกันจริงๆ
ด้วยความเคารพในความคิดเห็นในคลิปนี้ ขอบคุณครับ
ประเด็นอยู่ที่ คนมีฐานะดี เขาก็มีการส่งเสริมให้ให้ลูกมีความพร้อมในการเข้ามหาวิทยาลัยชั้นดี แต่เมื่อเด็กเหล่านี้ เมื่อจบมาแล้วมีมุมมองต่อสังคมอยากไร ถ้ามองว่าต้นทุนทั้งหมดในการเรียนจนจบเขาไม่ได้พึ่งพาอะไรจากสังคม เขาก็ไม่ต้องตอบแทนอะไรสังคม
บ้านรวยไม่เท่าไร เเต่ถ้าหน้าตาดี จะได้สิทธิพิเศษมากกว่าคนอื่น ชีวิตจะง่ายขึ้นมาก ได้งานง่ายกว่า
หน้าตาไม่ดีหรอ
บ้านรวย+หน้าตาดี=💅💅💅
หลวงพี่หน้าตาดี+อุปนิสัยดี+ความรู้ดี = 🙂🙂
แค่มีใบปริญญาที่นี่ก็ได้งานแล้วค่าาาา เพราะคอนเนคชั่นตามองค์กรเก่าแก่ใหญ่ๆ ม.นี้ทั้งนั้นค่ะ
หน้าตาดีอยู่จุฟา ไม่ต้องรวย ถ้าผู้หญิงนี้ โดนล้อมด้วยคนรวยๆเลือกได้ว่าจะเอารวยหน้าตาดีหรือการศึกษาสูง
รวยอีก 1 เสียงครับ มีเพื่อนโรงเรียนเดียวกันสมัยเรียนนางก็รวยมาก จบมหาลัยมา นางก็ไม่ทำงานเป็นสิบปี พอ 30 กว่านางก็กลับมารับตำแหน่งประธานบริษัทแห่งหนึ่ง ผมนี่ได้แต่มองชีวิตนางแบบตาปริบๆ เหมือนเราเป็นสิ่งมีชีวิตคนละประเภทกัน
ส่วนตัวเป็นคนนอกที่มองเด็กจุฬาด้วยความชื่นชมค่ะ บ้านเราไม่ค่อยมี เราสอบติดจุฬา ไม่ได้เก่งขนาดได้ทุน คิดค่าใช้จ่ายคร่าวๆของตัวเอง ค่าเช่าห้องแถวจุฬาไม่ไหวแน่ๆ เดินทางก็หลายต่อมาก มีคิดเรื่องสังคมเหมือนกันว่าคงหรูหรา (ความคิดแบบเด็กๆ😂) เลยถอดใจและเรียนมหาลัยอันดับรองลงมา ที่ค่าหอถูกกว่า
นี่คือโลกทุนนิยม เป็นความจริงที่โตมาแล้วจะเสียใจกับมันจนเข้าใจโลกไปเองว่าชนชั้นมันมีอยู่ทุกที่แหละ ต้นทุนน้อยกว่าต้องขยันต้องแกร่งมากกว่า และคนรวยไม่จำเป็นต้องมาแคร์เรื่องนี้เลย เพราะครอบครัวเขาวางแผนชีวิตให้มาอย่างดี แต่เราเชื่อว่าการศึกษาทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นได้ค่ะ ถ้าไปเปรียบเทียบ มัวแต่ด้อยค่าตัวเอง คงไม่มีวันที่จะพอใจกับความสำเร็จซักที
น้องเขาพูดถูก จุฬาไล่ที่สร้างแต่อาคารที่มีราคาแพงทันสมัยต้นทุนต่าง ๆ ก็สูงขึ้น บรรดาผู้บริหารก็เรียนจบสูง ๆ มันสมองชั้นนำของประเทศ แต่ละเลยสังคมในมุมของการเผื่อแผ่ผมเกิดแถวนั้นตั้งแต่สนามกีฬาจุฬา (จารุเสถียร)
ยังไม่สร้าง โดนไล่ที่ เพื่อทำที่จอดรถ😂
เขาเคยเอาเด็กจุฬามานั่งเถียงกัน ซึ่งอีกคนเป็นสายสามัญ อีกคนเป็นอาชีวะ สายสามัญจะออกไปแนวทางเหยียดหยาม บูลลี่ ส่วนอาชีวะจะออกไปในทางพูดถึงข้อดีและข้อเสีย แต่สามัญก็คือเหมือนเขาไม่เปิดกว้างและนำข้อมูลเก่ามา บอกว่าเด็กจบ ปวส.ได้เงินสูงสุด 8000 บาท ทั้งที่ความจริงเดียวนี้เขาได้ เกือบ 30000 บาทแล้วครับ
สถานที่ที่จุฬาควรทุบมากที่สุดคืออุเทนถวาย ว่าแต่ตอนนี้เรื่องไปถึงไหนแล้ว เห็นว่าอุเทนถวายสู้สุดใจเลย