Video

ถ้าตอบแบบจากใจจริง ตัวไหนก็ได้เลยครับ ดีทั้งคู่จริงๆ แต่ถ้าตัองลงรายละเอียดลึกๆ ผมว่า Lagom 01 จะได้ Acidity + After taste ที่ดีกว่านิดๆๆๆๆๆ ส่วน EG1 เฟือง ULF จะคลีนกว่านิดๆๆ แต่ผมบอกจริงๆว่าความต่างระดับนี้เป็นความต่างที่น้อยมากๆครับ ถ้ามีตัวใดตัวหนึ่งแล้ว ก็ไม่ต้องไปคิดอะไรล่ะครับ ไปเน้นเมล็ดดีๆให้สมกับเครื่องบดดีๆได้เลยครับ

ซื้ออีกเครื่องหนึ่งไว้บดเอสเพรสโซ่โดยเฉพาะก็ดีนะครับ ถ้ามีงบ ผมว่า DF83v ก็ดีครับ มีตัวเลือกเฟืองให้เหมาะกับความต้องการของเรา แต่ถ้างบจำกัดหน่อย ก็ดู DF64v ก็ได้ครับ หรือจะไม่เกินหมื่นไป DF54 ก็ได้ครับ ใช้ดีทุกตัว ตามงบประมาณครับ แนวกาแฟของ Mischief จะฟรุ้งฟริ้งกว่าตัวอื่นๆที่พูดถึงข้างบน (ยกเว้นใช้เฟืองบางตัว) ซึ่งถ้ามี 2 ตัวก็แยกใช้ให้เหมาะสมกับกาแฟแต่ละตัวหรือตามความต้องการของเราได้สะดวกกว่าครับ

J20 ได้เฟือง 64mm ใหญ่กว่าบดเร็วกว่า แล้วตัวเลือกเฟืองเยอะกว่า DF54 ครับ ถ้ามีงบถึง J20 ก็จะดีกว่า DF54 ครับ

Moonraker หรือ WDT ตัวอิ่นๆ จะใช้สะดวกกว่า Blind Shaker ครับ อันนี้จะอยู่ที่ความชอบและความถนัดของแต่ละคนด้วยครับ

@@BenCoffeeStory ขอบคุณครับ

มีครับ ของ Outin แล้วกำลังจะรีวิวเปรียบเทียบกันกับ Picopresso ด้วยครับ

@@BenCoffeeStory ขอบคุณครับรอชมครับ

คร่าวๆ ประมาณ 45 ครับ (คูณประมาณ 1.8 จาก C40 mk4) เอาป็นแค่แนวทางคร่าวๆนะครับ

กระเด็น (ชาแนลลิ่ง) มันเกิดได้หลายเหตุผลครับ เช่น 1. แรงดันเครื่องชงสูง (เช่น 15 บาร์) 2. บดกาแฟหยาบไป 3. เกลี่ยกาแฟยังไม่ดีพอ ตอนนี้ใช้เครื่องบดและเครื่องชงของอะไรอยู่ครับ

@@BenCoffeeStory เครื่องชง Duchess CM1480B เครื่องบด MisChife Mini ครับ

@@natawatsriwachirasri3119 เห็นกาแฟกระเด็นแสดงว่าก้านชงเป็นแบบ bottomless เหรอครับ ปกติรุ่นนี้น่าจะเป็นก้านชงแบบรูน้ำไหลสองทาง ไม่น่าจะเห็นว่ามันกระเด็นนะครับ แต่ส่วนนึงคือรุ่นนี้แรงดันน้ำ 20 บาร์ ซึ่งถือว่าสูงมากครับ ทำให้มันกระเด็นได้ง่ายขึ้นด้วยครับ สิ่งที่จะช่วยลดการแชแนลลิ่งจากเครื่องนี้ ผมแนะนำ 2 อย่างครับ 1. ใช้เทคนิค WDT คนกาแฟให้ดีให้ทั่วที่สุด 2. พรมน้ำให้กาแฟสัก 5 วินาที โดยการใส่ก้านชงเข้าเครื่องให้เรียบร้อย แล้วกดเหมือนสกัดกาแฟ แต่ว่าให้กดแค่ 5 วินาที แล้วกดหยุด แล้วทิ้งไว้ 10 วินาที แล้วค่อยกดสกัดใหม่ตามปกติอีกทีครับ ถ้าใข้เทคนิคนี้ เราสามารถบดกาแฟให้บะเอียดขึ้นได้อีกหน่อยครับ ลองดูครับ

@@BenCoffeeStory ใช่ครับก้านชงแบบ bottomlessครับ //ขอบคุณมากๆครับผม

เห็นมาถามมาทาง Line เดี๋ยวผมตอบไปทาง Line นะครับ จะได้สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้สะดวกกว่าครับ

มีอยู่ครับ แต่จุดยากสุดตอนนี้คือหาวิธีทดสอบเปรียบเทียยให้ครอบคลุมและยุติธรรมที่สุดครับ ทำคนละวิธี ผลก็จะต่างกัน มันเลนต้องหาจุดลงตัวที่สุดครับ

ตอนนี้ยังไม่กล้าแนะนำครับ แต่กำลังจะมีทดสอบเปรียบเทียบเครื่องชง งบประมาณ 10,000 บาท รอติดตามได้ครับ

@@BenCoffeeStory รอเลยชมแน่นอนครับผม ขอบคุณมากครับ

ชุดนี้เค้าทำมาเพื่อ ตัวนี้เป็นหลักครับ แต่ที่เห็นทำได้อีกตัวจะเป็น Rancilio Silvia แต่ไม่ค่อยนิยมกันครับ

ผมคิดว่าคุณภาพน่าจะต่างกันไม่น้อยครับ คิดว่าอย่างน้อยใช้เป็นบดมือ Mischief ราคา 2 พันกว่าบาทก็ได้ครับ

ระดับนี้ ถือว่าใช้ได้ดีทุกตัวนะครับ อาจจะอยู่ที่ว่าชอบยี่ห้อ หรือว่าชอบดิไซน์ แต่ถ้าเน้นคุณภาพช็อต สามารถเล่น Profile ทำซ้ำ เพราะเมมช็อตได้ ใจผมมาทาง You ครับ แต่ไม่ว่าจะใช้ตัวไหนถ้าเราเข้าใจมัน คุณภาพช็อตกกาแฟออกมาดีได้ทุกตัวครับ

ขอบคุณค่ะ

เรื่องกลิ่น SSP HU จะสู้ CMD ไม่ได้อยู่แล้วครับ ทางออกที่ผมคิดตอนนี้มี 2 ทางนะครับ 1. ถ้าต้องการเครื่องเดียวใช้ได้หมด กลิ่นดีขึ้น แล้วยังทำเอสได้ (แบบบอดี้ลดลงบ้าง) ผมแนะนำให้เปลี่ยนเฟือง DF64V ดีกว่าครับ ใช้เป็นตัว SSP Multipurpose จะได้ครบจบในตัวเดียว หรือถ้าจะ Timemore 078S มันก็จะทำได้ดีทั้งสองอย่างก็จริง แต่ก็จะไม่ถึงกับดีสุดทั้งสองด้าน 2. หรือถ้าแบ่งเป็น 2 เครื่องได้ ให้ลองดูตัว Mischief Mini C40 (เป็นบดไฟฟ้านะครับ) เอามาบดเฉพาะดริปเท่านั้น แนวจะได้ใกล้ๆกับ CMD เลยครับ ราคาไม่เกิน 5,000 บาท (จริงๆจะบดเอสก็ได้ครับ แต่ไม่แนะนำถ้าบดเยอะๆต่อเนื่อง ชุดเฟืองอาจจะรูดได้ แต่ถ้ามันรูด ให้เอาไปเปลี่ยนชุดเฟือง upgrade แล้วจะไม่มีปัญหาครับ) แล้วตัว DF64V SSP HU ก็เอาไว้บดเอส แต่ลึกๆผมแนะนำแยกเครื่องบดแบบข้อ 2 เพราะจะได้ผลลัพธ์ที่น่าจะถูกใจมากกว่าข้อ 1 ครับ เพราะเราจะได้มีตัวเลือกให้เหมาะสมกับเมนูหรือเมล็ดกาแฟหลายๆแบบครับ

@@BenCoffeeStory โหวเป็นพระคุณมากครับที่ตอบให้อย่างใส่ใจและละเอียดมากครับ​ ผมเองนึกไม่ออกเลยครับ​ คิดแต่จะเปลี่ยนไปเครื่องอื่น​ จริง​ ๆ​ ที่พี่เบนแนะนำให้หาอีกตัวมาบดดริปโดยตรงดีมากครับ​ น่าจะประหยัดขึ้นด้วยและไม่ต้องยุ่งเรื่องขายเครื่องที่มีอยู่ออก​ อยากรบกวนขอความรู้และความเห็นจากพี่เบนเพิ่มครับ 1.ตัว​ Mischief MINI C40 ถ้าเราใช้บดเอส​ แนวรสมันใกล้​ ๆ​ SSP​ MP ไหมครับหรือประมาณไหนครับ 2.ถ้าเป็น​ Eileen Win​ เฟือง​ Super​ Sweet จะดีขึ้นกว่า​ Mischief​ mini C40​ มากไหมครับ 3.แนวรส​ SSP​ HU​ ที่มีอยู่คล้ายกับ​ Kinu​ M47 บ้างไหมครับ​ เพราะผมว่าดริปมันมีบอดี้และรู้สึกจะหวานกว่า​ CMD​ นิดนึง​ แต่กลิ่นกับ​ Acidity.ลดลง​ แต่จำได้ว่่า​พี่เบนบอกในคลิปก่อนๆว่า Kinu.Acidity มีมิติดีกว่า​ CMD​ จริง​ ๆ​ ถ้า​ Mischief​ mini c40​ ถ้าแนวรสต่างจาก​ HU เอามาบดดรืปเป๋นหลักและบดEs เปลี่ยนแนวรสบ้างก็น่าจะจบเลยครับ​ ประหยัดไปมากด้วย​, ผมว่าถ้าเฟืองมอเตอร์รูด​ ไปเปลี่ยนชุดที่ทนกว่ากับแฟฉันก็ยังคุ้ม​ ผมคิดถูกไหมครับ(หรือจะกัดฟันซื้อ​ Eileen Win​ เพิ่มไปเลยดีครับ​ 55) ขอบคุณมากๆครับ

@@domebreathing778 ตอบคำถามเป็นข้อๆนะครับ 1. แนวก็คล้ายๆกันอยู่ แต่ผมว่า Mischief จะคลีนกว่านิดๆ และบอดี้น้อยกว่าหน่อยครับ 2. Eileen Win ดีกว่าตรงมอเตอร์ที่ทนกว่า ไม่เจอปัญหาเฟืองรูดเวลาใช้หนักๆ และก็ขนาดที่ใหญ่กว่าทำให้ใช้งานสะดวกกว่าครับ ส่วนคุณภาพกาแฟที่บดได้ ผมว่าแทบจะดีเหมือนกันครับ เหมือนว่าจะเป็นเฟืองตัวเดียวกันด้วย (ถ้าไม่ใช่ก็ใกล้เคียงมากๆครับ 3. เท่าที่จำได้ตามความรู้สึก ผมว่าคล้ายๆกันครับ แต่ Kinu อาจจะมีบอดี้มากกว่านิดๆ แล้วที่สรุปมา เห็นด้วยตามนั้นครับ ส่วนจะ Mischief หรือ Eileen ก็ได้หมดครับ ตามงบ และข้อดีข้อเสียตามข้อ 2 ข้างบนครับ

ขยับก้านปรับ Flow น้ำให้ไปด้านขวาสุด แล้วขันน็อตตัวที่ยึดก้านปรับ Flow น้ำ ยกออกมาแล้วขยับให้มาทางซ้ายอีกนิดนึง (เพื่อให้เราสามารถดันก้านไปทางขวาได้มากกว่าเดิม) ลองดูจนพอใจแล้วก็ขันน็อตกลับครับ

ตามข้อมูลผู้ผลิต เกิน 60% เป็นขายให้ร้านนะครับ ส่วนตัวผม ผมว่าชงต่อเนื่อง Decent อุณหภูมินิ่งที่สุดตัวนึงล่ะครับ เพราะว่าไม่ได้ขึ้นกับขนาดหม้อต้ม กรณีเป็นหม้อต้ม ถ้าชงต่อเนื่องติดๆกันแล้วหม้อต้มทำความร้อนไม่ทันกับที่ใช้ออกไป ก็จะเจอปัญหาอุณหภูมิไม่ถึงได้ครับ แต่ว่า Decent ไม่มีปัญหานี้ครับ เพราะไม่ได้ใช้หม้อต้ม แล้วมีตัววัดอุณหภูมิที่หัวชงทำให้อุณหภูมิตรงที่สุดตัวนึงล่ะครับ ตามระยะประกันของ Decent คือ 2 ปี หรือ 200,000 ช็อต ถ้าหารต่อวันคือวันละ 273 ช็อต หมายถึงว่า Decent รับประกันการว่าถึงเราใช้งานทุกวันตลอด 2 ปี วันละ 273 ช็อตได้สบายนะครับ

อยู่ที่เฟืองแล้วเมล็ดด้วยครับ ผมจำไม่ได้เป๊ะๆนะครับ แต่ถ้าเฟือง DLC คุ้นๆว่าให้ลองเริ่มที่ประมาณ 15 ดูครับ (ไม่แน่ใจนะครับ) แต่ถ้าลองแล้วไหลเร็วไป ให้บดให้ละเอียดขึ้น หรือถ้ากาแฟแทบไม่ออกหรือออกช้าไปก็ให้บดให้หยาบลง หลักการจะมีประมาณนี้ครับ ลองดูครับ

ยังไม่เคยลองครับ แต่คิดว่าใส่ได้นะครับ กรณีที่ใส่ได้ คาดว่าบอดี้น่าจะขึ้นมาใกล้ๆ Niche Zero หรือ MF1 พอได้อยู่ครับ

@@BenCoffeeStory 🙏🏻ขอบคุณมากๆเลยครับบบ

ลองดูตัวนี้ครับ czcams.com/video/haj8U1kcK3M/video.htmlsi=7--MCSiQ-M9gK1OT

ใช่ครับ ตัาเดียวกัน

DF64v ก็ดีนะครับ เปลี่ยนเฟืองได้ง่าย ปรับเบอร์ 0 ง่าย ใช้งานดีไม่มีปัญหาอะไรเลยครับ

@@BenCoffeeStory ขอบคุณคับ เฟืองที่มากับเครื่อง ทำเอสเปรสโซ่ บอดี้หนัก ครีม่า ได้ไหมคับ หรือคุณเบนแนะนำเฟืองไหนคับ

@@SukSibSam DLC เดิมๆติดเครื่องทำได้ครับ แต่จะไม่ได้เน้นบอดี้เต็มๆแบบไม่สนอย่างอื่นนะครับ เฟืองเค้าจะมี Flavor ด้วยครับ ถือว่าตอบโจทย์ได้ทุกแนวครับ

@@BenCoffeeStory โอเคเลยคับ ผมชอบมีเหเว่อด้วย ขอบคุณคับ🫶🏻

ใช้โถเดียวกันได้เลยครับ

@@BenCoffeeStory ถามไปงั้นมีเงินซื้อ mk6 หรือเปล่าไม่รู้ครับ ฮาาา

ถือว่าดีเลยครับ รสมาเต็มใข้ได้เลยครับ

ไม่แน่ครับ ไว้รอดูโอกาสต่อๆไปนะครับ

ตัวที่ทดสอบเป็นตัว Fast ซึ่งตามสเปคตามบริษัทผู้ผลิต ตัวที่เหมาะกับดริปจริงๆจะเป็นตัว Slow ไว้โอกาสต่อๆไปจะเอามาเปรียบเทียบอีกทีครับ

K Ultra ครอบคลุมกว่าครับ แล้ว K Ultra ได้บอดี้ที่มากกว่าครับ ส่วน ZP6 ได้คลีนๆครับ

ช่องผมยังไม่มีสปอนเซอร์นะครับ ฮ่าๆ

5555 ต้องขอโทษที่เข้าใจผิดครับ แต่การรีวิวต่างจสกที่เคยลองครับ

@@legias0 ที่ลองมามันเป็นยังไงบ้างครับ ต่างกันตรงจุดไหนนะครับ

โดยรวมไม่คุ้มค่ากับค่าตัว อารมณ์เหมือนตอนซื้อ Weber แล้วสุดท้ายก็วางไว้เฉยๆ ครับ

ถ้าถามส่วนตัวตอนนี้ Momentem hand grinder ครับ ได้ลองแล้วหรือยังครับ

วัดกันที่คุณภาพผมว่าถือว่าจบได้อยู่ครับ จบจริงหรือไม่ อยู่ที่ใจแล้วครับ ฮ่าๆ

ขอบคุณครับ🙏❤️

Beno ถือว่าใช้ดีคุ้มราคาครับ แต่ The Force Tamper ดูแข็งแรงกว่า ถ้าใช้ในบ้าน Beno ก็ดีเพียงพอล่ะครับ

@@BenCoffeeStory ใช้ในร้านค่ะถ้างั้นก็The Force Tamperดีกว่า ขอบคุณค่ะ

@@BenCoffeeStory แต่ราคา6000เลยแรงค่ะ

ยังไงนะครับ หมายถึงมีเสียงคล้ายๆเฟืองขบกันหรือเปล่าครับ

@@BenCoffeeStory เอาคั่วอ่อนมาทำเอสช็อตครับ ผมต้องปรับลงมาถึงเบอร์ 2 เลยครับ มันต่ำไปไหม ผมลองเบอร์ที่สูงกว่านี้ กดกาแฟ น้ำไหลเร็วมาก กว่าจะได้ช็อตที่ต้องการต้องปรับมาที่เบอร์ 2 เลย มันปกติไหม คั่วเข้ม เบอ 8-10 ที่ผมใช้อยู่

@@buabannathee104 ปกติเลยครับ คั่วอ่อนจะต้องบดละเอียดมากกว่าคั่วเข้มเยอะถือว่าเป็นเรื่องปกติครับ แล้วมันก็มีปัจจัยประกอบหลายอย่างเช่นเรื่องเมล็ดพันธุ์กาแฟ ฯลฯ สรุปไม่ต้องกลัวนะครับ เครื่องบดออกแบบมาให้บดได้อยู่แล้วครับ ให้ปรับเบอร์บดจนช็อตได้ ไม่ต้องสนใจเบอร์ครับ

@@BenCoffeeStory 👌👌 ขอบคุณคับ

ถือว่าเป็นเครื่องบดที่ดีคุ้มค่าเงินครับ จำได้ว่า K6 ทำได้ดี น่าจะไม่ห่างมากนัก อยู่ที่งบประมาณเลยครับ ซื้อตามงบประมาณดีที่สุดครับ

@@BenCoffeeStory ขอบคุณครับ

ชอบกาแฟแนวไหน เน้นทำเมนูไหนเป็นพิเศษมั้ยครับ

@@BenCoffeeStoryใช้ mischief อยู่ครับ ต้องการอัพแนะนำ A1Pro หรือ df54 ไปเลยครับ ปกติทานแต่อเมริกาโน่ แต่ต้องการ aftertaste คล้ายๆ mischief ครับ

@@Golftana 2 ตัวที่ถามมา ยังไม่มีตัวไหนได้ Aftertaste แนว Mischief นะครับ เหตุผลที่ต้องการเปลี่ยนเพราะเหตุผลอะไรนะครับ เช่น อยากได้บดเร็วขึ้น หรือต้องการบดคั่วอ่อนมากๆแบบต่อเนื่อง กรณีอยากให้บดเร็วขึ้น ต้องเลือก DF54 แล้วจะบดเร็วขึ้น 60-70% โดยประมาณ (DF54 บดเอส 18g ประมาณ 20+ วินาที) ส่วน A1 Pro คร่าวๆก็จะไม่ได้เร็วกว่า Mischief นะครับ กรณีอยากบดต่อเนื่องหรือคั่วอ่อนๆแบบสบายๆ แล้วอยากได้ Aftertaste แบบเดิม ผมคิดว่าทางออกที่จะให้ตรงโจทย์ ก็ต้องใช้ Mischief ตัวเดิม (เพื่อให้ได้รสเดิมแน่ๆ) แล้ว upgrade ชุดมอเตอร์ครับ ถ้า upgrade แล้วจะบดต่อเนื่องสบายๆ ไม่มีปัญหาอีกเลยครับ ติดต่อไปทาง "แฟ'ฉัน" ลองหา google คำนี้แล้วจะเจอครับ ส่งไป upgrade ประมาณ 2 พันกว่าบาทครับ จบปัญหา ใช้งานต่อเนื่องได้เลยครับ

@@BenCoffeeStory ขอบคุณมากครับพี่เบนกระจ่างครับ

เน้นบอดี้ก็ Niche Zero ได้เลยครับ เหมาะเลยครับ เพราะมี Flat burrs อยู่แล้วด้วยครับ

ส่วนตัวผมจะชอบ DF83 มากกว่าครับ รอบหมุนเร็วเหมาะกับ Espresso มากกว่า ส่วน Niche DUO ผมว่าหมุนช้าไปหน่อยครับ

@@BenCoffeeStory ขอบคุณครับ ตัว DF83 หลังเปลี่ยนDeclumper แล้ววดีขึ้นไหมครับพี่ มีความต่างชัดเจนไหมครับ

@@phansawangwongpp ดีขึ้นชัดเจนอยู่ครับ

เคยลองเทียบกันแล้วครับ ผมว่า Mischief มาแนวเดียวกันเลยครับ ได้ประมาณ 85-90% ของ C40 ครับ

ไม่น่ามีปัญหานะครับ แค่อาจจะหมุนจนเมื่อยมือหน่อยครับ

@@BenCoffeeStory ขอบคุณคับ